ตอนที่ 44 : ✿✿ 7 (END)
ชี้แจง...
ฟิคในตอนนี้มีเรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปบ้างเพราะเวลาของญี่ปุ่นห่างจากฝรั่งเศสเจ็ดชั่วโมง เวลาของการเดินทางจากโตเกียวถึงปารีสต้องใช้เวลาประมาณสิบเอ็ดชั่วโมง เราจึงอยากให้ผู้อ่านมุ่งประเด็นไปที่เนื้อหามากกว่าเรื่องของเวลา แต่เราก็พยายามหาข้อมูลมาเปรียบเทียบและไม่ให้ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงมากนัก ถ้าฟิคตอนนี้ยังมีข้อบกพร่อง...เราต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง
-END-
โรงแรม โตเกียว
04.10 น.
♪♫♪♫...♪♫♪♫..♪♫♪..!!!
เป็นวัน...ที่จำเป็นต้องตั้งนาฬิกาปลุกเพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศ และถ้าไปเพียงแค่ประเทศเกาหลีหรือจีนก็คงไม่ต้องตื่นแต่เช้าแบบนี้ เจ้าของต้นเสียงคว้าโทรศัพท์บนหัวนอนมากดปิดก่อนวางไว้ที่เดิม แล้วรีบลุกออกจากเตียงกว้างเพื่อไปปลุกเด็กแปดขวบด้วยเกรงว่าจะสาย แต่....
“พะ!...พี่จงอิน อย่าครับ!! อื้มม”
ยังไม่ทันได้ลุกออกไปไหนหรือหยิบสิ่งใดมาปกปิดร่างกาย คนเป็นภรรยาก็ล้มหงายลงไปบนเตียงอีกครั้ง เสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่มาตั้งแต่เมื่อคืน ชุดนอน(ไม่ได้นอน)สีดำก็ไม่รู้ว่าถูกถอดไว้ที่ไหน และตอนนี้ผิวเนื้อทุกตารางนิ้วก็กำลังถูกปากหยักชิมรสจนกายสั่นสะท้าน มือบางพยายามดันแผ่นอกเปลือยเปล่าเพราะกลัวใจมันจะอ่อนให้กับความปรารถนา และถ้าวันนี้ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงฝรั่งเศส...คนเป็นภรรยาก็คงปล่อยให้สามีตักตวงความสุขจนกว่าจะพอใจ
“จุ้บก่อนแล้วแด๊ดดี้จะปล่อย”
“เดี๋ยวก็สายหรอกครับ”
“จะสายเพราะเซฮุนนั้นแหละ...จุ้บเร็ว!”
จุ้บบบ!!
ทั้งเอาแต่ใจ ทั้งเผด็จการ...แต่ภรรยาคนนี้ก็ยอมมอบรอยจูบให้ด้วยความเต็มใจ สันกรามคมถูกริมฝีปากสีหวานสัมผัสอย่างแผ่วเบา และรีบลุกออกจากเตียงก่อนที่จะถูกคนเจ้าเล่ห์ดึงมากอดอีกครั้ง จงอินทำได้เพียงส่ายหน้าเพราะเบื่อรู้ทัน แล้วการที่เซฮุนเดินเปลือยกายไปตู้เสื้อผ้าก่อนหยิบชุดคลุมมาสวมบดบังสิ่งที่น่ามองก็พาลให้สามีอยากย้อนเวลากลับไปเมื่อคืน
ผิวขาวเนียน เรือนร่างที่สวยงาม เสียงครางหวานและความคับแน่น ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหรือทุกๆอย่างที่เป็นเซฮุนมาตลอดหลายปี เป็นสิ่งที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ สัมผัสตรงไหนก็นุ่ม เติมเต็มมากเท่าใดก็ไม่รู้จักพอ ยิ่งกายสวยบิดเร้าในช่วงที่เพลงรักใกล้ถึงจุดหมายก็ยิ่งอยากเชยชมและสานต่อเพลงรักอย่างไม่วันสิ้นสุด แล้วก็....
“เซฮุนจะไปปลุกลูก...พี่จงอินตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำเลยครับ”
“คร้าบบบ...คุณแม่”
“แต่อย่าอาบเร็วนะครับ >.< ”
พูดขนาดนี้...ก็คงต้องรีบไปรองน้ำให้เต็มอ่างงงง!!!!
...
...
...
“อ๊ะ!! พี่จงอินนน!”
“อ่าาาา...ห์!!”
บอกแล้ว...ว่าเซฮุนตามใจสามีได้เสมอ และอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ก็ได้กลายเป็นสถานที่เติมเต็มความรักในยามเช้า ใบหน้าเรียวสวยพักพิงความสุขลงบนไหล่กว้าง สองแขนกอดแน่นรอบเอวสอบพร้อมการปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ส่วนคนที่มีความสุขจนล้นหัวใจก็ค่อยๆถอนความต้องการออกก่อนที่เพลงรักจะถูกบรรเลงอีกรอบ ปากหยักพรมจูบไปตามผิวเนื้อที่สัมผัสเมื่อไหร่ก็นุ่มลื่น แล้วการที่คนในอ้อมกอดยังหายใจรดต้นคออยู่แบบนี้ก็พาลให้อะไรอะไรมันตื่นขึ้นอีกครั้ง แต่ความปรารถนามันจำเป็นต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้ เพราะขืนทำตามใจตัวเองมากเกินไป...สิ่งที่ตระเตรียมมาหลายเดือนคงพังไปพร้อมกับนิสัยที่แก้ไม่หาย
“เจ็บไหมครับเซฮุน”
“ไม่เจ็บครับ”
ไม่เจ็บ...แถมยังรู้สึกแปลกๆกับจังหวะรักที่ดูจะระวังมากเป็นพิเศษ มันนุ่มนวลเกินไป อ่อนโยนเกินไปและไม่เหมือนพี่จงอินมากเกินไป ปกติบทรักของสามีจะเร้าร้อนกว่านี้ รุนแรงบางในบางครั้ง หรือไม่ก็เอาแต่ใจจนร่างกายของเขาแทบรับไม่ไหว แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงได้แตกต่างไปจากทุกครั้ง???
“เรารีบอาบน้ำกันดีกว่านะครับ...”
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่แปลก...เพราะปกติจะพูดหว่านล้อมให้ต่อเพลงรักจนกว่าจะพอใจ แล้วการเปลี่ยนน้ำในอ่างพร้อมผสมครีมเนื้อนุ่มก่อนชำระล้างร่างกายก็พาลให้ภรรยาอดสงสัยไม่ได้ เซฮุนรู้สึกว่ากำลังมีบางอย่างเปลี่ยนไป แต่จะเป็นในทางที่ดีหรือไม่ดี...มันก็คงไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดให้ปวดประสาท
“พี่จงอินไปดูลูกให้เซฮุนหน่อยครับสิ...ไม่รู้ว่าเตรียมตัวเสร็จหรือยัง?”
