ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]หัวขโมยแห่งบารามอส ภาค จอมโจรเฟริน

    ลำดับตอนที่ #5 : งานวันเกิดที่น่าเบื่อหน่าย

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 51


    เวลา 20.00 น.ที่คฤหาสตระกูลเกรเดเวล

    งานฉลองวันเกิดอายุครบสิบเจ็ดปีของลูกสาวประธานบริษัทเดมอสถูกจัดขึ้น ในห้องโถงซึ่งตกแต่งอย่างอลังการ พื้นหินอ่อนถูกปูด้วยพรมสีแดง โคมไฟระย้าสามดวงที่ติดอยู่บนเพดานส่องประกายเหมือนประดับด้วยอัญมณี โต๊ะยาวที่ปูด้วยผ้าสีขาวเต็มไปด้วยอาหารแบบบุฟเฟ่จัดวางอยู่บนโต๊ะ บรรยากาศของงานเลี้ยงก็เต็มไปด้วยเสียงดนตรีคลาสสิคจากวงดนตรีที่หัวหน้าพ่อบ้านจัดหามา ภายในงานเต็มไปด้วยแขกมากมาย ทั้งพนักงานระดับสูง นักการเมือง และคนของบริษัทที่เกี่ยวข้อง ต่างมาร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสนี้

    ท่ามกลางคนเหล่านั้น เด็กสาวผู้เป็นเจ้าของงานอยู่ในชุดราตรีสีชมพูเข้มเกาะอก แขนเสื้อกุด กระโปรงยาวถึงข้อเท้า เท้าสองข้างใส่ส้นสูงสีเดียวกับชุดที่ใส่อยู่ ผมสีน้ำตาลไหม้ก็ถูกรวบเป็นมวยไว้ข้างหลัง มือสองข้างที่สวมถุงมือสีชมพูเข้าชุดยาวจรดแขนท่อนบนถือถ้วยโกโก้ร้อนจิบเข้าปากที่แต่งด้วยลิปติกสีแดงเข้มขณะยืนพิงกำแพง ดวงตาสีน้ำตาลมองไปยังแขกที่บ้างก็อวดเครื่องประดับที่มีราคา หรือถกปัญหาทางการเมือง ไม่ก็คุยเรื่องซุบซิบนินทาอย่างไร้สาระ เห็นแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย

    "เฮ้อ..!!"เฟลิโอน่ายืนถอนหายใจคนเดียวด้วยความเบื่อหน่าย

    "งานน่าเบื่อเกินไปหรือครับคุณหนู"เสียงของคนรับใช้ส่วนตัวที่จู่ๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เฟลิโอน่าเห็นแล้วก็ถึงกับต๊กกะใจ

    "โฮ้ย!! ตกใจหมด ทีหลังนายอย่าจู่ๆก็โผล่มาแบบนี้สิโร"เฟลิโอน่าอุทานอย่างใจหายใจคว่ำ ขณะที่เด็กหนุ่มดวงตาสีเขียวมองเธอแล้วเหยียดยิ้ม 

    "จะไม่ไปร่วมคุยกับพวกเขาหรือครับคุณหนู"โรเอ่ยถาม

    "ไม่ล่ะ"เฟลิโอน่าส่ายหน้าปฏิเสธ"พวกนี้ดีแต่คุยเรื่องน่าเบื่อเท่านั้นแหละ พูดแต่เรื่องยากๆ"

    เฟลิโอน่าบ่นให้ฟัง ซักพัก

    กรี้ดดดด..!!

