คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ยามราตรีแห่งมหานครบารามอส
อาคารที่สูงใหญ่ตั้งเรียงรายสองฟาก ประดับประดาไปด้วยแสงสี บวกกับแสงจากไฟหน้าของรถรามากมายที่วิ่งพล่านไปทั่วท้องถนน และไฟส่องจากสองข้างทาง ทำให้ทั้งเมืองสว่างไม่ต่างจากตอนกลางวัน เหล่านักท่องราตรีต่างออกมาเดินท่องเที่ยวอย่างมีความสุข
ขณะเดียวกันห่างจากตัวเมืองไปหน่อยมีอาคารที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ถูกสร้างด้วยศิลปะผสมผสานระหว่างศิลปะของยุโรปกับศิลปะของยุคเรนาซอง ซึ่งอาคารแห่งนี้คือหอศิลที่ใช้สำหรับเก็บผลงานศิลปะของนักเขียงที่มีชื่อเสียง
และรอบๆหอศิลที่ใช้จัดแสดงก็มีการวางเวรยามไว้อย่างหนาแน่น เหล่าเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบมากมายกระจายกำลังเฝ้าทุกซอกทุกมุมของอาคารหลังนี้
ท่ามกลางการเฝ้ายามที่หนาแน่นนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยกไฟฉายสาดส่องไปรอบๆบริเวณพุ่มไม้ เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติเขาก็เดินจากไป
ฝุบ..!!
ทันทีที่ยามคนนั้นเดินลับสายตาไป เงาสีดำตะคุ่มรูปร่างคล้ายคนก็วิ่งออกจากพุ่มไม้ที่เขาใช้ซ่อนตัวแล้วรีบไปยืนชิดกำแพง แล้วหยิบปืนติดตะขอออกมาแล้วยิงขึ้นไป ตะขอถูกยิงขึ้นไปพร้อมกับสลิงที่ติดอยู่ไปเกี่ยวกับระบียงที่อยู่ด้านบน จากนั้นก็กดปุ่มปั๊บ กลไกภายในปืนยิงตะขอก็ทำงานแล้วพาเขาขึ้นไปด้านบนก่อนที่ยามอีกคนจะมาถึง
ทันทีที่เขามาถึงด้านบน และเห็นหน้าต่างกระจกของหอศิลป์ที่ถูกปิดล็อคอยู่ เขาก็หยิบอุปกรณ์กรีดกระจกออกมาแล้วติดไว้ที่กระจก อุปกรณ์ดังกล่าวทำงานทันทีมันได้กรีดกระจกบานนี้จนเป็นรูโหว่เสร็จเขาก็เอื้อมมือล้วงเข้าไปในรูแล้วเปิดล็อค
คลิ๊ก..!!
ล๊อคถูกคลายลง กระจกหน้าต่างก็เปิดออก ชายลึกลับเข้าไปด้านในสำเร็จ
ทันทีที่เขาเข้ามาก็พบผลงานศิลปะมากมาย ทั้งภาพเขียนของจิตรกรที่มีชื่อเสียงได้แก่ ลีโอนาโด้ แวงโก๊ะ ปิกัสโซ่ และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ก็มีรูปหล่อ และรูปแกะ ซึ่งมีทั้งของจริงบ้าง เลียนแบบบ้างวางอย่างเป็นระเบียบในห้องจัดแสดง แต่ที่น่าสงสัยคือภายในไม่มีเวรยามคอยเฝ้ารักษาสมบัติเหล่านี้อยู่เลย
ชายลึกลับกระโดดลงมาจากระเบียงลงมาถึงพื้นชั้นหนึ่ง แล้วเดินมองดูภาพที่ติดอยู่รอบๆอย่างระมัดระวังบนเส้นทางที่ทอดยาวและคดเคี้ยว จนมาถึงใจกลางของหอศิลป์ในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่เขาต้องการ
"เจอแล้วภาพวาดของแวนโก๊ะ"
เขาเอ่ยเบาด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ แล้วรีบเดินเข้าไปหามัน ภาพวาดผลงานชิ้นสุดท้ายของจิตรกรคนหนึ่งที่เขาพูดเมื่อกี๊
แต่ทันทีที่มือเขาไปสัมผัสมันนั้นเองเขาก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆแสงไฟจากสปอร์ตไลท์กว่าสิบอันส่องลงมาที่ตัวเขา ชายหนุ่มในชุดสุภาพบุรุษสีดำ สวมหมวกนักมายากล และหน้ากากสีขาวที่ปิดใบหน้าไว้ ขณะยกผ้าคลุมบังแสงที่สว่างจ้า
จากนั้นบรรดาชายฉกรรในเครื่องแบบนับสิบนาย ก็วิ่งเข้ามาล้อมเขาไว้ ทางหนีทุกทางก็มีเจ้าหน้าที่คนอื่นยืนเฝ้าอยู่
"ในที่สุดแกก็ติดกับชั้นจนได้นะ จอมโจรเฟริน"ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบคนหนึ่งเดินออกมายืนเผชิญหน้ากับเขา"เอาล่ะยกมือขึ้นแล้วยอมมอบตัวซะดีๆ"
ชายหนุ่มกล่าวกับเขา จอมโจรหนุ่มยิ้มที่มุมปากแล้วเอ่ยกลับมาว่า
"แหม ตอนแรกเห็นเงียบๆนึกว่าตัดใจยอมแพ้ผมซะอีก ท่านสารวัตรอาเธอร์"จอมโจรเฟรินกล่าวทักทายอย่างสนิทสนมแล้วมองไปรอบๆ"แหมพาคนมาเยอะเชียวนะ นี่กะจับผมให้ได้เลยล่ะสิ"
"แน่นอน ที่แล้วมาชั้นอาจประมาทแกมากไป แต่ครั้งนี้แกไม่มีทางหนีแน่"สารวัตรหนุ่มกล่าว"เอาล่ะยกมือขึ้นซะ"
สารวัตรอาเธอร์พูดออกคำสั่ง จอมโจรหนุ่มถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นช้าๆ โดยมือข้างหนึ่งกำบางอย่างอยู่
"หือ นี่แกกำอะไรอยู่รึ ?"สารวัตรหนุ่มถามแล้วมองของที่กำอยู่ในมือของจอมโจรหนุ่ม"ทิ้งมันไปเดี๋ยวนี้"
"จัดให้เลยครับ"
จอมโจรหนุ่มพูดแล้วแบมือออก วัตถุทรงกลมลอยลงมาตกถึงพื้น
แว๊บ..!!
