ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fullmetal Alchamist : นรกที่ไม่เคยจบสิ้น

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 2 ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุม

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 49


    ตอนที่ 2 ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุม

    "งั้นไปก่อนนะ……ลืมไปไอ้ผู้พันเฮงซวยบรรลัย"เอ็ดพูดใส่หน้ารอยเต็มแถมโบนัสให้คือน้ำลายที่กระเด็นใส่หน้าไปเต็ม จนเส้นความอดทนเกือบขาดไปเต็มๆแถมเป็นเส้นที่ใหญ่ที่สุดซะด้วย

    "งั้นไปดีมาดีนะ"ริซ่าพูดก่อนที่จะยกมือขึ้นมาทำตามระเบียบกองทัพส่วนเอ็ดกับอัลซึ่งเห็นดังนั้นก็ทำตาม(กฎของกองทัพ)

    แล้วรถไฟจากเซ็นทรัล ไป รีเซนเบิ้ล ค่อยเคลื่อนไปส่วนเอ็ดและอัลเพื่อไปทำตามกองทัพเพราะคาดว่าน่าจะอยู่ที่รีเซนเบิ้ลจึงให้ออกหมายค้น เพราะนักเล่นแร่แปรธาตุที่ถูกส่งไปทำงานที่นั่นโดนฆ่าทุกคนจึงยังไม่ได้ค้นอย่างทั่วถึงนัก(มันก็น่าจะอยู่แหละน้าก็เล่นฆ่าคนที่รับงานนี้หมดแถมเป็นที่นั่นอีกต่างหาก มันก็น่าจะบ่งบอกว่าอยู่ที่นั่น)

    "ยังไงก็ไปที่นั่นนี่นาไปหาคุณยายพินาโกะก่อนที่จะไปตรวจดีไหม"อัลถามเอ็ดซึ่งนั่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามถามเอ็ดซึ่งนั่งอ่านข้อมูลที่รอยส่งมาให้

    "เอาสิยังไงก็ไปที่นั่นนี่นา"เอ็ดหันหน้าขึ้นมาตอบคำถามของอัลแล้วนั่งอ่านเอกสารนี้ต่อไป

    เอ็ดซึ่งนั่งอ่านก็ทำหน้าขมวดคิ้วพร้อมหาอะไรบางอย่างจากแฟ้มใบงานที่รอยส่งมาให้ก็เจอกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลงมาจากแฟ้มเอ็ดซึ่งเก็บขึ้นมาดูก็ต้องตกใจว่ามันเข้ามาได้ยังไง

    "อะไรเหรอฮะ ข้อความในจดหมายเขียนว่าอะไรฮะ"อัลถามเอ็ดซึ่งนั่งอ่านข้อความนั่นอย่างสงสัย

    -------------------------------------------------

    สวัสดิ์เหล่านักเล่นแร่แปรธาตุทั้งหลายหวังว่าคงจะเจอจดหมายนี้หลังจากที่รับงานนี้กันนะ ขอให้สนุกกับเกมที่ฉันจะจัดให้แต่ว่าถ้าเจอเรื่องไม่คาดหมายละก็อย่ามาว่ากันนะ ฉันก็เหมือนพวกนายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ เมื่อมีกฎก็ต้องมีผู้สร้างแล้วก็ต้องมีผู้ทำลาย และนายก็จะเป็นคนต่อไป เอ็ดเวิรด์ เอลริค ไม่สินักเล่นแร่แปรธาตุเหล็กไหล แล้วก็น้องชายของนายด้วย นักเล่นแร่แปรธาตุชุดเกราะ

    ถ้าพวกนายจะถามว่าฉันใส่เข้ามาได้ยังไง เรื่องนั้นขอไม่บอกละกัน แต่ว่าถึงนายไม่รับฉันก็จะฆ่านายอยู่ดี เรามาเริ่มกันดีกว่า ในหมากตาสุดท้ายที่ฉันจะจัดให้ในครั้งนี้ เรามาเริ่มตัดสินกันเถอะว่าใครจะรอดฉันหรือว่านาย ใครจะเป็นฝ่ายชนะแล้วใครจะเป็นฝ่ายแพ้ ใครจะเป็นฝ่ายถูกฆ่าแล้วฝ่ายใครจะเป็นผู้ฆ่า จะมีผู้ถูกฆ่าเพียงคนเดียวเท่านั้น

