คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:พบกับยอดนักสืบตะวันตกหลงทาง
" อย่าเพิ่งไขปริศนาของพวกเราล่ะ "
ยูกิในคราบกางเกงยีนส์ขายาวพร้อมเสื้อยืดสีขาวลายกาแล็คซี่ที่สวมทับด้วยเสื้อเบสบอลสีดำหันไปจ้องมองมิคาเอลด้วยแววตาเบื่อๆ
ก็เขาเล่นพูดคำนี้มาตั้งแต่สิบนาทีก่อนแล้วน่ะสิ จะไม่ให้รำคาญก็ยังไงๆอยู่
" ก็บอกกี่ครั้งแล้ว ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้หรอก ขนาดก้าวแรกฉันยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน "
" แล้วนี่เธอจะไปไหน? " มิคาเอลถามพร้อมเลิกคิ้วขึ้น
ฉันที่นั่งสวมรองเท้าเสร็จยันตัวขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหันหน้าไปทางร่างแกร่งของมิคาเอลที่กำลังยืนกอดอกพิงผนังกำแพงอีกครั้ง
" ก็จะไปหาเพื่อนไง " จากนั้นฉันก็ก้มมองนาฬิกาบนโทรศัพท์ที่โชว์เลขแปด
ป่านนี้แล้ว เขาจะตื่นรึยังนะ?
ชายหนุ่มเรือนผมสีเหลืองทองที่ได้ยินคำตอบจากร่างเล็กดังนั้นกลับแสยะยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยออกไปว่า
" ระหว่างทางกลับอพาร์ทเม้นท์ เธออย่าลืมซื้อขนมมาด้วยล่ะ " พร้อมประกายแวววาวที่โชว์อยู่บนตาเสมือนลูกหมา
" ตลอดที่คุณอยู่ที่นี่ คือต้องใช้เงินร่วมกับฉันทั้งหมดเลยงั้นเหรอ!?! " ฉันตะโกนถามพร้อมเบิกตาโพลง
ขนาดวันแรกที่ต้องไปซื้อเสื้อผ้าพร้อมของใช้ส่วนตัวสำหรับพระเจ้าตกสวรรค์องค์นี้ก็กินเงินในบัญชีไปแล้วแปดหมื่นกว่าเยน ( ตีเป็นเงินไทยประมาณ 20,000+ )
แล้วยังต้องมาใช้เงินร่วมกันทั้งสองคนแบบนี้ เงินในบัญชีฉันไม่แห้งตายก่อนถึงเดือยเลยเหรอวะ!!
อย่ามองผิวเผินว่าแค่ค่าอาหารการกินของพระเจ้ามิคาเอลก็ไม่สะเทือนวงเงินในบัญชีฉันหรอกเพราะรายนี้กินเก่งอย่างกับนักแข่งระดับโลกเลย(=_=)
" จะบ้ารึไง รีบไปรีบกลับล่ะ อย่าลืมว่าผมรอของกินอยู่ "
บัตรเครดิตใบหนึ่งถูกโยนขึ้นกลางอากาศไปทางเด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่รับได้ทันอย่างเฉียดฉิว
ยูกิสำรวจบัตรเครดิตสักพัก ก่อนจะเงยหน้ามองเจ้าของบัตรนี้ที่เดินเข้าห้องตัวเองไปด้วยแววตาลุกโชน
ไหงเมื่อวานแกปล่อยให้ฉันจ่ายเงินคนเดียวล่ะฟะ!!!