หลังจากอาบน้ำเรียบร้อย...คนที่ไม่ชอบทาครีมบำรุงผิวก็ถูกไหว้วานให้ช่วยไปดูลูกชายที่อยู่ในห้องฝั่งตรงข้ามเพราะแต่งตัวเสร็จก่อน ส่วนภรรยายังต้องทาครีมอีกหลายจุด ทั้งใบหน้า ใต้ตา แขนขารวมถึงการเติมลิปบาล์มเพื่อริมฝีปากที่ชุ่มชื้น และจงอิน...ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์พร้อมการสวมสูทที่ดูไม่เป็นทางการมากนัก ก็พาให้ดวงตาคู่สวยไม่อาจละจากภาพที่เห็นผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง จะชมว่าดูดี...ก็อายที่จะบอก จะชมว่าเท่...ก็เขินเกินจะเอ่ย ทำไมพี่จงอินยิ่งแก่ยิ่งหล่อ ตอนอายุสามสิบว่าหล่อแล้ว...ใกล้สี่สิบกลับหล่อมากกว่าตอนหนุ่มๆเสียอีก
คนเป็นภรรยา...รีบแต่งตัวเมื่อสามีเดินหายไปจากสายตา เพราะการเป็นทั้งแม่ทั้งเมียมันก็ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย กระเป๋าเดินทางเรียบร้อย อาหารเช้าหรือของว่างระหว่างการเดินทางของลูกชาย...พนักงานในโรงแรมก็คงเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ส่วนบ้านหลังน้อยพร้อมสวนดอกไม้ที่กำลังผลิดอกออกใบก็รดน้ำใส่ปุ๋ยรอการเบ่งบานและจะเก็บขายได้อีกหนึ่งสัปดาห์ถัดไป ขอบคุณความลงตัวของชีวิตในตอนนี้...แล้วการเดินทางไปฝรั่งเศสสามวัน ก็ขอให้สามวันนั้นเป็นวันที่ทุกอย่างลงตัวเหมือนเช่นที่ผ่านมา
!!!!!!!
“พี่จงอิน!!..เซฮุนตกใจหมดเลย”
มัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...การถูกจู่โจมเอวบางจึงทำให้ผู้เป็นเจ้าของถึงกับสะดุ้งสุดตัว เซฮุนละจากครีมบำรุงผิวที่กำลังเก็บใส่ลงไปในกระเป๋าใบเล็ก และหันมาโอบกายสามีเอาไว้จนเต็มอ้อมแขนก่อนประทับรอยจูบไว้บนสันกรามคม แต่...ใบหน้าคมเข้มที่หลงใหลมาหลายปีเบือนหนีก่อนคว้ากระเป๋าเดินทางไปวางไว้หน้าห้องก็กลายเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพี่จงอินถึงเป็นแบบนี้?? ภรรยาทำผิดเรื่องใด???...ช่วยบอกเหตุผลกันสักคำได้ไหม????
“เมื่อเช้าเซฮุนปลุกลูกยังไง...พี่เข้าไปเมื่อกี๊ลูกยังหลับอยู่เลย”
“อ้าว...เดี๋ยวเซฮุนไปปลุกอีกรอบก็ได้ครับ!!”
“ไม่ต้องปลุกแล้วครับ...พี่จะอุ้มขึ้นเครื่องไปเลย”
Rrrr!!!
(ครับ...คุณจงอิน)
“เครื่องบินพร้อมแล้วใช่ไหม?”
(พร้อมแล้วครับ)
“ให้พนักงานมาเอากระเป๋าไปได้เลย...ผมจะเดินทางแล้ว”
(รับทราบครับ)
ทุกการบอกกล่าวของจงอินและการสั่งงานทางโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด มันพาลให้ภรรยาคนนี้ทำอะไรไม่ถูก ในหัวในคิดไปต่างๆนานาว่าทั้งหมดอาจเป็นความผิดของตัวเอง ถ้าแข็งแรงกว่านี้...สามีคงบรรเลงเพลงรักได้ตามชอบใจ ถ้าเมื่อเช้าดูแลลูกให้ดี...เด็กแปดขวบก็คงไม่หลับต่อจนต้องอุ้มไปทั้งๆยังไม่ตื่น และการเป็นภรรยาเจ้าของโรงแรม...มันก็ยากกว่าทุกๆวันผ่านมา
♪♫...♪♫♪..♪♫♪..!!!
“ขออนุญาตครับ...ผมมารับกระเป๋าครับ!”
เสียงกดกริ่ง...พร้อมรถเข็นขนาดใหญ่และพนักงานชาย เป็นสิ่งที่ทำให้คนคิดมากต้องหยุดทุกความกังวลเอาไว้ชั่วคราวแล้วรีบเดินสำรวจตามห้องนอน ห้องน้ำ รวมถึงห้องของลูกชายว่าลืมสิ่งใดไว้บ้าง มือบางรวบครีมบำรุงผิวบนโต๊ะเครื่องแป้งใส่กระเป๋าก่อนปิดประตูห้องด้วยสติที่ไม่เต็มร้อยสักเท่าไหร่ เพราะการที่สามีอุ้มฮิโรกิออกไปด้วยท่าทีรีบร้อนมันพาลให้ภรรยาคนนี้พลอยรีบไปด้วย
เซฮุนพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ...เพราะไม่อยากให้พนักงานโรงแรมรู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้ คนเป็นเจ้านายดูเครียด คนเป็นภรรยาก็ไม่มีรอยยิ้ม ส่วนฮิโรกิก็ยังหลับอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ ตีห้าครึ่ง...มันคงไม่ใช่เวลาที่เด็กในวัยนี้จะตื่นไหว แถมการปิดเทอมก็ยังเป็นสิ่งที่พาให้ลูกชายนอนไม่ตรงเวลา บางวันตื่นสาย บางคืนนอนดึกและบางวันอาหารเย็นก็คือสามทุ่ม เล่มเกมกับพ่อบ้าง ดูการ์ตูนกับเพื่อนบ้าง...ซึ่งการปิดเทอมทำให้เวลาของเด็กเปลี่ยนไป
แล้วการเปิดภาคเรียนวันแรก...ก็มักจะเป็นวันโลกแตกสำหรับคนเป็นแม่เสมอ
07.34 น.
แกร๊กก!!!
“จะมีใครมาร่วมงานเปิดโรงแรมบ้างครับ?”
