ตอนที่ 18 : ❀ 18
ดอกไม้ดอกที่ 18
23.19 น.
ปังงงงง!!!!
คน...ที่ถูกลากออกมาจากงานการกุศลจอมปลอมทั้งสองคนสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูรถที่ถูกปิดด้วยแรงอารมณ์ของหนุ่มผิวเข้มจนมันดังก้องไปทั่วทั้งห้องโดยสาร ชานยอลกอดคนตัวเล็กเอาไว้แนบอกเมื่ออุ้มแบคฮยอนออกมาจากผับและเดินตรงเข้ามานั่งในรถยนต์สุดหรูของเพื่อนที่ด้านหลัง วิศวกรหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของจงอินเป็นอย่างดีว่ากำลังคิดหรือโมโหในเรื่องอะไร เพราะเขาก็รู้สึกไม่ต่างจากเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
เจ้าของพาหนะสีดำ...ฟุบหน้าลงบนพวงมาลัยรถเพื่อระงับอารมณ์ต่างๆที่อาจทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันตอนนี้เสียขวัญหรือหวาดกลัว เพราะถ้ายังควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ มันอาจทำให้เรื่องที่เขากำลังจะสืบสวนต่อจากนี้แย่ลงไปกว่าเดิม มือหนาเสยผมชื้นเหงื่อขึ้นเมื่อเงยหน้า และสบสายตาคมจ้องคนที่เอาแต่ก้มหน้างุดมาตั้งแต่ถูกลากตัวออกมาจากผับ พร้อมเอ่ยถามถึงสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินว่าใครเป็นคนผิด
“เล่ามาให้หมด...ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครให้แต่งตัวแบบนี้?? แล้วขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีได้ยังไง?” พยายามกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ แต่น้ำเสียงที่ใช้ถามกลับเป็นตัวบอกความรู้สึกได้ดีกว่าอะไรทั้งหมด
“มะ...มีผู้ชายคนนึง มาขอร้องให้เซฮุนกับแบคช่วยเรื่องงานที่จัดขึ้นในผับครับ แล้วถ้าไม่ช่วย...ผู้ชายคนนั้นก็จะถูกพวกการ์ดรุมทำร้าย เซฮุนสงสาร...ก็เลยรับปากเค้าไป แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องแต่งตัว บะ...แบบนี้ครับ” รีบอธิบายด้วยความร้อนรน เพราะรู้ว่าดีเจ้าของโรงแรมกำลังโกรธ และต้องออกหน้ารับผิดแทนเพื่อนทั้งๆที่เรื่องทุกอย่างเขาก็ไม่ได้เป็นคนต้นคิดหรือรับปากว่าจะช่วยเหลือใคร
เซฮุน...ไม่อยากให้เพื่อนรักผิดใจกับแฟนอีกครั้งเพราะเรื่องคราวก่อนก็เกือบทำให้พวกเขาต้องเลิกกันด้วยเหตุของความดื้อรั้น
“แล้วเซฮุนกับแบครู้ไหม...ว่างานนี้มันคืองานอะไร”
“ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเป็นงานการกุศลครับ...แล้วเงินที่ได้จากการขายดอกไม้ทั้งหมดก็จะเอาไปช่วยคนไร้บ้าน”
“เฮ้ออออ!!...ฟังพี่ให้ดีนะ งานที่เซฮุนกับแบคไปยืนยิ้มรับดอกไม้จากคนอื่นบนเวที มันคืองานประมูลร่างกายของเราทั้งสอง แล้วใครที่ถูกประมูลได้...ก็จะโดนขายต่อ”
“จะ...จริงเหรอครับพี่จงอิน!!!!”
คำตอบของคนรัก...ทำให้จงอินเปลี่ยนจากความโกรธเป็นความเห็นใจทันที และถ้าเขาไปช่วยหรือเข้าร่วมงานประมูลไม่ทัน เซฮุนกับแบคฮยอนคงถูกขายไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ มือหนาดึงตัวคนถูกหลอกเข้ามากอดปลอบด้วยความรู้สึกเป็นห่วง หวง และอีกสารพัดความรู้สึกที่ตีรวนกันอยู่ภายในจิตใจ เจ้าของโรงแรมไม่เคยนึกเสียดายเงินที่เพิ่งเสียไปให้กับการประมูล เพราะมันเทียบไม่ได้กับชีวิตของคนที่ตัวเองรัก
วิศวกรหนุ่ม...ก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อได้ฟังสิ่งที่แฟนของเพื่อนเล่ามาทั้งหมด และมันก็ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่างานนี้คนตัวเล็กคงถูกชายแปลกหลอกใช้ ชานยอลกอดคนในอ้อมอกแน่นขึ้นกว่าเดิมเพราะแรงสะอื้นรวมถึงความเปียกชื้นที่อยู่บนเสื้อเชิ้ตสีเข้มของตัวเองมันกำลังฟ้องว่าแบคฮยอนรู้สึกเสียขวัญและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน
“คราวหลังจะทำอะไรก็ปรึกษาพี่ก่อนนะครับ...อย่าใจดีกับใครไปทั่วแบบนี้มันอันตราย”
“ขอโทษครับพี่จงอิน...ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
คนรู้สึกผิด...ซบหน้าลงบนอกกว้างพร้อมกล่าวขอโทษซ้ำๆ เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองให้ความช่วยเหลือคนอื่นจะส่งผลในทางลบได้มากขนาดนี้ โลกมันกว้างเกินกว่าจะรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมหรือจิตใจของใคร และความหวังดีมันก็ใช่ไม่ได้ผลกับคนที่ไม่สมควรจะได้รับ บทเรียนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้มันทำให้คนถูกหลอกทั้งสองคนไม่กล้ารับปากที่จะช่วยเหลือคนแปลกหน้าง่ายๆอีกแล้ว และจะระวังตัวให้มากกว่าเดิม
...
