ตอนที่ 1 : ❀ 1
ดอกไม้ดอกที่ 1
ทุกๆคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกันทั้งนั้น...บางคนมีหน้าที่เรียนและเป็นเด็กดีของพ่อแม่ ได้เที่ยวเล่นตามใจอย่างสนุกสนาน ตกเย็นกลับบ้านทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ส่วนคนที่อยู่ในวัยทำงาน บางคนอาจมีสามี ภรรยาหรือมีลูกๆคอยเป็นกำลังใจเพื่อให้ผ่านวันอันเลวร้ายไปได้ และที่บรรยายมาทั้งหมดก็คือ...ความรู้สึกของ ผู้ชายที่ชอบดอกไม้คนหนึ่ง ซึ่งเขาไม่ได้อิจฉาใครทั้งนั้นที่ได้มีชีวิตดีๆอยู่บนโลกใบนี้ เขาเพียงแค่มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะแล้วได้เห็นรอยยิ้ม อ้อมกอดและจูบที่ดูแสนหวานของคนที่อยู่ตรงนี้แล้วก็บ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามสิ่งที่ได้เห็น เพราะเขา...ก็เคยมีชีวิตดีๆแบบนั้นมาก่อน
แต่...มันก็ผ่านมานานมากแล้ว
หลังจากที่พ่อและแม่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน ชีวิตมันก็เปลี่ยนไปตลอดกาล พวกท่านเสียไปโดยที่เขาก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่บ้านมีหนี้สินมากมายขนาดไหน? ใครเป็นเจ้าหนี้?? แล้วหนี้มันเกิดมาจากสาเหตุอะไร??? พอรู้ตัวอีกที...บ้านก็ถูกยึดและไม่มีอะไรเหลือเป็นของตัวเองเลยสักอย่าง แต่ในความโชคร้าย...ก็ยังมีความโชคดีหลงเหลืออยู่บ้าง เพราะเงินในบัญชีที่พ่อกับแม่ออมไว้ให้ตั้งแต่เกิด มันยังพอมีเหลือเพื่อให้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง และถึงมันจะไม่ได้อยู่สุขสบายเหมือนสมัยก่อนแต่มันก็ยังดีกว่าไม่เหลืออะไรเลย
ในตอนแรก...การเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีใครคอยช่วยเหลือมันค่อนข้างลำบาก และเงินที่มีติดตัวมาบ้างก็ใช้สำหรับเช่าห้องพักเล็กๆและเรียนหนังสือไปพร้อมกับการทำงาน แล้วงานที่ถนัดสุดก็คือ “การจัดดอกไม้” เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถอยู่กับมันได้ทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อ แต่...เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า สิ่งที่เขารักมากที่สุดอย่างดอกไม้แสนสวยทั้งหลายหรืออาชีพการจัดดอกไม้จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาลและเปลี่ยนไปในแบบที่....ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
...
...
...
โรงแรม โซล
09.00 น.
“สวัสดีครับผมชื่อ โอเซฮุน ...ผมมาสมัครงานครับ”
“นี่ใบสมัครนะจ๊ะ...เขียนเสร็จแล้วใส่กล่องหน้าห้องฝ่ายบุคคลไว้ได้เลย มีสัมภาษณ์รอบแรกตอนสิบโมง ถ้ารอบแรกสัมภาษณ์ไม่ผ่านก็ต้องรอรอบบ่ายนะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
ขาเรียวยาวในชุดนักศึกษา...รีบหยิบกระดาษเนื้อดีที่เขียนหัวกระดาษว่าใบสมัครงานมาจากมือหญิงสาวห้องฝ่ายบุคคล แล้วนั่งกรอกข้อมูลต่างๆอยู่บนโต๊ะที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้และลงมือเขียนด้วยความรอบคอบเพื่อกันไม่ให้ตัวเองเขียนผิด ซึ่งใบสมัครงานของโรงแรมใหญ่ๆแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกประหม่าตั้งแต่ยังไม่ได้ถูกสัมภาษณ์ แล้วช่องที่ต้องกรอกข้อมูลของพ่อแม่หรือบุคคลที่จะยืนยันความเป็นตัวตนตนของเขาได้ก็เหมือนจะเป็นข้อที่เขียนง่ายที่สุดเพราะแค่ขีดฆ่าทิ้งก็เป็นอันเสร็จ
แต่ในความเป็นจริง...มันไม่ง่ายเหมือนลงมือทำเพราะการสมัครงานในแต่ละที่ ผู้ประกอบการต้องอยากทราบข้อมูลของผู้สมัครว่าเป็นใครมาจากไหนหรือใครที่สามารถรับผิดชอบในตัวของผู้สมัครได้ถ้าเกิดปัญหา และชื่อที่เซฮุนตรงกรอกลงไปในใบสมัครทุกครั้งเพื่อยืนยันความเป็นตัวตนก็คือ...ชื่อพ่อของเพื่อนสนิทคนเพราะหลังจากที่พ่อกับแม่เสียชีวิต เขาก็ต้องอยู่เพียงลำพังเนื่องจากไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้ว แถมยังมีเพื่อนสนิทไม่มาก เซฮุนจึงไม่รู้จะหาใครมายืนยันตัวตนของเขาเมื่อต้องมานั่งเขียนใบสมัครแบบนี้และชื่อพ่อของเพื่อนที่เพิ่งเขียนลงไปในใบสมัคร...ก็เป็นชื่อของผู้มีพระคุณเพียงคนเดียวที่เต็มใจช่วยเหลือเขา