    เสียงกรี้ดก็ดังขึ้นโดยบรรดาลูกสาวเศรษฐีที่มาร่วมงานนี้ เฟลิโอน่าถึงกับสะดุ้งกับเสียงกรี้ดดทีดังเหมือนอยู่ในงานคอนเสิร์ต

    "เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย"เฟลิโอน่าถามอย่างงงแล้วมองไปยังกลุ่มเศรษฐีนีที่กำลังห้อมล้อมคนๆหนึ่งอยู่

    ซักพักต้นแหตุของเสียงกรี้ดก็มา เป็นชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงิน และรอยยิ้มที่ดูสง่าดูเป็นผู้นำ องอาจและดูรอบรู้ เดินท่ามกลางกลุ่มสาวๆที่ห้อมล้อมเขาอย่างไม่ขาดสาย

    "เฮ้ !! โร"เฟลิโอน่าเรียกขณะมองเขาคนนั้น"เจ้าหมอนั่นชั้นคุณๆเหมือนว่าเคยเห็นที่ไหนนะ"

    เฟลิโอน่ามองชายคนนั้นอีกครั้งแล้วพยายามนึกแต่นึกไม่ออก

    "เขาคือโรเวน ฮาเวิร์ด ประธานนักเรียนโรงเรียนเดินเบิร์ก และเป็นลูกชายของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศครับคุณหนู"โรสาธยายให้ฟังเฟลิโอน่าจำได้ทันที

    "จริงสินึกออกแล้วจะว่าไป วิเวียนก็พูดถึงเขาด้วยเหมือนกัน"

    เฟลิโอน่าบอกแล้วนึกถึงตอนที่รุ่นน้องของเธอเล่าเรื่องชายคนนี้ให้ฟัง ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของวิเวียนซึ่งทั้งสองเคยหมั้นกันเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก แต่รู้สึกว่าช่วงหลังๆความสัมพันธ์ของทั้งสองดูห่างเหินกันมาก

    "ให้ตายสิหน้าตาดีเสียเปล่า ดันทำให้เด็กสาวดีๆต้องรักคุด"เฟลิโอน่าบ่นซักพัก

    "หนูไม่ได้เป็นแบบนั้นซะหน่อยนะคะพี่หญิง"

    เสียงใสๆดังขึ้น เฟลิโอน่าหันไปเห็นเด็กสาวผมยาวสีทอง ตาเสีเขียว ดวงหน้ารูปไข่ ที่เธอกำลังพูดถึงยืนหน้ามุ่ยแดงก่ำอยู่ข้างหลัง

    พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาเลยแฮะ

    "เอ่อ วิเวียนเธอมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"เฟลิโอน่าถาม ซักพักวิเวียนก็เหมือนเห็นบางอย่างก็รีบหลบอยู่หลังของเธอ

    "คุณหนูเฟลิโอน่าสินะครับ"เสียงหนึ่งทักเธอขึ้น เฟลิโอน่าหันไป

    น่านโจโฉมาไม่ทันไร เล่าปี่ก็ตามมาด้วย

    ประธานนักเรียนโรเวนยืนอยู่เบื้องหน้าเธอขณะนี้ เฟลิโอน่ามองท่าทางที่องอาจของชายคนนี้ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมองเธอแล้วเริ่มสังเกตุคนที่หลบอยู่ด้านหลัง

    "คุณหนูที่อยู่ข้างหลังนั่น ?"โรเวนชี้ไปยังเด็กสาวที่หลบอยู่ด้านหลังซักพักเมื่อวิเวียนเดินออกมาท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป

    "คุณหนูวิเวียน"โรเวนอุทานอย่างตกใจทันทีที่เห็นเธอ

    "เห็นหน้าชั้นคนนี้แล้วทำไมต้องตกใจด้วยคะท่านโรเวน"วิเวียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาผิดกับทุกที จนเฟลิโอน่าเห็นก็รีบถอยหลบฉากออกมาก่อน

    "เอ่อ ผมไม่ทราบมาก่อนเลยนะครับว่าคุณหนูมาร่วมงานนี้ด้วย"โรเวนกล่าว

    "พี่หญิงเป็นรุ่นพี่ของชั้นค่ะท่านโรเวน และเป็นรุ่นพี่ที่ชั้นเคารพเหมือนพี่สาวด้วย แล้วชั้นคนนี้จะมาร่วมงานวันเกิดของพี่สาวไม่ได้เชียวหรือคะ"วิเวียนเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชาสุดๆแล้วหันไปมองเฟลิโอน่า เจ้าตัวเห็นเข้าก็ถึงกับสะดุ้ง

