ตอนที่ 17 : ❀ 17
ดอกไม้ดอกที่ 17
โรงแรม เชจู
09.24 น.
เป็นเช้าที่ไม่อยากตื่นมาทำงานเลยแม้แต่นิด เพราะเมื่อคืนถูกเพื่อนๆของวิศวกรหนุ่มชวนดื่มอยู่หลายแก้ว แถมยังถูกซักถามว่าเป็นใคร? มาจากไหน? และไปรู้จักกันได้อย่างไร? แล้วหลังจากนั้นก็ถูกพาตัวกลับมานอนที่บ้านโดยมีเพื่อนรักคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวพร้อมเปลี่ยนเสื้อให้เป็นอย่างดี แต่...อาการมึนศีรษะและหาวจนปากจะฉีกอยู่ในตอนนี้มันเริ่มทำให้คนตัวเล็กแปลเอกสารได้ไม่คล่องเหมือนอย่างเช่นเคย
“คุณลุงครับ...เซฮุนสงสารแบค คุณลุงให้แบคกลับไปนอนที่บ้านไม่ได้เหรอครับ?”
“เที่ยวได้ก็ต้องทำงานได้ เซฮุนไม่ต้องไปเข้าข้างเจ้าแบคเลย ยังไงพ่อก็ไม่สงสาร!!”
“โธ่...คุณลุงครับ ให้แบคไปพักเถอะนะครับ นะนะนะ”
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย...อยากดื้อกันดีนัก!! ทำงานไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับบ้าน! เซฮุนก็อีกคนนะลูก...พากันไปเที่ยว แต่ไม่ดูแลกันให้ดี เฮ้อออ...พ่อไปหาลูกค้าก่อนดีกว่า เหนื่อยจะบ่นพวกเราแล้ว เอ่ออ...เย็นนี้พ่อกลับดึกนะ แล้วอย่าพากันไปซนที่ไหนอีกล่ะ!!”
“ครับ...คุณลุง”
หน้าหงอย...ทั้งลูกแท้ๆและลูกบุญธรรมเมื่อถูกผู้เป็นพ่อบ่นมาตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงตอนนี้ แบคฮยอนฟุบหน้าลงบนโต๊ะตัวใหญ่ที่มีเอกสารกองอยู่มากมายเพราะอยากพักสายตาสักครู่รวมถึงยังไม่สร่างเมาเท่าที่ควร ส่วนเซฮุนก็ได้แต่นั่งมองเพื่อนรักตาปริบๆเนื่องจากไม่สามารถช่วยงานอะไรได้เลย แถมการช่วยพูดเพื่อให้คนตัวเล็กได้กลับไปนอนพักที่บ้านก็ไม่สำเร็จ ซ้ำยังถูกบ่นและถูกตักเตือนจนไม่กล้าร้องขอสิ่งใดออกมาอีกเลย
เซฮุนทราบดี...ว่าที่จีซบบ่นและตักเตือนพวกเขามาตั้งแต่เช้าก็เพราะรัก เป็นห่วง รวมถึงอยากให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ต้องทำ ไม่ใช่เที่ยวกันสนุกสนานจนลืมหน้าที่การงาน เพราะตอนนี้ทั้งเขาและแบคฮยอนก็โตเกินกว่าที่จะทำอะไรเป็นเด็กๆเหมือนตอนที่ยังเรียนหนังสือ มือบางหยิบเอกสารที่เพื่อนรักแปลเสร็จไปแล้วส่วนหนึ่งเรียงใส่แฟ้มให้ด้วยความรู้สึกสงสาร เนื่องจากสภาพของแบคฮยอนมันไม่เอื้อต่อการทำอะไรเลยนอกจากการนอน
Rrrr!!
Rrrr!!
Rrrr!!
“ครับ..พี่จงอิน”
(เที่ยงนี้พี่กลับไปกินข้าวด้วยไม่ได้นะครับ...งานพี่ยังไม่เสร็จเลย”
“ไม่เป็นไรครับ...พี่จงอินทำงานไปเถอะ เดี๋ยวเซฮุนกินข้าวกับแบคก็ได้ครับ”
(เซฮุนไม่โกรธพี่ใช่ไหมครับ??)
“โกรธทำไมล่ะครับ? เซฮุนเข้าใจ...พี่จงอินก็อย่าลืมกินข้าวด้วยนะครับ อย่ามัวแต่ทำงานเพลิน”
(คร้าบบบ...แต่ตอนเย็นพี่จะกลับไปกินข้าวด้วยแน่นอน พี่สัญญา)
“เซฮุนจะรอนะครับ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ”
(รักนะครับเซฮุน)
“รักเหมือนกันครับ >//< ”
ถูกเจ้าของโรงแรมชวนมาเที่ยวพักผ่อน...แต่กลับไม่ได้พักผ่อนเหมือนอย่างที่คิด เพราะจงอินมีงานด่วนในเขตก่อสร้างให้ต้องเข้าไปตรวจสอบ เช้านี้เซฮุนจึงต้องมานั่งช่วยเพื่อนรักเรียงเอกสารต่างๆอยู่ในห้องทำงานโดยมีพ่อบุญธรรมขับรถส่งที่โรงแรมพร้อมกัน และหลังจากวางสายคนรักเรียบร้อยเซฮุนก็รีบเก็บแฟ้มสีดำใส่ลิ้นชักเอาไว้ แล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อลงไปหาเครื่องดื่มแก้อาการเมาค้างให้เพื่อนรักทานก่อนที่งานทุกอย่างจะล่าช้าไปมากกว่านี้
ขาเรียว...ในกางเกงสกินนี่สีเข้มก้าวออกมาจากลิฟท์เมื่อกล่องโดยสารสี่เหลี่ยมพามาส่งถึงชั้นล่างของโรงแรม แล้วเดินตรงเข้ามาสั่งกาแฟในคอฟฟี่ช็อปทันที มันเป็นเครื่องดื่มที่เพื่อนรักตัวเล็กไม่ชอบเอามากๆเนื่องจากมันขมจนกลืนไม่ลง แต่เวลานี้...ต่อให้ไม่ชอบแค่ไหนก็ต้องกินเพราะไม่อย่างนั้นอาการเมาค้างจนไม่สามารถทำงานได้อาจทำให้ถูกคุณพ่อลงโทษแทนที่จะถูกบ่นเหมือนเมื่อเช้า
แต่...การเดินทางมาช่วยเพื่อนรักทำงานอยู่ในโรงแรม รวมถึงการเข้ามาสั่งเครื่องดื่มที่คอฟฟี่ช็อปมันก็ทำให้เซฮุนรู้สึกลำบากใจอยู่พอสมควร เพราะสายตาของพนักงานทุกคนที่มองมาที่เขามันไม่ได้ต่างไปจากพนักงานที่สาขาโซลเลยสักนิด
เซฮุนเข้าใจดี...ว่าตอนนี้ทุกคนคิดเช่นไรกับเขา เพราะคำซุบซิบนินทารวมถึงความเป็นห่วงเป็นใยที่แฝงมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น มันก็ทำให้เจ้าตัวทราบดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนเป็นเจ้าของโรงแรมมันได้ถูกพูดถึงไปในทางไหนบ้าง จะทางดีทางร้าย จะอิจฉาหรือดูถูก ทุกๆความรู้สึกมันถูกส่งผ่านมาทางสายตาหมดแล้ว
“รับอะไรดีครับคุณเซฮุน”
“เรียกเซฮุนเฉยๆก็ได้ครับ เอ่ออ...ผมขอกาแฟร้อนแก้วนึงครับ”
“คราวหลังโทรมาสั่งก็ได้ครับ เดี๋ยวผมให้เด็กเอาขึ้นไปเสิร์ฟให้ที่ห้อง”
“ขอบคุณมากนะครับ งั้นขอผมรบกวนให้เอากาแฟขึ้นไปส่งที่ห้องทำงานของคุณจีซบได้ไหมครับ?”
“ได้เลยครับ”
“ขอบคุณมากๆนะครับ”
ใช่ว่าอยากทำตัวน่าหมั่นไส้เหมือนที่ถูกคนอื่นนินทา...แต่จะให้ออกไปหาซื้อเครื่องดื่มเองข้างนอกก็ไม่รู้ว่าจะไปซื้อที่ไหน และการโดนจับจ้องตั้งแต่เดินออกมาจากลิฟท์จนกระทั่งสั่งเครื่องดื่มเสร็จสิ้น มันทำให้เซฮุนรู้สึกอึดอัดมากจนต้องรีบเอ่ยปากขอให้พนักงานในคอฟฟี่ช็อปเอากาแฟไปส่งให้ที่ห้องทำงานของพ่อบุญธรรม รวมถึงไม่ต้องการให้ผู้ชายที่เข้ามารับออร์เดอร์เมื่อครู่ปฏิบัติตัวกับเขาเหมือนกับที่ปฏิบัติกับคนเป็นเจ้านาย หรือทำสีหน้าท่าทางเกรงกลัวเกรงใจเมื่อรู้ว่าเขาเป็นอะไรกับเจ้าของโรงแรม
เซฮุนวางตัวไม่ถูก...และพยายามไม่ทำอะไรให้ดูเหมือนมีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น แต่บางเหตุการณ์อย่างเช่นการเดินลงมาสั่งเครื่องดื่มในคอฟฟี่ช็อปวันนี้ มันก็จำเป็นจริงๆเพราะแบคฮยอนยังไม่สร่างเมาสักที พนักงานจัดดอกไม้ของโรงแรมสาขาโซล...รีบกลับขึ้นมาที่ห้องของผู้เป็นพ่อบุญธรรมอีกครั้งเมื่อสั่งของแก้แฮงค์ให้คนตัวเล็กเรียบร้อย และระหว่างทางของการกลับขึ้นมาที่ห้องทำงานของจีซบ เซฮุนก็แทบไม่สบตาหรือหยุดทักทายใครทั้งนั้นเนื่องจากไม่อยากถูกมอง ถูกถาม รวมถึงไม่ต้องการเห็นใครก้มหัวให้เขาเหมือนอย่างที่ทำกับเจ้านายเมื่อพบหน้ากัน
แกร๊กก!!
