คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ❧ Special
อื้มมมมม!!!
21.00 น.
แกร๊กกก!!!
เสียงของประตูห้องน้ำ...พร้อมหนุ่มผิวเข้มที่เดินออกมาด้านนอกและสวมเพียงกางเกงนอนขายาว
มันพาให้คนที่นอนอยู่บนเตียงกว้างต้องละสายตาจากนิตยสารแฟชั่นเพื่อสำรวจว่าเจ้าของกายสมส่วนเหมาะกับเสื้อผ้าชุดใดนิตยสารเล่มนี้มากที่สุด
แต่การสวมเพียงกางเกงนอนแล้วท่อนบนเปลือยเปล่ามันก็ทำให้ต้องรีบดึงสายตากลับมาที่หนังสือเล่มเดิมเพราะรู้สึกเขิน ทั้งรอยสัก
ทั้งกล้ามท้องหรือจะเป็นรูปร่างที่สมส่วน
ทุกๆอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้มันพาลให้ใบหน้าเห่อร้อนไปหมด
เห็นทีไรก็ใจเต้น!!? มองทีไรก็ใจสั่น!!!? และไม่เคยคิดว่ารอยสักพวกนั้นมันน่าเกลียดเหมือนที่พ่อเคยบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ มือบางเปิดแผ่นกระดาษจากหน้าที่ยี่สิบไปเป็นหน้าที่ยี่สิบสามเพราะสติมันแทบไม่ได้อยู่กับแฟชั่นเสื้อผ้าในนิตยสารที่ตัวเองถือไว้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งเจ้าของกายสมส่วนเดินใกล้มาถึงเตียงเรื่อยๆหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย...สติมันก็ยิ่งเตลิดไปกันใหญ่
“อ่านอะไรอยู่?”
“............!!”
ไม่รู้ว่าจะตอบเช่นไร..เพราะกลิ่นกายของคนที่เพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ หรือความใกล้ชิดที่ชิดจนต้องนอนหมอนใบเดียวกันและใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันมันก็พาลให้เรื่องราวในหนังสือถูกลืมไปอย่างง่ายดาย
ที่นอนก็ออกจะกว้าง...ทำไมคุณไคถึงต้องมานอนเบียดกับเขา? ชุดนอนก็ซื้อมาให้...แต่ไม่เคยใส่เลยสักครั้ง?? แล้วทำไมตอนนอน...ถึงไม่ชอบใส่เสื้อ??? คุณหนูของตระกูลโอเป็นคนขี้ร้อน
เครื่องปรับอากาศภายในห้องก็เป็นอุณหภูมิที่คุณนมเห็นแล้วต้องส่ายหน้าทุกครั้งเพราะมันมักจะต่ำกว่ายี่สิบองศาเสมอ แต่ถึงมันจะต่ำกว่ายี่สิบองศา...หนุ่มผิวเข้มก็ไม่เคยบ่นว่าหนาวหรือต้องหยิบเสื้อมาสวมเลยสักตัว
“เซฮุนนน...ผมถามว่าอ่านอะไร??”
“ก็อ่านไปเรื่อยนั่นแหละ”
“แล้วทำไมไม่ไปนอนที่ห้องตัวเอง...เดี๋ยวคุณนมก็บ่นอีก”
“นี่บ้านเรานะ...เราจะนอนที่ไหนก็ได้!!”
“แล้วเอาเสื้อผมไปใส่ทำไม ชุดนอนของตัวเองก็มีเยอะแยะ?”
“ถามมากจัง...นอนได้แล้ว เราง่วง!!”
เรื่องที่เอาหนังสือมาอ่านบนเตียงก็ไม่อยากจะบ่น เรื่องที่ไม่ยอมกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองก็ไม่อยากจะว่า และการเอาเสื้อของเขามาใส่นอนมันก็ยังไม่ได้คำตอบ สรุปแล้วคนที่มาอาศัยบ้านคนอื่นอย่างไอ้คุณไคคงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลยใช่ไหม...นอกจากอยู่เฉยๆ??!
ใช่ว่าน้อยใจหรือไม่สบอารมณ์กับคนในตระกูลโอ แต่ทุกๆเช้ามันทำให้เขาถูกตำหนิเรื่องที่ลูกชายคนเดียวของตระกูลไม่ค่อยกลับทีนอนที่ห้อง แล้วไหนจะเรื่องรอยสักของเขาอีก? เฮ้อออ...ใครจะใส่เสื้อแขนยาวได้ทุกวัน?? อากาศร้อนจะตาย??? และนี่ก็ไม่ใช่ฤดูหนาว!!!!
