คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Nikki Story : Rain Memory _ ท้องฟ้ายามร่ำไห้กับความทรงจำยามฝนตก [ภาคพิเศษ]
Rain Memory :ท้องฟ้ายามร่ำไห้กับความทรงจำยามฝนตก
เกลียด...เกลียด วันฝนตกที่สุดทั้งฤดูฝนทั้งเสียงฟ้าร้องนั่น ทำไมฝนต้องตกแบบนี้ด้วยนะไม่เข้าใจเลย เกลียดมัน เกลียดน้ำฝนหากแต่มันก็ช่วยชะล้างบางสิ่งบางอย่างที่สั่งสมมานานให้หายไปได้ หากแต่เพราะเสียงของฟ้าร้องนั่นและเสียงของสายฝนทำให้คำนึงถึงเรื่องในวันนั้นทุกที จนแทบที่จะอดคิดไม่ได้ว่า....ถ้าหากไม่มีฤดูฝนทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คงจะดีกว่านี้ บางทีคงจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เรียกว่าปกติก็ได้ละมั้ง....
ถ้าหากไม่มีฝนล่ะก็....บางทีทุกสิ่งทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้....
แต่ถ้าหากไร้ซึ่งสายฝนนั้นบางทีฉันก็คงจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้ได้หรอก....
เพราะถ้าหากว่าไร้ซึ่งสายฝนฉันเองก็ไม่อาจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เหมือนกัน...
พึงสังวรถึงสิ่งที่ไม่ได้มา ต้องทำยังไงกันนะ...
การจะหนีไปจากที่แห่งนี้นั้นช่างงายดายเพียงนิดเดียวหากแต่ว่า....
ถ้าเกิดมีผู้รับเคราะห์เพราะเราอีกล่ะเราจะทำยังไง
เพราะเหตุใดตัวฉันถึงได้น่าสมเพชแบบนี้นะ....ทำไมถึงได้อ่อนแอแบบนี้นะ
ถ้ามีใครได้ยินล่ะก็...ช่วยตอบคำถามของฉันหน่อยสิ....
ผู้ที่อยู่ในตัวของฉัน ผู้ที่ได้ยินเสียงของฉัน ฉัน....อยากได้คำตอบจากเธอ
ได้โปรดตอบฉันด้วยว่าทำไมและเพราะอะไร....
ทำไมเธอถึงต้องเหงาล่ะ........
.............
..............................
...........................................................
“อาหารมาแล้วครับคุณหนู”เสียงของชายหนุ่มวัย20ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามาภายในห้องพร้อมถาดอาหารที่วางไว้ตรงหน้า ร่างเล็กแหงนหน้ามองผู้มาเยือนข้อมือทั้งสองข้างที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน รวมทั้งขาทั้งสองข้างที่ถูกพันธนาการไว้ ผมลอนหยิกที่ดำเพราะฝุ่นในห้อง เส้นผมที่ยุ่งเหยิงยาวลากพื้นดิน
“....คุณหนูครับได้โปรดอ้าปากเพื่อให้ผมป้อนด้วยครับ”ชายร่างสูงพูดก่อนจะลงไปนั่งข้างๆล่างเล็กนั้นพร้อมกับหยิบอาหารในถาดมาป้อนหญิงสาวทันที
“อา.....”อาหารที่ป้อนเข้าถูกป้อนเข้าสู่ปากของผู้ที่ถูกพันธนาการ เสียงของสายฝนตกลงมา เสียงของฟ้าร้องที่ดังกึกก้อง ดวงตาสีฟ้าคู่งามที่ไร้ซึ่งแววตาที่ทำได้เพียงแค่ทำตามคำสั่งและถูกพันธนาการไว้ที่แห่งนี้เท่านั้น เสียงที่แหบแห้งไร้ซึ่งเสียงใดๆจากลำคอหากแต่ถูกกลืนลงไปให้หายไป ไร้ซึ่งคำพูดใดๆทั้งสิ้น...
ภายหลังจากการป้อนอาหารเสร็จชายหนุ่มโค้งตัวลาก่อนจะยกถาดอาหารแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างสงบ โดยมีแค่ร่างเล็กที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่นอนอยู่ในพื้นปูนที่หนาวเย็นไว้เพียงคนเดียว ภายในห้องนี้ไร้ซึ่งแสงไฟมีเพียงแต่ความมืดและสายน้ำ น้ำของบางอย่างที่ไหลออกมาจากท้องฟ้าผืนนั้นที่ซึมเข้ามายังห้องแห่งนี้จนชื้นแฉะทำให้สิ่งที่อยู่ในห้องต่างเปียกปอนและอับชื้น ดวงตาสีฟ้าที่หลับตาลงนอนอย่างไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น หยดน้ำจากท้องฟ้า กับ ความมืด ทั้งสองสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวแม้แต่น้อย.....
