คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:ก้าวแรกของอันดับที่ยี่สิบ
" ถอดชุด "
" เจ้าสมองเพี้ยนแล้วรึไงกัน " เสียงทุ้มกล่าวออกมาด้วยความตระหนกต่อหน้าร่างเพรียวบางของหญิงสาวเรือนผมสีขาว
ยูกิกรอกตามองบนกับสีหน้าท่าทางของร่างแกร่งที่แสดงออกมาเสมือนเห็นสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งผิดปกติบนตัวเธอเสียอย่างงั้นนาน
ให้ตายสิ นี่เธอมายืนรอชุดของพระเจ้านั่นตั้งแต่กลับจากโรงเรียนเรียวเทย์ จนตอนนี้เกือบห้าโมงเย็นแล้ว
รีบๆถอดมาสักทีสิโว๊ย!!!
" ปกติทุกอย่างย่ะ "
" ไม่มีสตรีใดที่สั่งให้ผู้ชายแก้ผ้าต่อหน้าแล้วนับว่าเป็นเรื่องปกติหรอกนะ "
" แล้วใครบอกให้คุณถอดตรงนี้กันล่ะ ห้องน้ำอยู่ตรงนู้นนนน " ฉันพูดพร้อมยื่นหน้าไปทางห้องน้ำที่อยู่ตรงมุมห้องนอนของมิคาเอลในตอนนี้
" แล้วทำไม ข้าถึงต้องทำตามคำสั่งของเจ้า " อีกฝ่ายพูดกวนประสาทร่างบาง
เส้นเลือดที่ขมับปูดขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัดหลังสิ้นประโยคของมิคาเอล ยูกิเผยอยิ้มอย่างอำมหิตขณะหักข้อนิ้วไปพรางก่อนจะกล่าวว่า
" เพราะตอนนี้ชีวิตคุณขึ้นอยู่กับฉัน ถ้ายังไม่อยากกลายเป็นพระเจ้าข้างถนน ก็กรุณาถอดชุดให้ฉันเอาไปเข้าเครื่องได้แล้ว " พร้อมส่งเสียงหัวเราะแห้งๆออกไประหว่างตีไหล่ฝั่งซ้ายของมิคาเอล
ไม่รีรอประโยคอีกต่อไป ร่างสูงเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเหลื่อมอัญมณีก็ลุกขึ้นเดินถือผ้าขนหนูสีขาวสะอาดเข้าห้องน้ำทันที ตามด้วยเสียงประตูที่ถูกปิดดังปัง!
" เร็วๆเข้าล่ะ เพราะวันนี้ฉันต้องพาคุณไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่ห้างอีก อย่าลืมนะ!! "
" อืม "
ได้ยินดังนั้นรอยยิ้มแห่งชัยชนะก็ถูกคลี่ประดับบนใบหน้าฉันทันที เตียงนอนขนาดหกฟุตยุบลงไปตามร่างของฉันที่ขึ้นไปนอนแผ่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการถกเถียงกับมิคาเอลเป็นเวลานาน
ตั้งแต่ที่เขาตกจากสวรรค์แล้วถือวิสาสะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ความนับถือของฉันต่อพระเจ้าก็ดูลดน้อยลงทุกวัน
ดูยังไงเจ้ามิคาเอลนั่นก็ดูเป็นคนขี้เกียจชัดๆ!
