ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ALL GUNNY

    ลำดับตอนที่ #29 : อดีตของการพบกัน / Rufang

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 53


    มาแล้วจ้า  บางคนถามว่าทำไมอาทิตย์นี้อัพช้า  ก็คงต้องตอบว่าไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน

    คือ  อาทิตย์นี้มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นมากมาย  ทั้งการบ้านที่เปิดเทอมก็ท่วมแล้ว  กับอากาศที่เปลี่ยนแปลง

    ที่เริ่มทำให้ไรเตอร์รู้สึกไม่ค่อยสบายยังไงก็ไม่รู้  แต่ไม่เป็นไรในเมื่อแรงจิ้นยังอยู่  เหนื่อยแค่ไหนก็จะคลานมาอัพ  ไปอ่านเลยดีกว่าเนอะ

    ไรเตอร์พล่ามมากไปแล้ว  ในตอนนี้จะเฉลยนะจ๊ะ  ว่ากัน  ริท  และเซนไปสัญญาอะไรกันตอนไหน ในพาร์ทที่ริทงอนกันอ่ะ และเซนก็มาเตือน

    ริทเรื่องสัญญา  จะยังมีใครจำได้อยู่อีกไหมเนี่ย  ไปอ่านเลยดีกว่าเนอะ
    .........................................................................................................................................................................................................

    {ZEN : TALK }

     

                วันนี้เป็นวันที่กันออกจากโรงพยาบาล  และก็เป็นวันครบรอบการพบเจอ  และเป็นเพื่อนของเรา  ปีนี้ก็เป็นปีที่ 4 แล้ว  ผ่านไปเร็วเหมือนกันนะเนี่ยนับจากเหตุการณ์วันนั้น

     

    ~~~~~~~~  ย้อนไปในอดีต  ~~~~~~~~~

     

                โอ๊ย!!!   ปวดหัวชะมัด  มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย   แล้วนี่เรามาอยู่ที่ไหนเนี่ย  จำได้ก็แค่ว่า  ตอนนั้นแม่กลับมาแล้วบอกว่าจะทำอาหารให้กิน  พอเรากินแล้วเราก็ง่วง  แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

     

                เออ...นาย  นายที่หน้าเหมือนแมวอ่ะ  ช่วยอะไรผมอย่างสิ  เสียงใส ๆ ที่ดังอยู่ข้าง ๆ ผม  ทำให้ผมหันไปมอง  และสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณก็พบว่ามันไม่มีใครนอกจากผมกับเค้า  ทำให้ผมตัดสินใจเอ่ยปากคุยกับคนแปลกหน้า

                เอ๋?  ผมเหรอ 

                อืม...ใช่  นายนั่นแหละ  มือนายไม่ได้ถูกมัดอยู่ใช่ไหม  ช่วยแก้เชือกให้ผมหน่อย ผมมองตรงไปยังชายหนุ่มร่างเล็กหน้าตาน่ารักราวกับผู้หญิงที่ถูมัมือไขว้หลังอยู่  ผมตัดสินใจยันตัวลุกขึ้นเดินไปหาเค้าก่อนจะย่อตัวลงแก้เชือกให้เค้า

                โอ๊ย....เจ็บเป็นบ้าเลย  ดูสิแดงไปหมดทั้งข้อมือเลย  ว่าแต่นายก็ถูกขายมาเหมือนกันเหรอ  ถูกขาย?  คืออะไร  เค้าพูดเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย

                ถูกขาย?  นายพูดเรื่องอะไรอยู่อ่ะ  แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน

                เอ้า!  นี่นายไม่รู้เหรอว่า  ตอนนี้พวกเรานะถูกขายใช้หนี้ให้กับพวกมาเฟียมา  ส่วนอยู่ที่ไหนกันนั้น  ฉันไม่แน่ใจหรอก...แต่เห็นมันพูดกันว่าจะพาเรามาส่งลูกค้าที่อังกฤษ  เราคงอยู่สักทีในอังกฤษนั่นแหละ

                น...นาย...กำลังโกหกฉันอยู่ช่ไหมเนี่ย  ฉันก็แค่กินข้าวกับแม่อยู่ที่บ้าน  แล้วก็ง่วงหลับไปเฉย ๆ  แค่นั้นเอง  อย่ามาอำน่า....  แม่ฉันจ้างนายมาใช่ไหม

                เฮอะ  ฉันโกหกนายไปจะได้อะไร  นายโดนแม่นายหรอกแล้ว

                ไม่จริง....น...นายโกหกฉันใช่ไหม...มันไม่จริง!!...ฮึก...มันไม่ใช่เรื่องจริง..ฮือ...  ผมพูดได้เพียงแค่นั้นก็ถูกเสียงสะอื้นของตัวเองกลืนไป  แม่ขายผมงั้นเหรอ?  ทำไมแม่ทำกับผมแบบนี้