ฉันคิดอย่างคับแค้นใจแล้วเดินกระทืบเท้าออกไปจากห้องพักทันที ถ้าอยู่ต่ออีกสักพักหนึ่งฉันว่าคงได้ยินเสียงของคนข้างห้องตะโกนบ่นพวกเราแน่นอน
จากที่พักของฉันกับของรามิลอยู่ห่างกันไม่มากนัก แค่เดินดุ่มๆไปประมาณสิบห้านาทีก็ถึงที่หมายแล้ว แต่สำหรับฉันคงต้องใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีกว่าเพราะยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลยและต้องหาขนมไปเผื่ออีกด้วย
ถือซะว่าเป็นของกำนัลจากลูกศิษย์ตัวน้อยอย่างฉันก็แล้วกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" อืมมมมม "
ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ในชุดนอนส่งเสียงในลำคอออกมาพร้อมปรือตาขึ้นมองนาฬิกาหัวเตียงช้าๆ
เพึ่งเก้าโมงเองแล้วใครมาเคาะประตูกันล่ะ
รามิลคิดอย่างสงสัย วันนี้เขาไม่ได้นัดอะไรกับใครที่ห้องด้วยซ้ำหรือว่าจะเป็นแม่บ้านมาทำความสะอาด?
" แต่แม่บ้านก็เพิ่งเข้ามาทำให้เมื่อสองวันก่อนเอง " แล้วใครกันล่ะ ที่มาเคาะบานประตูห้องเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" คร้าบๆ " ถึงแม้ว่ารามิลจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงติดขี้เล่นประจำตัว
แต่ฝ่ามือของเขากลับความหาสิ่งของที่พอจะเป็นอาวุธต่อกรได้กับบุคคลด้านนอกนั่น
.....อย่างเช่น ไม้บรรทัดฟุตเหล็ก
ก็ห้องเขาไม่มีอะไรแล้วนี่นา
" นั่นใครครับ " รามิลถามขณะส่องตาแมว
แทนที่เขาจะได้เห็นร่างของบุคคลนั้น กลับเห็นเพียงแค่ความว่างเปล่า
" ไม่ใช่คนโลกจิตหรอกใช่มั้ย "
.
.
.
.
.
.
" ขอบใจแม่หนูมากนะ " เสียงแหบแห้งของหญิงชราเอ่ย
" ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่มาช่วยเก็บของเฉยๆ " ฉันกล่าวออกมาขณะก้มเก็บสมุดภาพของหญิงชราท่านนี่ที่ทำตกใส่กล่องลัง
" แม่หนูอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ? ทำไมยายไม่เคยเห็นหน้าแม่หนูเลย "
" หนูมาหาเพื่อนเฉยๆค่ะ " ระหว่างนั้นฉันก็เบนสายตาหันนไปมองประตูของรามิล
เมื่อไหร่จะเปิดประตูล่ะ
หญิงชราจ้องมองบานประตูตามสายตาของยูกิแล้วจึงระบายยิ้มหวานประดับบนใบหน้า จนยูกิแอบสงสัย
" ดีใจจัง ที่พ่อหนุ่มนั่นก็มีเพื่อนกับเขาสักที "
" ทำไมคะ? " ฉันถามระหว่างขมวดคิ้ว
" ตั้งแต่พ่อหนุ่มนั่นมาอาศัยอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยเห็นเขาออกไปไหนเลยนอกเสียจากไปโรงเรียนและซื้อของเท่านั้น " น้ำเสียงเห็นใจของหญิงชราทำให้ยูกิมองบานประตูนั้นด้วยแววตาที่อ่อนลง
เขาฮอตมากเลยนะที่โรงเรียน แต่ไม่มีเพื่อนเลยงั้นเหรอ
เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวสั้นประบ่าคลี่ยิ้มหวานประดับบนใบหน้าให้หญิงชราได้เห็นพร้อมกับเอ่ยประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง
