ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SMY : Sacrificial Magic Year

    ลำดับตอนที่ #3 : Before Work ... ลวงตา *Violence Warning!*

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 50


                วิลแซ็คต้องทนกับสายตาชาวบ้านไปตลอดช่วงพักกลางวันที่ยังเหลือ เมื่อคำพูดที่หลุดออกจากปากอาจารย์น้อยกระจายไปทั่วโรงเรียนรวดเร็วยิ่งกว่าบรรดาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งหลาย แถมคำพูด ... ที่แน่นอนว่าข้อความแต่ละส่วนจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เมื่อส่งข้อความชนิดปากต่อปาก เช่น "หนุ่มปีสองจองตัวอาจารย์ใหม่แล้ว สาว ๆ ชวดหนุ่มฮ็อตไปทันที 2 ราย" ... ไม่ก็ ... "ไฟสีม่วงโชติช่วงชัชวาล กลางโรงอาหาร คู่แท้ปาฏิหาริย์ ขวัญใจแม่ยก (?)"

                จากเดิมที่เคยเป็นคนเด่นคนดังเคยมีคนมารุมล้อม แต่ตอนนี้ ... ดูเหมือนจะดังกว่าเดิมเสียอีก ... เพราะเดินไปไหนมาไหนมีแต่คนหลีกทางให้ยิ่งกว่าผู้มีอิทธิพลเดินมา แถมไอ้เฟย์ที่ตอนนั้นนั่งอยู่ใกล้ที่สุดกลับไม่ช่วยแก้ข่าวให้ มัวแต่ไปหลบซุกหัวอยู่ที่ไหนไม่รู้ ทั้งที่ก็น่าจะได้ยินประโยคที่เขาพูด แต่ทำไมมันต้องหลบหน้าหลบตาหายหัวกันไปด้วยฟะ!!?

                ส่วนอาจารย์ตัวน้อยที่ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน มีสาวน้อยสาวใหญ่มารุมถามข่าวที่ได้ยินกันปากต่อปาก บางคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลยมาถามให้มันรู้แล้วรู้รอด เวนเจียนซ์ก็ยิ้ม ๆ ตอบไปว่า ...

                "ลูกศิษย์ของผมไม่ได้ชอบผมมากหรอกครับ เขาอยากให้ผมเปลี่ยนปลอกคอนี้ให้เป็นแบบที่เขาชอบด้วย สงสัยอยากจะจองตัวผมไว ๆ ล่ะมั้งครับ"

                อ๊ากกกกก !!!!! มันพูดอะไรของมันฟะ!! ชาวบ้านชาวช่องเขาเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วนะโว้ยย!!!

                แต่น่าสงสัย ... ทำไมไม่มีใครสนใจจะถามเขาเลยนะ ทั้งที่ก็เป็นผู้ร่วมเหตุการณ์อยู่แท้ ๆ ดูเหมือนอาการไม่อยากเชื่อจะเข้าครอบคลุมทุกจิตใจของบรรดานักเรียนที่นี่ไปเสียแล้ว ความอึ้งกับมาดแมน ๆ ของชายหนุ่มที่ดูจะมีเจตนาผิดแปลกไปกะทันหันเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาเมื่อครู่ของใครหลายคน ทำให้เขาต้องมานั่งกุมขมับคิดหนักอยู่อย่างนี้

                โอย ... คาบคณิตศาสตร์ช่วงบ่าย เมื่อไหร่กันที่มันจะจบๆไปเสียที !!?

                "วิลแซ็ค อาจารย์ปลอกคอแดงมาแล้วนะเว้ย" เสียงของไอ้คนที่เขาคิดถึงเป็นที่สุดกระซิบดังข้างหูขณะก้าวเข้ามานั่งที่เก่า ผมสีเทา ๆ กับตาสีเขียวสดใสดูจะเหนื่อยเล็กน้อยเหมือนไปผจญกับอะไรมา

                ให้ตายเถอะ ! เขาลืมไปได้อย่างไรว่าไอ้นี่มันโดดคาบเลขทุกคาบเป็นนิจอยู่แล้ว แล้วก็...

                ไม่จริงน่า !!!!? คาบต่อจากคณิตศาสตร์อาจารย์เกย์ซาดิสม์ (นี่คือฉายาที่เขาภาคภูมิใจอย่างยิ่ง...) คือคาบประวัติศาสตร์ !

                คนเครียด ๆ ยิ่งต้องก้มหน้าเหงื่อตกเมื่อต้องผจญกับสายตาของคนทั้งห้องอีกหน ทันใดที่เสียงกระพรวนทองดังแว่วเข้ามามันก็ทำให้เขารู้สึกอยากหลบลี้หนีหายไปจากสถานที่แห่งนี้เหลือเกิน ทั้งที่ตามปกติแล้ว ไม่ว่าผู้สอนวิชานี้จะเป็นใคร เขาก็สามารถหาเรื่องมาแย้ง (?) สร้างสีสันให้กับทุกคน (?) ได้ตลอด แต่คราวนี้มันแปลกไป เพราะเจ้าความรู้สึกอยากเตะอยากต่อยประทุศร้ายหน้าอาจารย์ตัวจ้อยตงิด ๆ นี่มันก็คอยรุมเร้าอยู่เสียจริง !