" ไหนว่าเจ้ารีบยังไงล่ะแล้วมานอนบนเตียงข้าทำไม "
" ก็อยากนอน เอางี้มั้ย เดี๋ยวฉันเอากุญแจรถให้แล้วคุณขับไปซื้อของที่ห้างเลยเป็นไง ถือซะว่าเป็นการเที่ยวโลกมนุษย์ครั้งแรกในรอบนี้ " จากนั้นฉันก็พลิกตัวนอนหันหลังให้มิคาเอลหลังจากกล่าวจบ
ชายหนุ่มเรือนผมสีทองส่ายหน้าด้วยความเอือมละอาพรางขยี้ผมจนยุ่งไม่เป็นทรงจากนั้นก็จัดการกระชากผ้าห่มออกจากร่างเด็กสาวบนเตียงนอนอย่างรวดเร็ว
" เจ้าอย่าลืมสิ ว่าข้าพึ่งลงมาเมื่อวานนี้เอง "
" คุณก็เคยลงมาหลายรอบแล้วหนิเพราะฉะนั้นก็ไปจัดการเอาเองซะ " ฉันบิดขี้เกียจพร้อมหาววอดเป็นท่าทางประกอบแล้วลุกขึ้นดึงผ้าห่มจากกำมือของร่างสูง
โอเค ฉันว่าตัวเองก็เป็นตัวขี้เกียจมากพอสมควร
" ทุกครั้งที่ข้าลงมา ดวงวิญญาณเป็นเพศชายทั้งหมดและไม่ใช่ประเทศนี้ด้วยซ้ำ "
ราวกับคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลอย่างรวดเร็ว ยูกิลุกขึ้นจากเตียงนอนเต็มความสูง
พร้อมคว้าเสื้อผ้าตัวโตบริเวณปลายเตียงแล้วเดินออกจากห้องที่มีร่างสูงของมิคาเอลหัวเราะไล่หลังอยู่ทันที
" ได้โปรดท่านนิโคลัส ช่วยเริ่มภารกิจตอนนี้เลยได้มั้ย! " ฉันพูดออกมาอย่างปลงๆระหว่างเดินเฉิบๆไปยังห้องนอนของมิคาเอล
เมื่อประตูไม้บานโตถูกเปิดไปตามแรงกระทำ นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลของเด็กสาวก็ปะทะเข้ากับร่างหนาของชายหนุ่มผมทองอย่างมิคาเอลที่กำลังนอนเท้าแขนไว้ที่หมอน ในขณะที่ดวงตาคอยจับจ้องไปยังโทรทัศน์บนผนัง
" ..... "
โอ้ว ซิคแพ็ค ช่างเป็นอาหารตาของวันนี้จริง
ไม่ๆๆ อิไข่ตุ๋น เอ้ย อิยูกิ แกจะมาบ้าผู้ชายตอนนี้ไม่ได้นะ นั่นพระเจ้าเลยนะ!
.
.
.
.
.
.
.
....พระเจ้าเวรไง
" อะไรกัน ทำไมเจ้าทำสีหน้าแบบนั้นเล่า "
" ก็...รู้สึกว่าคุณชักจะสบายมากเกินไปแล้วไง "
มิคาเอลยันตัวรับเสื้อผ้าของตนที่ยูกิโยนขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็วแล้วหันไปขมวดคิ้วใส่อีกฝ่ายที่ยืนปรายตามองขึ้นๆลงๆบนตัวเขา
มีอะไรแปลกไปงั้นเหรอ?