“ง่วงก็ไปนอนที่ห้องตัวเอง ผมไม่อยากถูกบ่นทุกวันหรอกนะ!!”
ใช่ว่าอยากจะไล่...และตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ก็เกือบสามอาทิตย์เราก็เจอทุกวันหรือจะเรียกว่าตัวติดกันก็ยังได้
เขาจึงอยากให้เซฮุนกลับไปนอนที่ห้องตัวเองบ้าง ไม่อย่างนั้นคุณนมคงต้องรายงานเรื่องนี้ให้คุณท่านทราบเข้าสักวัน แล้วคนนอกอย่างเขาก็คงต้องโดนไล่ให้ไปอยู่กับพวกคนสวน
เรื่องที่หลับที่นอนไม่ใช่ปัญหาที่ไคกังวลเพราะเขานอนที่ไหนก็ได้และไม่เคยยึดติดกับการกินหรูอยู่สบาย
แต่ที่กังวลก็คือกลัวว่าคุณหนูที่ใครๆต่างก็รักก็ห่วงจะพลอยถูกตำหนิไปด้วย
“..............”
“เซฮุนละ...ลุก!!!”
มือหนา...คว้าผ้าห่มก่อนดึงออกจากตัวของคนที่เอาแต่นอนหันหลังไม่พูดไม่จาและทำเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่ได้ยิน แล้วการทำเช่นนั้นก็พาให้ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่เคยมาแล้วแต่ก็ยังใจสั่นอยู่ดี ชอบใส่จริงๆกางเกงนอนตัวนี้!?? แล้วถ้ามันจะสั้นขนาดนั้น...ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้มั้ง!!?? ก้นเป็นก้น ขาเรียวยาว
ขาวฉิบหายยยยย!!!! ใช่ว่าไม่เคยเห็นความสวยงาม
ความกลมกลึงหรือทุกสัดส่วนของคนตรงหน้ามาก่อนเพราะตอนอยู่ในป่าเขาก็เป็นคนจับเซฮุนแก้ผ้าเองกับมือ
แต่ถึงจะเห็นมาหมดแล้วก็ใช่ว่าไม่อยากมองหรือไม่อยากสัมผัสเพราะยิ่งได้เห็น ยิ่งได้สัมผัส
ยิ่งได้นอนกอดกันทุกค่ำคืนมันยิ่งทำให้เขากลายเป็นคนนิสัยเสีย
อยากทำมากกว่าการมอง มากกว่าการสัมผัสและมากกว่าอะไรก็ตามที่เคยได้ใกล้ชิด...แต่ก็ไม่อยากให้ถึงขั้นที่ต้องถูกคุณท่านไล่ออกจากบ้าน
“เราจะนอนที่นี่!!”
“อย่าดื้อ!!! ผมไม่ใช่คุณนม...ผมไม่ตามใจคุณหนูเซฮุนแน่ๆ ไปเลย...กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง!”
“ได้!!! แล้วเราก็ไม่ได้อยากให้ตามใจสักหน่อย...จากนี้ไปเราก็จะไม่มาเหยียบห้องนี้อีกแล้ว!!”
“เซฮุนไม่ชะ...ใช่”
“แล้วก็เอาเสื้อคืนไปเลย...”
ยังไม่ทันได้อธิบาย...หรือได้ปรับความเข้าใจว่าใครกำลังรู้สึกเช่นไร ใบหน้าคมก็ถูกคนที่กำลังโดนความน้อยใจเข้าโจมตีปาเสื้อยืดสีดำใส่จนเต็มแรงก่อนที่เจ้าตัวจะลุกออกจากเตียงกว้างด้วยความโมโห เซฮุนรีบสวมสลิปเปอร์***แล้วเดินไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว และ......
“เซฮะ...ฮุน!”
“ขอให้ฝันร้าย...ทุกคืน!!”
ปั้งงงง!!!!
