ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Attack on titan ] ปีกแห่งเสรีภาพ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #9 : หลงได้หลงดี...หลงกันเข้าไป

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 64


    ในที่สุดก็ใกล้จะถึงกำหนดการณ์สำรวจนอกกำแพงครั้งต่อไปแล้ว

     

    จากการที่ได้อยู่กับเอลวินเป็นเวลาหลายเดือน ดูการณ์ทำงานและวางแผนต่างๆ มีการนำเขาไปใช่ร่วมกับแผนการสำรวจ มีการฝึกรับคำสั่งในหลายๆ แบบ ให้เรียนรู้เรื่องพลุสัญญาณควัน และล่าสุดเขาก็ได้เป็นนกส่งข่าวจริงๆ อย่างที่คิด

     

    จากที่คิดจะกลับร่างเดิมก็ต้องยืดเวลาออกไปก่อน เพราะเอลวินที่ทั้งใช้งานและติดเขาเป็นตังเมไม่ยอมให้ห่างกาย ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนจริงๆ ก็คงไม่มีทางมาใช้งานเขา ปล่อยให้เขากินกับนอนจนจะกลายเป็นนกอ้วน

     

    ส่วนอาหารการกินปัญหาโรคแตก ก็ได้รับการแก้ไขโดยเอลวิน ผู้โดนเขาจิกกัดทุกมื้ออาหาร วันไหนที่ไม่โดนคืออาหารมื้อนั้นผ่าน นี่เป็นสิ่งที่เขาเพลิดเพลินมากเลยล่ะ การที่ทำให้ผมสีทองที่เรียบอยู่ทรงคงกระพันนั่นยุ่งฟูได้น่ะ

     

    ถัดมาเรื่องการนอนยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการจับแยกไปนอนในกรง แม้จะเลยช่วงทำความคุ้นชินกับปรับสภาพแวดล้อมมาแล้ว แต่เขายังคงถูกเอลวินนำไปนอนกอดเหมือนเดิม ซึ่งเขาก็ไม่ค้านอะไร อุส่าได้นอนที่อุ่นๆ ทั้งที

     

    "นี่ฮันส์ ฉันจะฝึกให้นายโจมตีไททัน ไม่ถึงกับต้องจัดการให้ได้แค่ทำให้ชะงักได้ก็พอ" เอลวินออกคำสั่ง ไม่สนนกที่เกาะอยู่บนไหล่

     

    ออสตินที่ถูกดึงสู่โลกความเป็นจริง หันไปมองหน้าเอลวิน ที่นับวันจะเหิมเกริมกับเขามากไปสะแล้ว

     

    'เหมือนนายจะห่างปากฉันไปนานสินะเอลวิน' ออสตินมองจิกไปที่เอลวิน

     

    เอลวินที่โดนมองจิกรู้สึกเสียวหัวขึ้นมา แต่ยังคงทำเฉย จากการที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้นิสัยของกันและกัน

     

    ฮันส์ที่เป็นพวกข้างนอกแข็งข้างในอ่อนไม่มีทางกล้าลงมือรุนแรงกับเขาหรอก ยิ่งสนิทเท่าไหร่ฮันส์ก็ยิ่งไม่กล้าลงมือ แถมพูดนิดหน่อยก็ใจอ่อน ยอมเขาได้ง่ายๆ

     

    "อีกไม่ถึงอาทิตย์จะมีการออกสำรวจนอกกำแพงแล้ว ฉันอยากให้นายฝึกเอาไว้ เผื่อเกิดเรื่องขึ้นมา นายจะได้ป้องกันตัวเองได้" ออสตินฟังเอลวินอธิบายโดยยกเหตุผลต่างๆ นาๆ ขึ้นมา ถึงกับเถียงไม่ออก อีกฝ่ายอุส่าเป็นห่วงเขาขนาดนี้

     

    แววตาของออสตินที่ใช้มองเอลวินอ่อนลง เป็นการยอมทำตามที่อีกฝ่ายอยากให้ทำ

     

    เอลวินเห็นว่าฮันส์มีสายตาที่อ่อนลงแล้ว รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายยอมทำตามแล้ว เห็นไหมล่ะว่าฮันส์น่ะขี้ใจอ่อน

     

    ตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนบนกำแพงสูงเขตชิกันชินะ ข้างร่างมีเหล่าไททันที่ต่างพากันมายืนลับคมเล็บที่กำแพง ไกลๆ มีไททันตัวเล็กกำลังวิ่งเล่นไล่กันอยู่ ตามกำแพงมีปืนใหญ่ติดตั้งเรียงรายเอาไว้ป้องกันเหล่าไททัน ที่ไม่รู้ว่าจะใช้งานจริงได้รึป่าว

     

    "ฉันจะให้นายหยุดการเคลื่อนไหวของไททัน นายจะจัดการมันยังไงก็ได้" เอลวินชี้ไปยังไททันวิปริต ที่มีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก เขาไม่อยากให้ฮันส์ได้รับบาดเจ็บมาก ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา

     

    ออสตินมองไปทางไททันวิปริต ที่เอลวินชี้ เห็นขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก ก็รู้ได้ทันทีว่าเอลวินนั้นเป็นห่วงเขา ถึงจะให้ฝึกเยอะยังไงแต่ก็ยังคงเป็นห่วงอยู่เสมอ เอลวินมักจะเป็นเช่นนี้ เป็นคนที่ยืดหยุ่น จริงจัง และคอยเป็นห่วงคนอื่นอยู่เสมอ

     

    'อ๋าาา นายนี่น่ารักจริง' ไม่ได้ทำแค่คิด แต่ออสตินเอาหัวไปถูกับหน้าของเอลวินด้วย

     

    เอลวินที่เจอลูกอ้อนแบบกะทันหันของออสติน ถึงกับไปไม่ถูก ก่อนจะเป็นฝ่ายยื่นมือไปลูบหัวออสติน

     

    "มาเริ่มกันเถอะ" เอลวินค่อยๆ จับตัวอีกฝ่ายออกมา จับให้เกาะอยู่ที่แขน

     

    ออสตินเริ่มทำการตั้งท่า สยายปีกที่อยู่ข้างลำตัวออกกว้าง อวดขนที่เรียงสวยจากการถูกดูแลเป็นอย่างดี ก่อนจะพุ่งออกไปยังไททันวิปริตตัวนั้น เขาเริ่มจากที่ดวงตาก่อนเพื่อปิดการมองเห็นของมัน ต่อด้วยข้อเท้าทำให้มันหยุดเดิน ไททันที่โดนโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียหลักล้มลงไป เปิดช่วงคอโล่ง ออสตินเห็นโอกาสที่จะได้จบงาน ทำการตั้งหลักแล้วพุ่งลงไปฉีกกระชากเนื้อที่หลังคอ แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ แผลนั้นลึกไม่มากพอจะจัดการไททันที่มีชั้นไขมันมาก

     

    ออสตินรู้ตัวว่าคงทำได้แค่นี้ ถ้าเป็นร่างเต็มที่ของเขาคงจัดการได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เขาใช้ไม่ได้ เขายังไม่ต้องการให้เอลวินรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา เขายังไม่อยากถูกมองด้วยความระแวงสงสัย ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกสั้กพักก็พอ เขาขอแค่นั้น

     

    ออสตินค่อยๆ บินไปเกาะแขนเอลวินที่ยื่นออกมารอรับอยู่

     

    "ทำดีมากฮันส์" เอลวินเอ่ยชมพร้อมยื่นมือไปลูบหัวที่มีขนสีน้ำตาลนิ่ม เขาไม่ได้หวังให้มันจัดการไททันได้ แค่นี้ก็ดีมากแล้วล่ะ

     

    ออสตินที่ถูกลูบหัวอยู่ ก็ทำการอ้อนเอลวิน เอาหัวถูไถฝ่ามือนั้นกลับไป เขายังไม่พร้อมที่จะจากไปจริงๆ

     

    "เป็นอะไรรึป่าวฮันส์" เอลวินถามนกที่วันนี้ดูจะอ้อนเขาผิดปกติ ถึงทุกวันจะชอบอ้อนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ถี่ขนาดนี้ ความรู้สึกเขามันบอกว่าต้องมีอะไรซักอย่าง

     

    'นายนี่จับผิดเก่งจริงๆ' ออสตินที่โดนจับได้ทำเป็นไม่สนใจ เมินในคำถามของเอลวิน กลับไปยืนเกาะไหล่ที่เดิม เอาหัวจุ่มไปในผมสีทอง เป็นการบอกว่าไม่อยากคุยแล้ว อย่ากวน

     

    เอลวินเห็นว่าฮันส์ไม่ต้องการที่จะคุย เขาก็ไม่บังคับ เขาค่อยๆ เดินลงไปจากกำแพง

     

