ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Conan x OC สวัสดีโลกโคนัน :) Hello

    ลำดับตอนที่ #4 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:ตีสนิท

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.83K
      635
      3 ธ.ค. 63




    " ยูกิเสร็จยัง! "


    " เสร็จแล้วๆ "  ฉันเอ่ยตอบอย่างทันควันขณะเก็บสมุดบนโต๊ะใส่กระเป๋าแล้วแล้วเดินฉับๆไปยังทางประตูที่มีร่างของซึบาสะและฮารุยืนรออยู่


    " ดีใจจังที่พวกเราได้เดินพร้อมหน้ากันแบบนี้ "  เสียงหวานของฮารุดังขึ้นมาหลังจากย่างก้าวเดินออกนอกเขตของโรงเรียนเเล้วเปลี่ยนมาเดินถอยหลังต่อหน้าหญิงสาวทั้งสองคนที่มีสีผมต่างกัน


    " อื้ม นานๆทีหนิเพราะทุกคนก็ติดธุระทางบ้านกันทั้งนั้น "  ซึบาสะพูดออกมาแล้วระบายยิ้มประดับบนใบหน้า


    " แต่คงต้องยกเว้นยูกิจังเพราะเธอชอบรีบกลับบ้านก่อนตลอด "  ไม่วายหญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลก็พองลมในแก้มอย่างงอนๆ  ขณะเดินถอยหลังโดยไม่มีอะไรติดขัด


    " ก็อยากรีบไปพักผ่อนนี่นา "  ไม่รู้หรอกว่าร่างเก่าทำไมถึงรีบกลับบ้านตั้งแต่หัววัน  แต่แถไปแบบนี้น่าจะดีกว่า


    " พักผ่อนทุกวันเลยนร้า "  ซึบาสะเอ่ยออกมาเป็นเชิงแซวเล่นขบขันและจับผิดเพื่อนสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวราวกับหิมะ


    ยูกิได้แต่ส่งยิ้มแหยๆออกไปทั้งๆที่คิ้วข้างขวากระตุกถี่ๆเห็นได้ชัด  จนฮารุที่เดินอยู่ต่อหน้าได้แต่ยิ้มขบขันกับท่าทีของเพื่อนตัวเองก่อนจะเปลี่ยนมาเดินขนาบข้างซึบาสะที่เดินอยู่ตรงกลาง


    " ว่าแต่ครั้งนี้ห้องเราจะได้ไปสัมพันธไมตรีโรงเรียนอะไรเหรอ "  ฉันถามคำถามนั้นขึ้นมาหลังจากคิดได้ว่าโรงเรียนของพวกเรายังไม่ได้ประกาศให้แต่ละห้องไปสัมพันธไมตรีที่ไหน


    ต้องขอบอกรายละเอียดบางอย่างก่อนว่าถึงแม้โรงเรียนเรียวเทย์จะเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของญี่ปุ่นที่แตกต่างจากโรงเรียนอื่นทั่วๆไปจนอาจก่อเกิดความหมันไส้  แต่ก็มีสัมพันธไมตรีกับโรงเรียนอื่นไม่น้อยเลยทีเดียว


    ทุกปีโรงเรียนเรียวเทย์จะทำการเลือกห้องและระดับชั้นให้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ดีและต้องจัดกิจกรรมบางอย่างคล้ายจิตอาสาก็ไม่เชิงเป็นการแลกเปลี่ยนที่เดินเข้ามาในสถานที่นั้น


    ซึ่งประเภทกิจกรรมที่ต้องจัดขึ้นทางโรงเรียนจะเป็นคนกำหนดอีกทีว่าห้องไหนจะได้จัดกิจกรรมอะไร  อย่างปีก่อนเกรดสิบสอง(ม.5หรืออายุ17ปี)คลาสเอกับซีได้ร่วมมือกันแล้วกิจกรรมที่ได้คือหนังสยองขวัญทำให้ต้องลงทุนไปจ้างผู้กำกับและทีมตัดต่อมาช่วยเรื่องภาพยนต์


