คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 2 ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุม
ตอนที่
2 ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุม"งั้นไปก่อนนะ ลืมไปไอ้ผู้พันเฮงซวยบรรลัย"เอ็ดพูดใส่หน้ารอยเต็มแถมโบนัสให้คือน้ำลายที่กระเด็นใส่หน้าไปเต็ม จนเส้นความอดทนเกือบขาดไปเต็มๆแถมเป็นเส้นที่ใหญ่ที่สุดซะด้วย
"งั้นไปดีมาดีนะ"ริซ่าพูดก่อนที่จะยกมือขึ้นมาทำตามระเบียบกองทัพส่วนเอ็ดกับอัลซึ่งเห็นดังนั้นก็ทำตาม(กฎของกองทัพ)
แล้วรถไฟจากเซ็นทรัล
ไป รีเซนเบิ้ล ค่อยเคลื่อนไปส่วนเอ็ดและอัลเพื่อไปทำตามกองทัพเพราะคาดว่าน่าจะอยู่ที่รีเซนเบิ้ลจึงให้ออกหมายค้น เพราะนักเล่นแร่แปรธาตุที่ถูกส่งไปทำงานที่นั่นโดนฆ่าทุกคนจึงยังไม่ได้ค้นอย่างทั่วถึงนัก(มันก็น่าจะอยู่แหละน้าก็เล่นฆ่าคนที่รับงานนี้หมดแถมเป็นที่นั่นอีกต่างหาก มันก็น่าจะบ่งบอกว่าอยู่ที่นั่น)"ยังไงก็ไปที่นั่นนี่นาไปหาคุณยายพินาโกะก่อนที่จะไปตรวจดีไหม"อัลถามเอ็ดซึ่งนั่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามถามเอ็ดซึ่งนั่งอ่านข้อมูลที่รอยส่งมาให้
"เอาสิยังไงก็ไปที่นั่นนี่นา"เอ็ดหันหน้าขึ้นมาตอบคำถามของอัลแล้วนั่งอ่านเอกสารนี้ต่อไป
เอ็ดซึ่งนั่งอ่านก็ทำหน้าขมวดคิ้วพร้อมหาอะไรบางอย่างจากแฟ้มใบงานที่รอยส่งมาให้ก็เจอกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลงมาจากแฟ้มเอ็ดซึ่งเก็บขึ้นมาดูก็ต้องตกใจว่ามันเข้ามาได้ยังไง
"อะไรเหรอฮะ ข้อความในจดหมายเขียนว่าอะไรฮะ"อัลถามเอ็ดซึ่งนั่งอ่านข้อความนั่นอย่างสงสัย
-------------------------------------------------
สวัสดิ์เหล่านักเล่นแร่แปรธาตุทั้งหลายหวังว่าคงจะเจอจดหมายนี้หลังจากที่รับงานนี้กันนะ
ขอให้สนุกกับเกมที่ฉันจะจัดให้แต่ว่าถ้าเจอเรื่องไม่คาดหมายละก็อย่ามาว่ากันนะ ฉันก็เหมือนพวกนายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ เมื่อมีกฎก็ต้องมีผู้สร้างแล้วก็ต้องมีผู้ทำลาย และนายก็จะเป็นคนต่อไป เอ็ดเวิรด์ เอลริค ไม่สินักเล่นแร่แปรธาตุเหล็กไหล แล้วก็น้องชายของนายด้วย นักเล่นแร่แปรธาตุชุดเกราะถ้าพวกนายจะถามว่าฉันใส่เข้ามาได้ยังไง
เรื่องนั้นขอไม่บอกละกัน แต่ว่าถึงนายไม่รับฉันก็จะฆ่านายอยู่ดี เรามาเริ่มกันดีกว่า ในหมากตาสุดท้ายที่ฉันจะจัดให้ในครั้งนี้ เรามาเริ่มตัดสินกันเถอะว่าใครจะรอดฉันหรือว่านาย ใครจะเป็นฝ่ายชนะแล้วใครจะเป็นฝ่ายแพ้ ใครจะเป็นฝ่ายถูกฆ่าแล้วฝ่ายใครจะเป็นผู้ฆ่า จะมีผู้ถูกฆ่าเพียงคนเดียวเท่านั้นขอให้สนุกนะเอ็ดเวิรด์