                "สวัสดีครับนักเรียนทุกคน~" เวนเจียนซ์เดินกระโดด ๆ เข้ามาในห้อง เสียงกรุ๊งกริ๊งน่ารำคาญดังแว่วไม่ขาดช่วง อาจารย์ใหม่หน้าอ่อนผู้ต้องคดีความไม่สนใจจะปราศรัยในคาบแรกใด ๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นสิ่งที่ต่อจากการทักทายพอเป็นพิธีก็คือ ...  สงครามครูเสด

                "สงครามครูเสดเกิดขึ้นระหว่างปี 1096 ถึง ... ดูเอาเองในหนังสือนะครับ"

                เวนเจียนซ์วางหนังสือประวัติศาสตร์เล่มโตที่ใหญ่กว่ามือของตัวเขาเอง แล้วสาวเท้าก้าวฉับ ๆ ยังบริเวณที่เต็มไปด้วยอารมณ์ทะมึนข้างหลังห้อง มุ่งตรงไปยังชายหนุ่มผมดำที่กำลังนั่งเหม่อไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง แม้กระทั่งตัวเขาเองที่ไปยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วกระแอมไอออกมาเบา ๆ

                ผู้กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยตามเสียงผิดหู แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เนื่องจากใบหน้าน่ารักน่าถนอมชวนผวานั้นลอยอยู่ตรงหน้าในระยะประชิด ดวงตาสีดำเป็นประกายจ้องมองแปลก ๆ จนเขาชักหน้าหนีลูกกระพรวนทองแทบไม่ทัน

                "ข้างนอกหน้าต่างมีอะไรที่น่าสนใจกว่าตัวผมเหรอครับ" เวนเจียนซ์มองออกไปนอกหน้าต่างตามสายตาชายหนุ่มสักพักแล้วหันกลับมาจ้องหน้าคู่กรณีที่จ้องกลับด้วยสายตาเย็นเยียบ ทว่าอาจารย์ตัวน้อยก็ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้คู่กรณีอีกรอบ

                "มันน่าสนใจกว่าคนที่มายุ่มย่ามในชีวิตคนอื่นละกันละครับ"วิลแซ็คพูดลอดไรฟันตอบกลับไปอย่างเอาเรื่อง ทำให้ผู้ที่อยู่รอบ ๆ สะดุ้งโหยง กับเสียงที่เย็นเฉียบ ยกเว้นคู่กรณีที่ยังยืนมองตอบด้วยนัยน์ตาสีดำสนิทวาวแสงแปลก ๆ ที่เหมือนกับมีความนัยแฝงอยู่

                น่าดีใจสำหรับผู้ที่คิดจะเป็นจุดเด่น ... ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่วิลแซ็คเป็นแน่ ... เนื่องจากขณะนี้ทั้งห้องเรียนไม่มีใครสนใจกับบทเรียนอีกต่อไปแล้ว สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่สงคราม (สายตา) เย็นซึ่งกำลังประทุแรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่ไม่อาจคาดเดาผลลัพธ์ของมันได้เลยสักนิด ว่าจะจบลงเช่นไร

                แต่แล้วจู่ ๆ นักเรียนหนุ่มก็ลุกพรวดยืนขึ้นค้ำศีรษะอาจารย์โดยไม่สนใจคนรอบข้าง พลันตวาดลั่น "ผมไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะคิดยังไงกับผม ! แต่ผมไม่ใช่คนอย่างที่คุณคิดแน่ๆ ... ใส่ใจกับการสอนของคุณเถอะครับ !! หนังสือน่ะมันไม่สมบูรณ์พร้อมต่อการเรียนหรอก ... อย่าทิ้งขว้างการสอนแบบนี้ ถ้าคุณยังเห็นว่าการเป็นอาจารย์สำคัญอยู่ !"

                "เหรอครับ ?" อาจารย์เวนเจียนซ์ยิ้มอย่าง (แสร้ง) บริสุทธิ์ใจ "ผมก็ยังเห็นว่าการเป็นอาจารย์สำคัญอยู่นา ... อาจารย์สอนวิชารักให้กับคุณน่ะ"

                เสียงหัวเราะคิกดังมาจากนักเรียนเบื้องหลัง ทว่าชายหนุ่มกลับฟิวส์ขาด กระชากคอเสื้อจนเวนเจียนซ์ลอยขึ้นจากพื้น ก้มหน้าลงไปใกล้เพื่อให้อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ได้เห็นความกรุ่นโกรธของตนเต็ม ๆ ตา "วิชารักบ้าบออะไรของคุณ !? คุณเข้าใจผมผิดมากไปแล้วนะ ... ไอ้อารมณ์วิปริตนั่นไม่มีทางมาทำอันตรายผมได้หรอก นี่ยังดีนะที่ผมรู้จักควบคุมตัวเองบ้าง ไม่อย่างนั้น..."