...
...
...
...
Peony Condominium เชจู
00.52 น.
คืนนี้...วิศวกรหนุ่มจำเป็นต้องให้คนตัวเล็กนอนค้างที่คอนโดฯของเขา เพราะขืนให้กลับบ้านไปทั้งๆที่ยังอยู่ในสภาพการแต่งกายด้วยชุดนางฟ้าสีดำตัวนี้ มีหวังคนเป็นลูกชายและลูกเขย(ในอนาคต)อย่างเขาคงถูกจีซบซักถามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเมื่ออุ้มคนตัวเล็กเข้ามาในห้องหลังจากที่เพื่อนขับรถมาส่งได้สักพัก...มือหนาก็รีบวางคนในอ้อมอกลงบนเตียงกว้างทันที
“น้องแบคคค...หยุดร้องไห้ก่อนครับ ตาบวมหมดแล้ว” พยายามปลอบแฟนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้มาตลอดทางจนถึงคอนโดฯ และเกรงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบวกกับเสียงสะอื้นที่ได้ยินอยู่ตอนนี้มันอาจสร้างความเครียดจนทำให้คนเจ้าน้ำตาล้มป่วย
“ฮึกกก!! น้องแบคขอโทษ ฮึกก!” ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้กับเรื่องอะไรกันแน่ เพราะไหนจะเรื่องที่ตัวเองเป็นคนก่อไว้แต่เพื่อนรักกลับต้องมารับผิดแทน หรือเรื่องที่โกหกแฟนว่าบังเอิญเจอคนรู้จักที่มหาวิทยาลัยแล้วแอบปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อหนีความผิด
“ชู่ววววว...พี่รู้แล้วครับ น้องแบคหยุดร้องไห้ก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าปวดตา” เชยคางมนขึ้น แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆที่ดวงตาเรียวเล็กเพื่อเช็ดน้ำตาออกให้ด้วยความรู้สึกสงสารปนเห็นใจ
“พี่ชานยอล ฮึกก! ไม่โกรธน้องแบค ฮึก!! ใช่ไหมฮะ” กอดร่างหนาเอาไว้เหมือนอยากให้เจ้าของอกกว้างรู้ได้ถึงความในใจที่เขาอยากจะบอกแต่ไม่กล้าพูด เพราะเกรงว่าแฟนจะโกรธถ้าทราบความจริง
“ไม่โกรธครับ...ไม่โกรธเลย พี่เป็นห่วงน้องแบคนะครับ แล้วก็แค่กลัว...ว่าใครจะมาเอาน้องแบคของพี่ไป” กอดปลอบเจ้าของน้ำตาที่ไม่รู้ว่าจะหยุดร้องไห้ได้เมื่อไหร่ พร้อมกับโยกตัวแบคฮยอนไปมาเบาๆเหมือนจะกล่อมให้หายจากความโศกเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น
และสิ่งที่เขากลัว...มันก็คือความรู้สึกลึกๆที่อยู่ในใจ เพราะถ้าเจ้าของโรงแรมประมูลแพ้หรือไปไม่ทันงานในค่ำคืนนี้ ชานยอลคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆและไม่รู้ว่าจะเอาลูกชายคนเดียวของคุณอาจีซมาคืนให้ท่านได้อย่างไร
“ฮึกกก!!.....น้องแบคไม่ไปไหนทั้งนั้น ฮึกก!! น้องแบคจะอยู่กับพี่ชานยอลคนเดียว”
พูดไปสะอื้นไป...และเงยหน้าส่งริมฝีปากบางที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาจูบลงบนอวัยวะเดียวกันของคนตรงหน้าเพื่อแทนคำขอบคุณ เพื่อแทนความรัก และเพื่อความรู้สึกทุกสิ่งที่ชายคนนี้มอบให้ ลิ้นอุ่นชื้นของคนที่มีประสบการณ์มากกว่ารีบเก็บเกี่ยว กวาดต้อน และฏอบโกยความหวานด้วยหัวใจเต้นแรง เพราะการที่คนตัวเล็กยังอยู่ในชุดนางฟ้าสีดำมันก็เหมือนเป็นตัวกระตุ้นความต้องการของเขาให้เพิ่มระดับจากระดับสิบกลายเป็นระดับร้อย
และ...คนที่จะให้นางฟ้าพาขึ้นสวรรค์ก็คือตัวของเขาเอง ไม่ใช่พวกที่ทำได้แค่มองหรือพูดถึงรูปร่างของคนตัวเล็กในผับเมื่อไม่มีกี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“ไงครับนางฟ้าแสนสวย...อยากกลับสวรรค์แล้วหรือยัง หื้มมม?” ก้นเด้งๆภายใต้กระโปรงสั้นกุดเป็นของชานยอล ความขาวเนียนตั้งแต่ใบหน้าสวยได้รูปไล่ลงไปนถึงปลายเท้าก็เป็นของชานยอลแต่เพียงผู้เดียว ปากหยัก...จูบซับความหอมจากร่างนางฟ้าตัวเล็กพร้อมกระซิบคำถามที่ฟังอย่างไรก็คิดไปเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก.....
จุ๊บบ!!
จุ๊บบ!!
จุ๊บบ!!
