ตอนที่ 12 : ❀ 12
ดอกไม้ดอกที่ 12
โรงแรม เชจู
14.00 น.
“คุณคิดว่า.....ตัวคุณเข้าใจความรักดีแค่ไหน??”
และนี่...ก็คือคำถามของคนที่เพิ่งมีความรักครั้งแรกอย่างบยอนแบคฮยอน
หลังจากผ่านพ้นปัญหาต่างๆมากมายมาร่วมอาทิตย์ และยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งตอนนี้...ปัญหาเหล่านั้นก็ค่อยๆถูกคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และชีวิตของคนตัวเล็กกับคนรักอย่างวิศวกรประจำโรงแรมต่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ถึงแม้บางที...อาจมีทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรือทำให้รู้สึกแย่เหมือนอย่างที่ผ่านๆมา แต่ตอนนี้.....คำว่า คนรัก ความรัก หรือนิยามคำเรียกระหว่างเขากับแฟนคนใหม่จะคืออะไรก็ตาม มันกำลังทำให้คนที่นั่งแปลเอกสารอยู่ในห้องทำงานตอนนี้เกิดความฟุ้งซ่านเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูก “เบื่อ” ???!
แบคฮยอนคิดไปไกล...ว่าการที่ชานยอลเริ่มตีตัวออกห่างโดยการเอาเรื่องงานมาอ้างบ้าง เอาเรื่องลูกค้ามาอ้างบ้าง อาจเป็นการโกหกเพื่อทำให้เขาสบายใจและไม่คิดมาก แต่แท้จริงแล้ว...สิ่งที่อ้างมาทั้งหมดก็คือการหลอกลวง ดวงตาเรียวเล็กจ้องหน้าจอของคอมพิวเตอร์อยู่นาน และมือข้างหนึ่งก็ยังค้างไว้ที่เม้าท์โดยไม่ได้ขยับไปไหนมาสักพักใหญ่ เพราะในหัว...มันเอาแต่คิดถึงเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องของงานที่ต้องทำอยู่ตรงหน้า แบคฮยอนพยายามแล้วที่จะไม่คิดอะไรไปเองหรือสร้างเรื่องให้คนรักและคุณพ่อเกิดความไม่สบายใจ แต่การกระทำของชานยอลในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมามันก็ทำให้อดคิดไปเป็นอื่นไม่ได้ว่าความรักครั้งนี้...คงใกล้จะจบลงแล้ว
ชีวิตของการมีคนรักกับไม่มีคนรัก...มันไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่ในความรู้สึกของคนตัวเล็ก เพราะชีวิตของเขาก็ยังคงดำเนินไปในแบบเดิมๆ ตื่นมาทำงาน เลิกงานกลับบ้าน มีกินข้าวด้วยกันบ้างแต่ก็นานๆครั้ง การมีความรักมันไม่ได้ทำให้รู้สึกมีพลัง มีความสุขหรือมีกำลังใจเหมือนอย่างที่เพื่อนๆเคยเล่าให้ฟังเลยแม้แต่น้อย แถมยังทำให้รู้สึกฟุ้งซ่านเสียมากกว่า แบคฮยอนพยายามเข้าใจ...ว่าความรักของแต่ละคน แต่ละคู่มันไม่เหมือนกัน และยิ่งความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันก็คงไม่หวานหรือแสดงให้ใครเห็นว่ารักกันได้ง่ายๆเหมือนอย่างคู่ชายหญิงทั่วไป
แต่...การถูกคนรักเมินบ่อยๆในช่วงนี้ ก็ทำให้ความหวานที่แทบจะไม่มีอยู่แล้วกลายเป็นความห่างเหินจนรู้สึกหวั่นใจ
แบคฮยอนยอมรับ...ว่าตอนแรกๆก็เข้าใจตัวตนของชานยอลดีว่าเป็นคนอย่างไร งานเยอะมากแค่ไหนและมีนิสัยเช่นไร แต่ตอนนี้...ความเข้าใจกลับเปลี่ยนไปเป็นความคิดมาก ความน้อยใจหรืออีกหลายๆความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมด และทุกๆความรู้สึกที่เก็บไว้มานานก็ทำให้ความอดทนหมดลงจนต้องรีบหาคำตอบให้กับตัวเอง เพราะถ้าความรักครั้งนี้จะจบลงจริงๆ เขาก็อยากรู้เหตุผลมากกว่าการพูดบ่ายเบี่ยงไปมาหรือเอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการเจอหน้ากัน
เมื่อคิดได้แบบนั้น...มือบางก็รีบหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมากดเบอร์ที่เจ้าตัวจะมักส่งข้อความไปหาบ่อยๆในตอนค่ำว่า “ฝันดี” และรออยู่นานกว่าคนปลายจะรับ!!
Rrrr!!
Rrrr!!
Rrrr!!
(ครับ...น้องแบค)
“พี่ชานยอล...เย็นนี้ไปกินข้าวที่XXXกันนะ น้องแบคอยากไป”
(ได้ครับ...แต่ตอนนี้พี่ยังคุยงานกับลูกค้าไม่เสร็จเลย ถ้าน้องแบคเลิกงานแล้วก็ออกมาเจอกับพี่ที่ห้างเลยได้ไหมเพราะพี่คงไม่เข้าไปที่โรงแรมแล้ว)
“ได้ฮะ ตะ...แต่”
(พี่ต้องว่างสายก่อนนะครับน้องแบค พี่คุยงานกับลูกค้าอยู่ แล้วเดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะครับ)
ติ๊ดด!!
“((ฮะ))”
มีเรื่องอยากคุยมากกว่านี้...แต่ก็ถูกวิศวกรหนุ่มตัดบทโดยการวางสาย และคนโทรหาก็ได้แค่ตอบรับอยู่ในใจทั้งๆที่มีเรื่องอยากจะพูดมากกว่าแค่การโทรเพื่อนัดทานข้าวเท่านั้น แบคฮยอนพยายามไม่หงุดหงิดกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น และวางเครื่องมือสื่อสารไว้บนโต๊ะทำงานเหมือนเดิม แล้วเริ่มลงมือแปลเอกสารที่ตั้งอยู่ตรงหน้ามาได้มานานอย่างตั้งใจ
วันนี้...มีเอกสารที่ต้องแปลไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ก็ต้องทำให้เสร็จเพราะเป็นงานที่ค่อนข้างด่วนและไม่สามารถเอากลับไปทำต่อที่บ้านเหมือนอย่างเอกสารฉบับอื่นๆ ส่วนคุณพ่อ...ก็ต้องไปธุระกับคุณหวังข้างนอก และลูกชายของลูกค้าคนสำคัญรายนี้ก็ได้เพื่อนใหม่อย่างคุณมาร์คที่บังอัญมาเจอกันในโรงแรมเมื่อวานจนเพื่อนเก่าอย่างแบคฮยอนกลายเป็นคนถูกลืมไปเสียอย่างนั้น และสำหรับตอนนี้...คนตัวเล็กก็ต้องเร่งแปลงานด้วยความร้อนรนแต่ก็รอบคอบ เพราะใจหนึ่งก็อยากรีบเดินทางไปเคลียร์ความรู้สึกที่ค้างอยู่ในใจให้หมดไปโดยเร็ว แต่อีกใจก็ไม่อยากให้งานในส่วนของคุณพ่อเกิดความผิดพลาด
แบคฮยอน...พยายามแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันทั้งๆที่ใจมันไม่ได้อยู่ในห้องทำงานเลยสักนิด และเมื่อแปลเอกสารฉบับสุดท้ายเสร็จ มือบางก็ต้องหยิบสมารท์โฟนขึ้นมาอีกครั้ง แต่..ไม่ได้โทรหาแฟนเหมือนในครั้งแรกเพราะครั้งนี้เขาต้องโทรหาคุณพ่อเพื่อถามว่างานที่ทำเรียบร้อยแล้วต้องส่งให้ใครเนื่องจากเมื่อเช้ามัวแต่คิดเรื่องนั่นเรื่องนี้จนไม่ได้ฟังในสิ่งที่คนเป็นพ่อสั่งไว้
Rrrr!!
(ว่าไงแบค...มีอะไรด่วนไหมลูก? พ่อติดลูกค้าอยู่)
“ขอโทษฮะ...แต่แบคขอรบกวนเวลาแป๊บเดียว คือแบคจะถามว่า...เอกสารที่แปลเสร็จแล้วต้องเอาไปส่งให้ใคร??”
(เอาไปส่งให้ผู้จัดการที่ชั้น 10 แล้ววันนี้แบคต้องกลับบ้านเองนะลูก พ่อคงกลับดึก)
“งั้นคืนนี้ เอ่ออ...แบคขอไปค้างกับพี่ชานยอลได้ไหมฮะ พอดีเย็นนี้มีนัดกินข้าวกับพี่ชานยอลที่ห้างแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดด้วย”
(ไปรบกวนอะไรพี่เขาอีก หื้มม?? พ่อล่ะเกรงใจคุณชานยอลจริงๆ)
“เดี๋ยวแบคให้พี่ชานยอลโทรหาคุณพ่อก็ได้ คุณพ่อจะได้สบายใจ น้าาา...คุณพ่อ ให้แบคค้างเถอะน้าาา”
(ตามใจ...แต่อย่าไปรบกวนพี่เขามากนะลูก แล้วก็อย่าลืมเรื่องมารยาท)
“ฮะ!!...คุณพ่อ แบคจะเป็นเด็กดี ขอบคุณนะฮะ จุ้บๆ”
คนเป็นลูก...รีบทำตามคำสั่งของคุณพ่อทันทีหลังจากวางสาย และเมื่อทำงานทุกอย่างเสร็จหมดเรียบร้อย เจ้าตัวก็กดลิฟท์ลงมาชั้นล่างแล้วเรียกแท็กซี่ที่จอดอยู่หน้าโรงแรมเพื่อเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าด้วยความตื่นเต้น และที่ตื่นเต้น....ก็คงเป็นเพราะคืนนี้เขาจะได้รู้ความจริงเสียทีว่าสิ่งที่ทำให้ตัวเองคิดมากมาหลายวันมันคืออะไรกันแน่ระหว่างการคิดไปเองหรือการถูกบอกเลิก!!??
