ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    !!*~_Nikki__~~*!!

    ลำดับตอนที่ #6 : บันทึกวันที่ 1 อ้างอิงก่อนเขียนจริง

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 53


    บันทึกวันที่ 1 อ้างอิงก่อนเขียนจริง

     

    บันทึกคือสิ่งที่จดเรื่องราวทุกสิ่ง บันทึกคือสิ่งที่ถูกจดไว้ หากแต่สิ่งที่จดไว้นั้นมิได้หมายความว่าจะอยู่แต่เฉพาะในสมุดหรือกระดาษเสมอไป บันทึกไม่ได้หมายความว่าการจดสิ่งต่างๆที่พบเห็นไว้เพียงอย่างเดียวหากแต่ว่ามันคือการจดจำเรื่องราว จดจำและจ้องมองไปพร้อมๆกันกับทั้งสองสิ่ง

     

    เหมือนกับที่โลกเราไม่ได้มีอยู่โลกเดียว มีขาวย่อมมีดำ มีสวรรค์ย่อมมีนรก เมื่อมีไฟก็ต้องมีน้ำ ทุกๆสิ่งต่างคู่ขนานกัน แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมิได้หมายความว่าจะมีอยู่อย่างเดียวทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่จำเจ หากแต่มีเพียงสิ่งหนึ่งที่มีอยู่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น....

     

    ทุกๆสิ่งล้วนไร้ซึ่งความเท่าเทียม มีสิ่งที่แตกต่างและแปลกแยกกันอยู่บนโลก ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็เรียกหากันเสมอ เมื่อมีแสงสว่างแสงสว่างนั้นก็จะเรียกหาความมืด และความมืดก็จะเรียกหาซึ่งแสงสว่างราวกับคู่ขนาน หากแต่ว่าคู่ขนานนั้นมิสามารถที่จะมาบรรจบกันได้ ทุกๆสิ่งในอดีตหากมองย้อนไปก็จะพบว่าทุกอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย

     

    ทุกอย่างเหมือเดิม จิตใจยังคงเหมือนเดิม เช่นเดียวกับบันทึกที่จดเรื่องราวต่างๆตั้งแต่อดีต สิ่งมีชีวิตบนโลกมักจะทำแต่ความผิดพลาดสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีเมื่อใดที่สิ่งมีชีวิตนี้จะเปลี่ยนแปลงไปเลย ยังคงกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่คิดจะเรียนรู้จากอดีตและแก้ไขมัน

     

    ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีอยู่หลายสิ่ง ถึงจะมีอยู่ในหลายๆโลกด้วยกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแตกต่างหรือไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ถึงแม้ว่าสถานะจะแตกต่างกันรูปลักษณ์ทางกายภาพจะแตกต่างจากอีกโลกมากเพียงใดก็ตาม หากแต่ว่า วิญญาณ นั้นล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน....

     

    * ~ ~ = = = = = = = = ~ ~ *

    * ~ ~ = = = = = = = = = = = = = = = = = ~ ~ *

     

    ฮึก...ฮึก....

     

    เสียงร้องไห้ของเด็กตัวเล็กๆ ร่างเล็กผมสีฟ้ายาว ที่แต่งกายแปลกประหลาดและอายุราวๆ 10 ขวบพร้อมกับพี่ๆคนแปลกหน้าทั้ง 3 คน ที่กำลังช่วยกันปลอบประโลมเด็กน้อยตัวเล็กๆคนนี้ให้หายร้องไห้ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถทำให้เด็กน้อยตรงหน้านี้หยุดร้องไห้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว....

     

                    อย่าจ้องหน้าพวกเราแล้วร้องไห้แบบนั้นสิ....

     

     เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นพร้อมกับลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเบาๆด้วยความอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมหากแต่เด็กน้อยได้แต่มองหน้าของชายหนุ่มผมสีดำตรงหน้าและร้องไห้ออกมาอีกครั้งราวกับว่ารู้อะไรบางอย่าง ที่ไม่มีใครรู้ราวกับเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีใครเห็น หากแต่กลับไม่มีใครรู้แม้ว่าจะมีใครมาปลอบก็ตามเด็กน้อยก็กลับไม่หยุดร้องไห้แม้แต่น้อย

     

                    อย่าร้องไห้แบบนั้นสิ....

