คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : เซอร์ไพส์ / หลับฝันดี { อัพแล้ว 100% }
มาวันนี้ก็ขอ Surf ดูก่อนว่ายังอ่านกันอยู่ไหมเลยเอามาลงให้ก่อนสัก 3.24568 % ก่อนแล้วกันจ้า
อ่ะ มาต่อให้เป็น 50% แล้วนะ เดี๊ยวขอไปเคลียร์การบ้านปิดเทอมต่อก่อนนะเดี๊ยวจะมาต่อให้อีก ใกล้จะเปิดเทอมแล้วจะต้องเคลียร์ให้
เสร็จก่อน อีกนิดหนึ่งก็จะเสร็จแล้ว แล้วจะมาอัพให้นะ
ต่อเป็น 100 % ให้แล้วนะจ๊ะ และก็จะแจ้งด้วยว่าถ้าบอร์ดเดอะสตาร์ 6 เปลี่ยนเป็น 7 เมื่อไรจะแจ้งผ่านที่มายไอดีของผู้เม้นนะ
.........................................................................................................................................................................................
{GUN : TALK }
“กัน ริทขอโทษ ริทขอโทษ.....” ริทวิ่งถลาเข้ามากอดผมอย่างกับกลัวว่าผมจะหายไปนั้นแหละ ผมก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ แต่คือ ผมหายใจไม่ออกครับ
“เออ...ริท เบา ๆ หน่อยสิ กันหายใจไม่ออก”
“อ่ะ ขอโทษ ริทดีใจไปหน่อย ขอบคุณนะสำหรับของขวัญ” ริทค่อย ๆ คลายกอดออก เฮ้อ....โล่ง ค่อยหายใจได้เต็มปอดหน่อย ว่าแต่ไอ้พวกข้างนอกเตรียมแผนกันไปถึงไหนแล้วนี่
“ไม่เป็นไร ถูกใจไหม? กันนั่งทำตั้งหลายวันหลายคืนเลยนะเนี่ยกว่าจะเสร็จ”
“อืม! ถูกใจสิ แต่รู้สึกว่าไอ้ 4 YEAR ANNIVERSARY AT THAT DAY นั้นนะ รู้สึกมันจะเร็วไปรึเปล่า” แหม๊....ที่เรื่องอย่างนี้นะจำแม่น แต่วันเกิดตัวเองนี่ลืม ถ้าไม่ให้ไปเอาของขวัญบนห้องนี่มันจะรู้ไหมเนี่ย รู้งี้น่าจะปล่อยให้นอยด์ต่อไปนะเนี่ย
“ก็นะ รวม ๆ กันไปก็คงไม่เป็นไรมั้งอีกไม่กี่วันเอง”
“ก็ได้ งั้นเดี๊ยวริทขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ จะไป take a pee”
“มี a poo มาด้วยล่ะมั้ง”
“กันบ้า >< เดี๊ยวเหอะหายดีเมื่อไรเสร็จริทแน่ หึ หึ” เสียงหัวเราะชั่วร้ายมาก ไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง คงต้องรีบไล่มันไปแล้วล่ะครับ ไม่งั้นชีวิตหนุ่มน้อยอย่างผมมันจะไม่ปลอดภัย
“กลัวตายแหละ --///-- ไปเลย ไปเลย เดี๊ยวได้ราดกันพอดี”
“555+..... ไปก็ได้” หลังจากที่ผมชะเง้อตัวมองตามให้เห็นว่าคนขี้นอยด์ได้เดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็เอี้ยวตัวไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ใต้หมอนก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ไปยังหมายเลขปลายทางที่ต้องการ
“ฮัลโหลพี่โน่เหรอ.....เริ่มแผนได้เลยนะ”
{RIT : TALK }
เฮ้อ...โล่งดีแหะ หลังจากที่ต้องมานั่งบ้า นั่งอึดอัดอยู่กับเรื่องที่ตัวเองไปทะเลาะกับกัน นอยด์กับกันนี่ จะว่าไปแล้วก็จะ 4 ปีแล้วนะตั้งแต่เรื่องวันนั้น ถ้าไม่ได้กันเราก้คงจะทำอะไรบ้า ๆ ไปแล้ว ขอบคุณนะกัน ขอบคุณที่ทำให้ริทได้มีชีวิตต่อ ได้อยู่ร่วมมีความสุข ร่วมทุกข์ไปด้วยกัน
“เอ้า! พี่ริท พี่กันอ่ะ”
“หลับไปแล้วน่ะ ว่าแต่คนอื่น ๆ อ่ะไอซ์ ไปไหนกัน” ผมถามเจ้าเด็กโยงที่เดินเข้ามาตั้งอต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ว่าแต่พพวกพี่เก่ง พี่โน่ แล้วก็เซนไปไหนอ่ะ กลับมากันตั้งนานแล้วไม่ยอมเข้าห้องมาซักที