    "ฮันส์แวะตลาดกันมั้ย" ออสตินที่กำลังซุกอยู่ที่หัว รีบเด้งตัวออกมาพยักหน้าหงุกหงักให้เอลวิน ดวงตาสีบุษราคัมเปล่งประกาย

     

    'อ่าา ทำท่าน่ารักอีกแล้ว' เขาอยากจะดึงฮันส์มากอดชะมัด ทำไมนกนี่ทำอะไรเขาต้องรู้สึกว่ามันน่ารักไปหมดกัน

     

    "นายจะเอาปลารึป่าวฮันส์" เอลวินถามถึงอาหารโปรดของฮันส์ ที่มาเดินหาของกินในครั้งแรกแล้วมันจ้องแต่ปลาย่าง ถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวชอบ ปลาในกำแพงถึงราคาจะแพง แต่ก็ไม่เท่ากับเนื้อสัตว์ อีกอย่างเขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินอยู่แล้ว ขอแค่ฮันส์อยากได้ก็พอ

     

    'เอาสิๆ ปลาย่าง ปลาย่างร้อนๆ' ออสตินเผลอขานรับเป็นเสียงร้องแหลมๆ ออกมา

     

    "เหมือนนายจะชอบนะ" เอลวินหันไปมองฮันส์ที่เกาะอยู่บนไหล่ มองสายตาสีบุษราคัมที่เป็นประกาย ท่าทางดีใจมองซ้ายมองขวา มองหาของที่จะกิน 

     

    เมื่อเจอแล้วก็หันเอาหัวมาสะกิดเรียกเอลวิน โดยไม่รู้ว่าเอลวินนั้นมองตนอยู่ก่อนแล้ว จึงกลายเป็นเอาหัวไปถูจมูกของเอลวิน ออสตินผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ ชี้ปลายปีกไปที่ร้านขายปลาย่าง

     

    เอลวินที่ทนความน่ารักของฮันส์ไม่ไหว จัดการดึงเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนทันที ก้มหน้าลงไปฟัดกับหน้าท้องนิ่มๆ ที่ดูจะมีเนื้อเยอะขึ้นมากว่าตอนแรกๆ

     

    ออสตินที่ถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงกับชะงักไปทันที มองหัวสีทองที่ถูไปมากับหน้าท้องตัวเอง

     

    'หมอนี่มันเป็นบ้าอะไรอีก?' ออสตินมองไปที่เอลวินด้วยสายตางุนงง

     

    เอลวินที่ได้ฟัดอีกฝ่ายจนเป็นที่พอใจแล้ว ทำการเดินไปตามปีกที่ชี้ไปยังร้านขายปลาก่อนหน้านี้ ในแขนยังมีออสตินที่มองมาอย่างงงๆอยู่ แต่เมื่อเห็นเหล่าปลาย่างก็เลิกสนใจเอลวินไปทันที

     

    'นี่เขาน่าสนใจน้อยกว่าปลาย่างหรอ' เอลวินก้มมองสำรวจตัวเอง อกผาย ไหล่ผึ่ง สูงยาว เข่าดีขนาดนี้แท้ๆ

     

    'ก็ไม่นะ เขาออกจะน่ากินกว่าปลานั่นอีก'

     

    ออสตินที่เห็นคนจ่ายตังยืนเงียบไม่เดินไปต่อ จึงหันหน้าไปมอง ถึงได้เห็นสายตาแปลกๆ ของเอลวินเข้า

     

    'เป็นบ้าไรอีก?' ออสตินมองเอลวินด้วยสายตาปลาตาย เจ้าหัวทองนี่เป็นอะไรมากรึป่าว เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวนิ่ง ผีเข้าผีออก นับวันยิ่งทำตัวไม่ปกติ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ในที่สุดก็ถึงกำหนดการปฏิบัติการณ์สำรวจนอกกำแพง

     

    นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ออกไปนอกกำแพง หลังจากได้เข้ามาอยู่ที่นี่ กลับสู่โลกภายนอก ออกจากกรงขนาดยักษ์ เกาะสวรรค์ที่ไม่เหมือนเกาะสวรรค์

     

