ตอนที่ 39 : ✿✿ 2 (+Talk)
-2-
หมู่บ้านชิซะกะ ญี่ปุ่น
05.00 น.
กริ๊กกก!!
“อื้อออ!”
เป็นเวลาที่ต้องตื่นในทุกๆเช้า...และถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่การเป็นแม่ของเด็กอายุแปดขวบ มันทำให้ต้องตื่นมาทำอาหารหรือทำอะไรอีกหลายๆอย่าง ทั้งซักผ้า กวาดบ้าน เตรียมปุ๋ยบำรุงดอกกุหลาบในสวน ซึ่งงานแบบนี้...ก็ใช่ว่าจะทำให้เสร็จได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แล้วถ้าวันใดวันหนึ่งตื่นสาย งานบางอย่างอาจทับถมพอกพูนจนต้องเอาไว้ทำในวันถัดไป มือบางกดปิดไฟตรงหัวเตียงก่อนลุกขึ้นจากที่นอนอย่างช้าๆ เพราะเกรงว่าคนข้างกายจะตื่น แต่.........
“เซฮุนนน”
“อ๊ะ พี่จะ...จงอิน?!!”
จุ้บบ!!!
ยังไม่ทันได้ลุกออกไปไหน...เสียงทุ้มที่เรียกหาพร้อมการถูกดึงเข้าสู่อ้อมแขน แล้วตามมาด้วยรอยจูบบนผิวเนื้อบริเวณลำคอ ก็ทำให้ร่างกายอ่อนระทวยเกินจะต่อต้าน การเป็นแม่เหนื่อยแค่ไหน ก็สู้การเป็นภรรยาของหนุ่มผิวเข้มไม่ได้ เพราะตั้งแต่สามีกลับมาจากโรงแรมเมื่อคืน เขาก็ถูกมอบบทรักจนเกือบตีหนึ่ง และว่าจะจบเพลงรักบทแรกก็เกือบตีสอง แต่ทุกอย่างก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เนื่องจากอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา เพลงรักก็ได้เริ่มบรรเลงอีกครั้ง อีกครั้งจนกระทั่งตีสี่ และตอนนี้...ร่างกายที่ถูกสามีมอบความต้องการให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็กำลังหมดแรงไปพร้อมๆกับรสสัมผัสที่เอาแต่ใจ
“เซฮุนนนน”
“อ๊ะ!!..พี่จงอิน”
“ซี้ดดด!!...”
“ได้โปรด...เซฮุนไม่ไหว ละ...แล้วครับ”
“อื้มมมม”
“พะ...พอแล้วครับ เซฮุนเจ็บ อ๊ะ!! อ๊ะ!”
เหนื่อยแทบขาดใจ...และรู้สึกปวดขาเกินจะทนไหว แต่คนที่อยู่ด้านบนกลับไม่ฟังเสียงที่เอ่ยห้ามเลยแม้แต่น้อย แถมยังส่งแรงมากขึ้น สะโพกอวบก็ถูกบีบแรงขึ้น รวมถึงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงก็แทบไม่เหลือพลังจะทัดทาน เซฮุนไม่เข้าใจ...ว่าทำไมสามีถึงได้ทำกับเขาเช่นนี้ ทำเหมือนโกรธ ทำเหมือนกลั่นแกล้ง ทำเหมือนภรรยาคนนี้เป็นเพียงตุ๊กตาที่ไร้ความรู้สึก
มือบางจิกเกร็งอยู่บนหมอนใบโต...พร้อมกับซบใบหน้าเรียวสวยเพื่อเก็บซ่อนอาการ เพราะมันทั้งเจ็บและเกรงว่าการถูกโหมความต้องการมากขนาดนี้จะทำให้ป่วยไข้ ลูกก็ต้องเลี้ยง บ้านก็ต้องดูแล พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องการดอกกุหลาบในสวน แต่ตอนนี้...เซฮุนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ตัวเองจะสามารถทำหน้าที่ทั้งหมดนั้นไหวหรือไม่!!!??
“ซี้ดดด!! อ่าห์!”
“พี่จงอิน อ๊ะ!! พอแล้วครับ ดะ...เดี๋ยวเซฮุนทำอาหารเช้าให้ลูกไม่ทัน”
“อีกรอบไม่ได้เหรอ?”
จุ้บบบ!!
“อื้มมม...ไม่ได้ครับ พี่จงอินปล่อยเซฮุนก่อนนะ แล้วคืนนี้เซฮุนจะยอมพี่จงอินทุกอย่างเลย”
เอ่ยปรามไม่ค่อยถนัด...เพราะถูกปากหยักจู่โจมไม่หยุด และส่วนถูกเติมเต็มจนแทบหมดแรงก็ยังไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ คนเป็นภรรยาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามีหยุดความต้องการเอาไว้ก่อนที่ลูกชายจะตื่น และอาหารเช้าก็ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำเลยสักอย่าง มือบางดันแผ่นอกเปลือยเปล่าของคนด้านบนเอาไว้ แล้วขอต่อรองโดยการจะชดเชยทุกอย่างให้สามีในคืนนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีแรงเหลือพอหรือไม่ แต่......
“เดี๋ยวเซฮุนก็ให้ลูกมานอนด้วย...พี่ก็อดอีก”
เบื่อคนรู้ทัน...เพราะเซฮุนคิดแบบนั้นจริงๆ และใช่ว่าอยากขัดใจผู้เป็นสามี แต่การถูกกระทำอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง มันพาลให้ปวดร้าวไปหมดทั้งตัว แถมขาข้างที่ถูกผ่าตัดก็เริ่มส่งสัญญาณไม่สู้ดี แต่สุดท้าย...ร่างสวยที่ไร้อาภรณ์มาตั้งแต่เมื่อคืน ก็ถูกมอบบทรักให้อีกครั้ง ขาเรียวถูกยกพาดบนบ่าแกร่งก่อนเรือนกายบอบบางจะเคลื่อนไปตามแรงที่ถูกคนเอาแต่ใจมอบให้ เสียงครางหวานดังก้องไปทั่วห้องในยามเช้า ซึ่งมันเช้าจนเริ่มรู้สึกอายดวงอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า
“ดะ...ได้โปรด อ๊ะ!!”
“อื้มมม เซฮุนนน”
“พะ...พอแล้ว อ๊ะ!! พี่จงอิน”
“ซี้ดดด!! อ่าห์!”
จากหน้าที่ที่มีมากอยู่แล้ว...วันนี้กลับมีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง เพราะคราบเปื้อนของความต้องการที่ถูกปลดปล่อยออกมาหลายต่อหลายครั้ง มันทำให้ต้องซักผ้าปูที่นอนรวมถึงผ้าห่มผืนใหญ่ แต่ตอนนี้...คนเป็นภรรยาต้องรีบทำความสะอาดร่างกายของตัวเองเป็นอันดับแรก เพราะต้องไปทำอาหารเช้าให้ลูกชาย เซฮุนค่อยๆยันกายลุกขึ้นจากเตียงเมื่อบทรักสิ้นสุดลง และเดินอย่างระมัดระวังเพื่อจะไปให้ถึงห้องน้ำโดยไม่หกล้ม ขามันสั่นเกินจะควบคุม แถมยังรู้สึกปวดตึงตรงส่วนที่เคยถูกผ่าตัด ดีที่สามีหยุดความต้องการไว้แค่นั้น เพราะขืนยังต่อบทรักอีกเพียงครั้งเดียว ภรรยาคนนี้คงเดินไม่ได้ไปอีกหลายวัน
...
...
...
...
...
08.21 น.
แป๊กกก!!!
