คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:ตีสนิท
" ยูกิเสร็จยัง! "
" เสร็จแล้วๆ " ฉันเอ่ยตอบอย่างทันควันขณะเก็บสมุดบนโต๊ะใส่กระเป๋าแล้วแล้วเดินฉับๆไปยังทางประตูที่มีร่างของซึบาสะและฮารุยืนรออยู่
" ดีใจจังที่พวกเราได้เดินพร้อมหน้ากันแบบนี้ " เสียงหวานของฮารุดังขึ้นมาหลังจากย่างก้าวเดินออกนอกเขตของโรงเรียนเเล้วเปลี่ยนมาเดินถอยหลังต่อหน้าหญิงสาวทั้งสองคนที่มีสีผมต่างกัน
" อื้ม นานๆทีหนิเพราะทุกคนก็ติดธุระทางบ้านกันทั้งนั้น " ซึบาสะพูดออกมาแล้วระบายยิ้มประดับบนใบหน้า
" แต่คงต้องยกเว้นยูกิจังเพราะเธอชอบรีบกลับบ้านก่อนตลอด " ไม่วายหญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลก็พองลมในแก้มอย่างงอนๆ ขณะเดินถอยหลังโดยไม่มีอะไรติดขัด
" ก็อยากรีบไปพักผ่อนนี่นา " ไม่รู้หรอกว่าร่างเก่าทำไมถึงรีบกลับบ้านตั้งแต่หัววัน แต่แถไปแบบนี้น่าจะดีกว่า
" พักผ่อนทุกวันเลยนร้า " ซึบาสะเอ่ยออกมาเป็นเชิงแซวเล่นขบขันและจับผิดเพื่อนสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวราวกับหิมะ
ยูกิได้แต่ส่งยิ้มแหยๆออกไปทั้งๆที่คิ้วข้างขวากระตุกถี่ๆเห็นได้ชัด จนฮารุที่เดินอยู่ต่อหน้าได้แต่ยิ้มขบขันกับท่าทีของเพื่อนตัวเองก่อนจะเปลี่ยนมาเดินขนาบข้างซึบาสะที่เดินอยู่ตรงกลาง
" ว่าแต่ครั้งนี้ห้องเราจะได้ไปสัมพันธไมตรีโรงเรียนอะไรเหรอ " ฉันถามคำถามนั้นขึ้นมาหลังจากคิดได้ว่าโรงเรียนของพวกเรายังไม่ได้ประกาศให้แต่ละห้องไปสัมพันธไมตรีที่ไหน
ต้องขอบอกรายละเอียดบางอย่างก่อนว่าถึงแม้โรงเรียนเรียวเทย์จะเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของญี่ปุ่นที่แตกต่างจากโรงเรียนอื่นทั่วๆไปจนอาจก่อเกิดความหมันไส้ แต่ก็มีสัมพันธไมตรีกับโรงเรียนอื่นไม่น้อยเลยทีเดียว
ทุกปีโรงเรียนเรียวเทย์จะทำการเลือกห้องและระดับชั้นให้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ดีและต้องจัดกิจกรรมบางอย่างคล้ายจิตอาสาก็ไม่เชิงเป็นการแลกเปลี่ยนที่เดินเข้ามาในสถานที่นั้น
ซึ่งประเภทกิจกรรมที่ต้องจัดขึ้นทางโรงเรียนจะเป็นคนกำหนดอีกทีว่าห้องไหนจะได้จัดกิจกรรมอะไร อย่างปีก่อนเกรดสิบสอง(ม.5หรืออายุ17ปี)คลาสเอกับซีได้ร่วมมือกันแล้วกิจกรรมที่ได้คือหนังสยองขวัญทำให้ต้องลงทุนไปจ้างผู้กำกับและทีมตัดต่อมาช่วยเรื่องภาพยนต์
หวังว่าเกรดสิบสองห้องเอที่ฉันอยู่ในปีนี้จะได้จับคู่ร่วมมือกันกับห้องบีนะ อยากอยู่กับเพื่อนซึบาสะและเพื่อนฮารุนี่นา
" คงเป็นโรงเรียนยากานาวามั้ง "
" ทำไมซึบาสะจังคิดงั้นอ่ะ "