“หลักๆก็พวกหุ้นส่วน...แล้วก็ผู้ใหญ่ที่สนิทกับครอบครัว พี่เชิญไม่เยอะหรอกครับ เซฮุนไม่ต้องกังวล”
ถ้วยกาแฟและแก้วนมร้อนถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมคำถามที่สงสัยมานานแต่ไม่มีโอกาสได้เอ่ย และถึงแม้เขาจะเป็นภรรยา...แต่การออกงานสังคมหรืองานเลี้ยงของลูกค้าก็เป็นสิ่งที่เซฮุนไม่ชอบเลยสักนิด แล้วถ้างานนี้มันไม่ใช่งานเปิดตัวโรงแรมสาขาใหม่ของตระกูลคิม ภรรยาอย่างเขาก็ขอยอมเปื้อนดินเปื้อนโคลนอยู่ในสวนหลังบ้านดีกว่า เพราะการเจอช่างภาพ นักข่าวหรือผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจมันพาลให้ภรรยาเจ้าของโรงแรมรู้สึกหายใจไม่ออก
“แล้วงานเลี้ยงล่ะครับ?”
“พี่ก็จำไม่ได้...เดี๋ยวต้องถามเลขาอีกที”
เครื่องบินส่วนตัว...ที่เริ่มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ไม่นานอาจสร้างความสบายกายให้แก่ผู้โดยสาร และอาจถึงที่หมายเร็วกว่าการเดินทางแบบทั่วไปตามสายการบินต่างๆ แต่สำหรับความสบายใจมันกลับไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ เพราะการที่สามียังถามคำตอบคำ ดูเคร่งเครียด ดูไม่ใช่พี่จงอินคนเดิมมันเป็นสิ่งที่ทำให้เซฮุนรู้สึกหงุดหงิด อยากเคลียร์ใจแต่ไม่กล้า อยากทราบเหตุผลแต่เกรงว่าจะรบกวน แล้วการเป็นเจ้าของโรงแรมที่กำลังจะเปิดสาขาใหม่ในฝรั่งเศส...ก็คงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าเรื่องอื่นๆ
เซฮุนทิ้งตัวลงบนเบาะนุ่ม...ก่อนคว้านมร้อนมาดื่มแล้วตามด้วยคุ้กกี้ผลไม้ เพราะอาหารเช้าต้องรอเด็กแปดขวบตื่นมาทานพร้อมกัน ตอนนี้คนเป็นสามีกำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านแฟ้มการประชุม ส่วนภรรยาก็ต้องทานนมสดพร้อมกับขนมอบไปอย่างเงียบๆ (เฮ้ออ!!) ถ้าคุณเลขาหรือไม่ก็คนขับรถคนสนิทอย่างโยชิดะได้บินมาในเครื่องเดียวกันก็คงจะดี เซฮุนจะได้ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้
“คุณแม่ ฮืออออ!!!!!!”
“แม่อยู่นี่ครับบบบ...”
จำเป็นต้องวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะแล้วรีบเดินไปที่ต้นเสียง...เพราะการร้องเรียกที่ปนมากับการร้องไห้มันทำให้คนเป็นแม่ต้องรีบเข้าไปปลอบขวัญ ฮิโรกิคงตกใจที่ตื่นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย แล้วห้องพักสุดหรูกลางกรุงโตเกียวมันก็กว้างกว่าในเครื่องบินหลายเท่า แต่.....
“คุณแม่...มิกะของผม ฮึกก!! หายไป!?”
ยังไม่ทันเดินไปถึงไหน...ลูกชายก็รีบวิ่งออกมาจากห้องก่อนเอ่ยถามถึงตุ๊กตาตัวโปรดที่นอนกอดอยู่เป็นประจำ ตกใจกับห้องพักในเครื่องบินยังไม่พอ เพราะเมื่อตื่นมาแล้วไม่เจอเสือน้อยในอ้อมกอด เด็กแปดขวบจึงทำได้เพียงร้องไห้งอแง เซฮุนปาดน้ำตาบนแก้มลูกชายด้วยความทะนุถนอมและพากันเดินเข้าไปหามิกะในห้องนอน ส่วนผู้เป็นพ่อก็ต้องลุกออกจากเอกสารกองโตเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคน
และ....
“ฮิโรกิฟังแม่นะครับ...”
“ผมจะเอามิกะ...ฮืออออ!!”
“เรากลับไปเอามิกะตอนนี้ไม่ได้นะครับ...”
“ผมจะเอามิกะเดี๋ยวนี้!!!”
เสียงโวยวายที่ดังออกมาจากห้องฝั่งตรงข้าม...ทำให้จงอินต้องละมือจากมื้อเช้าก่อนเดินเข้าไปดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น และเด็กแปดขวบที่นอนร้องไห้อยู่บนเตียงกับคุณแม่ที่ยืนเท้าเอวก้มหน้าเหมือนคนหมดแรงก็คือภาพของปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข
“ฮิโรกิหยุดร้องไห้ก่อนครับ...”
“คุณแม่ ฮึกก!!...ลืมมิกะไว้ที่โรงแรมฮะ ฮึก! ผมอยากได้มิกะ”
เซฮุนไม่เคยลืมตุ๊กตาตัวโปรดของลูกชายเลยครั้ง...ไม่ว่าพวกเราจะต้องย้ายชีวิตไปนอนอยู่ที่ไหน นานเท่าไหร่หรือเพราะอะไรก็ไม่เคยลืม และถ้าเมื่อเช้ามันไม่มีเรื่องให้ต้องคิดมาก แม่คนนี้ก็คงไม่มีทางทำให้ลูกเสียใจแน่นอน เซฮุนพยายามอธิบายด้วยคำที่อาจพาให้ใจของฮิโรกิเย็นลง แต่ของรักของหวงที่คุณยายของเด็กแปดขวบซื้อให้ก่อนจะเสียชีวิตมันคงมีค่ามากกว่าคำปลอบใจ
“ถ้าฮิโรกิอยากได้มิกะ...ฮิโรกิต้องพูดดีๆ พูดเพราะๆ ฮิโรกิจะพูดเสียงดังแบบนั้นกับคุณแม่ไม่ได้นะครับ”
“ฮึกกก!!....”
“ขอโทษคุณแม่ก่อนครับ”
“ขอ ฮึกก!...โทษฮะคุณแม่”
“Good boy”
Rrrrr!!!!
(ครับ...คุณจงอิน)
“ไปเอาตุ๊กตาเสือที่ห้องXXX...มาให้ฮิโรกิที่ฝรั่งเศสด้วย”
(คะ...ครับคุณจงอิน - -‘)
“เดี๋ยวฉันจะโทรไปแจ้งเลขาให้เตรียมเครื่องบินเอาไว้...แล้วนายก็รีบบินมาเลย”
(ครับ ๆ ๆ...ผมจะรีบตามไปทันทีเลยครับ T-T)
“ขอบใจ”
สอนลูกให้รู้จักระงับอารมณ์มันก็ดีอยู่หรอก...แต่การตามใจโดยโทรไปสั่งให้คนขับรถนำตุ๊กตาตัวโปรดมาให้ฮิโรกิถึงฝรั่งเศสก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลยสักนิด และตอนนี้คนที่ต้องระงับอารมณ์บ้างก็คือผู้เป็นแม่ เรื่องที่สามีทำตัวแปลกๆก็ยังไม่ได้เคลียร์ ลูกชายตื่นมาร้องไห้โวยวายก็ยังไม่ได้อบรม แล้วทำไมเช้านี้มันถึงได้มีแต่เรื่อง
“เซฮุนจะไปเตรียมอาหารเช้านะครับ...”
