คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ☺ 6
6.
XXX Condominium
06.00
น.
“อืมมม...”
ตื่นตามความเคยชิน...เพราะการทำงานหกวันต่อสัปดาห์และตลอดห้าเดือนที่ผ่านมามันพาให้เป็นเช่นนั้น มันต้องตื่นมาอาบน้ำ เตรียมของให้เด็กขวบเศษและต้องรีบไปเปิดร้านให้ทันก่อนแปดโมง
แต่วันนี้มันไม่ต้องทำอะไรเลยเนื่องจากเป็นวันหยุด ปกติคริสต์มาสคาเฟ่จะเปิดให้บริการทุกวัน แต่พอมีเด็กน้อยมาให้เลี้ยง...เจ้าของร้านจึงจำเป็นต้องหาวันหยุดเพื่อสะสางชีวิตส่วนตัวเพราะถึงแม้จะมีวันหยุดแต่ก็ไม่ได้หยุดเหมือนชื่อเลยสักนิด
มีผ้ากองอยู่เต็มตะกร้า มีรายการของสดที่ต้องออกไปซื้อ แพมเพิสก็เริ่มเหลือน้อยลงทุกที แล้วอีกไม่กี่วันก็ต้องพาหลานไปฉีกวัคซีนอีก
เป็นแค่น้า...แต่ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้วะ?!!
ตาเรียวคู่สวย...พยายามปรับโฟกัสเพื่อให้ชินกับความมืดภายในห้อง สองแขนยืดออกจนสุดเพื่อไล่ความขี้เกียจในยามเช้า แต่พอจะขยับลุกออกจากเตียง...ร่างกายกลับถูกล็อคไว้ด้วยท่อนแขนกำยำ ตื่นแล้วก็ไม่ต้องมาแกล้งหลับ?! กอดทั้งคืนยังไม่พอใจอีกหรือไง? ถ้าเหนื่อยก็นอนพักไปก่อนก็ได้...แต่ช่วยปล่อยเขาก่อนได้ไหม??? บ่นไปอย่างนั้นและหันไปกอดตอบความอบอุ่นที่โอบกันไว้ตลอดทั้งคืน ส่วนหลานตัวน้อยก็ถูกย้ายให้ไปนอนชิดด้านในกับคุณช้างเพราะปะป๊าอยากกอดคุณน้ามากกว่าเด็กแพมเพิสตุง
จุ๊บบ!!
“ทำไมตื่นเช้าจังวะ...นี่มันวันหยุดนะเว้ย?”
ความมืดภายในห้อง...ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อจูบในยามเช้า และคนที่ขี้เกียจเกินกว่าจะลืมตาก็ไล่เลื่อนแรงสัมผัสตั้งแต่หน้าผาก ข้างขมับ
จมูกโด่งรั้นแล้วเน้นหนักที่ริมฝีปากบาง
ฮ่าห์....ชื่นใจ!!!
ไคยอมรับว่าเหนื่อยมากจริงๆ แค่งานในร้านกาแฟก็ถือว่าหนักแล้ว แต่สิ่งที่หนักกว่าการต้อนรับลูกค้าก็คือการเลี้ยงเด็ก วันไหนอารมณ์ดีก็เลี้ยงง่ายเหลือเกิน วันไหนอารมณ์เสียก็ร้องไห้จนต้องอุ้มเอาไว้ทั้งวัน แถมการสื่อสารกับเด็กวัยเพียงเท่านี้ก็เป็นอุปสรรคต่อการทำความเข้าใจ
“ก็ตื่นแบบนี้ทุกวันนั่นแหละ มึงปล่อยกูได้แล้ว...กูจะไปซักผ้า”
“ขยันจังวะ...”
“ไม่ได้ขยัน แต่มันต้องทำ...มึงเหนื่อยก็นอนไปก่อน เดี๋ยวกูจะไปทำอาหารเช้าด้วย”
“ขอกอดอีกแป๊บนึงไม่ได้เหรอวะ?”
“มึงกอดกูมาทั้งคืนละ...ปล่อยเลย เดี๋ยวตากผ้าไม่ทันแดด”
“เซฮุน...”
“อะไร?”
“รักมึงนะ”
“กูก็รักมึงเหมือนกัน...รักมากด้วย”
จูบมาก็จูบกลับ...แต่ไม่ได้ลึกซึ้งจนทำให้รู้สึกวาบหวามเพราะกลัวจะหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ อกกว้าง
สันกรามคม แก้มสากแล้วปิดท้ายที่ปากหยักไปแบบเน้นๆเช่นกัน ถึงแม้คำพูดหรือคำบอกรักจะเบาจนเหมือนเป็นการกระซิบ แต่มันก็ชัดเจนอยู่โสตประสาท...ทั้งไคทั้งเซฮุนเกรงว่าหลานตัวน้อยจะตื่น แล้วบทสนทนาที่ต้องพูดเบาๆก็ถือเป็นการกระทำอย่างหนึ่งที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ
ทุกครั้งที่หลานหลับก็ต้องทำทุกอย่างให้เงียบเท่าที่จะทำได้ เด็กที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะส่งผลดีต่ออารมณ์และพัฒนาการ
“อยากกอดอีก...มึงนอนต่อไม่ได้เหรอวะ?”
“ต้องไปซักผ้าแล้ว...ปะป๊าอย่างอแงนะคะ”
“เนี่ย...มึงก็เป็นแบบเนี้ย ชอบอ่อยกู”
จุ๊บบบ!!!
“เดี๋ยวไปทำอาหารเช้าให้กิน...เสร็จแล้วจะมาปลุกนะ”
“คืนนี้มึงโดนแน่เซฮุน...”
“ยอมมม”
“มึงรีบไปเลย”
“ ^ ^) ”
ไม่มีอะไรจะสุขเท่าการได้แกล้งคิมไคอีกแล้ว...เพราะการที่เซฮุนจูบลาก่อนลุกออกไปจากเตียงด้วยความรวดเร็วมันพาลให้บางสิ่งตื่นตุงอยู่ในกางเกงนอนของแฟนผิวเข้ม อยากกอดเมียก็กอดไม่ได้
อยากฟัดเมียก็ฟัดไม่ได้อีก...และต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดก็คือเจ้าก้อนกลมๆที่นอนกอดคุณช้างอยู่อีกฝั่งของที่นอน
จะทำอะไรก็เกรงใจหลานเพราะเรื่องบางเรื่องมันไม่สมควรทำต่อหน้าเด็ก แล้วเสียงครางหวานๆของน้าเซฮุน...มันก็กลั้นเอาไว้ไม่ค่อยได้เมื่อถูกแรงปรารถนา
แค่คิดก็อยาก...อยาก
อยาก อยาก อยากเอาเมียยยยยยยยยยยยย!!!