" เขามีเพื่อนอย่างหนูและคนอื่นอีกสามคนเลยค่ะ!! " พร้อมชูสามนิ้ว
" งั้นขอบใจแม่หนูมากเลยนะ เดี๋ยวยายต้องเข้าห้องแล้ว หวังว่าจะได้เจอกันอีก "
" แน่นอนค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีนะคะ "
หญิงชรายิ้มตอบกลับเด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าที่ยิ้มจนตาหยี ก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเองแล้วปิดประตูลงปล่อยให้ยูกิยิ้มค้างอยู่แบบนั้น
" เฮ้อ " ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินย้อนไปทางห้องของรามิลที่ไม่มีวี่แววจะเปิด
แอ๊ดดด
" เอ๊ะ? " เขาเปิดประตูแล้วนี่นาแล้วทำไมไม่โผล่หัวออกมาล่ะ
คิดไปก็ปวดสมองเท่านั้น ฉันเลยยักไหล่อย่างไม่สนใจแล้วดันประตูให้เปิดกว่างขึ้นกว่าเก่าพร้อมก้าวขาเดินเข้าไปในอาณาเขตห้องที่มืดครึ้ม
" ย๊ากกก!!! "
" เฮ้ย!!! "
เพราะความตกใจประกอบกับสัญชาติตยานที่มีอยู่ภายในตัวทำให้ฉันเผลอหลบสิ่งของบางอย่างที่ฟาดลงมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตวัดขาหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางหมายจะโดนชายโครงของบุคคลนั้น
แต่ก็หยุดการกระทำของตนในท่ายกขาค้างกลางอากาศได้ก่อนจะโดนตัวเพราะแสงแดดที่ลอดออกมาจากผ้าม่านกระทบใบหน้าของชายหนุ่มที่เบิกตาโพลงอย่างตกใจอยู่
เกือบไปแล้วๆ!!!
" ขะ...ขอโทษ " ฉันวางขาลงขนานกับพื้นพร้อมพนมมือข้างหนึ่งอย่างลืมตัว
รามิลเขาช็อคกลางอากาศไปแล้ว!!!
กรึ๊ก!
" อ๊ะ " ฉันร้องเสียงหลงออกมาเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากแขนที่เข้าเฝือก
" ยะ...ยูกิเองเหรอ " รามิลถาม
" ก็ใช่น่ะสิ! แล้วนายฟาดอะไรลงมาเนี่ย โชคดีนะที่ฉันหลบทันน่ะ "
" ฟุตเหล็ก ก็ฉันนึกว่าเป็นคนโลกจิตอะไรทำนองนั้นนี่นา หลังจากเธอเคาะประตูแล้วฉันไปส่องตาแมวกลับเห็นเพียงแต่ความว่างเปล่า " ไม้บรรทัดที่อยู่ในฝ่ามือหนาถูกโยนไปทางโซฟาพร้อมร่างสูงของเขาที่ป้องปากหาว
" ตอนนั้นไปช่วยคุณยายเก็บของที่ตกแล้วนายเพิ่งตื่นจริงดิ? " ฉันถามขึ้นมาพร้อมสำรวจชุดนอนที่เห็นลางๆ
" อืม "
ฉันพยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจแล้วจัดการเปิดม่านสีทึบให้ห้้องสว่างขึ้น ก่อนจะมองสภาพห้องของเขาด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย
ซากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็วางระเกะระกะเช่นเดียวกับกองเสื้อผ้าที่วางอยู่นอกตะกร้า
ไหนจะกลิ่นอับๆนี่อีก เขาทนอยู่ไปได้ยังไง
" ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยเร็วๆล่ะ "
" เดี๋ยว แล้วเธอรู้ที่อยู่ของฉันได้ไง!?! "
หูจะแตก อิเวร
" ให้ซึบาสะค้นให้คงไม่ยากเย็นซะเท่าไหร่ วันนี้นายต้องสอนฉันล่ะ "
ปึก ปึก
ไม่ว่าเปล่า ฉันก็ตบเข้าที่กระเป๋าโน๊ตบุ๊กของตัวเองท่ามกลางสายตาของรามิลที่มองอย่างเอือมๆ
