คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : สวัสดีโลกโคนัน :) Hello:จุดเริ่มต้นของคดีแรก
" แฮ่กๆๆ "
เสียงหอบหายใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร่างบางของหญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล ยูกิยืนกุมเข่าของตนบริเวณหน้าร้านร้านปัวโรต์พร้อมสูดอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อย
ก็ตั้งแต่ที่ยูกิรู้ว่าวันนี้จะมีคดีเกิดขึ้น เธอก็รีบเดินแบกลังไปไว้ยังอพาร์ทเม้นท์ทันทีนี่นา พอมาถึงกล่องลังที่สามกับถุงขนมขบเคี้ยวแทนที่ตัวเองจะขับรถมาด้วย แต่เพราะความตื่นเต้นที่อยู่ในอกทำให้ยูกิเผลอลืมรถของตัวเองไปชั่วระยะหนึ่ง
" โอ๊ย แล้วทำไมฉันต้องเป็นคนเซ่อถึงขนาดนี้กันด้วย " เมื่อหางตาเหลือบไปมองเห็นรถคันสีขาวรุ่น Kawasakiที่ตั้งอยู่อีกฟากของร้านปัวโรต์ ฉันก็บ่นออกมาพรางขยี้ผมตัวเองให้กับความเซ่อที่ลืมแม้กระทั่งรถราคาแพงที่จอดอยู่
ถ้าคุณปู่รู้ว่าหลานของตัวเองมีนิสัยเปลี่ยนไปถึงกระทั่งการลืมรถคู่ใจแล้วล่ะก็....ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะตอบแถยังไงดี
หญิงสาวเส้นผมสีขาวตั้งสติพร้อมยืนตัวตรงหลังจากหายเหนื่อยเสร็จ เธอก้าวขาเดินขึ้นบันไดโดยมีเป้าหมายเป็นสำนักงานนักสืบโมริหรือพ่อของรันด้วยความคาดคะเนจากหญิงสาวอีกคนผู้มีเส้นผมสีดำและอาจเป็นคนร้ายของคดีนี้
ต้องย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา พอยูกิเอ่ยประโยคที่ทำเอาหญิงสาวปริศนาคนนั้นตื่นตระหนกเสร็จ แน่นอนว่ายูกิเลือกที่จะเดินไปตามทางของตนต่อทันทีแต่ก็ยังแอบเหลียวแลมองคนด้านหลัง
ทำให้เห็นท่าทีกระวนกระวายของหล่อนระหว่างวิ่งสับเท้าขึ้นไปยังสำนักงานนักสืบโมริ ไม่นานก็มีร่างของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเดินขึ้นไปยังทางที่หญิงสาวปริศนาคนนั้นวิ่งขึ้นไปในระยะเวลาที่ไล่เรี่ยกัน
" ...... " ระหว่างที่คอยก้าวขาเดินขึ้นบันได ฉันก็กระชับหมวกแก๊ปสีขาวที่หยิบติดมือมาจากอพาร์ทเม้นท์ให้เข้าที่เข้าทางแล้วจึงคลุมหมวกฮู้ดสีชมพูทับเป็นอันสุดท้าย
อ้อ ลืมบอกไปว่าฉันซ่อนผมสีขาวของตัวเองใต้หมวกแก๊ปสีขาวที่เหมือนกับสีของเส้นผมน่ะนะ ก็เผื่อต้องไปเจอกับหญิงปริศนาคนนั้นจะได้ไม่ทำให้เธอตื่นตระหนกจนเป็นกระต่ายตื่นตูมอีกนี่นา
" เอ๊ะ พี่ยูกิ? " เสียงของเด็กผู้ชายอย่างโคนันเอ่ยชื่อของหญิงสาวที่มาใหม่ด้วยความสงสัยพร้อมหรี่ตาลงอย่างจับผิด
" คุณยูกิมาทำอะไรที่นี่ครับ " เสียงทุ้มจากร่างสูงอย่างอามูโร่เอ่ยขึ้นมาพรางจ้องเขม็งไปทางยูกิด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจต่อร่างเล็ก