จบคำถามของฮารุ เจ้าของเรือนผมสีบรอนซ์หลับตาขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมนำมือมาลูบบริเวณคางเป็นเชิงใช้ความคิด จนยูกิที่เดินถือกระเป๋าอยู่ข้างๆได้แต่มองเพื่อนของตัวเองด้วยแววตาเพ่งเกร็ง
ก่อนที่ซึบาสะจะเปิดเปลือกตาให้พบกับดวงตาตาสีเขียวมรกตหลังจากคิดวิเคราะห์เสร็จแล้วพูดต่อว่า
" ก็ทุกปีเกรดสิบสองจะหมุนเวียนคลาสกับโรงเรียนสามแห่ง แล้วปีก่อนจบที่โรงเรียนนากาโยชิที่เป็นอันดับที่สามนี่นา "
" แต่ว่านะซึบาสะจัง ทุกครั้งที่หมุนเวียนคลาสมักจะเป็นห้องที่ไม่เคยจับคู่กันมาก่อนนี่ "
" นั่นก็จริง ปีที่แล้วห้องเอก็ได้จับคู่ห้องซีซึ่งเป็นห้องสุดท้ายแล้ว บางทีอาจจะได้เปลี่ยนโรงเรียนก็ได้นะ "
จากนั้นซึบาสะกับฮารุก็ได้แต่ยิ้มยิงฟันให้ซึ่งกันและกันก่อนจะมองไปทางด้านหน้าที่ใกล้ถึงประตูรั้วของโรงเรียนเทย์ตัน ปล่อยให้ร่างเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลยืนอ้าปากตาค้างกับบทวิเคราะห์เพื่อนของตัวเองที่เดินลิ่วไปก่อนไม่แม้แต่หันมามอง
" (=[]=) " วิเคราะห์คลาสอะไรของพวกเธอ! อย่าบอกนะว่าพอมาอยู่โลกโคนันแล้วการสันนิษฐานมักเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนก็ทำได้น่ะ
ฉันยกฝ่ามือขึ้นมานวดศีรษะของตัวเองขณะหัวเราะแห้งๆออกไปคล้ายกับหัวเราะทั้งน้ำตา ไม่คิดเลยว่าเพื่อนของตัวเองจะมีความสามารถสันนิษฐานออกมาได้ขนาดนี้แล้วถ้าไปยุ่งกับคดีคิดดูสิว่าจะขนาดไหน รู้สึกอยากกลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว
" ยูกิหยุดเดินทำไมล่ะ! " เสียงหวานของซึบาสะตะโกนดังขึ้นมาทำให้ยูกิสะดุ้งตัวโหยงแล้วส่งยิ้มเกร็งๆไปให้อีกฝ่ายขณะเดินดุ่มๆมาทางทั้งสองแล้วพูดประโยคว่า
" ฉันแค่อึ้งเรื่องที่พวกเธอสันนิษฐาน ถามจริง สนใจไปเป็นนักสืบมั้ย " จากนั้นก็ยักคิ้วส่งยิ้มอย่างกวนๆ ก่อนจะโดนฮารุดีดหน้าผากดังโป๊กจนต้องยกมือขึ้นมากุมบริเวณที่โดนทำร้าย
" ทำร้ายฉันทำไมอ่ะ! " เห็นว่าขนาดตัวเล็กกว่านึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นหมาป่าในคราบแกะน้อย เอาแรงมาจากไหนเนี่ย เจ็บ
" แค่สองวันไม่ได้เจอหน้ากัน นิสัยของยูกิจังดูกวนขึ้นนะ " ฮารุกล่าวอย่างยิ้มๆแล้วก้มดูนาฬิกาข้อมือ โดยไม่สนใจร่างของเพื่อนตัวเองที่ยืนกุมหัวพร้อมแยกเขี้ยว
" ก็อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง " จากนั้นยูกิก็เดินไปพิงกำแพงโรงเรียนพร้อมหยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่แล้วเปิดเพลงคลอเบาๆขณะหลับตารอเวลา
