ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) น้องปลา (Kaihun Ft.Chanbaek,Krislay)

    ลำดับตอนที่ #26 : ♡ พิเศษสอง ♡

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 682
      44
      18 เม.ย. 64




    พิเศษ  2.

     

     

    บริษัท  บ้านปลา

    06.26 น.

     

               

                หนึ่งในสิบข้อ...ของการเป็นภรรยาที่ดีคือการมีเสน่ห์ปลายจวัก และการมีเสน่ห์ปลายจวักก็ทำให้คนเป็นภรรยาต้องตื่นแต่เช้า  ดวงตาคู่สวยกระพริบถี่เพื่อปรับโฟกัสก่อนจำเป็นต้องคว้าท่อนแขนของสามีออกจากลำตัว  แล้วค่อยๆลุกออกจากที่นอนอย่างระมัดระวัง  ชีวิตหลังแต่งงานมันไม่มีอะไรง่ายเลยสักนิด  เพราะปกติเขาจะตื่นสาย  แถมบางวันยังถูกปลุกจากพี่ชายพร้อมการอาบน้ำให้อย่างเสร็จสรรพ  แต่พอแยกออกมามีครอบครัวเป็นของตัวเอง  ทุกอย่างในชีวิตก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามบทบาทหน้าที่  และถึงแม้หน้าที่ของภรรยาจะทำให้เหนื่อยแสนเหนื่อยหรืออาจยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง  แต่...เด็กวัยเพียง  16  ปีก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

     

    ปึ่กกก!!!

     

                “โอ้ยยยย!!

     

                กำลังเดินไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ...แต่สิ่งที่ทำให้ต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด  ก่อนก้มไปจับปลายเท้าก็คืออุปกรณ์ในการทำตู้ปลาของสามี  ผ้าม่านภายในห้องนอนที่ปิดสนิทและเปิดเพียงโคมไฟหัวเตียงเอาไว้  ทำให้คนตื่นก่อนไม่ทันเห็นไคควงขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนพื้น  มือบางรู้สึกได้ถึงของเหลวเหนียวหนืดที่นิ้วโป้งเท้า  และต้องเดินแบบกระต่ายขาเดียวเพื่อเข้าไปดูอาการบาดเจ็บในห้องน้ำ  ก้นนุ่มภายใต้กางเกงนอนลายปลาดาว  รีบนั่งลงไปบนขอบอ่างอาบน้ำอย่างรีบร้อน  เพราะเลือดที่ไหลออกมาจากนิ้วเท้า  มันพาลให้รู้สึกตกใจปนหวาดกลัว

     

                “ซี้ดดดดด!!!

     

                แสบกว่าการโดนพี่ชายขัดตัวด้วยใยอาบน้ำ  ก็คือเล็บเท้าที่ฉีกจนถึงเนื้อในและต้องค่อยๆล้างเลือดออกด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด  ถ้าเมื่อคืนไม่หลับไปก่อนสามี...เขาก็คงไม่มีทางให้อุปกรณ์ใดใดมาวางไว้ในห้องนอนเพราะมันอันตรายเกินไป  ค้อน  ไขควง  กรรไกรตัดกระจกหรือแม้กระทั่งเครื่องกรองน้ำ  มันก็ไม่ควรนำเข้ามาในบ้านด้วยซ้ำ  แต่ทำไมเช้านี้...ของที่ควรเก็บไว้ในโรงงานถึงมาวางอยู่ในห้องนอน!!????

     

     

                เป็นเรื่องที่เคยเตือน  เป็นสิ่งที่เคยบอก  และเป็นคำสัญญาที่เคยให้กันไว้  แต่เหมือนคำพูดของภรรยาคนนี้มันจะไร้ความหมาย  แล้วคำพูดของเด็กก็คงไม่มีผลทำให้ผู้ใหญ่เชื่อฟัง  มือบางหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาห่อเท้าของตัวเองเอาไว้  ก่อนเดินออกไปจากห้องนอนอย่างเงียบๆ  เพราะไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของสามี  อยากโวยวาย...แต่เวลานี้มันคงไม่เหมาะ  อยากหงุดหงิด...แต่กลัวว่าจะไม่น่ารัก  และอยากเป็นภรรยาที่ดี...แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะยากเหลือเกิน

     

    แกร๊กก!

     

                ปิดประตูห้องนอนอย่างเบามือ...และค่อยๆเดินลงมาชั้นล่างด้วยความระวัดระวัง  เพราะไม่อยากให้กระทบต่อบาดแผลที่นิ้วเท้า  จากที่คิดว่าจะตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน  กลับต้องมานั่งล้างแผลในห้องน้ำ  แถมอาการบาดเจ็บก็ยังส่งผลต่อการก้าวเดิน  ขาเรียวในกางเกงนอนสีชมพูเลี้ยวซ้ายเข้ามาในห้องครัวอย่างเชื่องช้า  และหน้าที่ของการเป็นภรรยาที่ดีก็ได้เริ่มต้นขึ้น  ซึ่งผู้ที่รับหน้าที่ในการสอนทำอาหารก็พร้อมแล้วเช่นกัน

     

                “อรุณสวัสดิ์ฮะบยอนนี่”

     

                “อรุณสวะ...อ้าวว!!!  น้องปลา...ไปโดนอะไรมาเนี่ย!!?”

     

                จำเป็นต้องละมืออกจากวัตถุดิบบนเคาน์เตอร์ห้องครัว  และรีบประคองผู้บาดเจ็บมานั่งบนเก้าอี้ด้วยความตกใจ  แบคฮยอน...ค่อยๆคลายผ้าขนหนูออกจากเท้าของน้องปลา  เพราะอยากทราบว่าบาดแผลมันสาหัสจนพาไปโรงพยาบาลหรือไม่  และคราบเลือดที่เปื้อนผ้าสีขาว  ก็พาลให้รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันที  เล็บที่ฉีกจนถึงเนื้อในคือสาเหตุที่ทำให้เลือดยังคงไหลไม่หยุด  ถึงแม้อาการจะไม่หนักถึงขั้นต้องเย็บ  แต่นิ้วเท้าน้อยๆของเด็กอายุสิบหก...ก็เริ่มบวมช้ำ

     

                “เดินไปเตะไขควงฮะ...”

     

                “ไขควงที่ไหน??!

     

                “คุณคิมเอาไขควงมาเก็บไว้ในห้องอีกแล้วฮะ...หนูมองไม่เห็นก็เลยเดินไปเตะ”

     

                “งั้นน้องปลารออยู่ตรงนี้แป้บนึงนะ...เดี๋ยวพี่มา”

     

                “ฮะ....”

     

                “แล้วก็ห้ามลุกไปไหนเด็ดขาด  ถ้าน้องปลาไม่เชื่อฟัง...พี่จะไม่สอนทำกับข้าว”

     

                “หนูจะไม่ดื้อฮะ”

     

                “เก่งมากกก!