“ยังไม่อยากกลับฮะ...บนสวรรค์ไม่มีเทวดาหล่อๆ แล้วก็ใจดีเหมือนคนแถวนี้” เพิ่มระดับความน่ามันเขี้ยวด้วยการกดจูบริมฝีปากหยักของแฟนตัวใหญ่ซ้ำๆและเอ่ยเสียงอ้อนเป็นการตอบคำถาม
“ปากหวานแบบนี้...เดี๋ยวก็ไม่นอนหรอกครับน้องแบค” จบประโยค...ที่ทำให้คนฟังไม่ได้นึกเกรงกลัวกับคำขู่ แล้วจัดการพานางฟ้าขึ้นสวรรค์ไปทั้งๆที่ชุดรัดรูปยังอยู่บนกายที่น่ารัก(น่าฟัด)
คนตัวใหญ่...จับร่างในชุดสีดำให้นอนคว่ำหน้าลงไปกับพื้นเตียแล้วยกสะโพกผายขึ้นเล็กน้อยโดยที่กระโปรงยังไม่ถูดถอดออก แต่เสื้อผ้าของตัวเองกลับถูกถอดออกจนหมดแล้วเริ่มขยับกายไปตามแรงอารมณ์ที่ทำเอาคนใต้ร่างต้องส่งเสียงร้องน่าอายออกมาอย่างห้ามความรู้สึกได้ยาก ยิ่งคนตัวเล็กอยู่ในชุดรัดรูปอวดหุ่นโชว์ผิวเนื้อเนียนขาวบางส่วนให้เห็น มันก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้คนมองรู้สึกอยากถอดเสื้อผ้าบนกายของแบคฮยอนให้ช้าลงอีกหน่อย เพราะไม่เคยคิดว่า..เรือนกายที่สวยงามของผู้ชายภายใต้ชุดผู้หญิงมันจะทำให้วิศวกรหนุ่มคลั่งได้ถึงเพียงนี้
...
...
...
“ซี้ดดด พะ....พี่ชานยอล อ๊ะ!!”
“อื้มม!!! อ่าห์”
กว่าจะจบเพลงรักหรือให้นางฟ้าพาขึ้นสวรรค์...ก็ทำเอาวิกผม รองเท้า มงกุฎ และเครื่องแต่งกายชิ้นบนของคนตัวเล็กกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้นเตียง วิศวกรหนุ่มเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้ามาชุบน้ำเล็กน้อย แล้วเช็ดไปตามร่างกายของคนที่ตอนนี้หลับไปพร้อมๆกับความสุขที่กินเวลาอยู่นานเกือบสามชั่วโมง และเมื่อเช็ดกายขาวเนียนที่เต็มไปด้วยรอยรักเรียบร้อย ชานยอลก็ค่อยๆสวมเสื้อผ้าให้แล้วก้มกายส่งปากหยักจุมพิตหน้าผากนางฟ้าตัวเล็กด้วยความรัก พร้อมบอกฝันดีทั้งๆที่รู้ว่าแบคฮยอนคงไม่ได้ยิน
ZzzzZZzzZzzzz♥!!!
❀
07.21 น.
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
“อืออออ...ใครวะ??!!!”
(ผมเองครับ..คุณปาร์ค!!)
“......!!!!”
เป็นเช้าที่ต้องตื่นมารับโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิดเพราะเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมง แต่พอรับสาย...และได้ยินเสียงเรียกชื่อที่ต่างออกไปจากทุกวัน เจ้าเครื่องจึงรีบลุกจากเตียงกว้าแล้วเดินออกไปคุยสายนอกห้องนอนทันที ชายหนุ่ม...ก้าวขาฉับๆออกมาคุยเรื่องสำคัญที่ห้องครัว เพราะไม่ต้องการให้คนตัวเล็กรับรู้ในสิ่งที่เขากำลังทำบางอย่างที่มันเกินหน้าที่ของการเป็นวิศวกรประจำโรงแรม
(คุณปารค์ครับ...ได้ยินผมไหมครับ??)
“เออได้ยิน มีอะไรก็ว่ามา”
(น่าจะเป็นอย่างที่คุณปาร์คคิดไว้นะครับ แต่ผมขอเก็บข้อมูลให้ได้มากกว่านี้ก่อน แล้วผมจะส่งหลักฐานทุกอย่างให้คุณปาร์คทันที)
“งั้นผมขอฝากอีกเรื่องแล้วกัน...วันนี้จงอินกับเซฮุนจะเดินทางกลับโซล ผมฝากให้คนของคุณคอยติดตามพวกเขาอยู่ห่างๆ แต่ถ้ามีอะไรไม่น่าไว้ใจ พวกคุณก็เข้าไปจัดการได้เลย ผมอนุญาต”
(ได้ครับคุณปาร์ค แล้วต้องการจะให้ผมสืบอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?)
“ไม่ๆ...เอาแค่นี้ก่อน แล้วช่วงนี้ผมฝากให้คุณคอยตามดูเซฮุนไปเรื่อยๆ ตามไปทุกที...ตามไปจนกว่างานประมูลที่ดินจะเริ่ม”
(แล้วให้ตามคุณจงอินด้วยไหมครับ??)
