ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fullmetal Alchamist : นรกที่ไม่เคยจบสิ้น

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 6 ผละแพ้ชนะ x ศิลาดำ

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 49


    "เคร้ง"เมื่อเสียงของดาบกระทบกันทั้ง2ต่างไม่ลดละยังคงสู้กันต่อ แต่ว่าเรื่องพละกำลังนั้นดุท่าว่าหญิงสาวจะทำให้ร่างของเอ็ดเวิรด์ค่อยถอยหลังไปเรื่อยเอ็ดซึ่งเห็นดังนั้นจึงกระโดดไปทางอื่นแทนแล้วไปดักที่ด้านหลังแล้วเตรียมฟันทันที แต่ว่าพอฟันลงไปแล้วร่างนั้นกลับหายไป

    "ช้าไป"หญิงสาวพูดก่อนที่มือจะทาบลงไปที่บนตัวเอ็ดทำให้เอ็ดต้องถึงขึ้นกระเด็นไป

    "เฮ้ยดักหลังนี่หว่า"เอ็ดร้องก่อนที่จะประกบมือทาบกับอากาศให้ตัวเองลงสู่พื้นแต่ว่า

    "นายดักหลังฉันก่อน"หญิงสาวพูดพลางกระโดดขึ้นมาหมายจะฟันตัวเอ็ดทันทีแต่เอ็ดได้ใช้ออลโต้เมลแทงแต่เฉียดโดนไปที่แขนเสื้อแทน

    "เก่งนิที่ทำให้ฉันแต่ว่ามันไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บตัวเลยสักนิด แต่….มันก็ยังช้าไปอยู่ดี"พูดจบก็หายไปอยู่ด้านหลังของเอ็ดแล้วแทงเข้าไปที่หลังของเอ็ดทันที

    "อั่ก…"เลือดของเอ็ดกระอั่กออกมาจากปากเพราะแรงคมของดาบที่แทงลงไป

    "ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าช้าไป"พูดจบก็ดึงดาบออกมาทันทีแล้วเริ่มเลียเลือดของเอ็ดที่เปื้อนมือของตัวเอง ราวกับว่าจะให้เอ็ดเป็นพ่ายจู่โจมก่อน ชายหนุ่มรีบใช้ ออลโต้เมล แทงไปที่ตัวหญิงสาวทันทีแต่ว่ามันก็เฉียดแค่โดนมือเท่านั้น เมื่อไร้การพุ่งกลับ มือข้างที่เหลืออยู่ได้ชกลงไปที่ใบหน้าของเอ็ดอย่างเต็มแรงจนเอ็ดกระเด็นออกไปชนต้นไม้

    "เก่งมากเลยเอ็ดฉันขอชม"หญิงสาวพูดแล้วเลียแผลที่มือ

    "สัญญาต้องเป็นสัญญาฉันจะบอกตามที่นายต้องการ"หญิงสาวพูดขึ้น

    "งั้นก็ดี"เอ็ดพูดขึ้นมาฝ่ายหญิงค่อยๆโค้งคัมนับฝ่ายชายทำเอาเอ็ดตกใจไปเลย

    "ข้ามีนามว่า....อาเรส อาเซทเทีย"ฝ่ายหญิงกล่าว


    "
    นี่เป็นสิ่งที่พวกนายควรจะรู้เอาไว้ก่อนที่ฉันจะฆ่านาย"ร่างของหญิงสาวเอยขึ้นทำให้ทั้ง2สะดุ้งเพราะแววตาที่จ้องมองมาไม่ใช่แววตาที่จะฆ่าคนแต่เป็นแววตาที่แสนจะอ่อนโยน

    "นี่นะเหรอคนที่พยายามจะฆ่าเราดูเป็นคนที่อ่อนโยนแท้ๆแต่ทำไมถึงได้......"เอ็ดคิดอย่างวิตกกังวล

    "เออ....แล้วที่จะให้พวกเรารู้มันคืออะไรเหรอ"เอ็ดถามทันทีเมื่อตื่นจาก ภาวะสะดุ้งที่หน้างแดงไม่ด้วยไม่รู้ทำไมตอนนั้นสมองถูกสั่งการให้หยุดชัวขณะ