“งุน....”
“......??!!!”
“งุนงุน...ไหน?”
“อยู่กับปะป๊านะครับ นมนมมาแล้ว...เอ่เอ๊น้าาา”
กำลังคิดอะไรเพลินๆก็ต้องหยุด...เนื่องจากอีกคนที่อาจตื่นไปตามความเคยชินก็คือเด็กหญิงโอโฮยอน ไครีบกลิ้งตัวไปนอนข้างๆเด็กน้อยก่อนคว้าขวดนมที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งมาป้อนใส่ปาก มือหนาเปิดแพมเพิสขึ้นเล็กน้อยแล้วใช้จมูกพิสูจน์กลิ่นดูว่าที่ตื่นเพราะขับถ่ายหรือไม่?? และดีที่ไม่ใช่...ไคตบก้นโฮยอนเบาๆเป็นการกล่อมพร้อมตุ๊กตาตัวโปรดที่ต้องเอามาให้กอด แรงดูดจากขวดนมทำให้คุณพ่อจำเป็นทราบได้ทันทีว่าความหิวและความง่วงคือประเด็นหลัก ส่วนชื่อที่เรียกหา...ก็คงเป็นเพราะเคยมีกันอยู่แค่สองคน
ใช่ว่าน้อยใจ...และเข้าใจดีว่าในหลายเดือนที่ผ่านมาโฮยอนมีแค่เซฮุนเท่านั้น ตื่นเช้าก็เจอ
ค่ำๆก็พากลับบ้าน ไปทำงานก็ต้องแบกอยู่บนหลังหรืออีกสารพัดความผูกพันที่มีให้กันมากมาย
เขาก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่เด็กเริ่มคุ้นเคยเพราะต่อให้เรียกกันว่าปะป๊า แต่ทุกครั้งที่ร้องไห้...ชื่อแรกที่เรียกเมื่อลืมตาตื่นก็ยังเป็นคุณน้าเซฮุนเสมอ เกิดมามีแม่ใจร้ายมีพ่อใจดำมันช่างน่าสงสาร แล้วถ้าโฮยอนไม่มีคุณน้าคอยเลี้ยงดู เจ้าตัวก็คงต้องไปอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
พอคิดเรื่องนี้แล้วก็เครียด....เครียดแล้วก็หลับต่อดีกว่า ZzzZZzzzzZ
...
...
...
08.00
น.
แกร๊กกก!!!
“งุนงุนนน!!!”
“อาบน้ำแล้วเหรอคะคนเก่ง...”
เป็นสองชั่วโมงในการซักผ้าและทำอาหารเช้าที่สบายตัวที่สุด...เพราะมันไม่ต้องแบกเจ้าของเสียงเรียกชื่อไว้บนหลังหรือต้องมัดขาป้อมๆไว้กับเก้าอี้ เซฮุนเปิดประตูห้องนอนเพื่อหวังจะมาปลุกทุกคนให้ไปทานมื้อเช้า และเสียงใสแจ๋วที่ร้องหาก็พาให้ต้องก้มกายลงไปฟัดแก้มกลมๆ พ่อลูก...พากันไปอาบน้ำมาแล้วล่ะสิ!!? แต่อาบกันท่าไหน...น้ำมันถึงกระเด็นออกมาข้างนอก เดี๋ยวก็ลื่นจนได้??
“ทำไมหอมแต่หลานวะ?”
“กูหอมมึงแต่เช้าแล้วเหอะ”
มองค้อน...คนที่เรียกร้องความสนใจด้วยความหมั่นไส้
และเดินไปคว้าผ้าเช็ดเท้ามาทำความสะอาดพื้นที่เปียกไปด้วยน้ำ พากันเล่นพิเรนทร์อะไรอีก? เป่าฟองสบู่กันอีกหรือไง?? แล้วทำไมทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ถึงได้มีสภาพเป็นแบบนั้น??? ไคตัวเปียกยังกับลูกหมาตกน้ำ ส่วนโฮยอนก็ผมกระเซิงนอนแก้ผ้ากลิ้งไปกลิ้งมาอยู่กับคุณช้างบนเตียง...เห็นแล้วอยากจะบ้าตาย!!
“เดี๋ยวกูแต่งตัวให้หลานเอง มึงจะไปทำอะไรก็ไป?”
“ก็มึงปล่อยให้หลานนอนแก้ผ้าเนี่ย หลานเป็นผู้หญิงนะเว้ย!”
“ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ บ่นเป็นคนแก่ไปได้”
“เออ...แก่แล้วก็ไม่ต้องมารัก!”
จ้าาาาา...ไปไกลแล้วจ้า มึงกำลังพาลนะครับโอเซฮุน ไครีบคว้าเสื้อผ้ามาใส่ด้วยความรีบร้อนก่อนจับคนขี้บ่นกดลงบนเตียงแล้วฟัดแก้มนุ่มๆให้คลายความหงุดหงิด ถึงตัวมันจะมีแต่กลิ่นกับข้าว...แต่ความเนียนนุ่มก็พาให้สดชื่นได้เหมือนกัน
“งุนงุน...ปะป๊าาา!!! ^o^)”
“คะ...ไค ปล่อย พอแล้ววว”
กลายเป็นเรื่องสนุกของเด็กขวบเศษ...เพราะเมื่อโฮยอนได้ยินเสียงโวยวายของคุณน้า เจ้าตัวรีบคลานไปร่วมวงด้วย ตุ๊กตาสุดโปรดถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใย สองขาป้อมๆปีนป่ายเกาะคนสองคนที่กำลังกอดกันอยู่บนเตียง ไครีบพลิกกายเซฮุนให้มานอนทับบนตัวของเขา ส่วนโฮยอนก็ถูกคุณน้าอุ้มมานั่งบนพุงอีกที เสียงหัวเราะเอิ้กอ้าก...ดังลั่นไปทั่วทั้งห้องนอนเพราะความสูงจากการนอนทับกันของปะป๊าและงุนงุนมันสนุกมากเลย แล้วการที่มือน้อยๆตบแก้มตัวเองซ้ำๆพร้อมยิ้มจนเห็นเหงือกก็คงหมายความว่าเจ้าตัวกำลังมีความสุข?
“มึงคิดว่ากูจะหนักบ้างไหม?”
“อยากเป็นปะป๊าก็ต้องอดทนเนอะโฮยอน”
(ทน...ปะป๊าทน)
“ค้าบบบ...ปะป๊าจะทนเพื่อลูกเพื่อเมีย”
“ไค...”