     

    เสียงของหญิงสาวที่พูดๆเบาๆอย่างอ่อนโยนหากแต่เสียงสั่นด้วยความกังวล ราวกับว่าลังเล

     

                    ทำไม โลกนี้ถึงไม่ยุติธรรมกันนะ......

     

    คำพูดที่เอื้อนเอยอย่างสั่นคลอของเด็กน้อยอย่างเบาๆในจิตใจ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครมองเห็น สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่ร้องไห้ให้กับโลกใบนี้เท่านั้น.....

     

                    ถ้า....หลงทางล่ะก็พวกพี่จะช่วยตามหาพ่อแม่ให้เอาไหมจ้ะ

     

    เสียงของพี่สาวคนแปลกหน้าที่พูดขึ้นทำให้เด็กน้อยตั้งสติได้และรีบปากน้ำตานั้นให้หมดไป ก่อนที่นิ้วๆเล็กๆนั้นจะชี้ขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้ทุกคนงง

     

                    ไม่มีทางหาเจอหรอกค่ะ เพราะว่าอยู่ข้างบนนั้น เพราะงั้นถ้าหาบนพื้นที่นี่จะไม่มีทางเจอหรอกค่ะ

     

    ประโยคที่พูดอย่างใจเย็นพร้อมกับนิ้วที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ทุกๆคนเข้าใจในความหมายนั้นหากแต่ว่าสิ่งที่เข้าใจนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคิด หากแต่เป็นอีกอย่าง ก็...ไม่มีทางที่ใครจะคาดถึงหรอกว่าเป็นยังไง สิ่งที่พอจะคาดเดาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำก็คือ.....

     

    .......

     

    ......................

     

    ............................................

     

    ซ่าๆ

     

    เสียงของสายฝนที่โหมกระหน่ำราวกับตอกย้ำจิตใจที่ปวดร้าวนั้นให้แตกสลายเป็นผุยผงดวงตาสีฟ้าที่แสนเหม่อลอยไม่ยอมแม้กระทั่งที่จะรับรู้ซึ่งอะไร ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง สภาพห้องที่เลอะเถอะ ร่างของเด็กน้อยผมสีฟ้ายาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า และนั่งลงข้างหน้าเอียงคอ ดวงตาสีฟ้าใสจ้องไปยังชายหนุ่มตรงหน้าใบหน้านิ่งที่เก็บความรู้สึกเศร้าเอาไว้

     

                ทำไม..ถึงต้องร้องไห้ล่ะค่ะ....

     

    เสียงใสๆของเด็กน้อยที่ดังขึ้น คำถามที่ถูกพูดออกมาจากปากของเด็กน้อย เจ้าตัวพร้อมกับเขยิบเข้าไปนั่งข้างๆอีกฝ่ายทันทีพร้อมกับลูบหัวพี่ชายที่ไม่รู้จักแม้แค่ชื่ออย่างเบามือ

     

                ถึงว่าจะไม่ได้ร้องไห้แต่จิตใจของคุณกำลังร้องไห้อยู่นะค่ะ....มันเพราะ...อะไรเหรอค่ะ?

     

                    ...........

     

    ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่ลูบหัวของตนก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง โดยไม่สนใจเด็กน้อยเลยแม้แต่นิดเดียว เด็กน้อยนั่งนิ่งได้แต่จ้องมองกับการกระทำของอีกฝ่าย ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปต่อหน้าอีกฝ่าย เด็กน้อยดึงคอเสื้อของพี่ชายแปลกหน้าที่นั่งนิ่งอยู่ในห้องขึ้นโดยไม่สนใจเรื่องอายุทำเอาชายหนุ่มถลึงตาสีฟ้าหม่นด้วยความตกใจ แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคงไม่พ้น....