มือบาง...เปิดความร้อนบนเตาทั้งสองด้านเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัว และเริ่มทำมื้อเช้าเตรียมไว้ให้ลูกชายกับสามีเหมือนเช่นทุกวัน แต่กว่าจะได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย มันก็ต้องใช้เวลานานกว่าปกติ เพราะส่วนที่ถูกเติมเต็มมันฉีกจนต้องทายา แล้วการที่ต้องนำสิ่งที่สามีฝากเอาไว้ในร่างกายออกมาให้หมด ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ ทำแรงก็เจ็บ เอาออกไม่หมดก็ครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ถ้าไม่เอาออกก็ต้องป่วยแน่นอน และการเกิดมาเป็นภรรยาของ คิม จงอิน มันก็ทำให้เซฮุนรู้ว่า ตัวเองต้องแข็งแรงอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้น...อาจตายคาเตียงเข้าสักวัน
ขอบคุณวันหยุดสุดสัปดาห์...ที่ทำให้ลูกชายตื่นสายกว่าวันปกติ เพราะอาหารเช้ามื้อนี้เพิ่งได้เริ่มทอดไข่เป็นอย่างแรก ไส้กรอกยังไม่ถูกหั่นและยังไม่ได้แปลงร่างให้เป็นรูปปลาหมึก ส่วนไข่ลวกของผู้เป็นพ่อก็ยังไม่ได้ลวกเลยสักฟอง แถมน้ำร้อนก็ยังไม่เดือดพอจะให้ชากาแฟ ขาเรียวก้าวไปที่เย็นก่อนคว้านมสดออกมาและเทใส่แก้วเตรียมเอาไว้ ขนมปังสองแผ่นถูกใส่ลงไปในเครื่องเพื่อทำให้กรอบ แล้วเนยกับแยมรวมถึงตะกร้าที่มีทั้งซอสมะเขือเทศ ซอสถั่วเหลืองหรือพริกไทย ก็ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร แต่ทุกอย่าง...ก็ต้องทำไปด้วยความเชื่องช้า เพราะเกรงว่าส่วนนั้นจะช้ำไปมากกว่าเดิม
แกร๊กกก!!!
“อรุณสวัสดิ์ฮะคุณแม่!!”
“อรุณสวัสดิ์ครับฮิโรกิ”
เสียงปิดประตู...ที่มาพร้อมกับคำทักทายในยามเช้าของเด็กแปดขวบ ทำให้เซฮุนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที แต่โต๊ะอาหารที่วางเปล่ากลับทำให้คนเป็นลูกเกิดความสงสัย ฮิโรกิรีบเดินเข้าไปในห้องครัวด้วยความร้อนรน เพราะอยากทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า...คุณแม่จะป่วยอีกครั้ง??? และอ่างล้างจานก็กลายเป็นที่ทดสอบความสงสัย เด็กน้อยปีนป่ายขึ้นไปยืนอยู่ในอ่างก่อนวางมือลงบนหน้าผากของแม่เพื่อวัดไข้ ซึ่งเซฮุนก็กำลังยืนหั่นไส้กรอกอยู่ตรงนั้นพอดี
“ตัวก็ไม่ร้อนนิฮะ แล้วทำไมวันนี้คุณแม่ตื่นสาย?”
“เมื่อคืนแม่รอแด๊ดดี้ครับ แด๊ดดี้กลับดึกมากกก...แม่ก็เลยตื่นสาย”
“แด๊ดดี้โตแล้ว ทีหลังแม่ไม่ต้องรอนะฮะ เดี๋ยวก็ไม่สบายอีก”
“แม่ขอโทษนะครับ ฮิโรกิหิวแล้วใช่ไหม??”
“ยังไม่หิวเลยฮะ แต่ผมเป็นห่วงแม่ แม่ไม่ควรนอนดึกนะฮะ...มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
อาหารเช้ามื้อนี้อาจช้ากว่าเดิม...เพราะคนเป็นแม่กำลังถูกอ้อมกอดของความห่วงใยโอบเอาไว้ ทั้งๆที่ในมือก็ยังหั่นไส้กรอกไม่เสร็จ ทราบอยู่เต็มอกว่าการโกหกเป็นสิ่งไม่ดี แต่ถ้าให้พูดความจริงก็เห็นจะเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เซฮุนจึงจำเป็นต้องเอ่ยชื่อคนต้นเหตุของการตื่นสายขึ้นมากล่าวอ้าง คนเป็นแม่อุ้มลูกชายออกมาจากอ่างล้างจานก่อนความเป็นห่วงที่ปะปนมากับความซนจะพาให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ แต่....
“โอ๊ยยย!!”
ลืม...ว่าตัวเองถูกทำอะไรไว้บ้าง และการอุ้มฮิโรกิโดยไม่ทันระวัง ก็ส่งผลกระทบถึงส่วนที่ฉีกขาด มือบางรีบเกาะขอบอ่างหินอ่อนเอาไว้ก่อนที่ร่างกายจะทรุดลงไปกับพื้น ซึ่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับเสียการทรงตัวเล็กน้อย ก็ทำให้ลูกชายรู้สึกตกใจ
“แม่!!!...แม่เป็นอะไรฮะ แม่เจ็บตรงไหน???”
“แม่ปวดขานิดหน่อยครับ”
“แม่ไปนั่งพักก่อนนะฮะ เดี๋ยวผมจะไปปลุกแด๊ดดี้ เราไปหาหมอกันนะฮะ”
“ไม่เป็นไรครับ แม่ปวดนิดเดียวเอง ฮิโรกิไม่ต้องไปปลุกแด๊ดดี้หรอกครับ”
เอ่ยห้าม...ก่อนที่ลูกชายจะเข้าไปรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณพ่อ และพยายามทำตัวให้กระฉับกระเฉงโดยการแปลงร่างไส้กรอกให้เป็นสัตว์น้ำมีหนวด คนเป็นแม่ไม่อยากให้ฮิโรกิต้องเป็นกังวล รวมถึงทราบดีว่างานโรงแรมกำลังวุ่นวายมากแค่ไหน เพราะการที่สามีไม่ได้กลับบ้านมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ มันก็ควรจะเป็นเหตุผลที่คนงานยุ่งควรจะได้พักผ่อน ส่วนเรื่องที่ถูกโหมความต้องการจนแทบหมดแรงยืน ก็คงต้องเอาไว้คุยกันทีหลัง
“งั้นผมขอช่วยแม่ทำอาหารได้ไหมฮะ??”
“ได้เลยครับ...คนเก่งของแม่”
มือน้อยๆ...ที่กำมีดขนาดเล็กโดยมีมือของคุณแม่จับเอาไว้ กำลังหั่นไส้กรอกด้วยความตั้งใจ แล้วตามมาด้วยการช่วยกันทอดทุกอย่างไปด้วยความสนุกสนาน แฮม เบค่อนพร้อมไข่ดาวสองฟอง ถูกตักใส่จานและนำไปวางไว้บนโต๊ะเป็นอันดับแรก ส่วนไข่ลวก...ก็ต้องทำเพิ่มจากสองฟองเป็นสี่ฟอง เพราะคนที่ถูกสูบพลังไปจนเกือบหมดแรง ก็ต้องการอาหารเช้าที่มากกว่าขนมปังปิ้งสองแผ่นกับนมร้อนหนึ่งแก้ว
แต่เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว...สิ่งที่ขาดกลับเป็นคนสำคัญอย่างคุณพ่อขี้เซา
กาแฟร้อน...ถูกอุ่นด้วยไมโครเวฟเป็นรอบที่สอง และไข่ลวกกับอาหารเช้าที่ลูกชายช่วยคุณแม่ทำอย่างสุดฝีมือก็เริ่มเย็นชืดตามเครื่องดื่มรสหวานสีชมพู ฮิโรกิไม่ยอมตักสิ่งใดเข้าปากเลยสักคำ เพราะอยากทานพร้อมหน้าพร้อมตากันเหมือนอย่างที่เคยเป็น แถมการที่คุณพ่อไม่ได้กลับบ้านมานานถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็ยิ่งทำให้อาหารมื้อนี้ดูเหมือนจะสำคัญกว่าวันไหนไหน และสิ่งที่ลูกชายรอคอยก็พลอยทำให้คุณแม่ทานอะไรไม่ลงเช่นกัน
“คุณแม่...เมื่อไหร่แด๊ดดี้จะตื่นฮะ?”
