ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ALL GUNNY

    ลำดับตอนที่ #28 : เซอร์ไพส์ / หลับฝันดี { อัพแล้ว 100% }

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 53


    แหะ  แหะ  ขอโทษจ้าที่หายไปนาน  พอดีอิไรเตอร์ไปติดลมเขียนอีกเรื่องหนึ่งอยู่  ขอโทษอย่างแรง

    มาวันนี้ก็ขอ  Surf  ดูก่อนว่ายังอ่านกันอยู่ไหมเลยเอามาลงให้ก่อนสัก  3.24568 % ก่อนแล้วกันจ้า

    อ่ะ  มาต่อให้เป็น 50%  แล้วนะ  เดี๊ยวขอไปเคลียร์การบ้านปิดเทอมต่อก่อนนะเดี๊ยวจะมาต่อให้อีก  ใกล้จะเปิดเทอมแล้วจะต้องเคลียร์ให้

    เสร็จก่อน  อีกนิดหนึ่งก็จะเสร็จแล้ว  แล้วจะมาอัพให้นะ


    ต่อเป็น  100 % ให้แล้วนะจ๊ะ   และก็จะแจ้งด้วยว่าถ้าบอร์ดเดอะสตาร์ 6 เปลี่ยนเป็น 7 เมื่อไรจะแจ้งผ่านที่มายไอดีของผู้เม้นนะ
    .........................................................................................................................................................................................

    {GUN : TALK }

     

                “กัน  ริทขอโทษ  ริทขอโทษ.....”  ริทวิ่งถลาเข้ามากอดผมอย่างกับกลัวว่าผมจะหายไปนั้นแหละ  ผมก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ  แต่คือ  ผมหายใจไม่ออกครับ

                “เออ...ริท  เบา ๆ หน่อยสิ  กันหายใจไม่ออก”

                “อ่ะ  ขอโทษ  ริทดีใจไปหน่อย  ขอบคุณนะสำหรับของขวัญ”  ริทค่อย ๆ คลายกอดออก  เฮ้อ....โล่ง  ค่อยหายใจได้เต็มปอดหน่อย  ว่าแต่ไอ้พวกข้างนอกเตรียมแผนกันไปถึงไหนแล้วนี่

                “ไม่เป็นไร  ถูกใจไหม?  กันนั่งทำตั้งหลายวันหลายคืนเลยนะเนี่ยกว่าจะเสร็จ”

                “อืม!  ถูกใจสิ  แต่รู้สึกว่าไอ้ 4 YEAR ANNIVERSARY AT THAT DAY นั้นนะ  รู้สึกมันจะเร็วไปรึเปล่า”  แหม๊....ที่เรื่องอย่างนี้นะจำแม่น  แต่วันเกิดตัวเองนี่ลืม  ถ้าไม่ให้ไปเอาของขวัญบนห้องนี่มันจะรู้ไหมเนี่ย  รู้งี้น่าจะปล่อยให้นอยด์ต่อไปนะเนี่ย

                “ก็นะ  รวม ๆ กันไปก็คงไม่เป็นไรมั้งอีกไม่กี่วันเอง”

                “ก็ได้  งั้นเดี๊ยวริทขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ  จะไป take a pee

                “มี a  poo มาด้วยล่ะมั้ง”

                “กันบ้า ><  เดี๊ยวเหอะหายดีเมื่อไรเสร็จริทแน่  หึ  หึ”  เสียงหัวเราะชั่วร้ายมาก  ไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง  คงต้องรีบไล่มันไปแล้วล่ะครับ  ไม่งั้นชีวิตหนุ่มน้อยอย่างผมมันจะไม่ปลอดภัย

                “กลัวตายแหละ --///--  ไปเลย  ไปเลย  เดี๊ยวได้ราดกันพอดี”

                555+.....  ไปก็ได้”  หลังจากที่ผมชะเง้อตัวมองตามให้เห็นว่าคนขี้นอยด์ได้เดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างเรียบร้อยแล้ว  ผมก็เอี้ยวตัวไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ใต้หมอนก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์ไปยังหมายเลขปลายทางที่ต้องการ 