     

    เพียะ!!

     

                    .......

     

    เสียงของมือเล็กๆที่ตบลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย ใบหน้าที่เกรี้ยวกราดเต็มไปด้วยความโมโห ดวงตาสีฟ้าที่เบิกกว้างด้วยความงงและตกใจนี่เขาถูกเด็กอายุเพียงแค่10 ขวบต้นตบ ทั้งๆที่เขาอายุมากกว่ากลับถูกเด็กตบแถมยังแรงจนทำให้แก้มของเขาชาอีกด้วย ในตอนนี้ถ้าหากเป็นเขาตามปกติเขาจะเรียกว่าเด็กนี่ว่า ไม่มีสัมมาคาราวะ หากแต่การกระทำครั้งนี้ของเด็กน้อยตรงหน้าก็คือการดึงสติของฝ่ายชายหนุ่มกลับมา

     

                    อ่อนแอ!!.....เพราะว่าอ่อนแอก็เลยปกป้องใครไม่ได้ยังไงล่ะค่ะ แม้กระทั่งคนสำคัญก็ปกป้องไม่ได้ก็เพราะว่าคุณมันอ่อนแอ เพราะงั้นเหล่าคนสำคัญของคุณก็เลยถูกพ่อของคุณฆ่าหมดยังไงล่ะ!”

     

                เด็กสาวตัวน้อยตะคอกใส่อีกฝ่ายด้วยความเกรี้ยวกราด คิ้วที่ขมวดเข้าหากันด้วยความไม่สบอารมณ์ น้ำตาที่คลออยู่ที่เบ้าตาของดวงตาสีฟ้าใส ดวงตาสีฟ้าใสที่บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความโมโห ความเกรี้ยวกราดและความไม่สบอารมณ์ที่มุ่งเข้าหาเขา

     

                ว่าไงนะ....เธอน่ะ...ไม่รู้อะไรแท้ๆอย่ามาพูดจะดีกว่า!!”

     

                    เพราะไม่รู้นั่นแหละถึงต้องพูดค่ะ!! ก็เพราะว่าไม่รู้ เพราะงั้นก็เลยต้องพยายามค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง และเพราะว่าอ่อนแอดังนั้นมนุษย์ทุกคนถึงต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องสิ่งที่รักไม่ใช่เหรอค่ะ!!

     

                    อย่ามาพูดจาสวยหรูไปหน่อยเลยน่า ถึงเธอจะรู้แล้วคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้รึไง!!”

     

    ชายหนุ่มกัดฟันโกรธก่อนที่จะตะคอกออกมาเสียงดัง เสียงตะคอกที่ดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความโมโห หยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมา นี่เขากำลังทะเลาะกับเด็ก 10 ขวบต้นเนี่ยนะ.... กะอีแค่คำพูดของเด็ก 10 ขวบทำไมต้องสนใจด้วย ทำไมต้องไปต่อล้อต่อเถียงด้วย ถ้าหากว่ายัยเด็กคนข้างหน้านี้ร้องไห้จะไม่ถูกพ่อของเขาฆ่าอีกคนหรือ.... แต่...ตอนนี้เด็กน้อยก็ได้แต่นิ่งเงียบ หยาดน้ำตาไม่ได้ไหลรินลงมาจากดวงตาสีฟ้าคู่งามหากแต่ถูกกลืนลงไป ร่างเล็กยืนนิ่งก่อนจะกับตวัดมือไปข้างหน้า พร้อมกับพูดว่า....