     

                มีเหตุให้หัวร้อนแต่เช้า...เพราะน้องชายก่อเรื่องจนเด็กน้อยคนโปรดได้รับบาดเจ็บ  แล้วถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูพี่เขยสุดโหดของน้องปลา  ชีวิตของพวกเขาก็อาจถึงคราวที่ต้องบอกลาครอบครัว  รับปากในงานแต่ง...ว่าจะเป็นสามีที่ดี  ให้สัญญา...ว่าจะดูแลภรรยาด้วยใจ  และอีกสารพัดคำพูดที่บอกต่อหน้าสักขีพยานในงานสมรส  แต่นี่หรือ...สิ่งที่รับปากกับผู้ใหญ่เอาไว้  สองขาเรียวในชุดนอนลายคิตตี้รีบก้าวออกไปจากห้องครัวด้วยความโมโห  พร้อมคว้าของบางอย่างติดไม้ติดมือไปด้วย

     

     

                ใช่ว่าอยากยุ่งเรื่องของคนอื่น...แต่คนอื่นที่ว่ามันคือน้องชายของตัวเอง  พี่อย่างเขาจึงจำเป็นต้องสอนให้รู้สำนึก  บอกถึงสิ่งที่ไม่ควร  และต้องย้ำให้จำถึงคำว่าสามี  ปาร์ค  ชานยอล...อาจไม่ใช่คนรักอย่างที่ใฝ่ฝัน  แต่ก็ไม่เคยทำให้ภรรยาคนนี้ต้องบาดเจ็บหรือไม่ปรับปรุงตัวเพื่อคำว่าคู่ชีวิต  ถึงจะบ้าๆบอๆไปวันวัน  นอนเกลือกกลิ้งอยู่กับหมาหน้าโรงงาน  และอาจกวนประสาทจนรู้สึกอยากหาผัวใหม่ในบางครั้ง  แต่สามีของบยอน  แบคฮยอน...ก็ไม่เคยหลงลืมต่อบทบาทหน้าที่

     

     

                เจ็บก็รู้  ป่วยก็รักษา...และคอยดูแลกันอย่างสม่ำเสมอ  แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น  ทำไมน้องชายของเขาถึงปล่อยให้น้องปลาบาดเจ็บ  แถมยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวนอนขี้เซาอยู่อย่างนั้น  แรงของโทสะที่เต็มไปด้วยความโกรธ  ความโมโห  รวมถึงความหงุดหงิด  ทำให้สองขาของคนเป็นพี่ต้องระบายอารมณ์ไปกับบันไดบ้าน  เดินกระแทกเท้าตึงๆก่อนเลี้ยวไปตามทางเพื่อเข้าไปปลุกน้องชายในห้องนอน  แล้วเปิดประตูเข้ามาด้านในทันที

     

    คนหนึ่ง...พยายามปรับปรุงตัวเองแทบตาย  แต่อีกคน...กลับใช้ชีวิตเหมือนตอนโสดทั้งๆที่แต่งงานแล้ว

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    แกร็กกกก!!!

     

                ถึงจะเป็นพี่ที่ขี้บ่น  ขี้โวยวาย  และไม่ได้มีแม่คนเดียวกัน  แต่ก็ไม่เคยทำตัวไร้มารยาทแบบที่กำลังทำอยู่ตอนนี้  แบคฮยอนเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของผู้เป็นน้องโดยไม่ขออนุญาต  แล้วเดินมาที่เตียงกว้างด้วยความรวดเร็ว  ก่อนนำสิ่งที่ถือติดมือมาจากห้องครัว  เทใส่ใบหน้าคนที่ยังนอนหลับอยู่อย่างสบายใจ  ส้ม  5  ลูก  แอปเปิ้ลอีกสาม  และกล้วยหอมครึ่งหวี...คือสิ่งที่แบคฮยอนใช้ปลุกน้องชายผิวเข้มให้ตื่นจากนิทรา  จะกำลังฝันดีหรือฝันร้ายก็ไม่สน  เพราะคนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่ต้องลงไม้ลงมือ  แต่......

     

                (มึงจะไม่ตื่นใช่ไหมมม...ได้!!!!)

     

    ถ้าโดนผลไม้เกือบหนึ่งกิโลเทใส่หน้าแล้วยังไม่ตื่น...มันก็ต้องเปลี่ยนวิธีปลุกที่รุนแรงกว่านี้

     

    เพี๊ยะ ๆ ๆ...!!!

     

                “โอ๊ยยย!!  ใครวะ??!

     

                “มึงจะตื่นได้ยัง!!

     

                “ตบทำไมวะเจ๊...มันเจ็บนะโว้ย!!!

     

                “เจ็บเหรอ...แค่นี้เจ็บเหรออออ!!!!!!

     

                “โอ้ย ๆ ๆ ๆ!!  เจ๊...เบาๆ ๆ  พอแล้วววว!!!

     

                รู้สึกเหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ใบหน้า  แถมยังถูกกระชากคอเสื้อก่อนลากลงมาที่นอน  เป็นการถูกปลุกที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต  และการตื่นมาในเช้านี้ก็ยังไร้เงาของภรรยา  น้องปลาหายไปไหน  ทำไมพี่ชายต่างแม่ถึงเข้ามาอยู่ในห้อง  แล้วบนเตียงก็ยังมีส้มกับกล้วยรวมถึงแอปเปิ้ลเขียวกองเกลื่อนอยู่เต็มไปหมด  ยิ่งกว่าความสงสัย...ก็คงเป็นความร้าวระบม  เพราะการถูกแบคฮยอนตบหน้าผากสามครั้ง  และทุบตีตามลำตัวอีกหลายครั้ง  มันก็ทำให้แสบผิวเนื้อจนต้องเอ่ยห้าม

     

                “มึงเลือกเลย..ว่าจะโดนกูตบหรือว่าตีนไอ้คริส!!

     

                “ไม่เอาตีนใครทั้งนั้นแหละ  แล้วเจ๊มาตบผมทำไมเนี่ย?!!

     

                “เมื่อคืนมึงเอาอะไรมาไว้ในห้อง?”

     

                ลงไม้ลงมือกับน้องจนพอใจ...ก็มายืนหอบเอาอากาศเข้าปอดด้วยความเหนื่อย  และด้วยความโมโหกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ก็ทำให้พี่ที่ตัวเล็กกว่า...สามารถลากน้องตัวโตลงมาจากเตียงได้อย่างง่ายดาย  มือเท้าเข่าศอกถูกประเคนใส่จงอินให้สาสมกับที่น้องปลาได้รับ  เพราะการละเลยหน้าที่ของสามี  มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร  ตื่นก็สาย  เมียก็ไม่สนใจ  แถมยังเอาอุปกรณ์ในการทำตู้ปลามาเก็บไว้ในห้องนอน  โรงงานก็มี  ห้องเก็บของก็สร้าง...แต่เสือกเอาไขควงมานอนด้วย  แล้วแบบนี้จะไม่ให้โมโหได้อย่างไร

     

                “หยุดตบก่อนเจ๊...ผมงงไปหมดแล้วเนี่ย!!

     

                “มึงได้งงกว่านี้แน่...เพราะกูจะตบมึงให้สมองฝ่อไปเลย!

     

                “เจ๊ใจเย็นๆก่อน  แล้วบอกผมหน่อยดิว่ามันเกิดอะไรขึ้น???”

     

                ตะกายชีวิต...พร้อมลมหายใจรวยรินขึ้นไปนั่งบนที่นอน  แล้วค่อยๆหยิบผลไม้เรียงใส่ตะกร้าไว้เช่นเดิม  จงอินยังไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุใดเขาถึงต้องถูกทำร้ายร่างกายถึงเพียงนี้  แถมสีหน้าท่าทางของพี่ชายต่างแม่ก็ดูจริงจังมากกว่าวันไหนไหน  มือหนาวางตะกร้าผลไม้ไว้บนโต๊ะหัวเตียง  ก่อนดึงร่างเจ้าของแรงตบเข้ามากอดเอาไว้  คนเป็นน้องทราบดีว่าถ้าพี่ชายปากร้ายคนนี้ลงไม้ลงมือกับเขาเมื่อไหร่  นั่นคือมีเหตุให้ต้องปรับปรุงตัวหรือมีความผิดที่ต้องรีบแก้ไข

     

                “จงอิน...มึงรักน้องปลาจริงๆใช่ไหม?”