    หวังว่าเกรดสิบสองห้องเอที่ฉันอยู่ในปีนี้จะได้จับคู่ร่วมมือกันกับห้องบีนะ  อยากอยู่กับเพื่อนซึบาสะและเพื่อนฮารุนี่นา


    " คงเป็นโรงเรียนยากานาวามั้ง "


    " ทำไมซึบาสะจังคิดงั้นอ่ะ "  


    จบคำถามของฮารุ  เจ้าของเรือนผมสีบรอนซ์หลับตาขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมนำมือมาลูบบริเวณคางเป็นเชิงใช้ความคิด  จนยูกิที่เดินถือกระเป๋าอยู่ข้างๆได้แต่มองเพื่อนของตัวเองด้วยแววตาเพ่งเกร็ง  


    ก่อนที่ซึบาสะจะเปิดเปลือกตาให้พบกับดวงตาตาสีเขียวมรกตหลังจากคิดวิเคราะห์เสร็จแล้วพูดต่อว่า


    " ก็ทุกปีเกรดสิบสองจะหมุนเวียนคลาสกับโรงเรียนสามแห่ง แล้วปีก่อนจบที่โรงเรียนนากาโยชิที่เป็นอันดับที่สามนี่นา "


    " แต่ว่านะซึบาสะจัง ทุกครั้งที่หมุนเวียนคลาสมักจะเป็นห้องที่ไม่เคยจับคู่กันมาก่อนนี่ "


    " นั่นก็จริง ปีที่แล้วห้องเอก็ได้จับคู่ห้องซีซึ่งเป็นห้องสุดท้ายแล้ว บางทีอาจจะได้เปลี่ยนโรงเรียนก็ได้นะ "


    จากนั้นซึบาสะกับฮารุก็ได้แต่ยิ้มยิงฟันให้ซึ่งกันและกันก่อนจะมองไปทางด้านหน้าที่ใกล้ถึงประตูรั้วของโรงเรียนเทย์ตัน  ปล่อยให้ร่างเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลยืนอ้าปากตาค้างกับบทวิเคราะห์เพื่อนของตัวเองที่เดินลิ่วไปก่อนไม่แม้แต่หันมามอง


    " (=[]=) "  วิเคราะห์คลาสอะไรของพวกเธอ!  อย่าบอกนะว่าพอมาอยู่โลกโคนันแล้วการสันนิษฐานมักเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนก็ทำได้น่ะ


    ฉันยกฝ่ามือขึ้นมานวดศีรษะของตัวเองขณะหัวเราะแห้งๆออกไปคล้ายกับหัวเราะทั้งน้ำตา  ไม่คิดเลยว่าเพื่อนของตัวเองจะมีความสามารถสันนิษฐานออกมาได้ขนาดนี้แล้วถ้าไปยุ่งกับคดีคิดดูสิว่าจะขนาดไหน  รู้สึกอยากกลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว


    " ยูกิหยุดเดินทำไมล่ะ! "  เสียงหวานของซึบาสะตะโกนดังขึ้นมาทำให้ยูกิสะดุ้งตัวโหยงแล้วส่งยิ้มเกร็งๆไปให้อีกฝ่ายขณะเดินดุ่มๆมาทางทั้งสองแล้วพูดประโยคว่า


    " ฉันแค่อึ้งเรื่องที่พวกเธอสันนิษฐาน ถามจริง สนใจไปเป็นนักสืบมั้ย "  จากนั้นก็ยักคิ้วส่งยิ้มอย่างกวนๆ  ก่อนจะโดนฮารุดีดหน้าผากดังโป๊กจนต้องยกมือขึ้นมากุมบริเวณที่โดนทำร้าย


    " ทำร้ายฉันทำไมอ่ะ! "  เห็นว่าขนาดตัวเล็กกว่านึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นหมาป่าในคราบแกะน้อย  เอาแรงมาจากไหนเนี่ย  เจ็บ