“ไปไหนมาเซฮุน?”
“ลงไปสั่งกาแฟมาให้แบคกินนั่นแหละ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง...หายมึนหัวหรือยัง??”
“ก็ดีขึ้น แล้วเซฮุนรู้ใช่ไหมวะ...ว่า”
“รู้สิ...แต่แบคไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราไม่เป็นไร”
“จริงนะ เซฮุนอย่าหลอกแบคนะ?!!”
“จริงสิ เราไม่โกหกแบคหรอก เรื่องแค่นี้เอง สบายมาก เราไม่เก็บมาคิดให้รกสมองแน่นอน”
ยังรู้สึกมึนหัวไม่หาย...แต่พอได้พักสายตาไปสักครู่ก็รู้สึกดีขึ้น และเมื่อเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานเพราะได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิด แบคฮยอนก็รีบทักทายคนที่เดินเข้ามาทันทีเพราะคิดว่าเพื่อนรักต้องไปเจอกับเรื่องที่น่าอึดอัดมาแน่ๆ สีหน้าที่ดูเป็นกังวลและคิ้วสวยได้รูปที่ขมวดกันจนยุ่งของเซฮุนมันได้ฟ้องทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว
แบคฮยอนทราบดี...ว่าข่าวของเพื่อนรักที่กำลังคบหากับคนเป็นเจ้าของโรงแรม มันได้ถูกเล่าหรือเรียกอีกอย่างว่านินทาเริ่มดังไปทั่วทั้งโรงแรมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสาขาเชจูแห่งนี้ สาขาโซลและอาจรวมไปถึงสาขาอื่นๆที่อยู่ในต่างประเทศด้วยก็เป็นได้ และเพราะเหตุนี้...คนตัวเล็กจึงเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนรักมากที่สุด แต่เมื่อเซฮุนยืนยันว่าไม่ได้คิดอะไรมาก แบคฮยอนก็จะไม่เซ้าซี้อีกต่อไปแล้วเริ่มลงมือทำงานให้เสร็จก่อนที่เลขาของคุณพ่อจะโทรมาทวงงานที่กองเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้า
คนตัวเล็ก...เข้าใจความรู้สึกของเซฮุนดีกว่าใคร เพราะตัวของเขาเองก็ถูกนินทาไม่ต่างไปจากเพื่อนรักเลยสักนิด การมีแฟนเป็นวิศวกรประจำโรงแรมจอมเจ้าชู้ มันทำให้แบคฮยอนถูกพูดถึง ถูกมอง และได้ยินคำถากถางจากพนักงานที่นี่แทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น...ของเล่นชิ้นใหม่ ตัวสำรองและอีกสารพัดคำดูถูกที่ได้ยินมาบ่อยจนชินชา
แบคฮยอนยอมรับ...ว่าช่วงแรกๆที่ได้ยินคำพูดพวกนั้น มันทำให้ตัวเองรู้สึกแย่จนเกือบรับไม่ไหว เพราะบางทีคนที่พูดคำนั้นออกมาก็คือบรรดาแฟนเก่าของวิศวกรประจำโรงแรม แต่สิ่งที่ทำให้เขาผ่านความรู้สึกที่น่าอึดอัดมาได้ก็คือความจริงที่รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร หรือว่าชานยอลรักเขามากแค่ไหน และแบคฮยอนก็อยากให้เซฮุนคิดเช่นนี้เหมือนเขา เข้มแข็งเหมือนที่เขา เพราะหนุ่มผิวเข้มที่เป็นเจ้าของสถานที่ที่เขานั่งทำงานอยู่ในขณะนี้ก็คงรักเซฮุนมากเช่นกัน
Rrrrr!!
Rrrrr!!
มือเรียวสวย...ของคนตัวเล็กจำเป็นต้องละออกจากแป้นพิมพ์เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานดังขึ้น พร้อมรีบกดรับเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใครและยิ้มออกมาด้วยความดีใจจนเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆพลอยยิ้มตามไปด้วย
“ว่าไงฮะพี่ชานยอล”
(น้องแบคหายมึนหัวหรือยังครับ??)
“หายแล้วฮะ”
(เที่ยงนี้...น้องแบคต้องกินข้าวกับเซฮุนสองนะครับ งะ...งาน)
“อ้าวว...ทำไมพี่ชานยอลไม่มากินด้วยกันล่ะฮะ?”
(งานพี่ยังไม่เสร็จเลยครับ แล้วตอนนี้พี่ก็ออกมาคุยงานกับจงอินข้างนอก แต่มื้อเย็นจะกลับไปทานด้วยกันเหมือนเดิมครับ)
“เฮ้อออ! ...โอเคฮะ”
(ไม่ต้องมาถอนใจเลย...เด็กขี้เมา แล้วมื้อเที่ยงน้องแบคกับเซฮุนต้องขึ้นไปทานที่ห้องพักของจงอินนะครับ!!)
“หูยยยยย...ทำไม่ต้องทำอะไรเว่อร์ขนาดนั้นด้วยล่ะฮะ?!!!”
(น้องแบคก็รู้... ว่าจงอินมันหวงเซฮุนยังกับอะไร!! มันไม่ยอมให้เซฮุนออกไปลำบากหาของกินเองหรอกครับบบบ!!)
“ก็เลยต้องลำบากใจขึ้นไปกินมื้อเที่ยงบนห้องเจ้าของโรงแรม????!!”
(เฮ้อออ!...แล้วน้องแบคจะให้พี่ทำไงได้ละครับ? ก็จงอินมันสั่งมาแบบเนี้ย!!)
“คนอะไร...เอาแต่ใจชะมัด!!”
(น้องแบคกับเซฮุนขึ้นไปที่ห้องXXXได้เลยนะครับ จงอินมันจัดการทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว)
“รับทราบ...และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งแล้วฮ้าาา”
ลากเสียงที่บอกถึงความประชดประชันใส่คนปลายสายก่อนจบการสนทนา และวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมด้วยอารมณ์ของความรู้สึกหงุดหงิด เพราะแทนที่จะได้ออกไปหาอะไรทานกับเพื่อนรักข้างนอก แต่กลับต้องขึ้นไปนั่งกินมื้อเที่ยงบนห้องพักสุดหรูของคนเป็นเจ้าของโรงแรม รวมถึงหงุดหงิดที่อดทานข้าวกับแฟนตัวใหญ่
จากที่ถูกนินทาหรือถูกมองด้วยสายตาที่อยากเกินคาดเดาของคนในโรงแรมมาหลายสัปดาห์ และหลังจากการทานมื้อเที่ยงมื้อนี้จบลง แบคฮยอนก็คิดว่าทั้งเขาทั้งเซฮุนคงถูกจับตามอง ถูกนินทา ถูกพูดถึงในทางอื่นๆไปอีกหลายเดือน เพราะการขึ้นไปนั่งทานอาหารที่ห้องพักของคนเป็นเจ้าของโรงแรม มันคงทำให้ตัวเขาและเพื่อนรักถูกเพิ่มระดับความน่าหมั่นไส้มากขึ้นไปอีกเป็นสิบเท่าตัว
และ...จะให้ขัดคำสั่งก็ไม่กล้าเพราะพวกเขายังมีความผิดเรื่องที่แอบหนีเที่ยวด้วยกันจนถูกจับได้
❀
15.53 น.
ทานมื้อกลางวันสุดหรูเรียบร้อย...ผู้ถูกมองด้วยความอิจฉา ความหมั่นไส้และอีกหลายๆความรู้สึกที่พนักงานในโรงแรมสาขาเชจูคิดเอาไว้ ก็กลับมานั่งทำงานในในห้องของคุณพ่อตามเดิมโดยมีเพื่อนรักคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ข้างๆ คนตัวเล็กคิดไว้ไม่มีผิดว่าต้องถูกเพ่งเล่งมากเป็นเท่าตัว เพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้าไปในห้องพักของคนเป็นเจ้าของโรงแรม เขาและเซฮุนก็ถูกพนักงานที่นำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟชักสีหน้า แถมยังวางจานชามดังโครมครามเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ในห้องไม่ใช่เจ้านายของตัวเอง
อาหารอร่อยถูกปาก...ข้อนี้แบคฮยอนไม่ขอติ แต่ทานแล้วรู้สึกฝืดคออยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยชอบความอึดอัดของบรรยากาศในการทานมื้อเที่ยงมื้อนี้สักเท่าไหร่ และดูเหมือนเพื่อนรักก็คิดไม่ต่างไปจากตัวเขา เนื่องจากเซฮุนทานอาหารไปน้อยมาก แต่ก็ยังดี...ที่ทานของหวานจนหมดถ้วย
“เซฮุน...เรื่องที่เราไปเที่ยวผับกันเมื่อคืน พี่จงอินรู้หรือเปล่า??”
“ไม่รู้หรอก ขืนรู้...มีหวังเราคงถูกจับขังให้อยู่แต่ในห้องแน่ๆ!!”
“พี่จงอินดุขนาดนั้นเลยเหรอเซฮุน!??”
“ดุสิ...ดุมากกก!! พี่จงอินไม่ชอบให้เราขัดคำสั่ง แต่ก็ไม่ถึงกับเผด็จการอะไรขนาดนั้นหรอกนะ”
“ขนาดไม่เผด็จการ...ยังสั่งให้พวกเราขึ้นไปกินข้าวที่ห้องเลยอะ”
“พี่จงอินคงเป็นห่วงมากกว่า แล้ววว...เรื่องเมื่อคืน คุณชานยอลโกรธแบคหรือเปล่า?”