รีบลุกออกจากอกกว้าง...และอุ้มหลานเอาไว้ในอ้อมแขน คำพูดของไคทำให้เซฮุนรู้สึกว่ามันเกินหน้าที่เพราะสิ่งที่เจ้าตัวทำอยู่ตอนนี้ก็มากพอแล้ว มึงเป็นแฟนกู แต่ไม่ต้องเป็นพ่อเด็กก็ได้ อนาคตมึงยังอีกไกล...อย่ามาทิ้งทุกอย่างไว้ที่คนแบบกูเลย!??
เซฮุนคิดว่า...การเรียนจบมาจากเมืองนอกเมืองนามันคงทำให้ไคมีอนาคตที่ดีกว่าการอยู่กับเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆอย่างเขา แถมการมีเด็กมาให้เลี้ยงก็ไม่ใช่หน้าที่ที่มันต้องมารับผิดชอบ
แต่.....
“อย่าคิดมาก...กูเลือกแล้ว และถ้ามึงยังคิดอะไรบ้าๆบอๆแบบนี้อีกก็แสดงว่ามึงไม่รักกู”
“รักสิ!!...รักมากก็เลยคิดมากนี่ไง”
“เด็กมันไม่มีพ่อ...กูก็จะเป็นพ่อให้เอง โฮยอนมันโตขึ้นทุกวันนะเซฮุน แล้วถ้าถึงเวลาที่ต้องเข้าโรงเรียนมันก็ต้องมีผู้ปกครองป่าววะ?”
“ทีแบบนี้มาคิดถึงอนาคต”
“ก็อนาคตของเด็กมันสำคัญนี่หว่า เราเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว...งานก็มีทำแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ของโฮยอน”
“มึงจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“ไม่จริงจังมั้ง...”
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่...อะไรที่เซฮุนคิด อะไรที่เซฮุนกังวลหรือแม้จะเป็นทุกๆเรื่องก็คือสิ่งที่เขารู้ดีกว่าใคร ใช่ว่าพูดไปเพราะอยากเป็นพ่อพระ แต่อนาคตของเด็กคนนี้มันสำคัญเกินกว่าจะเอามาพูดเล่น ถ้าไม่อยากให้ช่วยตามหาพี่สาว ก็คงต้องช่วยเลี้ยงโฮยอนให้มีอนาคตที่ดีและช่วยให้เซฮุนได้ทำในสิ่งที่อยากทำ อยากเที่ยวก็จะได้เที่ยว อยากเรียนต่อถ้าพร้อมก็จะส่งเสริม อะไรที่ทำให้แฟนมีความสุข...คิมไคก็พร้อมที่จะลงมือทำเสมอ
“ขอบคุณนะไค”
“กูไม่อยากได้คำขอบคุณ
แต่กูอยากให้มึงเข้าใจกูบ้าง...กูพยายามจะเป็นครอบครัว เป็นแฟน
เป็นทุกอย่างให้มึง แต่ทำไม...มึงชอบคิดชอบทำอะไรอยู่คนเดียววะ?”
“ขอโทษษษษ...คราวหลังจะไม่ทำแล้ว มึงอย่าโกรธกูนะไค”
มันเกรง...ว่าคนที่เคยอยู่ดีกินดีจะลำบาก เซฮุนจึงคิดทุกอย่างไปตามที่เห็นว่าสมควร แล้วการที่ไคยังทำอะไรไม่ค่อยเป็น ยังติดความมีแม่บ้านหรือต้องคอยสอนนั่นสอนนี่อยู่บ่อยครั้งก็พาลให้ยิ่งเกรงว่าจะลำบากมากขึ้นเมื่อต้องมาเลี้ยงโฮยอน มือบางกระชับเอวสอบไว้แน่นเพื่ออยากขอโทษ ใบหน้าเรียวสวยซบแนบไปกับอกกว้างด้วยความสำนึกผิด แล้วคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยก็พลอยกอดทุกคนเอาไว้ในอ้อมแขนน้อยๆ เด็กหญิงโอโฮยอนไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น เห็นงุนงุนกอดปะป๊าก็กอดบ้าง เห็นปะป๊าหอมหัวงุนงุนก็หอมบ้างเช่นกัน แต่ว่า...เลิกหอมกันได้หรือยัง? หนูอยากเล่นนอนทับกันอีก?? มันสนุกดีนะ???
“มึงไปอาบน้ำเลยไป เหม็นกลิ่นกับข้าว”
“เหม็นแล้วมาหอมทำไม”
“หอมไม่ได้??”
“หอมน้อยๆไม่ได้ ต้องหอมเยอะๆ”
“คืนนี้มึงเสร็จกูแน่...”
“พร้อมเว่ออออ!!”
“ไปอาบน้ำได้แล้วววว...จะได้ออกไปกินข้าวพร้อมกัน”
“แต่เช้านี้มีแค่แฮมไส้กรอกไข่ลวกนะ ของสดหมดแล้ว
ผลไม้ก็ไม่มี”
“เดี๋ยวพาไปซื้อ...มึงรีบไปอาบน้ำเลยไป เดี๋ยวกูจะได้แต่งตัวให้หลาน”
ฟอดดดดด!!!
“รักมึงนะไค!!!”
“ไอ้นี่...”
เรื่องยั่วขอให้บอก...เรื่องกวนประสาทก็ต้องยกให้ที่หนึ่ง เพราะการก้มหน้าลงมาหอมแก้มสากก่อนวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวและเลี้ยวเข้าไปในห้องอาบน้ำมันพาให้ไคต้องส่ายหัวด้วยความเพลียใจ แต่ต่อให้เซฮุนจะกวนประสาทมากแค่ไหน คิดมากแค่ไหน
ขี้บ่นแค่ไหน...เขาก็ไม่เคยโกรธแบบจริงจังเลยได้เลยสักครั้ง ทราบดีว่ารัก
ทราบดีว่าห่วง แต่คนเรื่องมากอย่างเขาก็พอจะทำอะไรอะไรได้ด้วยตัวเองเป็นแล้ว อย่างเช่นล่าสุดก็คือ...สระผมให้โฮยอน
ก็ไม่ยากเท่าไหร่...แต่พื้นก็จะเปียกๆหน่อยนะ (- -‘
ห้างสรรพสินค้า AA
11.00
น.
VROOMMMMMM!!!
“ปะป๊า...บื้นน!!!”