     

                “จริงดิเจ๊!  รักมาก  โคตรรักเลย”

     

                “รักแล้วทำไมไม่ดูแลน้องให้ดีๆวะ...มึงเอาไขควงมาวางเรี่ยราดไว้ในห้อง  น้องมันเดินมาเตะจนเล็บฉีกเลือดอาบ  มึงรู้บ้างไหม?”

     

                “จริงเหรอเจ๊!  แล้วตอนนี้น้องปลาอยู่ที่ไหน??”

     

                “น้องมันแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพราะอยากทำกับข้าวมึงกิน  แล้วดูมึงทำดิ...มึงจะไม่ให้กูโกรธได้ไง”

     

                “ผมขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้น้องปลาเจ็บตัว  แต่มันยังไม่ชินนี่หว่า”

                                                                                                                                              

                “น้องปลาปรับตัวเพื่อมึงตั้งหลายเรื่อง  มึงล่ะ...ไม่คิดจะปรับตัวบ้างเหรอ  เฮ้ออ!!  ชีวิตคู่ของกูก็ไม่ได้ดีจนเป็นแบบอย่าง  แต่ชานยอลมันไม่เคยทำให้กูเจ็บตัวเลยนะเว้ย  แล้วถ้าวันนึง...ชานยอลมันทำกูเจ็บบ้าง  มึงจะรู้สึกยังไง  อี้ชิงมันเลี้ยงน้องปลามาอย่างดี  ส่วนไอ้คริสไม่ต้องพูดถึง  แล้วถ้าพวกเขารู้ว่าน้องปลาเป็นแบบนี้...มึงคงไม่ต้องให้กูพูดต่อนะ”

     

                  U_U 

     

                “วันแต่งงานมึงเป็นคนบอกกูเอง...ว่าถ้ามึงทำอะไรผิดพลาดก็ให้กูบอกได้เลย  แต่ครั้งนี้กูขอเตือนมึงเป็นครั้งสุดท้ายนะ  เพราะการใช้ชีวิตคู่มึงต้องหัดเรียนรู้ด้วยตัวเอง  อะไรปรับได้ก็ปรับ  เปลี่ยนไปก็เปลี่ยน  รักน้องเป็นห่วงน้องก็ต้องดูแลกันให้ดี  มึงเข้าใจที่กูพูดใช่ไหม??”

     

                “ขอบคุณนะเจ๊...แต่ผมก็ยังอยากให้เจ๊เตือนอยู่ดี  บางครั้งผมก็ทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว  แต่ผมรักน้องปลาจริงๆนะเจ๊  รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน”

     

                “ถ้ารัก...มึงก็ไม่ควรทำตัวแบบนี้  ห้องนอนก็เอาไว้นอน  เอาไว้สร้างความอบอุ่น  เอานอนกอดเมีย  ไม่ใช่มีไว้เก็บของ  มึงแต่งงานแล้วนะจงอิน...อย่าเอาความเคยตัวตอนโสดมาใช้เลย  กูขอเหอะ!

     

                “รักเจ๊ว่ะ...มาหอมทีดิ!!

     

                “ทำเป็นเล่น...เดี๋ยวกูตบปากฉีก!

     

                เป็นอีกครั้ง...ที่อ้อมกอดถูกโอบไว้ด้วยความห่วงใย  ด้วยความรัก  และด้วยความเข้าใจที่มีให้แก่กัน  แบคฮยอนทราบดีว่าน้องชายไม่ใช่คนเลวหรือทำสิ่งใดโดยไม่ถึงจิตใจของผู้อื่น  แต่การอยู่คนเดียวมานาน  อาจทำให้เกิดความผิดพลาดเมื่อต้องใช้ชีวิตคู่  และหวังว่าสิ่งที่เขาพูดมาจนยืดยาว  จะช่วยให้เรื่องราวต่างๆมันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี  ส่วนคนเป็นน้อง...ก็สำนึกผิดแทบไม่ทัน  เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองเอามาวางไว้ในห้อง  จะส่งผลร้ายกับน้องปลาหรือการใช้ชีวิตคู่ได้มากมายถึงเพียงนี้

     

    ขอโทษ...ที่ทำให้ภรรยาบาดเจ็บ  ของโทษ..ที่ทำให้พี่ชายเสียใจ  และขอโทษ...ที่ผู้ชายคนนี้ยังเป็นสามีที่สมบูรณ์แบบไม่ได้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    08.24 น.

     

    แกร๊กกก!!!

     

                “คุณคิม!!  ไม่เอา..หนูไม่ทำ!!

     

                อุ้มภรรยาตัวน้อย...มาอาบน้ำทาแป้งแต่งตัวจนหอมฟุ้ง  แต่พอนำอุปกรณ์ในการทำแผลมาวางตรงหน้า  เจ้าตัวกลับดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว  ส่วนคนเป็นสามีก็รู้สึกสงสารจับใจ  เพราะเล็บที่ฉีกต้องถูกตัดออกก่อนที่มันจะฉีกมากไปกว่านี้  และการตัดเล็บตอนที่บาดแผลยังคงสดใหม่ก็คงเจ็บไม่ใช่น้อย  แต่ถ้าไม่ทำแผลหรือปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป  มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน

     

                “น้องปลาครับ...ออกมาจากผ้าห่มเถอะครับ  พี่สัญญาว่าจะทำแผลเบาๆ”

     

                กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้...ก็กินเวลาอยู่เป็นชั่วโมง  แต่ต่อให้ต้องปรับความเข้าใจกันอีกสองชั่วโมงหรือจะตลอดชีวิต  คิม  จงอินก็ยอม  ถูกพี่ชายต่างแม่เตือนสติด้วยคำพูด  ด้วยแรงตบ  ด้วยการทำร้ายร่างกาย  มันทำให้น้องชายคนนี้ต้องเริ่มปรับปรุงตัวเองใหม่อีกหลายอย่าง  ใช่ว่ายังไม่ชินกับการใช้ชีวิตคู่  แต่มันยังไม่ชินกับอาชีพที่ต้องทำมากกว่า  เพราะการประกอบตู้ปลามันต้องเชื่อม  ต้องตัด  แล้วการที่ต้องใช้เครื่องมือต่างๆในการทำงาน  มันก็ย่อมมีบ้างที่อุปกรณ์เหล่านั้นจะติดไม้ติดมือกลับเข้ามาในบ้านโดยไม่ตั้งใจ

     

    ยิ่งใส่ชุดหมีด้วยแล้ว...น็อต  ตะปู  สกรู***  ประแจ***  มันก็มักจะอยู่ตามกระเป๋าเสื้อหรือไม่ก็กระเป๋ากางเกง

     

                “ถ้าคุณคิมตัดเล็บหนู  เดี๋ยวเลือดมันก็ไหลอีก  ไม่เอาอะ...หนูไม่ตัด!!!