“ไม่ต้อง...ตามแค่เซฮุนคนเดียวพอ”
(ครับๆ...ได้ครับคุณปาร์ค)
ลูกน้อง...ของพี่ชายคุณพ่อทำงานได้รวดเร็วเสมอ เพราะหลังจากวิศวกรหนุ่มประชุมงานกับเจ้าของโรงแรมเรื่องงานประมูลที่ดินไปไม่กี่วัน ประวัติต่างๆ ที่อยู่ ข้อมูลทุกอย่างที่อยากได้ก็ทราบผลทันที แต่...คำสั่งใหม่ที่เขาเพิ่งบอกลูกน้องของคุณลุงไปเมื่อครู่ มันคือสิ่งที่เขาทำนอกเหนือคำสั่งของเพื่อนผิวเข้มเพราะไม่ต้องการให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในภายหลัง เนื่องจากประวัติของผู้เข้าร่วมงานประมูลที่ดินรายหนึ่งมันดูไม่น่าไว้ใจ
งานประมูลที่ดินครั้งนี้...มีทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของโรงแรม เจ้าของห้างสรรพสินค้และเจ้าของอสังหาริมทรัพท์ต่างๆที่ชานยอลไม่เคยรู้จัก และเพราะเหตุนี้...เขาจึงจำเป็นต้องฝากให้ลูกน้องของคุณลุงคอยติดตามแฟนของเพื่อนไปจนกว่างานประมูลดินจะเริ่มต้นขึ้น รวมถึงคอยรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆเห็นถึงความผิดปกติ
ใช่ว่าชานยอลไม่เคยทำแบบนี้...เพราะทุกครั้งที่จงอินต้องประมูลที่ดินเพื่อสร้างโรงแรมใหม่ เขาก็มักจะให้ลูกน้องของพี่ชายคุณพ่อตรวจสอบประวิติหรือหาข้อมูลของผู้เข้าร่วมงานประมูลเกือบทุกครั้ง แต่...การให้คนคอยติดตาม สอดส่อง เฝ้าดู ชีวิตของใครสักคนมันคือสิ่งที่ชานยอลเพิ่งทำเป็นครั้งแรก และจะทำให้ดีที่สุดเพราะชีวิตของคนคนนี้มันสำคัญพอๆกับคนที่ยังนอนพริ้มอยู่บนเตียงกว้างของเขา
Rrrr!!
Rrrr!!
“ว่าไง...มีอะไรอีก!!”
(เจ้าแบคอยู่กับคุณชานยอลใช่ไหม?)
“คะ...ครับ คุณอา!!!”
เพิ่งวางสายจากนักสืบไปไม่นาน...เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าของเครื่องจึงรีบกดรับและกรอกเสียงเข้มพูดกับคนปลายสายโดยไม่ทันได้ดูว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นใคร แต่พอได้ยินเสียงที่ทรงอำนาจและเข้มกว่าตัวเองเป็นสิบเท่าตอบกลับมา มันก็ทำเอาวิศวกรหนุ่มถึงกับพูดจาตะกุกตะกักด้วยความหวั่นเกรง
(เมื่อคืนบอกอาไว้ว่ายังไงคุณชานยอล??)
“ขอโทษครับคุณอา พอดี...จงอินมันมาดื่มต่อที่โรงแรมครับ ผมเห็นว่าดึกมากแล้ว ก็เลยพาน้องแบคกลับมานอนที่คอนโดฯ แล้วเซฮุนก็ต้องดูแลจงอินด้วยครับ เมื่อคืนจงอินมันเมามากเลย”
(พากันเหลวไหลใหญ่เลยนะคุณชานยอล แล้ววันนี้เจ้าแบคจะมาทำงานได้ไหม!!!?)
“ขะ...ขออนุญาตลาหยุดให้น้องหนึ่งวันนะครับคุณอา”
(บอกแบคให้โทรกลับมาหาอาด้วย อย่ามาปิดเครื่องหนี แล้วคราวนี้ได้โดนกักบริเวณแน่ๆ!!)
“คะ...ครับ”
ก่อนพากันออกไปเที่ยว...คนที่เพิ่งถูกบ่นเมื่อครู่ก็ได้โทรรายงานให้ผู้ใหญ่ทราบแล้วว่าจะไปไหน จะกลับกี่โมงและจะพาลูกๆของท่านไปส่งที่บ้าน แต่สุดท้ายก็ต้องมาผิดคำพูดเพราะลูกแท้ๆอย่างคนตัวเล็กกับลูกบุญธรรมของท่านได้สร้างปัญหาใหญ่เอาไว้เมื่อคืน และมันก็ใหญ่จนเกือบทำให้ทั้งคู่ถูกขาย
วางสายจากพ่อตา(ในอนาคต)ด้วยความรู้สึกผิดในหลายๆเรื่อง ทั้งการกล่าวอ้างที่ว่าเพื่อนผิวเข้มเมามากจนพาลูกของท่านมาส่งที่บ้านไม่ได้ ทั้งการผิดคำพูดกับคนเป็นผู้ใหญ่ รวมถึงเรื่องอื่นๆก็ล้วนแต่สร้างเรื่องโกหกขึ้นมาทั้งนั้น แต่...ถ้าจะให้เขาบอกความจริงว่าเมื่อคืนลูกๆของคุณอาเกือบโดนขายจากงานการกุศลจอมปลอม ท่านคงรู้สึกตกใจและอาจทำมากกว่าแค่การกักบริเวณลูกชายตัวแสบแน่นอน
...
...
ส่วนทางด้านคนถูกกล่าวอ้างว่าเมามาก...ก็ยังนอนหลับไม่ได้สติ และคนที่ตื่นก่อนก็คือร่างสวยในชุดนางฟ้าสีขาวเมื่อคืน มือบางค่อยๆรวบเสื้อผ้าจากตู้มาผับใส่กระเป๋าเดินทาง เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงต้องเดินทางกลับโซลและเจ้าของเสื้อผ้าพวกนี้ก็ยังไม่ตื่นสักที พับผ้าไปก็คิดทบทวนเรื่องของเมื่อคืนไปด้วยว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้เจ้าของโรงแรมต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อชีวิตของเขาและเพื่อนรักออกมาจากงานประมูล มันมีแต่ความรู้สึกผิดอัดแน่นอยู่เต็มอกเนื่องจากเงินที่เสียไปมันเป็นจำนวนที่มากเหลือเกิน
“อะ...โอ๊ย!!”