     

                    เปลี่ยนไม่ได้หรอกค่ะ.....อดีตน่ะถ้ามันผ่านไปแล้วมันก็เปลี่ยนไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็มีแค่เผชิญหน้ากับมันยอมรับความจริงไม่ใช่เหรอค่ะ.....ดังนั้นมนุษย์ถึงต้องแข็งแกร่งขึ้น!!ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อคนสำคัญ!!เพื่อปกป้องสิ่งนั้นมนุษย์ถึงได้แข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่เหรอค่ะ คนเราน่ะถ้าต้องการที่จะปกป้องอะไรแล้วล่ะก็ ก็จะแข็งแกร่งขึ้น จะไม่ยอมเสียสิ่งสำคัญนั้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

     

    ประโยคที่น่าเกรงขาม คำพูดที่เยือกเย็นนิ่งสงบแต่กลับรุนแรงราวกับระลอกคลื่น นี่น่ะหรือเด็ก 10 ขวบ นี่น่ะหรือเด็กตัวเล็กๆที่เขาว่ามักจะไม่ประสีประสากับอะไรเลย เหตุใดเด็กนี้ถึงได้ดูน่าเกรงขามอย่างแปลกประหลาด นี่หรือเด็ก 10 ขวบ เหตุใดถึงได้กล่าววาจาที่ราวกับว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่ ทำไมถึงพูดประโยคที่แบบนี้ออกมา ทำไมถึงได้พูดราวกับว่าแบกสิ่งที่หนักอึ้งไว้เพียงลำพัง พูดราวกับว่าตัวเองเคยผ่านมันมาแล้วยังไงยังงั้น ทำไม เพราะอะไร.......

     

                    ถ้าหาก...คุณยังเป็นแบบนี้อยู่แล้วคนที่จากไปจะทำยังไงล่ะค่ะ ช่วยคิดถึงคนที่จากไปด้วยค่ะ...เพราะถ้าไม่คิดถึง...มันก็เหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตนถ้าไม่กลับมาเป็นคุณที่ร่าเริงไวๆล่ะก็ คนที่จากไป....จะต้องร้องไห้นะค่ะ เพราะฉันนั้นขอร้องล่ะค่ะ กรุณา....กลับมาเป็นคนเดิมเถอะค่ะ อย่าทำให้จิตใจต้องร้องไห้ไม่งั้นมันจะพาลให้คนที่จากไปต้องทุกข์นะค่ะ.... เด็กน้อยกล่าวเสียงสั่น

                   

                    ฮะ...ฮะๆยัยหนูนี่...พูดจาซะใหญ่โตเลยทั้งๆที่เด็กขนาดนี้แท้ๆนะ ทั้งๆที่เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆแท้ๆแต่กลับเข้มแข็งกว่าฉันซะอีก....

     

                ....เราเฝ้ามองมาตลอด เรารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่แต่ก็ไม่สามารถที่จะช่วยหรือทำอะไรได้เลย

     

                .......

     

                    ตั้งแต่ที่เราบอกว่าจะไม่มาที่นี่อีก เราได้แต่เฝ้าดูพวกคุณจากบนนี้โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เฝ้ามองคุณที่ต้องเจ็บปวดจนทนไม่ไหว ถ้าหากว่าเรา....อยู่ที่นี่นานขึ้นอีกสักหน่อยจะต้องปกป้องได้ จะต้องช่วยได้แน่ๆ แต่ก็กลับ....

     

                    เสียงที่สั่นคลอ หยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาจากดวงตาสีฟ้าคู่งาม ร่างเล็กที่กำหมัดแน่นด้วยความโมโหและเจ็บใจที่ตัวเองไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะว่ายังอ่อนแออยู่เลยไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ไม่สามารถที่จะปกป้องได้ กว่าที่จะคว้ามือไปเพื่อปกป้องมันก็สายไปแล้ว สายไปเสียทุกครั้ง

     

                    .....ฟ้า

     

                    เสียงที่ลำพันถึงชื่อเล่นที่ตั้งให้กับร่างเล็กตรงหน้าที่ร้องไห้ ร่างเล็กที่ร้องไห้ต่อหน้าราวกับต้องการช่วยเขาร้องไห้ หยาดน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาสีฟ้าครามของชายหนุ่ม น้ำตาที่คิดว่าเหือดแห้งหลั่งไหลออกมาอีกครั้งราวกับว่าได้ระเบิดอารมณ์ น้ำตายังคงไหลรินเหมือนกับน้ำที่ทะลักออกมา น้ำตาที่เขาคิดว่าเหือดแห้งไปแล้ว มือใหญ่ที่พยายามจะเอื้อมไปลูบหัวร่างนั้นแต่ก็กลับชักกลับมาด้วยความลังเล

     

    เราจะมอบคาถาให้นะค่ะ ขอเพียงแค่นี้คุณก็จะไม่ร้องไห้อีกแล้วล่ะค่ะ.....