แล้วก็เป็นอีกครั้ง...ที่ยังไม่มีใครได้พูดหรือได้เอ่ยความรู้สึกที่แท้จริง
เพราะเสียงประตูที่ถูกปิดจนเสียงดังสนั่นไปทั้งบ้านและการจากไปของคนถูกไล่มันพาลให้ใคร ไคและไค...ทำได้เพียงนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงกว้าง ไม่ได้โกรธ...เรื่องที่ถูกปาเสื้อใส่หน้า แถมอกบาง
เอวคอดหรือผิวขาวเนียนก็ยังคงติดตา
แต่ที่โกรธ...ก็เห็นจะเป็นความเข้าใจผิดที่ไม่มีสิทธิ์ได้อธิบาย
ไคบอกแล้วว่าไม่ได้มีเจตานาที่จะไล่ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน แต่การที่เซฮุนมานอนกับเขาทุกคืน มาเอาใส่ใจทุกวันและดูแลกันจนถึงวันนี้มันอาจทำให้เจ้าตัวถูกตำหนิ
แล้วจากที่เคยบอกฝันดีกันทุกคืน...ก็กลับกลายเป็นต้องมานอนฝันร้าย
...
...
...
04.00 น.
ปึ่กก!!
“เฮ้ออ....”
เป็นเสียงถอนหายใจ...ของคนที่นอนไม่หลับและที่นอนไม่หลับก็เพราะเอาแต่ร้องไห้ทั้งคืน ร้องไห้จนหมดแรงแล้วต้องลุกออกมาหาอะไรใส่ท้องในยามวิกาล
มือบางปิดตู้เย็นเมื่อได้นมเปรี้ยวและบัตเตอร์เค้กเนื้อนุ่มมออกมาทานก่อนที่ท้องจะร้องดังไปมากกว่านี้ ไฟในห้องครัวไม่ได้เปิด...แต่ก็ไม่ได้อุปสรรคต่อการนั่งทานเครื่องดื่มหรือขนมสุดโปรด เซฮุนเดินฝ่าความมืดแล้วลากเก้าอี้มานั่งที่เคาน์เตอร์ห้องครัว ปากบางงับหลอดขนาดเล็กก่อนดูดนมเปรี้ยวด้วยความหิว แต่ของโปรดอย่างบัตเตอร์เค้ก...กลับถูกเขี่ยเล่นจนแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
คนที่กำลังถูกความน้อยใจเล่นงาน...มันพาลให้ขนมฝีมือของคุณแม่ถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ!!?
ทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยถูกใจหนุ่มผิวเข้มเลยสักอย่าง?
ขนาดสั่งบุหรี่จากต่างประเทศมาให้ก็ไม่เคยชมกันสักครั้ง??
เสื้อผ้าก็ซื้อมาให้ใส่ตั้งหลายแบบก็ไม่เคยคิดจะหยิบมาใส่???
พาออกไปเที่ยวก็ไม่เคยแสดงออกให้รู้ว่าชอบหรือไม่...ทุกๆอย่างที่คิดว่าทำดีที่สุดแล้วกลับไม่ดีเลยใช่ไหม!!?????
แล้วที่นอนด้วยกันทุกวันก็เพราะไม่อยากให้คุณไครู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว แต่สุดท้าย...ก็ถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมา คุณไคอยากได้อะไรก็ไม่เคยบอกเขาสักคำ ถามก็ไม่ตอบ
พอหานู่นนี่มาให้ก็ไม่ถูกใจ
พาไปไหนก็มีแต่คนมอง...ฮือออออออ!!! เอาใจอยากจริงๆ
“ฮึก!!!.....”
คิดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา...น้ำตามันก็ไหลออกมาอีกครั้ง
มือบางปาดความน้อยอกน้อยใจมาตั้งแต่ถูกไล่จนถึงตอนนี้ก็เหมือนว่าจะยังไม่หมด และตั้งแต่มีใครอีกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต...เซฮุนก็เหมือนจะน้อยใจบ่อยเกินไป แถมตอนนี้ก็ร้องไห้จนปวดตา ปวดหัว
และ....
“........???”
“คุณหนู......”
ไฟในห้องครัว...ถูกเปิดจนสว่างไปถึงห้องพักคนงาน และนั่นก็ทำให้แม่ครัวใหญ่เห็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลโอนั่งอยู่ริมเคาน์เตอร์ หญิงสูงวัยรีบเดินไปหาคุณหนูทันทีเพราะอยากทราบว่าเจ้าตัวมาทำอะไรที่นี่ในเวลาแบบนี้??