    "ใช่ค่ะ วิเวียนเป็นรุ่นน้องของชั้นเองค่ะ"เฟลิโอน่าบอกด้วยอาการหวั่นเล็กน้อยกับท่าทีเย็นชาของน้องสาวสุดน่ารักคนนี้

    "งั้นผมก็ไม่มีไม่มีอะไรต้องสงสัยแล้ว ทีนี้ผมขอตัวแล้วกัน"โรเวนพูดแล้วหันหลังกลับ 

    "นี่เดี๋ยวซี่นานๆเจอกันทีจะไม่พูดคุยอะไรมากกว่านี้เลยหรอ"เฟลิโอน่าถามโรเวนหยุดแล้วหันมา

    "ผมไม่มีปัญหาหรอกคุณหนูเฟลิโอน่า แต่คุณหนูวิเวียนสิต้องการคุยกับผมรึเปล่าล่ะ"โรเวนพูดจบแล้วก็เดินจากไปอย่างไม่ใยดี

    "นี่นาย..!!"

    "ช่างเถอะค่ะพี่หญิง"วิเวียนรั้งเธอไว้แล้วหันหลังเดินจากไป เฟลิโอน่าหันมาแวบนึงแล้วเห็นหยดน้ำใสไหลออกมาจากดวงเนตรสีเขียวคู่นั้น

    -------------------------------------------------------------

    "ให้ตายสิอะไรของเจ้าหมอนั่นนะ เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่าดันทำเด็กสาวน่ารักร้องไห้ได้ลงคอ เลวที่สุด"เฟลิโอน่าเดินบ่นตลอดทางพร้อมกับทานเค้กที่ตักออกมาจากงานอย่างหงุดหงิด โดยมีคนรับใช้ของเธอเดินตามหลังมาด้วยท่าทีเฉยชา

    "นายเองก็พูดอะไรบ้างสิโร น้องสาวนายโดนทำร้ายจิตใจขนาดนั้นนายไม่โกรธบ้างรึไง"เฟลิโอน่าหันมาตะคอกใส่

    "เอ่อ ก็คุณหนูแย่งคำพูดผมไปหมดแล้วนี่"โรบอก ในใจเขาเองก็ไม่พอใจเหมือนกันที่ประธานโรเวนทำน้องสาวของเขาต้องเสียใจ แต่เมื่อเห็นท่าทีของคุณหนูแล้วความโกรธก็มลายหายไปไหนก็ไม่รู้

    "หนอยพูดมาได้ คุณหนูวิเวียนต้องการคุยกับผมรึเปล่าล่ะ น่าโมโหชะมัด ประธานนักเรียนอะไรกัน ถือว่าเป็นลูกคนใหญ่คนโต เลยพูดแบบนั้นได้รึไง แถมดูสิคู่หมั้นตัวเองหันหลังแบบนั้นยังไม่รู้จักตามไปง้ออีก งี่เง่าชะมัดพวกผู้ชายนี่"เฟลิโอน่าพูดอย่างโกรธเคือง จนคนที่ตามมาเสียวกลัวโดนลูกหลง

    "แล้วคุณหนูจะไปไหนรึครับ"โรถามต่อ

    "ก็ไปตามหาวิเวียนนะสิ โดนทำร้ายจิตใจขนาดนั้นคงไม่พ้นนั่งเสียใจอยู่แน่ๆ ในฐานะพี่สาวถึงจะไม่ใช่พี่แท้ๆก็เถอะต้องรีบไปปลอบซักหน่อย"

    เฟลิโอน่าพูดแล้วเดินไปต่อซักพักทั้งคู่ก็ออกมาที่ประตูหน้าคฤหาส ที่มีน้ำพุอยู่ด้านหน้า สองข้างน้ำพุเป็นสวนหย่อมขนาดกว้างที่ประดับประดาอย่างสวยงาม