     

    รอยยิ้มกับคำพูดของเด็กน้อยที่ทำให้เขาต้องยอมจำนน คำพูดเบาๆที่ดังขึ้นราวกับร่ายคาถา คาถานี้จะทำให้ไม่ร้องไห้ไม่ใช่เหรอแต่ทำไมเด็กคนตรงหน้าเขาถึงร้องไห้อยู่ล่ะ เขาว่าเด็กๆจะไม่โกหกคาถานี้เริ่มได้ผล น้ำตาของเขาหยุดไหล คาถานี้ได้ผล หากแต่กลับไม่ได้ผลกับเด็กสาวข้างหน้านี้

     

    เด็กน้อยตรงหน้ายังคงหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน หากแต่ปากก็ยังคงร่ำร่ายคาถาหยุดน้ำตาให้กับเขาอย่างไม่หยุดหย่อน

     

    อย่าร้องไห้สิ ไม่งั้น...คนอื่นๆจะผล็อยเศร้าไปด้วยนะ ตัวเองเป็นคนบอกให้หยุดแต่ทำไมร้องไห้เองซะล่ะ ยัยเด็กนี่นิ หยุดร้องไห้ได้แล้วล่ะ.......

     

    เรามาเล่นเกมกันนะค่ะ...แต่ว่ากฎและกติกานั้นจะต้องอธิบายหลังจากที่คุณหลับแล้วเท่านั้นนะค่ะ....

     

    รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของเด็กน้อยคำพูดที่ออกมาจากปากของเด็กน้อย น้ำตาที่ถูกเช็ดไปหากแต่ก็ยังคงไหลออกมา คำพูดสั้นๆ ที่ถูกกล่าวออกมาจากปากของเด็กน้อยค่อยๆถูกถ่ายทอดออกมาให้กับร่างที่กำลังจะหมดสติ รอยยิ้มจางๆที่แฝงไปด้วยความเศร้าบนใบหน้าของเด็กน้อย

     

    ........

     

    คำใบ้ก็คือ ...ของสำคัญที่อยู่ใกล้ตัว

     

    คำใบ้ที่ถูกถ่ายทอด แสงสีฟ้าที่ส่องแสงสว่างจ้าชวนให้สายตาม้วนตัวกันเป็นลูกบอลกลมๆเล็กๆก่อนจะหายไป กฎเกณฑ์ กติกา กฎระเบียบ และข้อบังคับ ของการเล่นเกมได้ถูกบรรยายไปหมดแล้ว บรรยายไปในขณะที่ชายหนุ่มกำลังหมดสติ กฎเกณฑ์ง่ายๆที่ถูกสร้างขึ้น หากแต่การจะหาคำตอบได้นั้นบางทีเขาอาจจะต้องหามันตลอดชีวิตก็ได้

     

    ร่างเล็กๆในชุดสูทสีดำที่เดินออกมาจากมุมๆหนึ่งของห้องลูบหน้าชายหนุ่มที่หลับใหลอย่างเบามือพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนเศร้าที่มีให้ทั้งชายหนุ่มที่น่าจะเป็นเจ้านาย และเด็กน้อย รอยยิ้มที่สื่อมาให้อย่างอบอุ่นและอ่อนโยนราวกับคนรู้จักและคุ้นเคย เจ้าตัวเล็กในชุดสูทสีดำเดินมาหาเด็กน้อยก่อนจะลูบแก้วเด็กน้อยช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน ดวงตาสีฟ้าที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะหรี่ลงพร้อมกับรอยยิ้ม

     

    ไม่ได้พบกันนานนะค่ะ....

