คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
“แซ่ดๆ”เสียงผู้คยคุยกันเสียงดังในท้องพระโรงเริ่มซุบซิบแล้วกล่าวหาต่างๆนาๆเกี่ยวกับหญิงสาวตรงหน้านี้ใช้แล้วนางคือเจ้าหญิงผู้มีนามว่าเซเลสเทีย ลิส นาร์เวียร์หรืออีกฉายาหนี่งว่าเจ้าหญฺงหัวใจน้ำแข็ง.....
ไม่ใช่เพราะว่าอยากได้ชื่อนั้นแต่เป็นเพราะว่าเจ้าหญิงที่อยู่ข้างหน้านี้ไม่เคยยิ้มเลยแม้แต่ครั้งเดียว.....ไม่เคยมีรอยยิ้มอันอบอุ่นสักครั้ง
“เซเลสเทียลูกข้าจงรับบัญชา!!จงลักพาตัวเจ้าชายแห่งอัสเทียในคืนพระจันทร์แดงแล้วนำไปประหารที่แดนประหารนาฬิกาแห่งจันทรา...เพื่อช่วยเมืองของเรา”เสียงตะโกนก้องดังสนั่นทั่วท้องพระโรงเด็กสาวผู้เยือกเย็นนั่งคุกเข่าต่อหน้าของพระราชาเพื่อรับบัญชาจากบิดาของตนชุดของเจ้าหญิงที่สวยงานและลายลูกไม้สดใสแต่ก็หาเทียบความงามไม่ได้ดวงตาสีแดงดั่งอัญมณีที่เจิดจรัสและผมสีน้ำเงินเข้มท้องฟ้าและอัญมณีที่อยู่กลางหน้าผาก อัญมณีสีม่วงเข้มที่งดงามหาได้ยากราวกับเพชรน้ำหนึ่ง
อัญมณีที่มีเพียงหนึ่งเดียว......
“ค่ะเซเลสเทีย ลิส นาร์เวียร์(Salesttear List Narvear)ขอน้อมรับบัญชา”หญิงสาวพูดแล้วเดินโค้งตัวเข้าไปรับม้วนกระดาษมาและการภารกิจที่เธอกำลังจะทำนั้นมัน...กำลังทำให้เธอเปลี่ยนไปตลอดกาล.....
=================================
“กุบกับ กุบกับ”เสียงฝืเท้าของม้าที่เร็วขึ้นเรื่อยๆแล้วก็หยุดลงที่หน้าของประตูขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเด็กสาวก้าวลงจากม้าชุดเรียบร้อยตามธรรมชาติผ้าคาดหน้าผากสีน้ำเงินแต่ก็ยังไม่สามารถปิดดวงตาสีแดงที่เย็นเยือกราวกับน้ำแข็งได้ และบุรุษร่างใหญ่ที่มีผมสีน้ำตาลเข้มดวงตาสีเหลืองดั่งอำพันก้าวลงมาจากม้าแล้วเดินมาใกล้ๆหญิงสาว
“ไปกันเถอะอัส.....พรุ่งนี้ก็คืนพระจันทร์เลือดแล้ว เราจะต้องประหารเจ้าชายแห่งอัสเทียผู้นี้ให้ได้ถึงเม้ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม.....เพื่อประชาชน เพื่อท่านพ่อและเพื่อตัวเราเอง เราต้องทำงานนี้ให้สำเร็จให้ได้.....”หญิงสาวยื่นคำขาดแล้วเดินเข้าไปในประตูพร้อมกับจูงม้าของตนเข้าไปด้วย
“แต่ว่า.....ถ้าจะเข้าไปชิงตัวเราก็ต้องไปดูทางในราชวังก่อนใช่ไหมอัส....”หญิงสาวพูดแล้วยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยพร้อมกับหัวเราะบางๆ ถึงจะได้ขึ้นชื่อว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งแต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีช่วงเวลาที่หัวเราะบ้าง
ณ ราชวัง
“ไม่เอาข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่แต่งต่อให้ตายข้าก็ไม่แต่งข้าไม่ได้รักเจ้าหญิงไดอ้านท์เลยสักนิดและถ้าเกิดท่านพ่อยังบังคับข้างานนี้ข้าจะหนีออกจากบ้านไปแล้วจะไม่กลับมาอีกเลยคอยดูสิ”ว่าจบบุรุษหนุ่มอายุ19ก็เดินออกจากห้องไปโดนไม่ลืมปิดประตูกระแทกดังปัง ทำเอาผู้เป็นพ่อเอือมระอากับลูกถึงแม้ว่าลูกจะตามใจเขาทุกอย่างแต่ก็มีแค่งานแต่งงานนี้แหละที่ไม่เคยตามใจ
“.......นี่ข้าควรจะทำยังไงดีบอกหน่อยสิ....แมน่า”พระราชาบ่นหัวเสียพร้อมกับกุมหน้าผากด้วยความปวดหัว
“ก็ไม่ต้องไปบังคับลูกสิค่ะ”ผู้เป็นภรรยาตอบแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างยิ้มแย้มเมื่อทองไม่รู้ร้อนทำเอาพระราชาปวดหัวหนักมากกว่าเดิม
“เฮ้อ~ให้ตายสิไอ้นิสัยแบบนี้มันติดมาจากใครกัน”พระราชาบ่นแล้วนั่งก้มหน้าทำงานต่อไอ้นิสัยที่ว่าติดมาจากใครน่ะเหรอก็เหมือนอยู่คนเดียวนั่นแหละไอ้เรื่องหัวแข็งน่ะมันมีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ
“ก็ท่านพระราชาแหละครับ”ชายชราคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ
ไปทางด้านของพระเอกของเราบ้าง
“ท่านพ่อนะท่านพ่อก็ข้าบอกแล้วว่าชีวิตนี้จะไม่ขอแต่งงานกับคนที่ข้าไม่รักแต่ก็ยังอุตสาห์มาบังคับกันจนได้....ใช่สิใครจะไปเอายัยไดอานท์กันถึงหุ่นจะดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่รักก็ไม่สนเฟ้ย”เจ้าชายหนุ่มบ่นไปพลางเดินไปเขาไม่คิดที่จะแต่งงานและไม่มีวันแต่งด้วยต่อให้บุกน้ำลุยไฟที่ไหนเขาก็จะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักเด็ดขาดถึงจะต้องขึ้นคานก็ตามที ว่าแล้วก็เดินตรงไปที่สวนของวัง
“เฮ้อ~ ถ้าอยากจะพักผ่อนก็ต้องที่นี่สินะ......”เจ้าชายหนุ่มพูดอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนที่ปิดเปลือกตาลงแล้วพล่อยหลับไป
.................................