ปากบางสีหวาน...เม้มแน่นเพื่อเก็บเสียงร้องพร้อมทั้งหลับตานิ่วหน้าด้วยความเจ็บที่แล่นไปทั่วร่างเนื่องจากขยับตัวลุกขึ้นยืนเร็วเกินไป จัดกระเป๋าเดินทางเสร็จ...ก็คิดว่าจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่อาการปวดร้าวที่สะโพกก็ทำให้ต้องหยุดความคิดแล้วเปลี่ยนเป็นการพิงกายไปกับตู้เสื้อผ้าก่อนที่ตัวเองจะล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
ร่างสวย...ในชุดนางฟ้าสีขาวโดนเอาแต่ใจจนเกือบถึงรุ่งสาง เพราะหลังจากถูกคนรักลากตัวออกมาจากผับและขับรถไปส่งเพื่อนตัวเล็กกับแฟนที่คอนโดฯ เขาก็โดนทำโทษทันทีเมื่อกลับมาถึงห้องพักสุดหรูในโรงแรม บนเตียง ห้องน้ำ โต๊ะทำงาน หรือแม้กระทั่งเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ทุกๆที่คือบทลงโทษที่คนทำผิดต้องได้รับทั้งหมด
เซฮุนไม่ได้รู้สึกน้อยใจคนรัก...ที่เห็นร่างกายของเขาเครื่องระบายความโกรธ เพราะเจ้าตัวทราบดี...ว่าแรงอารมณ์ที่ถูกโหมใส่เมื่อคืนมันเจือไปด้วยความเป็นห่วง หึงหวงและความรัก แต่สำหรับเช้านี้ บทลงโทษที่เขาเต็มใจให้คนรักกระทำทุกอย่างมันทำให้ร่างกายปวดร้าวไปหมด แถมตามผิวเนื้อตั้งแต่หน้าอกไล่ลงไปจนถึงเรียวขาก็มีแต่รอยแดงแต่งแต้มอยู่เต็มเรือนร่าง และดี...ที่คนเอาแต่ใจไม่ทำรอยไว้บนลำคอ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องหยุดงานไปจนกว่ารอยพวกนี้จะจางลง
ฟอดดดด!!!!
“พี่จงอิน...ตื่นได้แล้วครับเดี๋ยวตกเครื่อง” ละจากการยืนพิงตู้เสื้อผ้าเพื่อปรับสภาพร่างกาย และค่อยๆเดินกลับขึ้นมานั่งบนเตียงกว้างก่อนก้มหน้าส่งจมูกโด่งรั้นหอมลงบนแก้มเจ้าของบทลงโทษที่ยังคงหลับสนิทเพื่อเป็นการปลุก
“ครับ...มอร์นิ่งครับผม?” ปากเอ่ยทักทาย แต่ตายังปิดอยู่เหมือนเดิมและเลื่อนกายขยับศีรษะขึ้นมานอนบนตักนุ่มของคนรักที่วันนี้ทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก
“ตื่นได้แล้วครับพี่จงอิน...เดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน เซฮุนจัดกระเป๋าเสร็จแล้วนะครับ” สายหัวให้กับคนขี้เซาที่ตอนนี้ทำตัวเหมือนเด็กไม่อยากไปโรงเรียน และมันก็ควรจะเป็นโอเซฮุนคนนี้มากกว่าที่ต้องตื่นสาย
“ตื่นแล้วครับ...แต่ขี้เกียจ อยากนอนกอดเมีย” จบประโยคที่ทำเอาคนฟังอยากตีให้เนื้อเขียว แล้วจับร่างสวยให้นอนลงบนเตียงทันที พร้อมคร่อมกายที่เปลือยท่อนบนกักกันนักโทษของตัวเองเอาไว้
การแต่งตัวเป็นผู้หญิง การยิ้มให้คนอื่นไปทั่ว และการโดนจับมือเวลารับดอกไม้จากลูกค้าในงานประมูลที่ผับ ทุกๆอย่างที่คนใต้ร่างทำไว้เมื่อคืนมันยังติดอยู่ในความทรงจำของคนขี้หึงคนนี้ไม่หาย จงอินแทบอยากจะระเบิดสถานบันเทิงแห่งนั้นให้แหลกเป็นผงเมื่อเห็นคนรักขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีให้ใครต่อใครได้เชยชม กระโปรงสั้นๆอวดเรียวขาขาวเนียน เอวคอดที่โผล่พ้นเสื้อรัดรูปสีขาว วิกผม ปีกขนนก และความใจดีที่อยากช่วยเหลือคนอื่นก็เกือบทำให้เซฮุนต้องถูกขายเพื่อไปเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนอื่น
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด...ยิ่งเครียดก็ยิ่งต้องทำโทษคนใจดีให้หลาบจำ ไม่อย่างนั้นคงไม่ระวังตัวและสงสารคนอื่นจนไม่นึกภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
“เมื่อคืนยังกอดไม่พออีกเหรอครับ เซฮุนเหนื่อยแล้วก็เจ็บมากเลยด้วย เดี๋ยวนั่งเครื่องกลับโซลไม่ไหว”
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย พี่อยากจับเซฮุนขังไว้จริงๆ!!”
“เซฮุนขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ของโทษ พี่จงอินอย่าขังเซฮุนเลยนะครับ นะนะนะ”
“ไม่อยากให้ขังก็อย่าทำแบบนี้อีก...พี่เป็นหวงมากรู้ไหม หวงจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
“ขอบคุณพี่จงอินมากเลยนะครับที่ช่วยเซฮุนกับแบคเอาไว้...เซฮุนจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ เซฮุนสัญญา”
คิมจงอินรู้ตัวดี...ว่าเขาไม่ใช่คนใจเย็นและถ้าได้หงุดหงิดหรือโมโห ก็มักจะควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ยิ่งเป็นเรื่องความปลอดภัยของคนรัก มันยิ่งทำให้เขาใจร้อนมากกว่าเดิม และใช่ว่าอยากเอาเรื่องของตัวเงินที่เสียไปเมื่อคืนมาพูดให้เซฮุนรู้สึกสำนึกผิด แต่ที่ต้องบอกให้รู้...ก็เพื่อให้คนรักได้คิด ได้หัดระวังตัวให้มากกว่านี้ เพราะถ้าสิ่งที่เสียไปมันคือชีวิต ต่อให้มีเงินล้นฟ้าก็เอาคนที่ตัวเองรักกลับคืนมาไม่ได้
“ถ้าแต่งตัวแบบเมื่อคืนอีกแค่ครั้งเดียว...พี่จับเซฮุนขังแน่นอน จำไว้เลย!!”