“ฮิโรกิกินก่อนเลยครับ แด๊ดดี้ทำงานเยอะ...แด๊ดดี้คงเหนื่อย”
“NO!!! I miss Daddy!”
เมื่อคืนก็ไม่ได้เจอหน้าคุณพ่อ...เพราะหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ แถมการตื่นมาในเช้านี้ก็ยังไม่ได้ทานอาหารด้วยกันอีก ฮิโรกิจึงงอแงทั้งๆที่เป็นเด็กดีและเชื่อฟังเซฮุนมาตลอด ลูกก็ห่วง สามีก็ห่วง...แต่คนที่เป็นทั้งแม่ทั้งภรรยา ก็ไม่รู้จะต้องทำเช่นไรในสถานการณ์แบบนี้ แล้วการนั่งอยู่บนเก้าอี้นานๆก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อส่วนที่เพิ่งทายาหลังการอาบน้ำ มันเจ็บก้นและเจ็บใจในเวลาเดียวกัน เพราะตอนนี้ฮิโรกิยังไม่ยอมทานอะไรสักคำ แล้วเอาแต่จ้องประตูห้องนอนของคุณพ่ออยู่อย่างนั้น
“ฮิโรกิ...กินก่อนเถอะครับ ไม่ต้องรอแด๊ดดี้ก็ได้”
“NO!!!”
“มะ...แม่!!”
แกร๊กกก!!!
“Daddy!!!”
กำลังจะตักเตือนลูกชายเป็นครั้งที่สอง...แต่เสียงเปิดประตูกับคนที่เดินหัวฟูออกมาจากห้องนอน กลับดึงความสนใจไปก่อน แถมยังสามารถเรียกรอยยิ้มจากฮิโรกิได้เป็นอย่างดี เก้าอี้ด้านซ้ายถูกเลื่อนออกก่อนคนเป็นพ่อจะนั่งลงเพื่อทานอาหารเช้าด้วยกัน แต่การทานอาหารเช้า...โดยไร้เสียงพูดคุย ไร้การไถ่ถาม หรือไร้ซึ่งบทสนทนาใดใด ก็ทำให้เซฮุนรู้สึกว่ากำลังมีบางอย่างผิดปกติ และเป็นสิ่งที่ควรจะปรับความเข้าใจให้เร็วที่สุด เพราะถ้าปัญหามันบานปลายไปมากกว่านี้ ก็อาจส่งผลไม่ดีต่อคนในครอบครัว
14.12 น.
!!!!!!!
!!!!!!!
เสียงเครื่องดูดฝุ่น...หรือการทำความสะอาดบ้าน อาจเป็นการรบกวนสมาธิคนที่กำลังวุ่นอยู่กับเอกสารกองโตในห้องโถง และถึงแม้ร่างกายจะอ่อนแรงจนแทบไม่อยากเดิน แต่มันก็ต้องทำเพื่อดับความฟุ้งซ่าน เซฮุนหงุดหงิดที่คนเป็นสามียังเงียบ แถมยังไม่ยอมพูดถึงสิ่งที่อาจเป็นปัญหา ถามไม่ตอบ เอ่ยไม่กล่าว แล้วก็เอาแต่หมกตัวอยู่กับแฟ้มหลากสีบนโต๊ะตัวใหญ่ ดีที่ลูกชายไม่นึกสงสัยเหมือนที่แม่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นฮิโรกิอาจร้องไห้จนมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นอีกหนึ่งเรื่อง
“แม่ฮะ...ผมขออนุญาตไปเล่นที่บ้านมาซารุได้ไหมฮะ?”
“ได้ครับ...แต่ฮิโรกิต้องกลับมากินข้าวเย็นที่บ้านนะครับ ห้ามไปรบกวนคุณน้ามิยามิเด็ดขาด”
“ฮะ...แล้วผมก็จะเป็นเด็กดีด้วยฮะ”
“Good boy”
เด็กน้อย...ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาเอ่ยขอออกไปเล่นบ้านเพื่อน ทำให้เซฮุนต้องปิดเครื่องดูดฝุ่นก่อนที่จะฟังกันไม่รู้เรื่อง และใช่ว่าอยากจะอนุญาตให้ลูกชายไปเล่นที่บ้านของคนอื่น เพราะก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เจ้าตัวก็เพิ่งไปเล่นอยู่ในสวนผักของพี่ชายข้างบ้านจนเหงื่อท่วมกาย แต่ที่ไม่ได้ห้ามปราม...ก็เพราะคนเป็นแม่ต้องการเคลียร์ใจกับคุณพ่อให้ทันก่อนที่มื้อเย็นจะมาถึง อาหารเช้าก็ทานร่วมกันโดยไร้เสียงพูดคุย ส่วนมื้อเที่ยงก็ต่างคนต่างทานเนื่องจากสามีเอาแต่ทำงาน แต่สำหรับมื้อเย็น...มันจะต้องกลับมาเป็นการทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุขให้ได้
ต่อให้ต้องตายคาอกก็ยอม ตายคาเตียงก็พร้อม...เพื่อครอบครัวของเรา (สู้!!)
ซักผ้าปูที่นอนเรียบร้อย ทำความสะอาดบ้านเสร็จสรรพ เปลี่ยนดอกไม้จนดูสดชื่นไปทุกซอกทุกมุม ส่วนดอกกุหลาบที่ลูกค้าสั่งไว้...ก็ค่อยออกไปตัดพรุ่งนี้เช้าแล้วนำไปส่งที่ตลาดในตอนเย็นก็ยังทัน และตอนนี้...เซฮุนก็ขอนอนพักเพื่อเก็บพลังงานเอาไว้เคลียร์ใจกับสามี แต่แทนที่จะหลับหรือรู้สึกเพลียจากการทำงานหลายๆอย่างมาครึ่งค่อนวัน มันกลับไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด และที่เป็นแบบนี้ก็อาจเป็นผลมาจากปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ในใจ พี่จงอินเป็นอะไร? ทำไมถึงไม่ยอมพูดไม่ยอมจา?? งานเยอะก็เลยเครียดใช่ไหม??? แล้วสิ่งที่ภรรยาคนนี้ถูกกระทำจนแทบลุกไม่ขึ้น...มันยังเกิดจากความรักอยู่หรือเปล่า????
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
ความสับสน ความสงสัย ความกังวลใจ...มันทำให้เซฮุนจำเป็นต้องโทรไปรบกวนผู้ที่อาจจะให้คำตอบกับตัวเองได้ และถึงแม้คำตอบที่ได้ฟังมันอาจจะไม่ได้คลายความสงสัยให้ทุกปัญหา แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ขาเรียว...รีบก้าวออกจากบ้านก่อนเดินตรงไปที่ท้ายสวนเพื่อหลีกเลี่ยงคนที่กำลังยุ่งอยู่กับงานในห้องโถง
“ว่ายังไงจ๊ะ...หนูเซฮุน?”
(สวัสดีครับคุณแม่...ขอโทษนะครับที่โทรมารบกวน)
“รบกวนอะไรกันจ๊ะ แล้วหนูเซฮุนเป็นยังไงบ้าง...สบายดีไหม??”
