ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Past 1 : None ...
href="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />
/>Title : None
Author: Mr.Qz
Part 1
รอบๆ กายผมถูกล้อมเอาไว้ด้วยหลุมศพมากมายนับไม่ถ้วน...เสียงของกระแสลมที่พัดผ่าน ใบไม้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเงียบสงัดของสถานที่แห่งความเศร้านี้....
ผม ยืนนิ่งอยู่กับที่ รับรู้ความรู้สึกของสายลมที่พัดผ่านร่างของผมไปช้าๆ คอยตั้งใจฟังเสียงลมเบาๆนั้นเผื่อว่าบางทีมันอาจจะมีเสียงของคนที่ผมคิดถึง แทรกตัวอยู่ในกระแสลมนั้นบ้างก็ได้......
บรรยากาศ หงอยเหงานี่ซ่อนความทุกข์ที่แสนทรมานของผมเอาไว้อย่างเงียบๆ ....แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อกับการที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เลยสักนิด....
ผม ค่อยๆบรรจงวางช่อดอกไม้สีฟ้าลงข้างหน้าป้ายหินอ่อนที่สลักชื่อของใครบางคน เอาไว้....ดอกไม้ดอกเล็กสีฟ้า สีเดียวกับสีที่ผมชอบมากที่สุด
จับ กันเป็นกลุ่มๆที่อยู่บนปลายกิ่งก้านสีเขียวเข้ม เฉกเช่นความรู้สึกที่ผมซ่อนเอาไว้ใต้เหวลึกของจิตใจ กลุ่มก้อนความรู้สึกแบบเดียวกับชื่อของดอกไม้นี้
‘Forget me not...ได้โปรดอย่าลืมฉัน และช่วงเวลาดีๆระหว่างเรา...’
ผมเดินเหมือนกับร่างที่ไร้วิญญาณไปตามริมฟุตบาต เฉยชาต่อสัมผัสที่ผ่านร่างกายไปโดยไม่ได้สนใจเลยว่าใครเป็นใคร ....
สายตาของผมจับจ้องอยู่แค่อิฐสองก้อนถัดไปจากปลายรองเท้า....แขนขาของผมมันหนักไปหมดเหมือนกับถูกก้อนหินขนาดยักษ์ถ่วงเอาไว้
ถ้ามีคนเดินมาชนผมก็คงล้มไปเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุกยังไงยังงั้น...
บ่อย ครั้งที่ผมต้องเผชิญกับปัญหาเดิมๆแบบนี้....แต่ความเหงาก็คือสิ่งที่ผมไม่ สามารถทำให้มันหายออกไปจากชีวิตของผมได้....มันซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในห้วง ลึกๆ
ในจิตใจของผมและวันไหนที่มันระเบิดขึ้นมาผมก็ไม่เคยหยุดยั้งมันได้เลยสักครั้ง...ความคิดฟุ้งซ่านที่อัดแน่นอยู่ในหัวมันทำให้ผมรู้สึก
ไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นไปมองสิ่งใด แม้แต่ท้องฟ้า......ผมตัดสินใจเดินเข้าไปที่สถานีรถไฟฟ้าบนถนนฝั่งตรงข้าม...
การที่ได้ปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อยอยู่บนนั้นคือสิ่งที่ผมมักจะทำบ่อยๆเวลาที่รู้สึกจนมุมแบบนี้
เมื่อร่างของผมเข้ามาอยู่ภายในตัวรถไฟ สายตาก็กวาดหาที่ว่างที่ใกล้ตัวที่สุดก่อนจะก้าวเท้าตามไปอย่างอัตโนมัติ
ท้อง ฟ้าสีน้ำเงินเข้มเริ่มเพิ่มน้ำหนักสีขึ้นเรื่อยๆ ผมปล่อยความคิดให้ล่องลอยออกไปอย่างไร้จุดหมาย โดยที่สายตาสำรวจทัศนียภาพยามค่ำคืน
ของ เมืองผ่านหน้าต่างบานเล็ก...รถไฟวนกลับมาจอดที่สถานีเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนสลับผลัดเปลี่ยนไปมากมาย แต่ก็ไม่ได้ดึงความสนใจของผมไปสักนิด....
จำนวนคนที่เริ่มลดลงทีละน้อยเป็นเหมือนกลุ่มก้อนความคิดในสมองของผมที่ค่อยๆเลือนหายไป...
จน ในที่สุดผมก็เริ่มจะตั้งสติขึ้นมาได้.... แต่หลังจากนั้นผมก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าบุคลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม ก็ยังคงไม่ได้เคลื่อนกายไปไหนเช่นกัน
จิต ใจของผมเปลี่ยนไปจดจ่ออยู่บนใบหน้านั้นที่ไม่เงยขึ้นมาสักที เรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่บดบังดวงตาคู่นั้นเอาไว้ทำให้ผมต้องเพ่งมองอยู่นาน ถึงจะรู้ได้ว่ามันกำลังปิดสนิท...