                "ไม่อย่างนั้น...?" เวนเจียนซ์ย้อนยิ้มๆ "คุณจะทำไมผม ?"

                วิลแซ็คกัดฟันกรอด โยนร่างเล็กของชายตรงหน้าลงไปกองกับพื้น "ผมจะฆ่าคุณน่ะสิ อาจารย์เวนเจียนซ์ !!"

                "เหรอครับ ? ^^ " กระพรวนทองส่งเสียงกริ๊ง ๆ น่าหนวกหู เด็กหนุ่มตัวเล็กลุกขึ้นสาวเท้ามาใกล้แล้วกระซิบแค่พอให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยิน "คุณจะฆ่าผมได้ยังไงน่ะ ? ยังสงสัยอยู่...."

                "จะให้ผมลองทำที่นี่มั้ยล่ะ !?" วิลแซ็คประกาศกร้าว ที่ทำให้เสียงฮือฮาดังขึ้นโดยรอบ ชายหนุ่มผลักร่างเล็กออกไปก่อนจะย่างสามขุมเข้าหา "ผมยินดีจะลองกับคุณนะ ทั้งที่ก็ไม่เคยลองกับใครเลยแท้ ๆ คุณควรจะยินดีที่เป็นรายแรกของผม ... เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถอะ !!"

                เวนเจียนซ์ยังรักษาความนิ่งไว้ได้ "โอ้ ... ผมเตรียมตัวเตรียมใจไว้ตั้งนานแล้วล่ะ และเราไม่ควรทำอย่างนั้นที่นี่ตอนนี้นะครับ ... นักเรียน"

                ทั้งที่คนพูดทั้งสองมีเจตนาบริสุทธิ์ ทว่าคนฟังที่ไม่เกี่ยวข้องกลับคิดลึก นักเรียนหญิงหลายคนที่กำลังปลื้มชายทั้งสองหัวปักหัวปำอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหูตนเอง ส่วนนักเรียนหนุ่มส่วนใหญ่พยายามลุกหนีออกนอกห้อง เนื่องจากความขนพองสยองเกล้าที่เกิดจากความคิดของตนเองทั้งสิ้น ...

                "แต่ถ้าคุณยังไม่เปลี่ยนใจ ... ผมก็ยินดีนะ" เด็กหนุ่มน่ารักเอ่ยออกมาได้อย่างไม่อายปาก

                อาการเช่นนี้ทำให้วิลแซ็คยิ่งขาดความยั้งคิด เข้าไปผลักร่างเล็กลงบนพื้นห้องเรียนก่อนจะขึ้นคร่อม จับคางของผู้เสียเปรียบแน่นก่อนจะก้มหน้าเข้าหา "ผมหยุดไม่ได้แล้ว ... ขอโทษที อาจารย์เวนเจียนซ์"

                ทว่าอาจารย์ตัวเล็กกลับพลิกตัวหลบหลีกออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เขานั่งลงบนโต๊ะใกล้ๆก่อนจะยิ้มอย่างท้าทาย "คุณคงทำอะไรผมไม่ได้หรอก วิลแซ็ค ... ผมไม่ยอมให้ใครทำอย่างนั้นกับผมง่ายๆหรอกนะ"

                ชายหนุ่มหันมาชะงักค้าง ... ไอ้หน้าเด็กนี่รู้ชื่อเขา ??

                "อีกอย่าง คุณไม่อยากลองเรียนวิชารักกับผมดูหน่อยหรือ" เวนเจียนซ์เอี้ยวคอหลบหมัดของวิลแซ็คอีกครั้งแล้วกระโดดหนีไปอีกมุมหนึ่งของห้อง "คุณจะพบกับโลกอันสวยงามอีกแห่งไง"

    "เก็บไอ้ความรักบ้า ๆ ของคุณไปเถอะครับ ของพรรค์นั้นนะผมไม่ต้องการ"วิลแซ็คเริ่มหอบกับการวิ่งไล่อาจารย์ตัวจ้อยที่โดดไปโดดมา "ผมไม่เห็นว่าความรักมันดีตรงไหนเลย !"

                อาการของอาจารย์น้อยผิดแปลกออกไปในพริบตา เวนเจียนซ์หยุดชะงักไปสักพักแล้วหันมามองชายหนุ่มอีกครั้ง ด้วยสายตาสีดำคู่เดิม ทว่าก็รู้สึกเหมือนกับแตกต่างออกไป ... มากมายนัก "คุณไม่ชอบความรักหรือครับ ?"

                "ถ้าใช่จะทำไม ไอ้ความรักนะมันมีดีตรงไหน คุณคงมีความรักมาเยอะแล้วใช่ไหม ถึงได้เอามาเล่นแบบนี้ คงจะมีกับหลายคนด้วยสินะ" ชายหนุ่มตะโกนใส่หน้า

                คราวนี้อาจารย์ตัวจ้อยถึงแก่กาลโมโห "คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้น่ะ ... วิลแซ็ค ผมอุตส่าห์หวังดีกับคุณนะ ทุกคนก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าคุณคิดยังไงกับผม ... ก็ได้ ! ผมจะให้คุณได้เห็นชะตาชีวิตของผม และจะทำให้คุณเลิกคิดว่าผมไม่อยากเป็นอาจารย์สอนคุณให้ได้ !"