(ไม่ค่อยสบายเลยครับ พี่จงอินเป็นอะไรก็ไม่รู้ครับคุณแม่ เมื่อคืนกลับมาจากโรงแรมก็ทำเซฮุนเจ็บไปหมด ห้ามก็ไม่ฟัง...แล้วก็ไม่ยอมพูดกับลูกด้วยครับ ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ คุณแม่ช่วยเซฮุนด้วยนะครับ)
“ตายแล้วว!!!...ทำไมตาจงอินเป็นคนแบบนี้ไปได้ แม่จะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย หนูเซฮุนอย่าร้องไห้นะลูก แล้วหลานแม่เป็นยังไงบ้าง โอ๊ยย....ตาย ๆ ๆ ๆ!!!”
(แล้วที่โรงแรมใหม่มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับคุณแม่? เพราะพี่จงอินดูยุ่งๆ แล้วก็เครียดมากด้วยครับ)
“จะมีอะไรล่ะ...ทุกสาขาก็เรียบร้อยดี แม่ไม่เห็นจะเครียดอะไรเลย โรงแรมที่ฝรั่งเศสก็อีกประมาณสองเดือนน่าจะเสร็จ”
(ไม่มีปัญหา...แต่ทำไมพี่จงอินไม่ค่อยกลับบ้านเลยครับ พี่จงอินไม่ยอมพูดกับเซฮุนเลย คุณแม่ต้องจัดการให้ด้วยนะครับ)
ติ๊ดดด!!!
ถ้าพูดดีด้วยไม่ได้...มันก็ต้องใส่ไฟให้ลุกลามจนหาน้ำมาดับไม่ทัน และเชื้อเพลิงแห่งคำพูดที่มีส่วนจริงอยู่เกินกว่าอรรถรสของใจความบางประโยค ก็ทำให้แม่สามีต้องรีบวางสายโดยไม่มีกล่าวลา มือบางวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะตัวเล็กๆตรงหน้าก่อนเอนกายพักผ่อนอย่างสบายใจ แต่ความสบายใจที่ว่า...มันก็ไม่ได้มีมากจนสามารถลืมเรื่องที่ยังรบกวนจิตใจไปได้ เพราะถึงแม้จะมีคนช่วยเคลียร์เรื่องให้ส่วนหนึ่ง แต่ปัญหาของครอบครัวก็ยังเป็นสิ่งที่เซฮุนต้องปรับความเข้าใจกับสามีด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้...ลมพัดเอื่อยๆในยามสาย แดดอ่อนแสงเหนือท้องฟ้าสีคราม และกลิ่นหอมๆของดอกกุหลาบในบ้านท้ายสวน ก็สามารถทำให้เซฮุนหลับใหลได้อย่างง่ายดาย คนเป็นแม่อาจทำหน้าที่ได้ไม่ดีนักในวันนี้ เพราะการที่สามีไม่ยอมคุยด้วย มันพาลให้ลูกชายอดไปเที่ยวในวันหยุด และต้องออกไปเล่นที่บ้านเพื่อนแทนการได้อยู่กับคนในครอบครัว ขอโทษ...ที่แม่ยังเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ ขอโทษ..ที่ทำให้วันหยุดของลูกมันไร้ความหมาย ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ
หลับไปทั้งน้ำตา...เพราะถูกความวิตกกังวลในเรื่องต่างๆเล่นงานจนเผยความอ่อนแอออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่น้ำสีใสที่กำลังเปรอะเปื้อนแก้มนุ่ม กลับถูกเช็ดออกด้วยมือของผู้ที่ถูกสายตรงจากประเทศจีนโทรมาโวยวายจนแทบสำนึกผิดไม่ทัน และการที่คนตรงหน้ายังไม่รู้สึกตัวทั้งๆที่ถูกโอบกอดเอาไว้ด้วยความทะนุถนอม ก็ทำให้เจ้าของอ้อมแขนรู้ได้ทันทีว่าเซฮุนเป็นแบบนี้เพราะใคร
...
...
...
...
...
16.02 น.
“............?”
ความอบอุ่น อ้อมกอดที่คุ้นเคย วงแขนที่โอบกระชับจากทางด้านหลัง ทำให้คนที่ขอหลับเอาแรงอยู่ในบ้านท้ายสวนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เพราะเมื่อคืนเขาไม่ได้รับความอบอุ่นเช่นนี้เลยสักนิด แถมยังถูกโหมความต้องการจนถึงรุ่งสาง เซฮุน...ค่อยๆพลิกกายอย่างระมัดระวังเพื่อจะได้มองใบหน้าคมเข้มชัดขึ้น
มือบางลูบแก้มสากอย่างอ่อนโยนและรู้สึกหลงเสน่ห์สามีซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้งที่มอง ถึงจะมีความสับสน มีปัญหา หรือยังมีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่อีกมากมาย แต่ภรรยาคนนี้ก็ยังรักผู้ชายที่ชื่อ คิม จงอินเสมอ อยากโกรธ...แต่ก็โกรธไม่ลง อยากงอน..แต่ก็กลัวว่าจะไม่ง้อ และอยากทุบตีให้สมกับสิ่งที่ถูกกระทำ แต่ก็เกรงว่า...เจ้าของอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นจะเสียใจ
รักมากกว่านี้ก็คงต้องเป็นบ้า และไม่รู้ว่าวันไหน...มันจะบ้าเหมือนอย่างที่คิด?
“หลับสบายไหมครับคุณแม่คนเก่ง?”
“เซฮุนทำให้ตื่นเหรอครับ?”
“ถามอีกอย่าง ตอบอีกอย่าง”
ฟอดดดด!!!
ใครจะหลับลง...ในเมื่อมีกลิ่นกายหอมๆกับผิวนุ่มๆอยู่ในอ้อมอก แถมปัญหาที่ตัวเองก่อไว้ก็ยังพาลให้ไม่อาจพักความคิดเอาไว้ได้ แก้มเนียนของภรรยา...ถูกฝังความคิดถึง คำขอโทษ และรวมถึงอีกหลายๆความรู้สึกที่อยากส่งผ่าน จงอินไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฟังเช่นไร เพราะมันเป็นเรื่องที่ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่ผู้ชายวัยสามสิบปลายๆจะเอ่ยได้ การถูกงานรุมเร้าจนไม่สามารถกลับบ้านได้ทุกวัน มันพาลให้สามีคนนี้ฝันร้าย แล้วคนที่ได้รับผลกระทบจากฝันพวกนั้นก็คือ...คนที่เขารักมาที่สุดในชีวิต
“เซฮุนจะพาลูกไปอยู่เชจู...พี่จงอินอยากทำงาน อยากสร้างโรงแรม อยากไปกินเลี้ยงกับลูกค้าก็เชิญเลย เซฮุนจะไม่อยู่ด้วยแล้ว มันน่าเบื่อ!!!!!”
“นี่สามีคนใหม่ของเซฮุน...คุณจงอินไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเซฮุนอีกแล้ว ต่อไปนี้เราจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!!”
“ผมไม่อยากอยู่กับแด๊ดดี้แล้ว...แด๊ดดี้ไม่รักแม่ ผมเกลียดแด๊ดดี้!!!!!”
ฝันร้ายตลอดหนึ่งอาทิตย์...ทำให้คนที่เป็นทั้งสามีและคุณพ่อแทบเป็นบ้า อยากกลับบ้านใจจะขาด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะการที่โรงแรมใหม่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ มันทำให้ต้องอยู่ตรวจเอกสาร ต้องประชุมทางไกล ต้องทำอะไรอีกหลายๆอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะเปิดอย่างเป็นทางการและให้สมเกียรติของตระกูลคิม หุ้นส่วนยิ่งมาก ปัญหาก็มากตามมาด้วย แถมการไม่ได้ไปทำทุกอย่างด้วยตัวเองที่ฝรั่งเศส ก็เป็นเหตุให้การติดต่อประสานงานต้องล่าช้าไปบ้างในบางคราว
“พี่จงอินรักเซฮุนไหมครับ?”