รถไฟเที่ยวสุดท้ายกำลังจะหมดลง แต่ร่างตรงหน้าของผมก็ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด...ผมครุ่นคิดอยู่นาน...
แต่ ก็ตัดสินใจเดินไปข้างๆกายเขาแล้วเอื้อมมือไปสะกิดที่ร่างนั้นอย่างเบามือ... ร่างของเขาตอบรับสัมผัสจากผมทว่ามันเชื่องช้าเหลือเกิน
แวบ แรกที่เห็นดวงตาคู่นั้นค่อยๆปรือขึ้นผมก็แทบสะดุ้ง สีแดงก่ำที่ปรากฏอยู่ภายในดวงตาคู่นั้นบ่งบอกว่ามันคงจะผ่านความบอบช้ำมามาก ซะจนยากที่จะลบ
ร่องรอยความเจ็บปวดเหล่านั้นให้หายออกไปได้...
แต่ ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่ได้สติ....กลิ่นของ แอลกอฮอล์ อ่อนๆที่ฝังตัวอยู่ตามผิวกายนั้นลอยเข้ามาเตะจมูกผม สร้างความประหลาดใจในหัวสมองของผมให้มากขึ้นไปอีก...
แต่ แล้วผมก็แบกร่างของเขากลับมาที่ห้องจนได้ ...ผมทำทุกวิถีทางที่พอจะคิดออกเพื่อจะให้อาการของเขาดีขึ้น ทันทีที่ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่ชุ่มไปด้วยน้ำอุ่น
สัมผัสลงบนผิวกายขาวซีดนั้นมันคงจะไปกระตุ้นประสาทบางส่วนของเขา...
“ อย่า....อย่าเข้ามา ผมอยากอยู่คนเดียว ” แม้น้ำเสียงนั้นจะแผ่วเบาไร้น้ำหนักแต่ผมก็พอจะฟังและจับใจความได้...
เมื่อ ตีความหมายของคำพูดนั้นแล้วทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า ถ้าเขาตื่นมาแล้วพบว่าอยู่ในห้องของผมแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า....ผมเริ่มคิดวิตกกังวลไปต่างๆนาๆ
จนเรื่องราวเดิมๆในหัวของผมหวนเข้ามาอีกครั้ง... ตั้งแต่ผมสูญเสียน้องสาวไปผมก็ไม่ได้มานั่งดูแลใครแบบนี้เลย...
ระลอกคลื่นใหญ่ที่พัดพาเอาเศษกรวดหินในชีวิตผมออกไปจนหมด เหลือทิ้งไว้เพียงเม็ดทรายบอบบางไร้น้ำหนักพร้อมที่จะล่องลอยออกไป
พร้อม กับกระแสน้ำทุกเมื่อ ผมกลายเป็นก้อนหินโดดเดี่ยวบนหาดทรายขาวโพลน ที่ได้แต่เฝ้ามองการจากไปของกรวดหินเหล่านั้นโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้....
ความ อ้างว้างที่ยากจะอธิบายมันก็ทำให้ผมไม่สามารถหยุดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาได้ ....ทุกครั้งที่หวนนึกถึงภาพรอยยิ้มสดใสที่สะท้อนอยู่ในความทรงจำนั้น
ทำให้ผมรู้สึกอ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรงและหมดกำลังใจ ในทุกสิ่งทุกอย่าง....
คง เป็นเพราะความเป็นพี่ชายที่ต้องคอยเป็นฝ่ายดูแลอยู่เสมอทำให้ผมตัดสินใจนั่ง ถ่างตาเฝ้าเขาไว้จนกว่าเขาจะรู้สึกตัว หลายครั้งที่หัวของผมมันหนักอึ้ง
จนต้องซบมันลงไปที่อ้อมแขน... ฝีเท้าถูกฝืนเดินไปกดน้ำร้อนใส่แก้วเพื่อชงกาแฟครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ผมก็พยายามที่จะข่มตาไม่ให้หลับ...
แสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านผ้าม่านบางเข้ามากระทบเปลือกตาของผมจนรู้สึกแสบตา ลดความอดทนของผมลงไปทีละน้อย ...นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่
....ผมได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ แต่ไม่ว่าจะถามสักกี่ครั้งคำตอบที่ผมได้กลับมามีเพียง...ความเงียบ.....เท่านั้น
ร่าง ตรงหน้าผมยังคงนอนหลับสนิทไม่รับรู้สิ่งใดๆ ผมไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรมา หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา.....แม้แต่เขาเป็นใครผมก็ยังไม่รู้เลย.....
--------------------------------------------------------
To be continue part 2
Mr.1991QZ
ความคิดเห็น