    "นายหาไปทางด้านขวา ส่วนชั้นจะไปทางด้านซ้ายเอง"

    "ครับคุณหนู"

    ตกลงกันเสร็จทั้งสองก็แยกย้ายกันออกตามหาทันที 



    แต่หลังจากเดินหามาครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่พบตัวคุณหนูวิเวียนเลย

    "วิเวียนไปไหนน้า"เฟลิโอน่าหายใจหอบด้วยความเหนื่อยขณะเดินหาน้องสาวบนสวนหย่อมที่ประดับประดาด้วยต้นไม้ที่ตัดแต่งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ และแปลงดอกไม้ที่สวยงาม แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจและยังคงเดินหาอย่างไม่ย่อท้อจนกระทั่งกลับมาที่เดิม

    "แฮ้ก ไม่ยักรู้ว่าสวนบ้านเราจะกว้างแบบนี้นะเนี่ย"เฟลิโอน่าบ่นแล้วนั่งพักบนขอบของบ่อน้ำพุในบ้านของเธอพร้อมกับมองสวนหย่อมที่เธอเพิ่งเดินกลับออกมา

    "หาจนทั่วแล้วยังไม่เจอแบบนี้สงสัยคงต้องพึ่งเจ้าโรแล้วล่ะมั่ง"เฟลิโอน่าพูดแล้วแหงนหน้าพักหายใจแล้วมองไปด้านขวา

    "หือ..!?"

    ทันทีที่หันไป ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ก็สบเข้ากับดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่ง

    "ว้ากกก..!!"

    เธออุทานเสียงดังด้วยความตกใจแล้วรีบถอยออกมา ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ตกใจกับเสียงของเธอแล้วรีบถอยออกมาด้วย

    แล้วเมื่อเธอตั้งสติได้แล้วมองดูอีกที คนที่ยืนอยู่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีนัยน์ตาสีฟ้าที่คมกริบบนใบหน้าที่หล่อเหลาและดูเย็นชา สงบไร้อารมณ์ ในชุดสูทสีน้ำเงิน เฟลิโอน่ามองไปที่เรือนผมสีเงินแล้วจึงเอ่ยขึ้น

    "นะ นายคือ..?"เฟลิโอน่าเอ่ยถามชื่อให้แน่ใจ

    "คาโล วาเนบลี"เขาตอบอย่างเรียบเฉย เฟลิโอน่าอ้าปากค้างทันที

    หวายอะไรมันจะแจ๊คพ็อตแบบนี้วะ ทีซื้อหวยล่ะไม่เคยถูก (เคยซื้อกับเค้าด้วยรึ ?) เฟลิโอน่าร้องในใจเพราะเธอรู้จักเขาดี เด็กหนุ่มผู้นักสืบม.ปลายผู้โด่งดัง ซึ่งไขคดีมาแล้วมานับไม่ถ้วย แถมยังเป็นลูกชายของอธิบดีกรมตำรวจที่มีชื่ออีก

    ยอดนักสืบ คาโล

    "เอาล่ะคุณหนูไหนบอกหน่อยซิว่ามาทำอะไรที่นี่ ?"คาโลเอ่ยถึงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแถมยังเมินหน้าอีก จนคนถูกถามหมันไส้

    "ก็แล้วทำไมชั้นจะมาไม่ได้ล่ะ ก็ที่นี่มันบ้านชั้นนี่"เฟลิโอน่าตอบ คาโลหันมามอง

    "บ้านของเธองั้นรึ ?"คาโลเอ่ยด้วยท่าทีฉงน"งั้นเธอก็คือคุณหนู เฟลิโอน่า เกรเดเวลสินะ"

    "ใช่ "เธอตอบ"เอาล่ะถึงตาชั้นถามมั่ง แล้วนายล่ะมาทำอะไรในสวนบ้านคนอื่นเขา"

