ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic]หัวขโมยแห่งบารามอส ภาค จอมโจรเฟริน

    ลำดับตอนที่ #3 : หนึ่งวันในโรงเรียนสตรี สาธิตจันทรา 100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 51


    ที่โรงเรียนสาธิตจันทรา

    เฟลิโอน่าวิ่งอย่บนระเบียงทางเดินอย่างรีบเร่ง จนถึงหน้าห้องเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีหนึ่งแล้วรีบเข้าห้อง

    ภายให้ห้องเรียน เหล่านักเรียนหญิงที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นกำลังคุยอยู่ภายให้ห้อง เฟลิโอน่ามองไปรอบๆก็พบว่าอาจารย์ยังไม่มา

    "เฮ้อ ดีที่ทัน"เฟลิโอน่าหายใจโล่งอกที่มาทันขณะที่คนๆหนึ่งเดินมาหาเธอ

    "เธอมาสายนะเฟลิโอน่า"เสียงหนึ่งทักเธอขึ้น เฟลิโอน่าหันไปเห็นเด็กสาวผมทอง ผิวขาว ยืนเท้าสะเอวมองมาทางเธอ

    "ไงแองจี้ อรุณสวัสดิ์"เฟลิโอน่ากล่าวทักทายอย่างสนิทสนม

    "ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยเฟลิโอน่า อย่าลืมว่าเธอเป็นหัวหน้าห้องนะ หัดสำนึกในบทบาทของตัวเองซะมั่งสิ"สาวน้อยนามแองเจลิน่า โรมานอร์ฟ กล่าวตำหนิใส่เธออย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง

    "ก็ใช่ว่าชั้นอยากเป็นซะหน่อยไอ้ตำแหน่งหัวหน้าห้องเนี่ย พวกเธอไม่ใช่หรือที่ยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้ชั้นน่ะ"ประโยคที่ดังออกมาจากปากของคุณหนูตระกูลเกรเดเวลทำให้ใบหน้าของหญิงสาวผมทองแดงรื่อด้วยความโกรธ

    "เธอนี่มัน..."แองเจลิน่าเกือบจะร้องสบถออกมา แต่เธอนับหนึ่งถึงสามเพื่อข่มอารมณ์ไว้"ช่างเถอะรีบไปนั่งที่ได้แล้ว"

    เธอพูดแล้วหันหลังเดินกลับไปที่นั่งของตัวเอง ขณะที่เด็กสาวผมสีน้ำตาลเดินไปนั่งที่ริมหน้าต่าง

    ซักพักประดูห้องก็เปิดอีกครั้ง พร้อมกับร่างของอาจารย์หนุ่มผมสีดำใส่แว่น ท่าทางเบิกบานเดินเข้ามาในห้อง

    "สวัสดีนักเรียนทุกคน"อาจารย์ประจำชั้นกล่าวทักทายอย่างเบิกบานแต่ขณะที่กำลังจะเริ่มสอนนั้นเสียงฝีเท้าหนึ่งก็ดังมาแต่ไกล

    "อุ๊ย ตายแล้ว โทษทีนะนักเรียนวันนี้ครูของดสอนวันนึง ให้นักเรียนอ่านหนังสือไปก่อนนะ"อาจารย์หนุ่มพูดจบแล้วก็รีบวิ่งไปที่หน้าต่างแล้วกระโดดหนี จังหวะเดียวกับที่ประตูห้องเปิดผางออก

    "ลูคัส ออกมาคุยเดี๋ยวนี้"เสียงตะโกนของบาทหลวงลอเรนซ์ ผู้เป็นทั้งบาทหลวงผู้ดูแลโบสถ์ และอาจารย์สองประวัติศาสตร์ แต่เมื่อเขาเข้ามาก็พบว่าอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ลูคัส ไม่อยู่แล้ว

    "หมอนั่น คิดรึว่าจะหนีชั้นพ้น"ลอเรนซ์กัดฟันพูดแล้วออกจากห้องเพื่อหาคู่อาฆาตต่อท่ามกลางความตื่นตะลึงของนักเรียนหญิงชั้นปีสองที่นั่งเห็นเหตุการณ์จนถึงเมื่อกี๊

    "ให้ตายสิเป็นอย่างงี้ทุกวันแล้วแบบนี้จะเรียนรู้เรื่องไหมเนี่ย"เฟลิโอน่าบ่น ทันที่ปกติเธอมักหลับทันทีที่คาบวิชาดังกล่าวเริ่มขึ้น