     

                ดื้อกว่านี้อีกร้อยเท่า...สามีก็ทนได้  แต่ถ้าให้เลิกรัก  ก็ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า  แล้วเจ้าของเสียงอู้อี้ที่โวยวายอยู่ในผ้าห่มผืนโต  ก็ถูกโอบไว้ด้วยความเป็นห่วง  จงอินทราบดีว่าการเกิดมาเป็นเด็กแบบน้องปลามันสุขสบายมากแค่ไหน  ได้นอนตื่นสาย  มีพี่ๆทำอาหารให้ทานทุกมื้อ  มีคุณครูมาสอนพิเศษให้ที่บ้าน และมีบ่อน้ำส่วนตัวให้เล่นได้ตลอดเวลา  แต่พอแต่งงาน...ทุกอย่างที่เคยสุขสบาย  อาจเป็นเรื่องที่ไกลตัวออกไปโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง  แถมเด็กที่มีอายุเพียง 16  ปี...ก็ยังปรับปรุงชีวิตให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลง  แล้วสิ่งที่น้องปลายอมทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อสามีไม่เอาไหนอย่างเขา

     

     

                คำว่าขอโทษมันคงน้อยไป...และการจะทำให้ภรรยาตัวน้อยมีความสุขได้เหมือนก่อนหรือมากกว่านั้น  มันก็คือคำสัญญาที่คอยเตือนตัวเองอยู่ในใจ  สามีคนนี้จะไม่เอาอุปกรณ์ในการทำบ้านปลามาเก็บไว้ในห้องนอนอีกแล้ว  จะเริ่มปรับปรุงนิสัยให้ดีขึ้น  และจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตคู่มันสมบูรณ์ที่สุด  แต่ตอนนี้...สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก  ก็คือการนำน้องปลาออกมาจากผ้าห่ม

     

                “ถ้าไม่ตัดเล็บแผลก็จะไม่หายนะครับ  แล้วถ้าพี่โทรเรียกคุณหมอซูโฮมาทำแผล  มันอาจเจ็บกว่านี้ก็ได้นะครับ  น้องปลาจะให้พี่ทำแผล...หรือจะให้พี่โทรตามคุณหมอ??”

     

                “ให้คุณคิมทำแผลฮะ  >.<) ”

     

    จุ้บบ!!

     

                ใบหน้าจิ้มลิ้ม...ที่โผล่ออกมาจากผ้าห่มผืนโตพร้อมกับคำตอบ  ทำให้รอยยิ้มของผู้เป็นสามีกว้างขึ้นก่อนประทับความห่วงใยไว้บนริมฝีปากสีหวาน  อ้อมกอดน้อยๆ...โอบรอบคอจงอินเอาไว้ไม่ยอมปล่อย  เพราะน้องปลาไม่ชอบการไปหาหมอ  ไม่ชอบทำแผล  หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับโรงพยาบาล  มันเป็นสถานที่ที่มีแต่กลิ่นของยา  เป็นบรรยากาศที่ไม่น่ามอง  และมีแต่คนป่วยที่ดูน่าสงสาร  น้องปลาชอบพี่หมอซูโฮคนเดียวเท่านั้น  แต่ไม่ชอบห้องตรวจ  ไม่ชอบเข็มฉีดยา  และไม่ชอบคุณพยาบาลเวลาที่เขยสุดหล่อพาไปตรวจร่างกายประจำปี

     

    พี่คริสจ๋าเป็นของหนู...ห้ามใครมายุ่งเด็ดขาด!!!!

     

                “พี่จะตัดเล็บแล้วนะครับน้องปลา”

     

                “งือออ....”

     

    แกร๊บบบ!!

     

    แกร็บบบ!!

     

                ลำตัว...ยังคงอยู่ในผ้าห่มเช่นเดิมยกเว้นปลายเท้า  และเพราะความหวาดกลัว  ใบหน้าจิ้มลิ้มจึงต้องพักพิงไว้บนตุ๊กตาฉลามยักษ์  เสียงเล็บที่ถูกตัดทำให้น้องปลาไม่กล้ามองบาดแผลของตัวเอง  แถมมือทั้งสองข้างก็ยังกำแน่นจนหางฉลามบิดเบี้ยว  จงอิน...จูบเท้าน้อยๆก่อนจะพยายามทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง  แต่กิริยาท่าทางของก้อนกลมๆที่นั่งอยู่บนเตียง  มันทำให้คุณหมอจำเป็นอย่างเขาพลอยรู้สึกเกร็งไปด้วย  มือหนาบรรจงตัดเล็บที่ฉีกด้วยความใส่ใจ  และบาดแผลที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็เหมือนเป็นการตอกย้ำความผิดได้ดี

     

                “พี่จะใส่ยาแล้วนะครับ  น้องปลาอดทนอีกหน่อยนะเพราะมันจะแสบนิดนึง”

     

                “คุณคิมกอดหนูหน่อยยย!!!

     

                สิ้นเสียงเอ่ยขอที่สั่นเครือ...คนเป็นสามีจึงรีบละมือออกจากยาใส่แผล  และเข้าไปโอบภรรยาตัวน้อยเอาไว้แนบอก  ผ้าห่ม  ตุ๊กตา  หรือแม้กระทั่งความหวาดกลัว  ก็ถูกกำจัดออกไปด้วยอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น  หน้าผากเนียน...ถูกฝังกำลังใจด้วยความอ่อนโยน  พร้อมการโยกตัวไปมาเพื่อปลอบขวัญ  แผลค่อนข้างกว้างเมื่อเล็บถูกตัด  และเนื้อนิ่มสีแดงภายใต้สิ่งที่ตัดออกไปก็ดูบอบบางมากเป็นพิเศษ

     

                “คุณคิมขอโทษ  คุณคิมไม่ได้ตั้งใจ...น้องปลาเจ็บมากเลยใช่ไหมครับ”

     

                “ถ้าคุณคิมเอาของแบบนั้นเข้ามาในห้องอีก  หนูจะไม่ให้กอด...แล้วก็ไม่ให้จูบด้วยนะฮะ!

     

    จุ้บบบ!!!

     

                เป็นคนเอ่ยคำคาดโทษ...แต่กลับกอดคุณคิมไว้แน่น  ก่อนประทับรอยไว้บนสันกรามคมอย่างออดอ้อน  ใช่ว่าโกรธ  ใช่ว่าแค้นเคือง  และอยากถูกกอดถูกหอมในทุกค่ำคืน  แต่มันน้อยใจ...เพราะสิ่งที่ภรรยาคนนี้เคยขอเอาไว้มันเหมือนจะไร้ค่าเกินกว่าสามีจะยอมเชื่อฟัง  พวกน็อตกับตะปูที่อยู่ในกระเป๋าชุดหมียังพอมองข้ามกันได้  และขนาดของมันก็เล็กจนไม่อาจสร้างปัญหา  แต่ไขควงอันใหญ่หรือกรรไกรตัดกระจก  มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรนำมาเก็บไว้ในห้องนอน

     

                “พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว...พี่รักน้องปลานะครับ  รักที่หนึ่ง...เยอะๆกว่าใคร”

     

                ขอยืม...คำออดอ้อนของภรรยามาพูดเพื่อยุติความหมางใจ  และการกระทำที่ดูขัดแย้งกับคำคาดโทษ  ก็พาให้คุณคิมต้องรีบปรับปรุงตัวก่อนที่ชีวิตคู่จะพังทลาย  น่ารักกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว  แสนดีกว่านี้ก็ไม่มีอีกเช่นกัน  เพราะขนาดบาดเจ็บจากสิ่งที่สามีเป็นต้นเหตุ  น้องปลาก็ยังไม่โกรธกันเลยสักนิด  แถมยังได้รับอ้อมกอด  ได้รับรอยจูบ  และได้รับความรักที่แท้จริงเหมือนเช่นที่ผ่านมา