                นักเรียนในห้องอึ้งสนิทไปอีกอึดใจ เวนเจียนซ์ถลาเข้ากอดชายหนุ่มร่างสูงแน่น แล้วแสงสว่างก็วาบออกมาจากคู่ประหลาดกลางห้อง ก่อนที่จะจางหายไป เหลือไว้เพียง ... ความงงงัน

    fff

                วิลแซ็ครู้สึกหน้ามืด วิงเวียนศีรษะตอนที่เวนเจียนซ์กระโดดกอดตัวเขา เขาคงสลบไป เหมือนมีอะไรบางอย่างมากระแทกเข้ากลางกระหม่อม ทุกอย่างดูเลือนรางไปหมด

                'เราอยู่ที่ไหน' ชายหนุ่มคิดกับตนเอง ตาของเขายังคงใช้งานได้ไม่เต็มร้อย เห็นเพียงภาพที่แสนเลือนราง ร่างกายก็ไม่ยอมตอบสนองเลยสักเพียงนิด มันไม่ยอมขยับ ราวกับมีอะไรบางอย่างตรึงไว้ให้อยู่กับที่

                "ตื่นแล้วหรือครับ" เสียง หนึ่งดังแว่วเข้ามาในหูเขา มันดูเหมือนเบาบาง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกมันดังก้องในหัวเหมือนกับมีเครื่องขยายเสียงติดไว้ สายตาของเขาเริ่มเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมานิดหน่อย เป็นเด็กผู้ชาย ... เด็กผุ้ชายที่อยู่ในชุดดำทั้งตัว 'ใคร?' วิลแซ็คพยายามพูดออกไปแต่เหมือนมีด้ายเย็บริมฝีปากให้ติดกัน แม้พยายามเพียงใด แต่มันก็ไม่ยอมทำตามที่ใจสั่ง

                "คงเบลอเพราะเจอเวทมนตร์รุนแรงเกินไป มนุษย์นี่อ่อนแอจัง" วิลแซ็คได้ยินเสียงพ่นลมหายใจของเด็กชายตรงหน้า "แค่นี้ก็ทนไม่ได้" เด็กชายตรงหน้าเดินมาหยุดข้างหน้าเขา ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเขานอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ... ที่ ๆ มืดมาก มีเพียงแสงเทียนที่ให้แสงสว่าง เด็กชายเอามือมาวางไว้ตรงอกเขาแล้วพึมพำบางอย่าง ราวกับประกายไฟแล่นแปล๊บกระตุ้นใก้ร่างกายของเขาเริ่มมีอาการดีขึ้น

                "ใคร?" ตอนนี้วิลแซ็คพูดออกมาได้แล้ว แต่น้ำเสียงยังคงแหบพร่าอยู่ สายตาเริ่มชินกับสิ่งต่าง ๆ ที่มืดมิด เขาอยู่ในที่มืด ... รอบข้างมีเพียงผนัง ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงแสงไฟที่จุดอยู่ข้าง ๆ ตัวเขา แล้วเด็กชายที่ยินอยู่ข้างตัวเขาคือ เวนเจียนซ์ !!!

                "เห็นหน้าผมแล้วทำไมต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีละครับ" เวนเจียนซ์หัวเราะคิกคัก  แล้วก้มหน้ามาใกล้ ๆ ชายหนุ่มที่ยังอึ้งไม่หายแล้วส่งเสียงกระซิบลอดไรฟัน "ทีตอนแรกยังบอกจะฆ่าผมเลยนี่...."

                วิลแซ็ครู้สึกกลัวคนตรงหน้า ทั้ง ๆ ที่ก็ยิ้มให้เขาอย่างไร้เดียงสา ร่างกายของเขาเป็นปกติแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถขยับตัวได้ ไม่ใช่ว่าตอนแรกชายหนุ่มไม่มีแรง แต่แท้จริงแล้วตอนนี้เขากำลังถูกตรึงด้วยโซ่หนาให้นอนอยู่ในท่าไม้กางเขน!!!

                "เห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่าคุณน่ะ หนีจากผมไม่ได้หรอก...." เด็กชายตัวน้อยก้มหน้าลงไปใกล้กว่าเดิมจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่รดริน "ถ้าผมจับคุณมัดไว้แบบนี้แล้ว ..." มือไม้เล็กๆเริ่มซุกซนไล้ไปบนเสื้อนักเรียนที่ยับย่น

                "ผมจะทำอะไรกับคุณก็ได้"

                "ผมไม่........" ชายหนุ่มพยายามจะเถียง แต่แล้วเสียงก็หายไปจากลำคอของเขาอย่างไร้สาเหตุ แขนทั้งสองพยายามแข็งขืนต่อพันธนาการ ทว่ามันช่างไร้ผล ...