                นี่นาย!  ถ้าไม่อยากโดนไปขาย หรืออยู่ที่นี่ไปจนตายก็เลิกร้องไห้ก่อน

                ฮึก...แล้วนายจะททำไง...ฮึก...อีกฝ่ายเป็นมาเฟียเชียวนะ

                ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  รู้แต่ว่าหนีออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนก็พอ  เรื่องอื่นค่อยว่ากัน  นายจะไปกับฉันไหม?’ คนตัวเล็กที่ภายนอกดูบอบบางหันมาถามผม  ผมควรจะทำไงดี?

                ‘……………..’

                ‘…………………’

                ไป  ฉันจะไปกับนาย

     

                ผมกับคนตัวเล็กหนีออกมาจากห้องตึกแถวแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจได้  แต่ปัญหามันยังไม่จบเพียงแค่นั้นนะสิ  เพราะพวกมันที่เป็นพวกมาเฟียก็วิ่งไล่มาเพื่อจะจับผมกับคนตัวเล็กกลับไป  เราวิ่งกันมาจนถึงหัวมุมถนน  และด้วยความรีบและไม่ระวังของผมและคนตัวเล็ก  ทำให้เราวิ่งไปโดยไม่ได้สนใจดูถนนว่ามีรถหรือไม่  และแล้ว.....

     

    ปริ้น.....ปรี๊น

     

                ผมกับคนตัวเล็กได้แต่หลับตาแน่นเตรียมเผชิญกับรถที่วิ่งด้วยความเร็ว  เราคงไม่รอดแน่ ๆ  โถ่เอ๊ย!  นี่เรามาไกลได้เพียงแค่นี้เองเหรอ  แต่ก็ยังดีกว่ารออยู่ที่นั่นโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรต่อไปแล้วกัน  ลาก่อนโลกกว้าง

     

    หมับ!   ฟึบ!

     

                ผมรู้สึกถึงแรงกระชากบางอย่างที่บริเวณข้อมือจึงลืมตาขึ้นมาดู  และก็พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งดูแล้วคงจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมและคนตัวเล็ก    กำลังออกแรงกระชากเอาร่างของผมกับคนตัวเล็กออกมาให้พ้นถนนได้อย่างเฉียดชิว  ขอบคุณจริง ๆ   ขอบคุณที่ช่วยให้ผมได้มีชีวิตอยู่อีกครั้ง

                ข...ขอบคุณครับ  ผมเอ่ยออกไปอย่างไม่รู้ตัว  แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร  เพราะผมก็อยากจะขอบคุรเค้าจริง ๆ

                เอ้า!  พวกคุณเป็นคนไทยเหรอฮะ   แล้วเป็นอะไรกันหรือเปล่า  คนผิวเข้มเจ้าของนัยน์ตาหวานที่ช่วยผมเอาไว้กล่าว  พร้อมรอยยิ้มอย่างอบอุ่น 

                อ....เออ....ผมไม่เป็นไรครับ....นายเป็นอะไรไหม  ผมหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ดูยังไม่ค่อยได้สติเท่าไร

                ม...ไม่เป็นไร

                งั้นก็ดีแล้วฮะ  เกือบไปแล้วนะฮะพวกคุณ  ว่าแต่......

                หยุดวิ่งได้แล้วเหรอ  ปล่อยให้พวกฉันวิ่งไล่อยู่ได้ต้องนาน  คุณกัน!’

                ...................................ฮะ  นายคนผิวเข้มที่ช่วยเราไว้รู้จักกับพวกมาเฟียพวกนี้เนี่ยนะ  หนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ จะหนีก็หนีไม่ได้แล้วด้วย  พวกมันล้อมไว้หมดแล้ว

                คุณกันช่วยจับไว้ให้เหรอครับ  ขอบคุณนะครับ  เผอิญสินค้าล็อตนี้มันดื้อไปหน่อยนะครับ  งั้นผมขอรับสินค้าของเรากลับนะครับ  คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าคุมงานกล่าวกับผิวเข้มที่ผมพึ่งรู้ว่าเค้าชื่อกัน  อย่างนอบน้อมก่อนส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องของมันเข้ามาล็อคตัวผมกับริท  อย่างนี้มันก็ไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไรนะสิ

                เดี๊ยวก่อน!  ต่อสายถึง Rufang ให้ฉันก่อน  เอาไว้ฉันคุยเสร็จแล้วฉันจะมาบอกว่าให้ทำยังไงกับสองคนนี้  โอเค. ไหม?’