“แล้วถ้าาาา...เซฮุนใส่ให้พี่จงอินดูคนเดียวล่ะครับ!!?”
“หึ!!.....”
...
...
...
“อ๊ะ!!! พอแล้วคะ...ครับ อ๊ะ! พี่จงอะ..อิน ซี้ดด!”
“อยากยั่วดีนัก!!!....ซี้ดดด อ่าห์”
❀
สนามบิน เชจู
คนเป็นเจ้าของโรงแรม...เพิ่งรู้วันนี้ว่ามีเมียช่างยั่ว ทั้งยั่วโมโห ทั้งยั่วอารมณ์ให้อะไรๆมันตื่นง่ายผิดปกติ และกว่าจะได้ออกมาจากโรมแรมก็เกือบต้องโทรให้พี่เลขาเลื่อนไฟท์ในการบินกลับโซลเป็นวันพรุ่งนี้ มือหนาประคองร่างคนรักเดินเข้ามาในร้านอาหารเพื่อทานมื้อเช้าเนื่องจากหมดพลังงานไปกับการลงโทษคนช่างยั่วตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงช่วงเช้า
และนักโทษ...ในอ้อมกอดของเขาตอนนี้ก็คงต้องการพลังงานทดแทนเช่นกัน
ข้าวหน้าเนื้อ...คืออาหารเช้าจานเดียวของจงอิน แต่สำหรับเซฮุนมีทั้งซุป ทั้งไก่ทอด ของหวานและตบท้ายด้วยการทานแซนวิชแฮมชีสกับโกโก้ปั่น ถ้าคนรักตั้งครรภ์ได้...เจ้าของโรงแรมก็คิดว่าปากบางสีหวานที่กำลังดูดเครื่องดื่มเย็นที่ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมจนแก้มตอบกำลังท้องอ่อนๆแน่นอน เพราะการทานอาหารมากขนาดนี้จงอินก็เคยเห็นแต่คนท้องเท่านั้นที่ทานได้
Rrrrr!!
Rrrrr!!
“พี่จงอิน...เซฮุนขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกนะครับ”
“ใครโทรมา?!?”
“พี่ฮีชอลครับ!”
“อย่าไปนานล่ะ...เดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน”
Rrrr!!
พยักหน้าเป็นคำตอบ...แล้วรีบกดรับก่อนที่คนปลายสายจะหงุดหงิด และคิดว่าต้องมีเรื่องด่วนแน่ๆ ไม่อย่างนั้นหัวหน้าแผนกคงไม่โทรมาทั้งๆที่รู้ว่าเขาลาหยุดไว้แล้ว ขาเรียว...ในกางเกงสกินนี่รีบเดินออกมาจากร้านอาหารอย่างรวดเร็วเพื่อหาที่ที่เงียบกว่านี้คุยสายกับคนเป็นหัวหน้า เพราะเสียงรอบๆกาย มันดังเกินกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง
“ครับ...พี่ฮีชอล”
(เป็นยังไงบ้าง หายป่วยหรือยัง?)
“ดีขึ้นมากแล้วครับ พรุ่งนี้ผมไปทำงานได้แน่นอน”
(ยังไม่ต้องมา...พี่อนุญาตให้เซฮุนหยุดเพิ่มอีกหนึ่งวัน)
“พี่ฮีชอลลล...มันเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ”
(เรานั้นแหละ....มีอะไรปิดบังพี่หรือเปล่า??)
“เอ่อออ...คือ”
(พี่ไม่โกรธเซฮุนหรอกน่าาา บอกมาเถอะ...ค่อยๆเล่า)
เพียงแค่ได้ยินคำถาม...ที่เจือไปด้วยความเป็นห่วงของคนเป็นหัวหน้า เซฮุนก็รู้ทันทีว่าข่าวความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจ้าของโรงแรมคงถูกพูดถึงไปไกลเกินกว่าที่จะปกปิดทุกคนในแผนกจัดดอกไม้ได้อีกแล้ว และไม่รู้ว่าถูกพูดถึงไปไหนทางใด? ดี? ร้าย? หรือใส่สีตีไข่กันถึงขั้นที่ทำให้เขาต้องถูกสั่งให้พักงานไปหนึ่งวัน
“แล้ววว...พี่ฮีชอลจะให้ผมออกจากงานไหมครับ”
(ใครจะกล้าไล่เมียเจ้านายล่ะ...เซฮุนก็พูดไม่คิด!!)
“โถ่พี่ฮีชอล!!...อย่าพูดแบบนั้นสิครับ”
(ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่...ไปเป็นผัวเป็นเมียกันตั้งแต่เมื่อไหร่!!?)
“วะ...วันแรกที่พี่ให้ผมขึ้นไปวางดอกไม้ที่ห้องเจ้านายนั้นแหละครับ”
(โอ๊ยยยยยยยย...อกพี่จะแตกตายยยย!! แล้วเซฮุนรู้ใช่ไหมว่าถ้ากลับมาทำงานแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หึ!!)
“รู้ครับ แต่...พี่ฮีชอลคงไม่คิดเหมือนคนอื่นใช่ไหม?”