“รักสิครับ รักมากๆ...รักจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว”
“ถ้ารัก...ก็ต้องไม่มีเรื่องปิดบังกัน พี่จงอินมีปัญหาอะไรก็เล่าให้เซฮุนฟังบ้างสิครับ เซฮุนเป็นเมียนะ...เซฮุนมีสิทธิ์จะรู้ทุกเรื่องของสามี”
ปากหยัก...ยกยิ้มจนแทบฉีก เพราะคำว่า “เมีย” ที่ได้ยินเต็มสองหูพร้อมกับใบหน้าเรียวสวยที่กำลังออกอาการงอแง มันทำให้จงอินมีความสุขมากที่สุด เหมือนคนเป็นโรคจิต...ที่เห็นภรรยางอแงแล้วยิ้มได้ เห็นดวงตาคู่สวยเริ่มแดงคล้ายจะร้องไห้ก็ยิ่งชอบ หรือเห็นปากบางสีหวานเบะคว่ำก็ยิ่งได้ใจ ความฝันกับความจริงมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เพราะต่อให้สามีเอาแต่ใจแค่ไหน คนในอ้อมกอดตอนนี้ก็ยังรักเขาเสมอ ให้อภัยกันเสมอ และเป็นห่วงเป็นใยมาโดยตลอด ขอบคุณที่รักเขามากถึงเพียงนี้ ขอโทษที่โหมความต้องการให้จนร่างกายอ่อนแรง แล้วก็...ขอบคุณอีกครั้งที่ยังรักกันไม่เปลี่ยนแปลง
“พี่ฝันร้ายครับ...พี่ฝันว่าเซฮุนทิ้งพี่ไปอยู่กับคนอื่น”
“โธ่...มันก็แค่ฝันร้ายนะครับ เซฮุนจะไปอยู่กับคนอื่นทำไม เซฮุนรักพี่จงอินนะครับ รักทุกวัน รักมากๆ รักที่สุด”
จุ้บบ!!
จุ้บบ!!
จุ้บบ!!
หน้าผากของคนฝันร้าย...ถูกปลอบขวัญด้วยจุมพิตที่แสนอ่อนโยนและไล่เลื่อนลงมาถึงแก้มสาก ปากหยักและจบลงที่อกกว้างด้านซ้าย บอกแล้ว...ว่าถ้ารักมากกว่านี้ก็คงเป็นบ้าตาย เพราะกว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคมาตั้งมากมาย หรือกว่าจะผ่านพ้นเรื่องราวร้ายๆมาจนถึงทุกวันนี้ มันก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดถ้าไม่มีจงอินคอยอยู่เคียงข้าง ถูกยิงจนเดินไม่ได้ นอนอยู่โรงพยาบาลเกือบปี ทะเลาะกันจนแทบจะต้องเลิกราก็เคย แต่ทุกๆอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีเสมอ และปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้...มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีเช่นกัน
“แล้วลูกไปไหน...พี่หาตั้งนานไม่เจอ”
“ไปเล่นที่บ้านมาซารุครับ”
“ลูกโกรธพี่หรือเปล่าก็ไม่รู้?”
“ไม่โกรธหรอกครับ แต่ก็มีงอแงบ้าง...แกคิดถึงพี่จงอินมากนะครับ เมื่อเช้าจะไม่ยอมกินข้าวถ้าพี่จงอินไม่ออกมากินด้วยกัน”
“พี่ขอโทษนะครับคนดี งานมันเยอะ...พี่ก็เครียดมากไปหน่อย”
“แล้วมีอะไรที่เซฮุนพอจะช่วยได้บ้างไหมครับ...พี่จงอินจะได้ไม่เครียด”
“ได้กอดเมียก็หายเครียดแล้วครับ”
“งั้นก็...กอดแน่นๆเลยนะครับ”
แค่เป็นเซฮุนในทุกวันนี้...มันก็มากพอแล้วสำหรับผู้เป็นสามี เพราะการเป็นภรรยาที่ดี การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่น่ารัก การช่วยดูแลทุกอย่างภายในบ้านให้เรียบร้อย ทุกๆอย่างคือสิ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของเขาได้มากเหลือเกิน ถ้าให้เปรียบเทียบกับสิ่งที่เซฮุนมอบให้...คำว่าขอบคุณมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ และการตอบแทนความดีทั้งหมด...ก็คือการโอบกอดกันไว้ด้วยความรัก พร้อมกับความเข้าใจ ปรับความรู้สึกนึกคิด รวมถึงปรับนิสัยบางอย่างให้ดีขึ้นเพื่อคนที่เรารัก
18.36 น.
แป๊กกก!!
ความร้อนบนเตาด้านหนึ่ง...ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง เพราะตอนนี้มันคือเวลาของอาหารเย็น ผักสดถูกหั่นเตรียมไว้เรียบร้อย เนื้อสัตว์ก็พร้อมแล้ว ทุกอย่างก็ถูกใส่ลงไปในกระทะทันที บล็อกโคลี่ผัดแฮมเป็นสิ่งที่ลูกชายชอบทาน และมื้อเย็นมื้อนี้ก็จะมีของชอบของทุกคนในครอบครัวเหมือนอย่างเช่นเคย เนื้อวัวหมักซอสสูตรพิเศษของคุณพ่อ ซุปสาหร่ายกับเต้าหู้เนื้อนิ่มของคุณแม่ ส่วนของหวานก็คือผลไม้หลากหลายชนิด สตอว์เบอร์รี่ ลูกพลับ และองุ่นม่วงไร้เมล็ดพวงใหญ่ แต่....
“อ๊ะ!!”
“หอมจังเลยครับ...คุณแม่คนเก่ง (จุ้บ)”
ตกใจ...จนเกือบทำผัดผักที่กำลังเทใส่จานหกลงพื้น เพราะถูกสามีจู่โจมด้วยการจูบตรงลำคอจากทางด้านหลัง พร้อมการโอบกอดเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน ส่วนคนที่เพิ่งจัดการกับเอกสารกองโตเรียบร้อย ก็ไม่รู้ว่ากลิ่นของอาหารหรือว่ากลิ่นของแม่ครัวมันหอมกว่ากัน ปากหยักประทับรอยซ้ำๆจนเซฮุนต้องขยับกายหนี เนื่องจากกระทะที่ตั้งอยู่บนความร้อนมันเริ่มมีควันลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
“พี่จงอินปล่อยเซฮุนก่อนนะครับ กระทะมันจะไหม้แล้ว”
“ไม่ปล่อย...คิดถึงจะแย่ ไม่ได้กลับบ้านมาตั้งหนึ่งอาทิตย์ พี่อยากกอดเมียจะตายอยู่แล้ว”
“ปล่อยแป้บนึงนะครับแด๊ดดี้ เดี๋ยวเซฮุนทำอาหารเสร็จแล้วจะให้กอดเต็มที่เลยครับ”
“จริงนะ...?”
“จริงสิครับ...สัญญาเลย”
“งั้นพี่ช่วยจัดโต๊ะนะครับ”
“พี่จงอินไปรับลูกให้เซฮุนดีกว่า เย็นป่านนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีก”
“โอเคครับผม!!!”
ฟอดดด!!!
ฟอดดด!!!