“ปะป๊าจอดรถแล้วค่ะ...ปะป๊าไม่บื้นแล้ว”
“บื้นนนนนน!!!”
“ปะป๊าพาโฮยอนมาเที่ยวไงคะ...เดี๋ยวเราไปหาพี่ช้างกัน!!”
“จ๊างงงง บื้น...บื้นนน!!”
อยากบื้นๆก็อยาก...อยากไปหาพี่ช้างก็อยาก
โฮยอนจึงพูดคำนั้นคำนี้สลับกันไปมาพร้อมตบมือแปะๆ
คนเป็นปะป๊าอดยิ้มให้กับความสุขของเด็กที่นั่งอยู่บนตักคุณน้าไม่ได้เพราะทุกกิริยาท่าทางมันช่างน่ารักน่าหยิก มือหนารีบปลดเข็มขัดนิรภัยเมื่อจอดรถเสร็จเรียบร้อยและช่วยลงไปเปิดประตูให้สองน้าหลาน ไคทำหน้าที่อุ้มเจ้าตัวน้อยทันทีเนื่องจากเซฮุนต้องทำหน้าที่ซื้อของ
“รถก็มี...ทำไมมึงไม่ขับไปที่ร้านวะ จะเดินไปทำงานให้เมื่อยทำไม?”
เป็นคำถามที่พอจะรู้คำตอบอยู่บ้าง...แต่ที่ต้องถามซ้ำเพราะไม่อยากให้แฟนลำบาก อะไรที่ช่วยให้ความสะดวกรวดเร็วก็ควรนำออกมาใช้ ไม่ใช่จอดทิ้งไว้ใต้คอนโดฯเหมือนเศษเหล็ก
ไคทำการล็อคพาหนะสีดำก่อนเดินจูงมือเจ้าของรถเข้ามาในห้างสรรพสินค้า ส่วนเด็กหญิงโอโฮยอนก็ถูกอุ้มไว้ด้วยมืออีกข้างพร้อมคุณช้างสีหวานที่ต้องเอามาด้วยทุกครั้งเมื่อต้องออกมาซื้อของ
“เมื่อยอะไรล่ะ เดินไม่กี่นาทีก็ถึง...จะขับรถไปทำไมให้เปลืองน้ำมัน”
“แต่ยังไงมึงก็ต้องเอาออกมาขับบ้าง เดี๋ยวแบตมันตาย...แล้วพอจะใช้ก็สตาร์ดไม่ติด”
“ว่าแต่กูชอบบ่น มึงก็บ่นเก่งเหมือนกันนั่นแหละ”
“บ่นกับพูดความจริงช่วยแยกให้ออกด้วยนะครับโอเซฮุน”
เข้าใจความงกของเมีย...แล้วก็เข้าใจด้วยว่ามันต้องประหยัดเพราะอะไร ไคอาจเป็นคนที่รักความสะดวกสบาย สิ่งใดที่ทำให้ชีวิตไม่ลำบากก็เลือกไว้เป็นอย่างแรก
แต่สำหรับเซฮุน...เรื่องใดที่พอจะทำเองได้หรือไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไปนักก็ขอเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น ซึ่งไคก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เซฮุนมักจะแลกทุกสิ่งมาด้วยความสามารถ ถึงแม้ฐานะทางบ้านจะไม่ได้ถึงกับยากจน แต่คนอย่างมันก็ขยันเรียนและเรียนเก่งเพื่อแลกกับทุนศึกษา อะไรฟรีขอเอาไว้ก่อน
มีทุนให้เรียนตรงไหนก็ขอใช้ความเก่งให้เป็นประโยชน์ เซฮุนเป็นคนเก็บเงินเก่ง รู้จักคุณค่าของทุกอย่าง...และเราทั้งคู่ก็คงแตกต่างกันตรงจุดนี้
“ไค!...เอาโฮยอนมานั่งในนี้ มึงจะได้ไม่ต้องอุ้ม”
“ในรถเข็นของเนี่ยนะ?
ไม่ดีกว่ามั้ง...เดี๋ยวโฮยอนเจ็บ”
“ไม่เจ็บหรอกน่ะ...กูมาซื้อของทีไรโฮยอนก็นั่งแบบนี้ประจำ”
“อีกแล้วนะเซฮุน...”
“ฮือออ...ขอโทษ T^T ”
ลืมอีกแล้ว...ลืมทุกที ลืมจนได้เพราะมันยังค่อยไม่ชิน การเลี้ยงเด็กมาเพียงลำพังหรือการทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตลอดหลายเดือนมันพาให้เซฮุนลืมว่าตอนนี้มีใครอีกคนที่พร้อมจะช่วยเหลือ สองมือแทบพนมก้มกราบเจ้าของใบหน้าคมที่แสนบึ้งตึง ปากก็พร่ำขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ด้วยความสำนึกผิด
“ถ้ามีอีกครั้งกูไม่เตือนแล้วนะ”
“ไม่ดุดิวะ ก็มัน...”
“มันอะไร!??”
“มันไม่ชินนี่หว่า...คนเพิ่งเคยมีผัวนะเว้ย!”
เพี๊ยะ!!!
“ไปเลย...จะซื้ออะไรก็รีบซื้อ”
“เจ็บนะไค...”
มือหนา...ที่ฟาดลงไปบนความกลมกลึงส่งผลให้เจ้าของบั่นท้ายต้องเบ้หน้าด้วยเจ็บ
แล้วที่ต้องโดนแบบนี้ในที่แบบนี้ก็เป็นเพราะคำพูดบางคำที่ไม่สมควรพูดในที่สาธารณะ แต่คนที่บอกว่าเพิ่งเคยมีผัว...ก็คือคนที่ทำให้เขามีเมียเป็นคนแรกเช่นกัน เก่งแต่เรื่องที่ทำให้ใจอ่อน เก่งแต่เรื่องที่พาให้เกิดรอยยิ้มและเก่งแต่เรื่องที่ทำให้เกิดความหมั่นเขี้ยว
แล้วไอ้ก้นเด้งๆที่ฟาดมือลงไปจนสุดแรงก็ต้องช้ำแน่ๆในคืนนี้...อย่าหวังว่ามึงจะรอดนะโอเซฮุน!!
ต่อให้พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน...กูก็จะต้องทำการบ้านให้ได้!!!