    " แค่สองวันไม่ได้เจอหน้ากัน นิสัยของยูกิจังดูกวนขึ้นนะ "  ฮารุกล่าวอย่างยิ้มๆแล้วก้มดูนาฬิกาข้อมือ  โดยไม่สนใจร่างของเพื่อนตัวเองที่ยืนกุมหัวพร้อมแยกเขี้ยว


    " ก็อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง "  จากนั้นยูกิก็เดินไปพิงกำแพงโรงเรียนพร้อมหยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่แล้วเปิดเพลงคลอเบาๆขณะหลับตารอเวลา


    " แค่ภายในสองวันรู้สึกว่านิสัยเธอเปลี่ยนเร็วเกินไปนะ แต่ก็ช่างเถอะไม่ยอมใครเหมือนเมื่อก่อนก็ดีแล้วพวกฉันจะได้หายห่วงซะที "


    " บ่นเป็นยายแก่เลยนะซึบาสะ "  


    เจ้าของชื่อในประโยคทำเพียงปรายตามองร่างบางที่มีเรือนผมสีขาวและนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลกำลังทำหน้าทะเล้นใส่จึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงตกแล้วบ่นออกมา


    " เมื่อไหร่จะเลิกเรียนซะที "


    " ทนๆไปก่อนนะซึบาสะจัง อีกสามนาทีก็เลิกเรียนแล้ว "  หญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลคล้ายช็อกโกแลตเอ่ยประโยคปลอบอีกฝ่าย


    " สามนาทีหรือสามชาติกันแน่ "  


    ถ้าอยู่ในห้องแอร์หรือพัดลมเวลาแค่สามนาทีก็พอทนได้อยู่หรอก  แต่ฉันต้องมารอญาติของซึบาสะจังหน้าโรงเรียนที่มีแดดส่องแบบนี้ก็ทนไม่ไหวหรอกนะเพราะมันร้อน  


    หลังจากที่บ่นออกมาหนุบหนิบเบาๆ  ไม่คิดเลยว่าฮารุที่ฉันตั้งสถานะให้เป็นแม่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาจะหูผึ่งได้ยินแล้วเดินมาบิดจมูกฉันจนแดงเถือก


    " อย่าพูดแบบนี้สิยูกิจัง " 


    " ค่ะๆ ขอโทษค่ะว่าแต่...เราเดินไปยืนใต้ต้นไม้ตรงนั้นกันมั้ย "  ต้นไม้สีเขียวต้นใหญ่ที่คอยให้ร่มเงาภายในโรงเรียนเทย์ตันถูกฉันชี้ให้สองคนนั้นมองตาม


    " อยากไปนะ แต่โรงเรียนเขาอนุญาตให้คนนอกเข้าเหรอ " 


     น้ำเสียงกังวลและไม่มั่นใจของซึบาสะพูดขึ้นพร้อมกับฮารุที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยทำให้ฉันได้แต่มองตาปริบๆ  ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาจนทั้งสองคนมองค้อนใส่


    " ถ้าไม่ให้ก็ใช้เส้นสายของบ้านพวกเราไง "


    จากนั้นร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวก็กระชับกระเป๋าพร้อมเดินเข้าไปในเขตของโรงเรียนเทย์ตันในทันทีหลังจากกล่าวประโยคเสร็จ 


    ยูกิเดินเข้าไปยืนหลบในร่มไม้ที่คอยบังแดดและผลิตแก๊สออกซิเจนจนเย็นสะบายประกอบกับสายลมที่พัดเอาเส้นผมสีขาวนวลของเธอสะบัดพริ้วไปมา  ขณะเงยหน้ามองท้องฟ้าผ่านช่องใบไม้บนกิ่งและแสงแดดที่ส่องลงมาจนต้องยกฝ่ามือขึ้นมาบัง


    " ไปไม่รอเลยนะ "


    " นึกว่าจะลงทุนยืนตากแดดกันไง "  ฉันเบนสายตาหันมามองร่างของหญิงสาวทั้งสองคนที่มีสีผมต่างกันเดินเข้ามายืนหลบแดดใต้ร่มไม้เหมือนกับฉัน  ไม่วายพวกเธอก็หันมาเอ่ยประชดใส่จนฉันได้แต่ระบายยิ้มก่อนจะหันไปสนใจท้องฟ้าต่อ