    "ตามมาสิ"อาเรสพูดก่อนที่จะเดินไปใกล้ศิลาดำแล้วทาบมือทั้ง2ข้างลงบนศิลานั่นทำให้เกิดแสงสว่างออกมาจากศิลาดำ

    ศิลาดำนั่นค่อยๆมีรอยสลักขึ้นรอยสลักของวงแหวนเวทย์9มุมซึ่งแต่ละมุมจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปซึ่งอยู่ตรงกลางเป็นมังกร ซึ่งที่ปากมีอัญมณี ชนิดนึงอยู่ที่ตาเป็นอัญมณี สีแดงเหมือนเลือดไม่สามารถระบุได้ จะว่าเป็นอัญมณีก็ไม่ได้เพราะมันส่องแสงสีแดงอยู่ด้วย

    ส่วนทิศอื่นนั้นประกอบไปด้วย(เรียงลงมาจากด้านบนไปซ้าย สีทอง สีขาว สีน้ำตาล สีเหลือง สีน้ำเงินหรือสีฟ้า สีโปร่งใสรางกับมีลมพัดอยู่ข้างใน สีเขียว และสีดำ ซึ่งสีทองจะคั่นอยู่ระหว่างสีขาวและสีดำ ทั้งสิ้นนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถระบุได้มันส่องแสง และมีลักษณะคล้ายสิ่งนั้นๆ และตรงกลางมีอัญมณีชนิดนึงอยู่จะว่าอัญมณีก็ไม่ใช้จะว่าหินก็ไม่ใช่ศิลาก็ไม่ใช่เช่นกัน แต่มีวงแหวนล้อมรอบมันอยู่

    "ว่ากันว่าสิ่งนั้นคือธาตุแต่ละธาตุซึ่งมีอยู่ 9ธาตุ ธาตุที่1ดิน ธาตุที่2น้ำ ธาตุที่3ลม ธาตุที่4ไฟ ธาตุที่5สายฟ้า ธาตุที่6พืช ธาตุที่7ทอง ธาตุที่8แสงแล้วก็ธาตุที่9ความมืด ในเผ่าของเราว่ากันว่าธาตุทั้ง7นี้จะสามารถสร้างศิลานักปราชญ์ได้ ซึ่งดีกว่านั้นก็คือมันสามารถรวมตัวกันได้และกลายเป็นมังกรและธาตุทั้งปวงซึ่งมีจะมีพลังเหนือกว่าใครๆทั้งหมดและผู้ที่เรียกมันมาจะได้เป็นเจ้าของและต้องผ่านการทดสอบ"อาเรสพูดพลางชี้ไปแต่ละที่

    "ทดสอบอะไรเหรอฮะ"อัลเริ่มถามขึ้นบ้างหลังจากที่เงียบไปนาน

    "ทดสอบว่าจะเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของมันหรือไม่พูดคือต้องสู้กับมังกรนั่นจนผ่ายนั้นพ่ายแพ้ไป"หญิงสาวหันไปบอกกับคนทั้ง2

    "ถ้าเกิดเราแพ้ละ"เอ็ดชิงตัวหน้าถามอัลก่อน

    "ก็จะต้องตายแล้วก็ไม่มีใครทำพิธีกรรมนี้มานานมากแล้วด้วยว่า กันว่าดวงตาทั้ง 2ข้างของมังกรนั่นคือศิลานักปราชญ์ ผู้ที่เป็นเจ้านายเท่านั้นถึงจะใช้มันได้ และศิลานักปราชญ์ที่ดวงตาของมันก็จะไม่มีในหมดด้วย"อาเรสพูดพลางเอามือชี้ไปที่ดวงตาของที่มีสีแดงสดมังกรนั่น

    "ว่ากันว่าธาตุน้ำสามารถใช้พลังน้ำแข็งได้เช่นกัน"อาเรสพูดพลางชี้ไปที่ธาตุน้ำ

    เอ็ดค่อยๆยื่นมือไปจับธาตุที่4ก็คือไฟเมื่อเอ็ดยื่นมือเข้าไปจับ ปรากฏว่ามีไฟลุกออกมาจากสิ่งที่เอ็ดไปแตะเข้า