     

    เสียงที่ดังออกมาจากเด็กสาวร่างเล็ก เจ้าตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างเจ้านายพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น เด็กน้อยค่อยๆยกหัวของชายหนุ่มขึ้นมานอนบนตักของตน น้ำตาไหลลงไปกระทบที่ใบหน้าของชายผู้หลับใหล รอยยิ้มที่แสนเศร้าที่ปรากฏออกมาจากดวงตากลมโตสีฟ้า

     

    ......

     

    ราตรีสวัสดิ์ค่ะแล้วก็....ไว้พบกันใหม่....นะค่ะ......

     

    คำพูดที่กล่าวออกมาอย่างแสนเศร้าพร้อมกับรอยยิ้มแสนเศร้า คาถานี้ไม่ได้ช่วยให้หายเศร้าได้ ไม่สามารถปัดเป่าความรู้สึกเศร้าได้หมด หากแต่ว่ามันเป็นเพียงแค่คำอ้างของเด็กน้อยที่ทำเพื่อให้ชายตรงหน้านี้หลับใหลไม่ให้ทุกข์ทรมานกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อให้ตื่นขึ้นมาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อให้พอที่จะก้าวเดินต่อไปได้อย่างสง่างามกว่าเดิม

     

    สักวันหนึ่ง....ถ้าหากมีโอกาส....

     

    คำพูดที่ถูกพูดต่อจนจบ ตอนนี้ไม่นึกไม่ฝัน ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง ชื่อที่ยังไม่เคยถาม ชื่อที่ยังไม่ได้บอก เรื่องมากมายที่อยากจะพูด เจ้าตัวน้อยในชุดสูทเดินห่างออกไปและเข้าไปหลบยังที่แห่งเดิม แสงสีฟ้าที่ส่องสว่าง แสงสีฟ้าที่ค่อยๆส่องแสงมากขึ้นก่อนจะค่อยๆถูกกลืนเข้าไปเป็นจุดเดียวและจางหายไปพร้อมกับเด็กน้อย

     

                ปัง

               

                เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นของชายชราพร้อมกับดวงตาคมเข้มที่จ้องไปยังบุคคลทั้งที่อยู่ในห้อง ชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนพื้นพร้อมกับดวงตาที่บวมจากการร้องไห้ และหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลลงมาจากแก้มของชายหนุ่มปะทะลงกับพื้นของพรมอุ่นๆและซึมหายไป น้ำตาของผู้ที่พึ่งจะจากไป

     

    จะไม่ยอมเสียสิ่งสำคัญไป จะไม่ยอมสูญเสียอะไรอีกเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้แหละจะปกป้องให้ได้ จะต้องแข็งแกร่งขึ้น แล้วก็จะต้องสามารถปกป้องสิ่งสำคัญให้ได้ ฉันจะนำสิ่งที่ฉันสูญเสียไปกลับมา ฉันสัญญา....

     

                    คำสัญญาที่ผ่านท่วงทำนองและความคิดในเวลาเดียวกัน สายลมที่พัดผ่านซึ่งคำสัญญา หากแต่ชายหนุ่มเอย เจ้ากำลังให้คำสัญญานั้นกับใครอยู่หรือ?สิ่งที่เจ้ากำลังให้คำสัญญากับมันอยู่คือ....อะไรกันแน่......

     

    .....................................

     

    .....................

     

    .........

    .

     

    กล่าวคำโป้ปดบางอย่างที่ทำไม่ได้

     เป็นเด็กเลี้ยงแกะที่กล่าวคำโป้ปดเพื่อให้อีกฝ่ายลุกขึ้น

    แค่คำโกหกที่กล่าวอ้างว่าควรจะเข้มแข็ง  คำโกหกที่กล่าวอ้างให้หายโศกเศร้า

     

    ...........หากแต่ว่าตัวเรานั้น..........

