ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Conan x OC สวัสดีโลกโคนัน :) Hello

    ลำดับตอนที่ #16 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:พบกับยอดนักสืบตะวันตกหลงทาง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.35K
      238
      12 ธ.ค. 63





    " อย่าเพิ่งไขปริศนาของพวกเราล่ะ "


    ยูกิในคราบกางเกงยีนส์ขายาวพร้อมเสื้อยืดสีขาวลายกาแล็คซี่ที่สวมทับด้วยเสื้อเบสบอลสีดำหันไปจ้องมองมิคาเอลด้วยแววตาเบื่อๆ


    ก็เขาเล่นพูดคำนี้มาตั้งแต่สิบนาทีก่อนแล้วน่ะสิ  จะไม่ให้รำคาญก็ยังไงๆอยู่ 


    " ก็บอกกี่ครั้งแล้ว ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้หรอก ขนาดก้าวแรกฉันยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน "


    " แล้วนี่เธอจะไปไหน? "  มิคาเอลถามพร้อมเลิกคิ้วขึ้น 


    ฉันที่นั่งสวมรองเท้าเสร็จยันตัวขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหันหน้าไปทางร่างแกร่งของมิคาเอลที่กำลังยืนกอดอกพิงผนังกำแพงอีกครั้ง 


    " ก็จะไปหาเพื่อนไง "  จากนั้นฉันก็ก้มมองนาฬิกาบนโทรศัพท์ที่โชว์เลขแปด 


    ป่านนี้แล้ว  เขาจะตื่นรึยังนะ?


    ชายหนุ่มเรือนผมสีเหลืองทองที่ได้ยินคำตอบจากร่างเล็กดังนั้นกลับแสยะยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยออกไปว่า


    " ระหว่างทางกลับอพาร์ทเม้นท์ เธออย่าลืมซื้อขนมมาด้วยล่ะ "  พร้อมประกายแวววาวที่โชว์อยู่บนตาเสมือนลูกหมา


    " ตลอดที่คุณอยู่ที่นี่ คือต้องใช้เงินร่วมกับฉันทั้งหมดเลยงั้นเหรอ!?! "  ฉันตะโกนถามพร้อมเบิกตาโพลง 


    ขนาดวันแรกที่ต้องไปซื้อเสื้อผ้าพร้อมของใช้ส่วนตัวสำหรับพระเจ้าตกสวรรค์องค์นี้ก็กินเงินในบัญชีไปแล้วแปดหมื่นกว่าเยน ( ตีเป็นเงินไทยประมาณ 20,000+ ) 


    แล้วยังต้องมาใช้เงินร่วมกันทั้งสองคนแบบนี้  เงินในบัญชีฉันไม่แห้งตายก่อนถึงเดือยเลยเหรอวะ!!


    อย่ามองผิวเผินว่าแค่ค่าอาหารการกินของพระเจ้ามิคาเอลก็ไม่สะเทือนวงเงินในบัญชีฉันหรอกเพราะรายนี้กินเก่งอย่างกับนักแข่งระดับโลกเลย(=_=)


    " จะบ้ารึไง รีบไปรีบกลับล่ะ อย่าลืมว่าผมรอของกินอยู่ "


    บัตรเครดิตใบหนึ่งถูกโยนขึ้นกลางอากาศไปทางเด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่รับได้ทันอย่างเฉียดฉิว 


    ยูกิสำรวจบัตรเครดิตสักพัก  ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้าของบัตรนี้ที่เดินเข้าห้องตัวเองไปด้วยแววตาลุกโชน


    ไหงเมื่อวานแกปล่อยให้ฉันจ่ายเงินคนเดียวล่ะฟะ!!!