    เขานั้นมาม้าตัวเดียวกับเอลวิน แต่ไม่ได้เกาะที่ไหล่เหมือนปกติ เขาเกาะอยู่กับอานม้าข้างหน้า เพราะตอนนี้เขานั้นได้ใส่ปลอกเล็บสีเงินที่ติดใบมีดเอาไว้ ฝีมือของฮันจิสาวผู้คลั่งไคล้ในไททัน เอลวินเป็นคนไปขอให้อีกฝ่ายทำให้ ฮันจิที่อยากลองทำอยู่แล้วก็ตอบตกลงทันที

     

    ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งหน่วยสำรวจคีธ ชาดิส ยังคงยืนยันที่จะปฏิเสธเครื่องยิงพลุสัญญาณควันของเอลวิน

     

    เอลวินจึงยึดตามแผนเดิมที่จะนำเครื่องยิงพลุสัญญาณควันมาใช้ในหน่วยของตน

     

    ตอนนี้ทหารทีมสำรวจทุกคนเริ่มมาตั้งแถวเตรียมออกกันแล้ว เพียงรอเวลาให้ประตูเปิด

     

    "ทหารทุกคน!! นี่เป็นการสำรวจกำแพงครั้งที่... เราจะทำการสำรวจนอกกำแพง และจัดการเหล่าไททัน สู้เพื่อเหล่ามวลมนุษยชาติ!!!" เสียงปลุกใจของผู้บัญชาการสูงสุดทีมสำรวจดังขึ้น

     

    เหล่าทหารในเสื้อคลุมสีเขียวข้างหลังเป็นปีกนกสีขาวทับน้ำเงิน ทหารแต่ละนายต่างมีสายตามุ่งมั่น ต่างขานรับคำของผู้บัญชาการ

     

    "สู้เพื่อเหล่ามวลมนุษยชาติ!!!!" เสียงตะโกนอย่างพร้อมเพียงที่ดังกึกก้องของเหล่าทหารทีมสำรวจ พลันทำให้เหล่าผู้คนที่ได้ยินเลือดสูบฉีด ถึงแม้จะมีถ้อยคำดูถูก แต่ก็ยังคงคาดหวัง ที่จะได้ชนะเหล่าไททัน

     

    ออสตินที่ได้ฟังรู้สึกฮึกเหิมตามไปด้วย เปิดประสาทสัมผัสทุกส่วนในร่างกาย พร้อมเข้าสู่สนาม

     

    เอลวินที่ลอบมองด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าฮันส์จะตกใจ ถึงจะจัดการไททันได้บ้างแล้ว แต่เขายังอดเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อเห็นสายตาที่มุ่งมั่น และท่าทางที่จริงจังจึงได้วางใจลง

     

    "ประตูเปิดด!!!!" เสียงออกคำสั่งของผู้บัญชาการทีมสำรวจดังกึกก้องไปทั่วทิศ

     

    "กึงง!! แกรก!! แกรกๆๆๆ!!!" เสียงโซ่ที่ดึงกำแพงขึ้นไปดังไปทั่ว

     

    "ไปปป!!!" หลังสิ้นเสียงเหล่าทหารในเสื้อคลุมสีเขียวข้างหลังเป็นปีกเสรีภาพต่างพุ่งตัวออกไปจากประตู

     

    เสียงม้าดังกุบกับทำเอาพื้นดินสั่นไหว ฝุ่นฟุ้งกระจาย ลมแรงที่ปะทะใบหน้าพาแสบผิว แต่ทิวทัศน์ตรงหน้าช่างแสนวิเศษ ดวงอาทิตย์ที่พึ่งโผล่พ้นขอบฟ้า ท้องฟ้าที่สว่างกระจ่างใส ก้อนเมฆที่ลอยเอื่อย ฝูงนกที่บินผ่านไป นี่สินะอิสระภาพ

     

    เหล่าผู้คนที่เข้าร่วมทีมสำรวจต่างต้องการตามหาสิ่งเดียวกันนั่นคืออิสระภาพ

     

    เมื่อออกมาไกลจากกำแพงแล้ว แต่ละหน่วยต่างแยกออกไปตามรูปแบบขบวนทัพ

     

    ออสตินถูกปล่อยขึ้นไปบนฟ้า หน้าที่ของเขาคือร้องออกมาเมื่อเห็นไททันในระยะสิบเมตร เอลวินจะเป็นคนยิงพลุสัญญาณควันกำหนดทิศทาง แล้วทหารในหน่วยของเอลวินที่ถูกฝึกมาในรูปแบบการเดินทัพนี้ จะยิงพลุสัญญาณควันเป็นทอดๆ ไป

