Forgotten Bloodline
ยังคิดม่ายออก
ผู้เข้าชมรวม
147
ผู้เข้าชมเดือนนี้
25
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นานมาแล้วเหล่าทวยเทพและปีศาจได้ทำสงครามเพื่อแก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ สงครามนั้นกินระยะเวลายาวนานเกือบพันปี ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตบนผืนโลกนั้นปั่นป่วน เหล่ามวลมนุษย์จำนวนมหาศาลต่างตกเป็นเหยื่อของสงครามในครั้งนี้
เทพธิดาอธีน่า เทพแห่งปัญญาผู้ซึ่งหลงรักในมวลมนุษย์ เธออุทิศพลังและวิญญาณของตนช่วยเหลือเหล่ามวลมนุษย์ ด้วยการลงไปเกิดเป็นธิดาของกษัตริย์ แห่งอาณาจักรเล็กๆแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของทวีปกรีนเทล
เทพธิดาอธีน่าเธอได้รับนามใหม่ในร่างของมนุษย์หญิงสาวตัวน้อยว่า เมไลน่า
เมไลน่าเป็นดังแสงสว่างของเหล่าผู้คน เมื่อเธออายุได้เพียง 5 ปี เธอก็ได้แสดงปาฏิหาริย์พลังแห่งเทพเจ้า ด้วยการช่วยเหลือคณะราชทูตจากอาณาจักรเพื่อนบ้านที่ต้องคำสาป จากการตกค้างของสงครามของเหล่าทวยเทพและปีศาจที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น
เมื่อเมไลน่าอายุได้ครบ 7 ปี ก็ได้มีการจัดงานสังสรรค์และมีการแสดงโชว์ต่างๆนาๆต่อหน้าพระพักตร์ ทหารองครักษ์นายหนึ่งเกิดความตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นรูปโฉมงามที่แท้จริงของเมไลน่า จึงทำให้เขาเกิดความประหม่าจนทำให้คันธนูในมือของตนนั้นหักกึ่งกลางต่อหน้าขุนนางและเชื้อพระวงศ์จำนวนมากที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนั้น
ด้วยความหลงรักมวลมนุษย์ที่มีอยู่ในตัวของเทพธิดาอธีน่าในอดีต ก่อนที่จะลงมาถือกำเนิดนั้น ทำให้เมไลน่าตัดสินใจที่จะช่วยเหลือทหารองครักษ์หนุ่มนั้น ด้วยการเสกคันธนูที่ไม่มีวันหักขึ้นมาให้กับเขาใช้ในช่วงเวลานั้น ก่อนจะถูกส่งมอบคืนเนื่องจากนายทหารองครักษ์คนดังกล่าวไม่สามารถดึงคันรั้งได้อีกครั้ง คันธนูนี้ถูกเก็บไว้ในราชสมบัติส่วนพระองค์ของราชธิดาเมไลน่า
ในปีต่อมานั้นเมไลน่าก็ได้มีน้องชายที่ถือกำเนิดออกมา เขาได้รับนามว่า วโร ครูซ เขานั้นเป็นเพียงเด็กมนุษย์ผู้ชายธรรมดาน่ารักคนหนึ่ง ซึ่งตัวของเมไลน่านั้นหลงรักและดีใจที่น้องชายของตนถือกำเนิดออกมาเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดพยายามหาของขวัญพิเศษที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกมามอบให้กับเขา
และเมื่อผ่านไปเพียง 3 เดือนของสิ่งนั้นก็ประดับอยู่ที่รอบคอของครูซ (วโร ครูซ) มันคือจี้ห้อยคอที่ประดับหยกสีคราม ซึ่งสีของหยกนั้นงดงามราวกับนัยต์ตาของครูซเช่นกัน ตัวหยกนั้นถูกค้นพบที่ใต้ทะเลสาบโบราณที่มีประวัติอันยาวนาน สถานที่นั้นถูกตั้งอยู่ใต้ภูเขาไฟที่ปะทุอย่างไม่มีวันดับ
ซึ่งการค้นหาและถูกพบในครั้งนี้นั้นเป็นอันตรายอย่างมากต่อธิดาของอาณาจักร แต่ถึงแม้ว่าตัวของราชาและเจ้าหญิงจะตำหนิเธออย่างไร สุดท้ายเมไลน่าก็ยิ้มอย่างมีความสุขตอบกลับไปทุกที จนทำให้ทั้งสองพระองค์นั้นกลุ่มใจและเป็นห่วงเธออย่างมากถึงการกระทำที่อุกอาจในตัวของลูกสาว