" แค่ภายในสองวันรู้สึกว่านิสัยเธอเปลี่ยนเร็วเกินไปนะ แต่ก็ช่างเถอะไม่ยอมใครเหมือนเมื่อก่อนก็ดีแล้วพวกฉันจะได้หายห่วงซะที "
" บ่นเป็นยายแก่เลยนะซึบาสะ "
เจ้าของชื่อในประโยคทำเพียงปรายตามองร่างบางที่มีเรือนผมสีขาวและนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลกำลังทำหน้าทะเล้นใส่จึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงตกแล้วบ่นออกมา
" เมื่อไหร่จะเลิกเรียนซะที "
" ทนๆไปก่อนนะซึบาสะจัง อีกสามนาทีก็เลิกเรียนแล้ว " หญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลคล้ายช็อกโกแลตเอ่ยประโยคปลอบอีกฝ่าย
" สามนาทีหรือสามชาติกันแน่ "
ถ้าอยู่ในห้องแอร์หรือพัดลมเวลาแค่สามนาทีก็พอทนได้อยู่หรอก แต่ฉันต้องมารอญาติของซึบาสะจังหน้าโรงเรียนที่มีแดดส่องแบบนี้ก็ทนไม่ไหวหรอกนะเพราะมันร้อน
หลังจากที่บ่นออกมาหนุบหนิบเบาๆ ไม่คิดเลยว่าฮารุที่ฉันตั้งสถานะให้เป็นแม่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาจะหูผึ่งได้ยินแล้วเดินมาบิดจมูกฉันจนแดงเถือก
" อย่าพูดแบบนี้สิยูกิจัง "
" ค่ะๆ ขอโทษค่ะว่าแต่...เราเดินไปยืนใต้ต้นไม้ตรงนั้นกันมั้ย " ต้นไม้สีเขียวต้นใหญ่ที่คอยให้ร่มเงาภายในโรงเรียนเทย์ตันถูกฉันชี้ให้สองคนนั้นมองตาม
" อยากไปนะ แต่โรงเรียนเขาอนุญาตให้คนนอกเข้าเหรอ "
น้ำเสียงกังวลและไม่มั่นใจของซึบาสะพูดขึ้นพร้อมกับฮารุที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยทำให้ฉันได้แต่มองตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาจนทั้งสองคนมองค้อนใส่
" ถ้าไม่ให้ก็ใช้เส้นสายของบ้านพวกเราไง "
จากนั้นร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวก็กระชับกระเป๋าพร้อมเดินเข้าไปในเขตของโรงเรียนเทย์ตันในทันทีหลังจากกล่าวประโยคเสร็จ
ยูกิเดินเข้าไปยืนหลบในร่มไม้ที่คอยบังแดดและผลิตแก๊สออกซิเจนจนเย็นสะบายประกอบกับสายลมที่พัดเอาเส้นผมสีขาวนวลของเธอสะบัดพริ้วไปมา ขณะเงยหน้ามองท้องฟ้าผ่านช่องใบไม้บนกิ่งและแสงแดดที่ส่องลงมาจนต้องยกฝ่ามือขึ้นมาบัง
" ไปไม่รอเลยนะ "
" นึกว่าจะลงทุนยืนตากแดดกันไง " ฉันเบนสายตาหันมามองร่างของหญิงสาวทั้งสองคนที่มีสีผมต่างกันเดินเข้ามายืนหลบแดดใต้ร่มไม้เหมือนกับฉัน ไม่วายพวกเธอก็หันมาเอ่ยประชดใส่จนฉันได้แต่ระบายยิ้มก่อนจะหันไปสนใจท้องฟ้าต่อ
ส่วนสองสาวที่เดินตามมาทีหลังก็ยืนท่าที่ตัวเองทำปกติขณะที่สายตาคอยมองฝ่ามือของยูกิที่ยืนตรงกลาง พอเหมาะพอดีกับสายลมที่พัดเข้ามาใต้ร่มไม้จนมีใบไม้ร่วงโปรยปรายเปรียบเสมือนภาพพื้นหลังของทั้งสาม