     

    ไม่ได้เข้มแข็งขึ้นเลย

     

    * ~ ~ = = = = = = = = ~ ~ *

    * ~ ~ = = = = = = = = = = = = = = = = = ~ ~ *

     

    ล่องลอย ล่องลอยและล่องลอย

    สิ่งสำคัญในโลกนี้ล้วนไม่จีรังและไม่ยั่งยืน

    เราไม่สามารถจดจำเรื่องราวในอดีตได้ก็จริงหากแต่ว่าถ้าบันทึกไว้ล่ะก็ มันก็จะไม่มีวันลืม

     

    วันอันแสนสำคัญถ้าหากกลัวที่จะลืมก็จงจดบันทึกเอาไว้

     

    จดลงไปสิเด็กน้อย อย่าให้มันเลือนหายไปจากความทรงจำ มันเป็นความทรงจำที่แสนล้ำค่ามิใช่หรือ

     

    บันทึกมันเอาไว้สิ ไว้ในสมุดแสนสำคัญ ไว้ใจหัวใจ

    จงเก็บความทรงจำที่แสนมีค่าไว้จดจำไว้ในบันทึกแห่งความลับ

    จงเขียนมันลงไปอย่าให้มันหายไป

     

    เด็กน้อยเอย เด็กน้อย

     

    ถ้าหากว่ากลัวลืมก็จงจดลงไปเสียแล้วเจ้าก็จะไม่มีวันลืม

     

    อย่าให้ของสำคัญต้องหายไป

     

    วัน ทรู ทรี เด็กน้อย เด็กน้อย หยิบกระดาษอุปกรณ์เครื่องเขียนขึ้นมา

    แล้วจดบันทึกความทรงจำของวันนี้ไว้เสีย

    จดบันทึก ความทรงจำอันแสนสำคัญจงจดบันทึกมันลงไปในซะสิ

     

    จดจำ แล้วก็ จดจำ จดจำมัน บันทึกมันไว้ในสมุดแสนสำคัญ

    ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บันทึก

     

    เด็กน้อยเอย เด็กน้อยเอย

     

    จงบันทึกความทรงจำอันแสนสำคัญไว้ในตัวของเจ้า

     

    เด็กน้อยที่น่ารักของฉัน

     

    .................

     

    .

     

    .................................................................

     

                เควสต่อไปล่ะ

     

     เสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้นอย่างเบาบางในป่าที่มีแต่เสียงของสายลม หญิงสาวตัวเล็กภายใต้ผ้าคลุมที่นั่งอยู่บนโขดหินใกล้ๆพร้อมกับร่างที่เล็กกว่าที่ยืนอยู่ที่พื้นและกำลังยืนอ่านม้วนกระดาษ

     

                เกล็ดมังกร

     

     เสียงของชายหนุ่มที่ออกมาจากเจ้าสิ่งมีชีวิตภายใต้ผ้าคลุมที่ห่อหุ้มร่างกายเล็กๆนั้นไว้ สายลมค่อยกรรโชกแรงขึ้นพร้อมกับตัวเป้าหมายที่บินโฉบเหนือทั้งสอง สิ่งทีชีวิตรูปร่างเล็กหากแต่มีพลังล้นเหลือ เขาอันสง่างามดวงตาคมกริบที่ดุดัน หากแต่จะดุดันและน่าเกรงขาม ถ้าหากว่าเป็นเป้าหมายที่โตเต็มวัยน่ะนะ ...

     

    ไม่ช้าหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนบนโขดหินพร้อมกับกระโดดขึ้นเหลือพื้น และเพียงชั่วพริบตาที่ราวกับว่าเจ้าตัวลอยค้างอยู่บนอากาศ หญิงสาวคว้าเจ้าเป้าหมายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดพร้อมกับลงสู่พื้นอย่างสวยงาม

     

                กี๊~”

     