...
...
...
...
ห้างสรรพสินค้า เชจู
18.45 น.
ส่วนคนถูกนัดอย่างชานยอล...เมื่อคุยงานกับลูกค้าเสร็จแล้วก็รีบส่งข้อความบอกแบคฮยอนให้มาเจอกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะทราบดีว่าแฟนตัวเล็กของเขาชอบทาน ร่างสูง...ที่วันนี้แต่งกายดูดีกว่าทุกวันยืนรอคนที่โทรมานัดทานข้าวเย็นอยู่หน้าร้านอาหาร และเมื่อเห็นผู้ชายตัวเล็กๆที่เดินถือแก้วน้ำหวานของโปรดอยู่ในมือเดินตรงเข้ามาใกล้สายตา มือหนาจึงเก็บสมาร์ทโฟนที่กำลังส่งเมลให้เจ้าของโรงแรมยังไม่เสร็จใส่กระเป๋าเกงกางเอาไว้เพราะขืนยังทำงานต่อก็คงไม่ได้ทานมื้อเย็นกันแน่ๆ
“พี่ชานยอลรอนานไหมฮะ น้องแบครีบมาเลยนะเนี่ยยยย”
“ไม่นานครับ น้องแบคหิวหรือ ยะ...ยัง!!”
ฟอดดดด!!!!
“หิวแล้วฮะ เราเข้าไปในร้านกันเถอะ”
“เดี๋ยวว..ครับ!! น้องแบคมาหอมแก้มพี่ทำไม?? คนเยอะแยะ?!!!”
“ทีพี่ชานยอลยังจูบกับผู้หญิงคนนั้นได้เลย นี่น้องแบคแค่หอมแก้มเองนะฮะ หรือว่าพี่ชานยอลอายคนอื่น”
“พี่ไม่อายหรอกครับ...แต่มันไม่เหมาะ พี่ไม่อยากให้คนอื่นมองน้องแบคว่าเป็นเด็กไม่ดี”
“ฮะ...เข้าใจแล้ว น้องแบคขอโทษ”
ถูกคนตัวเล็ก...หอมแก้มอยู่หน้าร้านอาหารแบบไม่ทันตั้งตัว ชานยอลจึงอดที่จะเอ่ยห้ามปรามไม่ได้เพราะไม่อยากให้ใครมองคนรักของตัวเองในทางไม่ดี แต่...เหมือนสิ่งที่เตือนไปเมื่อครู่กำลังจะทำให้บรรยากาศของอาหารเย็นมื้อนี้กร่อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจ้าของคำพูดที่บอกว่าเข้าใจพร้อมทั้งการกล่าวขอโทษมีสีหน้าที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“น้องแบคเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไม่อยากกินอาหารร้านนี้เหรอ?”
“อยากกินฮะ หรือว่าพี่ชานยอลอยากไปร้านอื่น?”
“นัดกันไว้ร้านนี้ ก็ต้องกินร้านนี้สิครับ”
ไม่อยากให้บรรยากาศของอาหารมื้อนี้แย่ลงไปกว่าเดิม ชานยอลจึงเดินจูงมือคนที่เอาแต่ทำหน้าหงอยเข้ามาในร้านและเริ่มสั่งทั้งของคาวของหวานมาทานจนเต็มโต๊ะ แต่ความเงียบ...โดยไร้เสียงพูดคุยของแฟนตัวเล็กมันเริ่มทำให้วิศวกรหนุ่มรู้สึกอึดอัดเพราะปกติแล้ว เจ้าตัวจะเป็นฝ่ายชวนคุยแทบทุกครั้งและสร้างรอยยิ้มให้เขาได้เสมอ
“น้องแบค ปะ...เป็น”
Rrrr!!
Rrrr!!!
กำลังจะเอ่ยถามเด็กตรงหน้าถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่กลับถูกเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้นฉุดประโยคคำถามนั้นไปเสียก่อน และเมื่อหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูว่าปลายสายเป็นใคร ชื่อ...ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทัชสกรีนก็ทำเอาคิ้วเข้มๆบนใบหน้าหล่อเหลาของวิศวกรหนุ่มขมวดเข้าหากันทันทีพร้อมรีบกดรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“สวัสดีครับคุณอา”
(เจ้าแบคอยู่กับคุณชานยอลหรือเปล่า?? เห็นบอกว่าจะโทรกลับมาหาอาถ้าเจอคุณชานยอลแล้ว แต่...ไม่โทรกลับมาสักที อาก็เลยเป็นห่วง)
“ครับ...น้องอยู่กับผม คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
(ยังไงพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง อารบกวนคุณชานยอลมาส่งเจ้าแบคที่บ้านด้วยนะ แล้วก็อย่าตามใจกันให้มากนัก เดี๋ยวน้องเคยตัว)
“เดี๋ยวครับคุณอา...พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง????”
(คุณชานยอลติดงานใช่ไหม?? งั้น...พรุ่งนี้ก็ให้เจ้าแบคกลับเองเพราะอาก็ไม่ว่างไปรับเหมือนกัน อานัดลูกค้าคนสำคัญไว้ที่สนามบิน)
“ว่างครับว่าง...แต่ผมขอไปส่งน้องตอนเย็นได้ไหมครับคุณอา?? ช่วงเที่ยงผมยังเคลียร์งานไม่เสร็จเลยครับ”
(เฮ้อออ...ตอนเจ้าแบคโทรมาขออนุญาตไปค้างกับคุณชานยอล อาก็คิดว่าคุณชานยอลว่างเสียอีก สรุป...ลูกชายอาไปรบกวนคุณชานยอลใช่ไหมเนี่ย???!)
“ไม่กวนเลยครับคุณอา แล้วงานมันก็ไม่ได้เร่งอะไรด้วย ผมแค่ต้องเคลียร์เอกสารเก่าๆให้เสร็จก่อนที่จะมีงานใหม่จะเข้ามาเฉยๆ คุณอาไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะพาน้องไปส่งที่บ้านเอง แต่คงต้องเป็นช่วงเย็นจริงๆครับ”
(งั้นอาฝากน้องด้วยนะคุณชานยอล...ถ้าน้องดื้อมากๆหรือไม่เชื่อฟังคุณชานยอลก็ตักเเตือนได้เลย อาอนุญาต)
“ครับบบบ...คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลน้องเอง”
รับสายด้วยความรู้สึกงงเมื่อได้สนทนากับพ่อของคนตัวเล็กในช่วงแรก แต่หลังจากที่คุยกันได้สักพัก...ชานยอลก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า คืนนี้ที่คอนโดฯของเขาจะมีคนไปนอนค้างด้วยโดยที่ไม่มีการตกลงหรือบอกให้รู้ล่วงหน้าเลยสักคำ เพราะคืนนี้เขาคิดว่าจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนที่ตัวเองจะต้องเดินทางไปโซลในวันพรุ่งนี้เพื่อนำเอกสารสำคัญไปให้เจ้าของโรงแรมเซ็นอนุมัติ
ช่วงนี้...วิศวกรหนุ่มงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาให้ใครทั้งนั้นแม้กระทั่งตัวเอง เพราะการต่อเติมห้องพักที่เคยมีปัญหามาก่อนหน้านี้ได้ถูกอนุมัติเรียบร้อย และเริ่มก่อสร้างไปได้ 30% แต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องบอกให้เจ้าของโรงแรมอย่างคิมจงอินรับทราบและเซ็นอนุมัติก่อนที่จะเริ่มต่อเติมส่วนอื่นๆเพิ่ม ชานยอลวิ่งวุ่นทำงานอยู่ในเขตของการก่อสร้างและต้องกลับมานั่งเคลียร์เอกสารมากมายในห้องทำงานมาเป็นเวลาสองอาทิตย์เต็มๆ ซึ่งบางวันก็ต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่นหรือบางครั้งก็ไม่ได้กลับมานอนที่คอนโดฯด้วยซ้ำ
และใช่ว่าไม่รู้...ว่าการที่ตัวเองมีงานเยอะจนไม่มีเวลาให้ใคร มันทำให้คนตัวเล็กที่กำลังนั่งกินอาหารญี่ปุ่นอยู่ตอนนี้รู้สึกเช่นไร และการที่แบคฮยอนไม่โวยวายพร้อมกับขออนุญาตคุณพ่อมานอนค้างด้วยกันในคืนนี้ก็คงเป็นเพราะมีเรื่องค้างคาใจบางอย่างอยากคุยกับเขา แต่...จะให้คุยกันคืนนี้ก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะเขายังมีงานที่ต้องรีบสะสางให้เสร็จก่อนจะเดินทางไปโซลวันพรุ่งนี้ และคิดว่าจะคุยเรื่องทั้งหมดกับแบคฮยอนให้เข้าใจในตอนเช้าแล้วพากลับไปส่งที่บ้านตามที่ได้รับปากกับผู้ใหญ่เอาไว้
“ทำไมน้องแบคไม่โทรไปบอกคุณพ่อครับว่าอยู่กับพี่แล้ว คุณพ่อเป็นห่วงมากเลย...รู้ไหม?”
“ก็น้องแบคลืมหนิฮะ แล้วคุณพ่อว่าไงบ้าง”
“คุณอาบอกว่า...ถ้าน้องแบคดื้อก็ให้พี่จัดการได้เลย คุณอาอนุญาต”
“น้องแบคไม่ได้ดื้อสักหน่อย”
“ไม่ดื้อ...แล้วทำไมไม่บอกพี่ก่อนครับว่าคืนนี้จะมาค้าง??”
