นกนักอพยพ กับ ต้นไม้ - นกนักอพยพ กับ ต้นไม้ นิยาย นกนักอพยพ กับ ต้นไม้ : Dek-D.com - Writer

    นกนักอพยพ กับ ต้นไม้

    อ่านแล้วคิดทุกประโยคนะครับ ชีวิตรัก และเรื่องราวของชาวชนบทของแท้

    ผู้เข้าชมรวม

    315

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    315

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 พ.ค. 50 / 12:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                             กาลครั้งหนึ่งสามเดือนมาแล้ว  มีนกนักอพยพตัวหนึ่งหลงฝูง
        ผลัดถิ่น  หลงทางมาพบกับต้นไม้ต้นแคราะต้นหนึ่ง  ต้นไม้ต้นนี้ไม่โตมาก
        กิ่งก้านหงิกงอแต่ยังพอเป็นที่วางรังให้แก่นกตัวนั้นได้  ทั้งยังมีผลสีแดงสด
        มากมาย  นกตัวนั้นจึงเห็นชอบทำรังอยู่ต้นไม้นั้น และพักผ่อนอย่างมีความสุข
       
                       ทุกวันของนกตัวนี้ช่างเป็นเวลาที่มีความสุขสำหรับมัน นกตัวนี้
        มีอาหารการกินที่สมบูรณ์จากผลเบอร์รี่ลูกเล็กจากต้นไม้ที่มันอยู่  มันจึงมี-
        ความสุข  นกตัวนี้จึงชอบต้นไม้นี้มาก และเฝ้าร้องเสียงแจ้วเพื่อคุยกับต้นไม้ที่ทำ-
        ให้มันมีความสุข วันแล้ววันเล่า มันก็ทำแบบนั้น
       
                      แต่ต้นไม้นั่นไม่เคยตอบมันเลย
       
                      วันหนึ่งขณะนกกำลังออกจากรังเพื่อขึ้นไปยังบนฟ้าที่มันเคยอยู่
       มันก็ได้ยินเสียงประหลาดที่มันไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน มันหันไปรอบๆ
       มันไม่เห็นใคร หรือตัวอะไรเลย นอกจากกิ่งหงิกงอเหยียดออก และขยับ
       เมื่อนกมองไปที่ลำต้นที่มันอยู่  มันจึงได้รู้ว่า เจ้าของเสียงนั้น คือต้นไม้ที่มัน-
       อยู่นั่นเอง มันตื่นเต้นกับเสียงนี้มาก มากมาย และมากจริงๆ
       
                      หลังจากที่นกตื่นเต้นกับต้นไม้พูดได้ที่มันอยู่อยู่สักสามสี่วัน
       มันก็ต้องจากต้นไม้นี้ไปชั่วคราว นกตัวนั้นก็อธิบายไม่ได้ว่านกตัวนั้นจะต้องไป
       ที่อื่นอีกทำไม  ในเมื่อมันมีความสุขกับต้นไม้นี้อยู่แล้ว  แต่เสียงในใจบอกว่า
       มันต้องไป  ในที่สุดมันก็กระพือปีกออก  และค่อยๆหายไปในท้องฟ้าสีทะเล 
       เหลือไว้เพียงขนบริเวรใต้ตาของมันไว้ต่างหน้าในรัง 
       
                      ต้นไม้โน้มยอดลงดูขนนกและอาลัยจนสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่เวทนา
       ใครผ่านไปผ่านมาก็ช่วยกันปลอบ แต่ต้นไม้ก็ยังไม่หายเศร้าเสียใจจนใบเหลือง 
       ไม่มีใครอธิบายการจากไปของนกตัวนี้ให้ต้นไม้ฟังได้  ไม่ว่าจะเป็น กระรอก
       ด้วง แมลงตัวเล็กๆ มด และท้องฟ้า ทุกคนต่างบอกกับต้นไม้ว่าคงเป็น
       เหตุผลเดียวที่ว่าทำไมแซลมอนต้องกลับไปวางไข่ในน้ำจืด และทำไมเต่าต้อง
       กลับไปวางไข่ที่เดิมที่ที่ตัวเองเคยอยู่
       
                     ต้นไม้พยายามถอนรากของตัวเองขึ้นมาจากดินที่มันอยู่  แต่มันทำ
       ไม่ได้ มันพยายามแล้วพยายามอีกมันก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี 
       