    ขอให้สนุกนะเอ็ดเวิรด์ เอลริค แล้วก็ อัลฟองเซ่ เอลริค

    แล้วเจอกันใหม่นะ

    อย่าลืมแก้ปริศนาซะล่ะเมื่อนายแก้ได้ทั้งหมดทุกอย่างจะกระจ่างในไม่ช้านี้

    เด็กน้อยในยามค่ำคืนดวงจันทร์ที่สาดส่อง แสงสว่างที่จะไม่หวนคืนศิลาแดงเอย

    ในดวงจันทร์ยามค่ำคืนแสงสว่างที่ถูกสาดส่อง ศิลานักปราชญ์เอยศิลาที่ผู้คนปราถนา

    ในดวงจันทร์ยามค่ำคืนเด็กน้อยที่ร้องไห้อยู่เดียวดาย ศิลาแดงในยามค่ำคืนที่ถ่อประกายสีเลือด เลือดนั้นคือของใครกัน !?

    -------------------------------------------------

    "ไม่สิในข้อความนี้น่าจะบ่งบอกอะไรสักอย่างไว้มันหมายความว่าอะไรกัน"เอ็ดนั่งคิดพลางขมวดคิ้วพลางหาข้อความลับที่น่าจะมีอยู่ในจดหมายนี้

    "พี่ฮะมันเขียนว่าอะไรเหรอฮะ"อัลถามเอ็ด

    "มันก็แค่จดหมายที่ผู้พันเฮงซวยใส่เข้ามาเท่านั้นเองแหละอย่าใส่ใจเลย"เอ็ดบอกกับอัล

    "เหรอฮะ"อัล ซึ่งนั่งก็งงไปตามๆกัน

    ในระยะทางซึ่งคาดว่าน่าจะผ่านมาครึ่งทางระหว่างเซ็นทรันกับรีเซนเบิ้ลจู่ก็เกิดระเบิดขึ้นที่ท้ายขบวนซึ่งขบวนนั้นถูกแยกออกไปแล้วโดยมีพวกโฮมุนครูสยืนอยู่บนขบวนนั่นแล้วให้ กลัทโทนี่ย์ยืนอยู่บนขบวันนั้นเข้าไปสำรวจ ราวกับว่าตามหาใครสักคน ส่วนพวกคนอื่นก็กระโดษมาที่ขบวนอื่นแล้วแยกย้ายกันค้นหาในแต่ละขบวนนั้น

    เอ็ดและอัลวิ่งไปที่ด้านหลังสุด รู้สึกว่าจะมีคนที่ใส่เสื้อคลุมคนหนึ่งเดินตามไปดูเช่นกันซึ่งร่างนั้น เห็นเข้าก็รีบวิ่งไปขบวนอื่น แต่รู้สึกว่าเอ็ดจะคว้าข้อมือไว้ทันจึงทำให้ร่างนั้นวิ่งไปไม่ได้

    "หนีทำไม"เอ็ดซึ่งเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆถามด้วยสีหน้าจริงจังจนคนที่ถูกจับข้อมือเอาไว้ต้องรีบถอยหลังไปแต่ว่ามันไม่มีที่ให้หนีนะสิ แต่เอ็ดก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมบีบแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก

    "แหมๆกุมไม้กุมมืออะไรกันสีสันบันเทิงกันจริงๆนะ"เสียงดังมาจากด้านบนของขบวนที่เอ็ดกับอัล ยืนอยู่ซึ่งคนที่ถูกบีบมือรีบสะบัดออกก่อนที่จะรีบกระโดดลงจากขบวนนี้ไปทันทีแล้วรีบวิ่งให้ไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

    "เฮ้ย !? ไปบอกทุกคนทีสิว่าเราเจอคนที่ตามตัวแล้ว"เอ็นวี่บอกกับราธ ซึ่งอยู่กับเอ็นวี่ ราธเองก็พยักหน้าแล้วรีบกระโดดไปบอกคนอื่น ส่วนเอ็นวี่รีบกระโดดลงมาดักหน้า เอาไว้จึงทำให้ไม่สามารถวิ่งไปได้แล้วคนอื่นๆก็กระโดดมาล้อมรอบ 4 มุมซึ่งไม่มีทางหนีเลยด้วยซ้ำไป

    "เฮ้ย!! มันเรื่องอะไรกันเนี่ย"เอ็ดตะโกนถามขึ้น

    "เชอะกะ จะมาฆ่า 2 พี่น้องนั่นดันมาเจอพวกโฮมุนครูสซะนี่"ร่างนั้นบ่นพลางกระโดดไปให้สูงที่สุดแล้วข้ามหัวเอ็นวี่ไปแล้ววิ่งหนี ไปแต่สุดท้ายก็โดนดักทางอีกจนได้