“เดี๋ยวพี่ดูแลฮิโรกิเอง”
“แล้วก็อย่าตามใจกันให้มากนะครับ!”
มันอดที่จะเอ่ยเตือนไม่ได้...และต้องรีบออกมาจากห้องก่อนที่จะระงับอารมณ์ไม่อยู่ สองขาเรียวก้าวฉับๆไปที่ห้องครัวขนาดย่อมก่อนนำสิ่งที่สามีทำค้างเอาไว้มาจัดเรียงใส่ภาชนะ ของคาวของหวานครบถ้วน นมร้อนสีชมพูขาดไม่ได้ ส่วนคนที่ตามใจลูกจนเคยตัวก็คงอยากทานกาแฟอีกสักแก้ว ไม่มีใครรู้ใจจงอินเท่าเมียคนนี้อีกแล้ว และก็คงไม่มีใครรู้ใจฮิโรกิเท่าแม่คนนี้อีกเช่นกัน แต่ทำไม...สองพ่อลูกถึงชอบทำให้เขาอามรณ์เสีย!!!
...
...
...
ปารีส
08.09 น.
!!!!!!!
!!!!!!!
“อาแบค...อายอลลลลล!!!!”
เสียงใบพัดยังคงดังอื้ออึงเพราะเครื่องบินเพิ่งลงจอดได้ไม่นาน...แต่เสียงของเด็กที่ร้องด้วยความดีใจเมื่อเห็นคุณอาทั้งสองคนผ่านทางกระจกหน้าต่างก็ทำให้คนเป็นแม่อดยิ้มไม่ได้ นั่งหน้าตึงอยู่บนเครื่องมาหลายชั่วโมงและการได้พบเพื่อนรักตัวเล็กก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความเครียดลดลงได้บ้าง
“คิดถึงจังเลยแบค”
“แบคก็คิดถึง...แล้วเป็นยังไงบ้าง นั่งเครื่องมาเหนื่อยไหม?”
“เหนื่อยเรื่องอื่นมากกว่า”
รู้เลยว่าเพื่อนกำลังอารมณ์ไม่ดี...แบคฮยอนจึงไม่อยากถามเซ้าซี้และรีบเดินไปหาหลานเมื่อเครื่องบินจอดสนิท บนดาดฟ้าตึกที่หนึ่งของโรงแรมใหม่คือสถานที่จอดพาหนะส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของ ส่วนดาดฟ้าบนตึกที่สองและสามถูกสร้างเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งสองตึกถูกเชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า
“เกิดอะไรขึ้นวะจงอิน??”
“เมียโกรธ”
“เรื่อง?”
“เสือก!”
“อ้าว...ไอ้สัด!”
“ห้ามพูดคำหยาบต่อหน้าหลาน!!”
“จ้าาาา...คุณพ่อ”
คนที่มีส่วนร่วมในการสร้างโรงแรมแห่งนี้...ได้แต่สบถอย่างหัวเสียเมื่อถูกเพื่อนผิวเข้มพาลใส่ และหลานรักก็คือเป้าหมายเดียวที่ทำให้อาอย่างเขามีความสุข ชานยอลรีบอุ้มฮิโรกิขึ้นขี้คอก่อนจูงมือแฟนตัวเล็กเดินเข้ามาลิฟท์ ส่วนคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังคงบึ้งตึงทั้งๆที่มือก็จับกันไว้ไม่ยอมปล่อย ไม่รู้ว่าโกรธกันด้วยเรื่องอะไร ใครเป็นสาเหตุ ใครเป็นคนก่อ...แต่หลังจากงานสำคัญได้เริ่มต้นขึ้น ทุกๆความบาดหมางก็ต้องกลายเป็นเรื่องที่ถูกลืม
“เออแบค!...คุณพ่อมาถึงหรือยัง?”
“มาถึงตั้งแต่นานแล่ว...เดินสำรวจโรงแรมอยู่นั่นแหละ”
“เราก็อยากเดินสำรวจเหมือนกันนะ...แล้วก็คิดถึงคุณพ่อด้วย”
“เออ!!...คุณแม่พี่จงอินก็มาถึงแล้วเหมือนกันนะ”
“ดีจัง...เราคิดถึงทุกคนเลย”
(ผมก็คิดถึงคุณตากับคุณย่าเหมือนกันฮะ)
เจ้าของเสียงใส...ที่นั่งอยู่บนไหล่ของอาร่างยักษ์ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในลิฟท์ขนาดใหญ่ยิ้มได้โดยอัตโนมัติ แต่พอใบหน้าหวานหันมาเจอความคมเข้มที่หลงใหลมาหลายปี รอยยิ้มนั้นกลับเบือนหนีด้วยทิฐิที่ยังไม่คลาย จงอินอยากลงโทษภรรยาให้ช้ำไปทั้งตัว เพราะการถูกโกรธด้วยเรื่องที่เขาตามใจลูกชายมากเกินไป มันเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดเดียว
♪♫...♪♫♪..♪♫♪..!!!
“เซฮุนไปรอที่ห้องก่อนนะครับ...พี่ขอไปดูความเรียบร้อยในโรงแรมแป๊บนึง”
“ผมจะไปกับอาแบคนะฮะคุณแม่”
กลายเป็นคนถูกทิ้ง...เพราะเมื่อลิฟท์เปิดออกที่ชั้นยี่สิบ ทั้งสามี ลูกชายรวมถึงเพื่อนรักต่างก็แยกกันไปคนละทิศคนละทาง ส่วนเขามีเพียงการ์ดหนึ่งใบกับสัมภาระที่ลูกน้องเดินมาส่งถึงหน้าประตู เซฮุนใช้การ์ดที่ถืออยู่ในมือเปิดห้องพักสุดหรู ก่อนเอ่ยให้ผู้ที่ช่วยนำกระเป๋าเดินทางมาส่งกลับไปพักผ่อน เดินทางมาตั้งไกล ความใส่ใจก็ไม่มี แถมยังถูกทิ้งให้อยู่ในห้องเพียงลำพัง แล้วแบบนี้จะพาเขามาที่นี่ทำไม!??
อยากกลับบ้านนนนนนนน!!!
ROOM XXX
09.00 น.
ปึ่กก!!