    ฉันคิดอย่างคับแค้นใจแล้วเดินกระทืบเท้าออกไปจากห้องพักทันที  ถ้าอยู่ต่ออีกสักพักหนึ่งฉันว่าคงได้ยินเสียงของคนข้างห้องตะโกนบ่นพวกเราแน่นอน


    จากที่พักของฉันกับของรามิลอยู่ห่างกันไม่มากนัก  แค่เดินดุ่มๆไปประมาณสิบห้านาทีก็ถึงที่หมายแล้ว  แต่สำหรับฉันคงต้องใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีกว่าเพราะยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลยและต้องหาขนมไปเผื่ออีกด้วย 


    ถือซะว่าเป็นของกำนัลจากลูกศิษย์ตัวน้อยอย่างฉันก็แล้วกัน










    ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก 


    " อืมมมมม "  


    ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ในชุดนอนส่งเสียงในลำคอออกมาพร้อมปรือตาขึ้นมองนาฬิกาหัวเตียงช้าๆ 


    เพึ่งเก้าโมงเองแล้วใครมาเคาะประตูกันล่ะ 


    รามิลคิดอย่างสงสัย  วันนี้เขาไม่ได้นัดอะไรกับใครที่ห้องด้วยซ้ำหรือว่าจะเป็นแม่บ้านมาทำความสะอาด?


    " แต่แม่บ้านก็เพิ่งเข้ามาทำให้เมื่อสองวันก่อนเอง "  แล้วใครกันล่ะ  ที่มาเคาะบานประตูห้องเขา 


    ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก 


    " คร้าบๆ "  ถึงแม้ว่ารามิลจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงติดขี้เล่นประจำตัว 


    แต่ฝ่ามือของเขากลับความหาสิ่งของที่พอจะเป็นอาวุธต่อกรได้กับบุคคลด้านนอกนั่น


    .....อย่างเช่น  ไม้บรรทัดฟุตเหล็ก 


    ก็ห้องเขาไม่มีอะไรแล้วนี่นา 


    " นั่นใครครับ "  รามิลถามขณะส่องตาแมว 


    แทนที่เขาจะได้เห็นร่างของบุคคลนั้น  กลับเห็นเพียงแค่ความว่างเปล่า 


    " ไม่ใช่คนโลกจิตหรอกใช่มั้ย " 

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    " ขอบใจแม่หนูมากนะ "  เสียงแหบแห้งของหญิงชราเอ่ย 


    " ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่มาช่วยเก็บของเฉยๆ "  ฉันกล่าวออกมาขณะก้มเก็บสมุดภาพของหญิงชราท่านนี่ที่ทำตกใส่กล่องลัง 


    " แม่หนูอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ? ทำไมยายไม่เคยเห็นหน้าแม่หนูเลย " 


    " หนูมาหาเพื่อนเฉยๆค่ะ " ระหว่างนั้นฉันก็เบนสายตาหันนไปมองประตูของรามิล 


    เมื่อไหร่จะเปิดประตูล่ะ 


    หญิงชราจ้องมองบานประตูตามสายตาของยูกิแล้วจึงระบายยิ้มหวานประดับบนใบหน้า  จนยูกิแอบสงสัย 


    " ดีใจจัง ที่พ่อหนุ่มนั่นก็มีเพื่อนกับเขาสักที " 


    " ทำไมคะ? "  ฉันถามระหว่างขมวดคิ้ว 


    " ตั้งแต่พ่อหนุ่มนั่นมาอาศัยอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยเห็นเขาออกไปไหนเลยนอกเสียจากไปโรงเรียนและซื้อของเท่านั้น "  น้ำเสียงเห็นใจของหญิงชราทำให้ยูกิมองบานประตูนั้นด้วยแววตาที่อ่อนลง 


    เขาฮอตมากเลยนะที่โรงเรียน  แต่ไม่มีเพื่อนเลยงั้นเหรอ 


    เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวสั้นประบ่าคลี่ยิ้มหวานประดับบนใบหน้าให้หญิงชราได้เห็นพร้อมกับเอ่ยประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง 


    " เขามีเพื่อนอย่างหนูและคนอื่นอีกสามคนเลยค่ะ!! "  พร้อมชูสามนิ้ว


    " งั้นขอบใจแม่หนูมากเลยนะ เดี๋ยวยายต้องเข้าห้องแล้ว หวังว่าจะได้เจอกันอีก " 


    " แน่นอนค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีนะคะ " 


    หญิงชรายิ้มตอบกลับเด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าที่ยิ้มจนตาหยี  ก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเองแล้วปิดประตูลงปล่อยให้ยูกิยิ้มค้างอยู่แบบนั้น 