คนมันเจ๋งก็งี้แหละนร้า~
" เคๆ งั้นรอแปปนึง " จากนั้นรามิลก็เดินเข้าห้องน้ำที่อยู่อีกห้องหนึ่งทันที
" เหอะ ไม่บุกเข้ามาตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว " ฉันพูดระหว่างทำความสะอาดห้องของเขาเพราะทนความซกมกไม่ไหวจนรามิลเดินมานั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม
ถ้าบอกว่าเขาเป็นโปรแกรมเมอร์สายมืออาชีพก็เชื่ออยู่หรอกนะเพราะคอมของเขามีอยู่ตั้งสามเครื่องพร้อมแบบสั่งทำอีกต่างหาก
" มัวยืนรออะไรอยู่ มานั่งนี่สิ " เขาพูดพร้อมตบเก้าอี้ข้างกายเป็นการเชื้อเชิญ
ร่างเพรียวบางของเด็กสาวเดินเข้าไปนั่งพร้อมกับอาหารเวฟในกำมือที่ถูกส่งไปให้รามิลที่ยิ้มอย่างดีใจแล้วลงมือรับประทานหลังจากรับไม่กี่วินาที
เป็นเวลาสี่ชั่วโมงกว่าที่ยูกิต้องมาทนนั่งเก้าอี้พร้อมนิ้วมือที่รัวกดแป้นพิมพ์จนดังก้องไปทั่วห้องที่เงียบสนิท ในขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของอย่างรามิลกลับนอนฟังเพลงบนเตียงนอนอย่างเริงร่า
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก
" รามิล! ตรงนี้ต้องกดตัวเอ็นใช่มั้ย " ยูกิอ้าปากตะโกนถาม แม้ว่านัยน์ตาของเธอจะจดจ่ออยู่กับหน้าคอมแทนที่จะเป็นใบหน้าของบุคคลที่ถาม
รามิลเอียงคอมองตัวอักษรที่ถูกพิมพ์ค้างไว้อย่างขมวดคิ้วแล้วเอ่ยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว
" ...ใช่ "
แกร๊ก
" ฮู้ว เสร็จแล้ว "
ภาพของแอปทดลองบางอย่างเด้งเข้ามาเต็มหน้าจอคอมของรามิลพร้อมตัวละครเริ่มต้นที่ทดลองออกแบบ
ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลเข้มพร้อมเสื้อฮู้ดสีฟ้าคลุมไหล่ลุกขึ้นยืนเต้มความสูงพรางเดินเข้ามาคลิ๊กเม้าท์สลับไปมาราวกับอาจารย์ที่ตรวจงานนักเรียน จนเด็กสาวแอบกลืนน้ำลายก้อนเหนียวๆลงไปเอื๊อกใหญ่
เกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เธอต้องมาคอยมองตัวอย่างที่รามิลร่างไว้ให้แล้วค่อยไปพิมพ์โค้ดตามหรือบางครั้งเธอก็ต้องมาคอยคิดเองบ้างเพราะจุดประสงค์ตัวอย่างของรามิลกับของเธอมันแตกต่างกัน
" ก็ใช้ได้หนิสำหรับวันแรก "
" เฮ้อ โล่งอกไปที " ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกุมอก
" เธอก็มีพรสวรรค์อยู่นี่นา " รามิลกล่าว
ใบหน้าเรียวได้รูปส่ายไปมาพร้อมทอดมองวิวหน้าต่างตรงหน้าที่เปิดม่านขึ้นด้วยความผ่อนคลาย
" ไม่หรอก ส่วนใหญ่ฉันโดนคนเปรียบเทียบว่าเหมือนเป็ดน่ะ ทำได้ทุกอย่างแต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย "
" ช่างมันสิ แล้วนี่จะกลับเลยมั้ย "
" ก็กลับเลยนั่นแหละ "
" งั้นก็โชคดีก็แล้วกันนะ "
นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่กำลังจ้องมองฝ่ามือของตนจับลูกบิดประตูอยู่ได้เบนสายตาไปมองใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังมองตนอยู่ด้วยแววตายากที่จะคาดเดา