“ใกล้เสร็จแล้ววว...อดทนอีกนิดนึงนะจ๊ะหนูเซฮุน”
“โอ๊ยย!...เซฮุนเจ็บครับคุณแม่”
“ขอโทษๆ...แม่กลัวไม่ทันงานเลี้ยง”
เบื่อทันทีเมื่อได้ยินคำว่าเลี้ยง...และจากที่นั่งรับลมชมวิวดูหอไอเฟลอยู่ในห้องของตัวเอง ก็ถูกลากตัวมาแต่งหน้าทำผมที่ห้องของแม่สามี แล้วพอพูดถึงสามี...ความน้อยใจมันก็วิ่งเข้ามาชนจนรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าผมบนหัวที่กำลังถูกจัดให้เข้าทรงด้วยเครื่องทำความร้อน ส่วน...ซองรยองก็วางเครื่องสำอางลงบนโต๊ะเครื่องแป้งเป็นรอบที่ร้อยก็ว่าได้ เพราะงานในวันนี้คนที่จะต้องดูดีดูเด่นก็คือสะใภ้สุดที่รักกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“คุณแม่ครับ...ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วผมขอไปดูฮิโรกิหน่อยนะครับ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะทานอะไรหรือยัง?”
“จะไปดูทำไม...ฮิโรกิโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แล้วอีกอย่าง...ชานยอลก็อยู่ หนูแบคก็อยู่ คุณจีซบก็ด้วย หันหน้ามาซิ...แม่ขอเติมปากหน่อย!!”
“ก็เซฮุนเป็นห่วงลูกนิครับคุณแม่”
“เลิกพูดสักทีได้ไหม...แม่เติมปากไม่ถนัด!!”
เวลาที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศอาจทำให้ฮิโรกิเกิดความสับสน เพราะถ้าตอนนี้ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น...อาหารเย็นคงต้องเริ่มต้นจัดเตรียมเอาไว้ให้พร้อม ส่วนที่นี่คือปารีสซึ่งมันเพิ่งจะเก้าโมงกว่า เซฮุนจึงเกรงว่าความสับสนในเรื่องของเวลาจะพาให้ลูกชายป่วยไข้ แต่...ปากที่กำลังถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีหวานพร้อมคำตักเตือนของแม่สามีก็พาให้ผู้ที่ไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยงต้องนั่งนิ่งๆ
เซฮุนไม่ชอบออกงานสังคมและอยากไปเพียงแค่งานเปิดตัวโรงแรมในวันพรุ่งนี้เท่านั้น แต่ในเมื่อตัวเองเป็นถึงภรรยาของ คิม จงอิน...งานนี้งานไหนก็คงต้องไปโดยไม่อาจปฏิเสธ เมื่อใบหน้าถูกแต่งเติมจนดูสดใสพร้อมผมที่ถูกจัดให้เข้าทรง ตอนนี้ก็ถึงคราวที่ต้องเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ เชิ้ตสีขาวถูกหยิบมาสวมแล้วตามด้วยกางเกง เสื้อกั๊กก่อนจบท้ายด้วยเสื้อสูทซึ่งทั้งชุดเป็นสีขาวทั้งหมด
“เสร็จหรือยังหนูเซฮุน??”
“ครับคุณแม่!!”
“ไหนดูซิว่าใส่พอดีไหม?”
เรื่องใจร้อนคงต้องยกให้คนตระกูลคิม...เพราะยังไม่ทันที่ลูกสะใภ้จะเดินมาถึงหน้ากระจก แม่สามีก็รีบเดินมาคว้ามือเซฮุนมาจากหน้าห้องน้ำแล้วตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้า แถมร่างกายยังถูกจับหมุนไปหมุนมาจนเริ่มเวียนหัว ขอสเปรย์ผมอีกนิด เติมปากอีกหน่อย โบว์ไทด์สีขาวห้ามลืมและกระเป๋าเสื้อสูทด้านซ้ายก็ต้องตกแต่งด้วยดอกทิวลิปสีแดง??...ก็เป็นอันเสร็จ!!!
“คุณแม่ครับ...เซฮุนอยากไปหาฮิโรกิ”
“เดี๋ยวไปเจอกันในงานเลย...ป่านนี้คงเล่นวิ่งไล่จับกับอาแบคจนงานพังแล้วมั้ง”
“คุณแม่อย่าพูดแบบนี้สิครับ...เซฮุนยิ่งเป็นห่วงอยู่”
“ห่วงได้...แต่ก็ต้องมีสติด้วย หลานแม่เก่งจะตาย หนูเซฮุนไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นหรอก”
“เราจะไปกันได้หรือยังครับคุณแม่ เอ่ออ...”
“เอ่อ...อะไรจ๊ะหนูเซฮุน?”
“เซฮุนอยากเจอพี่จงอินครับ พอดีมีเรื่องกันนิดหน่อยตอนเดินทาง แล้วตั้งแต่มาถึงที่นี่...พี่จงอินก็หายไปเลย”
ไม่ได้อยากนำความมาฟ้อง...แต่การถูกทิ้งให้อยู่ในโรงแรมเพียงลำพังมันพาลให้คิดมาก ลูกชายก็เล่นกับคุณอาเพลินจนลืมแม่ คุณพ่อก็เอาแต่เดินสำรวจโรงแรม ส่วนสามีก็คงเป็นห่วงงานใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทุกๆอย่าง...มันทำให้เซฮุนรู้สึกเหมือนไร้ตัวตน และดีที่งานเลี้ยงในวันนี้ยังมีแม่สามีคอยมาดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ไม่อย่างนั้นลูกสะใภ้อย่างเขาคงทำให้ตระกูลคิมต้องอับอาย
“หนูเซฮุนอย่าคิดมากนะจ๊ะ...”
“ขอโทษนะครับคุณแม่...แต่ผมไม่อยากไปงานนี้เลย”
“ไม่ไปไม่ได้จ้ะ...ลูกชายแม่ต้องร้องไห้แน่ๆถ้าหนูเซฮุนไม่ไปงานนี้”
“ U_U ”
“ไปกันเถอะจ้ะ...ป่านนี้ทุกคนคงอยู่ในงานกันแล้ว”
“ครับ....”
งานเลี้ยงก่อนการเปิดตัวโรงแรม...คงจะเป็นงานที่มีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจหรืออาจมีผู้ถือหุ้นบางรายมาร่วมงานด้วย แล้วมันก็อาจจะเป็นงานที่ภรรยาอย่างเขาต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง เพราะคนที่ไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจ ไม่ใช่คนที่มาจากตระกูลใหญ่โต แถมยังเป็นเพียงแค่คนสวนธรรมดาๆก็คงไม่มีใครอยากจะเข้ามาทำความรู้จัก และถึงแม้คนที่มาร่วมงานบางคนจะทราบดีว่าเขาเป็นใคร แต่นักธุรกิจกับเจ้าของสวนดอกไม้ในชนบทก็เป็นอาชีพที่ขัดแย้งกันมากเหลือเกิน
แต่........
...
...
...
10.09 น.
แกร๊กกก!!!!