“โกรธสิ...เกือบเลิกกันด้วยนะ แบคร้องไห้เลยอะ เมื่อคืนพี่ชานยอลก็น่ากลัวเหมือนกัน”
“เป็นไงล่ะ เราบอกแล้ว...ว่าอย่าออกไปเที่ยวแบคก็ไม่เชื่อ!! ดีนะ...ที่คุณพ่อไม่โกรธ คุณชานยอลไม่เลิกกับแบค แล้ววว...พี่จงอินก็ไม่รู้”
แกร็กก!!!!!!!!!!!!!!
“ไม่รู้อะไรเหรอครับ...เซฮุน!!”
“.....!!!! // ......!!!”
คุยกันไป...ทำงานกันไปจนไม่ทันได้สนใจว่าใครเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงาน แต่...พอได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูเอ่ยทักทาย ทั้งคนตัวเล็กและเพื่อนรักที่กำลังช่วยเรียงเอกสารเก็บใส่ตู้ก็ถึงกับหันไปมองที่ต้นเสียงทันที และก็เป็นแบคฮยอนที่ต้องรีบก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานอย่างขยันขันแข็ง เพราะไม่อยากถูกถามในสิ่งที่ตัวเองเป็นคนก่อเรื่องเอาไว้ ส่วนคนถูกเรียกชื่ออย่างเซฮุนก็รีบเดินเข้าไปหาหนุ่มผิวเข้มทันทีเมื่อเก็บเอกสารเข้าตู้เรียบร้อย
“พี่จงอินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ? แล้ววันนี้ทำงานเหนื่อยไหม?” เบี่ยงประเด็นจากคนถูกถามกลายเป็นคนถามเสียเอง เพราะไม่ต้องการให้เจ้าของโรงแรมเอ่ยถึงเรื่องที่สงสัยเมื่อครู่
“กำลังนินทาอะไรพี่หรือเปล่าครับ พี่ได้ยินชื่อแว่วๆ” เก่งแต่เรื่องทำสีหน้ากดดันคนอื่นให้คายความลับออกมา แถมยังคว้าตัวคนรักเข้ามากอดเอาไว้โดยไม่ได้สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าห้องทำงานจะมองเช่นไรหรือคิดแบบไหน
ฟอดดดด!!
“เปล่านินทานะครับ...แค่คุยกันเฉยๆว่าคุณชานยอลกับพี่จงอินไปทำงานกันถึงไหนก็ไม่รู้!!” ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เซฮุนจะต้องมาแคร์สายตาใครเหมือนกัน และรีบพูดแก้ตัวพร้อมก้มใบหน้าเรียวสวยกดจมูกโด่งรั้นหอมแก้มเจ้าของโรงแรมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในเรื่องที่ถูกถาม
“เหม็นไหมครับเซฮุน? พี่ไปทำงานในส่วนต่อเติมห้องพักมาครับ เหงื่อเต็มตัวไปหมด” ละมือข้างหนึ่งออกจากเอวคอด และยกขึ้นพร้อมใช้นิ้วชี้แตะไปที่จมูกโด่งๆของคนขี้อ้อนเบาๆ เพราะทั้งฝุ่นควัน ทั้งกลิ่นสีรวมถึงเศษไม้จากการต่อเติมห้องพักมันก็ติดอยู่ตามร่างกายเต็มไปหมด และเมื่อเดินตรวจงานด้วยตัวเองเรียบร้อย จงอินก็รีบกลับเข้ามาในโรงแรมและตรงมาที่ห้องทำงานของคุณอาจีซบทันที
“เซฮุนอาบน้ำให้ไหมครับ?? พี่จงอินจะได้สบายตัว” กระซิบเบาๆถามเจ้าของอ้อมกอด และเมื่อเห็นสายตาคมที่จ้องเหมือนเป็นการตอบรับ เซฮุนก็รีบร่ำลาเพื่อนรักตัวเล็กแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของพ่อบุญธรรมตามแรงดึงรั้งของจงอินทันที
...
...
...
แกร๊กกก!!
“อ๊ะ!! อื้มมม!”
“ไปหัดยั่วมาจากไหน หื้มม...เซฮุน”
“ปะ...เปล่ายั่วนะครับ ก็พี่จงอินงานเยอะ เซฮุนเลยอยากดูแลพี่จงอินบ้าง”
“เด็กดี...เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จ พี่จะพาไปทานมื้อเย็นด้วยกันนะครับ”
“ตามใจเลยครับ เซฮุนตามใจพี่จงอินทุกอย่าง”
เสียงประตูห้องพักถูกปิดลง...ร่างสวยที่เสนอตัวจะอาบน้ำให้คนรักเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาก็โดนจู่โจมด้วยปากคมบดคลึงกวาดต้อนด้วยความร้อนแรง และสะโพกกลมกลึงยังถูกบีบเค้นผ่านเนื้อผ้าจนหลุดเสียงร้องน่าอายออกมาอย่างห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้
“ตามใจทุกอย่าง งั้นนน...ก็ช่วยจัดการตรงนี้ให้พี่หน่อยได้ไหมครับเซฮุน”
“ซะ...เซฮุนทำไมเป็นครับ”
“ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกครับ...เซฮุนลองทำดูนะ เดี๋ยวพี่สอนให้”
“เอ่ออ คะ...ครับ เซฮุนจะทำ >//<)”
อยากเบี่ยงเบนประเด่นเรื่องที่ถูกสงสัย...เซฮุนจึงเอ่ยปากอาสาจะปรนนิบัติคนรักด้วยการอาบน้ำให้ และความรู้สึกลึกๆในใจก็อยากดูแลคนเป็นเจ้าของโรงแรมบ้างหลังจากที่ถูกดูแลอยู่ฝ่ายเดียวมาตั้งแต่ตอนที่ล้มป่วย แต่คำสั่ง...ที่บอกให้เขาจัดการส่วนที่ใหญ่คับปากคับคอ และถูกมือหนาใช้นิ้วโป้งลูบวนอยู่บนริมฝีปากพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์สบมองเหมือนจะทะลุผ่านเนื้อผ้าได้ มันก็ทำให้หัวใจของคนถูกสัมผัสเต้นรัวจวนระเบิดออกมานอกอก
มือเรียวสวย...บรรจงถอนกางเกงขายาวราคาแพงออกจากสะโพกสอบ แล้วคุกเข่าลงไปกับพื้นห้องพร้อมๆกับผ้ายีนส์ที่เลื่อนหลุดไปกองอยู่ที่ขาของคนรัก เกิดมาก็ไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครและไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ตอนนี้จะถูกใจคนออกคำสั่งหรือไม่ ใบหน้าเรียวสวย ปากบางสีหวาน...ขยับไปมาตามจังหวะ ตามอารมณ์ ตามเสียงที่คนเป็นเจ้าของโรงแรมตอบสนองออกมาอย่างนึกอายอยู่ในใจ
แต่...ก็ไม่อาจหยุดการกระทำทุกอย่างลงได้เพราะถ้ามันทำให้จงอินมีความสุข เซฮุนก็พร้อมที่จะทำ
“ซี้ดดด เซฮุนนน...อื้มม!!”
กว่าจะได้อาบน้ำกันจริงๆ...ก็ทำเอาเตียงกว้างในห้องพักสุดหรูยับยู่ยี่จนต้องเรียกพนักงานแผนกแม่บ้านให้ขึ้นมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ทั้งหมด รวมถึงเคลียร์ความสะอาดในห้องน้ำ และนี่...ก็คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เซฮุนต้องถูกนินทา ถูกพูดถึง หรือถูกมองในแง่ลบจากพนักงานในโรงแรมสาขาเชจู และเมื่อต่างคนต่างแต่งตัวกันเรียบร้อย จงอินก็ประคองคนช่างยั่วออกมาจากห้องพักเพราะตอนนี้มันถึงเวลาของอาหารมื้อเย็นที่เขาจองโต๊ะเอาไว้เมื่อช่วงสาย
จุ๊บบ!!!