“ไปฟังเรื่องผีเกี่ยวกับห้องนี้กับคุณพยาบาลนะครับ ผมขี้เกียจฟังต่อก็เลยเดินมา เรื่องมันก็เหมือนทั่ว ๆ ไปแหละครับ”
“...............................” เอิ่ม....ผีเหรอ? โอ๊ย......กันตื่นเดี๊ยวนี้ริทจะย้ายห้องให้ ริทไม่อยากโดนผีหลอก ริทกลัว
“ก็แค่เด็ก ม.ปลายคนหนึ่งเค้าป่วยมาก เข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลก็หลายเดือนอยู่ ในแต่ละวัน เค้าก็ได้แต่นอนอยู่บนเตียง เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วจึงทำให้เค้าไม่ค่อยมีเพื่อน” คือ...จะเล่าทำไมล่ะครับไอซ์ พี่ยังไม่ได้ขอเลยแล้วนั่นก้มหน้าเล่าทำไมล่ะ มันน่ากลัวนะ ห้องมันยิ่งไม่ค่อยสว่างอยู่
“....เออ....น่าสงสารเค้าเนอะ....แต่....”
“ในระหว่างที่เค้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนมาเยี่ยมเค้าเลยยกเว้นเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่มาเยี่ยมเค้าคอยมาคุยกับเค้าบ่อย ๆ” ไอซ์ยังคงนั่งก้มหน้าเล่าต่อไปโดยไม่สนใจในสิ่งที่ผมจะพูดเท่าไร เออ....พี่กลัว ฟังพี่หน่อยสิเว้ย
“ง....งั้นเหรอ ก็ดีแล้วนี่ แต่ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ คือ พี่ไม่ค่อยอยากจะฟังเท่าไรนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากเล่า ต่อนะครับ”
“...........................” ไอ้หน้าด้าน คนไม่อยากฟังมึงจะเล่าทำไมเนี่ย อยากเล่าก็ไปเล่าที่อื่นสิเฟ้ย แมร่งหน้าดานเหมือนใครเลยฟ่ะ
“แต่แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่งเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หายไป ไม่ได้มาเยี่ยมเค้าอีก เค้าก้ได้แต่รอ....รอผู้หญิงคนนั้นจะมาเยี่ยมเค้าอีก รอตามคำสัญญาที่เธอได้ให้กลับเค้า เค้ารอเธอด้วยใจเฝ้ารอทุกวัน แต่ละวันผ่านไปด้วยความเงียบเหงาเหมือนที่เคยเป็น”
“................................” จะว่าไปฟังไปฟังมาก้ไม่เห้นเหมือนเรื่องผีซักเท่าไร เอ้า! ฟังก็ฟังว่ะ ว่าแต่ไอซ์เป็นอะไรของมันเนี่ยก้มหน้าก้มตาเล่าอย่างเดียวเลย แล้วไหนจะเสียงเย็น ๆ ดูประหลาด ๆ อีก บรึ๋ย!!! หนาว......
“เค้าเฝ้ารอจากหลาย ๆ วันเป็นเดือน จากหลาย ๆ เดือนเป็นปี และวันที่ครบปีนั่นเองที่เค้า......”
“เด็กผู้หญิงคนนั้นเค้าก็มาหาใช่ไหม?” ผมพูดสวนในสิ่งที่ไอซ์กำลังจะเล่าออกมาเผื่อมันจะหันหน้ามาสนใจผมที่นั่งฟังมันเล่ามาก แต่ก็ผิดคลายครับมันก็ยังคงเล่าต่อไปด้วยเสียงเย็น ๆ เหมือนเดิม
“เปล่าครับ เค้ามีอาการทรุดหนักลง หนักลง หนักลง จนในที่สุดเค้าก็ตายจากโลกไป ตายไปด้วยตาลืมกว้างจนถลนออกมาเป็นการบอกว่ายังรอคอยอยู่”
“ล....แล้ว...ไง...ต่อ...” ผมถามออกไปด้วยเสียงสั่น ๆ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวต่อ
“หลังจากนั้นทุกครั้งคนที่มานอนเฝ้าคนไข้ภายในห้องนี้ก็จะได้พบเห็วิญญาณของเด็กผู้ชายคนนั้น ปลอมตัวมาเป็นรู้จักกับคนไข้และญาติคนไข้”
“ป...ปลอมตัว...เหรอ”
“มานั่งข้าง ๆ ก่อนจะถามว่า ‘คุณครับ คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ คุณเห็นบ้างไหมครับ เห็นไหม?’ อย่างนี้ไงครับ”
“คุณครับ คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ คุณเห็นบ้างไหมครับ เห็นไหม?”