     

    หลังจากทำอย่างนี้อยู่สักพักผลออกมาดีเกินคาด พวกเขาแทบไม่ได้ปะทะกับเหล่าไททัน จะมีบ้างก็พวกประเภทวิปริตที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ออสตินที่เห็นจะเป็นคนพุ่งออกไปหยุดการเคลื่อนไหวนั่นเอง แล้วคนในหน่วยของเอลวินจะรับช่วงต่อ

     

    ออสตินที่บินมาทั้งวันจนถึงเที่ยงก็เริ่มเหนื่อย บินล่อนลงมาเกาะที่อานม้าของเอลวิน

     

    เอลวินเห็นว่าฮันส์นั้นเหนื่อยแล้ว อีกอย่างพวกเขาเดินทางมาทั้งวันแล้ว จึงสั่งให้ทุกคนพัก โดยพวกเขามาพักในป่าที่มีต้นไม้สูง เอลวินผูกม้าไว้ข้างล่างหยิบของกินข้างในกระเป๋าที่ติดกับอานม้าออกมา ก่อนจะใช้เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติปีนขึ้นต้นไม้ไป

     

    ออสตินที่เกาะบนหลังม้ารีบบินตามขึ้นไป 

     

    เอลวินทำการฉีกเนื้อปลา นำก้างออกมา วางเนื้อปลาที่ไม่มีก้างวางบนผืนผ้าให้ฮันส์ที่รอกินอยู่ นำน้ำเทใส่ฝาวางไว้ให้ เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วเขาก็จัดการกินในส่วนของตัวเอง ที่เป็นเพียงแค่ขนมปัง เขาไม่อะไรมากอยู่แล้วกับเรื่องอาหารการกิน ยิ่งมาเป็นทหารเรื่องพวกนี้จึงไม่ได้สนใจมากนัก

     

    ออสตินเห็นอาหารถูกวางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการสะวาปามทันที มีบ้างที่แหงะไปมองเอลวินที่นั่งกินขนมปังคู่อาฆาตของเขา ที่เกือบติดคอตายอยู่หลายรอบ

     

    'นายนี่สุดยอดไปเลยแฮะ กินเข้าไปได้ยังไง' เอลวินที่ได้รับสายตาเหลือเชื่อจากฮันส์ เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายนิ่งๆ เป็นการถาม

     

    'นายจะมาเลิกคิ้วถามฉันทำไม!! ทำยังกับฉันพูดได้!!' ออสตินถลึงตามมองอีกฝ่ายตอบกลับไป เอลวินที่ได้เห็นทำเพียงขำออกมาน้อย มือยื่นออกไปลูบหัวอีกฝ่าย

     

    'อ่าา น่ารักจริงๆ' 

    .

    .

    .

    .

    .

    หลังจากกลับเข้ามาในกำแพงได้ เสียงรอบด้านยังคงเป็นการวิพากวิจารณ์เหมือนเดิม ไม่ว่าคุณจะทำดีแค่ไหน แต่ถ้ามีการสูญเสียขึ้นมา จะกลายเป็นว่าคุณนำคนอื่นไปตาย

     

    แต่ละหน่วยนั้นต่างมีสภาพย่ำแย่ไม่ต่างกัน ผู้คนต่างบาดเจ็บ และล้มตาย บางคนสูญหาย ครอบครัวที่มารอรับต่างร้องให้เหมือนจะขาดใจ มีเพียงหน่วยของเอลวินที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

     

    ผู้บัญชาการที่ปฏิเสธในเรื่องที่เอลวินเสนอ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกละอายใจ เขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะเสี่ยง ถ้าเขายอมที่จะเสี่ยงล่ะก็ผลอาจจะไม่ออกมาเป็นอย่างนี้

    .

    .

    .

    .

    .

    ……………………………………………………………….

    จบแบบอึมครึมหน่อยนะทุกคนนนนนนน

    ขอหยุดความหลงน้องของเอลวินก่อน 5555555

    ปล. ยังจะน้องโลเวลกันได้มั้ยน้องยังมีบทอยู่นะ น้องไม่ใช่ตัวประกอบธรรมดานะเออออ ใครพอเดาได้มั่งว่าน้องจะไปมีซัมติงกับผู้ใด

    ทันเที่ยงด้วยแหละ ขอให้กินข้าวให้อร่อยกันนะะะะะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×