                เวนเจียนซ์หัวเราะเบา ๆ อย่างรื่นเริง "เงียบเถอะ ... วิลแซ็ค คุณก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณ"

                ใบหน้าหล่อเหลาของวิลแซ็คเริ่มขึ้นสี ... ไม่รู้ว่าด้วยอารมณ์ใด แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าไม่สนใจอาการนั้น "คุณรู้มั้ยว่าผมรู้สึกยังไง?"

                เว้นช่วงไประยะหนึ่ง ขณะพยายามปลดกระดุมเม็ดบนสุดของชายหนุ่มออกช้า ๆ อย่างเบามือ "เดี๋ยวผมจะเฉลยให้ฟังนะ แค่สัญญากับผมก่อน ... ว่าจะไม่ขัดขืน สัญญากับผม ... ว่าจะยอมรับทุกอย่างโดยดี"

                ไม่มีเสียงใด ๆ ที่ตอบกลับมา ...

                "ตอบสิครับ ตอนนี้คุณพูดได้แล้วนา ..." เสียงน่ารักน่าเอ็นดูเอ่ยขึ้นเตือนเบาราวกระซิบ "ถ้าคุณไม่ตอบ ... หรือไม่ยอมรับ ผมจะใช้วิธีการบางอย่างให้คุณยอมรับเองนะ"

                วิลแซ็คปิดเปลือกตาแน่นน้อมรับในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ... ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับอยู่นั่นเอง

                "ตอบช้าจังนะครับ" เวนเจียนซ์เตือนอีกครั้ง ก่อนจะหยิบมีดสั้นจากโต๊ะไม้ข้าง ๆ ขึ้นกวัดแกว่งเป็นเชิงขู่ "ผมจะให้เวลาคุณสามวินาที ถ้าคุณไม่ยอมตอบ ... จะถือว่ายอมรับนะครับ"

                "ไม่ !" ชายหนุ่มเค้นเสียงตะคอกออกมาได้ในที่สุด ดวงตาของเขาดูเป็นประกายแปลก ๆ เด็กหนุ่มสบตานั้น แล้วยิ้มให้อย่างจริงใจ

                "นั่นไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการครับ" ร่างเล็กเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น พลันก็ยื่นหน้าจนริมฝีปากแทบประชิดกัน อะไรบางอย่างที่แหลมและเย็นเฉียบบรรจงวางลงบนแก้มของชายผู้ถูกตรึงไว้ "คุณก็รู้ว่าผมอยากให้บอกว่าอะไร ... ให้เวลาอีกสามวินาทีนะครับ"

                "หนึ่ง ..." มือน้อยแกว่งมีดเล่นอย่างพึงใจ ขณะที่ชายร่างสูงยังนิ่งเงียบ

                "สอง ..." ใบมีดไล่ระดับจากคอลงสู่เข็มขัด อย่างไรก็ตามมันยังไม่ถูกกดลงบนผิวหนัง "คุณอย่าบังคับให้ผมต้องทำเลยน่า ..."

                แต่ยังไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมาอยู่นั่นเอง

                เวนเจียนซ์ขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงดูเอาจริงเอาจัง  "ผมไม่อยากทำอย่างนี้เลยนะ แต่คุณบังคับ ... ช่วยไม่ได้นี่นา ..."

                มีดคม ๆ ถูกกดลงบนเสื้อนักเรียนที่บริเวณหน้าอก ก่อนจะเฉือนลงไปช้า ๆ

                "ผมต้องการคุณนะครับ"

                แคว่ก !! เสียงเสื้อขาดเป็นทางดังขึ้น ทำให้วิลแซ็คเริ่มมีเหงื่อไหลผุดจากหน้าผาก เขาไม่อยากจะยอมรับ เพราะไม่มั่นใจในเจตนาของอาจารย์บ้าคนนี้ แต่ดูเหมือนวิธีบังคับให้พูดนี่ออกจะดิบเถื่อน ... อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจลองดูอีกสักพัก

                "ไม่น่าเล้ย ..." เวนเจียนซ์พึมพำขณะลูบไล้ไปบนแผงอกแข็งแกร่งนั้นเบา ๆ "ผิวของคุณออกจะสวย ... น่าเสียดายที่ผมคงต้องทำร้ายมันล่ะ"

                "อ๊ากก !!" วิลแซ็คร้องตะโกนขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อใบมีดคมกริบนั้นกรีดลงบนหน้าอกของเขา เลือดสีแดงไหลซึมซิบออกมาจากรอยบาด เหงื่อกาฬผุดพรายทั่วใบหน้า ขากรรไกรพยายามสบกันไม่ให้เสียงใดๆหลุดรอดออกมาอีกครั้ง ช่างน่าแปลกที่เขารู้สึกเจ็บ แต่ไม่ทุกข์ร้อน ... ราวกับสุขสม

                รอยยิ้มชั่วร้ายแสยะขึ้นที่มุมปากของเด็กชาย เขาใช้นิ้วเรียวเล็กป้ายหยดเลือดที่ติดอยู่บนมีดเล่มบางมาเลียเข้าปาก ... ราวกับพอใจที่ได้เห็นภาพนี้ "คุณยอมรับข้อเสนอมาเถอะครับ"