.........................
................
.......
ซ่า.....ซ่า......
เสียงของใบไม้ที่กำลังลอยและลมที่กำลังพักโชยกลิ่นที่อบอุ่นลมพายุคลื่นลูกหนึ่งได้ก่อตัวขึ้นที่หน้าของบุรุษหนุ่มแล้วปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งเธอนั่งลงข้างๆของเจ้าชายหมุ่นแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับเขาเพื่อจะประทับริมฝิปาก
“แซ่กๆ”
“!!”หญิงสาวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจแล้วรีบวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว กระรอกตัวน้อยสีน้ำตาลเข้มตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากพุ่มไม้แล้วมาเกาะที่หัวของบุรุษหนุ่มแล้วลงไปนอนที่ตักของเขาสักพักและก็หลับไป
ซ่าๆๆ
กลิ่นของตันไม้สีเขียงก็ยังคงพุ้งกระจายไม่เปลี่ยนตอนนี้เวลาได้ผ่านมานานแล้วสายลงเริ่มพักแรงและเบาราวกับกำลังหยอกล้อบุรุษผู้กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้น
“อือ....”บุรุษหนุ่มครางเบาๆแล้วลืมตาขึ้นพร้อมกับขยี้ตาของตัวเองช้าๆและสังเกตรอบๆทำให้เขาเจอกับกระรอกตัวหนึ่งเขาอุ้มมันไปวางที่พุ่มไม้นุ่มๆที่อยู่ข้างแล้วลุกขึ้นเดินจากไป
“ฮะๆๆฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะบางๆของหญิงสาวบางคนดังขึ้นทำให้บุรุษหนุ่มเดินไปดูด้วยความตกใจและเป็นสงสัยและเมื่อไปถึงเขาก็ต้องตกตะลึงกับเด็กสาวตรงหน้านี้ เด็กสาวที่ดูราวๆกับอัญมณีผมสีน้ำเงินเป็นลอนดวงตาสีแดงสว่างเสื้อผ้าแบบตะวันตกที่แปลกตากำลังนั่งอยู่ตรงก้อนหินริมน้ำแต่เธอก็ไม่ได้หันกลับมามองเขาเลย
เสียงของนกตัวเดิมที่ร้องข้างริมหน้าต่าง
แม้ว่าเคยฟังอยู่ทุกเช้า
วันนี้ได้ฟังยิ่งมีความสุขจนลืมเรื่องราว
ว่าที่แล้วมาเป็นอย่างไร
เสียงบรรเลงของบทเพลงที่ดังก้องกังวานกึกก้องน้ำเสียงไพเราะที่ราวกับนักร้องชื่อดัง น้ำเสียงที่สะกดได้แม้แต่สัตว์ป่าที่ดุร้าย ล้วนเหล่าบรรดาสัตว์ทั้งหลายต่างรุมล้อม บุรุษหนุ่มจ้องที่หญิงสาวด้วยความตะลึง มิอาจละสายตาจากสตรีนางนี้ได้ราวกับถูกสะกดจิตใบหน้าที่เลอโฉมราวกับนางฟ้าได้ตรึงตัวเขาเอาไว้ ไม่สามารถ.....ละสายตาไปได้.....
“อ๊ะ!!”บุรุษหนุ่มจ้องด้วยความตะลึงจนทำให้เขาเผลอเหยียบไปโดนกิ่งไม้ที่อยู่ข้างหน้าทำให้มันหักเสียงดังและทำให้หญิงสาวข้างหน้านี้รู้สึกตัวเธอหันมามองเขาด้วยความตกใจและแปลกๆแต่ที่หน้าตกใจคือ...แทนที่ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความโมโห ตกใจหรือตื่นกลัวแต่ว่าใบหน้านั้นกลับนิ่งสงบราวกับน้ำ
“เจ้า....เป็นใคร.......”เสียงเล็กๆที่ลอดผ่านริมผิวปากอมชมพูของเธอมันตรึงให้บุรุษที่อยู่ตรงหน้านี้มิอาจขยับเขยื้อนได้
"............"
โลกของฉันที่มี จากนี้เริ่มใสสว่าง
===============================================
เพลงนี้เป็นของเอ๊ะ ศศิกานต์จากอัลบั้นเสียงสะท้อน"เพลงการสิ้นสุดของความเหงา"ซึ่งเรายังเอาเพลงมาให้ฟังไม่ได้เพราะยังไม่ได้โหลดTT^TTก็ไปลองฟังที่เวบนี้ก่อนชั่วคราวก็แล้วกันนะค่ะ^^
http://www.musicza.com/myjukebox.php?tracks=การสิ้นสุดของความเหงา
ความคิดเห็น