     

                ฮัลโหล  Rufang  นี่ฉันเองนะ  ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วยนิดหน่อยผมได้ยินเพียงแค่นั้นก่อนที่คนผิวเข้มจะเดินฝ่าวงล้อมออกไป  เค้าเป็นใครกันแน่  ทำไมทุกคนถึงต้องยอมให้กับเค้า  แล้ว Rufang นั่นคือใคร

     

    ---------- 5 นาทีต่อมา  -------------

     

                ปล่อยตัวสองคนนั้นซะ  แล้วก็ Rufang ฝากบอกมาว่าอย่าเลินเล่ออีก  โอกาสไม่ได้มีให้บ่อย    หรอกนะ  ส่วนเรื่องสินค้าน่ะ  ให้เอาคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดส่งไปก่อน  แล้วเดี๊ยวจะส่งมาให้ใหม่

                ครับคุณกัน  ไป!  พวกเรากลับหัวหน้ากล่าวรับคำสั่งอย่างนอบน้อมอีกครั้งก่อนจะก้มหัวเคารพเป็นเชิงลาก่อนจะพาพรรคพวกของมันกลับไป  คนผิวเข้มเดินตรงเข้ามาผมกับคนตัวเล็ก 

                พวกนายไม่ต้องกลัวแล้วนะ  คนพวกนั้นจะไม่ทำอะไรพวกนายแล้วแหละ  นายจะไปอยู่กับฉันไหม  ฉันชื่อ กัน นะ  แล้วพวกนายล่ะชื่อกัน เค้าพูดไปยิ้มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นของเค้า  เค้าดูไม่เหมือนคนไม่ดีพวกนั้นเลยทำไมพวกนั้นถึงได้กลัวเค้ากันนะ

                น....นายเป็นใครกันแน่  ทำไมคนพวกนั้นต้องเชื่อนายด้วย  คนตัวเล็กที่ตอนแรกไปยืนข้างหลังผมค่อย ๆ ก้าวออกมาถามคำถามในสิ่งที่ผมสงสัย

                อืม....จะว่าไงดีล่ะ  ก็คือว่าพ่อฉันก็พอมีอิทธิพลกับเค้าอยู่บ้างเหมือนกัน  ท่านทำธุรกิจนะ  ก็เลยพอจะรู้จักเจ้าพวกนี้อยู่บ้าง  ก็เลยต่อรองกันนิดหน่อยนะ  ไม่เป็นไรหรอก  ฉันไม่ทำอtไรพวกนายหรอก  เพราะถ้าฉันจะทำจริง  ฉันจะเสียเวลาช่วยนายมาทำไม

                ........................................อืมก็จริงของเค้านะ  ถ้าเค้าไม่อยากช่วยเราก็คงปล่อยให้เราโดนทับตายด้วยรถไปแล้ว

                ฉันเซน  ขอบคุณที่ช่วยต่อไปนี้ฝากตัวด้วยนะ

                ฉ....ฉันริท  ฝากด้วยเช่นกัน

                ได้เลย  เราเป็นเพื่อนนับจากวันนี้เลยนะ  กันยังคงกล่าวไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม  รอยยิ้มนั่นมันทำให้ผมวางใจอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้ทำไม

     

                “เซน   เซนเหม่ออะไรอยู่   แกงเดือดแล้วนะ”

                “ฮะ   ฮะ  ริทว่าอะไรนะ”  ผมตื่นออกจากผวังคืความคิดในอดีต  หันมาสนใจเสียงเจื้อแจ๋วของคนร่วมสถานการณ์เดียวกันเมื่อ 4 ปีก่อน

                “ริทบอกว่าแกงเดือดแล้ว”

                “เออ!  จริงด้วย  เกือบล้นหมอไปแล้ว  ขอบใจนะริท”  ผมเดินไปปิดเตาแก๊สที่มีหมอที่น้ำเดือดพุด ๆ อยู่

                “ไม่เป็นไร  นี่เสร็จแล้วใช่ไหม  ริทจะได้ไปตามกันลงมา”

                “อืม  ฝากด้วยนะ”

     

     

    {GUN : TALK }

     

                เย้ ๆ ๆ   ในที่สุดผมก็ได้ออกจากโรงพยาบาลน่าเบื่อ ๆ แล้ว  หลังจากซื้อบื้อ  ซุ่มซ่าม  และไม่ดูแลตัวเองร้วมกัน  ทำให้ผมต้องไปนอนโรงพยาบาล 3 วัน  แถมได้เลือดพี่เก่งมาเข้าตัวอีก  ไม่รู้ไอ้รังสีความเป็นนีออนของพี่เก่งนี่มันอยู่ในสายเลือดรึเปล่า?  ที่ถามนี่ไม่ใช่อะไรหรอก  เผื่อเราจะขาวขึ้นบ้าง