    " เฮ้อ "  ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  ก่อนจะเดินย้อนไปทางห้องของรามิลที่ไม่มีวี่แววจะเปิด 


    แอ๊ดดด 


    " เอ๊ะ? "  เขาเปิดประตูแล้วนี่นาแล้วทำไมไม่โผล่หัวออกมาล่ะ 


    คิดไปก็ปวดสมองเท่านั้น  ฉันเลยยักไหล่อย่างไม่สนใจแล้วดันประตูให้เปิดกว่างขึ้นกว่าเก่าพร้อมก้าวขาเดินเข้าไปในอาณาเขตห้องที่มืดครึ้ม 


    " ย๊ากกก!!! " 


    " เฮ้ย!!! " 


    เพราะความตกใจประกอบกับสัญชาติตยานที่มีอยู่ภายในตัวทำให้ฉันเผลอหลบสิ่งของบางอย่างที่ฟาดลงมาอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะตวัดขาหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางหมายจะโดนชายโครงของบุคคลนั้น


      แต่ก็หยุดการกระทำของตนในท่ายกขาค้างกลางอากาศได้ก่อนจะโดนตัวเพราะแสงแดดที่ลอดออกมาจากผ้าม่านกระทบใบหน้าของชายหนุ่มที่เบิกตาโพลงอย่างตกใจอยู่ 


    เกือบไปแล้วๆ!!! 


    " ขะ...ขอโทษ "  ฉันวางขาลงขนานกับพื้นพร้อมพนมมือข้างหนึ่งอย่างลืมตัว 


    รามิลเขาช็อคกลางอากาศไปแล้ว!!!  


    กรึ๊ก! 


    " อ๊ะ "  ฉันร้องเสียงหลงออกมาเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากแขนที่เข้าเฝือก 


    " ยะ...ยูกิเองเหรอ "  รามิลถาม 


    " ก็ใช่น่ะสิ! แล้วนายฟาดอะไรลงมาเนี่ย โชคดีนะที่ฉันหลบทันน่ะ " 


    " ฟุตเหล็ก ก็ฉันนึกว่าเป็นคนโลกจิตอะไรทำนองนั้นนี่นา หลังจากเธอเคาะประตูแล้วฉันไปส่องตาแมวกลับเห็นเพียงแต่ความว่างเปล่า "  ไม้บรรทัดที่อยู่ในฝ่ามือหนาถูกโยนไปทางโซฟาพร้อมร่างสูงของเขาที่ป้องปากหาว 


    " ตอนนั้นไปช่วยคุณยายเก็บของที่ตกแล้วนายเพิ่งตื่นจริงดิ? "  ฉันถามขึ้นมาพร้อมสำรวจชุดนอนที่เห็นลางๆ 


    " อืม " 


    ฉันพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจแล้วจัดการเปิดม่านสีทึบให้ห้้องสว่างขึ้น  ก่อนจะมองสภาพห้องของเขาด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย 


    ซากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็วางระเกะระกะเช่นเดียวกับกองเสื้อผ้าที่วางอยู่นอกตะกร้า 


    ไหนจะกลิ่นอับๆนี่อีก  เขาทนอยู่ไปได้ยังไง 


    " ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยเร็วๆล่ะ " 


    " เดี๋ยว แล้วเธอรู้ที่อยู่ของฉันได้ไง!?! " 


    หูจะแตก  อิเวร 


    " ให้ซึบาสะค้นให้คงไม่ยากเย็นซะเท่าไหร่ วันนี้นายต้องสอนฉันล่ะ "


    ปึก  ปึก 


    ไม่ว่าเปล่า  ฉันก็ตบเข้าที่กระเป๋าโน๊ตบุ๊กของตัวเองท่ามกลางสายตาของรามิลที่มองอย่างเอือมๆ 


    คนมันเจ๋งก็งี้แหละนร้า~ 


    " เคๆ งั้นรอแปปนึง "  จากนั้นรามิลก็เดินเข้าห้องน้ำที่อยู่อีกห้องหนึ่งทันที 


    " เหอะ ไม่บุกเข้ามาตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว " ฉันพูดระหว่างทำความสะอาดห้องของเขาเพราะทนความซกมกไม่ไหวจนรามิลเดินมานั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม 