    "ชิ ช่วยไม่ได้สินะเหลือทางเดียวก็ต้องสู้"เมื่อร่างนั้นพูดจบ ดาบก็ปรากฏขึ้นมาที่มือแล้วเริ่มหันหน้าเข้าไปสู้กับเอ็นวี่

    "ถ้านายไม่หลีกฉันจะฆ่านาย"ร่างนั้นพูด

    "ฆ่ายังไงก็ไม่ได้ผลหรอกนะแต่ว่าจะมัวแต่ปกปิดอยู่ทำไมคิดเหรอว่าฉันจะไม่รู้นะ"เอ็นวี่พูดจบก็จะกระชากเสื้อคลุมนั่นออกแต่ ร่างนั้นไหวตัวทันจึงกระโดดถอยหลังไป

    "เฮ้ย~รุมอะไรกันอยู่คนเดียวอย่างี้เท่ากับรุมคนที่อ่อนแอชัดๆ"เอ็ดตะโกนขึ้นแล้วกระโดดจากรถไฟลงไป ซึ่งอัลก็กระโดดตามลงไป ทำให้ทุกคนหันมาเป็นทางเดียว

    "นั่นสินะพ่อตัวเปี๊ยกถ้าไม่มีคนร่วมวงก็ไม่สนุกนะสิ.........""หุบปาก"เอ็นวี่พูดยังไม่ทันขาดคำก็โดนแทรกขึ้นมา

    "พวกนายนะเอาแต่พูดเพ้อเจ้ออยู่ได้ รีบหนีไปซะ ถ้าไม่อยากตายก็รีบหนีไปซะ อึก"เมื่อหลังการสนธนาใกล้จบอีกฝ่ายไม่รอช้าชกเข้าที่หน้าท้องไปเต็มแรงจนทำให้ล้มลงไป เอ็นวี่ก็ค่อยๆเดินเข้าหาเรื่อยๆ

    "ก็มันเป็นจุดประสงค์ของท่านผู้นั้นเพราะฉะนั้นถึงได้มาตามตัวเธอกลับ ไปยังไงละ"เอ็นวี่พูด

    "หนอย"เอ็ดวิ่งเข้าไปเพื่อจะช่วยแต่ทว่าถูกขวางเอาไว้ซะก่อน

    "หนีไป"ร่างนั้นบอกแต่ว่าคนอื่นๆก็ค่อยๆเข้าไปเพื่อสู้กับเอ็ดเรื่อยๆซึ่งมีราธ กลัทโทนี่ย์ ลัสต์ ไปสู้เช่นกัน

    "คิดเหรอว่าฉันจะเป็นคนที่ทิ้งคนอื่นไปได้ง่ายๆนะ"เอ็ดกับอัลตะโกนขึ้นพร้อมกันก่อนที่จะเริ่มตั้งท่าสู้

    หญิงสาวค่อยพยุง ตัวลุกขึ้นแล้วตะคอกใส่เอ็ดกับอัลไป"พวกนายคิดจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่รึไงกัน โอ๊ย!"ยังไม่ทันพูดจบก็โดนเอ็นวี่เตะเข้าที่หน้าท้องทำให้ล้มลงไปนอนอีกครั้งหนึ่งด้วยความเจ็บปวดจึงเอามือมากุมที่หน้าท้องเอาไว้ แล้วเริ่มพยุงตัวขึ้นอีกครั้ง เอ็นวี่เห็นดังนั้นจึงเอามือไปฟาดที่สักคอจนล้มลงไปอีกครั้งหนึ่ง

    "เลิกพูดได้แล้วน่า จะมาจีบอะไรกันแถวนี้"เอ็นวี่พูดก่อนที่จะพยุงร่างนั้นให้ลุกขึ้นแล้วแปลงร่างเป็นม้าโดยมีร่างที่กำลังเจ็บปวด อยู่บนร่างนั้น

    ผ้าคลุมที่ขาดหลุดลุ่ยก็
    หลุดออกมา เผยให้เห็นใบหน้าขาวเนียน ผมสีแดงฉานราวกับเปลงเพลิง และดวงตาสีแดงราวกับไฟในดวงข้างขวา กับดวงตาสีทองราวกับสีดวงตะวันในดวงข้างซ้ายที่กำลังโกรธอยู่ และพยายามประคองตัว

    "ได้ตัวแล้วไปกับรึยัง"เอ็นวี่พูดขึ้นก่อนที่จะเริ่มขยับขาตัวเองเล็กน้อยที่ท่าว่ากำลังจะไป