ยูกิเอียงคอมองทั้งสี่คนที่จ้องมาราวกับนกฮูก ก่อนจะเบนสายตาไปมองรอยงัดแงะของลูกบิดประตูอย่างมึนงงว่าหญิงสาวปริศนาคนนั้นไปเรียนมาจากไหน ไม่ได้คิดว่ามันเจ๋งดีอะไรทำนองนี้หรอก แต่เพราะว่ามันทิ้งร่องรอยของหลักฐานมากเกินไปก็เท่านั้นเอง
" มาหารัน " ฉันตอบเพียงแค่นั้นระหว่างย่างก้าวเข้ามาใกล้ทั้งสี่คนเรื่อยๆ ก่อนที่จะเดินหยุดตรงหน้าประตูแล้วจึงกล่าวประโยคต่อไปว่า
" จะมาถามว่าเอาผลไม้รึเปล่า แต่พวกคุณกลับมายืนทำตัวลับๆล่อๆบริเวณหน้าสำนักงานของตัวเองแบบนี้ไม่คิดว่ามันแปลกๆเหรอ " พร้อมเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างกวนๆ
จบสิ้นประโยคของยูกิ โคนันและอามูโร่ก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ก่อนที่ร่างแกร่งเจ้าของเส้นผมสีบรอนซ์จะยื่นมือมาเปิดประตูด้วยความรวดเร็ว โดยที่ยูกิยังไม่ทันตั้งตัวเธอก็ถูกลำแขนแกร่งของเขารวบเข้าที่เอวคอดของตนเสียแล้ว
" ....... " เขินชิบหายเลยค่ะ ณ จุดๆนี้
ปัง!!!
" !!!! "
หญิงสาวร่างบางผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจจากเสียงปืนที่ดังลั่นออกมาจากภายในห้องน้ำของสำนักงาน ไม่รอช้าเธอก็รีบดันแผงอกแกร่งหลุดออกจากการจับกุมของอามูโร่แล้ววิ่งเข้าไปทางห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
" ศะ-ศพคน " น้ำเสียงสั่นเครือถูกเปล่งออกมา ขณะที่ดวงตาเฉี่ยวคมราวกับเหยี่ยวคอยจับจ้องมองไปที่ศพของชายฉกรรณ์นิรนามที่ไม่ทราบชื่อ
ยูกิเผลอยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากของตนขณะที่ดวงตายังคงเบิกตากว้างไม่รู้จบจากอาการช็อคที่พึ่งเคยเห็นศพเป็นครั้งแรก เธอทรุดเข่าลงไปนั่งกับพื้นด้วยความอ่อนแรงจนรันที่เดินเข้ามาทีหลังมาพยุงตัวด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาวคนนี้
" ฮะๆๆ ศพของจริงล่ะ "
ฉันหัวเราะแห้งๆออกมาอย่างกับคนเสียสติ ก่อนที่จะเบนสายตาหันไปมองหญิงสาวปริศนาที่เคยเจอกันในซอยหลังจากพึ่งสังเกตว่าภายในห้องน้ำนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ชายฉกรรณ์ที่นั่งอาบเลือดคนเดียว
" เป็นอะไรมากมั้ยยูกิ " รันถามอาการหญิงสาวอย่างเป็นห่วง โดยมีสายตาอีกสองคู่จากชายสองคนมองมาทางร่างของยูกิเป็นระยะๆ
" รู้สึกอยากสูดอากาศข้างนอกมากเลยล่ะรัน " ฉันตอบคำถามของรันออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือคล้ายกับเด็กที่กำลังจะร้องไห้ในไม่ช้านี้
ก็เกิดมาฉันพึ่งเคยเห็นศพที่นอนอาบเลือดระยะใกล้ขนาดนี้นี่! แม้ว่าตัวเองจะเป็นคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวสยองขวัญเลือดสาดอะไรทำนองนี้ แต่กับชีวิตจริงนั้นคนละเรื่องกันเลย!