ใบรายการ...พร้อมราคาที่เคยซื้อของไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วถูกเขียนด้วยลายมือที่อ่านไม่ค่อยออก
หัวที่เปรียบเสมือนเครื่องคิดเลขเริ่มทำการคำนวณเงินที่ต้องใช้จ่าย แล้วของสิ่งแรกที่ต้องซื้ออย่างแพมเพิสก็ขึ้นราคาอีกแล้ววววววววว....เซฮุนเริ่มอยากมีผัวเป็นเจ้าของแพมเพิสยี่ห้อนี้แล้วสิ??! เพราะมันคือสิ่งที่เด็กหญิงโอโฮยอนประจำต้องใช้ มือบางคว้าแพมเพิสจากชั้นวางมาสองแพ็คด้วยความหงุดหงิด แต่!!...เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นโปรโมชั่นที่เขียนว่าซื้อสามแถมหนึ่ง ความขี้งกหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไคชอบว่าก็พาให้ต้องหยิบเพิ่มไปตามโปรโมชั่น แถมเมื่อซื้อตามราคาที่กำหนดก็ยังได้ของเล่นให้หลานฟรีๆอีกด้วย
ว้าววววว...อ่างน้ำเป่าลมมีน้ำพุ
\(^O^)/
“โฮยอนดูนี่...อ่างน้ำอันใหม่ อยากเล่นปะ??”
“เป็ดๆ...”
“ช่ายยย...คืนนี้เป็ดๆอ่างใหม่กันเนอะ”
“งุน...เป็ด!!”
จากแพมเพิสสองแพ็ค...ก็กลายเป็นแปดแพ็คเพราะซื้อสามแถมหนึ่ง และยังได้อ่างเป่าลมให้หลานได้เล่นสมใจ ไคอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปกับความสุดคุ้มของผู้เป็นน้า แล้วความตื่นเต้นที่ได้อ่างน้ำอันใหม่ของโฮยอนก็พาให้รอยยิ้มของทุกคนกว้างมากขึ้นไปอีก
มันคือความสุขที่เกิดขึ้นได้ง่ายดายเหลือเกิน แค่ได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เรารัก ได้เห็นรอยยิ้ม ได้พูดคุยหรือแม้กระทั่งได้โต้เถียงในสิ่งที่เป็นปัญหา ทุกๆอย่างมันกลับพาทั้งรอยยิ้มและความสุขมาให้จนไม่อาจเก็บซ่อนความรู้สึก
“แล้วที่มึงบอกว่าจะพาโฮยอนไปหาพี่ช้าง...มันคืออะไรวะ?”
“อ๋อ...มันมีโซนเครื่องเล่นอยู่ตรงนู้น แต่โฮยอนอายุไม่ถึงก็เลยเข้าไปเล่นไม่ได้ กูก็เลยพาไปเล่นกับคนที่ใส่ชุดมาสคอตช้าง โฮยอนชอบมากเลย”
“ก่อนจะไปเล่นก็พาหลานไปกินข้าวก่อน อย่าให้มันเลยเวลามากนัก”
“รับทราบค่ะปะป๊า!!”
บทจะดื้อก็ต้องพูดกันจนเจ็บคอ...แต่บทจะเชื่อฟังมึงก็น่ารักสุดๆไปเลย เฮ้ออ!! มีเมียน่ารักก็เริ่มกลุ้มใจ คิมไคไม่อยากให้คนอื่นเห็นเซฮุนเป็นแบบนี้เลย เขาอยากให้เซฮุนน่ารักกับผัวคนนี้คนเดียวเท่านั้น หวงเว้ยยยย!!! มือหนากระชับเอวคอดเข้ามาใกล้ๆก่อนหอมกลุ่มผมสีเข้มด้วยความรัก ส่วนคนที่ยังไม่ทันได้ตั้งรับกับการถูกจู่โจมก็ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจให้แฟนได้สัมผัส บอกอะไรก็จะเชื่อฟัง สอนอะไรก็จะทำตามโดยไม่โต้เถียง เซฮุนยอมแล้ว...และจะยอมให้ผู้ชายคนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปจนกว่าจะตายจากกัน
“ของครบแล้วแน่นะ...มึงตรวจดูดีๆก่อนดิ๊?”
“แพมเพิส ทิชชู่เปียก
นมผง ครีมอาบน้ำ ผัก ไก่
ปลา หมู............แอปเปิ้ล กีวี่
ครบ!”
“อ่ะ...เอาบัตรกูไป”
“ตะ...แต่!”
“เซฮุน...”
รีบหยิบการ์ดสีดำ...จากมือคนหน้าตึงมาจ่ายค่าสินค้าทั้งหมดเมื่อเสร็จสิ้นการเดินซื้อของ เซฮุนยิ้มเจื่อนก่อนหยิบของใช้วางลงบนเคาน์เตอร์แคชเชียร์แล้วยืนรอพนักงานคิดเงิน ก็แค่เกรงใจ
กูไม่ได้คิดว่ามึงเป็นคนอื่นสักหน่อย
เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว...ยิ้มนิดนึงสิไค!? คนอย่างโอเซฮุนกลัวที่สุดคือการนิ่งเฉย ยิ่งคิมไคไม่ยิ้ม ไม่พูด
ไม่แสดงกิริยาให้เห็นว่ากำลังรู้สึกเช่นไรก็ยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก ฮือออ...โฮยอนช่วยงุนงุนด้วย ปะป๊าโกรธแล้ว T - T
“ไค...”
“..........”
“คิมไค”
“..........”
“กูจะร้องไห้แล้วนะ”
“เป็นกูที่ต้องร้อง...ไม่ใช่มึง แล้วก็ไม่ต้องมาขอโทษขอบคุณอะไรทั้งนั้น กูไม่อยากฟัง”
ไม่อายใครแล้วตอนนี้...เพราะสามีกำลังงอน!!? อ้อมแขนของคนที่สำนึกผิดเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้จำรีบโอบกายหนาเอาไว้ด้วยความรัก ไม่ได้ทำเพื่อให้หายโกรธ
ไม่ได้ทำเพื่อให้เรื่องนี้มันผ่านพ้นไปและไม่ได้ทำเพื่อให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเห็นว่าเราทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันเช่นไร แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อคิมไคคนเดียวเท่านั้น
เด็กหนุ่มที่ยืนต่อแถวเพื่อชำระค่าสินค้าจะคิดอะไร
หญิงสาวที่กำลังทำหน้าที่คิดเงินจะมองแบบไหนก็ไม่ใช่สิ่งที่เซฮุนต้องคิด
“มึงไม่รักกูแล้วเหรอ?”
“แล้วที่ทำอยู่ไม่เรียกว่ารักหรือไง?”
“รัก...รักมากด้วย”
“ก็รู้คำตอบนี่หว่า แล้วมึงจะเกรงใจกูทำไมวะ?”