“ฉันเอาตัวหนูเซฮุนมาคืนแล้วค่ะคุณจีซบ”
“ขอบคุณที่ช่วยดูแลนะครับคุณหญิง”
เมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก...ห้องที่เต็มไปด้วยดอกทิวลิปสีแดง ทางเดินที่โปรยด้วยกลีบดอกไม้ เก้าอี้ที่มีคนในครอบครัวรวมถึงพี่ๆน้องๆจากโรงแรมสาขาโซลนั่งอยู่ทั้งด้านซ้ายด้านขวา ทุกอย่างทำให้คนที่คิดว่ามาร่วมงานเลี้ยงของสามีถึงกับพูดอะไรออก นี่มันไม่ใช่งานเลี้ยงอย่างที่คิดเอาไว้ แล้วแม่สามีกำลังพูดอะไร คุณพ่อมายืนอยู่ข้างๆของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมลูกชายกับเพื่อนรักตัวเล็กถึงโอบตะกร้าหวายเอาไว้ในอ้อมแขน สมองเหมือนหยุดทำงาน มันประมวลผลไม่ได้ เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้มันช่างเหมือนความฝัน
“เซฮุน...ยิ้มหน่อยสิลูก”
“คุณพ่อ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ??”
“เป็นเจ้าสาวต้องยิ้มเยอะๆ เดี๋ยวเจ้าบ่าวใจเสีย”
คำว่า “เจ้าบ่าว-เจ้าสาว” เหมือนเป็นตัวดึงสติให้เซฮุนต้องอยู่กับปัจจุบัน ก่อนมองไปยังทางตรงหน้าและได้พบกับสามีในชุดสูทสีดำพร้อมการตกแต่งดอกทิวลิปสีแดงไว้ในกระเป๋าเสื้อ ส่วนเด็กแปดขวบกับคุณอาตัวเล็กก็เริ่มทำการโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินจนถึงหน้าพิธี เซฮุนพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ด้วยความยากลำบาก มันซาบซึ้ง มันเซอร์ไพส์และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ล้นอยู่ในอก
“คุณพ่ออออ....”
“พ่อรักลูกนะ”
ถึงเวลา...ต้องปล่อยมือเซฮุนให้กับผู้ที่จะทำหน้าที่ดูแลลูกคนนี้ไปตลอดชีวิต และคิม จงอิน ก็ทำหน้าที่สามี หน้าที่พ่อรวมถึงหน้าที่ของการเป็นเจ้าของโรงแรมได้ดีมาโดยตลอด จีซบคงไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว ลูกได้คนดีมาดูแล หลานก็น่ารัก ส่วนลูกแท้ๆอย่างแบคฮยอนก็ไม่ต้องเป็นห่วงอีกเช่นกัน และตอนนี้พิธีแต่งงานก็กำลังจะเริ่มขึ้นก่อนที่คนเป็นเจ้าสาวจะร้องไห้เสียก่อน เซฮุนได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าคนที่นอนร่วมเตียงกันทุกคืน ซึ่งการยืนอยู่ต่อหน้าสามีท่ามกลางผู้คนมากมายในงานแต่งงานของตัวเอง มันทำให้ไม่กล้าสบจ้องใบหน้าคมเข้มที่อยากมองให้เต็มตา
และก็ต้องตั้งสติให้ดีเมื่อ....
“เป็นความประสงค์ของพวกเธอที่จะแต่งงานกัน ให้ประสานมือขวาและประกาศความยินยอมของพวกเธอต่อหน้าพระองค์และศาสนิกชนของพระองค์” บาทหลวงกล่าวคำตามพิธีที่เคยพูดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แถมยังเป็นพิธีที่ถูกเชิญให้มาทำหน้าที่ถึงต่างประเทศ
“ผม...คิม จงอิน ขอรับ โอ เซฮุน เป็นภรรยาของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชีวิตของผม” เป็นคำกล่าวที่พยายามตั้งใจท่องจำมาหลายเดือน งานก็เยอะ ลูกก็ต้องเลี้ยง เมียก็ต้องดูแล และดี...ที่สมองของคนใกล้จะอายุสี่สิบมันยังใช้งานได้เป็นปกติ
และ......
“ผะ...ผมโอ เซฮุน ขอรับ คิม จงอิน เป็นสามีของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชีวิตของผม” ส่วนคนเป็นเจ้าสาว...ก็พยายามจดจำคำพูดของสามีด้วยสมองที่เกือบถูกความสุขเล่นงานจนเสียงสั่น แต่ก็ยังประคับประคองทุกคำพูดจนพิธีสำคัญเสร็จสิ้นด้วยความเรียบร้อย
แหวนถูกสวม รอยจูบถูกมอบ และอ้อมกอดก็ถูกโอบกันไว้ด้วยความรัก
“เซฮุนโกรธพี่จงอินมากเลย โกรธมากๆ”
“โกรธแล้วรักไหมครับ”
“รักครับ...”
จุ้บบบ!!!
จูบหวานของบ่าวสาว...ทำให้สักขีพยานทุกคนมีรอยยิ้มและมีความสุขตามคนทั้งคู่ ส่วนเด็กแปดขวบก็ไม่ได้เข้ามาห้ามอย่างที่เคยทำอยู่บ่อยๆ เพราะการมีคุณอา คุณย่าและคุณตาคอยอยู่เคียงข้างมันก็พาให้ความหวงแม่พลอยหายไปกับความสุขของทุกคน
“พี่จงอินต้องเล่ามาให้หมดเลยนะครับ...ไม่งั้นเซฮุนจะโกรธจริงๆด้วย”
“บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพส์สิครับเจ้าสาวของพี่”
“ชอบทำแบบนี้ทุกที...”
“อย่าโกรธพี่เลยนะครับ”
“เซฮุนไม่โกรธก็ได้...แต่พี่จงอินต้องเล่ามาให้หมด”
“เดี๋ยวพี่จะอธิบายให้ฟังทั้งคืนเลยครับ”
ตลอดการเดินทางที่เมินเฉยและเอาแต่นั่งอ่านเอกสารการประชุม มันคือการหลีกเลี่ยงต่อสิ่งที่อาจเผยพิรุธ ขอโทษที่ปิดบัง ขอโทษที่เย็นชารวมถึงขอโทษในหลายเดือนที่ผ่านมาเอาแต่บ้างาน สัญญาว่าหลังจากวันเปิดตัวโรงแรมเสร็จสิ้น สามีคนนี้จะทำงานให้น้อยลง จะดูแลลูกให้มากขึ้นและจะอยู่บ้านกับเมียทุกวัน
คิม จงอินทำสิ่งที่สำคัญในชีวิตสำเร็จหมดแล้ว...ทั้งเรื่องการสร้างโรงแรมในฝรั่งเศส การบริหารธุรกิจของตระกูลให้เจริญรุ่งเรือง การมีครอบครัวที่สมบูรณ์ และสิ่งสำคัญอย่างสุดท้ายก็คือการแต่งงาน มันเป็นสิ่งที่เคยสัญญากับเซฮุนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่เคยได้ทำตามสัญญาเพราะปัญหาของพวกเราแต่ละอย่างมันแทบพรากความรักไปจากเขา ความต่างทางฐานะ ความแม่ผัวลูกสะใภ้และสิ่งที่เกือบทำให้เซฮุนต้องจบชีวิตลงก็คือการถูกยิง ซึ่งทุกอย่างๆ..ทำให้การแต่งงานถูกหลงลืมไปอย่างง่ายดาย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน...ก็คงต้องโทษโชคชะตาที่ใจร้ายมากเกินไป แต่พอมาตอนนี้ก็คงต้องขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าใครรักเราจริง อะไรต้องปล่อยวางหรือสิ่งใดที่ไม่ควรละเลย
“คุณแม่!!!”