“ถ้าพี่ชานยอลไม่อยากให้น้องแบคค้างด้วย งั้นกินข้าวเสร็จน้องแบคกลับบ้านเองก็ได้ฮะ”
“พี่ยังไม่ได้บอกสักคำว่าไม่ให้ค้าง แต่น้องแบคควรคุยเรื่องนี้กับพี่ก่อนไม่ใช่บอกแค่คุณพ่อคนเดียว ถ้าพี่บอกคุณอาว่าไม่รู้เรื่องที่น้องแบคจะมาค้าง คนที่จะถูกดุก็คือตัวน้องแบคนั้นแหละ เข้าใจไหม?!!”
“เข้าใจ!!”
“พูดดีๆครับน้องแบค เดี๋ยวพี่จะฟ้องคุณอา!”
“เข้าใจฮะ ขอโทษฮะ...พอใจหรือยัง?!!!”
ส่ายศีรษะ...ให้กับความเอาแต่ใจของเด็กตรงหน้า และไม่อยากหาเรื่องเถียงอะไรให้มากความ ชานยอลจึงได้แต่ใช้สายตามองอย่างคาดโทษแล้วนั่งทานอาหารไปแบบเงียบๆโดยไม่มีแม้แต่เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยและไม่มีรอยยยิ้มเหมือนอย่างที่เคยเป็น จนกระทั่ง...ทานมื้อเย็นกันเสร็จพร้อมจ่ายเงินเรียบร้อย
“กลับเลยไหมครับน้องแบค??”
“น้องแบคขอไปซื้อขนมแป๊บนึงได้ไหมฮะ ที่ห้องพี่ชานยอลไม่มีอะไรกินเลย”
“ได้สิ...น้องแบคอยากกินอะไรก็หยิบไปเลย แต่อย่าเยอะมากนะครับ เดี๋ยวกินไม่ทันแบบคราวที่แล้วก็ต้องทิ้งอีก”
“รู้แล้วฮะ...พี่ชานยอลก็บ่นเป็นคนแก่ไปได้”
วิศวกรหนุ่ม...เดินถือตะกร้าตามหลังแฟนตัวเล็กเข้ามาในซุปเปอร์มาเก็ตตรงโซนขายขนมสีหวานต่างๆอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ และทำได้แค่ส่ายหัวอีกครั้งหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนแก่ทั้งๆที่อายุของเขาตอนนี้ก็ยังไม่มากถึงขั้นต้องใช้คำคำนั้น ชานยอลทราบดีว่าแบคฮยอนยังเด็ก และอาจพูดไปเพราะคิดว่าตัวเองอายุห่างจากเขาค่อนข้างมาก ส่วนที่ต้องพูดเตือนเรื่องขนมไปเมื่อครู่ก็เป็นเพราะแบคฮยอนชอบซื้อของหวานไปตุนไว้ที่คอนโดฯของเขาเยอะเกินไปและพอกินไม่ทันก็ต้องทิ้งเนื่องจากมันหมดอายุ
Rrrr!!
Rrrr!!
“น้องแบคครับ น้องแบค”
“ฮะพี่ชานยอล??!”
“เอาตะกร้าไปถือก่อน พี่ขอคุยโทรศัพท์แป๊บนึง”
พอมือบาง...คว้าตะกร้ามาถือแบบไม่พอใจพร้อมเดินเลี้ยวไปอีกทางเพื่อซื้อขนมอย่างอื่น ชานยอลก็รีบรับสายของผู้รับเหมาที่เพิ่งคุยงานกันเสร็จไปเมื่อตอนบ่ายทันที เพราะคิดว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงโทรมานอกเวลางานแบบนี้ วิศวกรหนุ่มยืนคุยกับคนปลายสายโดยไม่ได้เดินตามแฟนตัวเล็กไปด้วยเพราะไม่ยากหงุดหงิดกับท่าทางและสายตาดื้อๆของแฟนตัวเองสักเท่าไหร่ แถมบทสนทนาที่คุยอยู่ก็เป็นเรื่องด่วนอย่างที่คิดไว้จริงๆ
เขตก่อสร้าง...ภายในโรงแรมมีอุบัติเหตุขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ช่างที่กำลังต่อเติมห้องพักได้รับบาดเจ็บไปสองคนและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อย ถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะมีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส แต่เหตุทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเขตก่อสร้างทั้งหมด ชานยอลต้องรับผิดชอบไปตามหน้าที่พร้อมรีบบอกปลายสายทันทีว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาเพราะเขาจะจัดการให้เอง รวมถึงฝากให้หัวหน้าคนงานดูแลความเรียบร้อยต่างๆแทนเขาไปก่อน เนื่องจากพรุ่งนี้เขาไม่ว่างเข้าไปดูผู้บาดเจ็บด้วยตัวเองเพราะต้องเดินทางไปหาเจ้าของโรงแรมที่โซล และ.......
โครมมมม!!!!
“เฮ้ยย!!..เดินยังไงวะ ไอ้เปี๊ยก??!!”
“ใครเปี๊ยก??! เดินมาชนคนอื่นแล้วยังมาพูดแบบนี้อีก!”
“เก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ...ของหล่นหมดแล้วเห็นไหม?!!!”
“โอ๊ยย!!...เจ็บนะ! เราไม่ได้เป็นคนทำสักหน่อย นายเป็นคนทำหล่นก็เก็บเองสิ ปล่อยนะ!! เราเจ็บ!”
คนที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกลจากเสียงโวยวาย...รีบกดวางสายทันทีทั้งๆที่ยังคุยเรื่องสำคัญไม่เสร็จ เพราะเสียงร้องโอดโอยที่ฟังดูเจ็บปวดมันก็คือเสียงของแฟนตัวเอง วิศวกรหนุ่มรีบวิ่งไปตามทางที่คนตัวเล็กเดินไปซื้อขนมด้วยความเป็นห่วง และภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ชานยอลโมโหขึ้นมาทันที เนื่องจากแบคฮยอนกำลังถูกชายวัยรุ่นคนหนึ่งดึงแขนเอาไว้ทั้งสองข้าง แถมตะกร้าขนมที่ตัวเองฝากให้ถือไว้ก็ตกอยู่ใกล้ๆจนขนมต่างๆมากมายทั้งเยลลี่ น้ำดื่ม ของขบเคี้ยวกระจายเกลื่อนอยู่เต็มพื้นไปหมดและของอย่างอื่นภายในซุปเปอร์มาเก็ตหล่นลงมาด้วย
“เฮ้ยย!!...ปล่อยดิ่ มึงคิดจะทำอะไรวะ!!” เดินตรงไปผลักร่างของชายวัยรุ่นด้วยความโมโห และดึงคนตัวเล็กมากอดไว้อย่างรู้สึกเป็นห่วง
“ก็น้องชายพี่นั้นแหละ...เดินมาชนผมก่อน!!! พูดจาก็ไม่ดี ทำของหล่นก็ไม่ช่วยเก็บ!!” ถูกวิศวกรหนุ่มผลักด้วยแรงที่คอนข้างมากจนเสียหลักลงไปนอนกองอยู่กับพื้น และเมื่อตั้งตัวได้ก็รีบอธิบายสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นทันที
“ถึงเด็กของกูจะทำผิดอย่างที่มึงพูด...แต่มึงก็ควรคุยกันดีๆ!!? ไม่ใช่มาชุดกระกระชากลากถูดึงแขนกันแบบนี้!!” พูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว...พร้อมมองหน้าชายวัยรุ่นด้วยสายตาดุดันเพราะตอนนี้แขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กมันเริ่มแดงจนเห็นได้ชัด
“ละ...แล้วพี่จะเอายังไง!!!?” ถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ และอยากจบปัญหาที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้คนในห้างสรรพสินค้าก็เริ่มมองมาที่ตัวเองมากขึ้น แถมทั้งน้ำเสียง ทั้งสายตาที่โดนชายร่างใหญ่จ้องแบบไม่กระพริบรวมถึงการถูกผลักจนล้มคว่ำก็ทำให้ชายวัยรุ่นรู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่ใช่น้อย
“มึงจะให้กูไปดูกล้องวงจรปิดไหม...ว่าเรื่องนี้ใครผิดใครถูก!!? ถ้าเด็กกูผิดจริง...กูยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ถ้าไม่ผิด!! กูจะกระทืบมึงให้ตายเลย...เอาไง?!!!” พูดท้าทายพร้อมจ้องหน้าเด็กวัยรุ่นอย่างไม่รู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้น เพราะมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แบคฮยอนไม่ได้เป็นคนผิดแน่ๆ ถึงแม้แฟนของตัวเองจะดื้อหรือเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีนิสัยแย่ๆและชอบไปหาเรื่องคนอื่นก่อน
“ผมไม่เอาอะไรทั้งนั้นแหละ!!” พูดจบก็รีบเดินออกไปจากที่เกิดเหตุทันทีโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น เพราะชายวัยรุ่นไม่อยากให้ชานยอลเห็นภาพในวงจปิดว่าเรื่องทั้งหมดใครเป็นคนเริ่มก่อนและไม่อยากโดนกระทืบด้วย
มือหนา...ละจากการปกป้องคนตัวเล็ก แล้วค่อยๆก้มเก็บสิ่งของต่างๆ...ทั้งขนมของแบคฮยอน ทั้งของใช้ที่ชายวัยรุ่นทำหล่นกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นใส่ตะกร้าเอาไว้ และหยิบแค่ของหวานที่แฟนชอบทานอย่างเยลลี่เดินมาคิดเงินที่เคาน์เตอร์อย่างรู้สึกเหนื่อยใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ชานยอลไม่อยากโทษใครทั้งนั้นและไม่คิดว่า...การมาทานอาหารเย็นแล้วต่อด้วยการเดินซื้อของหวานกับแฟนที่นี่ จะทำให้แบคฮยอนต้องมาเจ็บตัว ซึ่งเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ก็ทำให้วิศวกรหนุ่ม...ไม่กล้าปล่อยคนรักไว้ห่างกายอีกแล้ว
❀
Peony Condominium เชจู
19.50 น.