อยากกอดต่ออีกหน่อย...แต่ก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง และเป็นเพราะตัวเองยังมีความผิดเรื่องที่ทำร่างกายของภรรยาบอบช้ำ สามีคนนี้จึงต้องรีบไปรับลูกชายก่อนที่ฟ้าจะมืดไปมากกว่านี้ แก้มนุ่มทั้งสองข้างถูกหอมจนยุบไปตามแรงของความคิดถึง ร่างสวยที่โอบไว้ก็ต้องคลายด้วยความจำยอม แต่กลิ่นกายหอมๆดั่งกุหลาบแรกแย้มก็ยังติดตรึงอยู่ในทุกประสาทสัมผัส ขายาวสมส่วน...รีบก้าวออกไปจากห้องครัวด้วยเกรงว่าผิวเนื้อขาวเนียนของภรรยาจะพาลให้อดใจไม่ไหว
เซฮุนได้แต่ส่ายศีรษะไปมาด้วยความอ่อนใจ...เพราะไม่คิดว่าจงอินจะเป็นเอามากถึงเพียงนี้ แค่ความฝันบ้าๆบอๆ ก็ทำให้เขาถูกทำอะไรต่อมิอะไรจนระบมไปทั้งตัว แถมยังถูกกอดถูกหอมและไม่ยอมปล่อยให้อยู่ห่างกันเลยแม้แต่นาทีเดียว อยากให้อยู่ใกล้ๆ อยากให้อยู่ในสายตา อยากให้มองไปตรงไหนก็เห็นแต่ภรรยาคนนี้ เซฮุนจึงอดที่จะหัวเราะให้กับความคิดมากของสามีไม่ได้ ทราบดีว่างานเยอะและรู้อยู่เต็มอกว่าจงอินไม่มีทางนอกใจหรือทำตัวนอกลู่นอกทางแน่นอน แต่...การที่ต้องอยู่ห่างกันนานถึงหนึ่งสัปดาห์ มันก็อาจมีบ้างที่ความฟุ้งซ่านจะพาให้คิดอะไรไม่เข้าเรื่อง แล้วสาเหตุของความห่างไกลก็เป็นผลให้สามีฝันร้าย
...
...
...
ปังงง!!!
“คุณแม่...ผมกลับมาแล้วฮะ!!”
เสียงปิดประตูบ้าน...ที่มาพร้อมกับเสียงของลูกชาย ทำให้รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวสวย และอาหารเย็นมื้อนี้ก็เสร็จทันเวลาพอดี เซฮุนวางถ้วยชามลงบนโต๊ะก่อนโผเข้ากอดเด็กน้อยด้วยความเป็นห่วง เพราะสภาพของฮิโรกิมันมอมแมมไปด้วยเศษดินเศษทราย ตกลงไปเล่นบ้านเพื่อนหรือแอบไปที่ไหนกันแน่ ทำไมตัวถึงได้เปรอะเปื้อนแบบนี้ ส่วนคนที่ถูกใช้ให้ออกไปตามลูกชายกลับมา ก็ได้แต่ยืนมองคนในครอบครัวด้วยความปลื้มใจ และมีความอิจฉาปะปนมาเล็กน้อย(เล็กมากๆ) เนื่องจากฮิโรกิดูจะรักเซฮุนมากว่าเขา
“ทำไมตัวเปื้อนขนาดนี้ครับ ไปเล่นที่ไหนมา...บอกแม่มาเดี๋ยวนี้!”
“เอ่ออ คือ....”
“ฮิโรกิ...อย่าโกหกแม่เด็ดขาด ถ้าโกหกแม่จะตี”
(แด๊ดดี้!!!...)
จากที่ปลื้มใจ จากที่อิจฉา และจากที่ได้ยินเสียงคุณแม่คนเก่งว่ากล่าวลูกชาย...เด็กแปดขวบก็รีบวิ่งมาหาพ่อคนนี้เหมือนเช่นทุกครั้ง มือน้อยๆกอดคอจงอินเอาไว้แน่น พร้อมซบใบหน้ารู้สึกผิดไว้บนบ่ากว้าง ฮิโรกิไม่ได้อยากโกหก...แต่ถ้าให้พูดความจริงก็คงต้องถูกดุอยู่ดี เจ้าตัวจึงไม่กล้าบอกว่าไปเล่นที่ไหนหรือไปทำอะไรมาบ้าง
“เป็นลูกผู้ชาย...ทำผิดก็ต้องกล้ารับผิดสิครับ เชื่อพ่อนะ แม่เค้าไม่โกรธหรอก”
คนเป็นพ่อ...รีบสั่งสอนคนในอ้อมอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมกับโยกตัวไปมาเพื่อปลอบขวัญ จงอินไม่อยากดุด่าว่ากล่าวลูกชายในตอนนี้ เพราะถ้าเขาทำเช่นนั้นอีกคน ฮิโรกิอาจร้องไห้จนป่วยไข้ ถ้าเซฮุนดุลูกเมื่อไหร่ เขาก็จะเป็นคนปลอบทุกครั้ง แต่ก็น้อยครั้ง...ที่จะเห็นคุณแม่คนเก่งว่ากล่าวลูกชายด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“คุณแม่ U_U ”
“แม่รอฟังอยู่ครับ”
“ผมไปเล่นที่ทะเลสาบกับมาซารุฮะ”
“ฮิโรกิจะให้แม่ทำโทษยังไง ไหนบอกมาซิ!!”
“ไม่ทำโทษไม่ได้เหรอฮะ ผมขอโทษ...ที่หลังผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
“ถ้าฮิโรกิตกน้ำไป แล้วแม่จะทำยังไง ฮึกก!!...แม่จะอยู่กับใคร ฮึก!”
“ฮึกก!! ไม่ทำแล้ว...ผมจะไม่ ฮึก!! ทำอีกแล้วฮะ!”
(พอแล้วเซฮุน เดี๋ยวลูกไม่สบาย)
มือบางกำแน่นจนรู้สึกได้ว่าเล็บมันจิกลงไปบนผิวหนัง...เพราะเกรงว่าอารมณ์ของความเป็นห่วงจะพาลให้ตีลูกชายจนเกิดริ้ว และคำตักเตือนที่มาพร้อมกับหยดน้ำตาของผู้เป็นแม่ ก็ทำให้จงอินต้องรีบเข้าไปสวมกอดคนทั้งคู่เอาไว้แนบอก ทะเลสาบหลังหมู่บ้านคือสิ่งต้องห้ามสำหรับเด็กทุกคน แต่ถ้าอยากไปเล่นที่นั่นจริงๆ มันต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำมีความลึกมาก แถมยังเย็นจัด แล้วเด็กตัวแค่นี้จะเอาแรงที่ไหนไปสู้ถ้าเกิดเป็นตะคริว หรือถ้าจมน้ำหายไปใครจะช่วยทัน
พากันไปล้างหน้าล้างตา...และกลับมานั่งทานมื้อเย็นกันเหมือนเช่นเคย แต่ในใจของผู้เป็นแม่ก็ยังอดที่จะเคืองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ มันไม่ใช่ความโกรธ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และไม่ใช่เรื่องใหญ่จนถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือ แต่ความเป็นห่วงก็ยังพาลให้อารมณ์ไม่คงที่ เซฮุนจึงพยายามเก็บความรู้สึก ปรับสีหน้า รวมถึงต้องยิ้มออกมาทั้งที่ใจลึกๆยังคงขุ่นมัว เพราะถ้าฮิโรกิเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เขาก็คงต้องตายตามลูกไปเช่นกัน หรือถ้าไม่ตาย...ก็คงต้องอยู่แบบตายทั้งเป็น
“แม่ฮะ...พรุ่งนี้ผมอยากกินข้าวห่อไข่ แม่ทำให้ผมกินหน่อยได้ไหมฮะ?”