วัตถุที่จอมโจรหนุ่มถืออยู่ส่องแสงสว่างบาดตาออกมา บรรดาเจ้าหน้าที่รีบยกมือบังแสงดังกล่าว แล้วเมื่อแสงดับลงจอมโจรหนุ่มก็หายไปเสียแล้ว
"เกิดอะไรขึ้น..!?"
ท่ามกลางความสับสนนั้นเองตำรวจคนหนึ่งก็ร้องขึ้น
"ท่านสารวัตรภาพหายไปแล้ว"
ตำรวจนายหนึ่งชี้ไปที่ภาพดังกล่าว สารวัตรอาเธอร์หันไปมองก็พบว่าภาพวาดแวนโก๊ะหายไปเหลือเพียงกรอบเปล่า
"นั่นประตูเปิดอยู่"
ตำรวจอีกนายชี้ไปที่ประตูที่เปิดอ้าไว้
"มันหนีไปทางนั้นแน่รีบตามไปเร็ว"สารวัตรอาเธอร์ตะโกนออกคำสั่ง บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดรีบวิ่งออกไปจนหมดห้อง
ตำรวจนายหนึ่งออกจากที่ซ่อนแล้วเดินไปที่กรอบรูปเปล่าๆแล้วเอื้อมมือไปจับที่ภาพ
แคว้ก..!!
ที่เห็นเหมือนเป็นกรอบเปล่าที่แท้คือกระดาษแผ่นหนึ่งที่ปะไว้เพื่อบังภาพจริงที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง ตำรวจหนุ่มแสยะยิ้มอย่างมีชัย
อีกด้านนึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่ที่วิ่งออกมาด้านนอก เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็พบบอลลูนลูกหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศและกำลังลอยออกไปเรื่อยๆ
"ยิง..!!"
สารวัตรอาเธอร์ตะโกน เจ้าหน้าที่ทุกนายหยิบปืนออกมาแล้วระดมยิงใส่แต่ไม่โดน บอลลูนยังคงลอยออกไปเรื่อยๆจนลับสายตา
"ขอภาพวาดนี้ไปก่อนนะ ลาก่อน"
เสียงดังกล่าวดังออกมาจากบอลลูนที่ลอยอยู่ด้านบน โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเสียงจากวิทยุเครื่องหนึ่งเท่านั้น สารวัตรอาเธอร์และตำรวจนายอื่นมองบอลลูนที่ลอยออกไปด้วยความเจ็บใจ
"หนอยเจ็บใจนัก จอมโจรเฟริน ซักวันชั้นต้องจับแกให้ได้"
คำประกาศแห่งความเจ็บแค้นดังออกมาจากสารวัตรหนุ่ม
ขณะเดียวกันขณะที่บรรดาเจ้าหน้าไปกำลังให้ความสนใจกับบอลลูนลูกนั้น จอมโจรหนุ่มที่ยืนดูเหตุการณ์ห่างจากที่เกิดเหตุพร้อมกับภาพเขียนที่ขโมยมา แล้วมาถึงในบริเวณที่ปลอดคนก็เอื้อมมือไปจับที่ใบหูแล้วดึงกระชากอย่างแรงจนใบหน้าของเด็กหนุ่มฉีกขาด กลายเป็นใบหน้าของเด็กสาวผมสีน้ำตาล ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ยิ้มให้กับชัยชนะของตน
"ขอภาพวาดนี้ไปก่อนล่ะนะ"
สาวน้อยกล่าวจบแล้วรีบวิ่งไปจากที่เกิดเหตุทันที
ความคิดเห็น