แกร๊กก!!
“น้องแบคไปอาบน้ำได้เลยนะครับ...เดี๋ยวพี่จะได้ทายาให้ แล้วยังเจ็บแขนอยู่หรือเปล่า? พี่จะได้พาไปหาหมอ?”
“ไม่เจ็บแล้วฮะ ตะ...แต่พี่ชานยอลโกรธน้องแบคหรือเปล่าฮะ พี่ชานยอลไม่ยอมคุยกับน้องแบคมาตั้งแต่ขับรถออกมาจากห้างแล้วนะ”
“แล้วจะให้พี่โกรธเรื่องอะไร? ไหนน้องแบคลองบอกพี่มาหน่อยซิ?”
“ถ้ารู้...แล้วน้องแบคจะถามพี่ชานยอลทำไหมล่ะ?”
“เฮ้ออออ!!!...ไปอาบน้ำได้แล้วไป พี่ต้องทำงานต่อ ถ้าน้องแบคง่วงก็นอนไปก่อนได้เลย ไม่ต้องรอพี่”
ถูกพากลับมาที่คอนโดฯได้ไม่ถึงห้านาทีและพูดคุยกันได้ไม่กี่ประโยค...เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของผู้เป็นเจ้าของห้องก็ทำให้คนคิดมากอย่างแบคอยอนถึงกับเดินคอตกเข้ามาในห้องนอนเพื่ออาบน้ำตามคำสั่ง เพราะไม่อยากทำให้แฟนรู้สึกเหนื่อยใจไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งๆที่ใจจริงก็อยากจะเคลียร์ปัญหาต่างๆให้จบก่อนที่ตัวเองจะเข้านอน แต่เหมือนยิ่งพูด...ก็ยิ่งไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาเลยสักคำ แถมยังทำให้หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
ปังงงงง!!!
ระบายอารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่ในใจด้วยการปิดปะตูห้องจนเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง เพราะไม่รู้จะระบายความอึดอัดต่างๆที่เป็นมาหลายอาทิตย์กับใคร เนื่องจากคนต้นเหตุที่ทำให้อารมณ์แปรปรวนอยู่ตอนนี้เอาแต่ทำงาน ทำงาน แล้วก็ทำงานอย่างเดียว แถมยังไม่คิดจะพูดอะไรเพื่อให้เขาสบายใจนอกจากการออกคำสั่งให้รีบไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอน
แบคฮยอน...ไม่ได้อยากทำตัวงี่เง่าแบบนี้เลยสักนิด แต่มันก็ห้ามไม่ได้จริงๆเพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกเมินอีกครั้งหลังจากที่ถูกพากลับมาที่นี่ แถมเรื่องที่เกิดขึ้นในห้างสรรสินค้าตอนที่เดินเลือกซื้อของหวานอยู่ในซุปเปอร์มาเก็ตก็พาลทำให้ความหงุดหงิดที่มีมากอยู่แล้วกลับมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้ชานยอลจะเข้ามาปกป้องเขาให้รอดพ้นจากการถูกชายวัยรุ่นคนนั้นรังแกได้ทันก็ตามที แต่มัน...ก็ไม่สามารถชดเชยความรู้สึกน้อยใจที่เป็นมาก่อนหน้านี้ได้เลยสักนิด
ความเข้าใจ...กับความไม่เข้าใจมันกำลังตีกันอยู่ในหัว เพราะใจหนึ่งก็ทราบดีว่างานของชานยอลยุ่งมากแค่ไหนเนื่องจากการต่อเติมห้องพักต่างๆก็ยังไม่เรียบร้อยดี แต่อีกใจ...ก็คิดว่าถ้าชานยอลพร้อมที่จะมีแฟนจริงๆอย่างที่เคยพูดเอาไว้ก็น่าจะแบ่งเวลามาดูแลกันบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทำงานอย่างเดียวและปล่อยให้เขาคิดมากอยู่แบบนี้ แบคฮยอนถอดเสื้อผ้าโยนใส่ตะกร้าด้วยความหงุดหงิดก่อนเดินเข้าไปในห้องน้ำและคิดว่าการได้นอนแช่น้ำอุ่นๆอาจช่วยทำให้อารมณ์ต่างๆเย็นลงได้บ้าง
แต่...ยังไม่ทันได้หย่อนกายลงไปในน้ำ เสียงของประตูห้องนอนที่ดังมาพร้อมกับคำสั่งของผู้เป็นเจ้าของห้องก็ทำให้ ต้องตะโกนตอบออกไปอย่างรู้สึกหงุดหงิด(อีกครั้ง!!)
แกร็ก!!
“น้องแบคคค...อาบน้ำเสร็จแล้วไปหาพี่ที่ห้องทำงานนะครับ พี่จะได้ทายาให้”
“รู้แล้ววววววว...ฮะ!!”
และ...คำสั่งกับคำตอบที่ตะโกนใส่กันไปมาเมื่อครู่ก็เหมือนเป็นตัวตัดสินให้คนตัวเล็กคิดแผนอะไรบางอย่างเพื่อลองใจผู้เป็นเจ้าของห้องด้วยความนึกสนุก????
...
...
...
ก๊อก ๆ ๆ ๆ!!
หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย...และไม่ได้นอนแช่น้ำอุ่นเพื่อดับอารมณ์ของตัวเองอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะแผนที่เตรียมมาเพื่อลองใจใครบางคนมันผลักดันให้แบคฮยอนต้องรีบเดินเข้ามาหาชานยอลที่ห้องทำงานตามคำสั่ง และตอนนี้...คนตัวเล็กที่มีผ้าห่มผืนโตสีเข้มห่อหุ่มร่างกายเอาไว้ก็เดินมาจนถึงหน้าห้องพร้อมดึงมือออกมาจากผ้าห่ม เพื่อเคาะประตูเบาๆเป็นเชิงขออนุญาต และเปิดประตูเข้าไปด้านในทันทีแล้วห่อตัวเองไว้ในผ้าห่มเหมือนเดิม
“อ้าวว...น้องแบค เป็นอะไรครับ!!!?? เดินเอาผ้าห่มมาด้วยทำไม ไม่สบายหรือเปล่า?” คนที่กำลังวุ่ยวายอยู่กับเอกสารกองโตบนโต๊ะทำงานรีบเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องก็ต้องพบกับก้อนผ้าอ้วนๆที่มีแค่ศีรษะของคนตัวเล็กโผล่ออกมาเท่านั้น
“พี่ชานยอลทำงานเสร็จหรือยังฮะ” พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและค่อยๆเดินมาหาเจ้าของห้องที่โต๊ะทำงาน เนื่องจากการมีผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างกายมันก็ทำให้การก้าวเดินกลายเป็นเรื่องยาก เพราะถ้าให้เดินด้วยความเร็วปกติก็อาจทำให้เจ้าตัวหกล้ม
“ยังไม่เสร็จง่ายๆหรอกครับ เอกสารตั้งเยอะ...แล้วตกลงน้องแบคเอาผ้าห่มมาด้วยทำไม หื้มม? ไม่สบายหรือเปล่า???” ปากทำหน้าที่ถาม...แต่มือก็จัดการเรียงเอกสารที่เคลียร์เสร็จไปแล้วบางส่วนเก็บใส่แฟ้มโดยไม่ได้มองหน้าคนที่ตัวเองกำลังคุยด้วยเลยสักนิด
และการกระทำของชานยอล...ก็ส่งผลให้คนที่ถูกเมินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องเปลี่ยนจากการยืนคุยอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน มาเป็นการเดินอ้อมมาทางด้านหลังชานยอลพร้อมกางผ้าห่มผืนโตคลุมทั้งเก้าอี้ ทั้งคนที่เอาแต่นั่งทำงานโดยไม่สนใจอะไรเลยนอกจากเอกสารบนโต๊ะ และตอนนี้...ในผ้าห่มสีเข้มก็มีเก้าอี้หนึ่งตัวที่กั้นระหว่างเขาและชานยอลเอาไว้ แถมคนเจ้าแผนการก็ยังซบหน้าลงบนไหล่กว้างด้วยความออดอ้อน
“เมื่อไหร่พี่ชานยอลจะทำงานเสร็จล่ะฮะ น้องแบคง่วงนอนแล้วนะ”
“ง่วงก็นอนไปก่อนสิครับ พี่ยังทำงานไม่เสร็จเลย...แต่ก่อนนอนน้องแบคต้องทายาก่อนนะครับ แขนจะได้ไม่ช้ำ”
“ไม่เอาฮะ...น้องแบคอยากนอนพร้อมพี่ชานยอล”
“เฮ้อออ...น้องแบคอย่าดื้อได้ไหมครับ พี่งานยุ่งจริงๆ”
“พี่ชานยอลไม่รักน้องแบคแล้วใช่ไหมล่ะ!??”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะน้องแบค!! แล้วก็กลับไปนอนได้แล้ว...พี่ยังไม่อยากทะเลาะกับเราตอนนี้!”
“น้องแบคก็ไม่อยากทะเลาะกับพี่ชานยอลเหมือนกัน!!! แต่พี่ชานยอลไม่สนใจน้องแบคเลย! พี่ชานยอลเอาแต่ทำงาน ทำงาน ทำงานนนนนน!!!”
คนงานยุ่ง...พยายามพูดดีๆกับผู้ที่ยังคงงอแงด้วยความใจเย็น แต่ดูเหมือนทุกอย่างมันกำลังทำให้เขาใจร้อนเพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเจอแต่คำที่ไม่น่าฟัง แถมคนตัวเล็กก็ดื้อมากจนอยากจะจับมาฟาดก้นสักทีสองที ชานยอลค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากร่างกาย พร้อมหมุนเก้าอี้เพื่อที่จะหันไปคุยกับแฟนเด็กให้รู้เรื่อง แต่...ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าประหนึ่งความชัดในแบบHQ กลับทำให้สิ่งที่คิดจะพูดถูกกลืนหายไปกับความขาวเนียน ยอดอกสีหวานและสะโพกผายอวบอิ่ม เพราะเมื่อผ้าห่มถูกดึงออกไปกองอยู่กับพื้น ชานยอลก็ได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของแบคยอนที่ยืนทำหน้าบึ้งอยู่อย่างนึกอายต่อสิ่งใด
“นะ..น้องแบค!!!!...ทำไมทำแบบนี้ครับ?”