ฤดูร้อน
ฤดูฝน
ฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ร่วม
ฤดูหนาว
ซ้ำๆกันไป หมุนๆกันไปในห้องแห่งนี้ ถึงจะไร้ซึ่งอาหารหากแต่ร่างเล็กในห้องกลับไม่ดูซูบผอมเลยแม้แต่นิดเดียวหนำซ้ำยังดูเหมือนแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางกลับกันเธอช่างดูไร้พิษภัยยิ่งนัก หากแต่นั่นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเพียงเท่านั้น....
ฤดูร้อน
ฤดูฝน
วนมาซ้ำกันอีกครั้งแล้ว....ฤดูที่แสนน่ารังเกลียดนั้น เสียงของฝนที่ดังอยู่ในโลกภายนอก หยดน้ำที่ไหลผ่านตามซอกเพดานหยดลงมาในที่แห่งนี้ จะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานเท่าใดกันหนอ....
ฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ร่วม
ฤดูหนาว
อีกครั้ง อีกครั้ง หมดไปอีกครั้งแล้ว จบไปอีกปีแล้วระยะเวลากำลังดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่เคยรอคอยผู้ไดและไม่คิดจะหยุดให้ผู้ใด วนเวียนกันแบบนี้ทุกๆปี อยู่ในที่แห่งนี้มานานเท่าไหร่กันหนอ แล้วจะต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนกัน ทั้งๆที่การจะออกไปมันช่างง่ายดายเหลือเกิน หากแต่ว่าการอยู่ที่นี่เพื่อให้ใครบางคนที่จับเธอมาขังนั้นกระสับกระส่ายเพราะเรื่องของเธอล่ะก็ ก็นับว่าเป็นเรื่องสนุกดีจริงๆ จะมีใครตามหาไหมนะ จะมีใครพูดถึงมั้ยนะ
จริงสินะ....เหตุผลที่ถูกขังไว้มันเพราะอะไรกันนะ อา...จริงด้วยสินะเพราะว่าพลังสินะ...เพราะว่าสิ่งที่อยู่กางหลังนี้สินะ ขอยอมรับว่ามันเป็นพลังที่รุนแรง รุนแรนขนาดที่ทำให้โลกทั้งใบสลายเลยก็ว่าได้ เพราะงั้นถ้าหากจะหนีก็สามารถที่จะหนีไปได้ การหนีมันช่าง....ง่ายดายยิ่งนัก....
“......หึ”เธอยอมรับว่าในใจนั้นสนุกไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้เห็นท่าทีอันแสนจะลนลานของเหล่าผู้คนที่เมืองแห่งนี้
แต่ช่างเถอะ...ความน่าเบื่อนั้นยังไม่ได้ก้าวย่างมาหา ณ ที่แห่งนี้ ในโลกนี้ไม่มีสิ่งไหนหรอกที่น่าเบื่อหากแต่สิ่งที่น่าเบื่อจริงๆก็คือเหล่าผู้คนที่นี่และรวมทั้งมนุษย์ด้วย ทำไมคนพวกนี้ถึงได้น่าเบื่อกันจังนะ ทำแต่สิ่งสกปรกไม่เคยหยุดหย่อน ความโลภ ความแค้นทุกสิ่งที่ถูกชักพามา พวกมนุษย์เหล่านั้น.....
ช่าง...น่าเบื่อเสียจริง.....
น่าเบื่อซะจน...อยากจะทำลายทิ้งให้หมด.....แต่ว่าก็อยากจะสนุกไปอีกสักหน่อยแหะ.....อา...ชัก...อยากจะออกจากที่แห่งนี้ซะแล้วสิ....อยากจะไปสนุกกับโลกภายนอก....อยากจะ....ออกไปจากที่นี่.....