" มัวรออะไรอยู่ เราต้องรีบนะ "
" อืม "
" ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ "
ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีขาวเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าภายในตัวห้างด้วยใบหน้ามึนๆในขณะที่ฝ่ามือถือถุงเสื้อผ้าจำนวนสี่ใบ
ร่างเพรียวบางของยูกิที่ยืนพิงที่กั้นเงยหน้าจากโทรศัพท์พร้อมระบายยิ้มหวานยามเห็นออร่ารอบตัวของมิคาเอลที่ดูคับคล้ายกับปลาตาย
โถโถ พระเจ้าที่น่าสงสาร
" ข้าเสร็จธุระแล้ว กลับที่พักกันเลย "ืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืื มิราเคิลกล่าว
" ฉันบอกคุณแล้วไง ว่าให้เปลี่ยนสรรพนามการพูดน่ะ "
" อื้ม " ร่างแกร่งพยักหน้าตอบรับระหว่างย่างก้าวเดินเทียบข้างยูกิ
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาก้มมองเวลาที่โชว์เด่นหราบนหน้าจอแล้วครุ่นคิดถึงวัตถุดิบในตู้เย็นที่พอจะนำมาประกอบอาหารเป็นมื้อเย็นของวันนี้
ฟุดฟิด ฟุดฟิด
......หอม
กลิ่นเนื้อที่ถูกผัดกับซอสจากร้านอาหารของอีกฝั่งลอยมาเตะจมูกฉันอย่างจังจนเผลอหยุดเดินและเหลือบตาไปมองต้นตอของกลิ่นนี้
" ฉันว่าเราได้มื้อเย็นของวันนี้แล้วแหละ "
" ห๊ะ "
" ไม่ต้องมาห๊ะ เดินตามมาเลย " ไม่รอคำตอบของอีกฝ่าย ฉันก็จัดการดึงชายเสื้อของมิคาเอลให้เดินตามเข้ามาในร้านอาหารของห้างทันที
ก่อนจะนั่งเก้าอี้ที่ติดกับกระจกแล้วเอ่ยสั่งอาหารของฉันไปตามด้วยของมิคาเอลที่พูดขึ้นโดยไม่แตะเมนู
ผ่านไปสักพัก ข้าวหน้าเนื้อโปะด้วยไข่ออนเซ็นและราเม็งซุปทงคัตสึก็ถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะทำให้ฉันตัดขาดจากโลกภายนอกแล้วให้ความสนใจกับชามอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วพรางฟังเสียงดนตรีของร้านที่เปิดคลอ
และแน่นอนว่าการกินในครั้งนี้ย่อมมีอุปสรรค เมื่อแขนข้างซ้ายถูกเข้าเฝือก
" เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ " ถึงแม้ว่าเรือนผมสีขาวจะถูกทัดหูทั้งสองข้าง แต่ปอยผมก็ยังเป็นตัวขัดขวางเหมือนเดิม
" ผมขออนุญาตก็แล้วกัน " มิคาเอลเอ่ยพร้อลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำให้ร่างบางเอ่ยถามอย่างงุนงง
" อนุญาตอะไร? "
ไม่ทันไรฝ่ามือหนาของมิคาเอลก็ถือวิสาสะเอื้อมมือมารวบเส้นผมสีขาวราวสำลีของยูกิทันที ก่อนจะรับหนังยางจากยูกิที่ส่งตามคำสั่งของเขาอย่างมึนงง
ในขณะที่มิคาเอลคอยรวบผมให้ร่างบางอยู่นั้น นัยน์ตาสีฟ้าอัญมณีของเขาก็ปรายตามองร่างแกร่งของชายคนหนึ่งที่อยู่ในร้านเสื้อผ้าที่เขาเพิ่งออกมากำลังยืนจ้องมองการกระทำของเขากับยูกิภายใต้กรอบแว่น
"อย่างที่คิดไว้เอาไว้เลย "
" คะ? "
" ก็ผู้ชายจากร้านที่ผมเข้าไปซื้อเสื้อผ้า เขามองเธออยู่ อย่าเพิ่งหันไป- "
ควับ!!
