ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนี้หมูกระทะจอง

    ลำดับตอนที่ #6 : แก้มอ้วนของนที ครั้งที่ 5 : นทีเป็นเพียงผู้ชายคนนึง

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 64


      

    “ไม่ได้ขี้งอน แต่แค่ใจมันน้อย ใจนทีเท่าใจมดเองนะ แก้มอ้วน”

     

    “ผมชื่อ เวย์ อยู่ปี 1 ครับ”

    อ๋อ ที่แท้มารหัวใจก็ชื่อเวย์สินะ เหอะ รู้เอาไว้กูหมายหัวมึงไว้แล้ว ไอ้เวย์ ตอนนี้ผมได้ย้ายสายตาจากการมองแก้มอ้วน หันไปใช้สายตาพิฆาตจ้องมองมัน มึงรู้ตัวสิว่ากูมองอยู่รู้ตัวซะ

    “ครับ”

    แก้มอ้วนตอบมันออกไป ส่วนผมน่ะเหรอ คงทำอะไรไม่นอกจากยืน จิกนิ้วโป้งเท้าในที่ลับอยู่แบบนี้ จะยืนกำหมัด แม่งก็ไม่ได้เดี๋ยวแก้มอ้วนสงสัยเอาอีก โอ๊ย ชีวิตหนอชีวิต ชอบเขาทั้งที หวงก็ไม่ได้ หึงก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลย

    “ผมให้ครับ”

    “หือ ให้พี่เหรอครับ” แก้มอ้วนชี้นิ้วเข้าตนเองและถามออกไป

    “ครับ”

    เหอะ กล้าตอบว่าครับอีกเนาะ ทั้ง ๆ ที่กำลังเอาดอกไม้มาให้แฟนในอนาคตกูเนี่ยนะ กล้ามาก กล้าจริง ๆ

    “เอามาให้พี่ทำไมอะครับ”

    แก้มอ้วนเอียงหัวถามมันออกไป โอ๊ย แก้มอ้วนอย่าทำแบบนี้สิมันนน่ารักมากเลยรู้ไหม อ๋อยยย ดาเมจรุนแรงมาก ขนาดกูยังรู้สึกขนาดนี้ไอ้เวย์ล่ะ ผมหันไปมองมันทันที แหม ไอ้นี่ แค่แก้มอ้วนปล่อยดาเมจนิดเดียว หน้าแดงเชียวนะมึง แล้วแก้มอ้วนเมื่อไหร่จะเลิกปล่อยดาเมจสักที ฮึ่ย ผมยืนหงุดหงิดภายในใจเพียงคนเดียว อยากจะห้าม อยากจะหักดอกไม้ทิ้ง อยากจะทำทุก ๆ อย่างเลย แต่กลัวแก้มอ้วนมองว่าไม่น่ารัก เป็นคนนิสัยไม่ได้ ทว่าเมื่อมองสายตาของไอ้เวย์ที่มันจ้องจนจะเขมือบอยู่แล้ว เอาเถอะต่อให้ถูกมองว่าเป็นยังไงก็เอาไว้ก่อนตอนนี้ไม่สนแล้ว

    “มานี่ กูรับแทนเอง” เมื่อผมพูดออกไปสายตาของไอ้เวย์และแก้มอ้วนก็หันมองมายังผม

    “มองอะไร ก็กูเห็นมึงสองคน” ผมชี้สลับระหว่างแก้มอ้วนและไอ้เวย์ไปมา “ยืนจ้องกันนานแสนนาน กูกลัวจะท้องเอาซะก่อนเลย อาสาจะรับให้”

    “โอ๊ย มึงหยิกกูทำไมเนี่ย” ผมร้องออกมาเสียงดังลั่น พลางขมวดคิ้ว

    “ก็มึงว่ากูเป็นปลากัดเหรอ”

    “เออ มึงก็เข้าใจถูกแล้วนี่”

    “ไอ้สัดนี่”

           

    ในขณะที่แก้มอ้วนกำลังจะลงมือหยิกผมอีกครั้ง ก็มีเสียงของไอ้เด็กเวรก็แทรกขึ้นมา

    “พี่ภาคินครับ” กระจอกว่ะ แค่นี้ทำเป็นทนดูไม่ได้ถึงกับต้องเรียกร้องความสนใจเลยเหรอ คนที่เขาจะเป็นแฟนในอนาคต กำลังสวีทกันอยู่