ไม่ยงไม่ยุ่งกับคดีแม่งแล้ว!!! ถ้าต่อไปจะต้องมาเจอกับศพที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันแบบนี้ในระยะใกล้ ฉันขอเป็นตัวประกอบอย่างที่นิยายส่วนใหญ่ชอบทำกันก็แล้วกัน T[]T
" ไหวมั้ย "
หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยกับผิวของอีกฝ่ายที่ดูจะซีดลงมากกว่าตอนเจอกันที่หน้าประตู ก่อนที่เธอจะสับสนและมึนงงกับวัตถุบางอย่างที่ยูกิยกขึ้นมาสูดดมอย่างโนสนโนแคร์
" ซูดดด สบายได้! เธอไปอยู่กับพ่อของเธอน่าจะดีกว่า " ระหว่างที่พูดกับรัน ฉันก็สูดยาดมตราโป๊ยเซียนอีกครั้งเพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง
นี่ฉันลงทุนสั่งยกแผงจากอินเตอร์เน็ตเลยนะ มีอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์อีกตั้งสามสี่สีนี่แหละก็คนมันติดยาดมนี่นา สะดวกสบายดีอีกต่างหากถึงแม้จะต้องแลกกับสายตาแปลกๆของคนญี่ปุ่นที่มองมาก็เถอะนะ
" เหอะ สบายกับผีแหละนี่ฉันพึ่งเคยเห็นศพเป็นครั้งแรกนะ " หลังจากที่รันเดินห่างออกไปจากบริเวณนี้แล้ว ฉันก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำออกมาพรางสูดยาดมเข้าไปอีกหนจนเกิดเสียง
ยูกิเหลือบมองบทสนทนาของสารวัตรเมงูเระกับหญิงปริศนาคนนั้นที่มาทราบชื่อทีหลังว่าคาชิซูกะ เคย์กำลังให้คำให้การกันอยู่ จากนั้นสมองของเธอก็เกิดการประมวลผลขึ้นเกี่ยวกับคดีในตอนนี้
" ...... " แย่ละ ฉันไม่เคยดูตอนนี้เลย
เวลาผ่านไปคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เนื่องจากว่ายูกิไม่เคยคุ้นชินหรือหลงกดเข้ามาดูในอีพีนี้ของโคนันจนเจ้าตัวยกมือกุมหัวด้วยความหงุดหงิดพรางหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็ว
คาชิซูกะ เคย์เหลือบมองแผ่นหลังของร่างบางเจ้าของเสื้อฮู้ดสีชมพูด้วยความสงสัยและหวาดระแวง เธอจำเสื้อผ้าของหญิงสาวปริศนาที่อยู่ๆก็มาพูดประโยคแปลกๆใส่ได้อย่างแม่นยำ
แต่ที่เธอกำลังลังเลและสงสัยกับความคิดของตนเพราะว่าท่าทีของอีกฝ่ายที่กำลังกุมหัวพรางสะบัดไปมาดูแตกต่างจากตอนนั้นอย่างกับคนละคนแถมใบหน้าและเส้นผมของหล่อน เธอก็เห็นไม่ชัดอีกต่างหากทำเอาอดไม่ได้ที่จะหวาดระแวง
" ...... " ทำไมเธอถึงเอาแต่เหลือบมองยูกิกันล่ะ โคนันนึกในใจอย่างสงสัย
เขาสังเกตท่าทีของหญิงสาวที่กำลังสอบปากคำกับสารวัตรเมงูเระมาซักพักแล้วระหว่างที่สอบปากคำเธอมักจะเหลือบมองร่างของยูกิที่ยืนอยู่ตรงบริเวณหน้าต่างแล้วขมวดคิ้วอย่างลืมตัวอยู่บ่อยๆ
" ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นคือใครงั้นเหรอ " หลังจากให้คำสอบปากคำเสร็จ สารวัตรเมงูเระก็เอ่ยถามขึ้นพรางชี้นิ้วไปทางหญิงสาวที่ยืนตรงหน้าต่าง