     

                “หนูก็รักคุณคิมนะฮะ  รักมากที่สุด...รักเยอะกว่าคุณมืดตื๋อด้วยฮะ”

     

                ถ้าภรรยา...รักสามีคนนี้น้อยกว่าเจ้าหางสวยสีดำในโหลแก้ว  เขาก็ขอลาตายดีกว่าอยู่ให้อายฟ้าดิน  แต่มันคงไม่มีวันนั้นแน่นอน  เพราะความรักที่มีให้แก่กันยังคงแนบแน่นด้วยอ้อมกอดแห่งความเข้าใจ  ทำผิดก็ยอมรับผิด  ทำพลาดก็พร้อมแก้ไข  แต่ถ้ายังพลั้งเผลอหรือหลงลืมบางอย่างไปตามความเคยชิน  คิม  จงอินก็คงหมดความไว้เนื้อเชื่อใจจากทุกคนในครอบครัว  รวมถึงผู้ใหญ่ในตระกูลโอและอาจจบชีวิตด้วยน้ำมือของพี่น้องตระกูลอู๋

     

                “รีบทำแผลกันดีกว่า...น้องปลาจะได้ลงไปกินข้าวกินยา”

     

                “มันจะเจ็บมากไหมฮะ...หนูกลัว”

     

                “เจ็บนิดเดียวครับ  น้องปลาอดทนหน่อยนะ  พี่จะรีบทำให้เร็วที่สุด”

     

                “ถ้าคุณคิมทำเจ็บ...หนูจะฟ้องพี่คริสจ๋า”

     

                หน้าซีด...ยิ่งกว่าสำลีที่หยิบออกมาจากกล่อง  เพราะคำขู่โดยการอ้างชื่อพี่เขย  มันก็เหมือนเป็นตัวตัดสินความเป็นความตายของสามี  มือหนาพยายามเบาแรงเมื่อต้องซับยาฆ่าเชื้อลงไปบนนิ้วเท้าของภรรยาตัวน้อย  และตามมาด้วยยาสีเหลืองพร้อมพันผ้าก๊อตก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำแผล  แต่ดวงตาคู่สวยที่คลอไปด้วยความอดกลั้นต่อสิ่งที่ถูกกระทำ  ก็พาให้จงอินต้องรีบเข้ามาปลอบขวัญก่อนน้ำสีใสจะไหลอาบแก้มเนียน

     

                “เจ็บไหมครับน้องปลา?”

     

                “เจ็บนิดเดียว...แต่ตอนทายามันแสบมากเลยฮะ”

     

                “ทนแสบอีกสักวันสองวันนะครับ  เดี๋ยวแผลก็หายแล้ว”

     

                “คุณคิมต้องทำแผลให้หนูทุกวันนะฮะ  หนูไม่อยากไปโรงบาล”

     

                “พี่จะดูแลน้องปลาเองครับ”

     

                “คุณคิมหอมหนูหน่อยฮะ  แผลจะได้หายเร็วๆ”

     

    ฟอดดด!!!

     

                อยากทำมากกว่านั้นด้วยซ้ำ...แต่ตอนนี้นิ้วเท้าที่เคยเป็นสีชมพูแบบเด็กสุขภาพดี  กลับเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงแถมยังบวมช้ำ  จงอินจึงต้องพยายามข่มใจในเรื่องอย่างว่า  และหอมแก้มนุ่มของภรรยาขี้อ้อนเพื่อบรรเทาความเจ็บ  ส่วนอาหารเช้าที่เจ้าตัวเริ่มหัดเรียนรู้  ก็ต้องรอแผลหายดีเสียก่อน  เพราะการยืนอยู่ในครัวนานๆอาจส่งผลกระทบต่อบาดแผล  ขอบคุณ...ที่ยอมตื่นเช้าทั้งๆที่ไม่เคย  ขอบคุณ...ที่อยากทำอาหารให้ทานทั้งๆที่กลัวความร้อนจากเตาไฟ  ขอบคุณ...ที่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขนาดนี้เพื่อคำว่าคู่ชีวิต

     

    และคิม  จงอิน...ก็ขอสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวเองเพื่อครอบครัวของเราเช่นกัน

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    17.13 น.

     

    เพี๊ยะ!!!

     

                “ถ้าไม่รู้ก็อย่าสาระแน...จะไปไหนก็ไปเลยไป  เกะกะ!!

     

                “ก็คนมันอยากช่วยนี่หว่า!

     

                “ทำแบบนี้คงได้แดกหรอกมั้ง  ไป ๆ ๆ...รำคาญลูกตา”

     

                เป็นการทำมื้อเย็นที่วุ่นวายที่สุดในชีวิต  เพราะน้องชายอยากเข้ามาช่วยทำอาหารทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่  แถมยังพาเมียมานั่งรออยู่บนเคาน์เตอร์ห้องครัว  คนเป็นพี่...ฟาดความแรงลงบนมือหนาด้วยความหงุดหงิด  เพราะเนื้อหมูที่ควรถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ  กลับถูกสับจนต้องเปลี่ยนเมนูจากหมูทอดมาเป็นหมูต้ม  แบคฮยอนยืนเท้าเอวส่งสายตากดดันให้น้องชายออกไปจากห้องครัวก่อนที่จะถูกด่าอีกรอบ  และเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาวัตถุดิบเพิ่มเติม

     

                “บยอนนี่จะทำอะไรบ้างเหรอฮะ?”

     

                “ซุปผักรวมหมูสับ  กุ้งผัดซอสส้ม  แล้วก็ไก่ทอดกับปลาหมึกคั่วเกลือ”

     

                “หูยยย...น่ากินทั้งนั้นเลยฮะ   หนูอยากทำบ้าง!!!

     

                “รอให้น้องปลาเดินได้ก่อนแล้วค่อยทำนะครับ”

     

                “ก็หนูอยากทำหนิฮะ!

     

                “งั้นก็ช่วยหั่นผักแล้วกัน  ถ้าหายดีเมื่อไหร่...บยอนนี่จะสอนให้ทุกอย่างเลย  ตกลงไหม!

     

                “ฮะ!!  ^-^) ”

     

                (จงอิน!!!...ยืนบื้ออยู่ทำไม?  ไปหยิบผักหยิบมีดมาให้น้องปลาสิวะ  เรื่องแค่นี้ก็ต้องให้บอก!!!)

     

                คน...ที่เพิ่งถูกไล่ออกไปจากห้องครัว  อยากหยิบมีดมาปาดคอตัวเองให้ตายไปตรงนี้  เพราะการถูกปลุกด้วยแรงมือแรงตีน  การถูกผลไม้กองโตเทใส่ใบหน้า  และการถูกด่าเมื่อครู่  มันพาลให้น้อยใจมากกว่าความโกรธเคือง  เป็นพี่น้องกันแท้ๆ...แต่กลับรักสะใภ้จนออกนอกหน้า  ใช่สิ...น้องคนนี้มันไม่ขาว  หน้าตาไม่จิ้มลิ้ม   แถมยังเป็นสาเหตุให้คนโปรดของพี่ชายต้องเจ็บตัว

     

                “หั่นผักเสร็จแล้วก็ช่วยกันแกะกุ้งให้บยอนนี่ด้วยนะ”

     

                “ผมเกะกะแล้วเหรอเจ๊?”