    "นี่เธอว่าอาจารย์ลูคัสจะหนีรอดมั้ย"นักเรียนหญิงคนหนึ่งเปิดประเด็นขึ้น

    "ชั้นว่าไม่รอดแน่"นักเรียนหญิงอีกคนบอก"แต่ถึงตอนนั้นอาจารย์ห้องพยาบาล โซมาเนียคงจัดการทุกอย่างเองแหละ"

    ท่ามกลางบทสนทนาเหล่านั้น เฟลิโอน่ายกแขนขึ้นบิดขี้เกียจแล้วก้มลงหลับคาโต๊ะ แองเจลิน่าที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นแล้วก็ต้องเอามือกุมขมับ

    "ให้ตายสิเธอนี่หลับได้หลับดีทุกเวลาจริงๆ"แองเจลิน่าบ่นอย่างกลุ้มใจ

    ------------------------------------------------------------------

    ขณะเดียวกันภายในตัวเมืองย่านธุรกิจซึ่งมีอาคารตั้งอยู่มากมาย อาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเดมอส อินเตอร์ คอปเปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นอาคารสูงยี่สิบชั้นตั้งอยู่ใจกลางเมือง

    บริเวณที่ชั้นสิบเก้าภายในห้องของประธานบริษัท ซึ่งเป็นห้องกว้างขวาง พื้นปูด้วยพรมอย่างดี ด้านหลังห้องก็มีกระจกใสมองเห็นทิวทัศน์ข้างนอกชัดเจน ใจกลางห้องมีโซฟาสีแดงสามตัวที่ไว้สำหรับรับแขก ด้านหลังโซฟาเป็นโต๊ะทำงานของท่านประธาน

    และที่โต๊ะทำงานนั้น ชายคนหนึ่งดวงหน้าคมคายผิวสีเข้ม เส้นผมยาวสีดำถูกรวบอย่างเรียบร้อย ใส่สูทสีน้ำเงินอย่างดี กำลังนั่งตรวจเอกสารที่วางกองบนโต๊ะทีละแผ่นอย่างเบื่อหน่าย โดยเอกสารไหนที่ไม่ถูกใจเขาก็จะวางกองไว้ ขณะที่เอกสารที่ผ่านการเห็นชอบเขาก็จะประทับตรา เซ็นชื่อแล้ววางไว้อีกกองหนึ่ง

    เขาคือประธานบริษัทแห่งนี้ เอวิเดส เกรเดเวล

    ขณะที่ประธานบริษัทแห่งนี้กำลังทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

    "เข้ามาได้"เขากล่าวอนุญาติจบประตูก็เปิดออก เลขาสาวเดินเข้ามา

    "เรียนท่านประธานดิชั้นมาแจ้งกำหนดการในวันนี้ค่ะ"เลขาสาวพูดแล้วหยิบกำหนดการขึ้นมาอ่าน

    "เที่ยงของวันนี้ท่านมีนัดทานข้าวที่โรงแรมโรมานอร์ฟ บ่ายสองโมงนัดสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากสำนักพิมพ์ทริสแทน สี่โมงเย็นร่วมการสัมนาที่บริษัทแอเรียส หกโมงเย็นร่วมโต๊ะกับท่านรองเทศมนตรีชามัล ฟาโรเวล"

    "ยกเลิกทั้งหมดซะ"

    ท่านประธานออกคำสั่งแล้วยืนขึ้นแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เลขาสาวขยับแว่นแล้วเอ่ย

    "ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ"

    "คือพอดีคืนนี้เป็นงานวันเกิดของลูกสาวสุดที่รัก และช่วงนี้ชั้นก็มัวแต่งานยุ่งจนไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเท่าไหร่ ดังนั้นในฐานะพ่อแล้วชั้นไม่ไปร่วมไม่ได้"

    เหตุผลดังกล่าวที่ดังออกมาจากปากของท่านประธาน เลาขาสาวขยับแว่นแล้วเอ่ยว่า

    "ดิชั้นจะจัดการตามที่สั่งเดี๋ยวนี้ค่ะ"เลขาสาวพูดแล้วเดินออกจากห้องไป ท่านประธานเดินมานั่งที่เก้าอี้หมุนต่อซักพักเสียงโทรศัพย์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น

    "ว่าไง อืมเข้าใจล่ะ ฝากด้วยนะลูน่า"