“ก็พี่ชานยอลไม่สนใจน้องแบคเลย!!”
“ใครบอกว่าพี่ไม่สนใจ แล้วใครสอนให้ทำแบบนี้!! หึ!!”
“พี่ชานยอลอย่ามาขึ้นเสียงใส่น้องแบคนะ!! น้องแบคไม่ได้ทำอะไรผิด!”
“มายืนแก้ผ้าแบบนี้...ยังบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดอีกเหรอ?? เข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วก็นอนได้แล้ว!!!!”
อุตส่าห์คิดแผนมาอย่างดี...แต่กลับถูกแฟนต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แถมยังถูกเมินอีกครั้งจนทำให้ความขุ่นมัวต่างๆที่เก็บไว้มานานระเบิดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แบคฮยอนรู้สึกแย่เพราะพยายามหาวิธีเพื่อให้ชานยอลสนใจตัวเองบ้าง แต่สิ่งที่ได้รับ...กลับสร้างความน้อยใจ ความโกรธและความสับสนให้มีมากขึ้นไปอีก แถมการที่ชานยอลหมุนเก้าอี้กลับไปนั่งทำงานเหมือนเดิมก็ยิ่งทำให้แบคฮยอนรู้สึกเสียใจมากกว่าที่เป็นอยู่
“ถ้าพี่ชานยอลอยากทำงาน....งั้นน้องแบคกลับบ้านก็ได้ แล้วน้องแบคก็จะไม่มาค้างกับพี่ชานยอลอีก!!”
“อย่ามายั่วโมโหพี่นะครับ...น้องแบค!!! พี่บอกให้กลับไปนอนเดี๋ยวนี้!!!! อย่าดื้อ!!!!”
“ไม่นอน!! แล้วน้องแบคก็ไม่ได้ยั่วโมโหพี่ชานยอลด้วย ใช่สิ!!...น้องแบคไม่มีนมใหญ่ๆเหมือนผู้หญิคนอื่นๆของพี่ชานยอลหนิ!!?? พี่ชานยอลถึงได้เมินน้องแบค!! งั้นก็เชิญพี่ชานยอลทำงานต่อไปเลย น้องแบคจะกลับบ้าน!!!!”
“จะนอนที่นี่ใช่ไหม...งั้นมานี่เลย!!! น้องแบคอยากให้พี่สนใจใช่ไหม??!!!...แล้วอย่ามาร้องไห้ที่หลังก็แล้วกัน!!”
“ปล่อยน้องแบคเดี๋ยวนี้นะ!!! พี่ชานยอลไม่ต้องมายุ่งกับน้องแบคเลย น้องแบคจะกลับบ้าน!!”
ปึ่กกก!!!
เหมือนยิ่งอธิบาย...แบคฮยอนก็ยิ่งเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นทุกที และเมื่อความอดทนต่อสิ่งเย้ายวนได้สิ้นสุดลง มันก็จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเพื่อยุติปัญหาทุกอย่างให้จบภายในคืนนี้ คนตัวเล็กถูกวิศวกรประจำโรงแรมอุ้มพาดบ่าก่อนเดินเข้ามาในห้องนอน แล้วโยนลงไปบนเตียงด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวมากกว่าทำไปด้วยความโมโห
ชานยอล...พยายามหันหลังให้กับคนที่ยืนแก้ผ้าเถียงเขาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง และทำงานต่อโดยไม่สนใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะมันกำลังทำให้อารมณ์ต่างๆที่เก็บไว้มานานเริ่มเหลือน้อยลงทุกที แต่เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงไปกว่าเดิมจนต้องตัดสินใจคุยกับแฟนตัวเล็กให้รู้เรื่อง เจ้าของห้อง...ใช้ขนาดตัวที่ใหญ่กว่าคร่อมร่างเปลือยเปล่าแสนงอนเอาไว้ และมองใบหน้าเนียนไล่ลงไปจนถึงสะโพกอวบอย่างห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้
“พะ...พี่ชานยอลจะทำอะไร!!???” ถูกสายตาคมจ้องมองจนอดหวาดหวั่นไม่ได้ แต่ก็ยังทำเป็นใจกล้าและถามออกไปด้วยความสงสัย
“แล้วน้องแบคอยากให้พี่ทำอะไรล่ะ?” ได้ยินคนใต้ร่าง...ถามด้วยเสียงสั่นๆแต่ก็ยังเชิดหน้าทำเป็นเก่งเหมือนอย่างที่ทำตอนอยู่ในห้องทำงาน ชานยอลจึงคิดจะสั่งสอนคนอวดเก่งให้รู้บ้างว่าไม่ควรยั่วโมโหเขาด้วยวิธีการเปลือยกายแบบนี้
“น้องแบคอยากให้พี่ชานยอลสนใจ” หลบสายตาคนเจ้าเล่ห์ และพูดความต้องการของตัวเองออกไปเพราะถึงแม้แบคฮยอนจะทราบว่าสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่ ณ...เวลานั้นมันคิดวิธีอื่นไม่ออกจริงๆ
“พี่ก็กำลังสนใจอยู่นี่ไงครับ...น้องแบคคคค” ก้มใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียอยู่แถวใบหู และพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเพราะตอนนี้อารมณ์ต่างๆมันเริ่มปะทุขึ้นเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากผิวกายที่ขาวเนียน
“น้องแบคยอมทุกอย่างเลยฮะ ถ้ามันทำให้พี่ชานยอลสนใจน้องแบคมากขะ...ขึ้น อ๊ะ!!!” ยกมือทั้งสองข้างดันอกกว้างเอาไว้ พร้อมทั้งหลับตาและขยับกายหนีจมูกของคนด้านบนที่กำลังปัดป่ายไปมาแถวซอกคอเพราะมันรู้สึกจั๊กจี้ และไม่ได้รังเกียจที่ถูกทำแบบนี้แต่ใจลึกๆก็รู้สึกกลัวอยู่ไม่ใช่น้อย
แบคฮยอนทราบดี...ว่าชานยอลกำลังจะทำอะไร หรือรู้สึกเช่นไร เพราะเขาไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขั้นไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปทั้งหมดมันได้กระตุ้นความต้องการบางอย่างให้เกิดขึ้น และใช่ว่าอยากพูด อยากทำ อยากปล่อยตัวปล่อยใจง่ายๆแบบนี้เพื่อให้แฟนหันมาสนใจ แต่เมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว...เขาก็ไม่อยากถอยเพราะถ้าได้ผล แบคฮยอนก็คิดว่ามันคุ้มโดยไม่สนว่าสิ่งที่ทำไปจะเสียเปล่า!!!
ส่วนคนที่ห้ามอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ได้อีกแล้ว...ก็ไล่ริมฝีปากลงไปเรื่อยๆจากซอกคอจนถึงยอดอกสีหวาน ปากคมดูดเม้มซึมซับความหอมไปทุกสัดส่วนอย่างคนเอาแต่ใจและทราบดีว่าทุกๆอย่างจะจบลงเช่นไร เขาจึงพยายามไม่ทำรุนแรงหรือทำอะไรวู้วามจนเกินไปเพราะไม่อยากให้คนอ่อนประสบการณ์ตื่นกลัว มือหนาบีบเค้นสะโพกผาย สายตามองใบหน้าแฟนตัวเล็ก และตอนนี้แบคฮยอนก็กำลังกำหมอนใบโตเอาไว้แน่นพร้อมกัดปากเพื่อนกลั้นเสียงร้องของตัวเองเอาไว้
จุ๊บบ!!
“รู้สึกอะไรก็ร้องออกมาเลยครับน้องแบค ไม่ต้องกลัว” ละริมฝีปากจากหน้าท้องแบบราบและเลื่อนตัวขึ้นมาจูบปลอบขวัญคนที่นอนกัดปากตัวเองด้วยความเป็นห่วง เพราะชานยอลกลัวปากบางๆที่เขาเคยลิ้มรสมาแล้วว่าหวานแค่ไหนจะเลือดออกเสียก่อน
“น้องแบคไม่ได้กลัวฮะ ตะ..แต่น้องแบคอาย” ลืมตามาเจอร้อยยิ้มของคนเจ้าเล่ห์ในระยะใกล้เพียงอากาศกั้นมันทำให้หัวใจของแบคฮยอนเต้นแรงกว่าเดิม...จากที่เต้นแรงอยู่แล้ว
ฟอดดด!!!!
“แล้วตอนแก้ผ้าเดินมาหาพี่ที่ห้องทำงานทำไมไม่อาย หื้ม?” ถามออกไปโดยที่ไม่ได้อยากรู้คำตอบ แต่ที่ถามก็เพื่อแกล้งให้คนตัวเล็กอายกว่าเดิม แล้วหอมแก้มนุ่มด้วยความมันเขี้ยว
ชานยอลทราบดี...ว่าคนใต้ร่างทั้งกลัวทั้งอายแต่ก็ทำเป็นใจกล้าไปอย่างนั้นเพราะอยากให้เขาสนใจ และวิธีที่ใช้อยู่ตอนนี้มันก็ได้ผล เนื่องจากผิวเนียนขาว สะโพกอวบและความหอมความนุ่มที่ได้สัมผัสมันทำให้ละความสนใจไปไม่ได้จริงๆ ใช่ว่าอยากฉวยโอกาสตอนที่คนตัวเล็กรู้สึกสับสนหรืออ่อนแอกับความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองถูกเมิน แต่การทดสอบเขาด้วยวิธีนี้...มันก็ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ยากเช่นกัน
“ก็พี่ชานยอลไม่สนใจน้องแบคหนิฮะ อ๊ะ!!”