เซฮุนยังเรียนหนังสือไม่จบแต่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นภาระของคนอื่น ซึ่งตอนนี้มันก็เหลืออีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ เขาก็จะได้เป็นนักศึกษาจบใหม่โดยสมบูรณ์เพราะเหลือแค่ส่งเล่มวิจัยพร้อมกับพรีเซ้นงานครั้งสุดท้ายก็ถือว่า...การเรียนปี 4 ในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นอันสิ้นสุด และก่อนที่จะมาหางานใหม่ในโรงแรมแห่งนี้ เซฮุนก็เคยทำงานที่ร้านดอกไม้ในย่านแหล่งช็อปปิ้งของวัยรุ่นมาก่อน แต่ตอนนั้นทางร้านต้องการตัดงบบางอย่างเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และทางร้านก็เลือกที่จะตัดเขาออกจากงบที่ว่านั้นเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น
และด้วยเหตุนี้...คนตกงานจึงคิดว่าถ้ายังหางานในแบบที่เป็นร้านดอกไม้อยู่เหมือนเดิม วันหนึ่งข้างหน้าเขาอาจจะเป็นงบที่ต้องโดนตัดทิ้งอีกก็ได้ เจ้าตัวจึงต้องเบนความสนใจมาที่งานด้านการโรงแรมเพื่อหาความมั่นคงให้กับตัวเองและเพื่อป้องกันไม่ให้โดนป้าเจ้าของห้องพักไล่ออกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า
ตอนนี้...เซฮุนยังคงนั่งกรอกเอกสารพร้อมรอสัมภาษณ์ตามคำบอกของหญิงสาวฝ่ายบุคคล และนี่...ก็ไม่ใช่โรงแรมแรกที่เขามาสมัครงาน แต่มันเป็นโรงแรมที่ 3 ซึ่งสองโรงแรมก่อนหน้านั้นบอกจะติดต่อกลับมาหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ และผลตอบรับที่ได้ก็คือ...ความเงียบ ไม่มีการติดต่อใดๆกลับมา เซฮุนจึงจำเป็นต้องเดินหน้าหางานใหม่อีกครั้งและหาไปจนกว่าจะได้งานที่ดูมั่นคงกว่าที่เคย และโรงแรมแห่งนี้ก็เป็นอีกความหวังหนึ่งของการเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะคนที่แนะนำให้มาสมัครงานที่นี่ก็คือพ่อของเพื่อนสนิท ซึ่งท่านก็เคยทำงานอยู่ที่นี่เมื่อหลายปีก่อนแต่ตอนนี้ได้ย้ายไปทำงานอยู่ที่สาขาเชจู
“คุณโอเซฮุน...เชิญที่ห้องสัมภาษณ์ด้านซ้ายมือค่ะ”
มันเป็นเสียงเรียก...ที่ทำให้คนที่อยู่ในชุดนักศึกษาใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น พร้อมรีบลุกเดินตรงไปยังห้องที่คิดว่าอาจมีคนหน้าตาเคร่งขรึมหรือดูน่าเกรงขามนั่งอยู่ในห้องนั้น แล้วความตื่นเต้นก็เริ่มมีมากขึ้นเมื่อเซฮุนถูกเชิญให้เข้าไปนั่งในห้องสี่เหลี่ยมที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก และสิ่งที่ตัวเองแอบคิดไว้ในใจก็เป็นจริงทั้งหมดเพราะมีคนทำหน้าที่สัมภาษณ์งานนั่งอยู่ในห้องสามคน สีหน้าของแต่ละคนดูจริงจังจนทำให้รู้สึกเกร็ง แถมคนที่ถูกสัมภาษณ์ไปก่อนหน้านั่นก็ดูท่าทางไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่
แต่ถ้าอยากได้งานนี้...และไม่ทำให้เสียชื่อคนที่ตัวเองกรอกนามลงไปในใบสมัคร เซฮุนต้องพยายามตั้งสติพร้อมกับตอบคำถามของทุกๆคนให้ดีที่สุด
...
...
...
ถูกสัมภาษณ์อยู่นาน...และยอมรับว่ารู้สึกกลัวเพราะที่นี่เป็นโรงแรมใหญ่แถมยังมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่เซฮุนก็พยายามตอบคำถามทั้งหมดด้วยความมั่นใจ “คุณเซฮุนอยากมาจัดดอกไม้ที่นี่เพราะอะไรและคุณมีคุณสมบัติมากน้อยแค่ไหนที่จะมาร่วมงานกับทางโรงแรมของเรา” นั่นคือคำถามสุดท้ายก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์และคำตอบของเซฮุนก็คือ "มันเป็นสิ่งที่ผมถนัดมากที่สุดครับ ผมรักดอกไม้ ผมเข้าใจพวกมัน ผมทำให้พวกมันดูสวยได้หลังจากที่ดอกไม้พวกนั้นถูกตัดออกมาจากต้นและผมก็จะทำให้มันมีคุณค่าสำหรับผู้ที่ได้รับ" เมื่อตอบคำถามสุดท้ายจบประโยค...ผลที่ออกมาก็คือทางโรงแรมตอบรับเซฮุนเข้าทำงานทันทีและพรุ่งนี้ก็สามารถมารายงานตัวกับทางโรงแรมได้เลย
❀
ROSE PUB
21.00 น.
