คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฝันประหลาด
เมืองท่าเพิร์ล เมืองท่าที่ตั้งอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งกลางทะเล ชาวเมืองทำธุรกิจเลี้ยงหอยมุกเป็นหลัก เพราะภูมิประเทศเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงหอยมุกอย่างมาก บรรดาพ่อค้าต่างเดินทางมาติดต่อธุรกิจบนเกาะนี้ทำให้เกาะแห่งนี้เฟื่องฟูจนถึงทุกวัน
ยามบ่ายที่ตลาดในเมือง พ่อค้า แม่ค้า เปิดร้านขายสินค้าต่างๆ ซึ่งได้แก่ผลไม้ที่ขึ้นบนเกาะ บรรดาสัตว์น้ำกุ้ง หอย ปู ปลา และเครื่องประดับที่ทำจากหอยที่ตายแล้ว
"เอ้า นี่จ๊ะ"แม่ค้าขายปลายื่นถึงใส่ปลาให้
"ขอบคุณค่ะ"เด็กสาวผมยาวสีชมพูเหยียดตรง ตาสีฟ้า ใส่ชุดกระโปรงสีชมพูแถบแดง รับถุงใส่ปลามาแล้วยื่นเงินให้แล้วเดินต่อ
ระหว่างที่เธอกำลังเดินจ่ายตลาดอยู่ ตัวเธอก็เดินไปชนใครคนหนึ่งเข้า
"โอ๊ย ขอโทษนะคะ"เสียงหวานๆเอ่ยทันทีที่รู้ตัวว่าชนใครเข้า เมื่อเงยหน้าก็เห็นเด็กหนุ่มสามคนยืนวางก้ามอยู่เบื้องหน้า
"อ้าวนึกว่าใคร ที่แท้ก็ยัยน้องสาวของไอ้สามัญชนนี่เอง"เด็กหนุ่มผมสีทองมันวาว หน้าตกกระ สวมเสื้อราคาแพงยืนวางก้าวแล้วกล่าวอย่างเหยียดหยาม และหัวเราะพร้อมกับลูกน้องอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง เด็กสาวเท้าสะเอวพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ
"พี่ชั้นไม่ใช่สามัญชนซะหน่อย"เด็กสาวตะคอกใส่อย่างไม่พอใจแล้วเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ ทันทีที่เดินผ่านมือข้างหนึ่งก็มฉุดเธอไว้
"จะรีบไปไหนเล่ามาคุยกันอีกหน่อยซี่"เด็กหนุ่มผมทองกล่าวแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้
"ปล่อยนะ"เด็กสาวร้องแล้วพยายามดึงมือตัวเองให้หลุด ขณะที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มค่อยๆยื่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ผลัก..!!
ร่างของเด็กหนุ่มผมทองปลิวกระเด็นโดยเท้าข้างหนึ่งที่ลอยมากระแทกเข้าที่หน้า เด็กสาวผมชมพูเสียหลังล้มแต่มีแขนข้างหนึ่งมารวบเธอไว้ทัน เด็กสาวเงยหน้าเห็นเด็กหนุ่มตาสีฟ้า ผมสีแดงยืนอยู่
"พี่โซล.!!"เด็กสาวเรียกพี่ชายอย่างดีใจ เด็กหนุ่มก้นหน้ามองน้องสาวของเขา
"ไม่เป็นไรนะลูน่า"เด็กหนุ่มถาม น้องสาวพยักหน้าแล้วยืนด้วยตัวเองอีกครั้ง ส่วนพี่ชายมองคู่กรณี
"แกบังอาจนักไอ้สามัญชน บังอาจเตะหน้าชนชั้นสูงอย่างชั้น"เด็กหนุ่มผมทองกล่าวอย่างเคียดแค้นขณะที่สองสมุนช่วยพยุงเขาขึ้น