“จงออกมาตุ๊กตาที่น่ารักของข้า”เสียงหวานๆของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกับแสงสีขาวที่ส่องสว่างออกมาจากรอบตัวเธอ หลุดสีดำเบื้องหน้าที่ก่อตัวขึ้นเป็นก้อนกลมลอยขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมกับร่างสิ่งมีชีวิตเล็กที่อยู่ภายใน ลูกโป่งสีดำแตกออกก่อนที่ร่างเล็กของสิ่งที่เรียกว่าตุ๊กตาหมีจะค่อยๆลอยลงมานั่งอยู่เบื้องหน้าของเธอ แสงสีขาวที่เป็นแสงไฟเล็กให้กับห้องที่บินวนไปมาระหว่างเธอกับเจ้าตุ๊กตาหมีตรงหน้านี้....
“ยินดีที่ได้รับใช้ขอรับ”เสียงของชายหนุ่มที่ดังออกมาจากตุ๊กตาหมีตัวนั้น เธอยิ้มด้วยความพึงพอใจในผลงานของตนเองก่อนที่โซ่ทั้ง4ที่พันข้อมือและขาทั้งคู่ค่อยๆสลายลงกลายเป็นเพียงแค่เศษฝุ่นเศษทรายที่ลงไปรวมกันที่พื้นปูนเท่านั้น
“ต่อไปนี้เธอคือลูกน้องของฉัน ชื่อของเธอก็คือ....”การจะสร้างเด็กคนนี้ให้สมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้มันใช้เวลาไปเท่าไหร่กันนะเมื่อก่อนก็เคยสร้างเด็กแบบนี้มาก่อนแต่ก็หายไปไหนหมดกันนะ
.แต่ว่า...เด็กคนนี้นี่แหละ ช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกินทั้งจิตใจ ความเป็นห่วงใย พลังและความคิด ช่างสมบูรณ์แบบ....ซะจนน่ากลัว
เด็กน้อยของฉัน...ต่อไปนี้เธอก็จะเป็นเพื่อนของฉันตลอดไป
เธอคือเพื่อนคนแรกของฉัน......
“แบร์....นับตั้งแต่นี้ไปชื่อของเธอก็คือแบร์”
“ครับ...”แบร์ตอบก่อนโค้งตัวให้กันอีกฝ่ายแต่ไม่ทันที่จะโค้งลงไปมือเล็กๆคู่นั้นก็ได้เอื้อมมือมากอดร่างหมีน้อยเล็กๆนั้นทันทีพร้อมกับรอยยิ้ม
“ที่คือกฎของฉัน...ตั้งแต่นี้ไป ห้ามใช้คำสุภาพกับฉัน ห้ามเรียกฉันว่าท่านหรือคุณที่เป็นการให้เกรียติ แล้วก็.....เธอต้องสัญญานะ....”หญิงสาวพูดก่อนจะจ้องไปที่หน้าของตุ๊กตาหมีนามแบร์ในมือคู่นั้นอย่างอ่อนโยน
“ครับ......ฮะ”
“สัญญาเพียง 3 ข้อที่ต้องรักษาให้ได้ เธอจะต้องอยู่ข้างๆฉันตลอดไป.....ต้องปกป้องเจ้านายคนนี้และข้อสุดท้าย.....”เสียงที่ขาดช่วงหายไปกับหยุดน้ำ เสียงของสายน้ำที่เพิ่มมากขึ้นเสียงของพายุที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่มีปัญหา”ผู้เป็นเจ้านายยิ้มร่าก่อนจะอุ้มแบร์ของเธอแน่นขึ้นพร้อมกับคำพูดสั้นๆที่ดังขึ้น....
“ดีมากแบร์...ของฉัน...”
.............
..............................
...........................................................
ซ่า ซ่า.....