    เฟลิโอน่าถามต่อ แล้วมองดวยสายตาแสดงความไม่ไว้วางใจ ขณะที่ดวงตาสีฟ้ามองเธออย่างเฉยชา

    "เธอถามคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแบบนี้ทุกคนเลยงั้นรึ ?"คาโลถามขึ้น

    "ไม่ต้องมานอกเรื่องเลย บอกมานายมาทำอะไรที่นี่"เฟลิโอน่าทวนประโยคเมื่อกี๊

    "พ่อชั้นถูกเชิญมาร่วมงานนี้ด้วย ชั้นก็เลยต้องตามมาแต่มันงานมันทั้งน่าเบื่อและน่าอึดอัด ชั้นเลยต้องออกมาสูดอากาศข้างนอกนี้ก็เท่านั้น"คาโลบอก ซึ่งเฟลิโอน่าถึงไม่อยากยอมรับ แต่เธอก็เห็นด้วยกับคำพูดของเขา ซักพักเธอก็เพิ่งสังเกตุว่าสายตาของชายคนนี้มองมาที่เธอ

    "มองอะไรของนายน่ะ อย่าบอกนะว่า..."เฟลิโอน่ารีบถอยทันทีที่เห็นท่าทางไม่น่าวางใจของชายคนนี้

    "เปล่าซักหน่อย แค่คิดว่าเธอนะสวยมากเท่านั้น"

    คาโลพูดชม เฟลิโอน่ามองเขาอย่างฉงน 

    "จริงหรอ"เฟลิโอน่าถามย้ำ คาโลพยักหน้า 

    หมอนี่จะไปก็มีส่วนน่ารักดีเหมือนกันนี่ เฟลิโอน่าเอ่ยในใจขณะที่ใบหน้าแดงก่ำ 

    "หมายถึงชุดที่เธอใส่น่ะนะ"

    ปึด..!!

    พริบตาที่เขาพูดขึ้น เส้นเลือดก็ปรากฎบริเวณขมับด้านขวา

    "ไหน นายช่วยพูดใหม่อีกทีซิ"เฟลิโอน่าปั้นหน้ายิ้มแล้วถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สั่นครือด้วยความโมโห คาโลยิ้มแล้วตอบว่า

    "ชั้นบอกว่าชุดที่เธอใส่อยู่สวยมาก มากกว่าคนที่ใส่มันอีก"

    ประโยคดังกล่าวที่ออกมาจากปากของนักสืบหนุ่มม.ปลาย ทำให้สาวเจ้าในใจเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธพร้อมที่จะปะทุ

    ขอถอนคำพูด ไอ้หมอนี่มันหาความน่ารักไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยว เฟลิโอน่ากัดฟันด่าในใจ พร้อมๆกับพยายามปั้นหน้ายิ้มเข้าไว้

    "เออ จริงสิคุณหนูเฟลิโอน่า ผมีเรื่องนึงอยากจะถามคุณหน่อยได้มั้ย"

    "อะไรล่ะ..!?"

    "คุณรู้จักโร เซวาเรสใช่มั้ย"คาโลพูดขึ้น เฟลิโอน่าหันมามองอย่างฉงน

    "ใช่ เขาเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของชั้นนี่ทำไมหรอ"

    "ถ้างั้นคุณพอจะทราบมั้ยว่าเมื่อคืนวานนี้เขาไปไหน"คาโลสอบถามถึงคนรับใช้ของเธอ

    "เมื่อคืนโรเขาก็ต้องพักอยู่ในบ้านของชั้นสิ ก็เขาเป็นคนรับใช้ของชั้นนี่"เฟลิโอน่าบอก

    "งั้นรึ ถ้างั้นผมอยากทราบว่าช่วงนี้คุณเห็นเขามีความผิดปกติอะไรบ้างมั้ย"คาโลถามต่อ เฟลิโอน่าเอียงคออย่างฉงน