ส่วนเซฮุนก็รู้สึกตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆไฟในห้องครัวก็ถูกเปิด แต่ก็รู้สึกดี...ที่คนตรงหน้าไม่ใช่ผู้ที่เป็นสาเหตุของน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล ไม่อย่างนั้นคงต้องปวดหัวมากกว่านี้แน่ๆ
“คุณป้า....”
“คุณหนูมาทำอะไรตรงนี้ค่ะ แล้วป่านนี้ทำไมยังไม่นอน”
“หนูหิว แล้วก็ปวดหัว...”
แม่ครัวอย่างเธอรู้ดี...ว่าไม่ใช่แค่หิวหรือแค่ปวดศีรษะแน่ๆที่ทำให้คุณหนูเซฮุนต้องลงมาที่นี่ เพราะถ้าหิวจริงๆก็คงไม่ร้องไห้และถ้าปวดหัวก็คงเดินไปหยิบยามากินแล้วก็นอนพัก
แต่นี่อะไร???...ร้องไห้ไปกินนมไปแถมของโปรดอย่างบัตเตอร์เค้กก็ถูกเขี่ยเล่นจนเละเทะไปหมด ดวงตาคู่สวยบวมช้ำ จมูกโด่งๆนั่นก็สูดน้ำมูกจนแดงไปหมด แล้วแบบนี้ยังจะมาโกหกว่าหิวว่าปวดหัวอีก...น่าตีจริงๆ
“อยากทานอะไรอีกไหมคะ เดี๋ยวป้าทำให้ทาน?”
“ฮึกก...แล้วคุณป้าตื่นมาทำอะไรฮะ?”
“ก็มาเตรียมอาหารเช้าให้คุณหนูไงคะ คุณหนูนั่นแหละค่ะ ลงมาทำอะไร...หรือเสียใจเรื่องอะไรคะ เล่าให้ป้าฟังได้ไหม?”
“คิดถึงคุณแม่...เมื่อไหร่คุณแม่ คุณนมแล้วก็คุณพ่อจะกลับ”
“ถ้าโกหกอีก...ป้าจะไม่ทำขอโปรดให้ทานนะคะ”
“ฮึกก...คุณป้าใจร้าย”
คนอย่างคุณหนูโอเซฮุน...ไม่มีทางคิดถึงคนที่ต้องไปทำงานต่างประเทศแน่นอน
เพราะการที่ผู้ปกครองไม่อยู่บ้านหรือแม้กระทั่งการที่คุณนมต้องตามไปดูแลคุณหญิงก็เป็นเรื่องที่ปกติมากๆสำหรับบ้านหลังนี้ และทุกครั้งที่คุณหนูมีเรื่องไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกับคุณพ่อ ถูกคุณพ่อตีและมีปัญหาเพื่อนๆที่โรงเรียน
ห้องครัวห้องนี้ก็มักจะเป็นที่ที่คุณหนูต้องมานั่งร้องไห้เสมอ แล้วก็เป็นแม่ครัวอย่างเธอที่ต้องทำของโปรดให้ทานจนกว่าเจ้าตัวจะหายเศร้า
ตอนเด็กๆเคยเป็นเช่นไร...โตเป็นหนุ่มแล้วก็ยังเป็นเช่นนั้น
“ค่ะ...ป้าใจร้าย สงสัยต้องโดนคุณท่านไล่ออก”
“ฮึกก...ห้ามไล่ ฮืออออออ!”
ให้ตายเถอะ...เกิดมาเป็นแม่ครัวให้ตระกูลโอตั้งแต่คุณท่านแต่งงานใหม่ๆจนตอนนี้ลูกของท่านมานั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงหน้า แต่เธอก็ไม่เคยเห็นคุณหนูเซฮุนเสียใจอะไรมากเท่านี้มาก่อน มือหยาบกร้านของหญิงสูงวัยถือวิสาสะโอบกายคนเจ้าน้ำตามากอดไว้ด้วยความเป็นห่วง เห็นมาตั้งแต่ยังแบเบาะ วิ่งเล่นหกล้มจนได้เลือดได้แผลก็ไม่เคยร้องไห้จนตัวสั่นตาบวมขนาดนี้
ใจของแม่ครัวที่เห็นคุณหนูมานาน...เหมือนถูกบีบเอาไว้จนหายใจไม่ออก เจ็บแทนได้ก็อยากเจ็บ ปวดแทนได้ก็อยากปวด และทุกๆความเสียใจก็ยากแบกรับเราไว้เอง
“ถ้าคุณท่านทราบว่าคุณหนูเป็นแบบนี้ ป้าก็ต้องถูกไล่ออกแน่ๆค่ะ”
“หนูจะปกป้องคุณป้าเอง...”