เรือนผมของพวกเธอปลิวสไหวไปตามแรงลมจนเหมือนกับภาพวาดของจิตรกร เสียงกริ่งบ่งบอกถึงเวลาเลิกเรียนดังขึ้นทั่วอาคารพร้อมปรากฏร่างของนักเรียนชายหญิงมัธยมปลายเทย์ตันที่พากันเดินออกมาทำให้เห็นหญิงสาวทั้งสามที่คนตรงกลางมีสีผมประหลาด
โดยเฉพาะเครื่องแบบที่อยู่บนตัวของพวกเธอที่ทำให้พวกเขาสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ที่เหนือกว่านั้นก็คงเป็นภาพของทั้งสามคนที่มีใบไม้ล่วงโรยลงมาราวกับภาพพื้นหลังของจิตรกรจนทำให้พวกเขาละสายตาออกจากทั้งสามไม่ได้
" ...... " แหม ต้องมนต์สเน่ห์ของพวกเราสินะ
ฉันเหยียดยิ้มออกมาหลังจากที่รู้สึกถึงสายตาหลายสิบคู่ที่ต่างจับจ้องมองมายังพวกเราที่ยืนใต้ต้นไม้และดูเหมือนว่าซึบาสะกับฮารุคงยังไม่รู้สึกตัวเลยได้แต่มองท้องฟ้าตามเดิม จนฉันต้องยกมือขึ้นมาสะกิดทั้งคู่จนหลุดออกจากภวังค์พร้อมกล่าวประโยคเอ่ยออกมา
" ดูเหมือนว่าจะเลิกเรียนแล้วนะ "
" อ๋อ ว่าแต่ทำไมพวกเขาถึงต่างมองมาที่เราล่ะ " ฮารุกล่าวออกมาพร้อมมองร่างของเหล่านักเรียนชายหญิงที่เดินผ่านไป แต่สายตาของผู้คนเหล่ากลับจับจ้องมายังกลุ่มของพวกเธอ
ฉันหัวเราะในลำคอเบาๆหลังจากเห็นสีหน้าของฮารุที่มันชวนอยากบีบแก้ม ก่อนจะยืนทอดสายตาหาร่างของนักเรียนหญิงสองคนที่เป็นตัวละครหลักของอนิเมะเรื่องนี้
" คงเพราะชุดของพวกเรานั่นแหละ "
" อ่ะ นั่นมันญาติของฉันนี่นา ไปกันเหอะ! " ไม่ว่าเปล่าซึบาสะก็ชี้ไปทางชายหนุ่มเรือนผมสีดำปีกอีกาคนหนึ่งที่เดินล้วงกางเกงคนเดียวท่ามกลางผู้คน
ฉันเบนสายตาหันไปมองตามทิศทางที่ซึบาสะชี้แต่ก็ต้องเบิกตาโพรง เมื่อเจอเป้าหมายที่ตามหาเดินคุยกันห่างออกไปจากญาติของเธอไม่กี่เมตร
" !!! " นั่นมันรันกับโซโนโกะนี่นา
ถ้าทั้งสองคนเดินระนาบเดียวกันกับญาติของซึบาสะแล้วล่ะก็...บางทีอาจแกล้งเดินชนหนึ่งในสองคนนี้แล้วล้วงกระเป๋าเงินของอีกฝ่ายก่อนจะนำไปคืนทีหลังก็ได้
" คิคิ " คิดได้แบบนั้นแล้วฉันก็หลุดขำออกมากับวิธีตีสนิทสุดแปลกประหลาดของตัวเองที่ต่างจากคนทั่วไป
" เหวอ!!! " หัวเราะไม่ทันสะใจฉันกับฮารุก็ถูกซึบาสะกระชากแขนให้เดิมตามเธออย่างกระทันหันจนพวกเราทั้งคู่ร้องเสียงหลงออกมา
เดินไปได้สักพักฉันก็แกะฝ่ามือของเธอออกจากลำแขนซึ่งซึบาสะก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไรแต่หันไปคล้องแขนฮารุแทนฉันจึงเดิมตามหลังทั้งคู่ โดยลดความเร็วลงเมื่อใกล้ถึงระยะของเป้าหมายที่ยังคงคุยกันอย่างสนุกสนานไม่รู้สึกตัว
" เหอะ " อยากหัวเราะดังๆกับวิธีตีสนิทของตัวเองแบบร้องก๊าก!!!ดังๆ คิดได้อีกทีก็รู้สึกอนาถยังไงก็ไม่รู้