    “ว่าไงครับ” แก้มอ้วนหยุดความคิดที่จะหยิกผมและหันไปคุยกับไอ้เวย์

    “ผมชอบพี่นะครับ” คำบอกชอบของไอ้เวย์ที่พูดออกมา ทำให้โลกของผม หยุดหมุนไปโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งหัวใจของผม ที่เต้นรัวด้วยความว้าวุ่น

    “ชะ…ชอบพี่เหรอ”

    คำถามของแก้มอ้วน ทำให้ใบหน้าแดง ๆ ของเขาแสดงออกมา ผมก็เข้าใจ ว่าการมีคนมาบอกชอบ เป็นใคร ใครก็เขิน แต่ทำไม มันถึงเจ็บที่หัวใจของผมจังเลยครับ อา ตอนนี้ผมคงได้แต่ยืนเงียบ ๆ และรอฟังคำตอบที่จะออกจากปากของแก้มอ้วน จริง ๆ แล้วแหละครับ

    “ครับ ผมขอจีบพี่ได้ไหมครับ” เมื่อแก้มอ้วนได้ฟังสิ่งที่ไอ้เวย์ต้องการบอกจบ แก้มอ้วนจึงเงียบไป พลางยกนิ้วขึ้นมากัด และนี่คงเป็นท่าประจำของแก้มอ้วน เวลาเครียดหรือมีเรื่องให้คิด ก็ต้องกัดตลอด

    “ภาคิน อย่ากัดเล็บ” และก็เป็นผมทุกครั้งที่เป็นคนจับนิ้วของแก้มอ้วนออกจากไป พลันลูบศรีษะของเขาไปมา เพื่อทำให้เขาเบาเครียด

     

    ตอนนี้บรรยากาศรอบตัวพวกเราสามคน คงเป็นอะไรที่เงียบและน่าอึดอัด สำหรับผู้คนที่มองเข้ามา ผมไม่ได้เร่งในคำตอบของแก้มอ้วน และดูเหมือนว่าไอ้เวย์ก็ไม่ได้เร่งเช่นกัน เพราะมันเอาแต่ยืนกำมือแน่นอยู่ตรงหน้าของผมและแก้มอ้วน เข้าใจว่าตื่นเต้น กูก็ตื่นเต้นไม่ต่างกัน ตื่นเต้นในคำตอบของแก้มอ้วน

    “เอ่อ” เพียงคำว่าเอ่อ คำเดียวที่ออกมา ทำเอาใจผมล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้วครับ

    “คือ พี่ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไงอ่า พี่ไม่เคยถูกจีบ” แก้มอ้วนยืนเกาแก้มของตนเองไปมา


     

    ไหน ใครบอกว่าแก้มอ้วนไม่เคยโดนจีบ นทีนี่ไง นทีเอง ที่จีบแก้มอ้วนมาตลอด แก้มอ้วนเห็นไหมครับ


     

    “ไม่เป็นไรครับ” ไอ้เวย์พูด “แบบนี้ผมสามารถตีความหมายเข้าข้างตนเอง ว่าพี่ภาคินให้ผมจีบได้ใช่ไหมครับ” พูดอย่างเดียวพอเว้ย ไม่ต้องยกยิ้มยิงฟันขาว ๆ ให้แก้มอ้วน

    “พี่บอกแบบนั้นเหรอ”

    “ก็คงเป็นแบบนั้นครับ เพราะพี่ไม่ได้ปฏิเสธผม”

    เอาจริง ๆ ผมอยากหาไม้หน้าสามมาฟาดหน้ามันจริง ๆ ยิ้มอยู่นั่นยิ้มจริงยิ้มจังยิ้มอะไรนักหนาห๊ะ เดี๋ยวพ่อก็ฟาดให้หรอก และการที่แก้มอ้วนเงียบไปแปลก ๆ มันเลยทำให้ผมเลิกมองหน้าไอ้เวย์ และหันไปดูคนข้างตัว ที่ตอนนี้ยืนนิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ผมรู้ว่าตอนนี้แก้มอ้วนคงทำตัวไม่ถูก ไม่เป็นไร ผมจัดให้เอง ผมทำการจับจ้องไปยังดอกไม้ในมือไอ้เวย์ จากนั้น ก็…