ไม่ทันสิ้นประโยคของผู้มีศักดิ์เป็นพระเจ้า ฉันก็หันควับไปยังทางร้านเสื้อผ้าที่เพิ่งออกมาเมื่อสักครู่ สายตาก็ปะทะเข้ากับร่างแกร่งของชายผู้เป็นเจ้าของผมสีชมพูหม่นประกอบกับแว่นตาที่กำลังยืนคุยกับพนักงานร้านที่เดินเข้ามาหา
" เฮ้อ ผมบอกว่าอย่าเพิ่งหันไปไง " มิคาเอลเอ่ยย่างหัวเสียพรางขยี้ผมจนไม่เป็นทรง
เสียงหัวเราะกลบเกลื่อนของฉันทำให้เขามองมาด้วยแววตาฉุนเฉียวจนฉันแอบไหล่ตกและหงอยลงราวกับสุนัขที่โดนเจ้านายดุเสียอย่างงั้น
เก๊าขอโต๊ดคับ(╥﹏╥)
" ไม่ต้องมานั่งทำหน้าหงอยแล้วรีบทานอาหารให้เสร็จเร็วๆ "
" รีบทำไมกัน "
" อย่าลืมสิว่าเธอแขนหักแล้วพวกเรานั่งแท็กซี่มา " เอ่ยเสร็จ มิคาเอลก็ก้มหน้าทานราเมงพร้อมเมินสายตาของชายคนนั้นทันที
ฉันมองไปยังร้านเสื้อผ้าด้วยหางตาทำให้ได้เห็นว่าคุณสึบารุนั้นกำลังมองมาทางนี้เช่นกันทำเอาฉันหันมาสนใจอาหารตรงหน้าด้วยความรีบร้อนจนมิคาเอลเหลือบมองพรางกรอกตามองบนทีหนึ่ง
" เดี๋ยวผมรอข้างนอก "
" อื้ม "
เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลขานรับในลำคอก่อนจะวางธนบัตรจำนวนบนจานอย่างพอดีแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินออกจากร้านอาหาร
โดยไม่ได้สังเกตถึงชายอีกคนหนึ่งที่กำลังยืนจปะทะสายตากับมิคาเอลเพราะกำลังเก็บกระเป๋าเงิน
" สวัสดีครับคุณยูกิ "
" เอ๋? " ทำไมเขามาอยู่ตรงนี้ได้
มิคาเอลที่เห็นสายตาตั้งคำถามของเด็กสาว เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วจึงตอบคำถามของสายตานั้นว่า
" เขาบอกว่ารู้จักกับคุณ เลยจะอาสาไปส่ง "
" ว่าแต่ คุณยังไม่ตอบคำถามของผมเลยนะครับ ว่าคุณกับคุณยูกิเป็นอะไรกัน " สึบารุละสายตาจากยูกิหันไปมองชายหนุ่มเรือนผมสีทองที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกง
" ก็ถามเธอดูสิ "
" หาาา(^^)** " อ้าว อิพระเจ้าเวร นี่แกโยนงานให้ฉันที่เพิ่งมาเนี่ยนะ!!
" ว่าไงครับคุณยูกิ " สึบารุหันมองร่างเล็กของอีกฝ่ายที่ดูจะสูงเลยไหล่เขาคืบหนึ่งพร้อมกอดอกเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายตอบคำถามของเขา
" เอ่อ " ฉันเหลือบตามองมิราเคิลเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือเพราะเขาเป็นต้นตอของคำถามนี้
แต่เขากลับเมินเฉยสายตาของฉันแล้วหันไปยิ้มโปรยเสน่ห์ให้สาวๆแทนนี่สิ!!
คอยดูนะ แกนอนนอกห้องไปเลย
" รุ่นพี่ค่ะ! เขาเป็นรุ่นพี่ที่รู้จัก "
ได้ยินคำตอบดังนั้นแทนที่สึบารุจะเลิกตั้งคำถามกับเธอ แต่เขากลับเหยียดยิ้มมุมปากที่ชวนให้ร่างเล็กกลืนก้อนน้ำลายเหนียวๆลงคอแทน
" แล้วสนิทกันขนาดไหนเหรอครับ "
" คือว่า...สนิทกันเรื่องเกมน่ะค่ะ มันเป็นเกมยิงปืนแล้วพอดีเขาชอบเล่นเป็นสายสไนเปอร์เลยได้เล่นกันบ่อยๆค่ะ " ขุดหลุมฝังตัวเองอีกแล้วตัวฉัน