ร่างบางของหญิงสาวเรือนผมสีขาวหิมะล่วงกระโปรงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหมายจะเปลี่ยนเพลงขณะที่ยังคงสวมหูฟังทั้งสองข้าง เนื่องจากร่างบางมัวแต่จดจ้องกับมือถือในฝ่ามือทำให้เดินไม่ทันระวังจนไปชนเข้ากับร่างของหญิงสาวที่มีทรงผมแหลมประหลาดจนล้มลง
เสียงหวานถูกเปล่งออกมาด้วยความตกใจจากการชนครั้งนี้และเสียหลักถอยหลังสะดุดขาตัวเองจนทรงตัวไม่อยู่ เธอปิดเปลือกตาสนิทเพื่อรอรับความเจ็บปวดที่จะได้รับหลังจากล้มกระแทกพื้น
แรงกระชากบริเวณปกเสื้อและลำแขนอย่างกระทันหันทำให้ร่างของหญิงสาวคนนั้นเกือบล้มลงอย่างเฉียดฉิวประกอบกับเสียงหอบของยูกิที่ดังขึ้นมาถี่ๆ
หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลลืมตาขึ้นมาทำให้พบกับใบหน้าของอีกฝ่ายที่เรียวได้รูป เส้นผมสีขาวสว่างราวกับหิมะในยามฤดูหนาวทำเอาใบหน้าของเธอมีริ้วแดงจางๆหลังจากสบตาเพียงชั่วครู่
ถึงแม้ว่าจะเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ไม่ชัดเพราะย้อนแสงแต่น้ำเสียงที่ได้ยินประกอบกับโครงหน้าก็ทำเอาเธอรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ
" เธอไม่เป็นไรนะ! " แย่แล้วเผลอชนแรงเกินไปซะได้ โชคดีนะที่คว้าปกเสื้อกับแขนทันไม่อยากนึกภาพตอนล้มลงไปเลยว่าจะเจ็บขนาดไหน
" อะ-อื้ม "
" รันเธอเป็นอะไรรึเปล่า! ทำไมเธอถึงเดินไม่ระวังกันห๊ะ!!! " เพราะมัวแต่สนใจอาการบาดเจ็บของเพื่อนสนิท โซโนโกะจึงไม่ได้สังเกตชุดของอีกฝ่าย
" เอาน่าโซโนโกะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกต้องขอบคุณเธอคนนั้นด้วยซ้ำ ไม่งั้นคงแย่แน่ "
รัน!!! เธอนี่มันแม่พระในคราบลูกเตะคาราเต้ชัดๆเลย
" ต้องขอโทษด้วยนะที่ทำเธอบาดเจ็บ พอดีมัวแต่สนใจโทรศัพท์น่ะ "
" ทีหลังก็หัดสนใจรอบๆบ้างสิยะ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวเดินชนคนอื่นให้บาดเจ็บอีก "
" จร้าๆ " ถ้าฉันไม่รู้จักนิสัยของโซโนโกะที่ไอ้กรเล่าให้ฟังในโลกเก่านะ ป่านนี้คงมีปากเสียงกันเหมือนคราวของยัยราวาอิอะไรนั่นแน่
" ดีมาก เอ๊ะ เธอคือนักเรียนโรงเรียนเรียวเทย์งั้นเหรอ!?! " หลังจากสังเกตชุดของอีกฝ่ายโซโนโกะก็ตะโกนออกมาดังลั่นจนรันต้องเอามือมาตะครุบปากอีกฝ่ายเพื่อลดเสียง
" ใช่ ต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำเพื่อนเธอเจ็บ " ผมที่ลงมาปรกตาถูกฉันเสยขึ้นไปจนดูยุ่งๆมีสไตล์นิดหน่อยทำเอาโซโนโกะกับรันมีริ้วแดงเห็นได้ชัด อ้อ ต้องเป็นนักเรียนหญิงและนักเรียนชายรอบๆสิ
เขินฉันอ่ะดิพวกเธอ!!!