    ถ้าบอกว่าเขาเป็นโปรแกรมเมอร์สายมืออาชีพก็เชื่ออยู่หรอกนะเพราะคอมของเขามีอยู่ตั้งสามเครื่องพร้อมแบบสั่งทำอีกต่างหาก 


    " มัวยืนรออะไรอยู่ มานั่งนี่สิ "  เขาพูดพร้อมตบเก้าอี้ข้างกายเป็นการเชื้อเชิญ 


    ร่างเพรียวบางของเด็กสาวเดินเข้าไปนั่งพร้อมกับอาหารเวฟในกำมือที่ถูกส่งไปให้รามิลที่ยิ้มอย่างดีใจแล้วลงมือรับประทานหลังจากรับไม่กี่วินาที 


    เป็นเวลาสี่ชั่วโมงกว่าที่ยูกิต้องมาทนนั่งเก้าอี้พร้อมนิ้วมือที่รัวกดแป้นพิมพ์จนดังก้องไปทั่วห้องที่เงียบสนิท  ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของอย่างรามิลกลับนอนฟังเพลงบนเตียงนอนอย่างเริงร่า


    แกร๊ก  แกร๊ก  แกร๊ก 


    " รามิล! ตรงนี้ต้องกดตัวเอ็นใช่มั้ย "  ยูกิอ้าปากตะโกนถาม  แม้ว่านัยน์ตาของเธอจะจดจ่ออยู่กับหน้าคอมแทนที่จะเป็นใบหน้าของบุคคลที่ถาม 


    รามิลเอียงคอมองตัวอักษรที่ถูกพิมพ์ค้างไว้อย่างขมวดคิ้วแล้วเอ่ยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว


    " ...ใช่ " 


    แกร๊ก 


    " ฮู้ว เสร็จแล้ว " 


    ภาพของแอปทดลองบางอย่างเด้งเข้ามาเต็มหน้าจอคอมของรามิลพร้อมตัวละครเริ่มต้นที่ทดลองออกแบบ  


    ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลเข้มพร้อมเสื้อฮู้ดสีฟ้าคลุมไหล่ลุกขึ้นยืนเต้มความสูงพรางเดินเข้ามาคลิ๊กเม้าท์สลับไปมาราวกับอาจารย์ที่ตรวจงานนักเรียน  จนเด็กสาวแอบกลืนน้ำลายก้อนเหนียวๆลงไปเอื๊อกใหญ่ 


    เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เธอต้องมาคอยมองตัวอย่างที่รามิลร่างไว้ให้แล้วค่อยไปพิมพ์โค้ดตามหรือบางครั้งเธอก็ต้องมาคอยคิดเองบ้างเพราะจุดประสงค์ตัวอย่างของรามิลกับของเธอมันแตกต่างกัน 


    " ก็ใช้ได้หนิสำหรับวันแรก " 


    " เฮ้อ โล่งอกไปที "  ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกุมอก 


    " เธอก็มีพรสวรรค์อยู่นี่นา "  รามิลกล่าว 


    ใบหน้าเรียวได้รูปส่ายไปมาพร้อมทอดมองวิวหน้าต่างตรงหน้าที่เปิดม่านขึ้นด้วยความผ่อนคลาย 


    " ไม่หรอก ส่วนใหญ่ฉันโดนคนเปรียบเทียบว่าเหมือนเป็ดน่ะ ทำได้ทุกอย่างแต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย " 


    " ช่างมันสิ แล้วนี่จะกลับเลยมั้ย " 


    " ก็กลับเลยนั่นแหละ "


    " งั้นก็โชคดีก็แล้วกันนะ "


    นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่กำลังจ้องมองฝ่ามือของตนจับลูกบิดประตูอยู่ได้เบนสายตาไปมองใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังมองตนอยู่ด้วยแววตายากที่จะคาดเดา 


    " ไว้เจอกันใหม่ เพื่อน "  จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมปิดประตูดังปัง







    " ทั้งหมด 900 เยนครับ "