    ส่วนสองสาวที่เดินตามมาทีหลังก็ยืนท่าที่ตัวเองทำปกติขณะที่สายตาคอยมองฝ่ามือของยูกิที่ยืนตรงกลาง  พอเหมาะพอดีกับสายลมที่พัดเข้ามาใต้ร่มไม้จนมีใบไม้ร่วงโปรยปรายเปรียบเสมือนภาพพื้นหลังของทั้งสาม  


    เรือนผมของพวกเธอปลิวสไหวไปตามแรงลมจนเหมือนกับภาพวาดของจิตรกร  เสียงกริ่งบ่งบอกถึงเวลาเลิกเรียนดังขึ้นทั่วอาคารพร้อมปรากฏร่างของนักเรียนชายหญิงมัธยมปลายเทย์ตันที่พากันเดินออกมาทำให้เห็นหญิงสาวทั้งสามที่คนตรงกลางมีสีผมประหลาด


    โดยเฉพาะเครื่องแบบที่อยู่บนตัวของพวกเธอที่ทำให้พวกเขาสนใจมากยิ่งขึ้น  แต่ที่เหนือกว่านั้นก็คงเป็นภาพของทั้งสามคนที่มีใบไม้ล่วงโรยลงมาราวกับภาพพื้นหลังของจิตรกรจนทำให้พวกเขาละสายตาออกจากทั้งสามไม่ได้


    " ...... "  แหม ต้องมนต์สเน่ห์ของพวกเราสินะ


    ฉันเหยียดยิ้มออกมาหลังจากที่รู้สึกถึงสายตาหลายสิบคู่ที่ต่างจับจ้องมองมายังพวกเราที่ยืนใต้ต้นไม้และดูเหมือนว่าซึบาสะกับฮารุคงยังไม่รู้สึกตัวเลยได้แต่มองท้องฟ้าตามเดิม  จนฉันต้องยกมือขึ้นมาสะกิดทั้งคู่จนหลุดออกจากภวังค์พร้อมกล่าวประโยคเอ่ยออกมา


    " ดูเหมือนว่าจะเลิกเรียนแล้วนะ "


    " อ๋อ ว่าแต่ทำไมพวกเขาถึงต่างมองมาที่เราล่ะ "  ฮารุกล่าวออกมาพร้อมมองร่างของเหล่านักเรียนชายหญิงที่เดินผ่านไป  แต่สายตาของผู้คนเหล่ากลับจับจ้องมายังกลุ่มของพวกเธอ


    ฉันหัวเราะในลำคอเบาๆหลังจากเห็นสีหน้าของฮารุที่มันชวนอยากบีบแก้ม  ก่อนจะยืนทอดสายตาหาร่างของนักเรียนหญิงสองคนที่เป็นตัวละครหลักของอนิเมะเรื่องนี้


    " คงเพราะชุดของพวกเรานั่นแหละ "


    " อ่ะ นั่นมันญาติของฉันนี่นา ไปกันเหอะ! "  ไม่ว่าเปล่าซึบาสะก็ชี้ไปทางชายหนุ่มเรือนผมสีดำปีกอีกาคนหนึ่งที่เดินล้วงกางเกงคนเดียวท่ามกลางผู้คน


    ฉันเบนสายตาหันไปมองตามทิศทางที่ซึบาสะชี้แต่ก็ต้องเบิกตาโพรง  เมื่อเจอเป้าหมายที่ตามหาเดินคุยกันห่างออกไปจากญาติของเธอไม่กี่เมตร


    " !!! "  นั่นมันรันกับโซโนโกะนี่นา


    ถ้าทั้งสองคนเดินระนาบเดียวกันกับญาติของซึบาสะแล้วล่ะก็...บางทีอาจแกล้งเดินชนหนึ่งในสองคนนี้แล้วล้วงกระเป๋าเงินของอีกฝ่ายก่อนจะนำไปคืนทีหลังก็ได้