" ยูกิจังรีบมาเร็วเข้า!!! "
" โอ้!!! ฉันต้องไปแล้วนะไว้พบกันใหม่ " ตะโกนตอบรับประโยคของฮารุเสร็จ ประโยคต่อมาฉันก็หันมาพูดกับทั้งสองคนที่ยังคงยืนจ้องตาค้างไม่กะพริบตาจนฉันแอบหลอนนิดๆพร้อมระบายยิ้มที่ว่าจะเป็นมิตรมากที่สุด ก่อนจะเดินห่างออกไปทางทั้งสามคนที่ยืนรออยู่
" เราจะได้พบกันอีกแน่ " ฉันพูดพึมพำออกมาขณะเดินเข้าไปใกล้ทั้งสามคน
โชคดีนะที่คว้าเสื้อได้ทันไม่งั้นรันคงได้ไปนอนกินข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาลแหงๆเพราะพื้นมันเป็นคอนกรีต ล้มลงไปทีมีเจ็บพร้อมแถมบาดแผลให้ด้วย ถ้าคว้าเสื้อไม่ทันแล้วล้มลงไปนะ ชิบหาย!!!
" อย่างน้อยก็ตั้งสติเอากระเป๋าเงินของรันมาได้ก็แล้วกัน " กระเป๋าเงินสีฟ้าหม่นถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรง ก่อนจะถือวิสาสะเปิดดูของด้านในทำให้พบกับธนบัตรจำนวนหนึ่งและเหรียญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ว่าแต่...นี่คือรูปอะไรอ่ะ
" อี๋ แหวะ เหม็นความรักเหม็นคนมีคู่มากเลยค่ะ "
" เหม็นความรักอะไรของเธอ อย่าบอกนะว่าไปแอบมีตอนไหนน่ะ " เมื่อร่างของเพื่อนผมสีขาวเดินเข้ามาใกล้ ซึบาสะก็ได้ยินประโยคของยูกิที่พูดออกมาหลังจากดูรูปเสร็จพอดีทำให้เธอหรี่ตามองอย่างจับผิด
" บ้าเปล่า ก็เหม็นคนมีคู่มีความรักแถวนี้นั่นแหละ " ไม่ว่าเปล่าฉันก็พยักหน้าไปทางชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินจูงมือกันปรากฏแก่สายตาพอดีทำให้แก้สถานการณ์ได้อย่างหวุดหวิด
รูปถ่ายที่ฉันเจอในกระเป๋าของรันคือรูปคู่ระหว่างเธอกับชินอิจิที่ตอนนี้น่าจะกลายร่างเป็นเด็กผีไปแล้วในสภาพชุดมัธยมของโรงเรียนกำลังยืนโพสต์ให้กล้องอยู่ แน่นอนว่าชินอิจินั้นแค่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองกล้องเฉยๆต่างจากฝ่ายหญิงที่ฉีกยิ้มกว้าง
แค่นี้ว่าแหวะแล้วนะพอมาเจอรูปหัวใจสีชมพูด้านหลังภาพถ่ายอยากอ้วกและต้องการถุงพลาสติกขึ้นมาเสียดื้อๆกับประโยคข้อความว่า
' ขอบคุณนะ ที่อยู่ข้างกันมาตลอด '
อี๋!!! เหม็นมากเลยค่ะ ต้องการเข้าห้องน้ำไปอ้วกตอนนี้ด่วน!!!