    "ฉันลืมบอกไปว่ามีแต่ชาวอิชวาลเท่านั้นที่แต่ต้องมันได้"อาเรสหันไปบอกกับเอ็ดที่เกือบจะเกรียมเป็นถั่วแดงจิ๋วย่างซะแล้ว(เธอว่าใครตัวเล็กเหมือนถั่วแดงย่างดำมืดจิ๋วหา:เอ็ด)(เอาน่ายังไง ยังไงนายก็เป็นอยู่แล้วยอมรับซะเถอะน่า:Mon_Mon)(ฉันจะฆ่าเธอ:เอ็ด)(เอาสิกล้าลงมือกับผู้เขียนก็เชิญเลยจะได้จบเรื่องไม่มีใครเขียนต่อ555+:Mon_Mon)(ไว้จบเรื่องนี้แล้วฉันค่อยฆ่าเธอก็แล้วกันหนอย[ถ้าไม่ติดว่ายัยนี่มันเป็นคนแต่งนะฉันฆ่าเธอแน่]:เอ็ด)

    "ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า"เอ็ดตะโกนถาม

    "คนที่แตะต้องมันเองก็มีสิทธิตายได้เหมือนกันนะ"มิยะพูด

    "ก็พึ่งจะนึกได้นี่ขอโทษทีนะเอ็ด คนที่จับได้จริงก็คือลูกสาวชาวอิชวาลที่คำสาปติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็เท่านั้นไม่สิ ชาวอิชวาลนอกกรีตต่างหาก"อาเรสบอกก่อนที่จะเอื้อมมือไปที่ธาตุที่4แล้วลูบมันอย่างเบามือ

    "นี่ฉันสามมารถเชื่อพวกเขาได้จริงๆเหรอ.........ทำไม......ทำไม.......จะต้องเป็น2คนนี้ด้วย.........ไม่เข้าใจ..........ไม่เข้าใจเลย.........ในสิ่งที่โชคชะตากำลังกระทำอยู่"หญิงสาวคิดแล้วมองพวกเขาด้วยความสงสารซึ่งเอ็ดก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งต่างฝ่ายก็หลบหน้าของแต่ล่ะฝ่าย

    เด็กหนุ่มตรงหน้าก็เข้าใจ ว่าสิ่งที่พวกเขามาที่นี่ได้คืออะไร ไม่ใช่เพราะความบังเอิญที่ทำให้เขาได้พบกับเธอ แต่เป็นเพราะโชคชะตาที่ชักจูงให้พวกเขาทั้ง 2คนมาพบเธอ ทั้งๆที่เขาไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอะไรนั่นเลย

    แต่นี่คือการที่โชคชะตาเล่นตลกกับพวกเขาหรือ นี่คือพรมลิขิตที่ทำให้พวกเขาทั้ง 3 มาเจอกันในสถานที่แห่งนี้ แต่ว่าถึงจะเจอกันแล้วก็ใช่ว่าจะเจอกันอีกได้ง่ายๆ  ใช่แล้วเพราะนี่ก็คือพรหมลิขิตที่ต้องการให้พวกเขาทั้ง3คน ฝ่าฝันชะตากรรมและอุปสรรค์ที่รอคอยพวกเขาอยู่ในภายภาคหน้า

    "....................."หญิงสาวจับที่ดวงตาของมังกรแล้วหันมามองพวกเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยนแล้วพูดบางอย่างกับพวกเขาทั้ง2คน

    สิ่งที่พวกเขาจะรับรู้คือสิ่งที่ไม่ควรจะบอกผู้ใด

    ฉันสามารถเชื่อใจพวกนายได้อย่าง แน่นอนใช่ไหม

    เอ็ดเวิรด์ เอลริคพวกนายคงไม่หักหลังฉันใช่ไหม

    แต่นี่คือความจริงที่พวกเขาทั้ง 2 คน

    ควรจะรับรู้เอาไว้

                                                       เพราะนี่ก็คือชะตากรรมที่ถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่ต้น
    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×