    " คิคิ "  คิดได้แบบนั้นแล้วฉันก็หลุดขำออกมากับวิธีตีสนิทสุดแปลกประหลาดของตัวเองที่ต่างจากคนทั่วไป


    " เหวอ!!! "  หัวเราะไม่ทันสะใจฉันกับฮารุก็ถูกซึบาสะกระชากแขนให้เดิมตามเธออย่างกระทันหันจนพวกเราทั้งคู่ร้องเสียงหลงออกมา


    เดินไปได้สักพักฉันก็แกะฝ่ามือของเธอออกจากลำแขนซึ่งซึบาสะก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไรแต่หันไปคล้องแขนฮารุแทนฉันจึงเดิมตามหลังทั้งคู่  โดยลดความเร็วลงเมื่อใกล้ถึงระยะของเป้าหมายที่ยังคงคุยกันอย่างสนุกสนานไม่รู้สึกตัว


    " เหอะ "  อยากหัวเราะดังๆกับวิธีตีสนิทของตัวเองแบบร้องก๊าก!!!ดังๆ  คิดได้อีกทีก็รู้สึกอนาถยังไงก็ไม่รู้


    ร่างบางของหญิงสาวเรือนผมสีขาวหิมะล่วงกระโปรงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหมายจะเปลี่ยนเพลงขณะที่ยังคงสวมหูฟังทั้งสองข้าง  เนื่องจากร่างบางมัวแต่จดจ้องกับมือถือในฝ่ามือทำให้เดินไม่ทันระวังจนไปชนเข้ากับร่างของหญิงสาวที่มีทรงผมแหลมประหลาดจนล้มลง


    เสียงหวานถูกเปล่งออกมาด้วยความตกใจจากการชนครั้งนี้และเสียหลักถอยหลังสะดุดขาตัวเองจนทรงตัวไม่อยู่  เธอปิดเปลือกตาสนิทเพื่อรอรับความเจ็บปวดที่จะได้รับหลังจากล้มกระแทกพื้น


    แรงกระชากบริเวณปกเสื้อและลำแขนอย่างกระทันหันทำให้ร่างของหญิงสาวคนนั้นเกือบล้มลงอย่างเฉียดฉิวประกอบกับเสียงหอบของยูกิที่ดังขึ้นมาถี่ๆ  


    หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลลืมตาขึ้นมาทำให้พบกับใบหน้าของอีกฝ่ายที่เรียวได้รูป  เส้นผมสีขาวสว่างราวกับหิมะในยามฤดูหนาวทำเอาใบหน้าของเธอมีริ้วแดงจางๆหลังจากสบตาเพียงชั่วครู่


      ถึงแม้ว่าจะเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ไม่ชัดเพราะย้อนแสงแต่น้ำเสียงที่ได้ยินประกอบกับโครงหน้าก็ทำเอาเธอรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ


      " เธอไม่เป็นไรนะ! "  แย่แล้วเผลอชนแรงเกินไปซะได้  โชคดีนะที่คว้าปกเสื้อกับแขนทันไม่อยากนึกภาพตอนล้มลงไปเลยว่าจะเจ็บขนาดไหน  


    " อะ-อื้ม "


    " รันเธอเป็นอะไรรึเปล่า! ทำไมเธอถึงเดินไม่ระวังกันห๊ะ!!! "  เพราะมัวแต่สนใจอาการบาดเจ็บของเพื่อนสนิท  โซโนโกะจึงไม่ได้สังเกตชุดของอีกฝ่าย


    " เอาน่าโซโนโกะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกต้องขอบคุณเธอคนนั้นด้วยซ้ำ ไม่งั้นคงแย่แน่ "


    รัน!!!  เธอนี่มันแม่พระในคราบลูกเตะคาราเต้ชัดๆเลย


    " ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำเธอบาดเจ็บ พอดีมัวแต่สนใจโทรศัพท์น่ะ "  


    " ทีหลังก็หัดสนใจรอบๆบ้างสิยะ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวเดินชนคนอื่นให้บาดเจ็บอีก "