                "ข้อเสนอบ้าบออะไรล่ะวะ ?" วิลแซ็คเค้นแรงตะคอก เวนเจียนซ์จุ๊ปากก่อนจะแสร้งทำหน้าเบ้

                "ว้า ... ผมไม่ต้องการคำถามนะครับ ตอบผมมาเถอะว่าจะยอมรับข้อเสนอนี้มั้ย ?" เวนเจียนซ์หมุนมีดในมือเล่นอย่างชำนาญมือ พลางก้มหน้าลงมาใกล้ชายหนุ่มอีกครั้ง "หรือจะต้องให้ผมใช้วิธีที่สองละครับ" เสียงใส ๆ กระซิบลงมาที่ข้างหู

                "ถ้าอยากให้ตอบก็อธิบายมาให้ละเอียดหน่อยสิวะ แล้วไอ้วิธีที่สองแกจะทำอะไรอีกละ" ชายหนุ่มตะคอกออกมา ช่างขัดกับเลือดที่ไหลซึมออกมาทางแผงอกอย่างไม่ขาดสาย

                "พูดไม่สุภาพกับอาจารย์แบบนี้ได้ยังไงครับ ? แล้วคุณอยากเห็นไอ้วิธีที่สอง  หรือครับ ?" ร่างเล็กลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เก้าอี้กลางห้อง ชายหนุ่มชะงักกับภาพที่เห็น ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาเขารู้สึกว่าทั้งห้องว่างเปล่า แต่ทำไมตอนนี้กลับมีเก้าอี้ได้ และผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้น คือ ... พี่ชายแท้ ๆ ของเขา !!!!

                "พี่ลูอีส!!!" วิลแซ็คตะโกนเรียกผู้ที่หลับใหลไม่ได้สติ แต่ลูอีสก็ยังก้มหน้าฟุบอยู่ ทำไมพี่ของเขาถึงมาอยู่ที่นี้ได้ ? แต่แล้วเมื่อสังเกตดูอีกครั้งก็พบว่า ... พี่ชายของเขากำลังถูกพันธนาการติดกับ ... เก้าอี้

                "คุณต้องให้ผมทำแบบนี้เองนะครับ" เวนเจียนซ์เชยคางผู้ที่หมดอิสรภาพขึ้นมาให้วิลแซ็คเห็นชัด ๆ ก่อนจะเริ่มลูบไล้ไปตามไปหน้า "หน้าเสียดายกับหน้าสวย ๆ นี้นะครับ"

                "อย่า!!" วิลแซ็คตะโกนร้องห้าม แต่สายไปแล้ว... เวนเจียนซ์กรีดมีดลงไปบนหน้าหวาน ๆ เป็นแนวยาวตามขวางเบา ๆ แต่รวดเร็ว โลหิตสีสดเริ่มไหลลงมาตามไปหน้า

                "เพื่อเพิ่มอรรถรสให้คุณนะครับ" จู่ ๆ ชายร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเฉย ๆ แถมยังทำหน้าตาเหรอหราอีก "วิลแซ็ค ทำอะไรอยู่ตรงนั้นละ ? แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนเหรอ?" ลูอีสถามหน้าตาเฉยทั้ง ๆ ที่เลือดเริ่มไหลลงมาโดนริมฝีปากบาง เหมือนเขาจะตกใจเล็กน้อย

                "เขามองไม่เห็นผมหรอกครับ" เวนเจียนซ์หันมากระซิบให้วิลแซ็ค

                "เอ๋ นี้มันเลือดไม่.." ก่อนที่ลูอีสจะพูดจบ ร่างบางก็ตวัดมีดซ้ำลงไปบนใบหน้าอีกครั้งจนเกิดร่องรอยบาดเหมือนมีกากบาทสีแดงพาดอยู่ และชายหนุ่มก็ดูจะเริ่มรู้สึกกับอาการที่เรียกว่า'ความเจ็บ'แล้ว เขาคงอยากจะพูดอะไรอีกครั้ง แต่ใบมีดก็ถูกตวัดผ่านริมฝีปากบางจนรู้สึกแสบบริเวณที่โดนเฉือน เพราะเนื้ออ่อน ๆ เปรอะเลือดถูกตวัดออกไปด้วยส่วนหนึ่ง

                "ผมไม่อยากให้คุณพูดมากนะครับ จะได้ทำอะไรได้สะดวกหน่อย" ชายผมดำหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนที่จะหยิบแท่งเหล็กยาว ๆ คล้ายเข็มขนาดใหญ่ขึ้นมาสองสามแท่ง ร่างบางแทงเข็มเล่มที่หนึ่งเข้าไปในดวงตาข้างซ้ายอย่างช้า ๆ และแทงอีกเล่มไปที่ด้วงตาข้างขวาอีกเล่ม ลูอีสร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด

                "อย่า.." วิลแซ็คอยากจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหนีจากภาพอันน่าสยดสยองตรงหน้า แต่ใบหน้าของเขาเหมือนถูกตรึงไว้ให้หันไปทางทิศนั้น ดวงตาก็ไม่สามารถปิดลงมาได้ เขาต้องทนดูพี่ชายของเขาถูกทรมานอยู่ตรงหน้า ในใจอยากจะลุกไปช่วยเหลือ แต่เหมือนเสียงเล็ก ๆ กระซิบในใจว่าช่างเป็นภาพที่แสนสนุก...