                     ในวันฝนตกหนัก ต้นไม้ใหญ่ต่างหักโค่นลง เหลือไว้เพียงต้นไม้
       ลิ่วลม และพวกต้นเตี้ย เช่นต้นไม้พูดได้ที่ยังยิ้มอยู่ได้อย่างสบายใจ  สัตว์หลาย-
       ชนิดต่างหาที่หลบภัย แล้วนกอพยพผู้เคยจากไปก็เป็นส่วนหนึ่งในพวกนั้นด้วย
       
                    มันกลับมายังต้นไม้พูดได้ทำให้ต้นไม้พูดได้ดีใจยิ่งนัก นกกลับมา
       ครั้งนี้ดูโตขึ้น แข็งแรงขึ้น และฉลาดขึ้น มันยังคงเป็นนกที่น่ารักเหมือนเคย
       มันคาบผลเบอร์รี่ลูกสีม่วงลูกใหญ่กว่าผลที่ต้นหงิกจะออกให้มันกินในอดีตมา-
       ฝากแก่ต้นไม้พูดได้  ต้นไม้พูดได้ก็ดีใจ แต่ก็อมความเสียใจว่าทำไมต้องเอา
       สิ่งนี้มาให้แก่มันด้วย  ไม่ต้องหาอะไรมาฝากยังดีเสียกว่า ..สักระยะฝนก็หยุดตก
       
                   หลังฝน ผลเบอร์รี่ผลิออกจากกิ่งต้นหงิก และใบก็เขียวชอุ่มสดใส
       นกเองก็ยินดีกับต้นไม้ด้วย แต่เมื่อนกจิกลงยังผลเบอร์รี่รุ่นใหม่นี้ มันกลับขมปี๋
       ฝาดฝืดคอยิ่งนัก มันจึงถามแก่ต้นไม้หงิกว่าทำไมเป็นเช่นนั้น
       
                   ต้นไม้หงิกจึงตอบไปอย่างใจเสียว่า ฤดูผลหวานได้หมดลงไปแล้ว
       เหลือเพียงความขม และความเสื่อมทรามลงของรสชาติ และบอก นกอีกว่า
       ถ้าหากยังอยากอยู่ด้วยกัน  นกก็ต้องทนกับความขนและต้นหงิกไปอีกหลายเดือน
       นกจะยังอยู่ไหม หากอยู่  และเลยฤดูขมนี้ไปได้ก็จะได้กินลูกที่หวานและใหญ่กว่าเดิม
       นกจึงตอบตกลงกับต้นไม้ว่า  นกจะอยู่  และนกก็อยู่เป็นเวลาสามเดือนอย่างจืดชืด
       และมีท่าทีหงอยเหงา  นกไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากผลขมตลอดเวลาที่ผ่านมา
       
                   เดือนที่สี่นกป่วยตัดสินใจกล่าวคำลา  และบินจากไป
       
                   เดือนที่ห้าต้นไม้เริ่มมีความคิดจะถอนรากตัวเองออกจากดินเพื่อตาม
       หานกอีกครั้ง  แต่ต้นไม้ก็ทำไม่ได้    
                   ......
       
                   เดือนที่หกต้นไม้ใช้กำลังทั้งหมดที่มี เพื่อผลิดอก ออกผลครั้งใหญ่ที่สุด
       เท่าที่มันจะทำได้
                   ผลที่ให้ฤดูนี้ก็ช่างหวานและชุ่มคอเหลือเกิน จนทุกชีวิตในป่าก็สัมผัสได้ถึง
       ความหวานในครั้งนี้  มันออกดอก ออกผลด้วยความเชื่อว่านกน้อยจะกลับมา และได้
       กินผลที่มันออกอย่างภูมิใจ มัแหงนมองฟ้าอย่างมีความสุข ยิ้มอย่างมีความสุข 
       และค่อยๆตายอย่างปิติไล่ตั้งแต่ยอดลงมาสู่ถึงรากอย่างช้าๆเป็นเวลาหลายชั่วโมง
       
                   แล้วมันก็ตายลงอย่างสมบูรณ์ในเวลาเช้าของอีกวัน ใบมีมีมากก็เหี่ยวเฉา
       และปลิวไปตามลมทีละใบสองใบจนหมดต้น  เหลือไว้เพียงแค่พวงผลที่มั่นไว้กับซากของมัน   
       
                   ....
       
                   เดือนที่เจ็ดนกไม่กลับมา
       
                   เดือนที่แปดนกไม่กลับมา
       
                   เดือนที่เก้านกก็ยังไม่กลับมา

            
                   เวลาผ่านไปจนโลกแตก และป่านี้ก็กลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมนกก็ยังไม่กลับมา        

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×