     

                “มึงเลิกเถียงกับกูแล้วช่วยน้องปลาหั่นผักดีกว่ามั้ง...จะแดกกันไหมข้าวเย็น??!!

     

                “ดุจริงๆ!!!!

     

                และแล้ว...การหั่นผักก็กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ให้คนถูกด่าได้เป็นอย่างดี  แต่กุ้งคงต้องบรรจงแกะให้เรียบร้อย  ตัวเป็นตัว  หัวเป็นหัว  ส่วนหางก็ทิ้งไป  เพราะมันเป็นสิ่งที่ภรรยาชอบทานมากที่สุด  วัตถุดิบต่างๆ...ถูกหั่นถูกปอก  และถูกจัดเตรียมไว้ให้แม่ครัวประจำบ้านด้วยมือของน้องชายจอมกวนกับสะใภ้คนโปรด  ซุปผักปรุงเสร็จเป็นอย่างแรก  แล้วตามมาด้วยเมนูที่น้องปลารอคอย  เพราะเมื่อกุ้งตัวโตที่ถูกซอสสูตรพิเศษคลุกเคล้าจนส่งกลิ่นหอมฟุ้ง  เด็กน้อยก็รีบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยากทาน

     

                “น้องปลาออกไปรอข้างนอกก่อนครับ  บยอนนี่จะทอดไก่...เดี๋ยวน้ำมันกระเด็น”

     

                “เจ๊ก็ทอดไปดิ  ผมจะปกป้องน้องปลาเอง”

     

                “จ้าาาา...พ่อไอรอนแมน  พ่อซุปเปอร์ฮีโร่  ไอ้ผัวตอแหล!!!

     

                ยอมถูกด่า...ดีกว่าถูกโกรธ  และเมื่อไก่สดที่หมักเครื่องเทศมาอย่างดีถูกเทลงกระทะ  จงอินก็ใช้ร่างกายของตัวเองบดบังภรรยาเอาไว้  เพราะถ้าน้ำมันเดือดๆมันกระเด็นมาโดนผิวเนื้ออันบอบบาง  น้องปลาคงปวดแสบปวดร้อนจนต้องพาไปพบแพทย์  และเขา...ก็คงถูกกระทืบจนกระอักเลือดตายคาโรงพยาบาล

     

                “ว้าววว...น่ากินมากเลยฮะคุณคิม  ^0^) ”

     

                เกยคาง...ไว้บนไหลกว้างพร้อมกอดเอวหนาเอาไว้  และการนั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ห้องครัว  ก็ทำให้คนที่อยากเป็นภรรยาที่ดีรู้วิธีในการทำอาหารมากขึ้น  ต้องหั่นผักเช่นไร  หมักไก่ควรใช้ซอสใดบ้าง  และเวลาแกะกุ้งก็ควรจะระวังส่วนหัวให้มากที่สุด  เพราะบนหัวมันมีปลายแหลมๆที่อาจทิ่มมือจนได้รับบาดเจ็บ  แล้วปลาหมึก...ที่กำลังจะถูกปรุงในเมนูถัดไป  ก็ควรใช้มีดขูดเมือกเหนียวๆออกให้หมดก่อนนำมาทำเป็นอาหาร

     

                “มึงไปหยิบจานมาให้กูหน่อยดิ...กูลืม”

     

                “เจ๊ก็ไปหยิบเองดิ  เดี๋ยวน้ำมันกระเด็นใส่น้องปลา!!

     

                “งั้นก็ไม่ต้องแดก...ปล่อยให้ไก่แม่งไหม้ไปเลย!  ไม่ใช่ของโปรดกูสักหน่อย”

     

                (#@!$%&*฿+>:”?)

     

                ต้องให้น้องปลาขึ้นขี่หลัง...ก่อนเดินไปหยิบจานในตู้ด้านซ้ายออกมาให้แม่ครัวประจำบ้านด้วยความเพลียใจ  คำก็บ่น  สองคำก็ด่า...จงอินจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำหยาบ  แต่คำหยาบที่ว่าก็ทำได้เพียงพูดอยู่ในใจ  เพราะขืนพูดให้ได้ยินก็อาจไม่ได้ทานมื้อเย็น  หรือไม่ก็ถูกตะหลิ่วเคาะหัว  เรื่องลงไม้ลงมือ..ขอให้บอก  บยอน  แบคฮยอน  และถ้าวันไหนไม่ถูกด่าถูกบ่นเลยสักประโยค  น้องชายคนนี้ก็คงทานข้างไม่อร่อย ลิ้นกร่อยไม่อยากอาหาร

     

    แต่การไม่ถูกด่า...มันก็น่าจะดีกว่า  ว่าไหม???

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    20.48 น.

     

    แกร๊กกก!!

     

     

                “ท้องหนูจะแตกแล้วฮะคุณคิม!!!

     

                เสียงเปิดประตู...ที่มาพร้อมกับเสียงบ่น  ทำให้จงอินอยากบีบพุงกะทิของเด็กจอมตะกละให้หายหมั่นเขี้ยว  ตัวแค่นี้แต่กินข้าวตั้งสองจาน  แถมยังตบท้ายของหวานด้วยไอศกรีมถ้วยโตและแอปเปิ้ลอีกหนึ่งลูก  น้องปลาถูกวางลงบนเตียงอย่างเบามือเพราะอาการบาดเจ็บที่นิ้วเท้า  ทำให้สามีต้องแบกภรรยาเอาไว้บนหลัง  จะไปทานข้าว  จะไปเล่นที่โรงงาน  หรือจะเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ  จงอินก็ต้องคอยอุ้มเพื่อไม่ให้แผลมันอักเสบไปมากกว่าเดิม  และต้องระวังไม่ให้น้องปลาเล่นซนจนได้แผลใหม่

     

                “อาบน้ำด้วยกันไหมครับน้องปลา”

     

                “อาบฮะ...หนูอยากอาบน้ำกับคุณคิม  แต่แผลห้ามโดนน้ำนะฮะ  เดี๋ยวเลือดออก!

     

                “พี่จะไม่ให้โดนน้ำแน่นอนครับ”

     

                ยิ้มหวานจนเห็นเขี้ยวสวย...และชูมือสองข้างขึ้นเหนือศีรษะเพื่อให้สามีถอดเสื้อ  กางเกงขาสั้นสีชมพูถูกปลดออกจากเอวบางพร้อมชั้นในตัวจิ๋ว  ร่างน้อยๆถูกอุ้มเข้ามานั่งในอ่างอาบน้ำโดยที่ขาทั้งสองข้างถูกยกพาดไว้บนขอบอ่าง  จงอินเปิดน้ำจนเกือบเต็มก่อนผสมครีมกลิ่นหอม  แล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น  ทีละชิ้น  คนเป็นภรรยาถึงกับต้องทิ้งสายตาไว้บนฟองสีขาวเนื้อนุ่ม  เพราะต่อให้เห็นกันอยู่ทุกวัน  แต่ร่างกายที่สมความเป็นชายแบบนี้  มันทำให้เขินได้ทุกครั้งที่มอง  อยากมีกล้ามเหมือนสามี  อยากตัวโตเหมือนพี่เขยสุดหล่อ

     

    แต่...มันคงไม่น่ารักหรอกเนอะ  ^^’

     

                คุณคิมอาบน้ำเร็วๆเลยนะฮะ...หนูหนาว”

     

                “ไม่สบายเหรอครับน้องปลา  แล้วปวดหัวหรือเปล่า??!