“อื้มมม...งั้นเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีนะครับ เพราะพี่กำลังสนใจน้องแบคแล้ว”
“ซี๊ดดด พะ...พี่ชานยะ...ยอล”
ถูกวิศวกรประจำโรงแรม...ครอบครองส่วนอ่อนไหวด้วยปากจนห้ามเสียงร้องหน้าอายเอาไว้ไม่ได้ และไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำแบบนี้ให้เขาเพราะปกติ...การปลดปล่อยอารมณ์ไปตามธรรมชาติของผู้ชายก็ใช้แค่มือเท่านั้น ยิ่งการทำเรื่องอย่างว่ากับแฟนระหว่างผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันก็ยิ่งไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าจะต้องทำเช่นไรหรือจะต้องรู้สึกแบบไหน และถึงแม้แบคฮยอนจะเคยได้ยินเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยเล่าให้ฟังมาบ้าง แต่มันก็ไม่เหมือนกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเจออยู่ในตอนนี้
“อื้มมม”
“ซี๊ดดดด อ่าห์”
ได้แต่ส่งเสียงร้อง...เพื่อความระบายความรู้สึกต่างๆออกไปอย่างไม่นึกอายอะไรอีกแล้ว และหายใจถี่รัวเมื่อได้ปลดปล่อยความอึดอัดออกไปจนหมด แต่...การถูกนิ้วโป้งของคนมากประสบการณ์ลูบวนไปวนมาอยู่ทางด้านหลังมันก็ทำให้การหายใจเริ่มติดขัดอีกครั้งและรู้สึกตกใจจนร่างงกายรู้สึกเกร็งไปหมด
“ผ่อนคลายนะครับ...น้องแบค เพราะหลังจากนี้จะเจ็บนิดหน่อย แต่พี่สัญญา...ว่าจะทำให้น้องแบคเจ็บน้อยที่สุด น้องแบคเชื่อพี่นะครับ”
พยักหน้าตอบรับด้วยความเต็มใจ...เพราะหลังจากที่ได้เห็นสายตาของแฟนตัวใหญ่ แบคฮยอนก็ทราบได้ทันทีว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกเช่นไร มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความต้องการ ความอ่อนโยนเหมือนอย่างคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่ แบคฮยอนไม่อยากคิดว่าสิ่งที่ได้ยินจะเป็นแค่คำหลอกลวงเพื่อให้ตัวเองตายใจ เพราะเขาเป็นคนเลือกที่จะทำแบบนี้เองและไม่ได้คัดค้านหรือต่อต้านมาตั้งแต่แรก แต่ก็ต้องยอมรับ...ว่าใจลึกๆก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่ใช่น้อย
ส่วนคนที่ถูกความหอมหวานโจมตีจนอารมณ์กระเจิดกระเจิง...ก็รีบถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปลือยเปล่าและก้มจูบตามผิวเนื้อเนียนขาวด้วยความรู้สึกหวง ชานยอลไม่อยากให้ใครเห็นความสวยงามของแบคฮยอนอีกแล้ว เพราะหลังจากที่ตัวเองได้ลิ้มรส ได้สัมผัส ได้จับต้องคนตัวเล็กไปเมื่อกี่นาทีที่ผ่านมามันก็ทำให้เดาได้ไม่อยากเลยว่า....นี่คือครั้งแรกของแบคฮยอน และสิ่งที่ทำให้รู้ได้อีกอย่างก็คือ...ช่องทางที่ถูกนิ้วโป้งของเขาลูบวนอยู่เมื่อครู่ก็ปิดสนิทและบอบบางจนไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเหมือนอย่างที่เคยทำกับคนอื่น
วิศวกรหนุ่มจูบซับไปตามต้นขาด้านในและพยายามปรับส่วนที่กำลังจะถูกเติมเต็มด้วยความรักให้คุ้นชินก่อนที่จะเจอกับสิ่งทำให้เจ็บกว่านิ้วด้วยความทะนุถนอมและเบามือที่สุด แต่...การบิดเกร็งของคนตัวเล็กที่มาพร้อมกับเสียงร้องหวานๆก็ชวนให้อารมณ์ของชานยอลเริ่มกระเจิดกระเจิงมากขึ้นจนต้องใช้อาวุธร้ายที่เตรียมรออยู่นานมอบความสุขให้กับแบคฮยอนและตัวเองสักที
“จะ...เจ็บฮะ น้องแบคเจ็บ!!”
“อดทนหน่อยนะครับเด็กดี....มันจะไม่เจ็บอีกแล้ว น้องแบคกอดพี่ไว้แน่นๆนะครับ”
“อ๊ะ!!”
“อื้มมม ซี้ดดด!!!”
จากเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด...ก็เปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานและเคลื่อนกายไปตามจังหวะรักที่คนด้านบนมอบให้อย่างห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้ แบคฮยอนกอดแฟนตัวใหญ่ไว้ตลอดเวลาและปล่อยอารมณ์ไปตามที่ใจปรารถนาโดยไม่รู้สึกหวาดกลัวหรืออายอะไรอีกแล้ว ส่วนชานยอล...ก็รู้สึกไม่ต่างไปจากคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อยและทำทุกอย่างด้วยความทะนุถนอมเพราะไม่ต้องการให้ร่างกายที่ทำให้เขาแทบคลั่งอยู่ตอนนี้บอบช้ำ
“อ่าห์........”
ต่างคนต่างเติมเต็มความรักให้แก่กันและกัน และก็เป็นแบคฮยอนที่หมดแรงจนต้องทิ้งตัวลงบนอกกว้าง ชานยอลกอดร่างที่ล้มตัวลงบนกายของเขาเอาไว้แน่น และเสียงหายใจที่ดูเหนื่อยหอบในตอนแรกแล้วเปลี่ยนเป็นการผ่อนลมเข้าออกอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้ชานยอลรู้ได้ทีนทีว่าคนที่นอนหมดแรงอยู่บนอกได้หลับไปแล้ว มือหนาดึงผ้าห่มผืนโตคลุมร่างของคนตัวเล็กเอาไว้เพราะคิดว่า...หลังจากที่บทรักสิ้นสุดลง ความเย็นภายห้องนอนอาจทำให้ผู้ที่เพิ่งโดนเสือร้ายอย่างเขาจับกินเป็นครั้งแรกป่วยไข้
แล้วสักพัก...ชานยอลก็หลับไปพร้อมๆกับความสุขที่ได้รับในคืนนี้โดยที่ยังมีเอกสารกองโตวางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะทำงาน
❀
โรงแรม โซล
07.05 น.
เป็นเช้า...ของวันทำงานที่แสนจะขี้เกียจเนื่องจากสภาพร่างกายมันไม่พร้อมที่จะทำอะไรเลย และอยากนอนมากกว่าตื่นมาทำงาน วันนี้พนักงานจัดดอกไม้ต้องเข้างานรอบเช้าและเลิกงานห้าโมงเย็นตามตารางที่หัวหน้าแผนกจัดไว้ให้ และที่รู้สึกขี้เกียจ...ก็เป็นเพราะถูกเจ้าของโรงแรมเอาแต่ใจทั้งคืน แถมช่วงนี้ก็ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเมนท์ของตัวเองเลยแม้แต่วันเดียว
เซฮุน...ถูกสั่งให้มานอนที่คอนโดฯสุดหรูโดยที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรได้ แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายมาอยู่แบบเต็มตัวเหมือนอย่างที่เจ้าของคำสั่งต้องการเพราะมันยังรู้สึกอึดอัดกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ เซฮุนคิดมาตลอด...ว่าการที่ตัวเองต้องมานอนอยู่ที่คอนโดฯแห่งนี้ทุกวันก็เป็นเพราะไม่อยากขัดใจหรือสร้างความโมโหให้กับผู้เป็นเจ้าของ แล้วการทำให้คิมจงอินหงุดหงิดมันก็ไม่เคยมีผลดีต่อใครทั้งนั้น
แต่...ก็ต้องยอมรับความจริงอีกข้อหนึ่งด้วยว่า หัวใจของตัวเองก็มักจะโอนอ่อนผ่อนตามไปกับคำสั่งทุกข้อของจงอินด้วยเช่นกัน U_U
Rrrrr!!
Rrrrr!!
มัวแต่คิดเรื่องที่ทำให้หัวใจห่อเหี่ยวจนเกือบจัดดอกไม้สำหรับงานสัมมนาไม่เสร็จ และเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้นฉุดสติให้พนักงานอย่างเซฮุนต้องรีบวางกรรไกรในมือเพื่อรับสาย และชื่อ...ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเครื่องมือสื่อสารก็ทำให้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียวสวย
“ว่าไง...คนมีแฟนแล้ว”
(อย่ามาล้อแบคนะ...แล้วแบคโทรมารบกวนเซฮุนหรือเปล่า?)
“ไม่เลย ๆ...คุยได้ วันนี้งานไม่เยอะเท่าไหร่”
(พอดีแฟนแบคจะไปทำงานที่โซล...แบคก็เลยอยากไปหาเซฮุนด้วย เย็นนี้เซฮุนว่างไหม? แบคจะได้พาแฟนไปแนะนำให้รู้จัก)
“ว่างสิ....ว่าง ๆ ๆ วันนี้เราเลิกงานห้าโมง...แล้วแบคจะมาถึงที่นี่กี่โมง??”
(คงถึงเย็นๆเหมือนกัน...แต่แฟนต้องไปส่งงานให้เพื่อนที่คอนโดฯก่อน ถ้าแบคถึงโซลแล้วจะโทรบอกเซฮุนอีกทีนะ)
“ได้เลย...แล้วเจอกันนะแบค”
(งั้นแค่นี้ก่อนนะเซฮุน...)