“กะ...ก็มันเกรงใจ”
“ครั้งสุดท้ายนะเซฮุน สุดท้ายจริงๆ”
“รักมึงนะไค”
ฟอดดดด!!!
“กูก็รักมึง...รักมากๆ”
เป็นอีกครั้ง...ที่กลุ่มผมสีเข้มถูกสัมผัสด้วยความรักใคร่
ใช่ว่าเป็นโอเซฮุนคนเดียวที่ไม่แคร์สายของใครเพราะสามีคนนี้ก็ไม่สนใจคนอื่นเช่นกัน พวกเขาไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นหรือน้อยลง
พวกเขาไม่ได้ทำให้เราสองคนมีปัญหาและพวกเขาไม่ได้มาช่วยทำให้เราเข้าใจกัน
แต่เป็นเราทั้งหมดที่ยังมีข้อบกพร่องที่ต้องรีบแก้ไข รักกว่านี้ก็คงต้องซื้อห้างสรรพสินค้ามาไว้ที่บ้าน หวงกว่านี้ก็คงจ้างลูกน้องมาทำงานที่ร้านกาแฟอีกสักสามคน และถ้ารักมากกว่านี้ก็คงไม่มีใครอีกแล้วนอกจากคิมไค
“2,547 บาทค่ะ”
การเป็นแคชเชียร์ในวันนี้...ทำให้หญิงสาวหน้าเคาน์เตอร์ยิ้มกว้างได้มากกว่าทุกวัน
เพราะการที่ผู้ชายผิวเข้มอุ้มเด็กแก้มป่องเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วผู้ชายผิวขาวๆพร้อมใบหน้าเศร้าสร้อยก็เดินเข้าไปกอดมันเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก ถึงแม้จะไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แต่มันเหมือนพี่คนโตพาน้องคนกลางและน้องคนเล็กมาเที่ยวที่ห้างแห่งนี้
แต่น้องคนกลางเกิดอาการงอแงมากกว่าน้องคนเล็กเสียอีก
แล้ววววว...พี่คนโตก็หล่อบาดใจมากๆเลย (-;
แต่......
“ปะป๊า...นมนม!”
“หิวแล้วเหรอครับโฮยอน”
(สะ...เซ็นตรงนี้ค่ะลูกค้า)
“ปะป๊าขอเขียนชื่อให้พี่เค้าแป๊บนึงนะครับ แล้วเดี๋ยวเราไปหม่ำๆกัน”
“ปะป๊างั่มๆ ๆ”
“ใช่แล้วครับ...งั่มๆๆด้วยกัน”
ถ้าผู้ชายหล่อบาดใจคนนี้คือปะป๊า
คนที่ผิวขาวๆนี้ก็คือ......เข้าใจแล้วค่ะ (╥___╥)
XXX Condominium
19.00
น.
แกร๊กกก!!!
“เดี๋ยวกูเก็บของให้เอง...มึงเอาโฮยอนไปนอนไป”
“โอเค....”
บอกได้คำเดียวว่าเพลีย...เพราะเด็กที่ปะป๊าพาไปเที่ยวและซื้อเสื้อผ้าให้อีกหลายชุดสนุกมากจนหลับไปตั้งแต่รถยังไม่ทันได้ขับออกมาจากห้างสรรพสินค้า
เซฮุนรีบวางของที่ซื้อมาทั้งหมดไว้พื้นก่อนอุ้มโฮยอนมาจากไคและเดินเข้ามาในห้องนอนทันที แล้วคืนนี้....เจ้าตัวน้อยก็อดเป็ดๆในอ่างน้ำอันใหม่
มือบางวางหลานลงบนที่นอนพร้อมกับเสื้อผ้า ถุงเท้า
รวมถึงแพมเพิสของเด็กก็ถูกถอดออกด้วยความระมัดระวัง
เซฮุน...รีบเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาชุบน้ำแล้วเริ่มเช็ดตัวให้โฮยอนอย่างเบามือ การที่หลานหลับไปทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ มันอาจทำให้เจ้าแก้มอ้วนไม่สบายตัว คนเป็นน้าจึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้ไปก่อน
แล้วแพมเพิสที่เต็มตุงไปด้วยฉี่ก็ต้องเปลี่ยนเพราะไม่อยากให้หลานตื่นมาร้องไห้กลางดึก อะไรที่ทำให้เด็กวัยเพียงเท่านี้หลับสบาย หลับลึกหรือหลับให้เพียงพอมันคือสิ่งสำคัญ และเมื่อเช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดตัวเรียบร้อยก็ต้องรีบใส่แพมเพิสกับชุดนอนก่อนที่อากาศในยามค่ำคืนจะพาลให้หลานป่วยไข้
ขนาดเช็ดตัวให้ยังหลับสนิทขนาดนี้...สงสัยโฮยอนจะเพลียมากจริงๆ
“ขอให้นางฟ้าช่วยคุ้มครองหลานของงุนงุนด้วยเถิดดด...”
เป็นคำอธิษฐานที่ต้องกล่าวทุกคืน...และเด็กแบบโฮยอนก็คงต้องการการคุ้มครองจากนางฟ้า มีพ่อก็ไม่ใยดี มีแม่ก็เหมือนไม่มี แล้วเด็กที่ถูกทิ้งไว้ให้คนที่เกลียดเด็กดูแลมันก็คงไม่สมบูรณ์เท่าผู้ที่เต็มใจ ใช่ว่าเกลียดเด็กแล้วจะปล่อยให้โฮยอนอยู่แบบอดๆอยากๆ
แต่การเลี้ยงเด็กสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด คุณน้าอย่างเขาไม่รู้วิธีในการเลี้ยงเด็ก แถมชีวิตมันก็นอนไม่เป็นเวลากินไม่เป็นเวลาและเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยคนที่มีวิถีชีวิตแบบนี้มันถือว่าดีแล้วอย่างนั้นหรือ??
บางวันไม่ได้อาบน้ำ ทำงานก็ต้องเอาไปด้วย และคืนไหนกลับดึก...เด็กก็พลอยนอนดึกไปด้วย จากที่เคยสงสารแต่ตัวเองก็ต้องพลอยเวทนาหลานไปด้วยอีกคน โฮยอนถูกทิ้ง
เขาก็เหมือนถูกทิ้งเช่นกัน
คนเคยมีญาติพี่น้องก็กลายเป็นไร้ญาติขาดมิตร พ่อแม่ก็มาตายด้วยอุบัติเหตุ แล้วพี่สาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวก็หนีหายไปไหนไม่รู้ คำว่าไม่เหลือใครคือสิ่งที่เซฮุนต้องเจอมาตลอดห้าเดือนเต็ม เฮ้อออ!!...ดีที่ตอนนี้มีคิมไคคอยอยู่เคียงข้าง ไม่อย่างนั้นความอดทนมันอาจหมดไปจนทำให้คิดสั้น
แกร็กก!!!