“เซฮุนนนน....ทางนี้ ๆ ๆ” เสียงตะโกนจากผู้ชายตัวเล็กพร้อมกวักมือเรียกเป็นสัญญาณบอกว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงไหนดังขึ้นแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดอยู่ภายในสถานบันเทิงด้วยท่าทางดีใจ
“มานานหรือยัง?...เราขอโทษด้วยนะที่มาช้า” รีบซบหน้าลงบนไหล่ของเพื่อนตัวเล็กพร้อมกอดเอวไว้แน่นเพื่อเป็นการอ้อนเพราะหลังจากสัมภาษณ์งานเสร็จเซฮุนก็รีบไปทำงานพิเศษต่อจนเลยเวลานัดของการเลี้ยงฉลองให้แก่ความสำเร็จของตัวเอง
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยแบครู้ทัน แต่...แบคไม่โกรธเซฮุนหรอกนะ แบคเข้าใจ” ยีหัวคนที่เอาแต่อ้อนด้วยความหมั่นไส้และเข้าใจเพื่อนคนนี้ดีว่าที่มาช้าเพราะต้องทำงานพิเศษหลายอย่างเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เรียนอยู่ปี 1
บยอน แบคฮยอน รู้จักกับเซฮุนในช่วงวันรับน้องของทางมหาวิทยาลัย เพราะวันนั้นคนทั้งคู่ได้ถูกรุ่นพี่แกล้งจนต้องกอดคอกันร้องไห้ในฐานรับน้องฐานหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นจนถึงตอนนี้ก็ 4 ปีแล้ว ซึ่งแบคฮยอนก็คอยช่วยเหลือเพื่อนคนนี้มาตลอดระยะเวลาที่ได้เรียนอยู่ด้วยกัน ทั้งคอยเช็คชื่อบ้าง ช่วยทำงานส่งอาจารย์บ้างเนื่องจากบางวัน...งานพิเศษที่เซฮุนทำอยู่มันไม่สามารถลาหรือขาดงานได้จริงๆ
“ก็อยากอ้อนหนิ แล้วก็...เราฝากขอบคุณพ่อของแบคด้วยนะ เราอาจได้งานนี้เพราะพ่อของแบคก็ได้” ชื่อที่เซฮุนใช้กรอกลงไปในใบสมัครทุกครั้งเพื่อยืนยันความเป็นตัวตนก็คือชื่อของพ่อแบคฮยอนเพราะหลังจากที่เพื่อนรักทราบว่าเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างไร พ่อของเพื่อนคนนี้ก็คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือเหมือนเขาเป็นลูกของท่านอีกคนหนึ่ง
“ได้งานที่นี่ถูกใจเลยสิ งั้นวันนี้เต็มที่เลยนะ ฉลองให้กับงานใหม่...ส่วนเรื่องที่เซฮุนได้งานเพราะอะไร? เพราะใคร? ก็ช่างมันเถอะอย่าคิดมาก...ได้ก็คือได้” แบคฮยอนรู้นิสัยของเพื่อนคนนี้ดีว่าเป็นคนขี้เกรงใจมากแค่ไหน และไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใครถ้าไม่จำเป็นหรือจนหนทางจริงๆ เพราะขนาดงานนี้...พ่อของเขาจะฝากงานให้เซฮุนก็ยังไม่ยอมและขอทำไปตามระบบโดยไม่เอาสิทธิ์พิเศษอะไรทั้งนั้น
“แต่เราจะหางานทำเพิ่มอีกนะ เอางานแบบ...ดูแลทำความสะอาดบ้าน คอนโดฯ อาทิตย์ละ 2 วัน อะไรแบบเนี้ย” เซฮุนไม่เคยปล่อยให้ชีวิตของตัวเองว่างไปโดยเปล่าประโยชน์และมักจะทำงานเยอะแบบนี้มาตั้งแต่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
“โห!!!....นี่กะจะให้งานทับตายเลยเหรอไง จะทำอะไรเยอะแยะนักหนา” ยกแก้วเบียร์ดื่มจนหมดขวดและอดที่จะบ่นเพื่อนรักไม่ได้ ทั้งๆที่ทราบดีว่าเพื่อนของตัวเองมักทำงานเยอะแบบนี้อยู่เสมอ และที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะรู้สึกเป็นห่วง
“เผื่อไว้ไง สำรองไว้ แล้วอีกอย่าง...เราก็อยากมีเงินเยอะๆจะได้มีสวนดอกกุหลาบตัดดอกขายแบบที่ฝันไว้ไง” มันคือความฝันที่รอคอยมานานเพราะวันหนึ่งเขาจะวางมือจากการจัดดอกไม้และเปลี่ยนอาชีพไปเป็นการปลูกดอกไม้ขาย และเซฮุนก็หมายตาที่ดินผืนหนึ่งเอาไว้แล้ว แต่ตอนนี้...เงินที่กำลังเก็บมันยังมีไม่มากพอที่จะซื้อที่ดินผืนนั้น
“เหนื่อยตายก่อนพอดี!!” เบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ปนเป็นห่วงเมื่อได้ยินเพื่อนรักพูดแบบนั้น เพราะต่อให้แบคฮยอนพยายามห้ามไม่ให้เซฮุนทำงานเยอะๆอีกสักกี่ครั้งมันก็ไม่เคยได้ผล
“ไม่คิดจะให้กำลังใจกันหน่อยเหรอออ...เรารู้ว่าแบคเป็นห่วง แต่ตอนนี้เรายังมีแรง เราก็เลยอยากทำงานเยอะๆ จะได้มีตังค์ซื้อที่ไว้ทำสวนดอกไม้ไง” กระพริบตาปริบๆเป็นเชิงขอความเห็นใจจากเพื่อนตัวเล็กที่ยังคงทำหน้านิ่ง แล้วใจลึกๆก็รู้ดีว่าเพื่อนคงเป็นห่วง
“เออๆ ๆ แบคขอโทษ งั้น...ขอให้ฝันของเซฮุนเป็นจริงด้วยเถิดดด...เพี้ยงงง !!” พูดพร้อมเป่าหัวเพื่อนรักจนหน้าม้าแตก และทั้งสองคนก็หัวเราะให้กับความบ้าๆบ้อๆของตัวเองพร้อมกับดื่มฉลองกันต่อด้วยความสนุกสนาน
...