“ได้ครับ แต่ฮิโกกิห้ามกินเค้กสามวัน ตกลงไหมครับ?”
“ลดเหลือสองวันได้ไหมฮะ”
“ฮิโรกิทำผิด...แม่ก็ต้องทำโทษนะครับ”
“สามวันก็สามวัน...แล้วแม่โกรธผมมากไหมฮะ”
“แม่ไม่ได้โกรธครับ แต่แม่เป็นห่วง”
“ผมเข้าใจแล้วฮะ”
อยากไปเล่นที่ไหน อยากทานอะไร อยากได้สิ่งใด คนเป็นแม่ไม่เคยห้ามหรือปฏิเสธคำขอของลูกได้เลยสักครั้ง แต่ในเมื่อฮิโรกิทำผิด...เซฮุนจึงจำเป็นต้องทำโทษทั้งๆที่ไม่ได้อยากทำเลยสักนิด และการถูกลงโทษโดยการให้งดของโปรดนานถึงสามวัน ก็ทำให้เด็กที่ชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจรู้สึกเหมือนถูกพรากของรักของหวง แล้วภาพของเค้กส้ม แยมโรลเนื้อนิ่ม หรือมัฟฟินช็อคโกแลตชิ้นโตในตู้เย็นที่คุณพ่อนำมาฝากจากโรงแรม ก็พาให้ผู้ที่ทำผิดถึงกับต้องกลืนน้ำลายแทนการได้ลิ้มรสของโปรด
แต่...การอดทานของหวาน มันก็ยังดีกว่าถูกคุณแม่โกรธเป็นไหนไหน )-:
“มีใครคิดถึงคุณตาบ้างไหมครับ?!!”
“ผมฮะ...ผมคิดถึงคุณตา แล้วก็คิดถึงอาแบคกับอายอลด้วยฮะ!!”
“ปิดเทอมเมื่อไหร่พ่อจะพาไปเที่ยวเชจูทันที”
“เย้ๆ ๆ ๆ”
อยู่ในโหมดแห่งความตึงเครียดมานาน...คนเป็นพ่อจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไม่อย่างนั้นมื้อเย็นมื้อนี้คงทานไม่อร่อยทั้งๆที่เป็นอาหารจานโปรดของทุกคน ส่วนประเด็นที่หยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างก็เป็นเรื่องจริง เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่น พวกเขาก็ไม่ได้กลับไปที่โซลหรือเชจูอีกเลย ยิ่งการเดินทางไปหาคุณย่าที่ประเทศจีนยิ่งไม่ต้องพูดถึง งานที่โรงแรมรัดตัว สวนดอกไม้ของเซฮุนก็ต้องตัดดอกขายเกือบทุกสัปดาห์ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือ...ลูกชายยังไม่ปิดเทอม จงอินจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากการรอให้ทุกคนพร้อมในเวลาที่เหมาะสม
“แล้วถ้าเป็นเด็กดี...อาทิตย์หน้าแม่จะพาฮิโรกิไปว่ายน้ำที่โรงแรมแด๊ดดี้”
“เย้!!!...คุณแม่ใจดีที่สุดในโลกเลย ผมจะเป็นเด็กดีฮะ”
ฟอดดด!!!
ละมือจากองุ่นพวงใหญ่...แล้วรีบปีนขึ้นไปนั่งบนตักคุณแม่ก่อนประทับรอยแห่งความดีใจเอาไว้บนแก้มเนียน เซฮุนไม่เคยโกรธลูกชายแบบจริงๆจังๆได้เลยสักครั้ง สิ่งใดที่ลูกต้องการก็จะหามาให้โดยไม่มีข้อแม้ ลูกชอบกินอะไร ชอบเที่ยวที่ไหน หรืออยากทำอะไรก็รู้ใจไปหมดทุกอย่าง รักมาก หวงมาก และจะไม่ยอมปล่อยให้เด็กคนนี้ขาดสิ่งใดอีกต่อไป การเติมเต็มความรักให้ผู้ที่ไร้ซึ่งพ่อแม่ที่แท้จริง เป็นสิ่งที่เซฮุนเต็มใจทำมาโดยตลอด ถ้าไม่รักก็คงไม่อุปการะเอาไว้ แล้วถ้าเห็นว่าเป็นคนอื่นคนไกล...เขากับจงอินก็ไม่มีทางรับรองให้มาเป็นบุตรบุญธรรม
“แม่รักฮิโรกินะครับ รักมากๆ...มากที่สุด”
“ผมก็รักแม่ที่สุดเลยฮะ แล้วก็รักแด๊ดดี้ด้วย รักทั้งสองคนเลยฮะ”
“แล้วเป็นเด็กดีต้องทำยังไงครับ?”
“ไม่ดื้อ ไม่โกหก แล้วก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือฮะ”
“เก่งมากกก!!”
กว่ามื้อเย็นจะจบลงด้วยความเข้าใจ...ก็เกือบทำให้ผู้เป็นพ่อน้ำตาไหลไปพร้อมๆกับความรักของสองแม่ลูก จงอินเข้าใจการพลัดพรากเป็นอย่างดี แต่ก็คงไม่เข้าใจเท่าคนที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กแบบเซฮุนกับฮิโรกิ ตอนที่คุณพ่อและน้องสาวเสียชีวิตในเวลาที่ห่างกันเพียงไม่กี่เดือน เขาก็แทบจะเป็นบ้าตาย เนื่องจากการรับช่วงต่อธุรกิจการโรงแรมในวัยเพียงยี่สิบต้นๆ ถือว่าหนักหนาสาหัสที่สุด แต่ที่ผ่านวันอันเลวร้ายมาได้ก็เพราะยังมีคุณแม่คอยอยู่เคียงข้าง และรวมถึงเพื่อนรักอย่างชานยอล และถ้าตอนนั้นเขาไม่เหลือใครแบบที่เซฮุนกับฮิโรกิเคยพบพาน เขาก็อาจจะตายตามทุกคนในครอบครัวไปแล้วก็ได้
ใคร...จะเข้มแข็งได้เท่าภรรยาของเขาไม่มีอีกแล้ว และใคร...จะรักเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองได้เท่านี้ก็ไม่มีอีกเช่นกัน
“ถึงเวลาอาบน้ำเข้านอนแล้วนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ทันรถโรงเรียนมารับ”
“คุณแม่อย่าลืมทำข้าวห่อไข่ให้ผมด้วยนะฮะ”
“ไม่ลืมแน่นอนครับ”
“Good night mammy, Good night daddy!”
จุ้บบ!!
จุ้บบ!!
เหมือนเป็นวันที่ต้องเคลียร์ปัญหาของคนในครอบครัว เช้าก็เรื่องคุณพ่อ ตกเย็นก็เรื่องของลูกชาย คนเป็นแม่จึงรู้สึกเหนื่อยมากกว่าวันไหนไหน ต่อให้ต้องตัดดอกไม้ในสวนอีกสักร้อยไร่ มันก็คงไม่เหนื่อยเท่ากับปัญหาทั้งหมดในวันนี้ เพราะมันเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจในเวลาเดียวกัน เหนื่อยกายพักผ่อนก็หาย แต่เหนื่อยใจพักเท่าไหร่ก็คงไม่พอ เซฮุนเข้าใจดีว่าเด็กอายุเท่านี้ก็ซนไปตามเรื่องตามราวและดื้อไปตามวัย แต่ถ้ามันเกินขอบเขตมากจนเกินงาม ก็ต้องรีบห้ามปรามเอาไว้ก่อนจะกลายเป็นเหตุที่แก้ยาก
(เฮ้อออออ!!!)