“จ้าาา...บายยยย”
วางสาย...ด้วยความรู้สึกดีใจที่เพื่อนรักจะเดินทางมาพบถึงที่นี่ เพราะหลังจากที่เรียนจบและแยกย้ายกันไปทำงานก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย และถึงแม้จะโทรติดต่อหากันบ้าง แต่การได้เจอกันมันก็ย่อมดีกว่า มือบางหยิบกรรไกรขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม แล้วเริ่มจัดดอกไม้ต่อเนื่องจากวันนี้มีงานสัมมนาในช่วงบ่ายสองห้อง และเขา...ก็เพิ่งจัดดอกไม้เสร็จไปเพียงแค่ห้องสัมมนาห้องเดียวเท่านั้น
Rrrrr!!
“สวัสดีครับ”
ยังไม่ทันได้เริ่มลงมือปักดอกไม้ใส่แจกันเลยสักดอก...เสียงสมาร์ทโฟนที่เพิ่งวางลงไปบนโต๊ะทำงานไปก็ดังขึ้นอีกครั้ง และคนที่โทรเข้ามาก็ทำให้พนักงานจัดดอกไม้อย่างเซฮุนต้องรีบกดรัเพราะปกติคนในสายจะไม่โทรมาในเวลาทำงานเด็ดขาด
(ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับเซฮุน??)
“ก็นิดหน่อยครับ...พอดีเซฮุนจัดดอกไม้ค้างไว้สำหรับงานสัมมนาบ่ายนี้”
(จัดดอกไม้เสร็จ...ก็รีบกลับคอนโดฯเลยนะ พี่โทรบอกหัวหน้าแผนกให้แล้ว)
“พะ...พี่จงอินทำแบบนี้ทำไมครับ!! มันยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะครับ แล้วเซฮุนก็ยังทำงานไม่ครบเลยด้วย”
(พี่บอกให้กลับก็กลับ อย่าดื้อได้ไหมเซฮุน!!)
“จะให้เซฮุนกลับไปทำอะไรครับ??...แล้วเย็นนี้เซฮุนก็มีนัดกับเพื่อนแล้วด้วย!!”
(โทรไปยกเลิกนัด!!...เพราะพี่ไม่อนุญาต!!)
“พี่จงอิน!!!...นี่มันจะมากไปหรือเปล่าครับ!!”
ก้าวก่ายเรื่องงานกันยังไม่พอ...เซฮุนยังถูกเจ้าของโรงแรมสั่งห้ามไม่ให้ไปหาเพื่อนทั้งๆที่นัดกันไว้แล้ว แถมยังต้องเลิกงานก่อนเวลาด้วยการโทรไปคุยกับหัวหน้าแผนกโดยไม่ถามความเห็นจากเขาเลยสักคำ เซฮุนรู้สึกโกรธมากๆ...และดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องทำงานเพราะพี่ๆในแผนกต่างลงไปจัดดอกไม้อยู่ในส่วนอื่นๆภายในโรงแรม
(มันจะมากกว่านี่แน่...ถ้าพี่ไปรับเซฮุนที่ห้องทำงาน!!! จะเอาแบบนั้นไหม?!!)
“อย่านะครับ!!...พี่จงอินห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะครับ เซฮุนขอร้อง”
(ไม่อยากให้พี่ทำ...ก็รีบกลับคอนโดตามที่พี่บอก แล้วก็อย่าลืมโทรไปยกเลิกนัดเพื่อนด้วย”
ติ๊ดด!!
ทำได้แค่ระบายอารมณ์ใส่กับสิ่งของที่วางอยู่ใกล้ๆมือ...ด้วยการฟาดดอกกุหลาบสีเหลืองลงบนโต๊ะทำงานอย่างรู้สึกหงุดหงิดกับการกระทำของคนที่เพิ่งวางสายไปเมื่อครู่ พนักงานจัดดอกไม้...ต้องทำตามคำสั่งของคนเป็นเจ้านายอย่างหาทางหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมยังอดไปหาเพื่อนรักที่นานๆครั้งจะว่างมาเจอกันสักที ร่างสวยหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้เหมือนคนหมดแรงและรีบกดเครื่องมือสื่อสารเพื่อโทรไปยกเลิกนัดก่อนที่เพื่อนกับแฟนจะเดินทางมาถึงที่นี่
เมื่อระบายความอึดอัด ความโมโห ความหงุดหงิดและโทรไปยกเลิกนัดเพื่อนรักเรียบร้อย...เซฮุนก็ลงมือจัดดอกไม้ต่อจนเสร็จ เพราะเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมง...งานสัมมนาก็ใกล้จะเริ่ม และตัวเขาก็ต้องรีบเดินทางหลับคอนโดฯตามคำสั่งของจงอิน เซฮุนลำเรียงดอกไม้ที่จัดเสร็จแล้วใส่รถเข็นด้วยความเร่งรีบ แล้วกดลิฟท์ไปห้องสัมมนาเมื่อจัดดอกไม้เสร็จ มือบางยกความสวยงามที่บรรจงจัดอยู่นานวางลงบนโต๊ะสำหรับวิทยากร โพเดี่ยมและโต๊ะลงทะเบียนหน้างานอย่างเบามือ แล้วพอจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นก็รีบเข็นรถกลับไปที่ห้องทำงานก่อนเดินทางกลับคอนโดฯทันที
...
...
...
...
...
Gazania Condominium
13.47 น.
เซฮุนรีบเดินทางกลับมาที่คอนโดฯด้วยการนั่งแท็กซี่ เพราะขืนนั่งรถโดยสารเหมือนอย่างที่เคยทำก็คงไม่ทันใจคนออกคำสั่งแน่ๆ และตอนนี้ก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ต้องรีบกลับมาที่นี่ เพราะมัวแต่โมโหคนเอาแต่ใจจนไม่ทันได้ถามอะไรออกไปทั้งนั้น เซฮุนเร่งฝีเท้าก่อนขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นที่ 11 และเมื่อลิฟท์เปิดออกก็รีบวิ่งไปที่ห้องเบอร์หนึ่งทันที แล้วใช้การ์ดสีทองเปิดประตูห้องด้วยความร้อนรน
แกร๊กก!!
“(.....!!!!!!!!!!)”
เจ้าของขาเรียวสวย...ภายใต้กางเกงสกินนี่สีเข้มต้องยืนนิ่งเหมือนถูกสาป เพราะเมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านในก็เห็นดอกทิวลิปสีแดงหลายพันดอกถูกวางอยู่เต็มห้องไปหมด มันเยอะจนคิดว่าความสวยงามที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือทุ่งดอกทิวลิป แถมคนที่ออกคำสั่งให้เขารีบกลับมาที่นี่ก็ยืนอยู่ท่ามกลางดอกไม้แสนสวยงามพวกนี้ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
“เซฮุน...เดินมาหาพี่หน่อยครับ”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับพี่จงอิน...ทำไมถึงมีดอกไม้วางอยู่เต็มห้องไปหมด??”
“แล้วเซฮุนชอบไหมล่ะ?”
“ชอบครับ...ชอบมากๆ มันสวยมากเลยครับ”
“หลับตาหน่อยนะครับเซฮุน...พี่มีอะไรจะให้”
คนถูกออกคำสั่ง(อีกครั้ง)...ยังรู้สึกงงไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยอมเดินเข้าไปหาเจ้าของห้องและหลับตาลงช้าๆตามคำสั่ง และความเย็นจากโลหะที่กระทบผิวเนื้อบริเวณคอก็ทำให้รู้สึกตกใจจนต้องเปิดเปลือกตาขึ้นทันที
จุ๊บบ!!
“ชอบไหมครับ...คนดีของพี่”
ถูกปากหยัก...จูบลงบนหน้าผากอย่างอ่อนโยนและเมื่อก้มลงมองโลหะบนคอ เซฮุนก็ได้พบกับสร้อยเส้นสวยที่จงอินคนสวมให้ แถมจี้ที่มาพร้อมสร้อยก็เป็นรูปดอกทิวลิปที่มีอัญมณีสีแดงประดับอยู่อย่างสวยงาม และมันก็สวยเหมือนกับดอกไม้ที่วางอยู่ในห้องตอนนี้ เซฮุนถูกกอดไว้ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไปจากทุกครั้งเพราะวันนี้...เขารู้ใจตัวเองแล้วว่ารู้สึกเช่นไรกับคนที่อยู่ในอ้อมอกตอนนี้
“ชอบครับ...มันสวยมากเลย แต่ว่ามันไม่เหมาะกับเซฮุนหรอกครับ มันแพงเกินไป เซฮุนรับไว้ไม่ได้จริงๆนะครับ เกิดเซฮุนทำหายขึ้นมาคงไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อใช้พี่จงอินแน่ๆ”
“เซฮุนห้ามพูดแบบนี้อีกเด็ดขาด...พี่ขอล่ะ เพราะสิ่งที่พี่ทำให้มันเหมาะกับเซฮุนมากที่สุด สร้อยเส้นนี้พี่สั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อมอบให้คนพิเศษอย่างเซฮุน...มันมีเส้นเดียวในโลกนะครับ แล้วมันจะไม่เหมาะกับเซฮุนของพี่ได้ไง หื้มม”
“ฮึกกก!!ขอบคุณนะครับพี่จงอิน ขอบคุณทุกอย่างเลย ฮึกก!!”