“ว๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!”
----------- 50 % ---------------
{ICE : TALK }
พอพี่กันโทรมาส่งสัญญาณเริ่มแผนได้ ผมก็ได้ฤกษ์ทำหน้าที่ของตัวเอง คือ การไปนั่งเล่าเรื่องผีที่ผมกรุขึ้นมาและต้องหลอกยังไงก็ได้ให้ผีริทกลัว เฮ้อ....มันเป็นงานที่ยากเสียนี่กระไร ใครมันจะไปทำกับคนน่าแกล้ง ๆ อย่างผีริทลง (มั้ง)
“เอ้า! พี่ริท พี่กันอ่ะ” ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถามคนที่นั่งเหม่อลอยคิดอะไรอยู่ ผมก็ไม่รู้ ให้ออกจากภวังค์ความคิดของเค้าหันมาสนใจผมนิดหนึ่ง คือ ผมมาแกล้งพี่นะ พี่ช่วยสนใจผมนิดหนึ่งสิครับ
“หลับไปแล้วน่ะ ว่าแต่คนอื่น ๆ อ่ะไอซ์ ไปไหนกัน” อยู่หน้าห้องเตรียมดูฝีมือผมแกล้งพี่อยู่
“ไปฟังเรื่องผีเกี่ยวกับห้องนี้กับคุณพยาบาลนะครับ ผมขี้เกียจฟังต่อก็เลยเดินมา เรื่องมันก็เหมือนทั่ว ๆ ไปแหละครับ” ผมเริ่มที่จะดูปฏิกิริยาของคนที่กำลังจะถูกผมแกล้งว่าเค้าจะรู้สึกยังไง และมันก้จริงอย่างที่คนอื่น ๆ บอกผมว่ากับพี่ริทเนี่ยต้องเรื่องผีถึงจะจี้ถูกจุด
“...............................” ผมเริ่มที่จะดูปฏิกิริยาของคนที่กำลังจะถูกผมแกล้งว่าเค้าจะรู้สึกยังไง และผลมันก็จริงอย่างที่คนอื่น ๆ บอกผมว่ากับพี่ริทเนี่ยต้องเรื่องผีถึงจะจี้ถูกจุด ผีเค้าดูเงียบไปเลยแถมน่าตายังดูแบบว่าเอือม ๆ นิด ๆ ด้วย เมื่อผมเห็นอย่างนั้นผมก้ได้เริ่มทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ผมเริ่มเล่าเรื่องที่ตัวเองเพิ่งแต่งสด ๆ หมาด ๆ ต่อหน้าพี่ริทเมื่อกี้ ผมเล่าไปก้มหน้าไป ไอ้ที่ก้มหน้านี่ก็ไม่ใช่จะสร้างบรรยากาศอะไรหรอกนะ แต่คือผมเป็นคนดีไง ก็เลยเตรียมตัวเอาของเล่นมาด้วยเพื่อความสมจริง ไม่ว่าจะเป็นไอ้ลูกตาปลอมที่แช่ในน้ำอะไรก็ไม่รู้สีแดง ๆ ที่ขายกระปุกละ 10 บาท เลือดปลอมที่ผีเก่งหามาให้ คือ อะไรที่ทำแล้วทำให้ผมเหมือนผีอ่ะ ผมมีหมด
ผมเล่าไปก็เริ่มเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ มาแต่งแต้มตัวเองไป เริ่มจากเอาแป้งผับที่ยืมเกรซมาตอนผมเรียกเธอมาพบเอามาทาให้ตัวเองดูซีด ๆ ก่อน แล้วก็เอาเลือดปลอมมาใส่ตามทวารที่อยู่บนใบหน้า แล้วก็สุดท้ายก็เอาไอ้ลูกตากระปุกละ 10 บาท เอามาจับไว้ในมือก่อน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วผมก็เริ่มนำพี่ริทมาเข้าเรื่องซักที
“เปล่าครับ เค้ามีอาการทรุดหนักลง หนักลง หนักลง จนในที่สุดเค้าก็ตายจากโลกไป ตายไปด้วยตาลืมกว้างจนถลนออกมาเป็นการบอกว่ายังรอคอยอยู่” หลังจากผมเล่าออกทะเลไปนานเพื่อเตรียมตัวให้เสร็จ ผมก็วกเค้ามาในเรื่อง ผมเล่าด้วยน้ำเสียงที่เนิบ ๆ และเย็นลง เพื่อให้ได้บรรยากาศ
“ล....แล้ว...ไง...ต่อ...” โอ้โฮ...พี่นี่มันน่านับถือจริง กลัวจนเสียงสั่นขนาดนี้แล้วยังจะอุตสาห์ถามอีกว่าเป็นไงต่อ