เสียงของสายฝน เสียงผ้าคลุมเก่าๆขาดๆที่สะบัดพลิ้วไปตามแรงลม เสียงฝีเท้าวิ่งจ๋อมแจ๋ม เสียงหอบของหญิงสาว ผมยาวเป็นลอนที่เปียกสายน้ำ ดวงตาสีฟ้าที่มุ่งมั่นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าที่ดีใจที่ได้ออกมาจากที่แห่งนั้น ได้ออกมาจากความมืด ได้ออกมาเห็นแสงสว่างอีกครั้งหลังจากที่ลืมมันไปแล้ว
“เลี้ยวทางนั้นเลย!!”เสียงของแบร์ที่ตะโกนขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่พยักหน้าตอบแล้วเลี้ยวไปตามทางที่อีกฝ่ายชี้ให้ทันทีอย่างไม่มีสงสัย
“อ่ะ....”ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกตั้งหลักก่อนจะถอยหลังตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะสู้กับอีกฝ่ายข้างหน้า ชายหนุ่มตรงหน้าจ้องเธอด้วยความสายตาแสนเย็นชาผมสีดำขลับปะทะกับน้ำฝนทำให้ลงมาปกปิดใบหน้าบางส่วนเอาไว้ ใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้เธอไม่เคยลืมถึงจะเป็นเพียงแค่คนตำแหน่งเล็กๆแต่เขาก็เป็นคนที่มาชวนเธอคุยด้วยกันตลอดเวลาทุกครั้งที่เค้าว่าง แต่แล้วก็หายหน้าหายตาไป
“ไม่ได้พบกันซะนานเลยนะครับ คุณหนู....”ชายหนุ่มพูดก่อนจะย่างท้าวเดินเข้ามา หญิงสาวที่เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามารีบก้าวถอยหลังด้วยความไม่ไว้ใจทันที พร้อมกับดวงตาสีฟ้าคู่งามที่จ้องไปปะทะกับดวงตาสีเหลืองทองของอีกฝ่ายราวกับต้องการอ่านจิตใจของอีกฝ่าย
“ยังพูดไม่ได้อีกเหรอครับ...”เขาพูดก่อนจะก้าวมาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ห้ามแตะต้องนะ!!”เสียงของแบร์ที่ดังขึ้นพร้อมกับกระโดดมาด้านหน้าพร้อมกับใช้มีดของตัวเองฟันเฉี่ยวแขนของอีกฝ่ายไปทำให้อีกฝ่ายต้องถอยห่างไปเล็กน้อย
“....แบร์”
“....ผมไม่ได้มาเพื่อจับกุมคุมหรอกครับแต่ผมแค่มาช่วยคุณให้ออกไปจากที่นี่ ผมไม่สามารถทนเห็นพ่อของคุณที่บ้าคลั่งแบบนั้นได้อีกแล้วดังนั้นผมจึงมาช่วยคุณครับ ที่หายหน้าหายตาไปผมต้องขอโทษจริงๆนะครับแต่ถ้าไม่พยายามประจบประแจงก็ไม่ได้ตำแหน่งนี้มา ขอโทษด้วยครับคุณหนู”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับก้มตัวลงนั่งคุกเข่าให้กับอีกฝ่าย ใบหน้าที่ก้มมองต่ำลงบนพื้นโดยที่ไม่แม้แต่ที่จะกล้าแหงนขึ้นไปมองผู้ที่มีแข็งแกร่งและเจิดจ้ากว่า...
“.........”ความเงียบถาโถมเข้าใส่ เหลือเพียงแค่สายฝนที่กระหน่ำลงมาเท่านั้น
“เชิญตามผมมาทางนี้เลยครับ”ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายไป ทั้งสองหันมาจ้องหน้ากันก่อนจะพยักหน้าตอบรับกันและเดินตามชายคนข้างหน้าไปอย่างไม่สงสัย
“โคโลเซี่ยม....”แบร์อุทานเสียงเบาๆก่อนจะจ้องไปยังโคโลเซี่ยมอันกว้างใหญ่