    " ขอบคุณค่ะ "  ถุงพลาสติกที่ภายในบรรจุถุงขนมหลายห่อถูกยื่นให้เด็กสาวที่ฟังเพลงคลอเบาๆ


    ยูกิจัดแต่งทรงผมตัวเองสักพักบริเวณหน้าร้านแล้วจึงสับเท้าเดินไปตามทางกลับอพาร์ทเม้นท์ของตนด้วยสบายใจ 


    " เอ่อ ขอโทษนะครับ "  น้ำเสียงเหน่อของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำให้ยูกิต้องหันไปมองอย่างนึกสงสัย


    ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทพร้อมผิวสีแทนที่คร่อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเกาหลังคออย่างเก้อเขินเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่แขนเข้าเฝือก 


    " พอดีฉันหลงทาง แล้วกำลังจะไปสำนักงานนักสืบโมริครับ " 


    ยูกิหรี่ตามองบุคลตรงหน้าอย่างนึกคิดแล้วจึงร้องอ๋อในใจ  เมื่อจำได้ว่าเขาเป็นตัวละครหลักฝ่ายพระเอกของเรื่องนี้ 


    แต่ที่แย่ก็คือ  เธอจำชื่อเขาไม่ได้น่ะสิ 


    " แสดงว่าคุณไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ยคะ " 


    " ครับ อ้อ! ฉันฮัตโตริ เฮย์จิ "  กล่าวจบฝ่ามือก็ถูกยื่นมาทางเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม 


    เธอมองฝ่ามือหนาของเฮย์จิสักครู่แล้วจึงเมินการจับมือไประบายยิ้มอ่อนแทนขณะแนะนำตัว


    " ฉันยูกิ กาคุรุ ยูกิ " 


    เฮย์จิหัวเราะแก้เขินพร้อมชักมือตัวเองกลับเมื่อลืมว่าบุคคลตรงหน้านั้นแขนเข้าเฝือก  ส่วนแขนอีกข้างก็คอยถือถุงขนมที่ดูจะมีมากเกินตัวร่างเล็กตรงหน้าเขา 


    ยูกิหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วจึงเปิดปากเอ่ยประโยคต่อไป 


    " ถ้าจะไปสำนักงานนักสืบนั่น คุณต้องเลี้ยวเข้าไปทางขวาแล้วค่อยเลี้ยวไปทางซ้ายหลังจากผ่านสามแยกมาแล้ว เมื่อคุณเห็นอพาร์ทเม้นท์***ก็แสดงว่าคุณเข้าสู้เส้นหลักแล้ว "  ฉันพูดอธิบายโดยย่อ


    แต่พอมองกลับมายังบุคคลนั้นกลับเห็นใบหน้ามึนงงและเอ๋อแดกแทนทำให้เส้นเลือดบริเวณขมับปูดขึ้นมาเล็กน้อย 


    " แล้วคุณกาคุรุกำลังจะไปไหนครับ "  เฮย์จิที่เห็นเสื้อเลือดขมับของเด็กสาวกลับยิ้มแห้งแทนพร้อมชวนคุยเปลี่ยนเรื่องทันที 


    " อพาร์ทเมนท์***ที่บอกก่อนหน้านี้ค่ะ "


    ชายหนุ่มยอดนักสืบของตะวันตกยกยิ้มขึ้นจนยูกิแอบคิ้วกระตุก


    " งั้นก็ไปด้วยกันเลยสิครับ " 


    เฮ้ยๆ  นายชักจะไว้ใจคนแปลกหน้ามากเกินไปแล้วนะ 


    " เราเพิ่งพบกันนะคะ ไม่กลัวว่าฉันเป็นมิจฉาชีพเหรอ " 


    " หึ มิจฉาชีพที่ตอนนี้แขนเข้าเฝือกอยู่ฉันไม่กลัวหรอก "  การพูดที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่มโอซาก้าเรียกรอยยิ้มมุมปากจากเด็กสาว 


    " งั้นขออนุญาตก็แล้วกัน "  


    " เชิญเลยครับ "  เฮย์จิกล่าวพร้อมผายมือข้างที่ถนัดไปทางเบาะด้านหลัง








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×