“หลังจากนั้นทุกครั้งคนที่มานอนเฝ้าคนไข้ภายในห้องนี้ก็จะได้พบเห็วิญญาณของเด็กผู้ชายคนนั้น ปลอมตัวมาเป็นรู้จักกับคนไข้และญาติคนไข้”
“ป...ปลอมตัว...เหรอ”
“มานั่งข้าง ๆ ก่อนจะถามว่า ‘คุณครับ คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ คุณเห็นบ้างไหมครับ เห็นไหม?’ อย่างนี้ไงครับ” ผมว่าก่อนจะเอาไอ้มือที่ถือลูกตาปลอมชุ่มเลือดไปไว้ตรงบริเวณดวงตาข้างขวาแล้วจึงหันหน้าไปหาผีริท และพูดประโยคเดิมซ้ำ
“คุณครับ คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ คุณเห็นบ้างไหมครับ เห็นไหม?”
“ว๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!”
โอ๊ย! พี่ริทเสียงมันกี่เดซิเบลกันนี่ปวดหูครับ แต่ก็ดีเสียงขนาดนี้ผมคงไม่ต้องส่งสัญญาณให้พวกข้างนอกรู้อีกแล้วล่ะครับ ว่าแต่ผมทำเกินไปไหมเนี่ย เห้นพี่ริทแล้วก้สงสารเหมือนกันนะ นั่งหลับตาปี๋ กำผ้าห่มแน่น แล้วก็ตะโกนเสียงดังสุดขีดด้วยเดซิเบลเสียงที่ทำให้หูผมแทบแตก ถ้ามันไม่มีอันหลังผมก็จะสงสารพี่อยู่นะครับ ปวดหู!
{TONO : TALK }
“ว๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!” อืมหืม....เสียงริทนี่มันสุดยอดจริง ๆ ครับ เดซิเบลขนาดนี้ขี้หนูผมออกมาเริงระบำได้เลยล่ะครับ ผมหันกลับไปหาไอ้เก่งที่ยืนถือเค้กและเซนที่ถือไฟแช็กและเทียนอยู่ก่อนจะพยักหน้าให้มันเป็เชิงบอกว่าให้จุดได้
หลังจากพวกเราจุดเทียนกันเสร็จผมก็เปิดประตูเดินนำเข้าไปในห้อง พอเปิดเข้าไปสิ่งที่ผมเห็นก้ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทำไมไอ้ริทร้องด้วยเสียงที่มีเดซิเบลดังได้ขนาดนี้ ก็เพราะไอ้น้องชายตัวดีผมนะสิแต่งได้ซะน่ากลัวมาก ผมเห็นแล้วยังมีหวาด ๆ อยู่เลย แตกต่างกับไอ้คนต้นความคิดที่ยืนดูผลงานความคิดของตัวเองด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
“คุณครับ คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ คุณเห็นบ้างไหมครับ เห็นไหม?” แต่ถึงริทจะตะดกนด้วยความกลัวสักเพียงใด ไอ้น้องตัวดีของผมก้ยังแกล้งต่อ เฮ้อ....น่าสงสารจริงเลยริทเอย
“ม...ไม่...ผ...ผม...ไม่เห็น....ผ...ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” ส...เสียง...ส..สั่นมากเลย ผมเอามือข้างหนึ่งสะกิดไอ้น้องตัวดีก่อนจะทำปากพะงาบ ๆ ให้มันดูว่า ‘พอแล้ว’
“ริท! ริท!” กันเรียกริทพร้อมเอามือเขย่าให้ริทสงบก่อน พอริทสงบและกำลังจะลืมตา พวกเราทั้งหมดก็เริ่มร้องเพลงที่ทุกคนก้คงเคยได้ร้องในวันเกิด
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์....แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์...ทู...ริท” ริทที่ลืมตามาเห็นเค้กและพวกผมที่ยืนร้องเพลงวันเกิดให้ก็ถึงกับน้ำตาไหล และยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
“ฮึก...ทำกันได้นะ”