            

    “พี่ดอกไม้ผม” ฉกมันมาซะเลย

    “เออ รู้ว่าของมึง แต่กูเป็นคนถือของประจำตัวของไอ้ภาคิน” ผมชี้ไปยังคนข้างกายของผม

    “ห๊ะ”

    เมื่อผมบอกไอ้เวย์ออกไปแบบนั้น แก้มอ้วนก็หันมามองผมอย่างไม่เข้าใจ คงสงสัยล่ะสิ ว่าผมไปเป็นคนถือของประจำตัวแก้มอ้วนตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมขอบอกและประกาศตรงนี้เลยว่า ผมจะเป็นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สิ่งของอะไรที่ไอ้เวย์นี่เอามาให้ ผมจะเป็นฝ่ายถือครอบครองเอาไว้เอง

    “เข้าใจรึยัง ไอ้เด็กปี 1. ผมยกหางคิ้วขึ้นและถามมันออกไป พร้อมกับใช้ดอกกุหลาบที่มันเอามาให้แก้มอ้วน ตีไปยังไหล่ของมัน

    “เดี๋ยวนะ ไอ้นที” แก้มอ้วนหันมาจ้องผมและใช้นิ้วน้อย ๆ ของเขา ชี้หน้าผม ทว่าหาว่าผมสนไหม ผมมันคือ นายนที นทีที่แปลว่าคนกล้า คนไม่กลัวแก้มอ้วน เพราะฉะนั้น ผมจึงใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือดอกไม้ กำเข้าไปยังนิ้วของแก้มอ้วน

    “ไม่ต้องเดี๋ยว ไป ไปเรียน” พร้อมทั้งดึงนิ้วของแก้มอ้วนให้เดินตาม แรงจูงของผมออกมาจากบรรยากาศที่มันไม่น่าอภิรมย์

    “หึ” ผมหันไปมองไอ้เวย์ด้วยหางตา และส่งข้อความเป็นนัย ๆ ผ่านสายตาของผมไปว่า


     

    อย่าหวังว่ามึงจะจีบสำเร็จ ตราบใดที่ยังมีกูอยู่

     
     


     

    #รักนี้หมูกระทะจอง

     


     

    “ปล่อยนิ้วกูเลยไอ้ที จะลากไปถึงไหนวะ”

    “ก็จะลากมึงไปเรียนไง ตัวแค่นี้ริอาจไปยืนให้ผู้ชายจีบ มึงนะมึง” ผมรอเลยครับ รอเลย รอฝ่ามือพิฆาตประทับตราลงบนแผ่นหลังกว้าง ๆ น่าซบนี้ของผมเลยครับ และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริง ๆ


     

    อัก! แรงที่แก้มอ้วนใช้ทุบหลังผม ไม่ใช้แรงเบา ๆ เลยครับ อือ เจ็บ เจ็บ ผมทำสีหน้าเหยเก ก่อนจะหยุดเดินละหันหน้าไปเผชิญกับแก้มที่อยู่ทางด้านหลัง

    “ทุบกูอีกแล้วนะไอ้สัด เป็นเหี้ยอะไรของมึง!”

    ผมยอมรับว่าครั้งนี้ ผมด่าแก้มอ้วนออกไปจริง ๆ มันคงผสมปนเปไปหมด จากอารมณ์หงุดหงิดที่แก้มอ้วนเอาแต่ยืนให้มันจีบอยู่อย่างนั้นบวกกับความเจ็บที่แล่นสู่ร่างกาย เลยทำให้เลือดสูบฉีด พลันหัวร้อนออกมาอย่างง่าย ๆ

    ทั้ง ๆ ที่แก้มอ้วนรีบแทบตายเพื่อมาเรียน แต่พอเจอไอ้เวย์นิดหน่อย ก็หน้าแดง มันน่านัก