ทำไมไม่บอกไปว่าเขาเป็นสายซัพพอร์ตหรือสายบวกกันล่ะ แกดูสิ! สึบารุเขาระบายยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้ว
" ว้าว บังเอิญจัง เพราะผมก็เล่นเกมยิงปืนเหมือนกันและยังเป็นสายสไนเปอร์อีกด้วย " สึบารุกล่าวพรางหันไปมองมิคาเอลที่ยืนพิงที่กั้น
เกิดความเงียบไปชั่วระยะหนึ่ง ฉันโบกมือไม้ไปมาแล้วจึงเอ่ยขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วค่อยกลับกัน ไม่รอคำพูดใดๆออกมาจากปากของชายหนุ่มทั้งคู่ ฉันก็รีบเดินสับเท้าไปตามทางเดินของห้างเพื่อเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น
รู้สึกว่าอายุขัยจะลดลงเพราะปากตัวเองอีกแล้ว
ซ่าๆๆ
ร่างของเด็กสาวเรือนผมสีขาวสั้นประบ่าที่ถูกมัดรวบเป็นก้อนผมขนาดพอดีมือยืนค้ำอ่างล้างมือภายในห้องน้ำของห้างที่ไร้ผู้คนด้วยแววตาเซ็งโลก
เธอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากด้วยใจเต้นโครมครามหลังจากผ่านสถานการณ์ที่เหมือนกับเดจาวูของอามูโร่
ยูกิยืนนิ่งจ้องมองตัวเองในกระจกที่เผยให้เห็นถึงร่างของเด็กสาวคนหนึ่งผู้มีเรือนผมสีขาวสว่างและนัยน์สีฟ้าน้ำทะเลที่คับคล้ายจะมีประกายภายในตัว
ภาพของเด็กสาวผมดำที่มีโครงหน้าแอบคล้ายกันซ้อนทับขึ้นมาจนเกิดเป็นภาพหลอน ใบหน้าของเธอเมื่อครั้นยังอยู่ในโลกก่อนทำให้แววตาที่ยูกิมองเกิดสั่นระริกขึ้น
ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าไปมาแล้วให้กำลังใจตัวเองและเอ่ยย้ำว่าจะไม่ลืมตัวตนที่แท้จริงของเธอเอง
" ประสาทแดกแล้วมั้งตัวฉัน "
' ถึงเวลาบอกคำไขปริศนาของอันดับที่ยี่สิบ '
เสียงทุ้มของใครบางคนดังเข้ามาในหัวของฉันจนต้องขมวดคิ้วอย่างมึนงง ก่อนจะคลายคิ้วที่ขมวดออกเมื่อนึกได้ว่าวันนี้จะถึงเวลาบอกคำใบ้ของปริศนาที่ต้องเพื่อที่มิคาเอลจะได้กลับขึ้นสวรรค์
" รีบๆบอกล่ะ ท่านนิโคลัส "
เสียงหึของต้นตอปริศนาดังขึ้นมาหลังจากที่ฉันกล่าวจบแล้วหลับตายกยิ้มขึ้นเสมือนเป็นเรื่องกล้วยๆ
นี่ไม่ได้ดูถูกนะ แค่ดีใจที่พระเจ้ามิคาเอลจะได้กลับขึ้นสวรรค์แล้วไปอาศัยอยู่ร่วมกับกองเอกสารต่างหาก
' ตามหาอีฟเพื่อทราบถึงภารกิจสุดท้าย '
" ว่าแต่ อีฟคือใครงั้นเหรอ? " ฉันเอ่ยทวนอย่างสงสัย
' ...... '
" อย่าเงียบสิ "
' ...... '
ขอโทษค่ะ ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาทำรายการใหม่แล้วรออีกสักครู่ค่ะ
" ไปซะแล้ว แล้วฉันจะไปรู้เหรอว่าอีฟนี่คือใครแล้วหน้าตาของนางเป็นแบบไหน "
ฉันขยี้ผมหน้าม้าขอตัวเองไปมาแล้วมองภาพสะท้อนในกระจกห้องน้ำ ก่อนจะสดุดกับสร้อยคอบางอย่างที่โผล่ขึ้นมาจนฉันต้องหรี่ตามอง
สร้อยคอที่มีจี้เป็นรูปกุญแจที่ถูกแกะสลักเป็นลวดลายอย่างปราณีตพร้อมเม็ดทับทิบเม็ดโตถูกฝังบริเวณหัวกุญแจ
เอาล่ะ ถึงเวลาไขปริศนาของพระเจ้าและมนุษย์แล้ว
ความคิดเห็น