" อ๋อ เธอชื่อยูกิค่ะเป็นเพื่อนต่างโรงเรียนของหนูเอง " รันตอบคำถามขึ้นมาทำให้หญิงสาวเจ้าของชื่อที่กำลังอ้าปากต้องเงียบลง
" ตัวป่วนเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนน่ะสิ " โมริบ่นพึมพำขึ้นมาระหว่างหรี่ตามองยูกิที่เผลอยืนตัวตรง
" แหะๆ " ยูกิคลี่ยิ้มพรางขำแห้งเป็นการกลบเกลื่อน
อามูโร่จุดยิ้มมุมปากพรางหัวเราะในลำคอเบาๆกับท่าทีของหญิงสาวที่กำลังหัวเราะแห้งๆออกมาจนน่าขำขัน ชายหนุ่มเบนสายตาจากยูกิมายังพยานสอบปากคำที่กำลังจ้องมองร่างของหญิงสาวเสื้อฮู้ดสีชมพู ก่อนจะกล่าวประโยคว่า
" ถ้าคุณจะกลับบ้านล่ะก็...ผมขับรถไปส่งได้นะครับ ไม่แน่เพื่อนผู้ชายคนนั้นอาจคอยซุ่มอยู่แถวบ้านคุณก็ได้น่ะครับ "
" เข้าใจแล้วค่ะ " เธอตอบรับคำของร่างสูงอย่างรวดเร็ว
" ....... " ฉันกรอกตามองบนกับผู้หญิงคนนั้นที่กลายเป็นลูกเจี๊ยบในกำมือของคนผมบรอนซ์อย่างคุณอามูโร่เข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงดึงหมวกฮู้ดให้ลงมาปิดหน้าครึ่งหนึ่งระหว่างที่สาวเท้าเดินไปทางประตูห้องด้วยท่าทีเรียบเฉย....
และแน่นอนว่าพ่อยอดนักสืบตัวจิ๋วก็คงจะสังเกตเห็นเองแหละ
" เอ๋ พี่ยูกิจะไปไหนเหรอครับ " โคนันถาม
ทุกสายตาต่างจับจ้องมองมาทางหญิงสาวที่กำลังยื่นมือไปเปิดประตูด้วยความสงสัยตามคำถามของโคนัน ยูกิชะงักมือกับคำถามของยอดนักสืบตัวจิ๋วอย่างโคนันครู่หนึ่ง แล้วจึงหันกลับไปเผชิญหน้ากับทุกคนด้วยท่าทางทะเล้นพร้อมยกฝ่ามือขึ้นมาแนบใบหน้าซีกซ้าย
" ก็จะไปเตรียมรถมอเตอร์ไซค์ไงเผื่อเพื่อนผู้ชายคนนั้นเล่นงานรถใหญ่ของคุณอามูโร่เข้า บางทีฉันอาจจะพอเป็นทางหนีให้ได้นะ... "
ฉันเว้นช่วงประโยคไปครู่หนึ่งก่อนจะไล่สายตามองทุกคนภายในห้องด้วยรอยยิ้มทะเล้น โดยเน้นเข้าที่คุณอามูโร่มากที่สุดตามด้วยคุณคาชิซูกะ
" กันไว้ดีกว่าแก้ จริงมั้ยคะคุณอามูโร่ " ไม่ว่าเปล่ายูกิก็วนนิ้วเป็นวงกลม
ร่างสูงของชายผมบรอนซ์เบิกตาโตด้วยท่าทีตกใจอย่างลับหลัง เขามองนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลของยูกิเชิงกดดันและจับผิดทำเอาร่างของตัวต้นเหตุรู้สึกเสียวสันหลังวาบกับแววตาคู่นั้น
" ไม่น่าไปเหยียบเข้าถ้ำเสือเลย " ฉันกล่าวอย่างปลงๆกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
ก่อนจะหันหลังแล้วสาวเท้าเดินออกจากห้องในทันทีหลังจากกล่าวเสร็จ เมื่อมาถึงรถมอเตอร์ไซค์คันโตสีขาวไม่รอช้ายูกิก็เหวี่ยงขาขึ้นคร่อมตัวรถอย่างรวดเร็วพร้อมสวมหมวกกันน็อคสีดำรัตติกาลตามเป็นอย่างสุดท้าย
" ถ้าอิกรกับอิน้ำหนาวอยู่ ป่านนี้พวกมันคงมุ่งหน้าไขคดีเสร็จเรียบร้อยแล้วมั้ง~ "
เธอกล่าวประโยคออกมาด้วยน้ำเสียงติดยานครานเล็กน้อยพร้อมระบายยิ้มหวานประดับบนใบหน้าระหว่างสวมสนับเข่าที่เจอใต้เบาะรถเมื่อเช้า