"ชนชั้นสูงเขาไม่ทำร้ายผู้อ่อนแอกว่าหรอกไซรัส"เด็กหนุ่มผมแดงกล่าว"แล้วอีกอย่างพวกเราพี่น้องเป็นคนของตระกูลไวโอเล็ต เป็นชนชั้นสูงเช่นเดียวกับนาย"
"เฮอะ อย่างพวกนายรึชนชั้นสูง แค่เวทมนตร์ง่ายๆพวกนายยังใช้ไม่ได้เลยไม่ใช่รึ ?"เด็กหนุ่มผมทองเอ่ยขึ้นแล้วโชว์เวทไฟให้ดู"คนที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้อย่างพวกนายไปเป็นสามัญชนนั่นแหละดีแล้ว"
ไซรัสกล่าวแล้วส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยใส่ แต่ฝ่ายตรงข้ามยังยืนสงบนิ่ง
"ถ้านายอยากมีเรื่องชั้นก็ยินดีสนองนะ"เด็กหนุ่มพูดท้าแล้วขยับมือเชิญคู่ต่อสู้ ไซรัสมองเด็กหนุ่มผมแดงที่เผชิญหน้าซักพัก
"กลับเถอะอย่าไปยุ่งเลย เดี๋ยวจะติดโรคใช้เวทมนตร์ไม่ได้เอา"ไซรัสกล่าวแล้วหันหลังกลับ สองสมุนทำหน้าล้อเลียนใส่สองพี่น้องแล้วเดินตามไปติดๆ
"โธ่เอ้ย ไม่แน่จริงนี่"ลูน่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ก่อนจะเหลือบไปเห็นพี่ชายตนเองกำหมัดแน่น
"กลับกันเถอะลูน่า"
--------------------------------------------------------
สองพี่น้องเดินทางกลับมาถึงบ้านที่ตั้งอยู่นอกเมือง เป็นบ้านไม้สองชั้น มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ มีห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหารและห้องเก็บของรวมเจ็ดห้อง ถึงจะไม่หรูมาก แต่ก็ไม่โทรมจนเกินไป
"หนูขอตัวไปเตรียมอาหารเย็นก่อนนะ"ลูน่ากล่าวขณะผูกผ้ากันเปื้อนแล้วเดินเข้าไปในครัว โซลเดินไปที่ชั้นวางของ แล้วหยิบกระจกทำจากโลหะสำริดบานหนึ่งขึ้นมาแล้ววางไว้บนชั้น แล้วมองเงาตัวเองในกระจก
"สวยมากเลยนะคะพี่"เสียงหวานๆดังจากด้านหลังโซลสะดุ้งแล้วหันไปเห็นลูน่ายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้"ไปได้มาจากไหนคะ"
"พี่เก็บระหว่างเดินอยู่ริมหาดน่ะ"โซลบอกขณะที่ลูน่ามองกระจกบานนี้อย่างสนใจ
ครึ่งชั่วโมงต่อมากับข้าวถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ สองพี่น้องประจำตำแหน่งแล้วลงมือรับประทาน
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังรับประทานอยู่ โซลเหลือบมองลูน่าซักพัก
"เอ่อ ลูน่า"
"คะ ท่านพี่"
"เอ่อ เปล่าไม่มีอะไร"โซลบอกแล้วก้มหน้าทานเข้าต่อ ลูน่ามองพี่ชายเหมือนเดาได้ว่าพี่ชายเธอจะพูดอะไร
หลังรับประทานอาหาร สองพี่น้องจัดการเก็บกวาดล้างจานจนเสร็จ ทั้งสองก็เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว โซลพาลูน่าไปที่ห้องนอนของเธอ ลูน่าขึ้นไปบนเตียงแล้วหันมาองพี่ชายเธออีกครั้ง
"ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่"ลูน่าบอกราตรีสวัสดิ์กับพี่ชายแล้วหลับตาลง โซลนั่งเฝ้าลูน่าจนเธอหลับก็ลูบหัวเธอหนึ่งทีแล้วพูดว่า