    " จร้าๆ "  ถ้าฉันไม่รู้จักนิสัยของโซโนโกะที่ไอ้กรเล่าให้ฟังในโลกเก่านะ  ป่านนี้คงมีปากเสียงกันเหมือนคราวของยัยราวาอิอะไรนั่นแน่


    " ดีมาก เอ๊ะ เธอคือนักเรียนโรงเรียนเรียวเทย์งั้นเหรอ!?! "  หลังจากสังเกตชุดของอีกฝ่ายโซโนโกะก็ตะโกนออกมาดังลั่นจนรันต้องเอามือมาตะครุบปากอีกฝ่ายเพื่อลดเสียง


    " ใช่ ต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำเพื่อนเธอเจ็บ "  ผมที่ลงมาปรกตาถูกฉันเสยขึ้นไปจนดูยุ่งๆมีสไตล์นิดหน่อยทำเอาโซโนโกะกับรันมีริ้วแดงเห็นได้ชัด  อ้อ  ต้องเป็นนักเรียนหญิงและนักเรียนชายรอบๆสิ


    เขินฉันอ่ะดิพวกเธอ!!!


    " ยูกิจังรีบมาเร็วเข้า!!! "


    " โอ้!!! ฉันต้องไปแล้วนะไว้พบกันใหม่ "  ตะโกนตอบรับประโยคของฮารุเสร็จ  ประโยคต่อมาฉันก็หันมาพูดกับทั้งสองคนที่ยังคงยืนจ้องตาค้างไม่กะพริบตาจนฉันแอบหลอนนิดๆพร้อมระบายยิ้มที่ว่าจะเป็นมิตรมากที่สุด  ก่อนจะเดินห่างออกไปทางทั้งสามคนที่ยืนรออยู่


    " เราจะได้พบกันอีกแน่ "  ฉันพูดพึมพำออกมาขณะเดินเข้าไปใกล้ทั้งสามคน 


     โชคดีนะที่คว้าเสื้อได้ทันไม่งั้นรันคงได้ไปนอนกินข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาลแหงๆเพราะพื้นมันเป็นคอนกรีต  ล้มลงไปทีมีเจ็บพร้อมแถมบาดแผลให้ด้วย  ถ้าคว้าเสื้อไม่ทันแล้วล้มลงไปนะ  ชิบหาย!!!


    " อย่างน้อยก็ตั้งสติเอากระเป๋าเงินของรันมาได้ก็แล้วกัน "  กระเป๋าเงินสีฟ้าหม่นถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรง  ก่อนจะถือวิสาสะเปิดดูของด้านในทำให้พบกับธนบัตรจำนวนหนึ่งและเหรียญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


    ว่าแต่...นี่คือรูปอะไรอ่ะ


    " อี๋ แหวะ เหม็นความรักเหม็นคนมีคู่มากเลยค่ะ "  


    " เหม็นความรักอะไรของเธอ อย่าบอกนะว่าไปแอบมีตอนไหนน่ะ "  เมื่อร่างของเพื่อนผมสีขาวเดินเข้ามาใกล้  ซึบาสะก็ได้ยินประโยคของยูกิที่พูดออกมาหลังจากดูรูปเสร็จพอดีทำให้เธอหรี่ตามองอย่างจับผิด


    " บ้าเปล่า ก็เหม็นคนมีคู่มีความรักแถวนี้นั่นแหละ "  ไม่ว่าเปล่าฉันก็พยักหน้าไปทางชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินจูงมือกันปรากฏแก่สายตาพอดีทำให้แก้สถานการณ์ได้อย่างหวุดหวิด


    รูปถ่ายที่ฉันเจอในกระเป๋าของรันคือรูปคู่ระหว่างเธอกับชินอิจิที่ตอนนี้น่าจะกลายร่างเป็นเด็กผีไปแล้วในสภาพชุดมัธยมของโรงเรียนกำลังยืนโพสต์ให้กล้องอยู่  แน่นอนว่าชินอิจินั้นแค่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองกล้องเฉยๆต่างจากฝ่ายหญิงที่ฉีกยิ้มกว้าง