...
23.00 น.
เพื่อนรักทั้งสองอยู่ฉลองกันจนดึก แล้วสักพัก...ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับ แต่คนที่ดื่มของมึนเมาอยู่หลายขวดจนต้องเดินมาเข้าห้องน้ำก่อนกลับอพาร์ทเม้นท์ก็คือคนที่เพิ่งได้งานใหม่ เพราะถ้าจะให้อดทนไปจนกว่าจะถึงที่พักก็คงทนไม่ไหว ขาเรียวเดินไปตามทางแคบๆของสถานบันเทิงจนถึงห้องน้ำ แต่พอจะเดินเข้าไปข้างใน...เจ้าตัวกลับถูกกระชากจากด้านหลังด้วยแรงที่มากและปะทะเข้ากับอกของใครสักคน จากนั้น...ก็ถูกเหวี่ยงจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับกำแพง
“โอ๊ยยย!!”
เซฮุนรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัว...เพราะทั้งถูกกระชากและถูกผลักจากผู้ชายแปลกหน้าที่ตัวใหญ่กว่า แล้วมือหยาบของชายคนนี้ก็พยายามลูบคลำก่อนล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตพร้อมกับบีบเค้นไปตามร่างกายของเขาโดยไม่สนเลยว่าใครจะเข้ามาทำธุระในห้องน้ำ เซฮุนพยายามขืนตัวออกจากการถูกล่วงเกิน แต่ก็สู้ไม่ไหวเพราะขนาดร่างกายมันแตกต่างกันมากเกินไป แถมการถูกจับให้หันหน้าเข้ากับกำแพง รวมถึงมือทั้งสองข้างก็ยังถูกรวบไว้ด้านหลัง มันยิ่งก็ทำให้ไม่ถนัดต่อการดิ้นรนอะไรทั้งนั้
ฟอดดดด!!!!
“กูมองมึงอยู่นานแล้ว...มึงรู้ตัวไหม!!? หอมซะด้วย หุ่นหน้าฟัดชิบหาย!!” ชายแปลกหน้ากระซิบเสียงแหบพร่าข้างหูพร้อมหอมแก้มเนียนของเซฮุนจนยุบไปตามแรงกด และยังไล่จูบลงมาจนถึงซอกคอโดยที่มือก็เอาแต่บีบเค้นเอวบางจนขึ้นริ้ว
คนถูกจู่โจม...รู้สึกกลัวจนน้ำตาไหลเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และถึงแม้ตัวของเขาจะสูงหรือเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ร่างกายโดยรวมก็ยังถือว่าบอบบางกว่าชายแปลกหน้าถ้าให้เปรียบเทียบ เซฮุนยอมรับว่าตัวเองมักตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอยู่บ่อยครั้งเนื่องจากมีใบหน้าเรียวสวยคล้ายผู้หญิง และใช่ว่าไม่เคยถูกลวนลาม แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนถึงกับเข้ามาประชิดตัวและโดนทำแบบนี้มาก่อน แล้วตอนนี้....สิ่งที่ทำได้ก็คือก็แอบภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้ใครก็ได้เข้ามาในห้องน้ำและช่วยเขาออกไปจากตรงนี้เสียที!!
“อย่าทำผมเลยนะครับ ผมกลัวแล้ว อยากได้เงินก็เอาไป แต่อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ” พยายามขอร้องและพูดด้วยน้ำเสียงเป็นเชิงอ้อนวอน เผื่อชายแปลกหน้าจะเห็นใจและยอมปล่อยตัว แต่...ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเพราะมือหยาบเริ่มละจากเอวบาง แล้วค่อยๆเลื่อนต่ำลงไปที่ขอบกางเกง
“ไม่ต้องกลัว มันสนุกจะตาย!!” ใช้ขนาดตัวที่ใหญ่กว่ายืนซ้อนหลังเอาไว้แบบแนบชิดและมือที่บีบเค้นสะโพกกลมกลึงก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเอื้อมมาด้านหน้าเพื่อปลดเข็มขัดและรูปซิปกางเกงของเซฮุน แต่...
เพล้งงงงงงงงงง !!!
ยังไม่ทันที่กางเกงจะหลุดออกจากเอวบาง สิ่งที่คนถูกจู่โจมแอบภาวนาอยู่ในใจก็เป็นผล เสียงแก้วแตก...และเศษแก้วที่ร่วงใส่แผ่นหลัง แล้วบาดแขนของเซฮุนไปเล็กน้อยก็เป็นสิ่งที่ทำให้ชายแปลกหน้าต้องหยุดการกระทำทั้งหมด เซฮุนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงรีบก้มตัวนั่งลงกับพื้นแล้วกอดเข่าไว้แน่น และเห็นชายแปลกหน้าที่คิดจะล่วงเกินตัวเองอยู่เมื่อครู่ก็นอนเอามือกุมหัวที่มีเลือดอาบอยู่เต็มไปหมด แถมยังโดนเตะซ้ำเข้าที่ท้องหลายครั้งจนตัวงอ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า...มันทำให้เซฮุนเห็นช่องทางที่จะหลบหนีและเมื่อคิดได้แบบนั้น...เจ้าตัวก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากห้องน้ำโดยไม่สนเลยว่าใครจะมีเรื่องกับใคร หรือแม้กระทั่งใบหน้าของคนที่เข้ามาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ก็ยังไม่คิดอยากมอง เพราะตอนนี้...คำสั่งในหัวมันบอกว่าต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้เท่านั้น!!!