                “ฮัลโหลพี่โน่เหรอ.....เริ่มแผนได้เลยนะ”


    {RIT : TALK }

     

                เฮ้อ...โล่งดีแหะ  หลังจากที่ต้องมานั่งบ้า  นั่งอึดอัดอยู่กับเรื่องที่ตัวเองไปทะเลาะกับกัน  นอยด์กับกันนี่  จะว่าไปแล้วก็จะ 4 ปีแล้วนะตั้งแต่เรื่องวันนั้น  ถ้าไม่ได้กันเราก้คงจะทำอะไรบ้า ๆ ไปแล้ว  ขอบคุณนะกัน  ขอบคุณที่ทำให้ริทได้มีชีวิตต่อ  ได้อยู่ร่วมมีความสุข  ร่วมทุกข์ไปด้วยกัน

     

                “เอ้า!  พี่ริท  พี่กันอ่ะ”

                “หลับไปแล้วน่ะ  ว่าแต่คนอื่น ๆ อ่ะไอซ์  ไปไหนกัน”  ผมถามเจ้าเด็กโยงที่เดินเข้ามาตั้งอต่เมื่อไรก็ไม่รู้  ว่าแต่พพวกพี่เก่ง  พี่โน่  แล้วก็เซนไปไหนอ่ะ  กลับมากันตั้งนานแล้วไม่ยอมเข้าห้องมาซักที

                “ไปฟังเรื่องผีเกี่ยวกับห้องนี้กับคุณพยาบาลนะครับ  ผมขี้เกียจฟังต่อก็เลยเดินมา  เรื่องมันก็เหมือนทั่ว ๆ ไปแหละครับ”

                “...............................”  เอิ่ม....ผีเหรอ?  โอ๊ย......กันตื่นเดี๊ยวนี้ริทจะย้ายห้องให้  ริทไม่อยากโดนผีหลอก  ริทกลัว

                “ก็แค่เด็ก ม.ปลายคนหนึ่งเค้าป่วยมาก  เข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลก็หลายเดือนอยู่  ในแต่ละวัน  เค้าก็ได้แต่นอนอยู่บนเตียง  เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วจึงทำให้เค้าไม่ค่อยมีเพื่อน”  คือ...จะเล่าทำไมล่ะครับไอซ์  พี่ยังไม่ได้ขอเลยแล้วนั่นก้มหน้าเล่าทำไมล่ะ  มันน่ากลัวนะ  ห้องมันยิ่งไม่ค่อยสว่างอยู่

                “....เออ....น่าสงสารเค้าเนอะ....แต่....”

                “ในระหว่างที่เค้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล  ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนมาเยี่ยมเค้าเลยยกเว้นเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่มาเยี่ยมเค้าคอยมาคุยกับเค้าบ่อย ๆ” ไอซ์ยังคงนั่งก้มหน้าเล่าต่อไปโดยไม่สนใจในสิ่งที่ผมจะพูดเท่าไร  เออ....พี่กลัว  ฟังพี่หน่อยสิเว้ย 

                “ง....งั้นเหรอ  ก็ดีแล้วนี่  แต่ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ  คือ  พี่ไม่ค่อยอยากจะฟังเท่าไรนะ”

                “ไม่เป็นไรครับ  ผมอยากเล่า  ต่อนะครับ”

                “...........................”  ไอ้หน้าด้าน  คนไม่อยากฟังมึงจะเล่าทำไมเนี่ย  อยากเล่าก็ไปเล่าที่อื่นสิเฟ้ย  แมร่งหน้าดานเหมือนใครเลยฟ่ะ

                “แต่แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่งเด็กผู้หญิงคนนั้นก็หายไป  ไม่ได้มาเยี่ยมเค้าอีก  เค้าก้ได้แต่รอ....รอผู้หญิงคนนั้นจะมาเยี่ยมเค้าอีก  รอตามคำสัญญาที่เธอได้ให้กลับเค้า   เค้ารอเธอด้วยใจเฝ้ารอทุกวัน  แต่ละวันผ่านไปด้วยความเงียบเหงาเหมือนที่เคยเป็น”

                “................................”  จะว่าไปฟังไปฟังมาก้ไม่เห้นเหมือนเรื่องผีซักเท่าไร  เอ้า! ฟังก็ฟังว่ะ  ว่าแต่ไอซ์เป็นอะไรของมันเนี่ยก้มหน้าก้มตาเล่าอย่างเดียวเลย  แล้วไหนจะเสียงเย็น ๆ ดูประหลาด ๆ อีก  บรึ๋ย!!!  หนาว......