กำลังดื่มสังสรรค์อยู่กับพี่ๆในแผนกจัดดอกไม้ ทั้งพี่ซูโฮ พี่คยองซูรวมถึงฮานิก็มาร่วมงานด้วย แต่เสียงร้องของลูกชายกลับดึงความสนใจไปเสียก่อน และการที่ฮิโรกิหาวจนปากกว้าง ตาแดงพร้อมน้ำสีใสที่อยู่ในดาวตาทั้งสองข้างก็กลายเป็นคำตอบที่ไม่ต้องเอ่ยถาม
“ว่าไงครับคนเก่ง...ง่วงนอนแล้วใช่ไหมครับ”
“ฮะ...แต่มิกะยังไม่มา”
“แม่จะพาไปนอนนะครับ...แล้วตื่นมารอบนี้ฮิโรกิจะต้องได้เจอมิกะแน่นอน แม่สัญญา”
“จริงนะฮะ”
“จริงครับ”
เอ่ยลาพี่ๆในแผนก...และอุ้มลูกชายกลับไปพักผ่อนที่ห้องทั้งๆที่ท้องฟ้านอกหน้าต่างยังคงสว่างจ้า เวลาตอนนี้ของฝรั่งเศสคือบ่ายโมง แต่เวลาของญี่ปุ่นคือสองทุ่ม นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ฮิโรกิเริ่มง่วงนอน ส่วนจงอิน...ก็ยังคงเต้นรำอยู่กับคุณแม่ด้วยความสนุกสนาน พี่จงแดก็กำลังนั่งทานของหวานอยู่กับพี่ซิ่วหมิน ความสุขของทุกคนในงาน...คือความสุขของผู้ที่ได้เป็นเจ้าสาว และการที่คุณพ่อมีรอยยิ้ม เพื่อนรักตัวเล็กกับคุณชานยอลก็กลายเป็นอีกหนึ่งคู่ที่กำลังจะเต้นรำ...ก็ยิ่งทำให้เซฮุนมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม
...
...
...
ROOM XXX
แกร๊กก!!!
เปิดประตูด้วยความลำบาก...และตอนปิดก็ต้องใช้อวัยวะเบื้องล่าง แต่เรื่องแค่นี้ก็ไม่ยากเกินความสามารถของผู้เป็นแม่ เซฮุนวางลูกชายลงบนเตียงก่อนเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อเตรียมอุปกรณ์ในการเช็ดตัว จะให้หลับทั้งๆที่เสื้อผ้ามันเต็มไปด้วยครีมของขนมหวานก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดี และถ้าฮิโรกิไม่ได้หลับสนิทขนาดนี้...แม่อย่างเขาคงต้องปลุกให้มาแปรงฟัน
ผ้าชื้นน้ำ...ถูกลูบไปตามใบหน้า ร่างกายและทุกๆส่วนของลูกชายอย่างเบามือ แต่ความเย็นที่กระทบเข้ากับร่างน้อยๆเปลือยเปล่า ฮิโรกิจึงพลิกตัวหนีด้วยความรำคาญ เซฮุนรีบเช็ดตัวให้เร็วกว่าเดิมเพราะเกรงว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลง เวลาที่แตกต่างจะพาลให้ฮิโรกิเจ็บป่วย ชุดนอนถูกสวม ถุงเท้าถูกใส่ ผ้าห่มถูกคลุม และจูบกู๊ดไนท์เหมือนทุกเช่นทุกครั้งเมื่อทำความสะอาดร่างกายลูกชายเรียบร้อย คนเป็นแม่เดินไปเก็บอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำ แล้วกลับไปพักที่ห้องทางประตูที่เชื่อมต่อกับห้องของลูกชาย
แต่....
“อ๊ะ...พี่จงอิน!!”
เหมือนจะไม่ได้พัก...เพราะเมื่อปิดประตูห้อง ร่างของคนเป็นแม่ก็ถูกอุ้มไปวางไว้บนเตียงกว้างพร้อมการถูกหอมฟอดใหญ่ แล้วสายตาคมที่กำลังจ้องใบหน้าภรรยาอย่างมีความหมายก็พาลให้เซฮุนไม่กล้าสบตอบเพราะเริ่มรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง
“เหนื่อยไหมครับคุณแม่คนเก่ง?”
“ไม่เหนื่อยเลยครับ พี่จงอินเหนื่อยกว่าตั้งเยอะ”
“ลูกหลับแล้วเหรอ?”
“หลับแล้วครับ...แต่ไม่รู้ว่าตื่นมาแล้วจะเป็นยังไงบ้าง ฮิโรกิร้องหาแต่มิกะ”
“มิกะอยู่นี่แล้วครับ....”
“งั้นเซฮุนเอาไปให้ลูกก่อนนะครับ”
“อยากได้ต้องทำยังไงครับ??”
“ขอบคุณนะครับแด๊ดดี้”
“แค่นี้เองเหรอ?”
“ >.<”
อยากแกล้งลูกหรืออยากแกล้งเมียกันแน่...แต่การถูกแกล้งก็ทำให้เซฮุนกลั้นยิ้มไม่ไหว เก่งแต่เรื่องทำให้เขาใจอ่อน แล้วตอนนี้ฮิโรกิก็คงต้องรอตุ๊กตาเสือน้อยไปอีกสักพัก เพราะปางบางสีหวานกำลังจะหน้าที่ขอบคุณแด๊ดดี้อย่างที่ใจมันเรียกร้อง เสื้อผ้าของบ่าวสาว...ถูกถอดออกช้าๆพร้อมกับรอยจูบที่มอบให้กันอย่างดูดดื่ม โบว์ไทด์ เสื้อสูท กางเกงรวมถึงอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายก็ถูกโยนไปคนละทิศคนละทาง ร่างสวยเปลือยเปล่าเลื่อนกายลงต่ำเพื่อครอบครองส่วนเติมเต็มของสามี แล้วการทำเช่นนั้นก็พาให้เสียงของความพึ่งพอใจดังก้องไปทั่วทั้งนอน
เพลงรัก...เริ่มกลับมาเป็นจังหวะที่โหยหา และตอนนี้เซฮุนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมบทรักที่ญี่ปุ่นมันถึงได้อ่อนโยนจนดูไม่เหมือนกับสามีที่ฝรั่งเศส จงอินคงไม่อยากทำให้ภรรยาหมดแรงก่อนงานแต่งจะเริ่มขึ้น แล้วการถูกเติมเต็ม การถูกโอบรัด และการส่งความปรารถนาด้วยท่วงท่าแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เสียงครางที่มาพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อยิ่งดังขึ้นในห้องพักสุดหรู คนเป็นสามีไม่อยากถึงจุดหมายด้วยปากนุ่ม มือหนาจึงรั้งกายภรรยามาโอบไว้ก่อนขยับทุกความรู้สึกอย่างที่ใจต้องการ
“ซี้ดดดด....”