    ท่านประธานคุยเสียงเบาผ่านโทรศัพย์เสร็จแล้วแล้ววางหูลงแล้วมองที่รูปถ่ายลูกสาวสุดที่รักที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วส่งยิ้มให้

    "ไม่ต้องห่วงเฟลิโอน่า พ่อไม่ปล่อยให้ลูกต้องอยู่เหงาแน่"

    -------------------------------------------------------------------------

    กลับมาที่โรงเรียนสตรีสาธิตจันทรา

    ขณะนี้เป็นเวลาพักเที่ยง เฟลิโอน่าอยู่ที่โรงอาหารขณะที่กำลังนั่งบนโต๊ะเตียนทานมื้อเที่ยงอยู่นั้นจู่ๆร่างกายก็เกิดอาการขนลุกซู่ขึ้นมาโดยพลัน

    "ทำไมจู่ๆถึงรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาล่ะเนี่ย"เฟลิโอน่าเอ่ยพลางใช้สองมือกอดร่างตัวเอง

    "สงสัยแอร์ที่นี่เย็นไปล่ะมั้ง"แองเจลิน่าที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นแล้วตักอาหารจากตัวเองเข้าปาก

    ขณะที่ทั้งสองกำลังทานอาหารอยู่นั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

    "แองจี้ เฟลิโอน่า"เสียงตะโกนเรียกทั้งคู่ดังจากด้านหลังทั้งคู่หันไปก็เห็นเด็กสาว ร่างเล็ก ผิวสีขาว ผมและตาเป็นสีม่วงเดินมาหาทั้งสอง

    "หวัดดีเรนอน"แองเจลิน่าทักทายสาวน้อยคนงามประจำห้องเธอ เรนอนนั่งลงข้างๆแองเจลิน่า"แล้วมาทิลด้าล่ะไม่มาด้วยกันหรอ"

    "ก็พอดีเธองานยุ่งน่ะ อย่างที่รู้นั่นแหละงานของพวกกรรมการนักเรียนน่ะเยอะจะตายเล่นเอาแทบไม่มีเวลาให้พักเลย"เรนอนบอกแล้วเริ่มทานอาหารของเธอเอง

    "เออนี่เมื่อเช้าดูข่าวรึเปล่า"เรนอนพูดขึ้น

    "เรื่องจอมโจรเฟรินสินะ ชั้นเองก็อ่านเหมือนกัน"แองเจลิน่าเอ่ยต่อ"รู้สึกจะทำให้กรมตำรวจหัวปั่นครั้งนี้เป็นครั้งที่สิบสามแล้วนี่"

    "ใช่ ท่านลุงบาโรหัวเสียใหญ่เลยทำเอาท่านสารวัตรอาเธอร์เกือบเสียประวัติแน่ะ"เรนอนเล่าเหตุการณ์ที่ตนรู้มา ส่วนเฟลิโอน่าภายนอกทำตัวปกติ แต่ในใจเธอกำหมัดแน่นโห่ร้องในชัยชนะ

    เรานี่ร้ายไม่เบาเหมือนกันแฮะ

    "พูดถึงลุงเธอแล้ว นึกถึงลูกชายท่านขึ้นมาทันที ได้รู้สึกจะเป็นนักสืบที่เก่งมากเลยนี่"แองเจลิน่าเอ่ยขึ้น เฟลิโอน่าเงี่ยหูฟัง

    "ถ้าเธอหมายถึงคาโลลูกพี่ลูกน้องชั้นล่ะก็ใช่เลยล่ะ เขาเป็นนักสืบมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงมาก คดีของกรมตำรวจกว่าหกสิบเปอร์เซ็น ทั้งคดีฆาตรกรรม คดีฉกชิงวิ่งราว คดีใดๆที่ดูซับซ้อนเขาจะไขได้หมด จนตอนนี้ใครๆก็เรียกเขาว่า ยอดนักสืบคาโล "

    ยอดนักสืบคาโล เฟลิโอน่าได้ยินแล้วรู้สึกคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ซักพักเธอก็นึกถึงคนที่เธอเผลอสบตาเมื่อเช้านี้

    "คาโล วาเนบลีลูกชายของอธิบดีกรมตำรวจ"ทำพูดของโร แวบเข้ามาในหัวเธอทันทีพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลาและเรือนผมสีเงินที่เธอเห็นเมื่อเช้า