"ราตรีสวัสดิ์ลูน่า"โซลบอกแล้วหันหลังเดินออกนอกห้องแล้วกลับไปห้องนอนของตัวเอง
ทันทีที่เขาเข้ามาถึงห้อง โซลเดินไปที่เตียงของตัวเองแล้วล้มลงนอนแล้วถอนหายใจ
โซลกับลูน่า สองพี่น้องเป็นลูกของบ้านตระกูลไวโอเลต ซึ่งเป็นตระกูลชนชั้นสูง ซึ่งพวกที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้จะถูกเรียกแบบนั้น แต่โซลกับลูน่าสองพี่น้องตั้งแต่เกิดมาก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ จึงถูกทางบ้านรังเกียจและเหยียดหยาม ท้ายสุดทั้งสองก็ถูกขับไล่ให้มาอยู่บนเกาะแห่งนี้
ถึงแม้ชีวิตของสองพี่น้องจะอยู่ไม่ลำบากนัก แต่สองพี่น้องก็อยู่กันได้ บรรดาผู้คนบนเกาะต่างก็เอ็นดูพี่น้องคู่นี้
แต่ถึงกระนั้นโซลก็อยากให้ชีวิตของเขาและน้องสาวดีขึ้น ซึ่งทางเดียวที่เขาจะทำเช่นนั้นได้ก็คือเขาต้องใช้เวทมนตร์ เขาจึงปราถนาที่จะไปเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์ไซเรน ซึ่งคนที่จบจากโรงเรียนนั้นล้วนแต่ได้ดิบได้ดี และมีฐานะดียิ่งขึ้น
เรื่องค่าใช้จ่ายเขาไม่มีปัญหา ติดก็แต่เงื่อนไขอยางหนึ่งนั่นก็คือผู้สมัครต้องมีอสูรรับใช้ ซึ่งเขาไม่มีซึ่งนั่นก็ทำให้เขาไม่สามารถไปเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์นั่นได้
โซลคิดได้แล้วก็ถอนหายใจก่อนจะผลอยหลับไป
--------------------------------------------------------
"ที่นี่ที่ไหน"เสียงของเด็กหนุ่มผมสีแดงเอ่ยเมื่อพบว่าเขาโผล่มาอยู่ที่ไหนซักแห่ง
สถานที่ๆเขาอยู่ตอนนี้เป็นสถานที่ๆมีผืนทรายสีเงิน ท้องฟ้าก็เป็นสีดำไร้แสงดาว สายลมพัดเม็ดทรายเข้าตาเด็กหนุ่มขยี้ตาทันที
กรร..!!
เสียงคำรามดังจากด้านหลัง เด็กหนุ่มหันไปมองตาสีฟ้าก็เบิกกว้างอย่างตะลึงเมื่อเบื้องหน้าของเขาคือหมาป่าสีขาวตัวโต มีลายแถบที่แดงที่ลำตัว ดวงตาสีฟ้าสนิทของมันจ้องมาที่เด็กหนุ่มก่อนเคลื่อนมาหาเขา โซลถอยหลังแล้วล้มลงก้นจ้ำเบ้า ขณะที่หมาป่าเดินมาคร่อมบนตัวเขาแล้วดมจมูกฟุดฟิด
"ไม่เลว ไม่เลว"เสียงหญิงสาวดังก้องขึ้นในหัว เด็กหนุ่มนิ่งสนิททันทีที่ได้ยิน
"เอาล่ะต่อแต่นี้ไปนายคือทาสของชั้น"เสียงหวานๆของหญิงสาวดังขึ้นในหัวเขาอีกครั้ง เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวาไม่พบใคร แล้วหันไปมองที่หมาป่าสีขาวตัวนี้อีกครั้ง
"นายพูดกับชั้นเหรอ !?"โซลเอ่ยขณะมองหมาป่าตัวนี้ หมาป่ามองเขาซักพักร่างของันก็เปล่งแสงสว่างขึ้น แสงสว่างบาดตาส่องสว่างกลืนทุกอย่างจนหายไปแม้แต่ร่างของเด็กหนุ่ม
ความคิดเห็น