“เฮ้ยย!!เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป...คุณเป็นอะไรหรือเปล่า!!??” ใช่ว่าไม่ได้ยินเสียงเรียก...แต่ความหวาดกลัวมันมีมากจนไม่สามารถหยุดวิ่งเพื่อกลับมาตอบคำถามหรือตอบแทนบุญคุณใครได้อีกแล้ว และมันคิดได้อยู่อย่างเดียวว่าต้องรีบหนีเอาตัวรอดให้เร็วที่สุด
ขาเรียวในกางเกงสกินนี่...แต่เสื้อที่สวมยังคงหลุดลุ้ยรีบวิ่งออกจากสถานบันเทิงพร้อมเรียกแท็กซี่เพื่อตรงกลับที่พักทันที เซฮุนนั่งอยู่บนรถด้วยหัวใจที่เต้นแรงเพราะยังรู้สึกเหนื่อยบวกกับตกใจกับเหตุการณ์แย่ๆที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อครู่ แต่สมอง...ก็ยังคิดถึงชายแปลกหน้าอีกคนที่เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันเวลา รวมถึงแอบรู้สึกผิดอยู่ในใจที่ไม่คิดจะขอบคุณหรือหยุดพูดคุยกันว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะอะไร??
ส่วนชายแปลกหน้า...ที่พยายามตะโกนเรียกเซฮุนเมื่อครู่ก็คือ เจ้าของโรงแรม ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโซล และคืนนี้เขาก็มีนัดคุยงานเล็กๆน้อยๆกับเพื่อนที่สถานบันเทิงแห่งนี้พร้อมดื่มสังสรรค์กันตามปกติ แต่พอดื่มไปสักพัก....ก็เห็นคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนยืนอยู่ไม่ห่างจากโต๊ะของพวกเขามากนัก เจ้าตัวจึงรีบใช้โอกาสนี้จัดการปัญหาที่ค้างคามานานโดยการมองพฤติกรรมของคู่อริไปเรื่อยๆเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม
และเมื่อเห็นคู่อริเดินเข้าห้องน้ำ...เจ้าของโรงแรมจึงเดินตามไปห่างๆพร้อมถือขวดเบียร์ติดมือไปด้วย แต่พอเดินมาจนถึงหน้าประตูกลับเห็นมันกำลังพยายามล่วงเกินผู้ชายคนหนึ่งด้วยความรุนแรง ซึ่งตัวเขาเองก็เห็นหน้าผู้ถูกทำร้ายไม่ชัดเพราะผู้ชายคนนั้นถูกกดศีรษะเข้ากับกำแพง แต่!!!...สิ่งที่เห็นชัดมากที่สุดก็คือ ผิวพรรณที่สวยงาม ความขาวเนียนและเอวที่คอดเล็กเพราะเสื้อเชิ้ตของคนที่กำลังถูกล่วงเกินมันเปิดขึ้นจนเห็นแผ่นหลังเต็มตา ซึ่งมันไม่เหมือนรูปร่างของผู้ชายเลยสักนิดและหุ่นแบบนั้นก็คงถูกใจคู่อริของเขาอยู่ไมใช้น้อย
แต่ตอนนั้น...มันไม่ใช่เวลาที่เจ้าของโรงแรมจะมาวิเคราะห์ร่างกายหรือความขาวเนียนของผู้ถูกทำร้าย เพราะการแก้แค้นมันสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด และพอได้จังหวะที่คู่อริหันหลังให้ เขาก็รีบเดินเข้าไปประชิดตัวอย่างรวดเร็วก่อนเอาขวดเบียร์ที่ถือติดมือมาด้วยตั้งแต่แรกตีไปที่ศีรษะด้วยความแรง จากนั้นก็เตะซ้ำเข้าที่ท้องอีกหลายครั้ง และเวลาของการแค้นมันก็ไม่ได้จบลงง่ายๆหรือรอให้คู่อริตั้งตัวได้เลยสักนิด ขายาวในกางเกงยีนส์สีเข้มยังคงทำหน้าที่กระทืบตัวปัญหาอย่างเต็มแรงจนมันนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่บนพื้นสกปรก
เจ้าของโรงแรมไม่ได้สนใจผู้ชายหุ่นสวยที่เอาแต่นั่งกอดเขาของตัวเองอยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวเพราะกำลังสะใจที่ได้แก้แค้น แต่พอร่างเจ้าของร่างสวยเริ่มขยับกายพร้อมวิ่งหนีออกจากห้องน้ำ เขาจึงจำเป็นต้องหยุดการกระทำทั้งหมดเอาไว้และพยายามเรียกคนที่วิ่งออกไปแบบไม่คิดจะหันกลับมามองด้วยเสียงที่ดังก่อนวิ่งตามออกมา แต่...ก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าของโรงแรมเห็นคนที่ตัวเองพยายามตะโกนเรียกรีบขึ้นแท็กซี่ไปอย่างรวดเร็วโดยที่เสื้อผ้ายังหลุดลุ้ยอยู่แบบนั้น ส่วนคู่อริที่นอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำก็คงต้องได้สั่งให้เพื่อนมาจัดการต่อ
ส่วนตอนนี้...เจ้าของโรงแรมชื่อดังก็แอบรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้เห็นหน้าผู้ชายร่างสวยคนนั้นเลยสักนิด แล้วภาพที่ยังติดอยู่ในความทรงจำก็คืออออ...ผิวขาวเนียนและเอวคอดเล็ก!!!