“เจ็บไหมครับเซฮุน?” จับมือบางขึ้นมาจูบเพื่อเป็นการขอโทษ เพราะรู้ตัวดีว่าเอาแต่ใจกับคนรักมากเกินไปหน่อย แต่...ถูกยั่วขนาดนั้น ใครมันจะไปอดใจได้ ยิ่งเจ้าของเสียงหวานเอ่ยครางไม่หยุดตลอดการบรรเลงเพลงรักก็ยิ่งทำให้เจ้าของโรงแรมโหมความต้องการใส่ร่างสวยไปตามอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่น
“ปล่อยมือเซฮุนก่อนครับพี่จงอิน แล้วก็อย่าถามแบบนั้นได้ไหมครับ” คำถามก็น่าอาย ถูกจูบในลิฟท์ก็น่าอาย เซฮุนจึงได้แต่ทำหน้าบึ้งพร้อมมองคนรักอย่างคาดโทษ เพราะการทำทุกอย่างโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควร และดีที่ในกล่องโดยสารสี่เหลี่ยมไม่มีลูกค้าหรือพนักงานของโรงแรมอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้น...เขาคงตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครที่อยู่ในลิฟท์
“ก็พี่เป็นหวงหนิครับ แล้วพี่ก็ไม่สนใจใครทั้งนั้น นอกจากเซฮุนของพี่คนเดียว” ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ยิ่งถูกเตือนเหมือนยิ่งรู้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังคิดมากในเรื่องอะไร เพราะคำนินทาว่ากล่าวต่างๆก็ใช่ว่าคนเป็นเจ้าของโรงแรมอย่างเขาจะไม่รู้ไม่ทราบ และต่อให้นินทาไปถึงดาวอังคาร...คนแบบคิมจงอินก็ไม่สนใจใครทั้งนั้นนอกจากโอเซฮุน
♪♫...♪TEN FLOOR ♫...♪♫
เมื่อประตูลิฟท์ถูกเปิดออกที่ชั้นสิบ...คนเอาแต่ใจก็ยังโอบเอวพนักงานจัดดอกไม้ของโรงแรมสาขาโซลเอาไว้เหมือนเดิม แล้วเดินตรงไปที่ห้องอาหารไทยทันทีเพื่อทานมื้อเย็น เซฮุนได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามไปกับเจ้าของมือที่ประคองเอวของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เพราะรู้ดีว่าถ้าขัดขืนหรือเบี่ยงกายหลบก็คงทำให้จงอินหงุดหงิดใจไปเปล่าๆ และอาจทำให้บรรยากาศในการทานมื้อเย็นกร่อยลงได้
“สวัสดีค่ะคุณจงอิน...สวัสดีค่ะ!!!...คุณ-เซ-ฮุน” เสียงของพนักงานที่ทำหน้าที่อยู่ในห้องอาหารไทย เอ่ยทักทายคนเป็นเจ้านายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและโค้งตัวให้อย่างสุภาพ แต่กลับเอ่ยชื่อร่างสวยในอ้อมแขนของจงอินด้วยน้ำเสียงที่ต่างออกไป แล้วรีบเดินนำไปยังโต๊ะที่คนเป็นเจ้าของโรงแรมจองไว้ทันที
“แบคกับคุณชานยอลยังไม่มาอีกเหรอครับพี่จงอิน??” รีบนั่งลงบนเก้าอี้เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหารที่ถูกจองไว้ และชวนคนรักพูดคุยเพื่อเบี่ยงอารมณ์เจ้าของสายตาคมที่กำลังจ้องหน้าพนักงานสาวเหมือนเป็นการคาดโทษที่ทำเรื่องเสียมารยาทเมื่อครู่
มือเรียวสวย...วางลงบนต้นขาของคนรักพร้อมกับลูบเบาๆเพื่อสร้างความผ่อนคลาย และชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อยในระหว่างที่รอเพื่อนรักกับวิศกรประจำโรงแรมมาทานมื้อเย็นพร้อมกัน เซฮุนไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามยิ้มแย้มและปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้น...จงอินคงตักเตือนพนักงานสาวด้วยวาจาที่อาจสร้างความบาดหมางให้เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของลูกค้าท่านอื่นที่นั่งอยู่ในห้องอาหารไทย
เจ้าของริมฝีปากสีหวาน...คุยเจื้อยแจ้วไม่หยุด แต่สายตาก็คอยมองไปรอบๆห้องอาหารอย่างนึกชอบใจ เพราะการตกแต่งภายในของห้องอาหารที่นี่ ค่อนข้างเหมือนที่โรงแรมสาขาโซล แถมการจัดดอกไม้ก็ยังใช้ดอกบัวเหมือนเดิม แต่มันก็จะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยตรงการจัดวางและสีของดอกไม้ โรงแรมสาขาเชจูถูกตกแต่งให้คล้ายคลึงกับธรรมชาติมากที่สุด แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นโรงแรมในเครือของตระกูลคิมเอาไว้ และทุกๆอย่างก็ถูกออกแบบมาให้ดูหรูหราสมกับการเป็นที่ยอมรับของคนในแวดวงธุรกิจการโรงแรม
“โทษทีมาสาย...พอดีคุยงานกับลูกน้องเพิ่งเสร็จ” มาถึงก็รีบลากเก้าอี้ออก...แล้วหย่อนกายลงนั่งพร้อมคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารขึ้นมาดื่มจนหมด เพราะวันนี้ทั้งวันเขาแทบไม่ได้หยุดเดินเลยสักนาที แถมงานประจำที่ทำอยู่ในโรงแรมก็รัดตัว แล้วไหนจะงานนอก...ที่ต้องออกไปสั่งให้คนของตัวเองคอยสืบประวัติผู้ที่จะเข้าร่วมงานประมูลที่ดินอีก
ช่วงนี้...ชานยอลงานยุ่งมากเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องกับแฟนของเพื่อนผิวเข้มเมื่อคืน เขาก็รีบจัดการหาคนไปสืบประวัติผู้ที่มีรายชื่อเข้าร่วมงานประมูลที่ดินทันที และคนที่ควรจับตามองมากกว่าใคร ก็เห็นจะเป็นคู่แข่งรายเก่าที่เพิ่งเจอหน้ากันที่ผับ วิศวกรหนุ่ม...ปิดปากเงียบและไม่พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างอี้ฟานกับเซฮุนให้ทั้งจงอินและคนตัวเล็กได้ฟัง เนื่องจากช่วงนี้มันไม่ควรมีเรื่องอะไรเข้าไปกระทบหรือรบกวนจิตใจใครทั้งนั้น ยิ่งโดยเฉพาะกับคนเป็นเจ้าของโรงแรมด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องปิดปากให้สนิท ไม่อย่างนั้น...งานประมูลที่ดินอาจกลายเป็นสงครามขนาดย่อมได้ภายในพริบตา
“แบคขอสั่งอาหารเลยได้ไหมฮะ” เจ้าของหางตาตก...กวาดสายตามองผู้ร่วมโต๊ะอาหารอย่างออดอ้อน เพราะการนั่งรอแฟนอยู่ในห้องทำงานมาเกือบสองชั่วโมง มันทำให้หิวมากจนอยากจะสั่งช้างมากินเป็นมื้อเย็น
“สั่งเลยครับน้องแบค...ไม่ต้องเกรงใจ” เจ้าของโรงแรมยิ้มรับและคิดว่าเป็นตัวเองที่มาช้า เพราะมัวเอาแต่ใจกับเพื่อนรักของคนตัวเล็กที่ห้องพัก แต่...พอเดินเข้ามาถึงโต๊ะอาหารที่จองไว้กลับไม่เจอใครสักคนและต้องนั่งรออยู่นาน
จงอินเดินตรวจงานอยู่กับวิศวกรประจำโรงแรมอยู่ในเขตของการต่อเติมห้องพักมาตั้งแต่เช้า และก่อนแยกตัวกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม ก็ได้นัดทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหารไทย แต่ก็ไม่คิดว่าชานยอลจะมาสายขนาดนี้ พนักงานเดินมารับออร์เดอร์เมื่อถูกคนเป็นเจ้าของโรงแรมสบตา และโต๊ะที่จองเอาไว้ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะจงอินทราบดีว่าคนรักไม่ชอบความวุ่นวายหรือเป็นจุดสนใจของคนอื่น
“น้องแบค...สั่งเผื่อพรุ่งนี้เหรอครับ ถ้าทานไม่หมด โดนดีแน่ๆ” รีบเอ่ยปราม...เพราะแฟนตัวเล็กสั่งทั้งของคาวของหวานมาเยอะจนคิดว่าต้องทานไม่หมดแน่ๆ
“ก็มันน่าทานหนิฮะ...น้องแบคก็เลยสั่งมากิน” เสียงออดอ้อน...ถูกส่งมาพร้อมกับการทำตาปริบๆในแบบที่วิศวกรหนุ่มต้องยอมใจอ่อนให้ทุกครั้งที่เห็น
และ...เมนูที่แบคฮยอนสั่งมาทั้งหมดก็ไม่ได้ถูกยกเลิกเพราะคนที่แทบไม่ได้สั่งอะไรมาทานเลยก็คือเซฮุน
เพื่อนรัก...ได้แต่สายศีรษะให้กับความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของแบคฮยอนเหมือนอย่างที่พ่อบุญธรรมเคยบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถือสาหรือเก็บมาเป็นอารมณ์เพราะคนตัวเล็กก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันและตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม แบคฮยอนชอบทานของหวานมากๆเรื่องนี้เซฮุนทราบดี และบางทีก็มากจนทานแทนอาหารบางมื้อไปเลยก็มี แล้วเยลลี่...ก็คือของหวานสุดโปรดที่พอเปิดตู้เย็นทีไรก็ต้องเจอทุกครั้ง
“คืนนี้กูจะออกไปเที่ยว...ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ มึงติดธุระที่ไหนหรือเปล่าวะชานยอล??”
“ไม่...แล้วมึงนึกยังไงจะออกไปเที่ยว ทำไมไม่ไปพรุ่งนี้วะ??”
“พรุ่งนี้กูต้องกลับโซล...พอดีมีงานด่วน”
“มึงแม่งงงง...แล้วบอกกูว่าลาพักร้อน”
อาหารมาเสิร์ฟได้ไม่ถึงสิบนาที...และตักข้าวเข้าปากไปได้ไม่กี่คำ ชานยอลก็ต้องวางช้อนส้อมลงด้วยความรู้สึกหงุดหงิด เพราะคิดไว้ว่าคืนนี้จะกลับไปนอนให้เต็มอิ่ม แล้ววันรุ่งขึ้นจะพาแฟนตัวเล็กกับเจ้าของโรงแรมไปเที่ยวพักผ่อน เนื่องจากนานๆครั้งจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน และเพื่อนผิวเข้มก็ใช่ว่าจะหยุดได้บ่อยๆ แต่สุดท้าย...สิ่งที่คิดไว้ก็ยังเป็นได้แค่ความคิดเมื่อจงอินมีงานด่วนจนต้องรีบเดินทางกลับโซลในวันพรุ่งนี้
“กูก็อยากพัก แต่งานมันเร่งนิหว่า ทำไงได้วะ!!”
“เออๆ ๆ ...แล้วมึงจะไปเที่ยวไหน?”