(บอกตรงๆว่าตอนแรกก็คิด แต่พอฟังจากปาก เมีย-เจ้า-นาย ก็ไม่คิดละ!)
“พูดแบบนี้อีกแล้วนะครับพี่ฮีชอล”
(ก็พูดเรื่องจริงหนิ แล้วเซฮุนก็ไม่ต้องคิดมากนะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างหัวมัน เดี๋ยวพี่เถียงแทนเอง แต่...เซฮุนมั่นใจแล้วใช่ไหมที่จะคบกับคุณจงอิน?)
“มั่นใจครับ ไม่เปลี่ยนใจด้วย”
(ดีมากกก...งั้นพรุ่งนี้เซฮุนก็หยุดตามที่พี่บอกไปก่อน เชื่อพี่!!)
“ครับๆ...ขอบคุณมากนะครับพี่ฮีชอล”
ความลับ...มันคงไม่เป็นลับอีกต่อไป และสิ่งที่เซฮุนพยายามปกปิดมาตลอดก็คงไม่ต้องปิดบังกันอีกแล้วเมื่อหัวหน้าแผนกเป็นคนโทรมาถามความจริงจากลูกน้องด้วยตัวเอง ใจหนึ่ง...ก็รู้สึกขอบคุณที่ฮีชอลไม่ได้คิดอะไรในแง่ลบเหมือนคนอื่น แต่อีกใจ...ก็กลัวในสิ่งที่ถูกเตือนเพราะเขายังต้องทำงานร่วมกับคนอื่นในโรงแรม
แล้ว...ถ้าเจอการทักทายแบบที่โดนในห้องอาหารไทยของโรงแรมสาขาเชจู มันก็คงทำให้รู้สึกแย่และไม่เป็นผลดีต่อสภาพจิตใจพนักงานจัดดอกไม้อย่างเขาเลยสักนิด ):
ปึ่กก!!!
“ขอโทษคะ...ครับ คุณคริส!!”
วางสายจากหัวหน้าแผนก...แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อกลับไปที่ร้านอาหาร แต่ระหว่างทางก็ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ในมือไปด้วยเพื่อโทรหาพ่อบุญธรรมเพราะต้องการกล่าวลา รวมถึงสารภาพผิดกับเรื่องที่เขาทำตัวไม่น่ารัก และพาแบคฮยอนไปเที่ยวจนเกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน แต่...ยังไม่ทันเดินไปถึงไหนหรือได้โทรหาใคร เซฮุนก็เดินชนผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ และรีบเอ่ยคำขอโทษพร้อมโค้งตัวให้อย่างสุภาพ
แต่...เมื่อเงยหน้าขึ้นหวังจะส่งยิ้มเพื่อแสดงความเป็นมิตรและรู้สึกผิดอย่างจริงใจ กลับทำให้ต้องเห็นคนที่ไม่อยากเจอในเวลานี้ ที่นี่ ตอนนี้หรือตลอดชีวิตยืนอยู่ตรงหน้า!!!
“จะกลับแล้วเหรอครับ คุณเซฮุน”
“หลีกทางด้วยครับ...คุณคริสกำลังทำให้ผมตกเครื่อง”
“ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหมครับ ไม่เกินสิบนาทีแน่นอน...ผมรับรอง”
“มันไม่เกี่ยวว่าจะกี่นาทีหรอกครับคุณคริส แต่ผมไม่อยากคุย!!”
“กลัวจงอินมาเห็นเหรอครับ? แล้ววว...จงอินรู้เรื่องวันนั้นหรือยังครับ??”
“โอเค ๆ....อยากคุยอะไรก็คุยเลยครับคุณคริส”
ไม่ได้กลัวคำขู่...แต่ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้คนรักต้องมาเสียความรู้สึก เสียเงินหรือเสียชื่อเสียงไปกับสิ่งที่เขาเป็นคนก่อ และผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็คงไม่กล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อในที่สาธารณะแน่นอน เซฮุนพยายามเดินเลี่ยงให้พ้นจากหน้าร้านอาหารให้มากที่สุด เพราะเกรงว่าจงอินจะเดินออกมาตามและพบในสิ่งที่ไม่สมควรเห็น
“เรื่องเมื่อคืนก่อน...ผมขอโทษนะครับ คุณเซฮุนยกโทษให้ผมได้ไหม??”
“ออกมาจากใจหรือเปล่าครับ?”
“ถ้าผมบอกว่าใช่...คุณเซฮุนจะเชื่อผมหรือเปล่า?”
“ผมบอกตรงๆ...ว่าไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณคริสตั้งใจมาขอโทษผมจริง ผมก็จะยกโทษให้”
“ผมรู้...ว่ามันเชื่อยาก แต่ผมขอยืนยันอีกทีว่าผมขอโทษจริงๆ”
ไม่คิด...ว่าจะมาเจอแฟนของจงอินที่นี่หลังจากเกิดเรื่องที่ผับเมื่อสองคืนก่อน แต่เมื่อได้มาเจอกันโดยบังเอิญอีกครั้ง คนที่สำนึกผิดจริงๆอย่างอู๋อี้ฟานก็ต้องรีบพูดความในใจก่อนที่ตัวเองจะต้องไปต่างประเทศอีกหลายวันและมันอาจทำให้ไม่ได้พบกับเซฮุนอีก สิ่งที่เกิดขึ้น...ระหว่างเขากับเจ้าของใบหน้าเรียวสวย มันทำให้อี้ฟานคิดมากอย่างที่ไม่เคยต้องคิดถึงใครแบบมาก่อนในชีวิต ความจริงก็รู้สึกอายที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งๆที่ยังไม่อยากยอม แต่คำพูดบางคำของคนตรงหน้ามันยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท
“ต่อให้คุณคริสได้ทุกอย่างไปจากผม!! โรงแรมขอคุณคริสก็ไม่ได้รับความนิยมมากขึ้นหรอกครับ!!!”