“เซฮุนนน...อื้มม!!”
พรุ่งนี้เช้า...อาจเป็นวันสำคัญสำหรับผู้ถือหุ้นหรือผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ แต่สำหรับคนที่ถือหุ้นใหญ่ที่สุดอย่างคิม จงอิน มันเหมือนเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของการทำงาน ใช่ว่าไม่ดีใจที่โรงแรมจะได้เปิดอย่างเป็นทางการ ใช่ว่าไม่เห็นความหมายของสิ่งที่ตั้งใจลงมือลงแรง แต่...สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมันคือคนใต้ร่างในตอนนี้และลูกชายที่กำลังหลับอยู่อีกห้อง
จงอินทราบดีว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง งานจะเริ่มกี่โมง จะเสร็จกี่โมงหรืองานจะออกมาเป็นเช่นไรก็สามารถเดาเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า เพราะเขาเคยผ่านงานแบบนี้มาหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งมันก็จะคล้ายๆกันหมด และถ้าถามว่าตื่นเต้นไหม...ก็ขอตอบเลยว่าตื่นเต้นแต่ก็ไม่มากเท่ากับตอนที่ต้องรับตำแหน่งเจ้าของโรงแรมแทนผู้เป็นพ่อ อยู่วงการนี้มาหลายปี ปัญหา อุปสรรค รวมถึงทางแก้ก็รับมือได้หมด จงอินจึงไม่เคยรู้สึกประหม่าสำหรับเรื่องการเปิดตัวโรงแรมใหม่
ขอบคุณภรรยา...ที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ ใครจะอดทนต่อสามีที่เอาแต่ใจอย่างเขาได้ แถมยังบ้างานจนลูกชายต้องสั่งให้ลาพักร้อน ไม่มีใครรู้ใจ เข้าใจ และใส่ใจเขาได้เท่ากับเซฮุนอีกแล้ว ชีวิตสมบูรณ์แบบเพราะมีเซฮุนคอยช่วยประคับประคองความรักให้มั่นคง ตรงไหนขาดช่วยเติมให้เต็ม ตรงไหนบกพร่องช่วยกันแก้ไข และถ้ามีคำใดสามารถพูดได้ดีกว่าคำว่าขอบคุณ คิม จงอินก็พร้อมที่เอ่ยมันออกมา
“พะ...พี่จงอินนน อ๊ะ!!”
ความกลมกลึง...ถูกกระชับก่อนย้ำความต้องการจนกายสั่นสะท้าน แผ่นหลังขาวเนียนถูกประทับรอยจนแดงระเรื่อไปทั่วผิวเนื้อ มือบางจิกเกร็งอยู่บนหมอนใบโตและพยายามควบคุมการหายใจ แต่การถูกเติมเต็มด้วยความร้อนแรง มันพาลให้การควบคุมทุกส่วนของร่างกายยากกว่าการควบคุมลมหายใจ
“อ่าาาา...ห์!!!”
เพลงรักอาจจบลงแค่ในตอนนี้...แต่สำหรับความรักที่เซฮุนมีให้กับสามีมันจะไม่มีวันจบอย่างแน่นอน และมีเพียงความตายเท่านั้นที่จะพรากมันไป ร่างสวยกอดกายหนาเอาไว้ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข แล้วความสุขที่ว่าก็คือทุกอย่างที่เป็น คิม จงอิน ขอบคุณที่ดูแลกันมาเป็นอย่างดี คำพูดที่เอ่ยต่อหน้าสักขีพยานในงานแต่งงานเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามันคือสิ่งที่สามีทำมาโดยตลอด จะรัก จะให้เกียรติ จะดูแล จะซื่อสัตย์...ทุกอย่างยังคงสม่ำเสมอและไม่เคยน้อยลงเลยแม้แต่วันเดียว ขอบคุณจริงๆที่รักกันมากถึงเพียงนี้
เซฮุน...ไม่รู้สึกกังวลอีกแล้วว่าพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร ใครจะเป็นนักธุรกิจ ใครจะเป็นคนสวนหรือใครจะเป็นหุ้นส่วน เพราะเขาคือภรรยาเพียงคนเดียวของ คิม จงอิน ขอบคุณที่ทำให้คนธรรมดาๆอย่างเขามีความมั่นใจมากขึ้น และถ้าจะให้เอ่ยอะไรสักคำ...โอ เซฮุนก็อยากจะบอกกับเจ้าของอ้อมกอดตอนนี้ว่า.....
“เซฮุนรักพี่จงอินที่สุด...”
ขอบคุณอะไรก็ตาม...ที่ทำให้เราได้มาพบกัน
ขอบคุณเซฮุน...ที่รักสามีมากถึงเพียงนี้
ขอบคุณพี่จงอิน...ที่ทำให้ภรรยามีความสุข
แล้วก็ขอบคุณฮิโรกิ...ที่ทำให้ครอบครัวของเราสมบูรณ์แบบ ♥
-End-
100%
Cr. ภาพในตอนจบ : IG> wonguy974 @ Hotle Plaza Athenee และ ru.weddbook.com
Talk.
จบแล้วค้าาาาาา (เช็ดน้ำลาย เอ้ยย!!!...เช็ดน้ำตา)
ขอบคุณนักอ่านที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ และต้องขอบคุณมากกกกกก...เป็นพิเศษ สำหรับนักอ่านที่ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก ขอบคุณจริงๆค่ะ (กราบตัก)
อาจมีคำถาม...
จบเร็วไปไหมคะ??
ตอบ...ไม่เร็วสำหรับเรานะคะ เพราะคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
จะมีSS3ไหมคะ??
ตอบ...จบจริงๆแล้วค่ะ ไม่มีSS3แน่นอน100% ไม่คืนคำ
จะมีเล่มไหมคะ??
ตอบ...ไม่มีอีกเช่นกันค่ะ แต่ของขวัญมีแน่นอน...แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้นะคะ
จะมีตอนพิเศษไหมคะ??
ตอบ...ก็ไม่มีอีกเช่นกันค่ะ(ในตอนนี้) แต่ในอนาคตไม่แน่นะคะ ^^)
ขอบคุณนักอ่านทุกคน ขอบคุณคอมเม้นท์ ขอบคุณกำลังใจแสนดี และขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่มอบให้กับฟิคเรื่องนี้
รักนะคะ ♥
#ดอกไม้ของเจ้านาย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จะติดตามผลงานต่อไปนะคะไรท์สู้ๆ