“ไปผับที่เคยไปดื่มกับพวกชางมิน...กูไม่ได้ไปที่นั่นนานละ คืนนี้ไปกัน”
“(เหี้ยยยย!!!)”
สบถได้แค่ในใจ...และต้องพยักหน้าเป็นการตอบรับเมื่อได้ยินคำว่า “ผับ” เนื่องจากมันเป็นสถานบันเทิงที่เขาเพิ่งไปมาเมื่อคืน และที่ไปก็เพราะต้องไปตามคนหนีเที่ยวกลับบ้าน แถมยังไปเจอปัญหาใหญ่ที่รู้กันแค่เขากับแฟนของเพื่อนผิวเข้มเท่านั้น แล้วตอนนี้...ก็ไม่ได้มีแค่ชานยอลที่ต้องพยักหน้าเป็นการตอบรับคำชวน แต่ยังมีผู้ร่วมทานมื้อเย็นด้วยกันอย่างเซฮุนกับแบคฮยอนที่ต้องพยักหน้าอย่างหาทางหลีกเลี่ยงไม่ได้และรู้สึกเสียวสันหลังกับการกระทำที่ต่างคนต่างได้ก่อปัญหาเอาไว้
คนตัวเล็กยังรู้สึกผิดไม่หาย...เพราะการหนีเที่ยวโดยไม่ได้บอกให้แฟนรับรู้มันเกือบทำให้ตัวเองต้องเลิกกับชานยอล ส่วนเซฮุนก็มีความลับสำคัญที่จำเป็นต้องปิดบังคนรักเอาไว้เพราะถ้าพูดออกไป มีหวังได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ และคนที่ดูลำบากใจมากกว่าใครก็คือแฟนตัวใหญ่ของเพื่อนรัก คนมีความผิดติดตัว...ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าขออย่าให้เจออี้ฟานเหมือนอย่างที่เจอเมื่อคืน เพราะเขาไม่อยากมีเรื่องหรือเป็นต้นเหตุที่อาจก่อปัญหาให้คนรักจนส่งผลกระทบในเชิงลบต่อชื่อเสียงของโรงแรม
❀
Rose of Sharon Pub
21.19 น.
เป็นการมาเที่ยวสถานบันเทิง...ที่หน้ากระอักกระอ่วนใจมากที่สุดสำหรับคนมีความลับปิดบังคนรัก แต่ถ้าไม่มาด้วยกันก็คงดูมีพิรุธและอาจทำให้วิศวกรประจำโรงแรมลำบากใจมากกว่าที่เป็นอยู่ มันเป็นวันที่ต้องพยายามปั้นหน้า เพราะมีแต่เรื่องให้ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ แล้วแต่ละเรื่องก็สร้างความอึดอัดใจให้ตัวเองมากอยู่พอสมควร การมีแฟนเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังมันไม่ใช่แค่การได้ทานของหรู หรือได้อยู่อย่างสบายเหมือนอย่างที่ใครๆคิด เพราะบางครั้งความสวยงามที่เห็นเพียงเปลือกนอกมันต้องแลกมากับบางสิ่ง อย่างเช่น...ชีวิตที่เคยเป็นปกติก็จะถูกเปลี่ยนแปลงไปเหมือนที่เขากำลังเผชิญอยู่ในทุกๆวัน
เจ้าของขาเรียวยาว...ในกางเกงเดนิมที่ขาดเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวเนียน ถูกคนชวนมาเที่ยวโอบร่างก่อนพาเดินเข้ามาในผับโดยมีเพื่อนรักและวิศวกรประจำโรงแรมเดินนำไปที่โต๊ะ วันนี้ชานยอลไม่ได้จองห้องวีไอพีเอาไว้เหมือนอย่างทุกครั้งที่มาเที่ยวผับแห่งนี้ เพราะอยากหลีกเลี่ยงเด็กๆที่เห็นหน้าเขาเมื่อวานและความลับอาจไม่เป็นความลับถ้าถูกทักทายจากเด็กเสิร์ฟที่ทำงานอยู่ส่วนของห้องวีไอพี แต่โซนที่เขาจองไว้ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่มันจะต่างจากห้องวีไอพีตรงที่ไม่มีห้องรับรอง
“อุตส่าห์มาเที่ยววันปกติ!!...แต่คนแม่งเยอะกว่าวันหยุดอีก สัดเอ้ยย!!”
“อย่าบ่น...มึงอยากมาเอง ช่วยไม่ได้!!”
“แล้วทำไมชางมินมันไม่มาวะ...ปกติไม่เคยพลาดเรื่องเมา”
“มึงนัดกะทันหันแบบนี้...ใครมันจะมาได้วะ!!!”
โกหกคำโต โม้ไปตามเรื่องเพราะคนถูกถามไม่ได้โทรชวนเพื่อนในแก๊งค์เลยสักคน เพราะไม่อยากให้ความลับแตกหรือต้องมานั่งตอบคำถามใครในเรื่องเมื่อคืน ส่วนคนมีความผิดติดตัวอย่างเซฮุนและแบคฮยอนก็นั่งนิ่งทำเหมือนไม่เคยมาที่นี่จนเด็กเสิรฟ์ในร้านเดินมารับออร์เดอร์เครื่องดื่มที่โต๊ะ และการมาเที่ยวผับในค่ำคืนนี้ก็คงเป็นคืนแรกในชีวิตที่คนตัวเล็กกับเพื่อนรักไม่ได้ทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะถูกสั่งห้าม
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับน้องแบค?” เจ้าของสายตาคม...เห็นตัวเล็กทำท่าซุบซิบอยู่กับวิศวกรประจำโรงแรม เจ้าตัวจึงอดสงสัยและถามออกไปไม่ได้เพราะคิดว่าการที่เขาชวนออกมาเที่ยวในครั้งนี้ อาจทำให้คู่รักต่างไซส์ทะเลาะกัน
“มาเที่ยวผับทั้งที...แบคขอกินเบียร์ไม่ได้เหรอฮะ” และคำตอบที่ได้...ก็คือการถูกใบหน้าคมเข้มของแฟนเพื่อนรักส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธ และแบคฮยอนก็ไม่ได้อยากทานของมึนเมาเหมือนอย่างที่พูด แต่แค่ต้องเอ่ยอะไรออกมาสักอย่างเพื่อไม่ให้จงอินจับได้ถึงความผิดปกติของตัวเอง
ความลำบากใจเกิดขึ้นกับทุกคน...ยกเว้นหนุ่มผิวเข้มที่ยังคงทำตัวปกติ และดูเหมือนจะไม่มีทางปล่อยคนในอ้อมกอดออกไปเต้น หรือผ่อนคลายชีวิตจากความอึดอัดเลยแม้แต่น้อย เพราะแบคฮยอนเห็นจงอินโอบเพื่อนรักของเขาไว้ตลอดเวลา คนตัวเล็กยกแก้วที่มีน้ำหวานรสซ่าสีเข้มขึ้นดื่มเหมือนกระหายมานานและขยับกายโยกไปตามเพลงที่สถานบันเทิงแห่งนี้เปิดเพื่อสร้างความสนุกให้กับลูกค้า แต่...แสงสี เสียงเพลง ผู้คน มันก็ไม่ได้ทำให้เซฮุนรู้สึกสนุกเลยสักนิดเพราะยังรู้สึกระแวงกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อคืน
“น้องแบคจะไปไหนครับ??”
“ไปห้องน้ำฮะ สงสัยอาหารไทยที่โรงแรมกำลังออกฤทธิ์”
“เดี๋ยวพี่ไปด้วย คนมันเยอะ...เดี๋ยวโดนเบียด”
“ไม่เป็นไรฮะ...เดี๋ยวน้องแบคไปกับเซฮุน”
พระผู้เป็นเจ้า...โปรดให้อภัยเด็กขี้โกหกคนนี้ด้วยเถิดดด!!!
สถานการณ์...มันน่าอึดอัดจนต้องหาเรื่องออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย เพราะการมาเที่ยวผับแต่ไม่ได้ดื่ม ไม่ได้เต้นและนั่งเฉยๆจิบแต่โค้ก มันทำให้คนตัวเล็กเบื่อจนอยากกลับบ้าน แถมหนุ่มผิวเข้มก็เอาแต่คุยเรื่องงานกับแฟนของเขาทั้งๆที่บอกว่าอยากออกมาเที่ยว และแบคฮยอน...ก็คิดว่าต้องไม่ใช่เขาคนเดียวแน่ๆที่รู้สึกเบื่อ เพราะเมื่อหันไปเห็นหน้าเพื่อนรักที่ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั่งอยู่ในอ้อมกอดของจงอิน เจ้าตัวก็รีบเอ่ยปากชวนเซฮุนออกไปห้องน้ำด้วยกันทันที
“ไปสิแบค...เราก็อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน”
“ไปถูกเหรอครับเซฮุน ให้พี่ไปด้วยไหม??”
“ไปได้ครับ...พี่จงอินคุยงานกับคุณชานยอลต่อเถอะ”
“งั้นก็รีบไปรีบมา...แล้วก็ระวังตัวด้วยล่ะ คนมันเยอะ”
“ครับ...พี่จงอินก็อย่าดื่มเยอะนะครับ เดี๋ยวขับรถกลับไม่ไหว”
จุ๊บบบ!!
“กลับไม่ไหวก็นอนกับเมียที่นี่ไงครับ ไม่เห็นจะยากเลย!!”
“พี่จงอิน....!!!”