มันเป็นเรื่องจริง...ที่คนแบบอี้ฟานเพิ่งคิดได้ เพราะต่อให้เขาทำลายเซฮุนจนไม่เหลือความเป็นคน โรงแรมของตระกูลอู๋ก็ยังคงเป็นรองคู่แข่งตลอดกาลอย่างตระกูลคิมอยู่ดี และเขาก็ควรเอาเวลาที่คิดจะทำลายคนอื่นไปพัฒนาสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ให้ดีขึ้นดีกว่า มันเป็นครั้งแรกในชีวิต...ที่อี้ฟานยอมขอโทษใครสักคนด้วยใจจริง เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธ กล้าพูดตรงๆ กล้าตำหนิด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเหมือนอย่างที่เซฮุนได้เอ่ยออกมา ทุกๆคนเอาแต่พูดดี เยินยอ บำรุงบำเรอหรือยอมแม้กระทั้งเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้ยืนเคียงข้างเจ้าของโรงแรมและนายแบบชื่อดังอย่างเขา
“ก็ผมยกโทษให้แล้วไงครับ คุณคริสไม่เชื่อผมเหรอ”
“ขอบคุณนะครับ และหวังว่าเราจะเพื่อนกันได้”
“ได้สิครับ แต่...คุณคริสห้ามยุ่งกับพี่จงอินเด็ดขาด!!”
“ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวครับ แต่สำหรับเรื่องธุรกิจ...ก็คงต้องแข่งขันกันไปตามเกม”
“.....???”
ตอนที่ได้ยินคำว่า “เรื่องส่วนตัว” ครั้งแรกมันทำให้เซฮุนอยากรู้ว่าคริสและจงอินต่างเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน แต่เมื่อคิดทบทวนดูอีกครั้ง...มันก็คงไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องไปรับรู้ อดีตก็คืออดีตและปัจจุบันก็กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนที่เคยร้าย คนที่เคยมอบรอยจูบที่แสนน่าเกลียดหรือคนที่เคยดูน่ากลัวในสายตาของเขา มันกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีและอาจกลายเป็นเพื่อนใหม่ที่เขาต้องเริ่มทำความรู้จักในอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิต
มันคงไม่สายเกินไป...ถ้าให้โอกาสคนทำผิดได้กลับตัวกลับใจ
“ขอบคุณ...ที่ยกโทษให้ผมนะครับคุณเซฮุน”
“เพื่อน...จะไม่ยกโทษให้เพื่อนได้ยังล่ะครับ ^-^) ”
อ้อมกอดของความเป็นเพื่อน...ถูกโอบไว้ด้วยแขนของคนที่ยอมให้อภัยกับความผิดต่อคนที่มีสำนึกในกระทำด้วยความยินดี เซฮุนไม่เคยคิดว่าคนเย่อหยิ่งหรือคนที่คอยตามรังควานความสุขของเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนอย่างอู๋อี้ฟานจะกลายมาเป็นเพื่อนใหม่ในวันนี้ และเมื่อต่างคนต่างปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่เขาต้องรีบวิ่งกลับไปที่ร้านอาหารก่อนที่จะทำให้คนรักสงสัย
มือหนา...ประคองร่างคนที่เดินออกไปคุยโทรศัพท์อยู่นานสองนานออกจากร้านชื่อดัง แล้วตรงเข้าเกททันทีเพราะมันใกล้จะถึงเวลาที่พวกเขาต้องเดินทางกลับโซลแล้ว ไม่มีความสงสัยเกิดขึ้นในใจของคนรอ เนื่องจากงานด่วนที่โรงแรมมันพาให้คิมจงอินรู้สึกเครียดกว่ามากกว่าเรื่องไหนไหน และเซฮุนจะออกไปคุยสายกับใครเขาก็ไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายมากนัก จงอินไว้ใจ มีความเชื่อมั่นและพยายามเหลือพื้นที่ไว้ให้คนรักได้มีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง แต่......
แชะ!!!
แชะ!!!
แชะ!!!
เสียงกดชัตเตอร์...ที่ดังขึ้นท่ามกลางเสียงของผู้คนที่อยู่ในสนามบิน และมันก็ดังอยู่นานพอจะเก็บภาพที่ทำให้ใครบางอาจหมดความเชื่อใจและอาจโกรธมากถ้าได้เห็นรูปเหล่านี้ ช่างภาพมือสมัครเล่น...ลดกล้องลงเมื่อได้ภาพที่ถูกใจก่อนมองความหวานชื่นของคนเป็นเจ้าของโรงแรมที่กำลังหยอกเย้ากับคนในอ้อมแขนระหว่างทางเดินเข้าเกท...จนคนทั้งคู่หายลับไปจากสายตา
แต่สิ่ง...ที่ยังไม่หายไปจากความทรงจำนั่นก็คือ ความแค้น!!!!
...
...
“หึ!!!!....มีความสุขกันไปก่อนเถอะ อีกไม่นานก็ได้รู้...ว่าความสุขหรือความทุกข์ที่แท้จริงมันเป็นยังไง!!!!!!”
❀
100%
แก้ไขเมื่อ 08/12/60
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ และถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด เราขออภัยด้วยค่ะ
ขอบคุณคอมเม้นท์ ทั้งติและชม เพราะทุกอย่างคือกำลังใจดีๆที่อ่านแล้วทำให้มีพลัง(ฮึบ)
แล้วจะเข้ามาแก้คำผิดเรื่อยนะคะ
รัก ♥
#ดอกไม้ของเจ้านาย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรต์เตอร์สู้ๆนะคะ