                “เค้าเฝ้ารอจากหลาย ๆ วันเป็นเดือน  จากหลาย ๆ เดือนเป็นปี  และวันที่ครบปีนั่นเองที่เค้า......”

                “เด็กผู้หญิงคนนั้นเค้าก็มาหาใช่ไหม?  ผมพูดสวนในสิ่งที่ไอซ์กำลังจะเล่าออกมาเผื่อมันจะหันหน้ามาสนใจผมที่นั่งฟังมันเล่ามาก  แต่ก็ผิดคลายครับมันก็ยังคงเล่าต่อไปด้วยเสียงเย็น ๆ เหมือนเดิม

                “เปล่าครับ  เค้ามีอาการทรุดหนักลง  หนักลง  หนักลง  จนในที่สุดเค้าก็ตายจากโลกไป  ตายไปด้วยตาลืมกว้างจนถลนออกมาเป็นการบอกว่ายังรอคอยอยู่”

                “ล....แล้ว...ไง...ต่อ...”  ผมถามออกไปด้วยเสียงสั่น ๆ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวต่อ

                “หลังจากนั้นทุกครั้งคนที่มานอนเฝ้าคนไข้ภายในห้องนี้ก็จะได้พบเห็วิญญาณของเด็กผู้ชายคนนั้น  ปลอมตัวมาเป็นรู้จักกับคนไข้และญาติคนไข้”

                “ป...ปลอมตัว...เหรอ”

                “มานั่งข้าง ๆ ก่อนจะถามว่า คุณครับ  คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ  คุณเห็นบ้างไหมครับ  เห็นไหม?’  อย่างนี้ไงครับ”

                “คุณครับ  คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ  คุณเห็นบ้างไหมครับ  เห็นไหม?

                “ว๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!

    ----------- 50 % ---------------

    {ICE : TALK }

     

                พอพี่กันโทรมาส่งสัญญาณเริ่มแผนได้  ผมก็ได้ฤกษ์ทำหน้าที่ของตัวเอง คือ การไปนั่งเล่าเรื่องผีที่ผมกรุขึ้นมาและต้องหลอกยังไงก็ได้ให้ผีริทกลัว  เฮ้อ....มันเป็นงานที่ยากเสียนี่กระไร  ใครมันจะไปทำกับคนน่าแกล้ง ๆ อย่างผีริทลง (มั้ง)

     

    “เอ้า!  พี่ริท  พี่กันอ่ะ” ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถามคนที่นั่งเหม่อลอยคิดอะไรอยู่  ผมก็ไม่รู้  ให้ออกจากภวังค์ความคิดของเค้าหันมาสนใจผมนิดหนึ่ง  คือ  ผมมาแกล้งพี่นะ  พี่ช่วยสนใจผมนิดหนึ่งสิครับ

    “หลับไปแล้วน่ะ  ว่าแต่คนอื่น ๆ อ่ะไอซ์  ไปไหนกัน”  อยู่หน้าห้องเตรียมดูฝีมือผมแกล้งพี่อยู่

    “ไปฟังเรื่องผีเกี่ยวกับห้องนี้กับคุณพยาบาลนะครับ  ผมขี้เกียจฟังต่อก็เลยเดินมา  เรื่องมันก็เหมือนทั่ว ๆ ไปแหละครับ”  ผมเริ่มที่จะดูปฏิกิริยาของคนที่กำลังจะถูกผมแกล้งว่าเค้าจะรู้สึกยังไง  และมันก้จริงอย่างที่คนอื่น ๆ บอกผมว่ากับพี่ริทเนี่ยต้องเรื่องผีถึงจะจี้ถูกจุด