เวลาผ่านไปไม่ถึงสามนาทีก็ปรากฏร่างของชายหญิงกลุ่มหนึ่งที่เดินลงมาจากตัวอาคารสำนักงานยอดนักสืบโมริ ยูกิมองท่าทีของคาชิซูกะ เคย์ด้วยนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ยาวรีผ่านเลนส์หมวกกันน็อคสีดำที่สวมทับปกปิดเส้นผมสีขาวของตน
" ขอโทษที่ให้รอนะ " รันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
ยูกิส่ายหัวไปมากับประโยคข้างต้นพรางส่งหมวกแก๊ปสีขาวของตนให้กับรันที่รับทันอย่างฉิวเฉียด เธอกดไลค์ให้กับอีกฝ่ายเป็นท่าทางประกอบก่อนจะเอ่ยออกไปว่า
" ฉันขอฝากหมวกไว้กับรันก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวจะเอาคืนทีหลัง " รันพยักหน้าตอบรับเป็นคำตอบ ก่อนจะเดินขึ้นรถสปอร์ทคันสีขาวของอามูโร่ไป
ถึงแม้ว่ารันจะเดินขึ้นรถของชายหนุ่มร่างสูงไปพร้อมกับพ่อของตนแล้ว แต่ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของรถกลับเลือกที่จะเดินตรงมาหาร่างบางของหญิงสาวที่กำลังคร่อมตัวรถอยู่
เขาปรายตามองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา ยูกิเริ่มที่จะขมวดคิ้วเป็นโบว์กับท่าทีของเขาด้วยความสงสัยก่อนที่จะตกใจกับการกระทำของร่างสูงพร้อมกับทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อๆ
" ถึงจะเป็นแค่เชือกรองเท้า แต่คุณก็ควรที่จะผูกให้เรียบร้อยนะครับ " ระหว่างที่ผูกเชือกรองเท้า อามูโร่ก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังจนยูกิแอบตัวแข็งทื่อ
" ขะ-ขอบคุณค่ะ "
" หึ เป็นเด็กดีขึ้นมาเลยนะ "
" ....... " นี่เขาชมหรือว่าเขาหลอกด่าเราทางอ้อม
" ขับรถบนถนนระวังดีๆนะครับ ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรก็โทรเข้าเบอร์ผมได้เลย " โทรศัพท์เรือนหรูยี่ห้อดังถูกโชว์ต่อหน้ายูกิพร้อมหน้าจอสีฟ้าที่ปรากฏเบอร์ของชายหนุ่มผมบรอนซ์คนนี้ที่ยืนยิ้มอยู่
" เอาไปตอนไหน! " หลังจากสังเกตรูปลักษณ์โทรศัพท์ ฉันก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจอีกครั้งผสมกับความสงสัยว่าคุณอามูโร่หยิบไปเมื่อไหร่
เขาฉีกยิ้มอีกครั้งกับท่าทีของหญิงสาวเรือนผมสีขาวที่ถูกปิดบังจากหมวกกันน็อคสีดำสนิทที่กำลังแว๊ดเสียงใส่ราวกับยัยแมวขนฟู ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาของนักล่ายามที่เขานึกถึงท่าทางของยูกิบนห้องทำงานของโมริ
ไม่แน่ใจว่าเขาระแวงกับอีกฝ่ายมากเกินไปรึเปล่าเพราะตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เขากลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะกุมความลับบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการงานของเขาที่เป็นความลับและของทุกคนที่เขาอาจไม่รู้