    แค่นี้ว่าแหวะแล้วนะพอมาเจอรูปหัวใจสีชมพูด้านหลังภาพถ่ายอยากอ้วกและต้องการถุงพลาสติกขึ้นมาเสียดื้อๆกับประโยคข้อความว่า


    ' ขอบคุณนะ ที่อยู่ข้างกันมาตลอด '


    อี๋!!!  เหม็นมากเลยค่ะ  ต้องการเข้าห้องน้ำไปอ้วกตอนนี้ด่วน!!!


    " ดูน่ารักกันดีออก ฉันต้องกลับแล้วนะบ๊ายบาย "


    " บายฮารุ "  


    " ทำไมฮารุรีบกลับจัง "  หลังจากมองแผ่นหลังของเธอวิ่งขึ้นรถคันสีดำสุดหรูแล้ว  ฉันก็หันไปถามซึบาสะที่เดินขนาบข้างกับญาติของตัวเองที่ไม่รู้นามเพราะไม่มีใครบอก


    " ทางบ้านจะพาไปออกงานกระทันหันทำให้ต้องรีบไปแต่งตัวน่ะ "  


    " เวลานี้เนี่ยนะ! "  แค่แต่งตัวเองใช้เวลาอะไรตั้งนาน


    " ใช่ "  พูดเสร็จเพื่อนสาวก็หันไปมองทางด้านหน้าที่ปรากฏรถคันหรูแบบเดียวกันกับของฮารุพร้อมร่างของชายวัยกลางคนคนหนึ่งในชุดสูทที่ยืนกุมมือในท่าเรียบร้อย


    ฉันมองชายในชุดสูทคนนั้นสลับกับซึบาระที่ส่งยิ้มมาให้ตอนไหนไม่รู้สลับกันไปมา  เมื่อคิดว่าฉันน่าจะโดนเพื่อนทิ้งในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า


    " หรือว่า.... "


    " ขอโทษนะ ฉันก็ต้องรีบไปออกงานเหมือนกัน "


    ฮืออออ  เก๊าโดนเพื่อนทิ้งอ่ะทุกคน!!!T[]T


    " งานเดียวกับของฮารุรึเปล่า "


    " ไม่ๆๆ คนละงานอีกสองชั่วโมงก็เริ่มแล้ว ฉันต้องไปก่อนะ- "  ไม่ทันที่หญิงสาวเรือนผมสีบรอนซ์จะกล่าวจบ  ยูกิก็เบ๋ปากออกมาพร้อยกมือขึ้นกอดอกเป็นเชิงงอนๆ


    "เชอะ!!! "  ของอนหน่อยเถอะ  โดนเพื่อนทิ้งตั้งแต่วันแรกที่เจอแบบนี้


    " ง้อๆนะยูกิ เดี๋ยวซื้อของกินมาฝาก "  ไม่ทันกล่าวจบประโยคอีกครา  หญิงสาวเรือนผมสีขาวก็หันขวับพร้อมดันร่างของซึบาสะจนไปถึงตัวรถพร้อมเปิดประตูให้พอเป็นพิธี


    " โอเค รีบไปๆ "  นี่ไม่ได้เห็นแก่กินเลยนะ  แค่ห่วงเพื่อนเพราะอยากให้รีบไปแต่งตัวสวยๆ  มีเวลาทำเล็บทำผมออกงานทั้งทีก็ต้องสุดปังปิริเย่สิ


    ส่วนด้านของซึบาสะเธอก็ได้แต่กรอกตามองบนกับท่าทีของเพื่อนตัวเองที่นิสัยเปลี่ยนไปมากโขแล้วจึงเดินขึ้นรถไป  ทิ้งไว้เพียงแค่ชายหนุ่มเรือนผมสีดำปีกอีกาที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงข้างยูกิทั้งๆที่ชายวัยกลางคนในชุดสูทเปิดประตูรถให้แล้ว