     

    “...............................” ผมเริ่มที่จะดูปฏิกิริยาของคนที่กำลังจะถูกผมแกล้งว่าเค้าจะรู้สึกยังไง  และผลมันก็จริงอย่างที่คนอื่น ๆ บอกผมว่ากับพี่ริทเนี่ยต้องเรื่องผีถึงจะจี้ถูกจุด  ผีเค้าดูเงียบไปเลยแถมน่าตายังดูแบบว่าเอือม ๆ นิด ๆ ด้วย  เมื่อผมเห็นอย่างนั้นผมก้ได้เริ่มทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

     

    ผมเริ่มเล่าเรื่องที่ตัวเองเพิ่งแต่งสด ๆ หมาด ๆ ต่อหน้าพี่ริทเมื่อกี้  ผมเล่าไปก้มหน้าไป  ไอ้ที่ก้มหน้านี่ก็ไม่ใช่จะสร้างบรรยากาศอะไรหรอกนะ  แต่คือผมเป็นคนดีไง  ก็เลยเตรียมตัวเอาของเล่นมาด้วยเพื่อความสมจริง  ไม่ว่าจะเป็นไอ้ลูกตาปลอมที่แช่ในน้ำอะไรก็ไม่รู้สีแดง ๆ ที่ขายกระปุกละ 10 บาท   เลือดปลอมที่ผีเก่งหามาให้  คือ  อะไรที่ทำแล้วทำให้ผมเหมือนผีอ่ะ  ผมมีหมด

     

    ผมเล่าไปก็เริ่มเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ มาแต่งแต้มตัวเองไป  เริ่มจากเอาแป้งผับที่ยืมเกรซมาตอนผมเรียกเธอมาพบเอามาทาให้ตัวเองดูซีด ๆ ก่อน  แล้วก็เอาเลือดปลอมมาใส่ตามทวารที่อยู่บนใบหน้า  แล้วก็สุดท้ายก็เอาไอ้ลูกตากระปุกละ 10 บาท เอามาจับไว้ในมือก่อน  เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วผมก็เริ่มนำพี่ริทมาเข้าเรื่องซักที

     

    “เปล่าครับ  เค้ามีอาการทรุดหนักลง  หนักลง  หนักลง  จนในที่สุดเค้าก็ตายจากโลกไป  ตายไปด้วยตาลืมกว้างจนถลนออกมาเป็นการบอกว่ายังรอคอยอยู่”  หลังจากผมเล่าออกทะเลไปนานเพื่อเตรียมตัวให้เสร็จ  ผมก็วกเค้ามาในเรื่อง  ผมเล่าด้วยน้ำเสียงที่เนิบ ๆ และเย็นลง  เพื่อให้ได้บรรยากาศ

      “ล....แล้ว...ไง...ต่อ...”  โอ้โฮ...พี่นี่มันน่านับถือจริง  กลัวจนเสียงสั่นขนาดนี้แล้วยังจะอุตสาห์ถามอีกว่าเป็นไงต่อ

    “หลังจากนั้นทุกครั้งคนที่มานอนเฝ้าคนไข้ภายในห้องนี้ก็จะได้พบเห็วิญญาณของเด็กผู้ชายคนนั้น  ปลอมตัวมาเป็นรู้จักกับคนไข้และญาติคนไข้”

                “ป...ปลอมตัว...เหรอ”

                “มานั่งข้าง ๆ ก่อนจะถามว่า คุณครับ  คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ  คุณเห็นบ้างไหมครับ  เห็นไหม?’  อย่างนี้ไงครับ”  ผมว่าก่อนจะเอาไอ้มือที่ถือลูกตาปลอมชุ่มเลือดไปไว้ตรงบริเวณดวงตาข้างขวาแล้วจึงหันหน้าไปหาผีริท  และพูดประโยคเดิมซ้ำ

                “คุณครับ  คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ  คุณเห็นบ้างไหมครับ  เห็นไหม?

                “ว๊าก!!!!!!!!!!!!!!!! 