" ไว้เจอกันใหม่ เพื่อน " จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมปิดประตูดังปัง
" ทั้งหมด 900 เยนครับ "
" ขอบคุณค่ะ " ถุงพลาสติกที่ภายในบรรจุถุงขนมหลายห่อถูกยื่นให้เด็กสาวที่ฟังเพลงคลอเบาๆ
ยูกิจัดแต่งทรงผมตัวเองสักพักบริเวณหน้าร้านแล้วจึงสับเท้าเดินไปตามทางกลับอพาร์ทเม้นท์ของตนด้วยสบายใจ
" เอ่อ ขอโทษนะครับ " น้ำเสียงเหน่อของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำให้ยูกิต้องหันไปมองอย่างนึกสงสัย
ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทพร้อมผิวสีแทนที่คร่อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเกาหลังคออย่างเก้อเขินเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่แขนเข้าเฝือก
" พอดีฉันหลงทาง แล้วกำลังจะไปสำนักงานนักสืบโมริครับ "
ยูกิหรี่ตามองบุคลตรงหน้าอย่างนึกคิดแล้วจึงร้องอ๋อในใจ เมื่อจำได้ว่าเขาเป็นตัวละครหลักฝ่ายพระเอกของเรื่องนี้
แต่ที่แย่ก็คือ เธอจำชื่อเขาไม่ได้น่ะสิ
" แสดงว่าคุณไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ยคะ "
" ครับ อ้อ! ฉันฮัตโตริ เฮย์จิ " กล่าวจบฝ่ามือก็ถูกยื่นมาทางเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม
เธอมองฝ่ามือหนาของเฮย์จิสักครู่แล้วจึงเมินการจับมือไประบายยิ้มอ่อนแทนขณะแนะนำตัว
" ฉันยูกิ กาคุรุ ยูกิ "
เฮย์จิหัวเราะแก้เขินพร้อมชักมือตัวเองกลับเมื่อลืมว่าบุคคลตรงหน้านั้นแขนเข้าเฝือก ส่วนแขนอีกข้างก็คอยถือถุงขนมที่ดูจะมีมากเกินตัวร่างเล็กตรงหน้าเขา
ยูกิหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วจึงเปิดปากเอ่ยประโยคต่อไป
" ถ้าจะไปสำนักงานนักสืบนั่น คุณต้องเลี้ยวเข้าไปทางขวาแล้วค่อยเลี้ยวไปทางซ้ายหลังจากผ่านสามแยกมาแล้ว เมื่อคุณเห็นอพาร์ทเม้นท์***ก็แสดงว่าคุณเข้าสู้เส้นหลักแล้ว " ฉันพูดอธิบายโดยย่อ
แต่พอมองกลับมายังบุคคลนั้นกลับเห็นใบหน้ามึนงงและเอ๋อแดกแทนทำให้เส้นเลือดบริเวณขมับปูดขึ้นมาเล็กน้อย
" แล้วคุณกาคุรุกำลังจะไปไหนครับ " เฮย์จิที่เห็นเสื้อเลือดขมับของเด็กสาวกลับยิ้มแห้งแทนพร้อมชวนคุยเปลี่ยนเรื่องทันที
" อพาร์ทเมนท์***ที่บอกก่อนหน้านี้ค่ะ "
ชายหนุ่มยอดนักสืบของตะวันตกยกยิ้มขึ้นจนยูกิแอบคิ้วกระตุก
" งั้นก็ไปด้วยกันเลยสิครับ "
เฮ้ยๆ นายชักจะไว้ใจคนแปลกหน้ามากเกินไปแล้วนะ
" เราเพิ่งพบกันนะคะ ไม่กลัวว่าฉันเป็นมิจฉาชีพเหรอ "
" หึ มิจฉาชีพที่ตอนนี้แขนเข้าเฝือกอยู่ฉันไม่กลัวหรอก " การพูดที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่มโอซาก้าเรียกรอยยิ้มมุมปากจากเด็กสาว
" งั้นขออนุญาตก็แล้วกัน "
" เชิญเลยครับ " เฮย์จิกล่าวพร้อมผายมือข้างที่ถนัดไปทางเบาะด้านหลัง
ความคิดเห็น