    "ยังหรอก ต้องพาเอ็ดเวิรด์ไปอีกคน"ราธ พูดขึ้นก่อนที่จะเข้าไปวิ่งสู้กันต่อหลังจากกระเด็นออกมาจากการต่อสู้

    "งั้นพาผู้หญิงคนนี้กลับไปก่อนละกันนะ"เอ็นวี่พูดก่อนที่จะเริ่มออกตัววิ่งไปอีกทาง ส่วนอัลกับเอ็ดทำท่าจะวิ่งตามไปแต่ถูกขวางเอาไว้ก่อน ส่วนเอ็ดก็กระโดดข้ามหัวราธไปอย่างไม่สนใจ แล้ววิ่งตามไป

    "หนอย"อัลพูดอย่างเจ็บใจ

    "บ้าจริง"เอ็ดลำพึงก่อนที่จะออกแรงสุดกำลังวิ่งตามไปให้ได้ เอ็นวี่ซึ่งเห็นดังนั้นจึงแปลงร่างเป็นคนแล้ววางหญิงสาวให้นอนลง

    "ทีนายแล้วสินะเจ้าเปี๊ยก ฉันไม่ชอบต่อสู้ซะด้วยสิ"เอ็นวี่พูดก่อนยิ้มหน้าระลื่นแล้วเข้าไปสู้กับเอ็ด ร่างอีกร่างหนึ่งพยายามลุกขึ้นแต่ความเจ็บปวดทำให้พยุงตัวได้ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ร่างนั้นก็ลุกขึ้นมาได้แล้วเอามือกุมที่หน้าท้องเอาไว้

    "อย่า.........."ร่างนั้นเริ่มพูดทำให้ทั้ง 2 ที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นหันมา ส่วนเอ็ดไหวตัวทันด้วย สัญชาตญาณจึงรีบประกบมือแล้วให้ตัวเองอยู่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

    "อย่ายุ่งกับเขา !! "

    ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานราวกับเลือดทั้ง 2 ข้าง ดวงตาทั้ง 2 ข้างเริ่มเปล่งแสงสีขาวเจิดจ้าจนทำให้คนอื่นแสบตาแต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อแสงพวกนั้นหายไปกับไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่คล้ายหลุมที่กลืนกินทุกอย่างไป เอ็ดที่อยู่ข้างบนก็ประกบมืออีกครั้งเพื่อช่วยตัวเอง

    ร่างของเอ็นวี่ซึ่งหายไปเมื่อกี้ก็ค่อยกลับขึ้นมาเป็นร่างเดิม เอ็ดตกลงมาซึ่งเอ็นวี่อยู่ข้างล่าง พอดีกับจุดที่เอ็ดจะตกลงมาพอดี เอ็นวี่ก็เลยโดนเอ็ดทับ หญิงสาวๆค่อยพยุงตัวขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่สนใจพร้อมกับหยดน้ำสีแดงและน้ำใสๆที่มากระทบกับพื้นและใบหน้า

    …………………………………………

    สิ่งที่ข้ากระทำอยู่นี้คือการกระทำของมนุษย์หรือปีศาจกันแน่

    ความรู้สึกเยี่ยงเช่นมนุษย์ตัดมันไปเลยดีกว่า

    รัตติกาลเอยช่วยบอกข้าที วันใดที่ทุดสิ่งทุกอย่างจะแปรพัน

    จงทำให้ข้านั้นหลับไหลไปโดยไม่รับรู้ซึ่งสิ่งใดอีกเลย

    ขอจงให้ข้าหลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ โลกนี้พินาศ

    ในวันที่จิตใจของมนุษย์ทุกคน จะถูกย้อมให้เป็นสีมลทิน

    เมื่อดวงจันทร์จะถูกย้อมเป็นสีแดงฉานราวกับเลือด

    เมื่อใดที่ถึงวันนั้นจงทำให้โลกทั้งโลกนี้พินาศ

    …………………………………………

    …………………………………………

    ทั้งๆที่ไม่มีความรู้สึกแล้วทำไมดวงตา 2 ข้างนี้ยังคงมีน้ำตา

    ทั้งๆที่ไม่สามารถไหลออกมาเองได้อีกแล้วนะ

    น้ำตาที่หายไปราวกับว่าจะไม่มีอีกแล้ว คงจะไม่มีอีกแล้วสินะ

    ในดวงตาคู่นี้ คงจะไม่มีอีกแล้วสินะ

    คงจะไม่ต้องแสดงออกมาอีกแล้ว ความอ่อนแอที่อยู่ในตัว

    ความอ่อนแอที่อยู่ภายใน นัตย์ตาคู่นี้

    …………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×