“ป้าก็อยากปกป้องคุณหนูเหมือนกันนะคะ คุณหนูเสียใจเรื่องอะไร...ป้าช่วยได้ไหม?”
“คุณไคไม่รักหนู...”
เป็นคำตอบ...ที่ทำให้แม่ครัวอย่างเธอทราบดีว่ามันไม่จริง ไม่มีใครที่ได้อยู่ใกล้คุณหนูแล้วจะไม่รัก ไม่มีใครที่ได้รู้จักคุณหนูแล้วจะไม่หลง น่ารักขนาดนี้
ขี้อ้อนขนาดนี้
ใครไม่รักใครไม่หลงก็คงตาบอดเต็มที
ตอนเธอป่วยก็คอยไปเยี่ยม
แถมยังแกะผลไม้ป้อนให้ถึงปาก
แล้วลูกของคนสวนที่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียนก็ได้คุณหนูของเธอนี่แหละที่ช่วยเรื่องการใช้จ่าย ถึงคุณหนูจะดื้อไปบ้างหรือเอาแต่ใจจนบางทีก็ทำให้เธอปวดหัว แต่คุณหนูของตระกูลโอก็จิตใจดีไม่แพ้ใคร
“แล้วคุณหนูรู้ได้ยังไงคะว่าคุณไคไม่รัก”
“ก็คุณไคไม่ให้หนูนอนด้วย คุณไคไล่หนูอย่างกับหมาข้างถนน”
“ไม่เอาค่ะ...พูดไม่เพราะเลยนะคะ”
“ก็มันจริงหนิ...คุณไคบอกแบบนี้ คุณป้าฟังนะ (ไปเลย...ไปนอนห้องตัวเองเลย ผมไม่ตามใจคุณหรอกนะ ไปเลย!!)
แบบเนี่ย!!”
ถ้าไม่ได้เลี้ยงหรือได้เห็นคุณหนูมาตั้งแต่เล็ก...แม่ครัวคนนี้คงเชื่อตามที่เจ้าของเสียงเจื้อยแจ้วฟ้องให้ฟังเป็นฉากๆ เพราะน้ำตาที่ไหลมันเหือดแห้งและดวงตาคู่สวยที่เคยฉายแววแห่งความโศกเศร้าก็เปลี่ยนเป็นความดื้อรั้น
แล้วถ้าเธอเป็นคุณนม...ก็คงได้หยิกคุณหนูโอเซฮุนสักทีสองที คนเป็นแม่ครัวได้แต่เดินไปหยิบบัตเตอร์เค้กชิ้นใหม่มาให้คุณหนูใช้ดับอารมณ์ก่อนนำอันเก่าที่ถูกเขี่ยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปทิ้งลงในถังขยะ
“คุณไครักคุณหนูมากนะคะ แล้วเรื่องที่คุณหนูถูกไล่...ก็คงเพราะเป็นห่วงว่าคุณหนูจะถูกคุณพ่อดุ”
“เป็นห่วงแล้วทำไมไม่พูดออกมา เอะอะก็ไล่อย่างเดียว”
“อันนี้ป้าก็ตอบแทนไม่ได้นะคะ คุณหนูต้องไปถามเจ้าตัวเค้าเอง”
“หนูไม่อยากคุยกับคุณไคแล่ว เดี๋ยวก็ถูกไล่อีก...คนอะไรก็ไม่รู้ เอาใจยากชะมัด
หนูพาไปเที่ยวก็ไม่ชอบ ซื้อเสื้อผ้าให้ตั้งเยอะก็ไม่ใส่ อยากนอนด้วยก็ไม่ให้นอน!!”
“รักเค้าขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณหนู”
“อะไร...ใครรัก หนูป่าวนะ!!”