    เจ้าหมอนี่ อย่าบอกนะว่าสงสัยโร ดีล่ะ

    "ก็ไม่นี่คะ เขาก็ทำตัวตามปกติเหมือนทุกวัน"เฟลิโอน่าตอบอย่างใจเย็น คาโลยืนจดบางอย่างลงในสมุดบันทึกประจำวัน"ว่าแต่ที่คุณถามแบบนี้หรือว่าโรไปทำอะไรไว้หรือ"

    "อ๋อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก"คาโลบอกแล้วปิดสมุดบันทึกลงแล้วเก็บลงกระเสื้อ"พอดีผมรู้สึกว่าคนรับใช้คุณปิดบังเรื่องบางอย่างไว้น่ะ"

    "เรื่องอะไรหรือคะ ?"เฟลิโอน่าถามน้ำเสียงสงสัย

    "เรื่องนั้นผมบอกไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าในเมื่อคุณยืนยันแบบนั้นผมก็ไม่ขอถามอะไรต่อแล้วกัน"คาโลบอกแล้วหันหลังเดินกลับไปที่คฤหาส

    "อ้อ จริงสิคุณหนูเฟลิโอน่าเคยได้ยินเรื่องจอมโจรเฟรินมั้ย"คาโลหยุดแล้วหันกลับมาถาม

    "ก็แน่นอนสิ ใครบ้างไม่รู้จักขนาดเพื่อนๆที่โรงเรียนชั้นยังพูดถึงเลย"เฟลิโอน่ายืนกอดอกแล้วบอก

    "ถ้างั้นก็ดี ชั้นจะขอเตือนคุณหนูไว้ก่อนแล้วกันให้ระวังคนรับใช้ของคุณไว้ เพราะเขาอาจเป็นคนที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้"

    ".........!"

    ไอ้หมอนี่ คิดว่าโรเป็นจอมโจรเฟรินงั้นรึ ?

    "ได้ค่ะชั้นจะระวังตัวไว้ ขอบคุณสำหรับคำเตือน"เฟลิโอน่าตอบกลับ คาโลเหยียดยิ้มก่อนหันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาส

    ไอ้นักสืบขี้เก๊ก



    ระหว่างที่เฟลิโอน่ายืนอยู่นั้น ชายหญิงอีกสองคนก็เพิ่งมาถึง

    "คุณหนูผมพบตัวคุณหนูวิเวียนแล้วครับ"โรเดินมาถึงพอดีแล้วเห็นคุณหนูของเขายืนนิ่งก็ทำหน้าสงสัย

    "คุณหนู"โรเรียกอีกครั้งก่อนเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มผมสีเงินเดินเข้าไปในคฤหาส ขณะที่เฟลิโอน่าได้สติหันมามองทั้งคู่

    "อ้อ วิเวียน โร มาตั้งแต่เมื่อไหร่"เฟลิโอน่าร้องขึ้นแล้วหันไปมองรุ่นน้องที่ยืนอยู่

    "พี่หญิง"วิเวียนเรียกน้ำเสียงที่เบา เฟลิโอน่าเห็นรอยคราบน้ำตาบนใบหน้าของเธอแล้วก็รีบเบือนหน้าหนี

    "ทีหลังอย่าไปหนคนเดียวล่ะ"ทันทีที่วิเวียนได้ยินประโยคดังกล่าว น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมาอีกครั้งขณะที่เจ้าตัวโผเข้าไปกอดทั้งน้ำตา เฟลิโอน่ามองรุ่นน้องที่กำลังร้องไห้แล้วเอามือลูบหัวปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน

    หลังจากร้องไห้จนพอใจ ทำให้ใจของวิเวียนดีขึ้นมาก

    "ขอบคุณนะคะพี่หญิง และขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง"วิเวียนก้มหัวแล้วกล่าวขอโทษ

    "ไม่เป็นไรหรอก เห็นเธอสบายใจชั้นวางใจแล้วดีแล้วล่ะ"เฟลิโอน่าพูดจบ วิเวียนก็ลาแล้วกลับเข้างาน