     เจ้าเป้าหมายตัวน้อยส่งเสียงร้องด้วยความตกใจพร้อมกับพยายามดิ้นหนีจากมือของหญิงสาวที่กอดมันเอาไว้ในอ้อมแขน มือข้างถนัดที่ว่างอยู่ของหญิงสาวถูกยกขึ้นลูบหัวของเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามังกร อย่างเบามือที่น่าแปลกคือมันกลับสงบเสียงลงได้อย่างรวดเร็ว

     

                โอ๋ๆขอโทษนะแต่ฉันขอเกล็ดของเจ้าไปล่ะนะ~”

     

    เสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้น เจ้ามังกรตัวน้อยก้มหัวให้กับหญิงสาวพร้อมกับดึงเกล็ดมังกรของตนออกมาให้กับหญิงสาว1อัน เธอรับมันไว้ในมือก่อนที่จะยกเจ้ามังกรตัวน้อยให้อยู่สูงขึ้นและปล่อยเจ้ามังกรตัวน้อยนั้นให้บินขึ้นเหนือฟ้าและบินจากไป ก่อนที่คนทั้งสองจะเดินออกไปจากที่แห่งนี้....

     

    * ~ ~ = = = = = = = = ~ ~ *

    * ~ ~ = = = = = = = = = = = = = = = = = ~ ~ *

     

    แหะๆ

     

    รอยยิ้มของเจ้าของเรือนผมสีฟ้าที่หยิกยาวถึงกลางหลัง ดวงตาสีฟ้ากลมโตกับเสียงที่ร่าเริง ร่างเล็กที่กำลังหมุนตัวไปมาอย่างสนุกสนาน หากแต่ความไม่ระวังตัวมักทำให้เกิดอุบัติเหตุสม่ำเสมอ หากแต่เพราะโชคดีเกินไปหน่อยเลยรอดแบบฉิวเฉียด เจ้าตัวก็เลยร่าเริงเดินไปหยิบเควสที่จะทำต่อไป

     

    เอ....อันไหนดีน้า.....

     

    สาวเจ้าพูดก่อนจะดึงเควสที่อยู่ด้านบนลงมาพร้อมกับอ่านดูจนไม่สังเกตเด็กสาวคนข้างๆที่ยืนมองอยู่ด้วยความสงสัยและดูเลิกลัก ผมสีแดงยาวสลวยดวงตาสีเหลืองอ่อนกับการแต่งตัวแบบผู้ชาย สาวเจ้าเบนยิ้มกับกระดาษก่อนจะหันหน้าไปหาอีกเด็กสาวคนข้างๆที่จ้องเธออยู่ทันที

     

    นี่....ถ้าไม่รังเกียดจะมาปาร์ตี้กันไหมพอดีว่าฉันขาดปาร์ตี้อีก 2 คนน่ะ ตอนนี้มี 2 แล้วล่ะ

     

    อะ..เอ๋...จะ..จะดีเหรอฮะ ถะ...ถ้าได้ก็ตกลงฮะ อะ...เอ่อ...ผมชื่อมิจยูนฮะมิจยูนกล่าวตอบ

     

    ฉันชื่อมิว อายุ 19 ยินดีที่ได้รู้จักนะ มิจยูน

     

    ฮะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันฮะมิวจัง....

     

    อีกฝ่ายตอบแบบทุลักทุเลก่อนจะตอบตกลงทำให้สาวเจ้ายิ้มแฉ่ง ก่อนจะเริ่มเล็งหาเหยื่อปาร์ตี้อีกคนที่เพื่อให้ครบ 4 คนแต่ดูเหมือนจะไม่ต้องไปหาให้ไกลเพราะว่าเงาดำร่างใหญ่เดินมาเองแถมยังมาข้างหลังทำให้สาวเจ้าต้องสะดุ้งโหยงรีบหันกลับมาแต่ยังไม่ทันจะได้หันไปมองว่าใคร แขนของคนที่ตัวสูงกว่าก็ถูกวางลงบนศีรษะของเจ้าตัวเสียก่อน

     

    ไง....ปาร์ตี้อีกคนไม่ต้องไปหาหรอก ก็...เป็นฉันนี่ไง เนอะ

     

    ....นาย

     

    ??

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×