     

                สิ่งที่กังวลใจในช่วงบ่าย...อาจกลายเป็นจริง  เพราะการที่น้องปลาเข้าไปนั่งเล่นอยู่ในโรงงานท่ามกลางอุณหภูมิไม่คงที่  มันอาจส่งผลให้เจ้าตัวไม่สบาย  ห้องแพ็คของไม่มีแอร์  ห้องทำปะการังเทียมก็เหม็นสี  และห้องทำงานของเขาก็ต้องใช้พัดลม  แล้วอากาศที่ต่างกันของแต่ละห้องก็คงทำให้เด็กอย่างน้องปลามีภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอ

     

    แต่....

     

                “หนูไม่ได้ปวดหัว หนะ...หนูปวด  เอ่ออ!

     

                “เป็นอะไรครับน้องปลา  พี่อยู่ตรงนี้แล้ว...น้องปลาไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”

     

                “คุณคิมนั้นแหละทำให้หนูเป็นแบบนี้”

     

                “อ้าวววว...”

     

                “คุณคิมชอบทำให้ฉลามน้อยของหนูอึดอัด  งื้อออ....”

     

                บอกแล้ว...ว่าภรรยาคนนี้ยังไม่ชินกับร่างกายอันสมส่วนของสามี  แถมผิวสีน้ำผึ้งก็ช่างน่าหลงใหลจนยากจะถอนตัว  น้องปลายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบดบังความขวยเขิน  และซบแนบความอายไปกับเจ้าของแผ่นอกกว้างที่นั่งซ้อนกายอยู่ด้านหลัง  ส่วนคนที่เข้าใจผิดอยู่นานสองนาน  ก็เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่คิดมันกลับกลายไปเป็นอีกเรื่อง  แถมเรื่องนี้...ก็พาลให้ฉลามเพชฌฆาตตื่นโดยอัตโนมัติ

     

                “พี่ทำให้นะครับ...น้องปลาจะได้หายอึดอัด”

     

                “แล้วคุณคิมล่ะฮะ?”

     

                “ช่างมันเถอะครับ  เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

     

                “จะดีเหรอฮะคุณคิม?”

     

                “แผลหายเมื่อไหร่...พี่จะกินน้องปลาทั้งตัวเลยครับ”

     

                “อ๊ะ!!!

     

                ไม่อยากให้ภรรยาตัวน้อย...ต้องมากังวลกับความรู้สึกของเขา  เพราะสามีคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด  แล้วก็จะอดทนต่อการถูกยั่วยวนด้วยกลิ่นหอมๆ  ผิวเนื้อขาวๆ  และเสียงร้องที่แสนหวานไปจนกว่าน้องปลาจะหายดี  จงอินรีบจัดการขยับฉลามน้อยด้วยมือ  และยิ่งคนในอ้อมอกบิดเร้าด้วยความรู้สึกวาบหวาม  ฉลามเพชฌฆาตที่ตื่นอยู่ภายใต้ฟองของครีมอาบน้ำก็ยิ่งอยากลิ้มรสเหยื่อที่แสนน่ารักให้จมเขี้ยว

     

                “ซี้ดดด!!  คุณคิม...”

     

                “อื้มมมมม”

     

                คำรามต่ำ...ด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น  และผิวเนื้อเนียนนุ่มของภรรยาก็กลายเป็นที่ระบายความรู้สึกแทนการเติมเต็มในส่วนที่ยังทำไม่ได้  ลำคอขาวถูกประทับรอยรัก  เอวคอดถูกฟอนเฟ้นไปตามแรงปรารถนา  สะโพกผายถูกยกขึ้นเล็กน้อยก่อนให้นั่งทับฉลามเพชฌฆาตเอาไว้  พร้อมขยับกายไปตามจังหวะที่คุ้นเคย  ไม่ได้ภายใน...ก็ต้องทำภายนอก  และการช่วยให้น้องปลาหายอึดอัด  ก็พลอยทำให้คนเป็นสามีหายอึดอัดไปด้วย

     

                “น้องปลา...ซี้ดดด!!

     

                “อ๊ะ!!  เร็วหน่อยฮะ  คะ...คุณคิม  หนูไม่ไหว  อ๊ะ!!  แล้ววว!

     

                มือบาง...จิกเกร็งอยู่บนขอบอ่าง  ขาเรียวที่ถูกวางให้พ้นน้ำก็รู้สึกล้าเกินจะฝืน  แถมส่วนน่าอายที่ถูกคนมากประสบการณ์ขยับขึ้นลงอย่างต่อเนื่องก็ใกล้จะถึงฝั่งฝัน  การเคลื่อนกายไปตามบทรักที่พิสดาร  มันทำให้น้ำที่อยู่ในอ่างล้นออกมาพร้อมกับฟองครีมเนื้อนุ่ม  และการที่ต่างฝ่ายต่างใกล้จะถึงจุดหมาย  น้ำที่เติมจนเกือบเต็มอ่าง...ก็หายไปเกินครึ่ง

     

                “อื้มมมม”

     

                “คุณคิมมม...อ๊ะ!!

     

                “อ่าห์  //  อ่าห์

     

                น้ำในอ่าง...ถูกเปลี่ยนใหม่ทันทีเมื่อถึงปลายทางแห่งความสุข  และครีมอาบน้ำกลิ่นพีชก็ถูกเทลงไปจนเกิดฟองเหมือนเช่นในตอนแรก  ใยขัดตัวรูปปลาหมึก...ถูกลูบลงบนผิวเนื้อขาวเนียนด้วยความเอ็นดู  ผมสีอ่อน...ถูกสระพร้อมการบีบนวดอย่างเบามือ  เรียวขาสวย...ถูกน้ำอุณหภูมิพอเหมาะชำระล้างด้วยความระมัดระวัง  ทุกๆอย่างในร่างกายของภรรยาคือสิ่งที่สามีต้องดูแลให้ดี  ต้องถนอมให้มาก  และต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน  จะข้าวใหม่ปลามันหรือรักกันจนแก่เฒ่า  คิม  จงอินก็ขอดูแลเด็กคนนี้ไปจนกว่าความตายจะมาพรากเราสองคน

     

    ถ้าดูแลให้ดีกว่านี้ได้ก็จะทำ  รักมากกว่านี้ได้ก็จะรัก  และจะไม่มีวันทำให้เจ็บช้ำอีกต่อไป

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    21.50 น.

     

                “ต้องกินยาก่อนนอนด้วยครับ...น้องปลาจะได้ไม่ปวดแผล”

     

                “นอนกอดคุณคิมก็หายแล้วฮะ”

     

                อยากกรอกยาแก้อักเสบเข้าปากทั้งขวด...และนอนกอดเมียแน่นๆเพื่อช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บ  แต่ถ้าทำอย่างนั้นแล้วมันช่วยได้  จงอินก็คงทำไปตั้งแต่เมื่อเช้า  อ้อนเก่ง  ปากหวานเก่ง  แล้วก็เก่ง...ที่ทำให้สามีคนนี้ยิ้มได้ตลอดเวลา  ส่วนคนที่หยิบยกทฤษฎีแปลกๆขึ้นมากล่าวอ้าง  ก็เพราะไม่อยากทานยาที่มันขมจนติดลิ้นติดคอ  แถมขนาดของยาสองเม็ดที่อยู่มือของสามี  ก็กลืนยากและต้องทานน้ำจนรู้สึกแน่นท้องไปหมด

     

    ไม่ชอบกินยา...แต่ไม่อยากปวดแผล  ไม่ชอบไปหาหมอ...แต่ยากหายเร็วๆ  แล้วแบบนี้...น้องปลาต้องทำเช่นไร?