เอลริค แล้วก็ อัลฟองเซ่ เอลริคแล้วเจอกันใหม่นะ
อย่าลืมแก้ปริศนาซะล่ะเมื่อนายแก้ได้ทั้งหมดทุกอย่างจะกระจ่างในไม่ช้านี้
เด็กน้อยในยามค่ำคืนดวงจันทร์ที่สาดส่อง
แสงสว่างที่จะไม่หวนคืนศิลาแดงเอยในดวงจันทร์ยามค่ำคืนแสงสว่างที่ถูกสาดส่อง
ศิลานักปราชญ์เอยศิลาที่ผู้คนปราถนาในดวงจันทร์ยามค่ำคืนเด็กน้อยที่ร้องไห้อยู่เดียวดาย
ศิลาแดงในยามค่ำคืนที่ถ่อประกายสีเลือด เลือดนั้นคือของใครกัน !?-------------------------------------------------
"ไม่สิในข้อความนี้น่าจะบ่งบอกอะไรสักอย่างไว้มันหมายความว่าอะไรกัน"เอ็ดนั่งคิดพลางขมวดคิ้วพลางหาข้อความลับที่น่าจะมีอยู่ในจดหมายนี้
"พี่ฮะมันเขียนว่าอะไรเหรอฮะ"อัลถามเอ็ด
"มันก็แค่จดหมายที่ผู้พันเฮงซวยใส่เข้ามาเท่านั้นเองแหละอย่าใส่ใจเลย"เอ็ดบอกกับอัล
"เหรอฮะ"อัล ซึ่งนั่งก็งงไปตามๆกัน
ในระยะทางซึ่งคาดว่าน่าจะผ่านมาครึ่งทางระหว่างเซ็นทรันกับรีเซนเบิ้ลจู่ก็เกิดระเบิดขึ้นที่ท้ายขบวนซึ่งขบวนนั้นถูกแยกออกไปแล้วโดยมีพวกโฮมุนครูสยืนอยู่บนขบวนนั่นแล้วให้
กลัทโทนี่ย์ยืนอยู่บนขบวันนั้นเข้าไปสำรวจ ราวกับว่าตามหาใครสักคน ส่วนพวกคนอื่นก็กระโดษมาที่ขบวนอื่นแล้วแยกย้ายกันค้นหาในแต่ละขบวนนั้นเอ็ดและอัลวิ่งไปที่ด้านหลังสุด
รู้สึกว่าจะมีคนที่ใส่เสื้อคลุมคนหนึ่งเดินตามไปดูเช่นกันซึ่งร่างนั้น เห็นเข้าก็รีบวิ่งไปขบวนอื่น แต่รู้สึกว่าเอ็ดจะคว้าข้อมือไว้ทันจึงทำให้ร่างนั้นวิ่งไปไม่ได้"หนีทำไม"เอ็ดซึ่งเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆถามด้วยสีหน้าจริงจังจนคนที่ถูกจับข้อมือเอาไว้ต้องรีบถอยหลังไปแต่ว่ามันไม่มีที่ให้หนีนะสิ แต่เอ็ดก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมบีบแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก
"แหมๆกุมไม้กุมมืออะไรกันสีสันบันเทิงกันจริงๆนะ"เสียงดังมาจากด้านบนของขบวนที่เอ็ดกับอัล ยืนอยู่ซึ่งคนที่ถูกบีบมือรีบสะบัดออกก่อนที่จะรีบกระโดดลงจากขบวนนี้ไปทันทีแล้วรีบวิ่งให้ไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
"เฮ้ย !? ไปบอกทุกคนทีสิว่าเราเจอคนที่ตามตัวแล้ว"เอ็นวี่บอกกับราธ ซึ่งอยู่กับเอ็นวี่ ราธเองก็พยักหน้าแล้วรีบกระโดดไปบอกคนอื่น ส่วนเอ็นวี่รีบกระโดดลงมาดักหน้า เอาไว้จึงทำให้ไม่สามารถวิ่งไปได้แล้วคนอื่นๆก็กระโดดมาล้อมรอบ 4 มุมซึ่งไม่มีทางหนีเลยด้วยซ้ำไป
"เฮ้ย!! มันเรื่องอะไรกันเนี่ย"เอ็ดตะโกนถามขึ้น
"เชอะกะ จะมาฆ่า 2 พี่น้องนั่นดันมาเจอพวกโฮมุนครูสซะนี่"ร่างนั้นบ่นพลางกระโดดไปให้สูงที่สุดแล้วข้ามหัวเอ็นวี่ไปแล้ววิ่งหนี ไปแต่สุดท้ายก็โดนดักทางอีกจนได้