" ดูน่ารักกันดีออก ฉันต้องกลับแล้วนะบ๊ายบาย "
" บายฮารุ "
" ทำไมฮารุรีบกลับจัง " หลังจากมองแผ่นหลังของเธอวิ่งขึ้นรถคันสีดำสุดหรูแล้ว ฉันก็หันไปถามซึบาสะที่เดินขนาบข้างกับญาติของตัวเองที่ไม่รู้นามเพราะไม่มีใครบอก
" ทางบ้านจะพาไปออกงานกระทันหันทำให้ต้องรีบไปแต่งตัวน่ะ "
" เวลานี้เนี่ยนะ! " แค่แต่งตัวเองใช้เวลาอะไรตั้งนาน
" ใช่ " พูดเสร็จเพื่อนสาวก็หันไปมองทางด้านหน้าที่ปรากฏรถคันหรูแบบเดียวกันกับของฮารุพร้อมร่างของชายวัยกลางคนคนหนึ่งในชุดสูทที่ยืนกุมมือในท่าเรียบร้อย
ฉันมองชายในชุดสูทคนนั้นสลับกับซึบาระที่ส่งยิ้มมาให้ตอนไหนไม่รู้สลับกันไปมา เมื่อคิดว่าฉันน่าจะโดนเพื่อนทิ้งในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
" หรือว่า.... "
" ขอโทษนะ ฉันก็ต้องรีบไปออกงานเหมือนกัน "
ฮืออออ เก๊าโดนเพื่อนทิ้งอ่ะทุกคน!!!T[]T
" งานเดียวกับของฮารุรึเปล่า "
" ไม่ๆๆ คนละงานอีกสองชั่วโมงก็เริ่มแล้ว ฉันต้องไปก่อนะ- " ไม่ทันที่หญิงสาวเรือนผมสีบรอนซ์จะกล่าวจบ ยูกิก็เบ๋ปากออกมาพร้อยกมือขึ้นกอดอกเป็นเชิงงอนๆ
"เชอะ!!! " ของอนหน่อยเถอะ โดนเพื่อนทิ้งตั้งแต่วันแรกที่เจอแบบนี้
" ง้อๆนะยูกิ เดี๋ยวซื้อของกินมาฝาก " ไม่ทันกล่าวจบประโยคอีกครา หญิงสาวเรือนผมสีขาวก็หันขวับพร้อมดันร่างของซึบาสะจนไปถึงตัวรถพร้อมเปิดประตูให้พอเป็นพิธี
" โอเค รีบไปๆ " นี่ไม่ได้เห็นแก่กินเลยนะ แค่ห่วงเพื่อนเพราะอยากให้รีบไปแต่งตัวสวยๆ มีเวลาทำเล็บทำผมออกงานทั้งทีก็ต้องสุดปังปิริเย่สิ
ส่วนด้านของซึบาสะเธอก็ได้แต่กรอกตามองบนกับท่าทีของเพื่อนตัวเองที่นิสัยเปลี่ยนไปมากโขแล้วจึงเดินขึ้นรถไป ทิ้งไว้เพียงแค่ชายหนุ่มเรือนผมสีดำปีกอีกาที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงข้างยูกิทั้งๆที่ชายวัยกลางคนในชุดสูทเปิดประตูรถให้แล้ว
" ไม่รีบขึ้นไปล่ะ " กลายเป็นว่ายูกิเอ่ยคำถามขึ้นมาทำลายความเงียบของพวกเธอทั้งสอง
ชายคนนั้นปรายตามองร่างบางเจ้าของเรือนผมสีขาวที่เห็นเป็นครั้งแรกเหมือนคราวของฮารุที่กลับไปแล้ว แต่เธอกลับมีบางสิ่งที่เขาคุ้นเคยแผ่ออกมาทุกครั้งที่ไปยังสถานที่นั้น