“จำไว้นะ...ว่าเซฮุนเป็นเมียของพี่ เป็นคนที่พี่รัก อะไรที่เซฮุนต้องการ อะไรที่เซฮุนอยากได้ พี่สามารถหามาให้คนที่พี่รักได้ทุกอย่าง แล้วพี่รักก็เซฮุนคนเดียว จำไว้ให้ดีนะครับ”
“ฮือออ!!!...เซฮุนก็จะรักพี่จงอินคนเดียวครับ ฮึกก! คนเดียวจริงๆ”
“เด็กขี้แย...ขอพี่จูบให้ชื่นใจหน่อยซิ”
ไม่เคยคิดว่าจะถูกเซอร์ไพรส์ด้วยวิธีนี้...เพราะก่อนหน้านั้นยังโมโหกับคำสั่งที่แสนจะเอาแต่ใจ แต่พอได้เห็นดอกไม้ที่ตกแต่งอยู่ในห้องและได้ยินคำพูดที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าเด็กธรรมดาๆที่เป็นเพียงแค่พนักงานจัดดอกไม้อย่างเขาเป็นอะไรสำหรับเจ้านาย เซฮุนก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ มันดีใจ โล่งใจ มีความสุขและไม่คิดว่าคำถามที่ตัวเองสงสัยมานานจะได้รับคำตอบท่ามกลางความสวยงามแบบนี้
เสียงจูบ...ดังก้องไปทั่วห้องพักสุดหรู และถึงแม้จะรู้สถานะที่ชัดเจนหรือมีความสุขมากแค่ไหน แต่ในใจลึกๆก็ยังมีความกังวลอยู่อีกมากมายให้ต้องคิด เพราะตัวตนที่แท้จริง ฐานะที่ต่างกันหรืออาชีพที่ทำอยู่มันก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้จงอินดูดีขึ้นมาเลยสักนิด มันไม่เหมาะสม มันไม่มีอะไรที่เข้ากันได้และอาจทำให้คนที่มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาทางสังคมมานานอย่างเจ้าของโรงแรมดูแย่ลงก็ได้ถ้าคบกับเขา เซฮุนคิดว่า...ตัวเองจะดีพอที่จะเดินเคียงข้างคนอย่างคิมจงอินหรือไม่??
แต่ถ้าให้คิดเอาแค่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ปัจุบันนี้...เซฮุนก็ขอเก็บเกี่ยวความสุขที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด และถ้าในอนาคตมันทำให้เขารู้สึกว่าที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่ควรอยู่อีกต่อไปหรือทำให้อีกฝ่ายไม่มีความสุข เซฮุนก็พร้อมจะเดินจากมันไปและไม่เสียใจกับสิ่งที่เลือก
“อื้มมม....พอก่อนครับพี่จงอิน อื้มม!! เซฮุนหายใจไม่ทัน”
ฟอดดดด!!!
ถูกเจ้าของเซอร์ไพรส์...จูบเหมือนจะพรากลมหายใจไปตลอดชีวิต เซฮุนจึงจำเป็นต้องเอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แล้วค่อยๆเอียงใบหน้าก่อนฝังทุกความรู้สึกเอาไว้บนสันกรามคมอย่างออดอ้อนและกอดกายหนาเอาไว้ด้วยความรัก
“เดี๋ยวคืนนี้พี่จะกลับมาสอนเซฮุนจูบใหม่นะครับ”
“อย่าล้อกันสิครับ ก็เซฮุนหายใจไม่ทันจริงๆหนิ”
“พี่ต้องกลับไปทำงานต่อนะครับ...เซฮุนรอพี่อยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวค่ำๆพี่กลับมาดินเนอร์ด้วย”
“อย่าบอกนะครับ...ว่าทิ้งงานมาทำเซอร์ไพรส์ให้เซฮุนแล้วจะกลับไปทำงานต่อ?”
“ก็มันหาเวลาว่างไม่ได้สักที แล้วพี่ก็ตั้งใจทำให้เซฮุนจริงๆ...แต่ตอนนี้พี่ต้องกลับไปทำงานก่อนนะครับ แล้วพี่จะรีบกลับมาหาเซฮุนให้เร็วที่สุด เซฮุนอย่างอแงนะครับ”
“เซฮุนเปล่างอแงสักหน่อย เซฮุนแค่เป็นห่วงเฉยๆ ตะ... แต่พี่จงอินต้องกลับมาเร็วๆนะครับ เซฮุนจะทำมื้อค่ำไว้รอ”
“อ้อนแบบนี้เดี๋ยวพี่ก็ไม่ได้ไปทำงานกันพอดี”
“อื้มมมมม.....”
จูบลากันเนินนาน...จนคนที่มีภาระหน้าที่ให้ต้องรีบกลับไปเคลียร์ที่โรงแรมเกือบโทรไปยกเลิกการประชุมทั้งหมด เพราะทนต่อความหวานจากปากบางที่แสนขี้อ้อนไม่ไหว และเมื่อเจ้าของเซอร์ไพรส์ออกไปทำงานจริงๆ เซฮุนก็ได้แต่เดินสำรวจความสวยงามสีแดงที่ถูกประดับเอาไว้มากมายด้วยความเพลิดเพลิน และคืนนี้...คนที่ชอบดอกไม้เป็นชีวิตจิตใจอย่างโอเซฮุน ก็คงได้นอนหลับท่ามกลางทุ่งดอกทิวลิปจำจอง เพราะไม่ว่าจะก้าวขาไปตรงไหนก็มีแต่ดอกทิวลิปสีแดงประดับไว้ทุกหนแห่ง ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทำงาน ห้องนอนหรือแม้กระทั่งในห้องน้ำก็ยังมี
“
ดอกทิวลิปสีแดง...สื่อความหมายถึงการตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำ
เป็นการบอกรักครั้งแรก
หากใครที่ต้องการจะบอกคนที่ตัวเองรัก ว่าฉันตกหลุมรักเธออย่างหมดหัวใจ
ก็ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่า...ดอกทิวลิปสีแดงอีกแล้ว
“
❀
100%
แก้ไขเมื่อ 13/10/60
ฮืออออ...ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ตอนนี้แก้ไขอยู่หลายวันกว่าจะเสร็จ (มันยากทุกทีตอนมีฉากนั้น)
วันนี้ขออัพตอนเดียวนะคะ (กราบสามที) และจะพยายาม...ไม่หายไปนานจนเกินไป (ถ้าไม่ติดธุระจำเป็นจริงๆ T^T)
ขอบคุณทุกการติดตาม ขอบคุณกำลังใจแสนดีของผู้อ่านที่มอบให้ รวมถึงคอมเม้นท์และคำติชมทุกอย่าง
แล้วจะเข้ามาแก้คำผิดเรื่อยๆค่ะ และขอบอกตรงๆอีกอย่างหนึ่งว่า...เรามีปัญหากับการผันวรรณยุกต์ อย่าง...ค่ะ คะ เนี่ย เนี้ย หรือ สิ ซิและอื่นๆอีกหลายคำ ใครอ่านแล้วรู้สึกขัดใจ รำคาญตา เราต้องขอโทษเป็นอย่างมากนะคะ และจะรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด
รัก♥
#ดอกไม้ของเจ้านาย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

712 ความคิดเห็น
-
#711 pppseen (จากตอนที่ 12)วันที่ 15 เมษายน 2563 / 03:09‘ตกหลุมรักอย่างหมดหัวใจ’ น้ำตาจะไหลค่ะทางนี้#7110
-
#681 KHlulaby (จากตอนที่ 12)วันที่ 12 ตุลาคม 2562 / 22:43รักน้องจริงๆใช่มั้ย อย่าทำอะไรให้น้องเจ็บตัวเจ็บใจเลยน้า#6810
-
#559 /tl26&? (จากตอนที่ 12)วันที่ 22 กรกฎาคม 2561 / 23:04โอ้ยยยยยยยยยยถ้าจะทำกันขนาดนี้เอาดอกทิวลิปสีแดงมาตีหน้ากันเลยเถอะ ฮือ ใจบางกว่ากระดาษแล้วค่ะ -////////-#5590
-
#518 btoey44 (จากตอนที่ 12)วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 / 22:07จงอิน รักหัวปักหัวปำเรย ฮือออ#5180
-
#470 Jammie-Lee (จากตอนที่ 12)วันที่ 13 ตุลาคม 2560 / 22:45บอกรักแล้วว้อยยยยยยย#4700
-
#469 Pinkdao (จากตอนที่ 12)วันที่ 13 ตุลาคม 2560 / 20:15พี่จงอินเซอร์ไพสนัองด้วย ดูแลน้องดีๆน้า#4690
-
#193 มักเน่ไลน์94 (จากตอนที่ 12)วันที่ 20 กรกฎาคม 2559 / 18:20พี่จงอิ๊นนนนนนนเซอร์ไพรส์น้องได้น่ารักมากเลยค่ะแงงงงง ฝากดูแลน้องดีๆด้วยนะคะ ฮึก#1930
-
#129 Kannika Tankam (จากตอนที่ 12)วันที่ 14 มิถุนายน 2559 / 21:57พี่ชานตั้งแต่มีแฟนเด็กก็ลืมน้องฮุนเลยนะ มาเจอคราวนี้จะเปนไงเนี้ยย#1290
-
#104 ME3 KAEKY (จากตอนที่ 12)วันที่ 6 มิถุนายน 2559 / 17:53ชานยอลต้องเจอเซฮุนแน่เลย#1040
-
#59 ้hunhun (จากตอนที่ 12)วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 / 15:24ลงโทษน้องเบาๆ น้าาาาาาาาาาาาา ^O^#590
-
#58 eve_popparazzi (จากตอนที่ 12)วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 / 00:04ขี้หึงว่ะ อะไรก็ไม่รู้ เป็นอะไรกับน้องหรอ ขอเป็นแฟนยังเหอะ มาหงมาหึง#580
-
#57 june2546 (จากตอนที่ 12)วันที่ 2 พฤษภาคม 2559 / 22:50จงอินอ่า ฮุนพูดเล่นนนน#570
-
#56 xxkh94sxx (จากตอนที่ 12)วันที่ 2 พฤษภาคม 2559 / 22:45เซฮุนนนนมีคดีเยอะเลย เหนื่อยหน่อยนะ. เจ้านายขี้หึงงงงงงง-3-#561
-
#56-1 Mokara(จากตอนที่ 12)11 พฤษภาคม 2559 / 08:42มีให้หึงอีกเยอะเลยค่ะ...ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ:)#56-1
-