"ชิ ช่วยไม่ได้สินะเหลือทางเดียวก็ต้องสู้"เมื่อร่างนั้นพูดจบ ดาบก็ปรากฏขึ้นมาที่มือแล้วเริ่มหันหน้าเข้าไปสู้กับเอ็นวี่
"ถ้านายไม่หลีกฉันจะฆ่านาย"ร่างนั้นพูด
"ฆ่ายังไงก็ไม่ได้ผลหรอกนะแต่ว่าจะมัวแต่ปกปิดอยู่ทำไมคิดเหรอว่าฉันจะไม่รู้นะ"เอ็นวี่พูดจบก็จะกระชากเสื้อคลุมนั่นออกแต่ ร่างนั้นไหวตัวทันจึงกระโดดถอยหลังไป
"เฮ้ย~รุมอะไรกันอยู่คนเดียวอย่างี้เท่ากับรุมคนที่อ่อนแอชัดๆ"เอ็ดตะโกนขึ้นแล้วกระโดดจากรถไฟลงไป ซึ่งอัลก็กระโดดตามลงไป ทำให้ทุกคนหันมาเป็นทางเดียว
"นั่นสินะพ่อตัวเปี๊ยกถ้าไม่มีคนร่วมวงก็ไม่สนุกนะสิ.........""หุบปาก"เอ็นวี่พูดยังไม่ทันขาดคำก็โดนแทรกขึ้นมา
"พวกนายนะเอาแต่พูดเพ้อเจ้ออยู่ได้ รีบหนีไปซะ ถ้าไม่อยากตายก็รีบหนีไปซะ อึก"เมื่อหลังการสนธนาใกล้จบอีกฝ่ายไม่รอช้าชกเข้าที่หน้าท้องไปเต็มแรงจนทำให้ล้มลงไป เอ็นวี่ก็ค่อยๆเดินเข้าหาเรื่อยๆ
"ก็มันเป็นจุดประสงค์ของท่านผู้นั้นเพราะฉะนั้นถึงได้มาตามตัวเธอกลับ ไปยังไงละ"เอ็นวี่พูด
"หนอย"เอ็ดวิ่งเข้าไปเพื่อจะช่วยแต่ทว่าถูกขวางเอาไว้ซะก่อน
"หนีไป"ร่างนั้นบอกแต่ว่าคนอื่นๆก็ค่อยๆเข้าไปเพื่อสู้กับเอ็ดเรื่อยๆซึ่งมีราธ กลัทโทนี่ย์ ลัสต์ ไปสู้เช่นกัน
"คิดเหรอว่าฉันจะเป็นคนที่ทิ้งคนอื่นไปได้ง่ายๆนะ"เอ็ดกับอัลตะโกนขึ้นพร้อมกันก่อนที่จะเริ่มตั้งท่าสู้
หญิงสาวค่อยพยุง
ตัวลุกขึ้นแล้วตะคอกใส่เอ็ดกับอัลไป"พวกนายคิดจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่รึไงกัน โอ๊ย!"ยังไม่ทันพูดจบก็โดนเอ็นวี่เตะเข้าที่หน้าท้องทำให้ล้มลงไปนอนอีกครั้งหนึ่งด้วยความเจ็บปวดจึงเอามือมากุมที่หน้าท้องเอาไว้ แล้วเริ่มพยุงตัวขึ้นอีกครั้ง เอ็นวี่เห็นดังนั้นจึงเอามือไปฟาดที่สักคอจนล้มลงไปอีกครั้งหนึ่ง"เลิกพูดได้แล้วน่า จะมาจีบอะไรกันแถวนี้"เอ็นวี่พูดก่อนที่จะพยุงร่างนั้นให้ลุกขึ้นแล้วแปลงร่างเป็นม้าโดยมีร่างที่กำลังเจ็บปวด อยู่บนร่างนั้น
ผ้าคลุมที่ขาดหลุดลุ่ยก็ หลุดออกมา เผยให้เห็นใบหน้าขาวเนียน ผมสีแดงฉานราวกับเปลงเพลิง และดวงตาสีแดงราวกับไฟในดวงข้างขวา กับดวงตาสีทองราวกับสีดวงตะวันในดวงข้างซ้ายที่กำลังโกรธอยู่ และพยายามประคองตัว
"ได้ตัวแล้วไปกับรึยัง"เอ็นวี่พูดขึ้นก่อนที่จะเริ่มขยับขาตัวเองเล็กน้อยที่ท่าว่ากำลังจะไป
"ยังหรอก ต้องพาเอ็ดเวิรด์ไปอีกคน"ราธ พูดขึ้นก่อนที่จะเข้าไปวิ่งสู้กันต่อหลังจากกระเด็นออกมาจากการต่อสู้