❀
โรงแรม โซล
07.30 น.
เป็นเช้า...ที่ต้องตื่นมาพร้อมกับร่างกายที่เมื่อยล้าเพราะเมื่อคืนโดนชายแปลกหน้าตัวใหญ่ที่สถานบันเทิงทั้งกระชากทั้งเหวี่ยง และถูกลวนลามไปจนเกือบเกินเลยไปถึงเรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น แล้วกว่าจะข่มตาหลับลงได้....เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ แถมวันนี้ยังเป็นวันที่ต้องไปรายงานตัวที่โรงแรมในฐานะพนักงานจัดดอกไม้ ตอนนี้...ร่างที่ระบมไปทุกสัดส่วนก็ค่อยๆยันกายขึ้นออกจากที่นอนก่อนรีบจัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกเดินทางไปทำงานที่ตัวเองรักด้วยความตื่นเต้น
...
...
...
“สวัสดีครับผมชื่อ โอเซฮุน เป็นพนักงานใหม่แผนกจัดดอกไม้ครับ” พอมาถึงก็แนะนำตัวเองกับหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องลงเวลาเข้างานเพื่อหวังว่าเธอจะแนะนำสิ่งที่เขาต้องทำหรือไม่ก็บอกห้องที่เขาต้องไปทำงาน
“สวัสดีจ้ะเซฮุน...ขึ้นไปชั้น 6เลยนะ ห้องดอกไม้ออกจากลิฟท์ไปเลี้ยวซ้ายก็ถึงเลย” เจ้าของห้องลงเวลาเข้างาน กล่าวทักทายพนักงานจัดดอกไม้คนใหม่ด้วยความยิ้มแย้มพร้อมบอกทางที่เซฮุนต้องไปเริ่มงานใหม่
“ขอบคุณมากครับ” ยิ้มจนตาหยีและโค้งตัวเพื่อเป็นการขอบคุณแล้วเดินไปตามทางที่เธอบอกไว้ทันที
เซฮุน...เดินออกจากลิฟท์แล้วเลี้ยวซ้ายไปนิดหน่อยก็ถึงห้องทำงานอย่างที่หญิงสาวคนนั้นบอกไว้ ซึ่งห้องทำงานก็เป็นห้องกระจกทั้งหมดและมันก็ใสจนเห็นว่ามีอะไรหรือใครอยู่ในห้องนั้นบ้าง เซฮุนเห็นคนที่อยู่ในห้องมีอยู่ด้วยกัน 5 คน คนหนึ่งใส่ชุดต่างออกไปจากคนอื่น และเขาก็คิดว่าคนคนนั้นต้องเป็นหัวหน้าแผนกของห้องจัดดอกไม้แน่ๆ ส่วนอีก 4 คนที่เหลือใส่ชุดเหมือนกันหมด
ก๊อกๆ ๆ ๆ!!!!!
“สวัสดีครับ...ผมโอเซฮุน เป็นพนักงานใหม่ครับ” เคาะประตูและเปิดออกพร้อมกับแนะนำตัวเองให้กับทุกๆคนได้รู้จัก
“สวัสดีจ้ะ...พี่กำลังรออยู่พอดีเลย เชิญนั่งก่อนสิ” คนที่แต่งตัวต่างออกไปจากคนอื่นกล่าวตอนรับพนักงานคนใหม่ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“พี่จะแนะนำเพื่อนร่วมงานให้เรารู้จักก่อนนะ พี่ชื่อ ฮีชอล เป็นหัวหน้าแผนก ส่วนคนนี้ ซูโฮ เป็นรองหัวหน้า คนนี้ คยองซู คนนี้ซิ่วหมิน และนี่ก็...สาวน้อยหนึ่งเดียวของแผนกเรา ฮานิ เป็นรุ่นน้องนะเพราะอายุน้อยที่สุด” หัวหน้าแผนกเริ่มแนะนำลูกน้องของตัวเองและทุกๆคนก็ได้มอบดอกกุหลาบให้กับเซฮุนคนละหนึ่งดอกเพื่อเป็นการต้อนรับเด็กใหม่
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมโอเซฮุน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” กล่าวแนะนำตัวเองอีกครั้งพร้อมกับรับดอกไม้มาถือไว้ด้วยความรู้สึกดีใจที่ทุกคนคอยต้อนรับเขาเป็นอย่างดี แล้วรอยยิ้มที่เป็นมิตรแบบนั้นมันก็ทำให้พนักงานใหม่อย่างเซฮุนรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นและพร้อมที่จะเริ่มเรียนรู้งานที่นี่