    ผมรู้ว่าไม่ควรที่จะเอามาลงกับแก้มอ้วน แต่จะทำยังไงในเมื่อมันพูดออกไปแล้ว

    “แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงล่ะ!” แก้มอ้วนเสียงดังใส่ผมกลับ

    “กูเป็นเหี้ยอะไร กูต้องถามมึงมากกว่า ว่ามึงเป็นอะไร” ผมบอกตรง ๆ ตอนนี้ผมไม่อยากจะมองหน้าแก้มอ้วนเลย กลัวจะอารมณ์ขึ้นไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนแก้มอ้วนจะไม่เข้าใจ ถึงพยายามดึงแขนผมให้หันกับมาจ้องเขาอยู่แบบนี้

    “มึงเป็นอะไรก็พูดดิ แล้วก็เลิกหลบหน้ากูด้วย!”


     

    โอเค ในเมื่อไม่ให้หลบผมก็จะไม่หลบ


     

    ผมทำการหันหน้ากลับไปหาคนตรงหน้าตามคำพูดของเขา ทว่ามันทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดไปมากกว่าเดิม เมื่อทำให้ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม กลับมีน้ำตาคลอเบ้าออกมา เพราะความโกรธจนได้ ผมมองหน้าแก้มอ้วนอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะหลับตาลง และผ่อนลมหายใจเข้าออกมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อระงับอารมณ์ของตนเองไม่ให้มันระเบิดออกมา จากนั้นเมื่ออารมณ์มันเริ่มอยู่ตัว ความรู้ผิดมันก็ถาถมเข้ามาเต็ม ๆ

    “กูขอโทษที่อารมณ์ขึ้นใส่มึง” ผมพูดพร้อมกับยกมือลูบดวงตาของแก้มอ้วนอย่างบางเบา “ไม่ต้องน้ำตาคลอแล้ว ขอโทษ นทีขอโทษ”

    ผมส่งความจริงใจผ่านแววตาของผมที่มันคงพอจะช่วยสื่อสารแทนปากหมา ๆ ของผมได้บ้าง เพราะเขาบอกกันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แล้วแก้มอ้วนล่ะ เห็นหัวใจของนทีบ้างไหมครับ

    แก้มอ้วนไม่พูดไม่จาอะไรออกมา นอกจากยืนจ้องผมอยู่แบบนั้น ถ้าเกิดแก้มอ้วนพอใจในการยืน โดยไม่พูดแบบนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหน


     

    เหมะ! สุดท้ายผมก็ทำให้แก้มอ้วนมีน้ำตาอีกจนได้

    “ร้องไห้ทำไม ไม่เอาไม่ร้องสิ” ผมรีบเช็ดน้ำตาที่มันไหลลงมา ทว่ายิ่งเช็ดมันกลับยิ่งไหล

    “……”

    แก้มอ้วนเงียบไม่ปริปากพูดออกแม้แต่คำเดียว นอกจากยืนสะอื้นไห้อยู่ตรงหน้าของผม จนทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาหันมองมายังผมและแก้มอ้วน มันเลยทำให้ผมรีบหันไปมองแก้มอ้วนว่าเขานั้น โอเคไหม จากการที่ผู้คนมองมาแบบนี้ เพราะแก้มอ้วนไม่ชอบสายตาดูแคลนจากคนอื่น

    ดูท่าแก้มอ้วนคงจะไม่หยุดร้องไห้ง่าย ๆ แน่นอน เอาเป็นว่าผมควรพาแก้มอ้วนไปจากตรงนี้ก่อนเป็นอันดีที่สุด เมื่อเป็นดังนั้น ผมจึงคว้าข้อมือของแก้มอ้วนและทำการออกเดินไปยังที่ ที่โปรดของใครหลาย ๆ คนในมหาวิทยาลัย ร่วมถึงแก้มอ้วนคนข้างหลังของผมด้วย นั่นคือ สวนสาธารณะหลังม.

