คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : ย้อนกลับไปครั้งที่ 2 [70%] #อัพช้าติดสอบจ้าา
บทที่ 2 : ย้อนกลับไปครั้งที่ 2
ทำไมชีวิตของฉันมันถึงได้น่ารังเกียจแบบนี้... ต่อให้ฉันจะมีครอบครัว พ่อ แม่ ลูก มันก็ยังเหมือนกับว่าขาดอะไรบางอย่างไป เมื่อขาดสิ่งนั้นไปฉันจึงรู้สึกว่า ‘โลกนี้มีเพียงฉันคนเดียว’ มาตลอด ทั้งที่มีครอบครัวมีบ้านแต่กลับรู้สึกว่า ‘อยู่อย่างลำพังตัวคนเดียว’ ไม่มีใครเข้าใจฉันเลยสักคน
ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยแล้วทำไมจะต้องหายไปจากโลกใบนี้ด้วยล่ะ? โลกเกลียดฉันมากสินะถึงทำให้ฉันเกิดมาเป็นแบบนี้ จะฆ่าฉันให้ตายไปซะทีเดียวก็ไม่ฆ่าค่อยๆจิกกัดกันทีล่ะนิดแบบนี้มันทรมานซะยิ่งกว่าอีก!
รถชนแต่ปางตายแต่ฉันดันรอดมาได้ทั้งที่ไม่น่าจะมีโอกาสเลยด้วยซ้ำ จมน้ำลึกหลายเมตรแต่กลับรอดมาได้เพราะใครบางคน ตกบันไดตึกสองชั้นแต่ก็รอดมาได้อีกแถมไม่เป็นอะไรสักนิด ตกลงมาจากที่สูงแต่ก็ยังมีชีวิตรอด เหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นติดต่อกันและยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่ฉันเจอแต่ไม่ขอเล่า นี่จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันล่ะเนี่ย?
แน่นอน สำหรับฉันมันคือ ‘โชคร้าย!’
ฉันเดินกลับเข้าบ้านในเวลาเย็นจนเกือบค่ำ ที่กลับช้าก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกแต่เป็นเพราะ ฉันโดนทำโทษวิ่งรอบสนาม โดนทำโทษที่โรงเรียนยังไม่พอสินะถึงได้ต้องมานั่งฟังคนที่บ้านบ่นอีก
ฐานะที่บ้านก็ไม่ได้ถือว่ารวยและไม่ได้ถึงกับจน คนที่บ้านก็คงรักกันดี (มั้ง?) ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจพวกพ่อกับแม่เลยสักนิดที่ต้องคอยบ่นคอยตีอยู่ตลอดๆ ฉันมันไม่ดีงั้นเหรอ?
หลังจากที่ฉันฟังธรรมเทศนาจากท่านแม่จบก็รีบวิ่งขึ้นมาที่ห้องของตัวเองโดยเร็วไวก่อนที่จะโดนแม่ใช้ทำงานบ้าน บางทีฉันก็อยากพักเหมือนกับคนอื่นๆบ้างนะ ลองคิดดูสิว่าชีวิตคนอื่นมันน่าอิจฉาขนาดไหน
เวลาเหนื่อยๆกลับมาจากโรงเรียนฉันต้องทำงานบ้าน แต่เพื่อนคนอื่นกลับนั่งตากแอร์สบายๆ ฉันล้างจานเขาฟังเพลง ฉันกวาดพื้นเขาเล่นเกม ฉันซักผ้าเขานอน น่าอิจฉาจริงๆ...
‘ไม่เป็นไร...ทุกทีก็เป็นแบบนี้ ฉันควรจะชินกับมันได้แล้ว’
เมื่ออาบน้ำและทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยฉันก็มุดหัวเข้าเตียงคลุมโปงตัดขาดจากโลกภายนอก ข้าวเย็นที่กินไปก็ถ่ายออกมาจนหมด ก่อนนอนฉันจะภาวนาเสมอว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันที่ผ่านมาให้ได้ ถึงจะรู้คำตอบว่าไม่มีทางเป็นไปได้ก็ตาม ขอแค่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีก็มีความสุขมากๆแล้ว
‘คนต่ำต้อย ไร้ค่า ไร้ความหมาย รกโลกอย่างฉันคงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรหรือแม้แต่จะเอ่ยก็ยังทำไม่ได้ ทั้งที่เหงาและอยากมีเพื่อนเหมือนคนอื่นแท้ๆแต่กลับทำไม่ได้ ทรมาน...’