ประวัติของยูกิก็ไม่มีอะไรผิดปกติและแทบจะดีทุกอย่างจนไม่มีจุดด่างพร้อยได้ให้เห็นตามวัยของหญิงสาวทั่วไป
" นี่คุณยังฟังฉันอยู่มั้ย! " ฉันแว๊ดเสียงใส่คุณอามูโร่ด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเล็กน้อย เนื่องจากเขามัวแต่ยืนนิ่งและไม่ได้ตอบคำถามที่ฉันถามไปทำให้ต้องถามย้ำอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าเขาจะเหม่อมากเสียกว่า
" ...... "
" ...... " อะไรกัน แววตาเหมือนมีอะไรแอบแฝงและความรู้สึกที่เหมือนกับว่าฉันเป็นแกะน้อยมันคืออะไรกัน
" เราคงมีเรื่องต้องเคลียร์กันหลังจากนี้นะครับ " กล่าวจบอามูโร่ก็เดินห่างออกจากยูกิเพื่อที่จะขึ้นรถคันโปรดของตนทันทีปล่อยให้หญิงสาวในเสื้อฮู้ดสีชมพูได้แต่มองตามหลังด้วยแววตาเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับว้าวุ่นและอยู่ไม่เป็นสุข
" รู้สึกถึงรางสังสังหรณ์เลยค่ะ "
" คุณอามูโร่คุยอะไรกับยูกิเหรอคะ " หลังจากที่รันเห็นร่างแกร่งของพนักงานใหม่ร้านปัวโรต์เปิดประตูเข้ามาภายในรถ เธอก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยยามเห็นท่าทีของเพื่อนต่างโรงเรียนที่กำลังแว๊ดเสียงใส่ด้วยท่าทีคล้ายกับอารมณ์เสีย
" พอดีผมเก็บโทรศัพท์ของเธอได้น่ะครับทำให้มีเรื่องที่ต้องเข้าใจผิดนิดหน่อย " อามูโร่กล่าวออกมาขณะสตาร์ทรถคันโปรด
" แทนที่จะขอบคุณยัยเด็กนั่นกลับเถียงใส่เนี่ยนะ " โมริเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเกียจคร้านระหว่างกดโทรศัพท์มือถือ
" ก็คุณอามูโร่บอกว่าเรื่องเข้าใจกันผิดนี่คะ " หญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลยิ้มเก้อระหว่างแก้ต่างให้กับหญิงสาวอีกคนที่คร่อมตัวรถอยู่ด้านนอก
" นี่ๆรีบพาพี่สาวกลับอพาร์ทเม้นท์กันเถอะครับ พี่สาวจะได้มีเวลาพักผ่อนด้วย "
" อ่ะ! นั่นสิครับผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณเสียเวลา " อามูโร่เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดเมื่อคิดได้ว่าเขาต้องขับรถไปส่งหญิงสาวข้างคนขับที่อพาร์ทเม้นท์
ก่อนจะเคลื่อนตัวรถไปทางด้านหน้าแล้วขับออกไปในทันทีทำให้ยูกิต้องรีบสตาร์ทรถของตัวเองแล้วขับตามไปอย่างชิดใกล้ เนื่องจากว่าเธอไม่รู้เส้นทางไปยังอพาร์ทเม้นท์ของคนร้ายในคดีนี้ภายในหัวของหญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้าก็พยายามคิดในแง่บวกเอาไว้กับประโยคสุดท้ายของอามูโร่และรางสังหรณ์ของตนที่ก่อตัวขึ้นมาไม่กี่นาที
*คุยกับไรท์"
คุโรบะ ไคโตะหรือจอมโจรคิดจะมาตอนไหนกันนร้า~
ไม่บอกทุกคนหรอก! แบร่:p
ความคิดเห็น