    " ไม่รีบขึ้นไปล่ะ "  กลายเป็นว่ายูกิเอ่ยคำถามขึ้นมาทำลายความเงียบของพวกเธอทั้งสอง


    ชายคนนั้นปรายตามองร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวที่เห็นเป็นครั้งแรกเหมือนคราวของฮารุที่กลับไปแล้ว  แต่เธอกลับมีบางสิ่งที่เขาคุ้นเคยแผ่ออกมาทุกครั้งที่ไปยังสถานที่นั้น


    " ....... "  ไอ้หมอนี่กวนรึเปล่าวะ  ถามไปก็ไม่ยอมตอบเป็นใบ้รึไง


    " เราเคยเจอกันรึเปล่า "


    " ไม่ "  ฉันปฏิเสธอย่างทันควัน


    เมื่อชายคนนั้นได้คำตอบที่ออกมาจากปากของยูกิแล้ว  เขาก็เดินขึ้นรถไปทั้งๆที่ภายในจิตใจกำลังกู่ร้องว่าเราเคยพบเจอกันมาก่อน


    รถคันสีดำแล่นออกไปท่ามกลางนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่มองจนลับสายตา  ก่อนจะไปสะดุดกับร่างของหญิงสาวทั้งสองที่ยูกิแสดงชนไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ทำให้เธอยิ้มภายในจิตใจแล้วเดินดุ่มๆไปทางทั้งสอง


    " เธอที่ฉันชนเมื่อคราวนั้น ใช่กระเป๋าเงินเธอมั้ย "  จากนั้นฉันก็ล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาปรากฏแก่สายตาทั้งสอง


    " นี่ไงรัน กระเป๋าเงินของเธอที่กำลังตามหา "  


    " พอดีเก็บได้บนพื้นน่ะ "  จริงๆนะ  รางวัลออสการ์สาขาการแสดงควรมอบให้ฉันในปีนี้จริงๆ  คนอะไรหน้าด้าน  ตอแหลสุดจัดปลัดบอก


    " ขอบคุณอีกครั้ง ว่าแต่เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยฉันชื่อโมริ รันเรียกแค่รันเฉยๆก็ได้ "


    " ฉันชื่อกาคุรุ ยูกิเรียกแค่ยูกินั่นแหละ "  เพราะถ้าเรียกกาคุรุแล้วมันรู้สึกไม่ค่อยชินปากเลย


    " สีผมสมกับชื่อของเธอดี เรียกฉันว่าโซโนโกะนั่นแหละ โฮะๆ "  จากนั้นเธอก็ยกมือป้องปากขณะหัวเราะทำให้ฉันได้แต่มองเอือมๆ  ถ้าสมมติว่าคนอื่นไม่รู้จักนิสัยของยัยนี่นะมีหวังหมันไส้เข้าไปแน่


    " ว่าแต่บ้านของยูกิจังไปทางไหนเหรอ "


    " ทางนู้นน่ะ "  ฉันตอบคำถามของรันพร้อมชี้ทางให้เธอดู  ที่จริงแล้วก็มีทางเข้าแถวสำนักงานนักสืบของพ่อรันอยู่หรอกนะแต่ว่าทางนี้ใกล้กว่าน่ะ


    " แย่จัง งั้นเราเดินไปด้วยกันก่อนดีมั้ยพอถึงทางนั้นแล้วค่อยแยกทางกัน "


    " เอาสิรัน "  แผนปฏิบัติการตีสนิทของสองคนนี้ลุล่วงไปด้วยดี  อยากร้องเพลงธรณีกันแสงเลยคร่า


    " เป็นความคิดที่เยี่ยมเพราะฉันมีเรื่องที่จะถามยูกิเยอะเลย "  


    " ฮะๆ "  แค่ดูท่าทางของเธอที่เดินเข้ามาคล้องแขนแล้วส่งสายตาแบบนี้  คงไม่พ้นดาราภายในโรงเรียนสินะต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยแล้วกันเพราะฉันไม่รู้จักสักคนเลยโซโนโกะ






    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×