เช้าวันต่อมาฉันตื่นขึ้นเพราะอากาศที่หนาวจับใจ ลืมเรื่องที่นิวตายและมายด์เสียสติไปทั้งหมด วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ฉันไม่มีความสุข ชีวิตดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและลำบากต่างจากคนอื่นๆโดยสิ้นเชิง คนที่ไม่เคยมีความรักอย่างฉันไม่เข้าใจหรอกว่าการเสียคนที่รักไปมันรู้สึกอย่างไร
07:20 น. เป็นเวลาที่ฉันเดินทางมาถึงโรงเรียนซึ่งเช้ามากฉันมักจะมาเป็นคนแรกเสมอ ก็หน้าที่ของฉันคือเด็กเปิดห้องและปิดห้องนี่หน่า... แต่ฉันไม่เคยคิดเหมือนคนอื่นๆหรอกนะว่าหน้าที่ที่ได้รับมามันต่ำต้อย ฉันคิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่สูงส่งเพราะหากฉันไม่เปิดประตูให้ พวกนักเรียนคนอื่นๆก็จะเข้าห้องเรียนไม่ได้ โชคดีที่มีอาจารย์ใจดีไว้ใจให้ฉันดูแลกุญแจห้องถึงเพื่อนๆจะคัดค้านอย่างรุนแรง...
วันนี้...มายด์ไม่มาโรงเรียน เนื่องจากป่วยและท้องเสีย อาจารย์บอกพวกเราอย่างนั้น ฉันรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ในใจลึกๆก็รู้สึก สะใจ อย่างบอกไม่ถูก มายด์เป็นคนที่ชอบทำตัวหยิ่งและไม่ชอบหน้าฉันอย่างมาก โดนแบบนี้เข้าไปซะบ้างก็ดีเหมือนกัน
‘คิดบ้าอะไรอยู่เนี้ย!!!’
การที่มีแฟนในวัยเรียนมันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่เพียงแค่ว่ามันไม่เหมาะสมเลยสักนิดที่เด็กจะมาคบหารักใคร่กันเกินเพื่อน เราเองก็เป็นเพียงเด็กประถมประโปรงแดงยังไม่ถึงเวลาที่จะมีมันหรอกเจ้า ‘ก้อนเนื้อ’ ที่เรียกว่าแฟนน่ะ
‘คิดแบบนี้หรือฉันจะอิจฉาคนอื่น?’
ห้องเรียนของเรามีผู้หญิงมากมายผู้ชาย รวมทั้งห้องได้ 40 คน หญิง 25 ชาย 15 แถมไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ผู้หญิงเมื่อเจอผู้ชายก็จะด่าๆส่วนผู้ชายเมื่อเจอผู้หญิงก็จะแกล้งๆ ถ้าจะถามถึงประชากรคนโสดคงมีเพียงแค่ 15 คนเท่านั้น ฉันคือหนึ่งในนั้น...
ความรักมันงี่เง่าไม่สวยงามน่ารังเกียจเน่าเฟะ!! ของแบบนี้หรือไงที่มนุษย์มันมีกัน! น่าขยะแขยงที่สุด! สมแล้วที่เป็นพวกหนอนเน่า สักวันความรักของพวกแกทุกคนมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวแกเอง เจ้าพวกโง่!!!
ฉันเผลอนึกอยู่ภายในใจ... ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้นล่ะ!? ความรักมันเป็นสิ่งสวยงามนะใครๆเขาก็บอกกันมา!
‘โก หก ทั้ง เพ’
ใช่...โกหกทั้งเพ... ไม่มีสิ่งใดบนโลกนี้เป็นความจริงหรอก...แม้แต่ ความรัก ก็เป็นเพียงภาพมายาที่ลวงหลอก
“อีปอย!! มีคนเด็กป.1 มาบอกชอบมึงอ่ะ 555+” เสียงแซวดังเจี๊ยวจ๊าวลั่นห้องในเวลาพักเที่ยง
เด็กป.1 กับเด็กป.3 เนี่ยนะ? ตลกกันจริงๆเด็กอมมืออย่างนั้นจะรู้จักความรักด้วยหรือไง ปอยเองก็เป็นเด็กเรียนไม่สุงสิงกับใครแถมหน้าตาก็ไม่ได้ดีจะไปมีคนชอบได้ไงล่ะ ฉันยังสวยกว่ามันอีก!