“ส่วนเรื่องชุดทำงาน เราต้องใส่ชุดนักศึกษาไปก่อนจนกว่าจะฝึกงานครบ 3 เดือน ถ้าผ่านการประเมินงานและได้บรรจุเข้าทำงานที่นี่ เซฮุนถึงจะได้รับชุดเหมือนกับพวกเพื่อนๆนะจ๊ะ และวันนี้ก็ยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น พี่ๆจะพาเราไปเดินดูรอบๆโรงแรมก่อนว่าวันไหนต้องจัดดอกไม้ไปวางตรงจุดใดบ้าง ดูจนกว่าจะครบทุกจุดแล้วจำให้ได้ด้วยนะ ถ้าจำไม่ไหวพี่อนุญาตให้หาสมุดมาจดไว้เพราะแต่ละจุดในโรงแรมเราจัดดอกไม้ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างวันนี้มีการเปลี่ยนดอกไม้ที่ห้องอาหารไทยและห้องอาหารอิตาเลี่ยน”
เซฮุนเดินตามฮีชอลและซูโฮทั้งวันเพื่อเรียนรู้ระบบระเบียบต่างๆในการทำงาน ซึ่งจุดที่ต้องเปลี่ยนดอกไม้ก็มีหลายที่และแต่ละที่มันก็ไม่เหมือนกันจริงๆ ทั้งดอกไม้ที่จัดรวมถึงแจกันที่ใช้ก็แตกต่างกันไปหมด และพนักงานจัดดอกไม้คนใหม่ก็คิดว่าตัวเองคงต้องหาสมุดมาจดอย่างที่หัวหน้าแผนกบอกจริงๆเพราะงานที่กำลังเริ่มเรียนรู้อยู่ในตอนนี้มันก็มีเยอะจนจำแทบไม่หมด
วันจันทร์ เปลี่ยนดอกไม้หน้าโรงแรมรวมถึงส่วนของล๊อบบี้ทั้งหมด
วันอังคาร เปลี่ยนดอกไม้ที่ห้องอาหารจีนและญี่ปุ่น
วันพุธ เปลี่ยนดอกไม้ที่ห้องอาหารไทยและอิตาเลี่ยน
วันพฤหัสบดี เปลี่ยนดอกไม้ที่ห้องสปาและฟิตเนส
วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ มีงานตามฟังก์ชั่นต่างๆเช่น สัมมนาหรืองานแต่งงานเท่านั้น
มือเรียว...รีบเขียนรายละเอียดต่างๆที่ต้องจำลงในกระดาษใบเล็กไว้ก่อน แล้วค่อยไปหาสมุดสำหรับจดการทำงานที่ตัวเองต้องทำในแต่ละวันอีกครั้งในภายหลัง ส่วนห้องที่สำคัญที่สุด...ที่พี่ๆในแผนกเน้นย้ำมากเป็นพิเศษก็คือห้องพักของเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ห้องพักตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมและห้องพิเศษที่ว่าก็ต้องเปลี่ยนดอกไม้เฉพาะจันทร์เท่านั้น ดอกไม้ที่ใช้ก็ต้องเป็นกุหลาบสีขาวทั้งหมดและห้ามใช้ดอกไม้ชนิดอื่นปนมาโดยเด็ดขาด!!
และคำว่า “เด็ดขาด” มันก็มีที่มาเพราะเคยมีพนักงานจัดดอกไม้คนหนึ่ง จัดดอกไม้ผิดพลาดซึ่งมันผิดพลาดทั้งวันที่จัดและชนิดของดอกไม้ที่ใช้ เนื่องจากวันนั้นพวกพี่ๆหัวหน้าไม่อยู่สักคน พนักงานคนนั้นจึงนึกสนุกและอยากลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง สรุปแล้ว...ก็ถูกเจ้าของโรงแรมไล่ออกทันทีโดยไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น แถมหัวหน้าแผนกอย่างฮีชอลและรองหัวหน้าอย่างซูโฮก็พลอยถูกตำหนิไปด้วย และพอเซฮุนได้ฟังเรื่องราวแบบนั้น มันยิ่งก็ทำให้ต้องจดจำรายละเอียดต่างๆให้แม่นยำมากขึ้นเพราะพนักงานใหม่คนนี้ยังไม่อยากถูกไล่ออกโดยที่ยังไม่ได้ทำผลงานให้เห็นเลยสักชิ้น
และตอนนี้...พนักงานใหม่ก็กำลังเป็นลูกมือช่วยซูโฮจัดดอกไม้อยู่ในห้องอาหารไทย แต่สักพักก็ถูกไหว้วานให้เอาแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ลงไปให้พนักงานหน้าล๊อบบี้เนื่องจากมีลูกค้า VIP สั่งไว้ เซฮุนรีบทำตามคำสั่งของรองหัวหน้าทันทีเพราะเหมือนลูกค้าจะมารอรับดอกไม้อยู่นานแล้ว และด้วยความเร่งรีบบวกกับยังไม่ค่อยรู้จักทางเข้าทางออกของโรงแรมนี้เท่าไหร่ นั่นจึงทำให้เซฮุนเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่งโดยไม่ตั้งใจและโชคดีที่แจกันในมือไม่หล่นลงมาแตกเสียก่อน
ปึ่กกกก !!