โล่งใจ...ที่ไม่ถูกห้ามหรือถูกพาไปเข้าห้องน้ำ เพราะอยากไปกับแบคฮยอนสองคนเพื่อผ่อนคลายความอึดอัดในใจ แต่กลับต้องมาอายเพราะโดนปากคมจุมพิตเบาๆโดยไม่เลือกสถานที่ แถมยังพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดต่อหน้าเพื่อนกับวิศวกรประจำโรงแรม มือบางสอดเข้าไปในเสื้อแจ็คเก็ตก่อนหยิกเอวหนาของคนที่พูดจาสองแง่สามง่ามและเดินหน้าตึงออกไปจากโต๊ะทันที
...
...
...
และวันนี้...คนก็เยอะอย่างที่จงอินบอกไว้จริงๆ เพราะกว่าเซฮุนกับแบคฮยอนจะเดินออกมาถึงหน้าผับก็กินเวลานานกว่าปกติ ไม่รู้ว่าสถานบันเทิงแห่งนี้มีงานอะไร คนถึงได้เข้ามาเที่ยวเยอะเหมือนกับเป็นวันหยุด แต่ต่อให้คนเยอะกว่านี้...มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่รู้สึกอึดอัดใจ เพราะตอนนี้เขาต้องรีบเก็บเกี่ยวความเป็นส่วนตัวเอาไว้ให้มากที่สุดก่อนที่จะต้องเดินกลับเข้านั่งดื่มน้ำอัดลมและได้แต่โยกกายไปตามเพลงอยู่บนเก้าอี้นุ่มๆ
“เฮ้ออออ...!!”
“ขอโทษนะเซฮุน ถ้าแบคไม่ชวนเซฮุนออกมาเที่ยวเมื่อคืน ก็คงไม่ต้องมานั่งอึดอัดใจกันแบบนี้”
“ขอโทษทำไมแบค?...เราไม่ได้ถอนใจเรื่องเมื่อวานสักหน่อย เราแค่รู้สึกเหนื่อยเฉยๆ”
“เหนื่อยเรื่องอะไร?? งาน? คน? ความรัก? หรือ....???”
“ก็รวมๆนั่นแหละ กลับไปโซลคราวนี้ ไม่รู้ว่าพวกพี่ๆในแผนกจะคิดยังไงกันบ้าง”
“เซฮุนรักพี่จงอินไหม?”
“รักสิ ถึงจะเอาแต่ใจไปหน่อย แต่ก็รัก รักมากด้วย”
“รักมากก็ไม่ต้องไปแคร์คนอื่นหรอก แบครู้นะว่าเซฮุนกำลังกลัวเรื่องอะไร”
“ขอบใจนะแบค เราจะพยายามไม่คิดมาก แต่ตอนนี้...เรากลับเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จงอินไปตามหาเราที่ห้องน้ำแล้วไม่เจอมันจะยุ่ง!!”
“เป็นแฟนหรือเป็นพ่อกันแน่!! ไม่รู้จะดุอะไรกันนักกันหนา”
ปึ่กกก!!!
บ่น ๆ ๆ ๆ แล้วก็หันหลังกลับเพื่อเดินเข้าในร้านอีกครั้ง แต่...ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกไปถึงไหน คนตัวเล็กก็ถูกชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินชนด้วยความแรงจนเสียหลัก และดีที่ได้มือของเพื่อนรักประคองเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น
“มึงไปหาคนมาให้ครบเลยนะ!! ถ้าหาไม่ได้มึงตาย!!!”
คิดว่าตัวเองถูกคนเมาเดินมาชน แต่กลับเป็นการถูกกระแทกด้วยความไม่ตั้งใจเสียมากกว่า เพราะผู้ชายแปลกหน้าที่ทำเอาคนตัวเล็กเกือบล้มโดนการ์ดของทางผับเหวี่ยงร่างออกมาจากร้านและชนเข้ากับแบคฮยอนพอดี เสียงโวยวายเหมือนคนทะเลากันทำให้คนที่หนีแฟนออกมาเดินยืดเส้นยืดสายถึงกับตกใจและรีบพากันเดินกลับเข้ามาในร้านเนื่องจากไม่ยากถูกลูกหลง
แต่......
“น้องๆ ๆ ...ช่วยพี่หน่อยสิ”
“.......!!!!!”
รีบสะบัดแขน...ออกจากการถูกเกาะกุมด้วยมือของชายแปลกหน้าที่กำลังมีเรื่องกับการ์ดของผับเมื่อครู่ เซฮุนเบี่ยงตัวหลบและจับมือของเพื่อนรักเอาไว้เพราะรู้สึกตกใจปนหวาดกลัวคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
“ช่วยอะไรเหรอครับ?”
“แบค...กลับไปที่โต๊ะเถอะ!!”
พยายามดึงมือเพื่อนรักกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง แต่ดูเหมือนความสงสัยของคนตัวเล็กมันกำลังจะสร้างความลำบากใจให้เซฮุน ชายแปลกหน้าก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่เห็นในตอนแรกเมื่อจุดที่ยืนอยู่เริ่มมีแสงสว่างมากพอ ผู้ชายรูปร่างสันทัน หน้าตาสะอาดสะอ้าน แต่งตัวดี และไม่ได้ดูมึนเมาจากการดื่มมันเริ่มทำให้คนที่ถูกขอความช่วยเหลือเริ่มคลายกังวล
“นะนะนะ...ช่วยพี่หน่อยนะ พี่ไม่อยากโดนการ์ดกระทืบตาย”
“...........!!???”
“คะ...คือวันนี้ที่ร้านมีงานประกวดสาวงาม แต่...จะเป็นสาวแท้หรือสาวเทียมก็ได้นะ มันไม่ได้มีกฏห้าม แค่น้องๆสองคนช่วยไปยืนรับดอกไม้บนเวทีเฉยๆ แล้วเงินที่ได้จากการขายดอกไม้ ก็จะเอาไปบริจาคให้คนไร้บ้าน”
“............??!”
“ช่วยพี่หน่อยนะ พี่ขอร้อง...พี่ไม่รู้จะไปหาใครแล้วจริงๆ คนที่พี่นัดไว้เค้ารับเงินไปแล้วก็เบี้ยวนัดพี่ พี่ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ น้องช่วยพี่หน่อยนะ งานมันกำลังจะเริ่มแล้ว ได้โปรดดดดด”
“แล้วพวกผมต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ?”
เซฮุนรีบกระตุกแขนเพื่อนตัวเล็กเพื่อเป็นการปรามทันทีเมื่อได้ยินแบคฮยอนเอ่ยปากถามเหมือนเป็นตอบรับที่จะช่วยเหลืองานของชายแปลกหน้า และสิ่งที่คิดไว้ก็เป็นเรื่องจริงเมื่อเจ้าของหางตาตกรับปากจะช่วยเหลือคนให้พ้นจากการถูกกระทืบโดยไม่ขอความเห็นจากกเขาสักคำ แถมยังโทรไปสร้างเรื่องโกหกให้แฟนตัวใหญ่กับเจ้าของโรงแรมฟังอีกว่า...พวกเขาเดินมาเจอเพื่อนสมัยเรียนโดยบังเอิญแล้วขออนุญาตนั่งคุยกับเพื่อนสักครู่
และสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ...คนที่หวงเขามากจนแทบไม่ปล่อยให้ห่างกายเลยสักนาที กลับเชื่อเรื่องที่เพื่อนตัวเล็กกุขึ้นโดยไม่โทรมาตามหรือถามเซ้าซี้เหมือนอย่างที่เคยทำ!!!?
...
...
...
และ...จากความใจดีที่อยากช่วยเหลือคนให้พ้นทุกข์ ก็กลับกลายเป็นตัวเองที่ต้องมานั่งทุกข์อยู่ในตอนนี้เมื่อคนตัวเล็ก...ถูกจับแต่งตัวให้อยู่ในชุดนางฟ้าสีดำ ถูกสวมวิกผมยาวถึงกลางหลัง นุ่งกระโปรงสั้นกุด ใส่บูธยาวครึ่งแข้ง ติดปีกไว้ที่หลังและสวมมงกุฎเล็กๆไว้บนศีรษะ แบคฮยอนทำได้แต่มองกระจกแล้วถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาแต่งตัวอะไรแบบนี้ แถมยังทำให้เพื่อนรักต้องมาตกกระไดพลอยโจนไปกับความเป็นแม่พระของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากแต่งตัวกันเรียบร้อย...เซฮุนกับแบคฮยอนก็ถูกชายแปลกหน้าที่เข้ามาขอความช่วยเหลือพาขึ้นไปยืนอยู่บนเวที และตอนนี้ในมือของทั้งสองคนก็มีดอกกุหลาบสีแดงถืออยู่ในมือเต็มไปหมด เพราะกำลังถูกลูกค้าที่เข้ามามีส่วนร่วมในงานการกุศลของสถานบันเทิงแห่งนี้ยื่นดอกไม้ให้คนละดอกสองดอก และไม่ใช่แค่คนตัวเล็กกับเพื่อนเท่านั้นที่ได้รับดอกไม้ แต่ยังมีคนอื่นๆทั้งที่เป็นชายแต่งหญิงเหมือนกับพวกเขาหรือเป็นผู้หญิงแท้ๆที่ขึ้นมายืนอยู่บนเวทีด้วยกันในค่ำคืนนี้
พยายามยิ้มแย้ม...และยื่นมือไปรับดอกไม้จากลูกค้าในผับ แต่ในใจกลับอยากร้องไห้ออกมาดังๆเพราะชุดที่ใส่อยู่มันสั้นเกินไป เซฮุนคิดถึงงานเวดดิ้งแฟร์ขึ้นมาทันที เพราะถ้าคนเป็นเจ้าของโรงแรมมาเห็นเขาแต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนี้อีกครั้ง มีหวังได้โดนทำโทษจนสลบคาอก และไปทำงานไม่ไหวอีกแน่ๆ ธีมการแต่งตัวเป็น “นางฟ้าฝาแฝด” ที่ถูกชายแปลกหน้าจับแปลงโฉมมันกำลังทำให้พนักงานจัดดอกไม้ของโรงแรมสาขาโซลอยากหายตัวกลับไปนอนอยู่ที่ห้องพัก แบคฮยอนอยู่ในชุดรัดรูปสีดำ ส่วนเขาอยู่ในชุดที่รัดไม่ต่างไปจากเพื่อนตัวเล็กแต่เป็นสีขาว ทั้งปีกฟูๆ ทั้งวิกผม ทั้งมงกุฎ รวมถึงรองเท้าบูธส้นสูงมันทำให้เซฮุนรู้สึกอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
และ...ความใจดี ความใสซื่อ ความใจอ่อนเพราะอยากช่วยเหลือคนอื่นอย่างไม่ทันนึกถึงเล่ห์เหลี่ยมของใครหรือทราบว่างานที่จัดขึ้นในผับแห่งนี้เป็นแบบไหน? มันกำลังทำให้คนตัวเล็กรวมถึงเพื่อนรักต้องถูกขายไปในราคาที่ผู้ซื้อประมูลได้!!!