“ถ้าเป็นที่นี่จะสามารถใช้พลังในการหนีไปได้โดยที่ไม่มีใครสงสัยเลยครับ แต่ถ้าเกิดหนีด้วยปีกของคุณมันก็จะใหญ่เกินไปจนมีคนสังเกตเห็นเพราะงั้น กรุณาคอยอยู่ตรงนั่นสักครู่นะครับผมจะสั่งระบบให้โอนย้ายคุณลงไปยังพื้นโลกเดี๋ยวนี้”ชายหนุ่มพูดก่อนจะยกมือขึ้นจับที่ต้มหูสีน้ำเงินข้างซ้ายของตนพร้อมกับภาพวงจรโปรแกรมต่างๆที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มือทั้งสองข้างที่เอื้อมมือไปกดยังปุ่มต่างๆอย่างรวดเร็ว
“ทำไมถึงต้องช่วยพวกเราทั้งๆที่พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณแท้ๆ แล้วถ้าเราไปแล้วคุณล่ะ....”หญิงสาวถามขึ้นก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“คุณพูดได้แล้วเหรอครับเนี่ย....ส่วนสำหรับคำถามเมื่อกี้ผมก็คงจะหนีไม่พ้นความตายกระมัง ก็กระผมได้ก่อการกบฏโดยการช่วยคุณมาตั้งเยอะแล้วนี่นา อีกไม่นานความลับของผมก็จะเปิดเผยและผมต้องตายดังนั้นถ้าจะเป็นแบบนั้นแล้วก็สู้ให้คุณหนีไปซะยังจะดีกว่าอีกครับ”ชายหนุ่มบ่ายเบี่ยงคำถามแรกที่อีกฝ่ายถามขึ้นก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยังคงขยับไปมาเพื่อควบคุมระบบต่างๆ ตัวอักษรโบราณที่กระจัดกระจายกันอยู่ปรากฏขึ้นเรียบเรียงกันใหม่และปรากฏขึ้นใหม่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนกลายเป็นสี่เหลี่ยม
“ถ้าหากว่าคุณจะต้องตายล่ะก็....”เสียงของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกับแสงสีขาวที่ปรากฏขึ้นบนพื้นและวนเป็นวงกลมรอบๆตัวของทั้งสองคน คำพูดที่เรียกความสนใจให้กับอีกฝ่าย
“......”เสียงเรียกชื่อของหญิงสาวจากเสียงของตุ๊กตาหมีตัวน้อยที่หายไปกับสายฝน ถึงจะพยายามเรียกชื่อนั้นเท่าไหร่หากแต่ว่าเจ้าตัวกลับมุ่งมั่นจ้องไปข้างหน้าเท่านั้น
“ชีวิตของคุณก็จงมอบให้กับเราซะ....จงมากับเรา นี่คือ.....คำสั่งของเรา”ดวงตาสีฟ้าอันรุ่งโรจน์และเกี้ยวกราด ความแข็งแกร่งและหยิ่งทะนง ความมั่นใจ การตัดสันใจอันเด็ดเดี่ยว ร่างเล็กตรงหน้านี้น่ะหรือคือคนที่เคยถูกขังอยู่ในตอนนั้น ตอนพบกับเธอ เขาเคยคิดว่าเธอก็แค่เด็กน้อยไร้เดียงสาหากแต่ว่าวันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดพ่อของหญิงสาวคนนี้ถึงได้หวาดกลัวเธอนัก ตัวเธอในตอนนี้นั้นช่างน่าเกรงขาม หากว่าถ้าเกิดเป็นชายล่ะก็บางทีชะตาชีวิตของหญิงสาวอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ เขาคิดแบบนั้น หากแต่ว่านัยน์ตาสีเหลืองทองของชายหนุ่มก็ยังจ้องไปยังอีกฝ่าย
เธอคนนี้คือผู้ที่ถูกโชคชะตากำหนดมาแล้ว เธอคนนี้คือผู้ที่แข็งแกร่ง และเจิดจรัส เป็นผู้ที่มิอาจเอื้อม เด็กน้อยคนนี้ช่างอยู่ไกลและใหญ่โตเสียเกินไปจนกว่าที่จะมีผู้ใดเอื้อมถึง หากว่าถ้าเชื่อมมั่นในตัวของเธอคนนี้ล่ะก็ บางทีเมืองนี้อาจจะเปลี่ยนไป....อาจจะเปลี่ยนจากเดิมมากกว่านี้....
“.....Yes, your Majesty.”
จะได้เพื่อนเพิ่มแล้วสินะ.....จะไม่ต้องโดดเดี่ยวและเหงาอีกแล้วสินะ.....
ฉึก!!