    "ให้ตายสิชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยน้า"เฟลิโอน่ายืนบ่นแล้วถอนหายใจ แต่อย่างว่ารุ่นน้องนิสัยน่ารักแบบนี้จะให้ทิ้งไว้คนเดียวก็เสียเชิงชาย( แต่เธอเป็นหญิงนะ)

    "ขอโทษนะครับคุณหนู"
     
    "ไม่เป็นไรหรอกโร น้องสาวนายก็เหมือนน้องสาวชั้น ในฐานะพี่สาวก็ต้องดูแลอยู่แล้ว"เฟลิโอน่าบอก

    "เออ จริงสิคุณหนูเมื่อกี๊คุณหนูเจอกับคาโลใช่มั้ยครับ"โรถามขึ้นทำให้เฟลิโอน่านึกขึ้นได้

    "ใช่"

    "เขาถามอะไรคุณหนูหรือครับ หรือว่าเขากำลังสงสัยคุณหนู"

    "เปล่า เขาไม่ได้สงสัยชั้นหรอกเขาสงสัยนายต่างหาก"เฟลิโอน่าชี้ไปที่โร โรเอียงคอฉงน

    "ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันนะ แต่ดูเหมือนเขาจะคิดว่านายน่ะคือจอมโจรเฟริน"

    โรแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อย

    "แถมยังเตือนให้ชั้นระวังนายอีก เชอะนี่รึนักสืบผู้เก่งกาจ แค่สันนิฐานยังผิดเลย"

    "แต่ก็ประมาทไม่ได้นะครับคุณหนู ดีที่คุณหนูจะแสดงเป็นชายทุกครั้งเวลาลงมือ นี่ถ้าเขารู้ว่าจอมโจรเฟรินเป็นหญิงเขาไม่พ้นต้องมาสงสัยคุณหนูแน่"โรเตือนด้วยความเป็นห่วง

    "อืมที่นายพูดก็ถูก ขอบใจที่เตือนนะโร"เฟลิโอน่าบอกขณะที่ทั้งคู่เดินกลับเข้าไปที่งาน

    "คุณหนู"หัวหน้าพ่อบ้านโกโดมวิ่งหน้าตาตื่นมาหา"ไปไหนมาครับ คุณท่านตามตัวกันให้ควัก"

    "คือพอดีในงานมันอึดอัดชั้นกับโรเลยออกไปสูดอากาศข้างนอกมาน่ะ"เฟลิโอน่าอ้างเหตุผลบอก"จริงสิแล้วท่านพ่อทำอะไรอยู่"

    "กำลังคุยกับท่านรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอยู่ครับ"โกโดมบอก

    "เรื่องอะไรหรอ ?"

    "คือท่านเชิญพวกเราให้เป็นเจ้าภาพในงานแสดงศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อการกุศลนะครับ"โกโดมบอก"ซึ่งในงานจะมีวัตถุล้ำค่ามากมายที่จะถูกนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสมบัติล้ำค่าที่ยืมมาจากพิพิธภัณฑ์จากอังกฤษมาด้วย"

    "อะไรหรือสมบัติล้ำค่าที่ว่า"เฟลิโอน่าถามอย่างสนใจ

    "ของล้ำค่านี้มีชื่อว่ามงกุฎแห่งใจครับคุณหนู"โกโดมบอก"และเพราะเป็นของที่ยืมมานั่นเองจึงเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากที่สุด ถ้ามันสูญหายไปไม่แค่พิพิธภัณฑ์ แม้แต่ท่านรัฐมนตรีอาจตกที่นั่งลำบากครับ"

    "งั้นรึ"เฟลิโอน่าได้ยินก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย"ขอบใจโกโดม แล้วช่วยกลับไปบอกท่านพ่อด้วยเดี๋ยวชั้นตามไป"

    "ครับคุณหนู"โกโดมพูดแล้วรีบวิ่งกลับไป

    "เฮ้ โร ช่วยติดต่อเจ้าคิลให้หน่อยจะได้มั้ย"

    "ได้ครับคุณหนู"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×