" ....... " ไอ้หมอนี่กวนรึเปล่าวะ ถามไปก็ไม่ยอมตอบเป็นใบ้รึไง
" เราเคยเจอกันรึเปล่า "
" ไม่ " ฉันปฏิเสธอย่างทันควัน
เมื่อชายคนนั้นได้คำตอบที่ออกมาจากปากของยูกิแล้ว เขาก็เดินขึ้นรถไปทั้งๆที่ภายในจิตใจกำลังกู่ร้องว่าเราเคยพบเจอกันมาก่อน
รถคันสีดำแล่นออกไปท่ามกลางนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่มองจนลับสายตา ก่อนจะไปสะดุดกับร่างของหญิงสาวทั้งสองที่ยูกิแสดงชนไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ทำให้เธอยิ้มภายในจิตใจแล้วเดินดุ่มๆไปทางทั้งสอง
" เธอที่ฉันชนเมื่อคราวนั้น ใช่กระเป๋าเงินเธอมั้ย " จากนั้นฉันก็ล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาปรากฏแก่สายตาทั้งสอง
" นี่ไงรัน กระเป๋าเงินของเธอที่กำลังตามหา "
" พอดีเก็บได้บนพื้นน่ะ " จริงๆนะ รางวัลออสการ์สาขาการแสดงควรมอบให้ฉันในปีนี้จริงๆ คนอะไรหน้าด้าน ตอแหลสุดจัดปลัดบอก
" ขอบคุณอีกครั้ง ว่าแต่เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยฉันชื่อโมริ รันเรียกแค่รันเฉยๆก็ได้ "
" ฉันชื่อกาคุรุ ยูกิเรียกแค่ยูกินั่นแหละ " เพราะถ้าเรียกกาคุรุแล้วมันรู้สึกไม่ค่อยชินปากเลย
" สีผมสมกับชื่อของเธอดี เรียกฉันว่าโซโนโกะนั่นแหละ โฮะๆ " จากนั้นเธอก็ยกมือป้องปากขณะหัวเราะทำให้ฉันได้แต่มองเอือมๆ ถ้าสมมติว่าคนอื่นไม่รู้จักนิสัยของยัยนี่นะมีหวังหมันไส้เข้าไปแน่
" ว่าแต่บ้านของยูกิจังไปทางไหนเหรอ "
" ทางนู้นน่ะ " ฉันตอบคำถามของรันพร้อมชี้ทางให้เธอดู ที่จริงแล้วก็มีทางเข้าแถวสำนักงานนักสืบของพ่อรันอยู่หรอกนะแต่ว่าทางนี้ใกล้กว่าน่ะ
" แย่จัง งั้นเราเดินไปด้วยกันก่อนดีมั้ยพอถึงทางนั้นแล้วค่อยแยกทางกัน "
" เอาสิรัน " แผนปฏิบัติการตีสนิทของสองคนนี้ลุล่วงไปด้วยดี อยากร้องเพลงธรณีกันแสงเลยคร่า
" เป็นความคิดที่เยี่ยมเพราะฉันมีเรื่องที่จะถามยูกิเยอะเลย "
" ฮะๆ " แค่ดูท่าทางของเธอที่เดินเข้ามาคล้องแขนแล้วส่งสายตาแบบนี้ คงไม่พ้นดาราภายในโรงเรียนสินะต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยแล้วกันเพราะฉันไม่รู้จักสักคนเลยโซโนโกะ
ความคิดเห็น