     


     


     

    #รักนี้หมูกระทะจอง


     


     

     

    “นั่งลงตรงนี้ก่อน” ผมพาแก้มอ้วนนั่งลงบริเวณม้านั่งที่หันหน้าเข้าสู่สระบัว ก่อนที่ผมจะนั่งลงตาม

    “เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” ผมถามแก้มอ้วนออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน กว่าเสียงปกติที่คุยกัน

    “ไม่ได้เป็นอะไร” แก้มอ้วนตอบผมพลางหลบสายตา

    “ไม่ได้เป็นอะไร แล้วหลบสายตานทีทำไม โกรธนทีเหรอ ที่ไปขัดจังหวะ การที่แก้มอ้วนจะมีรักครั้งแรก” ผมถามแก้มอ้วนไปด้วยประโยคที่ใจของผมก็เจ็บไม่ต่างกัน

      แก้มอ้วนส่ายศรีษะไปมา “ไม่ได้โกรธ”

    “แล้วร้องไห้ทำไม” เป็นคำถามที่ผมถามออกไปอีกครั้ง พร้อมกับลูบศรีษะของแก้มอ้วน

    “ไม่รู้” แก้มอ้วนตอบมาด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

    “หืม”

    “ไม่รู้ กูไม่รู้ว่าร้องไห้ทำไม เพราะจู่ ๆ มันก็ไหลออกมาเอง” คำตอบของแก้มอ้วนทำเอาผมขมวดคิ้ว

    “มั…”

    ระหว่างที่ผมกำลังจะถามออกไป เสียงของผมก็สะดุดทันที เมื่อแก้มอ้วนเงยหน้าขึ้นมา เหมือนทำท่าจะพูดอะไรกับผม แต่มันติดตรงที่ว่า ปะ…ปากของผม มันชนเข้ากับหน้าผากของแก้มอ้วน จนทำให้ลมหายใจของผมหยุดชะงัก พร้อมกับหัวใจที่มันเต้นรัว


     

    ตึก ตัก ตึก ตัก เอาแล้วไงกู ตอนนี้ร่างกายของแก้มอ้วนได้นิ่งไปแล้ว จากการสัมผัสอันใกล้ชิดของเราทั้งคู่เป็นครั้งแรก และการที่จะทำให้เราทั้งคู่ออกจากภวังค์นี้ได้ คงมีแต่ผมผู้เดียวเพียงเท่านั้น

    “อะแฮ่ม คันคอเนาะ ว่าไหม” ผมส่งเสียงออกไป พลางผละริมฝีปากตนเองออกมาจาหน้าผากของแก้มอ้วน พลันเกาคอไปมา

    “อะ…อื้อ คันคอ ร้อนคอเนอะ แหะ ๆ”

    หลังจากที่แก้มอ้วนพูดออกมา ผมจึงใช้หางตาของผมชำเลืองแอบมองมองเขา ที่กำลังลูบคอ ลูบหน้าที่มันแดงเถือกของตนเอง พร้อมกับใช้มืออีกข้างพัดไปมา

    “มึงคงร้อน ถ้างั้นเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำมาให้นะ”

    “อื้อ” แก้มอ้วนพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่ผมบอก ผมจึงไม่รอช้ารีบลุกและเดินไปยังร้านขายน้ำทันที


     

    ไม่ไหว ไม่ไหว ใจกู มันไม่ไหวแล้วโว้ยยยย ใครใช้ให้ปล่อยดาเมจความเขิน ออกไปทั่วแบบนี้กันห๊ะแก้มอ้วน ฮือ แม่ แม่ นทีเขิน แม่ ช่วยนทีด้วย

     


     


     

    #ภาคินขอมีพาร์ทบ้างครับ

    “ไอ้นที ไอ้เพื่อนเวร ชอบมาทำให้กูคิดมากกับการกระทำของมึงตลอดเลย”

    ใช่ครับ สิ่งที่ผมพูดออกไป มันไม่ผิด ผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกัน ที่ผมเริ่มเขินไอ้นทีแปลก ๆ แปลกจนผมจับสังเกตตนเองได้ หรือคงเป็นเมื่อเช้า ที่ผมเข้าห้องน้ำต่อจากไอ้นที หลังจากที่ผมทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเลยเดินไปหน้ากระจกเพื่อทำการล้างหน้าแปรงฟัน แต่สิ่งที่มันผิดสังเกตไปก็คือ การที่แปรงสีฟันของผมมียาสีฟันอยู่