     

                “กัน....ลงมากินข้าวเย็นกัน  วันนี้มื้อพิเศษด้วยนะ”  เสียงเจื้อแจ๋วของไอ้ริทที่บัดนี้ผมกับมันกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันแล้วเรียกมาจากชั้นล่างของบ้าน

                “อืม  ลงแล้ว ๆ”  ผมเดินไปอุ้มเจ้าเค-ทริกซ์เดินลงไปชั้นล่างของบ้าน  ว่าแต่รู้สึกเหมือนว่าเจ้าเค-ทริกซ์จะหนักขึ้นกว่าก่อนผมจะไปนอนเล่นอยู่โรงพยาบาลมากเลยนะเนี่ย

                “นี่เค-ทริกซ์   พี่ดิวเค้าให้แกกินวันละกี่มื้อเนี่ยห้า....  หนักขึ้นเป็นกองเลย  ระวังกันจะอุ้มไม่ไว้เอานะ  นี่แหน่ะ!!!  ผมว่าก่อนจะเอามือไปขยุ้มหัวเจ้าเค-ทริกซ์เล่นเบา ๆ

     

     

                “ว้าว 0.0  วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรกันล่ะเนี่ย   กับข้าวเต็มโต๊ะเลย  หรือว่าฉลองย้อนหลังวันเกิดไอ้ริทมันอีกที  ฮืม...”  ผมเดินเอาเจ้าเค-ทริกซ์ไปวางประจำที่ข้างชามข้าวมัน

                “ฮึ ฮึ  ตลกป่ะเนี่ยกัน  อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้หน่อยเลย  ลงทุนทำไปซะขนาดนั้น”

                “เฮ้อ....เบื่อคนรู้ทันอ่ะเซน  จัดการริทให้หน่อยสิ”

                “เฮอะ เฮอะ   กินเถอะ  กินเถอะ  เดี๊ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย  มา ๆ เซนตักข้าวให้”

                “ขอบคุณคร้าบ......”  ผมลากเสียงยาว ๆ เหมือนเวลาที่เด็ก ๆ อ้อนแม่

                “แอ๊บนะมึง   เซนตักให้ริทด้วยสิ”  ริทหันมาว่าผมก่อนที่จะหันไปทำหน้าตาใสซื่อใส่เซนที่กำลังตักข้าวให้ผม 

                “อ่ะ  อ่ะ”

                “ว่าแต่กูนะมึง  ตัวเองก็แอ๊บเหมือนกันนั่นแหละ”

                “ก็นะ  คนเรามันก็ต้องมีกันบ้าง”

                หลังจากนั้นพวกเราทั้งหมดก็ทานไป  คุยเรื่องสัพเพเหระที่ผ่านมากันไป  บางเรื่องก็จำได้  บางเรื่องก็จำไม่ได้  มีทั้งเรื่องที่ทำให้เราทุกข์  และเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข  คละเคล้ากันไป  ไม่น่าเชื่อเลยว่าการมานั่งเล่าเรื่องเก่า ๆ จะทำให้เราสุขขนาดนี้ 

     

               

    ~ของที่เธอไม่ได้รัก  ซักพักเธอคงจะขว้างทิ้ง  ต่างกับสิ่งที่รักจริง  เธอกับทิ้งไม่ลง...~

     

               

                “ฮัลโหลครับ”  ผมกรอกเสียงลงไปตามสายโทรศัพท์ที่โทรมาขัดจังหวะการกินอาหารอันมีความสุขของผม

                ว่าไง  Angle ของ  Dark  road’

                Rufang!


    .........................................................................................................................................................................................................
    ปล.ขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่เป็นกำลังใจให้กัน  อยู่กันมาจนถึงวันนี้  บางคนตามอ่านเป็นกรุ๊ปแรก ๆ และก็มาจนถึงปัจจุบัน  อยู่กันมาตั้งแต่ยังไม่ค่อยมีคนอ่าน  ยังไม่ค่อยมีคนเม้นจนมาถึงตอนนี้ที่มีคนอ่านเยอะ(สำหรับไรเตอร์นะ)  เม้นก็เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์อย่างดี  ขอบคุณจริง ๆ ที่อยู่เคียงข้างกัน  และหวังว่าจะอยู่ข้างกันจนกว่าเรื่องจะจบนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×