     

                “กินแค่คืนนี้คืนเดียวนะครับ  แล้วถ้าพรุ่งนี้เช้าไม่ปวดแผล  พี่ก็จะไม่บังคับน้องปลาอีกแล้ว”

     

                “จริงนะ  คุณคิมห้ามโกหกนะฮะ”

     

                “ไม่โกหกครับ...แต่ถ้าพรุ่งนี้เท้ายังบวมเหมือนเดิม  เราต้องไปหาหมอด้วยกันนะครับ”

     

                “ให้พี่หมอซูโฮมาที่นี่ไม่ได้เหรอฮะคุณคิม  หนูไม่อยากไปโรงบาล”

     

                “ได้ครับ...แต่ตอนนี้น้องปลากินยาก่อน  แล้วถ้าไม่ปวดแผล  เท้าไม่บวม  พรุ่งนี้คุณหมอซูโฮก็ไม่ต้องมาที่นี่  แล้วน้องปลาก็ไม่ต้องกินยาอีกแล้ว  ตกลงไหม?”

     

                รีบพยักหน้าเป็นคำตอบ...และคว้ายาสองเม็ดจากมือสามีมาทานโดยไม่เกี่ยงงอน  พร้อมกับน้ำเปล่าที่ดื่มจนหมดแก้ว  ขอบคุณที่ดูแลกันเป็นอย่างดี  เพราะการอาบน้ำ  การแต่งตัว  การทำแผล  รวมถึงการพาไปในทุกๆที่ด้วยแผ่นหลังที่อบอุ่น  มันทำให้น้องปลารู้สึกว่าความรักที่เกือบจืดจาง  กลับถูกเติมเต็มจนแทบไม่เหลือที่วางในใจให้เก็บซ่อนความสุข  การใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคน...มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่พี่ชายเคยบอกเอาไว้  แต่มันก็ไม่ยากเกินไปถ้าเราสองคนรักกันมากพอ

     

     

                ความเป็นเด็ก...อาจทำให้น้องปลายังไม่เข้าใจในเรื่องของการใช้ชีวิตคู่  ช่วงวัย...อาจเป็นอุปสรรคต่อบททดสอบ  ความคิด...อาจขัดแย้งกับเหตุผลที่เข้าใจได้ยาก  และการเกิดมาจากครอบครัวที่ต่างกัน...ก็เหมือนจะเป็นความท้าทายที่ต้องเตรียมรับมือ  แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใด...ภรรยาคนนี้ก็พร้อมที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง  ถึงยากก็จะสู้  ถึงเหนื่อยก็จะไม่ท้อ  แล้วสามีที่ชื่อคิม  จงอิน...ก็จะเป็นคนที่เขารักไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ

     

                “คุณคิมยังเหลืองานอีกเยอะไหมฮะ?”

     

                “เหลือแค่ไปติดตั้งครับ”

     

                “หนูขอไปด้วยได้ไหมฮะ”

     

                “ได้สิครับ...ทำไมน้องปลาจะไปไม่ได้ล่ะ?”

     

                “ก็คุณคิมต้องไปต่างเมือง  แล้วมันก็ไกลมากกกก...หนูกลัวว่าคุณคิมจะไม่ให้ไป”

     

                “ต่อไปนี้พี่จะไม่ห้ามน้องปลาอีกแล้ว  ไปไหนไปกันเนอะ!

     

                “ไปไหนไปกันฮะ”

     

                ยอมรับ...ว่าก่อนแต่งงานไม่กล้าพาน้องปลาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ  เพราะเกรงใจคริสกับอี้ชิง  และการไปติดตั้งบ้านปลาให้ลูกค้าแต่ละราย  ก็ใช่ว่าสถานที่นั้นๆจะอยู่แต่ในตัวเมืองเพียงอย่างเดียว  ต่างจังหวัดบ้าง  ต่างประเทศบ้าง  แล้วการไปไกลถึงต่างประเทศ...มันก็ต้องใช้เวลาในการเดินทาง  แถมยังต้องค้างที่นั่นอีกหลายวัน  งานของจงอินเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความประณีต  ต้องแข่งกับเวลา  ต้องไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งและติดตั้ง  แล้วที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าบ้านปลาหลังงาม  ก็คือชีวิตของเจ้าหางสวยที่สั่งมาจากบริษัทของภรรยา

     

     

                มันเป็นการทำงาน...ที่ต้องระมัดระวังในทุกๆทาง  และตอนนี้ก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษ  เพราะการมีใครสักคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  มันทำให้จงอินต้องจัดสรรเวลา  ต้องแบ่งหน้าที่  หรือต้องดูแลคนรักให้ดีไปพร้อมๆกับสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย  อยู่ในโรงงานเป็นหัวหน้า  อยู่ในบ้านก็ต้องเป็นทั้งน้องชายต่างมารดาและเป็นสามีของภรรยาตัวน้อย  ความรับผิดชอบ...อาจนำมาซึ่งความเหน็ดเหนื่อย  หน้าที่ต่างๆ...อาจทำให้เมื่อยล้าทั้งกายและใจ  แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของน้องปลา  ได้อ้อมกอด  ได้รอยจูบ...ผู้ชายคนนี้ก็มีแรงที่จะสู้กับทุกๆปัญหา

     

    ฟอดดด!!!

     

                “ได้เวลานอนแล้วครับน้องปลา”

     

                “ฝันดีนะฮะ...สามีของหนู”

     

    ฟอดดด!!!

     

                “ฝันดีครับ...ภรรยาของคุณคิม

     

                ต่างคน...ต่างฝังความรักลงบนแก้มเหมือนทุกค่ำคืน  และคนที่ชอบปีนขึ้นมานอนบนอกกว้าง  ก็ยังคงทำแบบนี้แม้จะแต่งงานแล้ว  อ้อนเช้าอ้อนเย็น  อ้อนได้ทุกเวลา  อ้อนเก่งที่หนึ่ง  และคนเป็นสามีก็ตามใจเก่งที่หนึ่งเช่นกัน  แผ่นหลังขาวเนียน...ถูกลูบไปมาคล้ายการกล่อมเด็ก  อ้อมกอดที่โอบไว้...กระชับแน่นขึ้นเพื่อเติมเต็มความอบอุ่น  พร้อมการเข้าสู่นิทราที่แสนหวานไปด้วยกัน

     

    คิม  จงอิน...อาจไม่ใช่ผู้ชายที่ดีอย่างใครเฝ้าฝัน  และเขาก็ไม่สนว่าคนอื่นจะคิดเช่นไร  เพราะคนที่ต้องสนใจ...มีเพียงภรรยาตัวน้อยคนเดียวเท่านั้น!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr.ภาพในตอนพิเศษ2  :  shades-of-style.com  และวิกิพิเดีย

    ***สกรู


     

    ***ประแจ


     

    Talk.

    หนูเจ็บ...กอดหนูหน่อย  T^T

     


     

    โกรธคุณคิมกันไหมคะ  >.<)

    ตอนพิเศษอาจจะมาไม่บ่อยนะคะ...และถ้าสมองยังปกติดีเราก็จะพยายามอัพเรื่อยๆ

    ขอบคุณนักอ่านที่ยังคงถามถึง  ขอบคุณที่รักน้องปลากับคุณคิม  และขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ

    รักที่หนึ่ง

    #ฟิคน้องปลา

               

     

               

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×