“หา?” ปอยอ้าปากค้างพลางวางหนังสือเรียนลงบนโต๊ะ
“มันบอกว่าชอบแกมากๆเลยอ่ะ อยากขอแกเป็นแฟนเว้ย!”
โกหก... ถ้าเกิดว่าปอยเชื่อเธอจะโดนยัยพวกนั้นขังไว้ในห้องน้ำ แต่หากเธอไม่เชื่อเธอก็จะปลอดภัย ความคิดแล่นเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็วจนฉันยกมือขึ้นมาทุบหัวตัวเอง คิดแบบนั้นเดี๋ยวมันก็ได้เป็นจริงหรอก!?
“ไปดูสิปอย มันซื้อของมาให้แกด้วย” ยุยงกันใหญ่เชียวยัยพวกที่โหล่ เห็นปอยเรียนเก่งกว่าก็อิจฉาหาทางแกล้ง...
‘อย่าไปนะปอย’ ฉันนึกในใจหวังว่าเธอคงจะรู้สึกถึงสายตาที่ฉันจ้องมองเธออยู่ตอนนี้ อยากจะบอกออกไปตรงๆแท้ๆแต่คงทำไม่ได้หรอก“อืม ก็ได้ พาเราไปหน่อยสิ” ปอยลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินตามพวกนั้นไป
เข้าเรียนคาบที่ 5 ทุกคนมาครบหมดยกเว้นคนใครคนหนึ่ง... คนที่โดนยัยพวกที่โหล่แกล้ง ‘ปอย’ เด็กเรียนที่สอบได้ที่หนึ่ง ทีแรกฉันกะว่าจะไปช่วยปอยแต่ครูดันมาสอบภาษาไทยตอนนี้หากไม่สอบหรือออกจากห้องก่อนหมดเวลาก็คงโดนปรับทุจริต เพราะสำหรับฉันแล้ว...ไม่ว่าจะทำถูกต้องคนอื่นก็มองว่ามันผิด
ปอยโดนขังไว้ในห้องน้ำ 1 ชั่วโมงเต็มแน่ๆ คงไม่เป็นไรหรอกเนอะก็แค่โดนขัง...
“ใครที่สอบตกจะโดนทำโทษล้างห้องน้ำ” เสียงอาจารย์ดังขึ้นเมื่อเก็บข้อสอบหมดแล้ว สายตาของอาจารย์และเพื่อนๆจ้องเขม้นมาที่ฉันเพียงคนเดียวราวกับว่าแช่งให้คนที่สอบไม่ผ่านคือฉัน...
หึ...ไม่ได้รับประทานกูหรอก :)
ถึงฉันจะไม่มีเพื่อนช่วยติว ไม่มีใครใส่ใจให้ความรู้ แต่สมองของฉันไวกว่าพวกมันมากต่อให้หนังสือไม่อ่านก็สอบได้ระดับท็อป ก็มันขี้เกียจอ่านนี่นา :) พวกนักเรียนคนอื่นๆคงอิจฉาฉันไม่น้อยเหมือนกันถึงได้จ้องเขม้นมาที่ฉันเพียงคนเดียวเวลาประกาศคะแนนสอบ
“สรุปอณิลญาหายไปไหน?” อาจารย์ประกาศชื่อจริงของปอย
“โดดเรียนค่ะ” กลุ่มคนที่ขังปอยไว้ในห้องน้ำรีบตอบ...
‘ตอ แหล’
ฉันอยากจะตะโกนออกไปแต่ก็นึกกลัวอาจารย์วิชาคณิตจึงนั่งเงียบรอฟังคำเท็จจากปากพวกนั้นต่อ
“ปอยมันเบื่อวิชานี้ค่ะ มันเลยโดดเรียน” ครูทำหน้าไม่เชื่อหูตัวเอง ปอยชอบวิชาคณิตมากไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกอาจารย์เองก็รู้อยู่แก่ใจ ไม่มีใครได้คณิตศาสตร์เกรด 4 แบบปอยหรอก
อาจารย์ยิ้มแห้งๆแล้วเอ่ยลานักเรียน “ถ้าอณิลญามาบอกทีนะว่าครูเรียกพบ”
เมื่อครูเดินออกไปพวกนั้นก็หัวเราะชอบใจ... เมื่อฉันลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไปจากห้องเรียนก็โดนยัยพวกนั้นด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง
“มึงจะโดดอีกหรือไง! ไปดิ ไปเลย!” ฉันไม่สนใจเสียงที่ดังตามหลังมาแล้วเดินไปที่ห้องน้ำโรงเรียน
ความคิดเห็น