     

                โอ๊ย!  พี่ริทเสียงมันกี่เดซิเบลกันนี่ปวดหูครับ  แต่ก็ดีเสียงขนาดนี้ผมคงไม่ต้องส่งสัญญาณให้พวกข้างนอกรู้อีกแล้วล่ะครับ  ว่าแต่ผมทำเกินไปไหมเนี่ย  เห้นพี่ริทแล้วก้สงสารเหมือนกันนะ  นั่งหลับตาปี๋  กำผ้าห่มแน่น  แล้วก็ตะโกนเสียงดังสุดขีดด้วยเดซิเบลเสียงที่ทำให้หูผมแทบแตก  ถ้ามันไม่มีอันหลังผมก็จะสงสารพี่อยู่นะครับ  ปวดหู!

     

     

    {TONO : TALK }

     

                “ว๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!  อืมหืม....เสียงริทนี่มันสุดยอดจริง ๆ ครับ  เดซิเบลขนาดนี้ขี้หนูผมออกมาเริงระบำได้เลยล่ะครับ  ผมหันกลับไปหาไอ้เก่งที่ยืนถือเค้กและเซนที่ถือไฟแช็กและเทียนอยู่ก่อนจะพยักหน้าให้มันเป็เชิงบอกว่าให้จุดได้

     

                หลังจากพวกเราจุดเทียนกันเสร็จผมก็เปิดประตูเดินนำเข้าไปในห้อง  พอเปิดเข้าไปสิ่งที่ผมเห็นก้ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทำไมไอ้ริทร้องด้วยเสียงที่มีเดซิเบลดังได้ขนาดนี้  ก็เพราะไอ้น้องชายตัวดีผมนะสิแต่งได้ซะน่ากลัวมาก  ผมเห็นแล้วยังมีหวาด ๆ อยู่เลย  แตกต่างกับไอ้คนต้นความคิดที่ยืนดูผลงานความคิดของตัวเองด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

     

                “คุณครับ  คุณเห็นเพื่อนผมไหม? เป็นเด็กผู้หญิงผมยาว ตัวเล็ก ๆ น่าตาน่ารัก นะครับ  คุณเห็นบ้างไหมครับ  เห็นไหม?  แต่ถึงริทจะตะดกนด้วยความกลัวสักเพียงใด  ไอ้น้องตัวดีของผมก้ยังแกล้งต่อ  เฮ้อ....น่าสงสารจริงเลยริทเอย

                “ม...ไม่...ผ...ผม...ไม่เห็น....ผ...ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”  ส...เสียง...ส..สั่นมากเลย  ผมเอามือข้างหนึ่งสะกิดไอ้น้องตัวดีก่อนจะทำปากพะงาบ ๆ ให้มันดูว่า พอแล้ว

                “ริท! ริท!  กันเรียกริทพร้อมเอามือเขย่าให้ริทสงบก่อน  พอริทสงบและกำลังจะลืมตา  พวกเราทั้งหมดก็เริ่มร้องเพลงที่ทุกคนก้คงเคยได้ร้องในวันเกิด

                “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู  แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู  แฮปปี้เบิร์ดเดย์....แฮปปี้เบิร์ดเดย์  แฮปปี้เบิร์ดเดย์...ทู...ริท”  ริทที่ลืมตามาเห็นเค้กและพวกผมที่ยืนร้องเพลงวันเกิดให้ก็ถึงกับน้ำตาไหล  และยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

                “ฮึก...ทำกันได้นะ”

                555+….”  พวกเราทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกันก่อนที่ริทจะหลับตาลงอธิษฐานและลืมตามาเป่าเค้กจนหมด

                “ขอบคุณนะครับที่ทำให้ริท”  มันมีเพียงคำกล่าวเพียงแค่นั้นก่อนที่เราจะมาเริงร่ากับงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่ถูกจัดขึ้นในห้องนอนคนไข้  จะว่าไปมันก็ดีไปอีกแบบเหมือนกันนะเนี่ย

     