เมื่อผ่านไป 3 ปี ครูซนั้นติดเมไลน่าจนไม่ยอมออกห่าง ซึ่งแม้แต่ผู้เป็นบิดาและมารดาของอาณาจักร ก็ไม่อาจจะกล่อมเขาเวลาร้องไห้ให้สงบลงได้ มีเพียงเมไลน่าเท่านั้นที่เมื่อครูซได้ยินเสียงเธอ จะหัวเราะและยิ้มแย้มออกมาทันที
เวลาผ่านไปหลายปี วีรกรรมของเมไลน่าและสิ่งต่างๆที่เธอได้ทำให้กับผู้คนในอาณาจักรเป็นที่กล่าวขานอย่างมาก เธอใช้ความรู้ความสามารถของตนสร้างความเจริญให้กับอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักร มีผู้คนมากมายต่างย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่แห่งนี้ จนกลายเป็นราชอาณาจักรขนาดใหญ่ที่ถูกขนานนามว่า ‘อาณาจักรมนตราอธีน่า’
กำแพงเมืองกำลังถูกก่อสร้างขึ้นใหม่หลังจากที่กำหนดอาณาเขตเป็นที่เรียบร้อย ครูซได้แต่เฝ้ามองพี่สาวของตนทำงานด้วยแววตาที่เศร้าสร้อยตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เมื่อขุนนางและองครักษ์ออกไปเหลือเพียงเมไลน่า เขาก็ส่งเสียงเรียกเธออยู่หน้าประตู
เมไลน่าดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นเขา พร้อมกับเล่นกับเขาทุกครั้งที่ได้เจอกัน ครูซนั้นดีใจที่เมไลน่าเล่นกับตนเอง แต่ในใจของเขาลึกๆครั้งนี้นั้น รู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก
เมไลน่าสังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของเขาก็เริ่มหยุดการกระทำทุกอย่างลง พร้อมกับเอ่ยถามถึงสิ่งที่ครูซกังวลใจ
ครูซแปลกใจในคำถามเป็นอย่างมาก พร้อมกับน้ำตาคลอเมื่อเอ่ยปากออกไป
เขากลัว และกลัวเป็นอย่างมากที่จะสูญเสียเมไลน่าไป
เมไลน่าได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับตกตะลึงในคำกล่าวนั้น ก่อนจะรับฟังต่อไปอย่างเงียบๆ
ครูซกลัวว่าการทำงานนั้นจะพลัดพรากเมไลน่าไปจากเขา และทุกครั้งที่เขาเห็นเมไลน่าทำงานหนัก เพื่ออาณาจักรและทุกๆคน เขาก็กลัวว่าเมไลน่าจะไม่มีเวลาให้กับตนเองอีกแล้ว เขาอยากจะเก่งให้ได้เหมือนกับเมไลน่า อยากจะเป็นที่พึ่งพาให้กับทุกๆคนได้เหมือนเธอ เพราะเมไลน่าช่วยเหลือทุกคน แต่ไม่มีใครเลยที่คิดจะช่วยเหลือเธอในตอนนี้ เขานั้นอยากจะช่วยเหลือพี่สาวเพียงคนเดียวของเขา
น้ำตาของเด็กน้อยหลั่งไหลออกมาเป็นสายน้ำ จนทำให้เมไลน่าหลั่งน้ำตาออกมาพร้อมกับโอบกอดด้วยความเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเป็นความสุขที่มาพร้อมกับความดีใจจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
เมไลน่าค่อยๆพลักครูซออกก่อนจะตอบกลับ ว่าเพียงแค่เขานั้นมีความรู้สึกเช่นนี้ให้กับเธอ ก็ทำให้ตัวของเธอนั้นได้รับการเติมเต็มแล้ว ก่อนจะสัมผัสริมฝีปากลงไปบนหน้าผากของครูซ และมองหน้าเขาพร้อมกับบอกว่าในตอนนี้ครูซนั้นยังเด็กเกินไปที่จะแบกรับสิ่งต่างๆเอาไว้ และขอให้เขาเชื่อใจว่าอีกไม่นาน เธอนั้นก็จะมีเวลาให้กับเขานานเท่าไรก็ได้
เมื่อครูซได้ยินเช่นนั้น เขาก็ปาดน้ำตาพร้อมกับตอบรับด้วยความดีใจ และให้คำสัญญากับเธอไปว่า เมื่อเขาโตขึ้นมากกว่านี้ เขาจะเป็นให้ได้อย่างเธอ และเมื่อถึงตอนนั้น
“..พี่เมไลน่า …จะ…จะต้องเป็นเจ้าสาวของผมนะ”
ผลงานอื่นๆ ของ Mptize ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mptize
ความคิดเห็น