"งั้นพาผู้หญิงคนนี้กลับไปก่อนละกันนะ"เอ็นวี่พูดก่อนที่จะเริ่มออกตัววิ่งไปอีกทาง ส่วนอัลกับเอ็ดทำท่าจะวิ่งตามไปแต่ถูกขวางเอาไว้ก่อน ส่วนเอ็ดก็กระโดดข้ามหัวราธไปอย่างไม่สนใจ แล้ววิ่งตามไป
"หนอย"อัลพูดอย่างเจ็บใจ
"บ้าจริง"เอ็ดลำพึงก่อนที่จะออกแรงสุดกำลังวิ่งตามไปให้ได้ เอ็นวี่ซึ่งเห็นดังนั้นจึงแปลงร่างเป็นคนแล้ววางหญิงสาวให้นอนลง
"ทีนายแล้วสินะเจ้าเปี๊ยก ฉันไม่ชอบต่อสู้ซะด้วยสิ"เอ็นวี่พูดก่อนยิ้มหน้าระลื่นแล้วเข้าไปสู้กับเอ็ด ร่างอีกร่างหนึ่งพยายามลุกขึ้นแต่ความเจ็บปวดทำให้พยุงตัวได้ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ร่างนั้นก็ลุกขึ้นมาได้แล้วเอามือกุมที่หน้าท้องเอาไว้
"อย่า.........."ร่างนั้นเริ่มพูดทำให้ทั้ง 2 ที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นหันมา ส่วนเอ็ดไหวตัวทันด้วย สัญชาตญาณจึงรีบประกบมือแล้วให้ตัวเองอยู่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
"อย่ายุ่งกับเขา !! "
ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานราวกับเลือดทั้ง 2 ข้าง ดวงตาทั้ง 2 ข้างเริ่มเปล่งแสงสีขาวเจิดจ้าจนทำให้คนอื่นแสบตาแต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อแสงพวกนั้นหายไปกับไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่คล้ายหลุมที่กลืนกินทุกอย่างไป เอ็ดที่อยู่ข้างบนก็ประกบมืออีกครั้งเพื่อช่วยตัวเอง
ร่างของเอ็นวี่ซึ่งหายไปเมื่อกี้ก็ค่อยกลับขึ้นมาเป็นร่างเดิม
เอ็ดตกลงมาซึ่งเอ็นวี่อยู่ข้างล่าง พอดีกับจุดที่เอ็ดจะตกลงมาพอดี เอ็นวี่ก็เลยโดนเอ็ดทับ หญิงสาวๆค่อยพยุงตัวขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่สนใจพร้อมกับหยดน้ำสีแดงและน้ำใสๆที่มากระทบกับพื้นและใบหน้า
สิ่งที่ข้ากระทำอยู่นี้คือการกระทำของมนุษย์หรือปีศาจกันแน่
ความรู้สึกเยี่ยงเช่นมนุษย์ตัดมันไปเลยดีกว่า
รัตติกาลเอยช่วยบอกข้าที
วันใดที่ทุดสิ่งทุกอย่างจะแปรพันจงทำให้ข้านั้นหลับไหลไปโดยไม่รับรู้ซึ่งสิ่งใดอีกเลย
ขอจงให้ข้าหลับไปจนกว่าจะถึงวันที่
โลกนี้พินาศในวันที่จิตใจของมนุษย์ทุกคน
จะถูกย้อมให้เป็นสีมลทินเมื่อดวงจันทร์จะถูกย้อมเป็นสีแดงฉานราวกับเลือด
เมื่อใดที่ถึงวันนั้นจงทำให้โลกทั้งโลกนี้พินาศ
ทั้งๆที่ไม่มีความรู้สึกแล้วทำไมดวงตา
2 ข้างนี้ยังคงมีน้ำตาทั้งๆที่ไม่สามารถไหลออกมาเองได้อีกแล้วนะ
น้ำตาที่หายไปราวกับว่าจะไม่มีอีกแล้ว
คงจะไม่มีอีกแล้วสินะในดวงตาคู่นี้
คงจะไม่มีอีกแล้วสินะคงจะไม่ต้องแสดงออกมาอีกแล้ว
ความอ่อนแอที่อยู่ในตัวความอ่อนแอที่อยู่ภายใน
นัตย์ตาคู่นี้
ความคิดเห็น