“.......??!”
“ชงนมมาให้”
“ขอบใจนะไค”
รีบปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว...เพราะคิดมากทีไรก็เป็นแบบทุกที และแสงไฟที่เปิดไว้เพียงแค่หัวเตียงก็ทำให้คนที่เอาของโปรดโฮยอนมาเสิร์ฟอดคิดมากไม่ได้เช่นกัน เซฮุนร้องไห้ทำไม? วันนี้พวกเราก็มีความสุขดีไม่ใช่หรือ?? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่???
“เซฮุน...มึงร้องไห้ทำไมวะ?”
“ไปคุยข้างนอกเหอะ...เดี๋ยวหลานตื่น”
วางขวดนมไว้บนเตียงใกล้ๆกับคุณช้าง...และต้องทำแบบนี้ทุกคืนเพราะเวลาที่โฮยอนตื่นมากลางดึก เจ้าตัวก็มักจะคว้าของโปรดมาทานเป็นอย่างแรก แต่ถ้าไม่เจอนมนมหรือตุ๊กตาสีหวานมีงวง...งุนงุนก็จะกลายเป็นอย่างที่สองที่หลานจะเรียกหา
...
...
19.45
น.
“มึงเป็นอะไร? แล้วร้องไห้ทำไม?”
“แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย...แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง”
“บอกกูได้ไหมว่าคิดเรื่องอะไร?”
“เรื่องโฮยอน...เรื่องตัวเอง ทุกเรื่องนั่นแหละ”
“มานี่มา...”
ไม่ต้องเก็บของมันแล้วววว...เพราะเมียกำลังกลุ้มใจ ไครีบหยุดหน้าที่จากการนำของสดไปแช่ตู้เย็นและอุ้มคนคิดมากมานั่งบนโต๊ะกินข้าว สองแขนกำยำโอบกอดกายบางเพื่อปลอบใจ
มือหนาลูบแผ่นหลังผู้เป็นทุกสิ่งของโฮยอนเบาๆด้วยความเป็นห่วง เขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรให้เซฮุนหยุดคิดมาก และบางที...ก็พาลให้นึกไปถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำหรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ มีอะไรที่ยังขาด? มีสิ่งไหนที่ยังไม่เพียงพอ?? ช่วยเลี้ยงเด็ก?? ช่วยขายของ???? ชงกาแฟล้างจาน????? อืมมม...ต้องทำอะไรอีกล่ะ???????
“ขอโทษนะไค...กูมันคนประสาทแดก”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอก...กูอยู่ตรงนี้ โอเคไหม?”
“กูรู้ว่ามึงเบื่อคำนี้...แต่กูก็อยากขอโทษ แล้วก็ขอบคุณด้วยที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง”
“แล้วหายคิดมากหรือยัง?”
“ก็ดีขึ้น...กูประสาทแดกเองแหละ คิดนู่นคิดนี่บ้าบอไปเรื่อยแล้วก็ร้องไห้”
“มึงเป็นเมียกูแล้วก็เป็นไบโพล่าด้วย...เชื่อกูดิ!?”
“บ้าาา!! แต่ก็ขอบคุณนะไค...รักมึงที่สุดเลย”
“วันนี้มึงบอกรักกูกี่ครั้งแล้วเนี่ย?”
“จำไม่ได้...”
“กูก็จำไม่ได้เหมือนกัน”
จุ๊บบบ!!!
ต่างคน...ต่างบอกคำคำนั้นจนแทบไม่อยากจะจำ และต่างคนต่างก็ต้องการได้ยินคำคำนี้ไปจนกว่าจะมีสิ่งใดมาพรากจาก ต่อให้คนหนึ่งประสาทแดกหรืออีกคนจะต้องคอยปลอบไปตลอดชีวิต คิมไคก็พร้อมที่จะเข้าใจ
เซฮุนเป็นคนอ่อนไหว...เรื่องนี้คือสิ่งที่เขาทราบดี ไค...คนที่ภายนอกดูนิ่งเฉยและเหมือนจะเข้าหาได้ยาก...ก็เป็นผู้ชายที่เซฮุนรู้ดีว่าอ่อนโยนมากแค่ไหน ถึงจะดุไปบ้างหรือโมโหง่ายในบางครั้ง แต่ผู้ชายคนนี้ก็คือคนที่เขามั่นใจว่าจะฝากชีวิตเอาไว้
“อื้มมม...”
“กูขอตรงนี้เลยนะ”
“ตามใจสะ...สิ
อื้มม!!!”
จุมพิตที่ร้อนแรง...เริ่มโหมกำลังขึ้นเมื่อคำว่า “ตามใจ” สิ้นสุดลง
รอยจูบถูกมอบให้เหมือนโหยหา
บนโต๊ะทานข้าวในห้องครัวได้เปลี่ยนไปเป็นสนามรักที่ไม่อาจมีผู้ชนะเพราะต่างคนต่างยอมพ่ายแพ้ให้กับศึกในครั้งนี้
อาภรณ์ที่เคยอยู่ครบถ้วนถูกถอดออกจนร่างกายเปลือยเปล่า สะโพกกลมกลึงถูกฟอนเฟ้นจนเกิดริ้วเมื่อไม่มีสิ่งใดมากางกั้น และบางส่วน...ที่อยากเข้าไปเติมเต็มรสสัมผัสก็แข็งขืนจนปวดหนึบ
“ซี้ดด!”
“อ๊ะ!...”
ความปรารถนา...ที่เคยเริ่มต้นบนโต๊ะอาหารถูกเปลี่ยนไปเป็นบนเก้าอี้ ร่างสวยขาวเนียนถูกอุ้มให้นั่งทับลงมาบนตักกว้าง
ปากคมไล่สัมผัสไปตามผิวเนื้อตั้งแต่ใบหน้าเรียว ไหล่ลาด
ยอดอกก่อนขบกัดและดูดดึงจนผู้เป็นเจ้าของต้องส่งเสียงร้อง มันวาบหวามเกินทน มันวูบไหวเกินทัดทานและส่วนล่างที่คอยขยับเคลื่อนไปมาเหมือนอยากกลั่นแกล้งก็คล้ายว่าจะเป็นเชื้อไฟแห่งอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
“ค่อยๆกดลงมา”
“อึ่ก!!...”