“.....!!”ลูกธนูที่พุ่งเข้ามาอย่างไร้ร่องรอยเข้าสู่กลางอกของร่างสูง ชายหนุ่มล้มลงไปยังพื้นดินของโคโลเซี่ยมขนาดใหญ่พร้อมกับสีแดงของเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผล ของเหลวสีแดงที่ผสมเข้ากับสายฝนที่ตกลงมา ดวงตาสีฟ้าที่เบิกกว้างด้วยความตกใจและความเศร้าเสียใจที่ปะปนกัน แสงวงกลมที่พื้นสีขาวที่หายไปทันที่ชายหนุ่มล้มลงสู่พื้น
“ฮ่าๆๆข้าฆ่าแกได้แล้วไอ้กบฏฮ่าๆๆๆ ต่อไปก็คือแกนังลูกธรพี!!”เสียงหัวเราะของชายชราร่างสูงที่เดินเข้ามาพร้อมกับคันธนูในมือที่ถือว่าหลักฐานว่าเป็นคนยิงชายคนข้างหน้าเธอแน่นอน ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความโมโหแบร์ที่ถูกอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายแน่น
“ข้าจะฆ่าแก!!ไอ้สารเลว แกไม่ใช้พ่อของข้า วันนี้แกจะไม่ได้ตายดี ข้าจะฆ่าจะฆ่าแก!!”เสียงตะโกนของหญิงสาวที่ดังกังวานแสงสีขาวรูปปีกทั้ง4คู่ที่กางหลังที่ถูกกางออก ปีกสีขาวที่ใหญ่โตและเจิดจ้าจนแสบตา ผมสีดำที่ถูกฝนชะล้างหากแต่เพราะความโกรธทำให้แสงมากมายจนแทบที่จะมองไม่เห็น แสงของสีฟ้า สีขาวและสีดำที่พุ่งพรวดออกมาอย่างไร้ทิศทางนั้นก่อเป็นก้อนรวมตัวกันพุ่งไปรวมกับที่ชายชราทันที
“คะ...ค่อก....”เสียงไอของชายชราที่ดังขึ้นลมหายใจที่รวยริน ร่างกายที่ปุดขึ้นมาเป็นปุ่มๆเส้นเลือดที่ขยายขึ้นก่อนจะกระฉอกของเหลวสีแดงภายในร่างกายออกมา เลือดสีแดงพวยพุ่งออกมาจากบาดแผลความเจ็บปวดและความเจ็บแค้น ความโกรธ ความโมโห ความเคียดแค้น ชายชรายังคงทุกข์ทรมานมากขึ้นเรื่อยๆความโกรธที่พุ่งพล่านราวกับตอกย้ำจิตใจ ชายชราลงไปดิ้นพร่ากับพื้นเพราะความเจ็บปวด
“.....ไม่เป็นไร....ไม่เป็นไร ใจเย็นๆไว้ สงบไว้นะ....ไม่เป็นไรหรอกมันจบแล้ว มิว...มันจบแล้วล่ะ”เสียงของแบร์ที่ดังขึ้นพร้อมกับมือที่เอื้อมไปดึงที่ผมของอีกฝ่าย ดวงตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่เบิกกว้างร่างเล็กที่ทรุดฮวบลงไปยังพื้นพร้อมกับเสียงร้องไห้ฟูมฟายที่ดังสะท้อนภายในโคโลเซี่ยม
“แง้ๆๆโฮ...ฮึก..ฮึก...แงงงงงง”เสียงร้องไห้ เสียงของพายุที่รุนแรงมากขึ้น ฝนที่ตกแรงมากขึ้น ลมพายุที่ตกแรงมาขึ้น เสียงของสายฟ้าที่ฟาดลงมาอย่างไม่ยั้ง ร่างเล็กที่กอดตุ๊กตาหมีของตัวเองแน่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา
.............
..............................
...........................................................
“คิดอะไรอยู่เหรอแบร์?”เสียงของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาร่างเล็กๆของอีกฝ่ายที่ยืนเหม่ออยู่
“ก็...เรื่องอดีตนิดหน่อยน่ะ จะไปกันรึยังล่ะ....”แบร์ตอบ
“อื้ม!!”หญิงสาวพยักหน้าตอบก่อนจะเดินนำไปก่อนอย่างสนุกสนานทำให้อีกฝ่ายเองก็อดยิ้มไม่ได้เช่นกัน เธอช่างแตกต่างจากตอนนั้นจริงๆ
“....หลังจากนั้นท่านปู่ก็มาแล้วก็ได้ใช้ชีวิตตามปกติแต่ไม่กี่เดือนก็โดนไล่ลงมาอยู่นี่สินะเฮ้อ...นี่ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย นี่แหละน้า....คนแก่เริ่มหลงๆลืมๆ ก็เหมือนกับเวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยนแต่ว่า...เธอไม่เปลี่ยนไปเลยนะ....ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว”เสียงๆเล็กที่พูดขึ้นเบาๆ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอแค่เธอเท่านั้นที่ห้ามโกหกฉันแค่เธอที่ห้ามอยู่ห่างจากฉัน ห้ามไปจากฉัน สัญญาสิแบร์ของฉัน.....”