                เวนเจียนซ์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง คราวนี้ร่างบางหยิบเส้นด้ายเส้นหนาออกมา มือเล็ก ๆ ค่อย ๆ สนเข็มอยากเบามือ แล้วเข็มเล่มยักษ์ก็ถูกแทงไปบนบริเวณริมฝีปากบนก่อนจะค่อย ๆ ร้อยลงมาแทงที่ริมฝีปากล่าง ด้ายเส้นหนาถูกร้อยเรียงสลับฟันปลาผ่านริมฝีปากที่ถูกย้อมเป็นสีแดงสดจากเลือด จนลูอีสไม่สามารถร้องตะโกนออกมาจากริมฝีปากได้อีก ด้ายถูกดึงให้ขาดอย่างแรงจนไปกระตุกริมฝีปากให้มีเลือดไหลลงมาเพิ่มอีก เข็มที่ถูกย้อมเป็นสีแดงเลื่อนขึ้นไปบริเวณใบหู มือน้อย ๆ แทงเข็มทะลุใบหูส่วนบนแล้วร้อยลงมาแทงผ่านเนื้อนุ่ม ๆ บริเวณขมับ เวนเจียนซ์ลงมือร้อยหูทั้งสองข้างพลางฮัมเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

                วิลแซ็คมองสภาพอันน่าเวทนาของพี่ชายตนเองที่ถูกเข็มแทงทะลุเปลือกตาสองข้างจนมีเลือดไหลลงสู่แก้มแทนน้ำตา ริมฝีปากถูกเย็บติดกันจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดได้ ใบหูทั้งสองข้างถูกเย็บติดขมับ เวนเจียนซ์มองผลงานศิลปะของตนเองอีกครั้ง แล้วดึงเส้นผมที่ยาวประบ่าไปข้างหลังเพื่อให้ใบหน้าซีด ๆ เชิดขึ้น ก่อนจะเอามีดไปจี้บริเวณลำคอขาวที่เริ่มถูกย้อมเป็นสีโลหิต

                "คราวนี้คุณจะยอมรับขอเสนอหรือยังครับ? ให้เวลาสามวินาทีอีกครั้งหนึ่งนะ" ทั้งห้องไร้สรรพเสียงใด ๆ ไม่ใช่เพราะไม่อยากตอบ แต่ตอนนี้วิลแซ็คกำลังอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้า "ช้ามากครับ" ร่างบางกรีดมีดลงไปบนลำคอแล้วปล่อยมือ ทำให้ใบหน้าของผู้ไร้สติฟุบลงมาตามแรงโน้มถ่วงสู่พื้นโลก

                ชายหนุ่มกัดฟันแน่นขณะพยายามกลั้นความเสียใจของตนเองต่อภาพที่เห็น ทว่าก็พยายามตอบกลับ "ต....."

                ช่างน่าเสียดายที่ไม่สามารถตอบไปได้จนจบ

                "อ๊ากก !!" เขาร้องขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เล็บแหลมๆของเจ้าเด็กบ้าค่อยๆกรีดไปบนรอยแผลเก่าของตัวเขาเองให้เปิดออก ใบหน้าคมคายเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อ มือเท้าบิดเร่าไปด้วยความทรมาน

                "ขอโทษนะครับ แต่คุณตอบช้า ..." ใบหน้าเล็กๆชะโงกมาใกล้ก่อนจะจุมพิตที่รอยบาดนั้นเบาๆ "คุณตอบมาเถอะ คราวนี้ผมให้เวลาคุณอีกสามวินาทีนะ"

                "หนึ่ง ..."

                ยังคงไม่มีเสียงตอบอยู่นั่นเอง

                "สอง ... เร็วๆสิครับ"

                "สาม เอ้า ! อีกครั้งละกัน" พูดจบก็ลงมือกรีดไปบนต้นแขนของชายหนุ่มผมดำจนโลหิตแดงฉานไหลออกมาอีกครั้ง กล้ามเนื้อที่ท้องเกร็งไปหมด เรี่ยวแรงของเขาค่อยๆเหือดหาย เหลือแต่ความรู้สึกแปลกๆที่เขาไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกได้ในชีวิตนี้ ...