...
...
22.53 น.
และทางด้านของวิศวกรหนุ่มกับเพื่อนผิวเข้ม...ก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเพราะคนที่บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำในตอนแรก กลับโทรมาบอกว่าเจอเพื่อนที่มหาวิทยาลัยโดนบังเอิญ และขออนุญาตอยู่คุยกับเพื่อนสักพัก แต่...รอจนทานเครื่องดื่มรสขมไปหลายแก้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะเดินกลับมาสักคน
“ทำไมไม่รับสายวะ...!!!”
“ใจเย็นๆ...เพลงในผับเปิดดังขนาดนี้ คงไม่ได้ยินมั้ง”
“เย็นเหี้ยอะไรล่ะ!! กูเป็นห่วงเมียจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย!!”
“กูก็หวง แต่มึงอย่าเว่อร์ได้ไหมวะ เซฮุนอายุ 22 แล้วนะเว้ย ไม่ใช่เด็กสองขวบ”
“กูออกไปตามก่อนแล้วกัน มึงไม่ห่วงก็นั่งรออยู่ตรงนี้แหละ!!”
ทำเหมือนไม่หวง...แต่ในใจกลับร้อนเป็นไฟ เพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับคนตัวเล็กเมื่อหลายเดือนก่อน รวมถึงปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นกับแฟนของคนที่กำลังหงุดหงิดอยู่ตอนนี้มันทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นกังวลจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนเป็นเจ้าของโรงแรม เขาก็ต้องพยายามทำใจเย็นและนิ่งให้ได้มากที่สุด แม้ความอึดอัดในอกมันแทบจะระเบิดออกมาหลายต่อหลายครั้ง
ใจหนึ่ง..ก็กลัวว่าแฟนตัวเล็กจะถูกใครลากไปทำมิดีมิร้ายเหมือนอย่างที่เคยเจอ และอีกใจก็กลัวว่าคนรักของเพื่อนผิวเข้มอาจเจออี้ฟานครั้ง มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาลองโทรหาแบคฮยอนดูบ้างหลังจากที่จงอินโทรหาเซฮุนแต่ไม่มีใครรับสาย และสิ่งที่พยายามทำมาทั้งหมดเช่น ใจเย็น มีเหตุผล ไม่คิดมาก ก็คงต้องพังทลายลงเมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่เขาเรียก......
วิศวกรหนุ่ม...เดินแยกกับเพื่อนเพื่อตามหาแฟนตัวเล็กทันทีเมื่อรู้ว่าไม่สามารถติดต่อแบคฮยอนได้ และไม่ว่าจะเป็นเพราะตั้งใจที่จะปิดเครื่องหนี หรือเป็นเพราะว่าแบตหมด มันก็ทำให้ชานยอลไม่สามารถนิ่งเฉยแล้วนั่งรออยู่ที่โต๊ะเหมือนอย่างที่ถูกจงอินค่อนแคะได้ เจ้าของขายาว...เดินก้าวไปตามโซนต่างๆของผับด้วยความรีบร้อน พร้อมมองไปรอบๆตัวโดยเบียดผู้คนที่กำลังเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนาน
Rrrrr!!
Rrrrr!!
แรงสั่น...ของเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงทำให้วิศวกรประจำโรงแรมจำเป็นต้องละความสนใจจากการมองหาแฟนตัวเล็กและคนรักเพื่อน พร้อมรีบกดรับเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร เสียงเพลงที่ดังแข่งกับเสียงของคนในสายมันทำให้ต้องตะโกนคุยกัน และมันก็ทำให้ชานยอลเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
“เอออ!!! ว่าไงงงงงงงง!!”
“กูเจอเด็กมึงแล้ววววว มึงรีบตามมาที่โซนสระน้ำ แถวๆหน้าเวทีด่วนเลยยยยยยยย!!!!”
ติ๊ดด!!!
ไม่ตอบรับ...เพราะขี้เกียจตะโกนแข่งกับเสียงเพลงรอบตัว แต่ก็ได้ยินคำสั่งเต็มสองหู แล้วรีบเดินไปที่โซนสระน้ำตามที่เจ้าของโรงแรมโทรมาบอกทันที กายสูงเดินเบียดคนนับร้อยก็ว่าได้เพราะคืนนี้คนมาเที่ยวผับเยอะมากจริงๆ และเมื่อเดินใกล้เข้ามาเกือบถึงหน้าเวที เสียงเพลง เสียงผิวปาก เสียงโห่ร้องก็ทำให้วิศวกรหนุ่มถึงกับต้องหันไปมอง พร้อมเอ่ยถามผู้ชายที่ดูมีอายุและถือแผ่นป้ายบอกราคาบางอย่างไว้มือว่ามันเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากโซนสระน้ำวันนี้มีลูกค้าเยอะกว่าโซนอื่นๆ
“เอ่ออ...ขอโทษนะครับ วันนี้ที่นี่มีงานอะไรเหรอครับ”
“งานประมูลเนื้อสดไงพ่อหนุ่ม สนใจประมูลสักคนไหมล่ะ?”
“ไม่ครับ..ขอบคุณมากนะครับ”
เมื่อได้รับคำตอบว่า “เนื้อสด” ชานยอลก็รีบส่ายหน้าแล้วเดินออกไปจากจุดนี้ทันที และพยายามมองหาเพื่อนผิวเข้มเพราะเนื้อสดที่ว่ามันไม่อร่อยเท่าเนื้อติดมันของแฟนตัวเล็กแน่นอน ใช่ว่าไม่เคยเห็นงานประมูลแบบนี้ แต่ไม่นึกว่าสถานบันเทิงที่ตัวเองเคยมาเป็นประจำจะกล้าจัดงานที่เอาชีวิตคนมาเป็นของเล่นแก้เบื่อให้กับพวกคนมีเงิน
แต่...ไหนๆก็เดินมาถึงตรงโซนนี้ เขาก็ขอมองคนที่กำลังจะถูกประมูลสักหน่อยว่าจะสวยขนาดไหน เพราะถ้าไม่สวยหรือไม่มีใครประมูลไปในวันนี้ คนที่อยู่บนเวทีก็คงต้องถูกส่งตัวไปขายตามสถานเริงรมย์เกรดต่ำให้พวกคนงานซื้อบริการในราคาไม่กี่วอน
“เฮ้ยยย...มึงดูนางฟ้าฝาแฝดดิ่ แม่งน่าเอาฉิบหาย คนซ้ายแม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ ตัวเล็กๆก้นอวบๆ แล้วคนขวา...หุ่นแม่งหน้าฟัดเป็นบ้า เอวบางๆ ขายาวๆ ขาวไปหมดทั้งตัว”
“เออว่ะ...งานนี้มึงกับกูต้องช่วยกันประมูลให้ได้นะเว้ย คืนนี้กูจะให้นางฟ้าพากูไปขึ้นสวรรค์”
“กูขอคนใส่ชุดสีดำนะ สงสัยคงจะฟิตน่าดู”
ถ้อยคำที่แฝงไปด้วยเรื่องอย่างว่า...มันทำให้เจ้าของดวงตากลมโตที่น่าเกรงขามต้องมองขึ้นไปบนเวทีแล้วหาตัวนางฟ้าฝาแฝดที่ถูกพูดถึงด้วยความอยากรู้ เสียงประมูลเริ่มดังกลบเสียงเพลงในช่วงที่คนบนเวทีกำลังจะถูกซื้อ และดูเหมือนสาวแท้สาวเทียมก็เต็มใจที่จะขายชีวิตให้คนแปลกหน้า เพราะทุกๆคนยังมีรอยยิ้มเหมือนดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้
แต่....
“เฮ้ยยยยยยย!!!!”
ตะโกนแหกปากด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่านางฟ้าฝาแฝดที่ถูกพูดถึงเมื่อครู่เป็นใคร มือหนากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ และอยากต่อยหน้าคนที่พูดถึงคนตัวเล็กด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟัง แต่ตอนนี้...มันไม่สามารถทำอะไรได้อย่างใจคิด เพราะต้องรีบช่วยแบคฮยอนกับเซฮุนออกมาจากงานขายเนื้อสดให้ได้ก่อนที่จะถูกคนอื่นประมูลไปต่อหน้าต่อตา
Rrr!!
วิศวกรหนุ่ม...ล้วงมือเข้าไปหยิบเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาเจ้าของโรงแรมด้วยความร้อนรน และคิดว่าจงอินน่าจะรู้แล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับคนรักของพวกเขา เจ้าของสมาร์ทโฟนกดตัวเครื่องแนบไปกับหูและรอไม่ถึงสามวินาทีเพื่อนก็รับสาย
“จะ...จง”
“กูกำลังประมูลอยู่ มึงเตรียมตัวไปรอรับเด็กๆที่ข้างเวทีได้เลย”
“เหี้ยเอ้ยยย...น้องแบคกับเซฮุนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ไงวะ!!!”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวได้รู้แน่!!”