    ตานั่นเป็นนักสืบหรอกรึ !? มิน่าตอนสบตากันถึงรู้สึกไม่ถูกชะตา

    "จะว่าไปเมื่อเช้าก็มีข่าวนี่นาว่าเขาไขคดีได้อีกคดีหนึ่งแล้ว"แองเจลิน่าพุดแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาฉบับหนึ่ง(แม่คุณพกไว้ตลอดเวลาเลยรึเนี่ย ไว้ม้วนเป็นกระบอกแล้วเคาะหัวเธอไง)แล้วกางออกซึ่งมีหัวข้อข่าวเขียนว่า

    ยอดนักสืบมัธยมปลายคาโล วาเนบลี ไขคดีซับซ้อนได้อีกคดีแล้ว

    เฟลิโอน่ามองรูปเด็กหนุ่มวัยเดียวกับเธอขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งข้างๆข่าวจอมโจรเฟลิน

    หนอยตานี่ เป็นแค่นักสืบขี้เก๊กบังอาจอยู่หน้าเดียวกับชั้นได้ไงยะ แล้วอะไรเนี่ยทำไมรูปตานี่ถึงใหญ่กว่ารูปชั้นอีก แบบนี้มันจะมากไปแล้วหนอยแล้ว ข้ามหน้าข้ามตากันชัดๆ

    เฟลิโอน่าก่นด่าอย่างไม่สบอารมณ์ ในใจกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ

    "แล้วเธอคิดว่ายังไงรึเฟลิโอน่า"สองสาวหันมาเรียก เฟลิโอน่าหันมา

    "เอ่อ ชั้นคิดว่าอย่างหมอนั่นคงไม่พ้นเป็นพวกนักสืบประเภทสัปประหงกไขคดี หรือไม่ก็นั่งชันเข่ากัดเล็บไปพลางไขคดีไปพลางอะไรแบบนั้นล่ะมั้ง"เฟลิโอน่าหัวเราะกลบเกลื่อน สองสาวได้ยินก็อดขำไม่ได้

    "อาจถูกของเธอก็ได้นะเฟลิโอน่า"แองเจริน่าบอกขณะขำกับท่าทีของเพื่อนสาว

    "ว่าแต่เรนอนวิชาต่อไปวิชาอะไรหรือ"เฟลิโอน่าหันไปถามคุณหนูคนงามประจำห้อง ทั้งสองหันมามองหน้าเธอพร้อมกัน

    "วิชาต่อไปก็วิชาพละของอาจารย์ชิวาส เดเบส ไงจำไม่ได้หรอเฟลิโอน่า"แองเจลิน่าตอบแทนอย่างกลุ่มใจ

    "โทษทีก็ช่วงนี้มันเพิ่งเปิดเทอมนี่นา จะจำไม่ได้ก็ไม่เห็นแปลกนี่"

    "วันเปิดเทอมมันผ่านมาตั้งเดือนกว่าแล้วนะแม่คู้น"แองเจลิน่า บอกอย่างเหลืออดกับความขี้หลงขี้ลืมของเพื่อนสาวคนนี้ เฟลิโอน่าหัวเราะกลบเกลื่อน

    ขณะที่ทั้งสามกำลังคุยกันอยู่นั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอีก

    "เฟลิโอน่า"เสียงตะโกนเรียกดังจากด้านหลังอีก ทั้งสามหันไป

    "มาทิลด้า..!!"สาวน้อยประธานนักเรียนเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวมรกต ก้าวมาหาทั้งสามนัยน์ตาสีเขียวหันมามองเด็กสาวตาสีน้ำตาลไหม้ที่นั่งอยู่

    "เฟลิโอน่าท่านผู้อำนวยการเรียกเธอไปพบ"

    "คุณอานะหรอ ?"เฟลิโอน่าเอียงคออย่างฉงน"เรื่องอะไรล่ะ"

    "ชั้นไม่รู้หรอก เธอไปถามท่านเองจะดีกว่านะ"มาทิลด้าบอก เฟลิโอน่าถอนหายแล้วแล้วลุกขึ้นเดินตามท่านประธานนักเรียนไป สองสาวที่นั่งอยู่หันมาพูดคุยกันอีกรอบ

    "ผู้อำนวยการเรียกตัวปแบบนี้เธอคิดว่าไงแองจี้"เรนอนถาม

    "ชั้นก็ไม่รู้ บางทีคงอยากคุยเป็นการส่วนตัวกันล่ะมั้ง ก็เป็นอาหลานกันนี่"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×