                "ยอมรับมาเถอะครับ ^^" เวนเจียนซ์ยิ้มให้ ก่อนจะลดมีดลงวางที่เดิม เสียงด้ามมีดกระทบโต๊ะไม้ดังแกร๊กสะดุดหู

                "ก็ได้ๆ ..." วิลแซ็คตัดสินใจเอ่ยออกมาในที่สุด ชายหนุ่มหอบหายใจอย่างลำบากเหมือนกับว่าเขาเพิ่งถูกจับกดน้ำมาหมาด ๆ "ผมยอมรับ"

                "ให้ได้อย่างนี้สิครับ" ร่างบางยิ้มออกมาอย่างดีใจ "คุณจะได้สบายสักที"

                เวนเจียนซ์หยิบลูกกุญแจออกมาปลดโซ่ให้กับผู้ที่ถูกพันธนาการ มือบาง ๆ ดึงโซ่ที่ดูมีน้ำหนักออกไปจากตัวคนเจ็บที่อยู่เบื้องล่างตน วิลแซ็คเป็นอิสระอีกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่ขยับตัวไปไหน อาจเป็นเพราะบาดแผลจากเจ้าเด็กบ้าที่ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจของเขา

                "ตอนนี้คุณคงไม่ขัดขืนแล้ว ดังนั้นเรามาพูดกันอย่างสบาย ๆ กันเถอะครับ" คนตัวเล็กพูดออกมา 'อย่างสบาย ๆ' เหมือนจะไม่ได้เห็นรอยแผลบนร่างกายคนตรงหน้ากับศพที่ถูกตัวเขาละเลงศิลปะวิทยาการทรมานมนุษย์อย่างเต็มที่

                เวนเจียนซ์ปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมชายหนุ่ม ริมฝีปากก้มไปบริเวณแผลแล้วเริ่มเลียแผลให้เหมือนกับลูกแมวตัวน้อย ลิ้นอุ่น ๆ ค่อย ๆ ลากไปตามรอยแผล ลิ้มลองรสชาติฝาด ๆ ของโลหิต พร้อมตวัดไปมาตามรอยแผลทำให้รู้สึกจั๊กจี้นิด ๆ เด็กชายเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง "เดี๋ยวคุณก็ได้สบายแล้ว"

                "ผมไม่ได้มีรสนิยมประหลาดแบบคุณสักหน่อย!!!!" จู่ ๆ ชายหนุ่มที่ไร้ซึ่งกำลัง กลับกระเด้งตัวลุกขึ้นมาในท่านั่งทำให้ร่างน้อย ๆ ถูกกระแทกให้ไปนั่งอยู่ที่ปลายเตียง

                วิลแซ็คตวัดมือไปจับปลอกคอของคนตรงหน้า แล้วกระชากออกมาอย่างแรง จนทำให้ปลอกคอสีแดงหลุดออกมาจากลำคอเล็ก ๆ เสียงกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊ง ...

                "อ๊ะ!!!" ชายตัวเล็กร้องออกมาอย่างตกใจ

                ทันใดนั้นก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น ศีรษะของชายหนุ่มเหมือนถูกกระแทกอีกครั้งจนรู้สึกปวดมาก วิลแซ็คหน้ามืดตามัวไปสักระยะ ความรู้สึกทั้งมวลของเขาค่อยๆมลายหายไป ... จนหงายหลังลงไปนอนอีกครั้ง

                ..........

                ร่างสูงงัวเงียตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนนี้เขาอยู่ในที่ไม่คุ้นตา รอบ ๆ ยังเป็นผนังสีดำอยู่ แต่บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไป ผนังถูกทาด้วยสีดำ และมีคบไฟจุดเป็นแนว พื้นปูด้วยอิฐที่เริ่มซีด ตอนนี้เขาอยู่ในท่านอนกางมือกางขาเหมือนดาวห้าแฉก

                ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งโดยเร็วจึงสังเกตได้อีกว่าตอนนี้เขาอยู่กลางวงแหวนอะไรสักอย่าง ที่เขียนด้วยชอล์กขาว วิลแซ็คหันหน้าลอกแลกไปรอบ ๆ ไม่มีอะไรซักอย่าง ทั้งเจ้าเด็กบ้าโรคจิต ทั้งศพของพี่ชายเขา แม้แต่รอยแผลของเขาก็ยังไม่มี เสื้อผ้ายังใส่ครบด้วยซ้ำ

                เขารู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในมือ สิ่งนั้นคือปลอกคอสีแดงที่มีกระดิ่งอันใหญ่ดังกรุ๊งกริ๊ง ชายหนุ่มยิ่งงงงัน ตกลงเรื่องที่เกิดกับเขาที่ผ่านมาไม่นาน มันคืออะไรกันแน่

                "เมี้ยว" เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นบริเวณปลายขา ร่างสูงก้มลงมองบริเวณต้นเสียงสิ่งที่เขาพบคือ....

                แมวดำตัวน้อย ๆ ที่กำลังนั่งอย่างสงบ มันคงจะไม่แปลก เพียงแต่ว่าแมวตัวนี้ มีนัยน์ตาเหมือนมนุษย์ เป็นนัยน์ตาสีดำสนิทดูน่าลึกลับ แต่ก็มีเสน่ห์ ยิ่งมองก็ยิ่งนึกถึงคน ๆ นั้น

                อาจารย์ของเขา เวนเจียนซ์ โลเวอร์

    fff

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×