“อย่างนั้น...ซี้ดดด”
“ไค...”
“ช้าๆ...”
รู้สึกอาย...จนต้องซบแนบความขวยเขินไว้บนไหล่กว้าง เพลงรักในท่วงท่าแบบนี้ยิ่งพาให้รู้สึกมากพิเศษและยิ่งรู้สึกมากเป็นพิเศษก็ยิ่งพาให้ใจสั่น ขามันไร้เรี่ยวแรง ร่างกายมันอ่อนระทวย...แล้วไฟภายในห้องครัวก็สว่างจนเห็นอะไรต่อมิอะไรได้อย่างชัดเจน
เซฮุนอยากมองเจ้าของกายสมส่วนให้เต็มตาสักครั้ง แต่มองได้แค่ไม่กี่นาทีก็ต้องหันหน้าหนีเพราะทั้งความคมเข้ม รอยยิ้มมากเสน่ห์ กล้ามท้องเป็นลอนและส่วนที่เชื่อมต่อกันอยู่ในตอนนี้ ทุกๆอย่างที่เป็นคิมไคมันพาลให้ต้องซบหน้าเอาไว้บนไหล่กว้างเช่นเดิม
เพี๊ยะ!!!
“โอ๊ย!...อ๊ะ!”
“ขยับหน่อย....”
“ทำไม่ไหวแล้ว”
บอกแล้วว่าขามันสั่นจนยากจะควบคุม...แล้วการที่ไคตบความกลมกลึงจนขึ้นริ้วก่อนเคลื่อนความปรารถนาไปตามที่ใจต้องการก็ทำให้เซฮุนต้องจับเก้าอี้เอาไว้ให้แน่น พายุอารมณ์พาให้สะเทือนไปถึงโต๊ะกินข้าว เพลงรักที่บรรเลงด้วยจังหวะที่หนักหน่วง แผ่นอกที่ถูกประทับรอย เอวคอดที่ถูกกระชับด้วยมือหนา...ทุกๆอย่างมันทำให้ร่างสวยต้องแอ่นกาย
เงยหน้าพร้อมส่งเสียงครางหวานอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้
“เกาะแน่นๆนะ!”
“อ๊ะ!! คะ..ไคจะทำอะไร?”
“ไปห้องนู้น อื้มมม...ซี้ดดด!!! เดี๋ยวมึงเจ็บหลัง”
“อ๊ะ!!...ช้าๆไค”
ไม่ตายวันนี้ก็คงสาหัส...เพราะการย้ายบทรักจากห้องครัวไปที่ห้องนั่งเล่นทั้งๆที่ส่วนเติมเต็มยังไม่ถูกถอดถอนมันพาให้คนทั้งคู่ต้องอดกลั้นต่อแรงปรารถนา
รอยจูบถูกมอบให้กันและกันอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังขาวเนียนได้เอนราบไปกับโซฟาสีขาว
ลิ้นอุ่นชื้นกวานต้อนความหวานอย่างไม่อาจหักห้ามใจ น้ำเชื่อมสีใสเปรอะเปื้อนอยู่ตามมุมปากเพราะรสสัมผัสที่ร้อนแรง กายหนาเคลื่อนขยับอย่างเชื่องช้าและเริ่มแน่นหนักเมื่อคนใต้ร่างตอบรับด้วยความเย้ายวน
“เซฮุนนน....ซี้ดดด!!”
“รักนะไค...อ๊ะ!”
“(ให้ตายเถอะ...)”
“อ๊ะ!”
สบถได้แค่ในใจและยอมตายคาอกเมีย...เพราะเพียงแค่พูดคำคำนี้ตอนอยู่ที่ห้างฯมันก็น่าฟังจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งมาพูดตอนที่เราเปลือยกายกันทั้งคู่มันก็ยิ่งน่าฟังมากขึ้นไปอีก โอเซฮุน!!!...มึงจะทำให้กูคลั่งไปถึงไหนวะ!! จุดหมายปลายทางเริ่มใกล้เข้ามาทุกที เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น ทุกๆสัดส่วนถูกโอบกระชับก่อนเร่งเร้าเพื่อให้ถึงความปรารถนา และอัตราการเต้นของหัวใจก็คล้ายว่าจะเร็วขึ้นเมื่อเพลงรักกำลังจะสิ้นสุด
“อะ...อ่าาาห์!!!”
“ไม่ต้องมายิ้มเลย...”
จุ๊บบ!!!
เกลียดการยิ้มมุมปากของคิมไคที่สุด...หล่อตายล่ะ!! เซฮุนรีบเบือนหน้าหนีรอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ทั้งๆที่ยังอยู่ในอ้อมกอด
ปากคม...สัมผัสที่ไหล่ลาดขาวเนียนเพียงแผ่วเบา
ส่วนเชื่อมต่อถูกขยับออกแม้จะอยากสานต่อบทรักจนฟ้าสาง กำลังที่โอบรัดเอวคอดเริ่มคลายลงก่อนจับคนที่หันหน้าหนีให้เข้ามาซบที่อกกว้าง
“เจ็บหรือเปล่า?”
“ก็นิดนึง...”
“อดทนหน่อย...ผัวมีของดีก็งี้!”
“มีผัวซาดิสต์ล่ะไม่ว่า”
“ซาดิสต์จริงๆมันต้องแบบนี้...อื้มม!!!”
“โอ๊ย! ไค...ไอ้บ้า!”
“ซี้ดด...”
“อ๊ะ!!!!!”
มันเป็นความสวยงามที่ไม่อาจห้ามใจ
เพราะทั้งแก้มนิ่มๆ ปากหวานๆ ก้นเด้งๆ
แล้วก็ความคับแน่นที่ตอบรับสัมผัสเป็นอย่างดีมันพาให้ต้องบรรเลงเพลงรักกันอีกรอบ และหวังว่าาาา....พรุ่งนี้เช้าจะเปิดร้านไหวนะ??!
100%
คำเตือน!!!...อย่าให้ความหวานมันบังตา?
Cr.
ภาพในตอนที่ 6 : IG>>kelleynan และIG>>laforfiower
Talk.
ปิดคอมมมมมพ์ฯ...เดินไปหยิบหม้อมาต้มน้ำร้อน!??
ตอนนี้กลัวถูกแบนจังเลยค่ะ ฮือออออ T T ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนและขอบคุณมากๆสำหรับคอมเม้นท์...อ่านแล้วชื่นใจค่ะ ♡
รัก☺
#ฝากเลี้ยงKH
ความคิดเห็น