    มันบีบผิดรึเปล่าวะ

    ผมเกาศรีษะของตนเอง อย่างไม่เข้าใจ และเลิกที่จะคิดให้มันมากมาย มันจะปวดหัวเอา ผมจึงจัดการแปรงฟันล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย เมื่อผมจัดการกับส่วนใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินเข้าไปอาบน้ำ ทว่าเมื่ออาบเสร็จ ผมกลับเห็นชุดนักศึกษาของผมที่ทำการรีดเรียบร้อยแล้ว แขวนอยู่ตรงลูกบิดบานประตู ผมว่าจะไม่สนใจ ไม่สงสัย แต่ตอนนี้มันก็ไม่ได้แล้วครับ

    ไอ้นทีมันทำให้กูเหรอ

    แปลกคน นับตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา มันไม่เคยยุ่งเรื่องการแต่งกายของผมเลย แม้แต่นิดเดียว หรือว่ามันจะหยิบเสื้อมารีดผิด โอ๊ยปวดหัว

    นั่นแหละครับ สิ่งที่มันทำให้ผมวันนี้ มันยังคงติดตรึงตราใจของผมไม่จางหายไปไหน

    ทำไมกันนะนที ทำไมวันนี้ มึงถึงทำตัวแปลก ๆ

     


     

    #รักนี้หมูกระทะจอง


     

     

    “ไอ้ภาคิน”

    ผมส่งเสียงร้องเรียกแก้มอ้วนออกไป เพื่อจะถามว่ามันจะเอาน้ำอะไร ทว่าแก้มอ้วน กลับนั่งนิ่งล่องลอยออกไปไกล แต่มีสิ่งนึงที่มันผิดปกติ นั้นก็คือสีหน้าแววตาคิดมากของแก้มอ้วน ที่มันแสดงออกมาอย่างชัดเจน จนทำให้คนที่สังเกตแก้มอ้วนทุกอิริยาบถอย่างผม รู้สึกและจังสังเกตได้

    คิดมากเรื่องอะไรอยู่นะแก้มอ้วน ถ้าเขาคิดมากเรื่องไอ้เวย์ ผมจะไม่เข้าไปยุ่ง ผมจะปล่อยให้แก้มอ้วนคิดและตัดสินเอง เพราะยังไง นี่ก็คือชีวิตของแก้มอ้วน ไม่ว่าเขาจะเลือกเดินไปทางไหน ก็อยากจะบอกให้รู้ไว้ว่า จะมีผมคอยสนับสนุน อยู่เพียงข้างหลังเสมอ  หันมาเมื่อไหร่ก็เจอ

    แต่ถ้าเกิดแก้มอ้วนคิดถึงเรื่องของผมกับสิ่งที่ผมทำในวันนี้ ผมก็อยากจะบอกว่า

     

    ‘บางทีแก้มอ้วนอาจสงสัยในการกระทำของนที แต่นทีขอบอกแก้มอ้วนเอาไว้เลยนะ ว่าการกระทำของนทีทั้งหมดมันคือ การจีบ ถึงแม้การจีบของนทีจะไม่เหมือนใครเขา แต่นทีก็ทำด้วยใจ หลังจากนี้นทีไม่ขออะไรมาก ขอแค่แก้มอ้วนมองนทีเป็นเพียงผู้ชายคนนึงที่มันชอบแก้มอ้วน ไม่ใช่เพื่อนสนิทของแก้มอ้วนอีกต่อไป ก็เพียงพอแล้ว’


     

     

     

     

     

    ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ ถ้าเจอขออภัยด้วยนะคะ

    อาจจะมีบางช่วงที่ดูไม่สมูทไม่ลื่นไหล ขออภัยด้วยนะคะ

    เข้ามาพูดคุยกัน ได้ที่เฟซบุ๊ก : นักเขียน หน้าใหม่ ได้นะคะ

    สามารถเข้าไปเล่นแท็กทวิตเตอร์

    โดยใช้ #รักนี้หมูกระทะจอง

    ส่วนทวิตของไรท์ @Mousyy8893

    ไปเล่นกันเยอะ ๆ น๊า

    ช่วยคอมเมนต์และรีวิวเพื่อเป็นกำลังให้นักเขียนด้วยนะคะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×