                ขึ้นชื่อว่างานเลี้ยงมันก็ต้องมีการเลิกรา  พวกผมฉลองกันเพียงชั่วโมงกว่า ๆ  ก่อนจะขอตัวกลับกันโดยมีเซนกับริทอาสามาส่งผม  ไอ้ไอซ์ และก็ไอ้เก่งที่รถฉันล่าง  แต่ไอ้ผมนะสิดันลืมโทรศัพท์เอาไว้ในห้องตอนฉลอง  ให้มันได้อย่างนี้สิ

     

                “เออ...เดินไปกันก่อนเลยนะ  ลืมโทรศัพท์เอาไว้อ่ะ  เดี๊ยวไปเอาก่อน”  ผมหยุดฝีเท้าก่อนจะพุดกลับอีกสี่คนที่เหลือที่เดินมาด้วยกัน

                “อ่ะครับ”  เซนตอบแทนทุกคนก่อนที่ทั้งหมดจะออกเดินต่อ  ผมก็ต้องเดินต่เหมือนกันแต่เป็นเดินกลับไปที่ห้องพักไข้ของกัน

     

    กึก.....แอ๊ด

     

                “เซน  ริท  กลับกันมา....เอ้า!  พี่โน่ มาไมอ่ะ”

                “ลืมมือถืออ่ะ  นี่ไง”  ผมเดินไปหยิบมือถือที่ลืมไว้มาหยิบโชว์กันที่นอนอยู่บนเตียง

                “อ๋อ...อืม  กลับไปเถอะดึกแล้ว”

                “พูดงี้ห่วงพี่เหรอ”  ผมพูดย้อนแซวคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข  ก็แน่ล่ะ  ผมรู้นี่นา..ว่าที่เค้าพูดอย่างนั้นก็เพราะเค้าห่วงผม 

                >//< ใครห่วงพี่กันเล่า  ผ..ผมไล่เพราะผมจะรีบนอนต่างหากเล่า”

                “อ่ะ  ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง  แต่ก่อนไปก็ขอ......”  ผมโน้มตัวลงไปที่หน้าผากของคนที่นอนอยู่บนเตียงที่ตอนนี้หน้าแดงอยู่นิด ๆ ขณะดน้มตัวลงไปผมก็แอบรอบสังเกตปฏิกริยาของกันก็พบว่าเค้าหลับตาปี๋เลย  เหอะ...ที่อ่อยคนอื่นนะทำมายิ้มร่าเชอะ  ที่อย่างนี้ล่ะก็หลับตาซะแน่นเชียว

                “จุ๊บ....Good ninght kiss  ครับกัน  ฝันดีนะ”




    .........................................................................................................................................................................................

    ปล. อ่านไปก่อนนะ  รู้ว่าสั้น  แต่เดี๊ยวมาอัพต่อให้นะ

    อ่านแล้วเม้นให้ด้วยนะจ๊ะ  ไรเตอร์ไม่ได้ลืมที่จะอัพนะ  แค่ติดลมกับอีกเรื่องหนึ่งแค่นั้นเอง  สัญญานะว่าจะมาอัพเรื่องนี้ให้บ่อยขึ้น

    ปล.ไม่ได้หายไปไหนนะ  ขอเคลียร์การบ้านปิดเทอมก่อนนะแล้วจะมาอัพให้  เผอิญใกล้เปิดเทอมแล้วน่ะ  ยังไงก็ไม่ทิ้งจ้า.........

    ไม่อ่านไม่เม้นก็ไม่เป็นไรนะ  ไรเตอร์เข้าใจ  เพราะไรเตอร์ทิ้งไปนาน   ไรเตอร์ไปเข้าค่ายมาด้วยสนุกมากเลย  ได้แนวมาแต่งฟิคเพียบ

    แหะ ๆๆๆๆ  ครบ 100%  แล้วนะ  เบื่อไรเตอร์ไปกันยังกว่าจะมาลงให้ครบได้เนี่ย  ที่ลงไม่ครบ 100%  หรอก  คือ  แบบไม่พอใจตัวเองอ่ะ

    แต่งแล้วทำไมเป้นงั้นเป็นงี้ก็ไม่รู้เลยยังไม่ลง  ที่ลงนี่ก้ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า  ไม่ดีก้บอกได้นะจะได้รีไรท์ให้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×