ขอถอนหายใจแค่ในความคิด...เพราะไม่อยากให้สามีต้องเป็นห่วง และเมื่อได้รับคำกล่าวลาพร้อมจูบฝันดีจากลูกชายตัวแสบ เซฮุนก็รีบเก็บจานชามบนโต๊ะอาหารเข้ามาล้างในห้องครัวทันที มือทั้งสองข้าง...ทำหน้าที่ล้างภาชนะทุกใบ แต่ในหัวสมองกลับคิดเรื่องนั้นเรื่องนู้นให้วุ่นไปหมด พรุ่งนี้เช้าต้องจัดกระเป๋ารวมถึงเตรียมมื้อเที่ยงให้ลูกไปโรงเรียน แล้วต่อด้วยการออกไปตัดดอกไม้ในสวน ทำความห้องนอนให้ฮิโรกิ และไปส่งดอกกุหลาบที่ตลาดตอนเย็น ซึ่งทุกๆอย่างคือสิ่งที่คนเป็นแม่ต้องจัดการให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นมันจะพอกพูนจนกลายเป็นงานที่หนักขึ้นในวันถัดไป
“เดี๋ยวพี่ช่วยเช็ดนะครับ”
“ขอบคุณนะครับ”
“เหนื่อยมากเลยใช่ไหม พี่หาคนมาช่วยดูแลบ้านดีกว่า”
“ไม่เอาครับ...พี่จงอินไม่ต้องหาใครมาช่วยทั้งนั้น เซฮุนไม่เหนื่อยเลยครับ เซฮุนทำได้”
ใบหน้าเรียวสวยที่แสร้งยิ้ม...มันทำให้เจ้าของสายตาคมรู้ได้ทันทีว่าภรรยารู้สึกหรือคิดเช่นไร ถึงปากจะบอกว่าไม่เหนื่อย แต่กิริยาท่าทางที่ดูเฉื่อยชากลับเป็นตัวฟ้องทุกอย่างได้ดี ปกติเซฮุนจะเป็นคุณแม่ที่กระฉับกระเฉง ยิ้มเก่ง และจัดสรรงานในบ้านได้ลงตัวจนไร้ที่ติ แต่ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันพาลให้เซฮุนดูไม่สดชื่น แถมยังมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา และหนึ่งในปัญหานั้น...ก็เกิดมาจากสามีอย่างเขา
“แล้วยังเจ็บตรงนี้อยู่หรือเปล่า หื้มม?”
“เจ็บครับ...มันฉีกนิดนึง แต่ทายาแล้วเดี๋ยวก็หาย พี่จงอินไม่ต้องห่วงนะครับ”
“ห่วงสิ...เมียพี่ทั้งคน งั้นคืนนี้พี่จะอาบน้ำให้นะครับ อาบเสร็จก็จะนวดขาให้ด้วย”
“ใจดีจังเลยนะครับแด๊ดดี้”
“แด๊ดดี้ทำอะไรไว้ ก็ต้องรับผิดชอบสิครับ”
จุ้บบ!!
ละมือจากการช่วยเช็ดจานชาม...และมอบรอยจูบที่แสนอ่อนโยนเพื่อแทนคำขอโทษ จงอินอยากโยนความผิดทั้งหมดให้กับฝันร้ายนั้นได้หรือเปล่า เพราะถ้าเขาไม่โหมงานหนักหรือได้กลับบ้านบ่อยขึ้น มันก็คงไม่ถูกความคิดถึงเล่นงานจนเก็บเอาไปฝันบ้าๆบอๆ และเอามาลงโทษคนที่จากไป ยังจำได้ดี...ว่าในความฝันเซฮุนบอกเลิกเขาเป็นร้อยๆครั้ง และพาสามีคนใหม่มาเยาะเย้ยกันถึงที่โรงแรม แถมลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็เกลียดพ่อจนแทบไม่อยากเห็นหน้า ขนาดเป็นแค่ความฝันยังเจ็บมากขนาดนี้ แล้วถ้ามันเป็นความจริง...เขาคงอกแตกตาย
ขอบคุณภรรยาแสนดี...ที่ทำให้ชีวิตของสามีอย่างคิม จงอินสมบูรณ์แบบมากขึ้น (รักนะคะ) ♥
100%
SS2...ตอนที่สองมาแล้วค่ะ (โค้งตัวเล็กน้อย)
ส่วนเรื่องของขวัญ...รบกวนนักอ่านรอหน่อยนะคะ เพราะหลังจากปิดการส่งที่อยู่วันที่10เดือนนี้ เราจะเริ่มลงมือทำทันทีเลยค่ะ
ความในใจ...
เป็นเรื่องที่สอง...ที่กลัวการอัพฟิค เพราะข่าวที่เกิดขึ้นในวันปีใหม่ทำให้ชิปเปอร์ไคฮุนหลายคนรู้สึกแย่ ซึ่งนั่นก็รวมถึงเราด้วย แต่ในฐานะของผู้แต่งนิยายเราก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป และเราก็ไม่อาจทราบได้ ไม่อาจคาดหวัง รวมถึงยังไม่แน่ใจว่าจะมีใครอยากฟิคไคฮุนต่อหรือไม่ เราเข้าใจทุกคนนะคะ...แล้วถ้าใครอยากระบายความรู้สึก ก็สามารถระบายผ่านฟิคเรื่องนี้หรือแชร์ความคิดเห็นกันได้เสมอ
จะเทก็ไม่ว่า จะทิ้งก็เข้าใจ แต่ถ้ายังสู้ไหว...เราก็ต้องขอบคุณมากจริงๆค่ะ
เป็นกำลังให้ชิปเปอร์ไคฮุนทุกคนนะคะ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน (กอดแน่นๆ)
รัก ♥
#ดอกไม้ของเจ้านาย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

712 ความคิดเห็น
-
#650 Jammie-Lee (จากตอนที่ 39)วันที่ 3 เมษายน 2562 / 21:54นึกว่าทะเลาะกัน ไม่ทะเลาะก็ดีแล้วๆๆๆๆ#6500
-
#619 Pinkdao (จากตอนที่ 39)วันที่ 6 มกราคม 2562 / 14:07พี่จงอินอย่าคิดมากนะ แค่ฝันร้ายนะ ขอบคุณที่อัพค่ะไรท์ เรามีความสุขที่ได้อ่านฟิคไคฮุนมากๆนะคะ. สู้ๆนะคะ ทุกคน#6190
-
#618 ตะงุนนนนน (จากตอนที่ 39)วันที่ 5 มกราคม 2562 / 22:10กอดหน่อยยยยยยย น้ำตาาาา#6180
-
#617 TDNND (จากตอนที่ 39)วันที่ 5 มกราคม 2562 / 08:01ความฝันเป็นตุเป็นตะนะคุณแด๊ดดี้ 5555#6170
-
#616 ME3 KAEKY (จากตอนที่ 39)วันที่ 4 มกราคม 2562 / 22:50เราจะสู้ไปด้วยกันค่ะ รอเสมอนะคะ#6160
-
#615 Whyfly (จากตอนที่ 39)วันที่ 4 มกราคม 2562 / 21:29ยังอยู่ตรงนี้ ยังรออ่านฟิคเหมือนเดิม สู้ๆนะคะ#6150
-
#614 BBKaiHun94 (จากตอนที่ 39)วันที่ 4 มกราคม 2562 / 21:20เรายังอยู่ตรงนี้เสมอ เราจะสู้ไปด้วยกันเนอะ ให้เวลาเยียวยาทุกสิ่งเราไม่อาจรู้ว่าอนาคตเป็นอย่างไร แต่มำปัจจุบันให้มีความสุขมี่สุดมันคงจะง่ายกว่า ✌🏻✌🏻✌🏻💕💕#6140