“ขอโทษครับ ขอโทษครับ” โค้งตัวจนศีรษะแทบจะชิดหัวเข่าเนื่องจากกลัวถูกไล่ออกเพราะเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่งที่หน้าลิฟท์และชายคนนี้ก็ดูดีมากจริงๆ แถมชุดที่ใส่ก็ทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าคนตรงหน้าต้องเป็นลูกค้าหรือไม่ก็เป็นพนักงานระดับสูงที่ทำงานอยู่ที่นี้แน่นอน
“ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่!! เราเป็นพนักงานใหม่เหรอ?? หน้าตาไม่คุ้นเลยนะ” ยิ่งถูกชายแปลกหน้าทักแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เซฮุนมั่นใจได้เลยว่าคนตรงหน้าต้องเป็นพนักงานระดับสูงในแบบที่ตัวเองคิดไว้อย่างแน่นอน
“คะ...ครับผมชื่อโอเซฮุน เป็นพนักงานจัดดอกไม้คนใหม่ คะ...คือ ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ พอดีผมจะรีบเอาแจกันไปส่งให้กับลูกค้าแล้วลูกค้าก็รอนานแล้วด้วยครับ” พูดรัวจนเหมือนลิ้นมันจะพันกันไปหมดเพราะกลัวทั้งลูกค้าตำหนิและกลัวโดนไล่ออก
“งั้นก็รีบไปเถอะ...ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวจะเสียลูกค้าเปล่าๆ” ชายร่างสูง...ยิ้มรับปากกว้างและไม่ได้ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้เสื้อผ้าของเขาจะเลอะไปบ้างก็ตามที และท่าทางใจดีแบบนั้นก็ทำให้เซฮุนรู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้างหลังจากที่แอบคิดมากอยู่เมื่อครู่
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอโทษอีกครั้งนะครับ” โค้งตัวด้วยความอ่อนน้อมอีกครั้งและรีบเดินไปที่ล๊อบบี้ทันทีเพื่อเอาแจกันไปส่งให้กับลูกค้า
❀
100%
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ
รัก ♥
#ดอกไม้ของเจ้านาย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

712 ความคิดเห็น
-
#656 ksytalin (จากตอนที่ 1)วันที่ 11 เมษายน 2562 / 19:46หือออ เซฮุนน่ารักตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ#6560
-
#594 KHlulaby (จากตอนที่ 1)วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 / 00:28สรุปเจ้าของรร หื่นสุดดดด ดูภาพจำต่อน้องเซฮุนสิค่ะ 555#5940
-
#548 /tl26&? (จากตอนที่ 1)วันที่ 21 กรกฎาคม 2561 / 23:59ชอบเซฮุนกับดอกไม้มากๆ เลยค่ะ มันเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าเข้ากันได้ดีจริงๆ คุณเจ้าของโรงแรมตรงหลงเสน่ห์น้องแน่ๆ เลย ขอบคุณที่ยังเปิดให้อ่านอยู่นะคะ เพิ่งมีโอกาสได้อ่านด้วย :)#5480
-
#544 Ainkxii (จากตอนที่ 1)วันที่ 26 พฤษภาคม 2561 / 06:35เจ้าของโรงแรมบรรยายซะ รู้เลยนะว่าชอบเนี้ย#5440
-
#537 pawitt (จากตอนที่ 1)วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 / 15:29ผิวขาวและเอวคอด 55555555 เจ้าโรงแรมก็ชอบเหมือนกันล่ะสิ#5370
-
#500 btoey44 (จากตอนที่ 1)วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 / 01:34เดินชนใครเอ่ยยย ชีวิตเซฮุนลำบากตัง ทำงานเหนื่อยแน่เลย#5000
-
#440 Jammie-Lee (จากตอนที่ 1)วันที่ 23 กรกฎาคม 2560 / 20:26เดินชนใครหว่าาาาา#4400
-
#249 Nay Sincerity (จากตอนที่ 1)วันที่ 28 สิงหาคม 2559 / 06:16แก้ปมตอนแรกไวไปไหมอะ 555555#2490
-
#213 phone-pop (จากตอนที่ 1)วันที่ 4 สิงหาคม 2559 / 11:20น่ารักกกกกกกก#2130
-
#133 Action!! (จากตอนที่ 1)วันที่ 15 มิถุนายน 2559 / 22:21คยองซูคนโหดจัดดอกไม้ น่ารักอ่ะ#1330
-
#117 Kannika Tankam (จากตอนที่ 1)วันที่ 14 มิถุนายน 2559 / 19:46เจ้านายดูโหดจัง อัดคู่อริซะน่วมเลยยยย#1170
-
#109 PIM (จากตอนที่ 1)วันที่ 10 มิถุนายน 2559 / 00:10น้องฮุน ทำไมน่ารักอ่าาา#1090
-
#108 XXXX (จากตอนที่ 1)วันที่ 10 มิถุนายน 2559 / 00:07แค่ตอนแรกก็สนุกแล้วเธอออ สู้ๆนะ#1081
-
#108-1 Mokara(จากตอนที่ 1)12 มิถุนายน 2559 / 09:51ขอบคุณนะค๊าาาาา^3^#108-1
-
-
#60 kaihun. (จากตอนที่ 1)วันที่ 6 พฤษภาคม 2559 / 09:30วู้ว สายโหดหรอจงอิน#600
-
#51 Noon Thanaporn (จากตอนที่ 1)วันที่ 29 เมษายน 2559 / 19:59โอ้โหหห จงอินสายโฉดด 55555#510
-
#5 My.idsehunie1810 (จากตอนที่ 1)วันที่ 13 เมษายน 2559 / 08:26น้องทำงานหนักแบบนี้พี่จงอินรีบรับไปเลี้ยงดูด่วนๆ 555#50
-
#4 eve_popparazzi (จากตอนที่ 1)วันที่ 13 เมษายน 2559 / 00:45ใช่จงอินไหม?ที่ตีหัวไอบ้านั้น สงสารน้องอ่ะ ทำงานหนักน่าดู#40
-
#2 june2546 (จากตอนที่ 1)วันที่ 12 เมษายน 2559 / 23:30มาก็โหดเลยจงอินนนนน(ว่าที่สามีของน้องฮุน#20