“555+….” พวกเราทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกันก่อนที่ริทจะหลับตาลงอธิษฐานและลืมตามาเป่าเค้กจนหมด
“ขอบคุณนะครับที่ทำให้ริท” มันมีเพียงคำกล่าวเพียงแค่นั้นก่อนที่เราจะมาเริงร่ากับงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่ถูกจัดขึ้นในห้องนอนคนไข้ จะว่าไปมันก็ดีไปอีกแบบเหมือนกันนะเนี่ย
ขึ้นชื่อว่างานเลี้ยงมันก็ต้องมีการเลิกรา พวกผมฉลองกันเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ก่อนจะขอตัวกลับกันโดยมีเซนกับริทอาสามาส่งผม ไอ้ไอซ์ และก็ไอ้เก่งที่รถฉันล่าง แต่ไอ้ผมนะสิดันลืมโทรศัพท์เอาไว้ในห้องตอนฉลอง ให้มันได้อย่างนี้สิ
“เออ...เดินไปกันก่อนเลยนะ ลืมโทรศัพท์เอาไว้อ่ะ เดี๊ยวไปเอาก่อน” ผมหยุดฝีเท้าก่อนจะพุดกลับอีกสี่คนที่เหลือที่เดินมาด้วยกัน
“อ่ะครับ” เซนตอบแทนทุกคนก่อนที่ทั้งหมดจะออกเดินต่อ ผมก็ต้องเดินต่เหมือนกันแต่เป็นเดินกลับไปที่ห้องพักไข้ของกัน
กึก.....แอ๊ด
“เซน ริท กลับกันมา....เอ้า! พี่โน่ มาไมอ่ะ”
“ลืมมือถืออ่ะ นี่ไง” ผมเดินไปหยิบมือถือที่ลืมไว้มาหยิบโชว์กันที่นอนอยู่บนเตียง
“อ๋อ...อืม กลับไปเถอะดึกแล้ว”
“พูดงี้ห่วงพี่เหรอ” ผมพูดย้อนแซวคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข ก็แน่ล่ะ ผมรู้นี่นา..ว่าที่เค้าพูดอย่างนั้นก็เพราะเค้าห่วงผม
“>//< ใครห่วงพี่กันเล่า ผ..ผมไล่เพราะผมจะรีบนอนต่างหากเล่า”
“อ่ะ ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง แต่ก่อนไปก็ขอ......” ผมโน้มตัวลงไปที่หน้าผากของคนที่นอนอยู่บนเตียงที่ตอนนี้หน้าแดงอยู่นิด ๆ ขณะดน้มตัวลงไปผมก็แอบรอบสังเกตปฏิกริยาของกันก็พบว่าเค้าหลับตาปี๋เลย เหอะ...ที่อ่อยคนอื่นนะทำมายิ้มร่าเชอะ ที่อย่างนี้ล่ะก็หลับตาซะแน่นเชียว
“จุ๊บ....Good ninght kiss ครับกัน ฝันดีนะ”
.........................................................................................................................................................................................
ปล. อ่านไปก่อนนะ รู้ว่าสั้น แต่เดี๊ยวมาอัพต่อให้นะ
อ่านแล้วเม้นให้ด้วยนะจ๊ะ ไรเตอร์ไม่ได้ลืมที่จะอัพนะ แค่ติดลมกับอีกเรื่องหนึ่งแค่นั้นเอง สัญญานะว่าจะมาอัพเรื่องนี้ให้บ่อยขึ้น
ปล.ไม่ได้หายไปไหนนะ ขอเคลียร์การบ้านปิดเทอมก่อนนะแล้วจะมาอัพให้ เผอิญใกล้เปิดเทอมแล้วน่ะ ยังไงก็ไม่ทิ้งจ้า.........
ไม่อ่านไม่เม้นก็ไม่เป็นไรนะ ไรเตอร์เข้าใจ เพราะไรเตอร์ทิ้งไปนาน ไรเตอร์ไปเข้าค่ายมาด้วยสนุกมากเลย ได้แนวมาแต่งฟิคเพียบ
แหะ ๆๆๆๆ ครบ 100% แล้วนะ เบื่อไรเตอร์ไปกันยังกว่าจะมาลงให้ครบได้เนี่ย ที่ลงไม่ครบ 100% หรอก คือ แบบไม่พอใจตัวเองอ่ะ
แต่งแล้วทำไมเป้นงั้นเป็นงี้ก็ไม่รู้เลยยังไม่ลง ที่ลงนี่ก้ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า ไม่ดีก้บอกได้นะจะได้รีไรท์ให้
ความคิดเห็น