แสงสีเหลืองทองที่สาดลงมา ความทรงจำในคืนวันนั้น รอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของตุ๊กตาที่มีค่าสำหรับใครบางคน สายตาที่จ้องมองไปยังร่างเล็กตรงหน้าด้วยความห่วงใยและหลงใหล ความอบอุ่น สายลมอ่อนๆที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายต่างกับวันนั้นในอดีตที่ ทั้งในฝนตกและในวันที่สายลมสาดพัดเข้ามาอย่างรุนแรง
สีเขียวกับสีฟ้าที่อบอุ่น ต่างกับสีแดงและสีครึ้มของสีเทาในคืนวันนั้น อดีตกับปัจจุบันช่างแตกต่างกันถึงเพียงนี้เชียวหรือ คำสัญญาในอดีตที่ยังมีผลถึงปัจจุบันและไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่มีทั้งการเพิ่มสัญญาและลดสัญญาให้หายไปแม้แต่น้อย.... ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมทั้งจิตใจนั้น ทั้งคำสัญญา....
“ฟังให้ดีนะเธอไม่ใช่ลูกน้องของฉันแต่เป็นเพื่อนของฉัน ดังนั้น....ฉันถึงไม่ต้องการให้เธอเหงา เพราะถ้าเห็นเธอทำหน้าแบบนั้นทีไรฉันก็จะพลอยเหงาไปด้วย....ดังนั้นฉันจึงไม่อนุญาตให้เธอเหงา หรือไม่จากฉันเด็ดขาด เพราะเธอคือเพื่อนเพียงคนเดียวของฉัน....”
ย้อนถึงคำสัญญาในกาลเก่า ช่วงเวลาแห่งการพบกันครั้งแรกช่างน่าประทับใจหากแต่ในเรื่องราวในวันนั้นช่างหน้าเศร้ายิ่งนัก ต้องร้องไห้มากี่ครั้งกันแล้วนะ แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกันเพราะมันไม่เหมือนกันกับอดีต เธอผู้นั้นไม่ได้ร้องไห้เหมือนแต่ก่อนอีกแล้วแต่กลับยิ้มแย้มมากยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากตอนนั้นมากเหลือเกิน...
จะต้องอยู่ข้างๆกันและกันตลอดไป ถ้าจะเศร้าก็ต้องเศร้าด้วยกัน จะสู้ก็ต้องสู้ด้วยกัน จะต้องร่วมกันเจ็บปวด เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน
ต้องปกป้องซึ่งกันและกัน
จะไม่ไปจากกัน จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป
ฉันจะไม่เหงาเพราะว่าฉันมีเธออยู่เคียงข้างตลอดไป
ถึงแม้นี่จะเป็นความเอาแต่ใจที่น่าเกียจ แต่ก็ไม่อยากจะอยู่คนเดียวอีกเหมือนเมื่อก่อน
“ถ้าหากผิดสัญญาล่ะก็จะต้องกลืนเข็มพันเล่มนะแบร์ นะ? ห้ามผิดสัญญาเด็ดขาดนะ”
“ฉันรักษาสัญญาแล้วนะ....มิว...”
รอยยิ้มแล้วสิ่งที่เหลืออยู่ในอดีต ยังคงค้ำจุนไม่เคยคิดย้อนจะแก้ไขเพราะมันไม่อาจที่จะแก้ไขมันได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงต้องมุ่งหน้าไปข้างหน้าเพื่อมุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น และก็ใช้อดีตนี้นี่แหละเป็นตัวช่วยพลั่กดันไปข้างหน้า ใช้อดีตที่ผิดพลาดเป็นบันไดก้าวสู่อนาคตในข้างหน้านี้....
ถ้ายังมีเธอล่ะก็ไม่ว่าอะไรก็จะผ่านไปได้ทั้งนั้น ถ้าหากยังอยู่เคียงข้างกันล่ะก็....
จะต้องก้าวผ่านสิ่งต่างๆได้แน่ จะต้องไม่เป็นไรแน่.....นี่.....
อนาคตข้างหน้านี้จะมีอะไรรออยู่กันแน่นะ....
“นี่....แบร์ฉันไม่เหงาอีกแล้วนะ.....ถ้าถามว่าทำไมก็เพราะว่าฉันมีแบร์อยู่ยังไงล่ะ เราจะอยู่ด้วยกันทั้งตอนนี้ จากนี้และตลอดไป จะอยู่ด้วยกันตลอดไป สัญญานะ? จะอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ”
“นะ? แบร์”
Fin.
ความคิดเห็น