“อย่าพลาดนะมึง!!!”
รอยยิ้มหวานๆ การถูกผู้ชายคนอื่นจับมือ การแต่งตัวด้วยกระโปรงที่สั้นมาก และมากจนเกือบเห็นก้นอวบๆตอนก้มตัวไปรับดอกไม้ มันทำให้คนที่เห็นแฟนตัวเองยืนอยู่บนเวทีเป็นคนแรกอย่างคิมจงอินรู้สึกโกรธ...แบบที่ไม่เคยโกรธอะไรเท่านี้มาก่อนในชีวิต คนเป็นเจ้าของโรงแรมเก็บโทรศัพท์ไว้ในเสื้อแจ็คเก็ตตามเดิมเมื่อวางสายจากชานยอล แล้วตะโกนราคาประมูลออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวเพื่อเอาชนะคู่แข่งคนอื่นๆที่กำลังจะประมูลนางฟ้าฝาแฝดแข่งกับเขา
งานประมูลเริ่มขึ้น...และคนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างคนต่างก็ขานราคาแข่งกันเพื่อซื้อคนที่อยากได้ไปขายทำกำไรต่อ หรือซื้อไปเพื่อสร้างความสุขทางเพศให้กับตัวเองอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่สำหรับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่และขึ้นมายืนบนเวทีแห่งนี้เพราะแค่อยากช่วยเหลือคนที่กำลังเดือนร้อน กลับไม่ได้รู้ถึงความโกรธ ความหงุดหงิด ความกังวลใจของคนที่กำลังประมูลพวกเขาอยู่ทางด้านล่างเนื่องจากระยะห่างของเวทีกับพื้นที่ของคนประมูลมันค่อนข้างไกลกัน หน้าเวทีมีแต่ลูกค้าที่แค่อยากเห็นหน้าและได้จับมือสาวสวยไปตามประสาคนที่เข้ามาเที่ยวแต่ไม่มีเงินมากพอจะซื้อใครบนเวที
“20ล้านวอน....!!!!”
เป็นราคาประมูล...ที่มากจนคู่แข่งรายอื่นไม่กล้าขานจำนวนเงินเพื่อสู้ต่อ และนางฟ้าฝาแฝดก็ตกเป็นของชายหนุ่มผิวเข้มที่เข้าร่วมการประมูลโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้ากับทางเจ้าภาพในการจัดงาน แต่...ใครจะกล้ามีปากเสียงกับคนอย่างเจ้าของโรงแรมชื่อดัง เพราะต่อให้ผับแห่งนี้จะใหญ่และเป็นสถานบันเทิงที่ใครๆต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี แต่ถ้าจัดงานขายชีวิตมมุษย์โดยเอางานการกุศลมาบังหน้า...ผับนี้ก็คงถูกสั่งปิดในเวลาไม่เกินสามวันแน่นอน!!!!
คนตัวเล็กกับเพื่อนรัก...ถูกพาตัวลงมาที่ด้านล่างเวทีเพื่อพบกับคนที่ประมูลชีวิตของพวกเขาโดยที่คนทั้งคู่ยังคงคิดว่างานการกุศลได้เสร็จสิ้นลงแล้วและจะได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักที นางฟ้าแสนสวยในชุดสีขาวรีบเดินลงมาจากเวทีด้วยความรีบร้อนพอๆกับนางฟ้าที่อยู่ในชุดสำดำ เพราะเกรงว่าสิ่งที่ตัวเองทำในค่ำคืนนี้จะถูกคนรักจับได้
และ...สิ่งที่คิดและไม่อยากให้เกิดขึ้นจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า เมื่อนางฟ้าฝาแฝดเห็นเจ้าของใบหน้าคมเข้มกับคนตัวสูงยืนรออยู่ไม่ห่างจากเวทีมากนัก
“พี่จงอิน !!!! // พี่ชานยอล!!!!”
ใบหน้าเรียวสวยของคนที่อยู่ในชุดสีขาว...มันซีดพอๆกับสีของเครื่องแต่งกายที่ใส่อยู่ในตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ในระยะห่างเพียงแค่สองขาก้าวคงโกรธมากที่เห็นเขาแต่งตัวแบบนี้อีกครั้ง เซฮุนก้มหน้างุดคางแทบชิดอกเมื่อถูกมือหนากระชากกายให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วพาออกมาจากสถานบันเทิงทันที ส่วนคนต้นเรื่องอย่างบยอนแบคฮยอนก็ถูกวิศวกรหนุ่มอุ้มไว้แนบอกและรีบเดินตามเจ้าของโรงแรมไปเช่นกัน
❀
100%
แก้ไขเมื่อ 08/12/60
ขออภัยในความไร้เดียงสาของพนักงานจัดดอกไม้และเพื่อนรักตัวเล็กนะคะ (พนมมือ ย่อไหว้)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆค่ะ ของคุณคอมเม้นท์ ขอบคุณกำลังใจดีๆ ที่มอบให้กัน
แล้วจะเข้ามาตรวจคำผิดเรื่อยๆนะคะ
รัก ♥
#ดอกไม้ของเจ้านาย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

712 ความคิดเห็น
-
#685 KHlulaby (จากตอนที่ 17)วันที่ 13 ตุลาคม 2562 / 07:55อะไรของแบคเนี่ยยยยย หาเรื่องได้ไม่หยุดเลยยยย ตีตูด!#6850
-
#564 /tl26&? (จากตอนที่ 17)วันที่ 24 กรกฎาคม 2561 / 00:15โอ้ยเครียด มีแต่เรื่องเต็มไปหมดเลย#5640
-
#529 btoey44 (จากตอนที่ 17)วันที่ 28 มีนาคม 2561 / 22:06อยากช่วยแต่ก้ดึงเพื่อนไปซวยด้วยจ้าาา#5290
-
#528 btoey44 (จากตอนที่ 17)วันที่ 28 มีนาคม 2561 / 22:06อะ แบคฮยอน โง่ในเรื่องที่ไม่ควรโง่จริงๆ#5280
-
#527 btoey44 (จากตอนที่ 17)วันที่ 28 มีนาคม 2561 / 22:05อะ แบคฮยอน โง่ในเรื่องที่ไม่ควรโง่จริงๆ#5270
-
#480 Jammie-Lee (จากตอนที่ 17)วันที่ 8 ธันวาคม 2560 / 23:51โอ้ยยยย งานเข้าอีกละ ถถถถถ#4800
-
#401 TDNND (จากตอนที่ 17)วันที่ 30 พฤษภาคม 2560 / 16:16ฮุนฮุน แบคฮยอนนี่จ๋า ความผิดนี้โดนแฟนๆทำหื่นใส่ชัวร์ 555#4010
-
#257 nuna (จากตอนที่ 17)วันที่ 30 สิงหาคม 2559 / 07:28โอ้ยไม่รู้จะพูดไง แบคกะฮุนซื่อเกินอะ ฮุนก้อทำอะไรไม่คิด ไม่นึกถึงที่จงอินเคยบอกเคยบอกอะไรจงอินไว้ ก้อทำไม่ได้ ถ้าเราเป็นจงอินจะโกรธมากๆเลย#2570
-
#173 eve_popparazzi (จากตอนที่ 17)วันที่ 19 กรกฎาคม 2559 / 11:31โหวววววว แบคกับฮุนนี้ซื่อกันไปน่ะ อย่าได้ปล่อยทิ้งไว้ต่างลำพัง ไม่งั้นโดนงาบแน่ๆค่ะ จินตนาการน้องคงสวยแน่ๆ#1730
-
#169 Nong662 (จากตอนที่ 17)วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 / 15:49วันหยุดยาวขอต่อหลายๆตอนนะคะ ชอบมากรอยู่นะคะ#1690
-
#168 pear (จากตอนที่ 17)วันที่ 12 กรกฎาคม 2559 / 11:07กำลังสนุกเลยค่ะ อิอิ#1680
-
#165 ทับบี้คัสตาร์ด (จากตอนที่ 17)วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 / 10:53หาเรื่องอีกแล้ว2แสบบบบบ#1650
-
#156 Kannika Tankam (จากตอนที่ 17)วันที่ 26 มิถุนายน 2559 / 16:53เด็กน้อย2คนนี่ก็หาเรื่องเข้าตัวได้ตลอดนะคะ พี่ๆปวดหัวหมดแล้วเนี้ย#1560
-
#155 supranee94 (จากตอนที่ 17)วันที่ 26 มิถุนายน 2559 / 06:24สู้รอติดตามเลย#1550
-
#154 CHANBAEK.C (จากตอนที่ 17)วันที่ 26 มิถุนายน 2559 / 03:30NC มาแต่ไกล ฉากหน้าชัวร์ ผู้ชายคนนั้นเลวว่ะบอกเงื่อนไขไม่หมด ฮุน แบค เดือดร้อนเลย#1540
-
#153 Brilliant8894 (จากตอนที่ 17)วันที่ 26 มิถุนายน 2559 / 03:29สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ#1530
-
#152 ME3 KAEKY (จากตอนที่ 17)วันที่ 26 มิถุนายน 2559 / 03:08เด็กสองคนนี้ดื้อ เอาหนักๆเลยค่ะป๋า#1520
-
#151 noonokjaihan (จากตอนที่ 17)วันที่ 26 มิถุนายน 2559 / 02:56โดนแน่ๆ งานนี้โดนแน่ๆ#1510
-
#83 Byun Bam (จากตอนที่ 17)วันที่ 23 พฤษภาคม 2559 / 22:59น้องแบคมีแผนจะทำอะไรพี่ชาน#830