บัตเตอร์เค้กชิ้นแรกถูกเขี่ยจนเละด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่อาจทราบได้
แต่บัตเตอร์เค้กชิ้นนี้...แม่ครัวอย่างเธอขอฟันธงได้เลยว่ามันถูกเขี่ยไปเขี่ยมาจากความเขินอาย
“ไม่รักก็ไม่รักค่ะ ป้าเชื่อก็ได้
แต่ป้าก็อยากให้คุณหนูเชื่อด้วยนะคะว่าคุณไครักคุณหนูมากที่สุด”
“ละ...แล้วป้ารู้ได้ไง”
“ก็ตอนที่คุณหนูไปเก็บของที่ทำงาน คุณไคเอาแต่เดินวนไปวนมาจนคนในบ้านเวียนหัวไปหมด ป้าถามว่าทำไมไม่ไปกับคุณหนู เค้าก็บอกว่ากลัวคุณหนูจะอายเพื่อนๆ
แล้วเรื่องเสื้อผ้าที่คุณหนูซื้อมา...คุณไคก็ไม่อยากใส่เพราะว่ามันแพง...เสียดายของ จะเก็บไว้ใส่ตอนที่ออกไปเที่ยวกับคุณหนูเท่านั้น”
“คุณไคบอกคุณป้าเหรอ?”
“เค้าไปบ่นให้คนสวนฟังนู้นนนน แล้วพวกเด็กๆก็มาเล่าป้าฟัง”
“ทีคนอื่นพูดได้พูดดี ทีกับหนูเอาแต่ไล่”
จำได้ดี...ว่าวันก่อนต้องไปเก็บของที่ทำงานกลับมาที่บ้านเพราะผลจากการลาออกจากงานวิจัยได้ถูกอนุมัติแล้ว แต่วันนั้นคุณไคไม่ยอมไปด้วย ชวนเท่าไหร่ก็บ่ายเบี่ยง
บอกเท่าไหร่ก็ปฏิเสธและสุดท้ายเขาก็ต้องไปเก็บของคนเดียว แล้วกว่าจะได้กลับบ้านก็เกือบสามทุ่ม
เพื่อนๆทุกคนต่างอยากทราบเหตุผลของการลาออก ทั้งเลย์
ทั้งจุมยอนรวมถึงเฉินและซิ่วหมินต่างก็ไม่เคยรู้เรื่องมีมาก่อน ยิ่งเพื่อนสนิทอย่างแบคฮยอนมาลาออกพร้อมกันก็ยิ่งทำให้ทุกคนเกิดความสงสัย
“แล้วเรื่องบุหรี่ก็ไม่ต้องซื้อมาบ่อยนะคะ คนอยากเลิกก็เลิกไม่ได้สักที”
“คุณไคเนี่ยนะ...จะเลิกบุหรี่?”
“แล้วป้าจะสร้างเรื่องมาโกหกคุณหนูทำไมกันคะ?”
“หนูไปนอนดีกว่า ง่วงแล้ว
ฝันดีนะฮะคุณป้า
แล้วอาหารเช้าขอเป็นพวก...แฮม
ไข่ลวก ขนมปัง แล้วก็ซุปครีมทูน่านะฮะ คุณไคไม่ชอบทานข้าวต้ม”
“รับทราบค่ะคุณหนู...ฝันดีนะคะ”
หาคำมาตอบโต้ไม่ได้ก็แกล้งหาวจนปากกว้าง...แถมยังสั่งมื้อเช้าในแบบที่รู้ใจหนุ่มผิวเข้มได้ทุกอย่าง เฮ้ออออ...คุณหนูนะคุณหนู น่าตีจริงๆ
งอนคุณไคแทบเป็นแทบตาย
นั่งร้องไห้อยู่นอนสองนาน
แต่แล้วก็ต้องยิ้มให้กับเรื่องที่แม่ครัวคนนี้กล่าวให้ฟัง
เธอขอสาบานว่าเรื่องที่พูดไปทั้งหมดคือเรื่องจริง
คุณไคพยายามทำให้คุณหนูยังเป็นคุณหนูเหมือนเดิม คุณไคไม่อยากดึงให้คุณหนูของเธอต้องตกต่ำหรือโดนดูถูกไปมากกว่านี้
การรับคนต่างถิ่นให้เข้ามาอาศัยร่วมชายคาเดียวกัน...มันก็คือว่ามากเกินพอแล้ว ยิ่งคุณหนูเอาใจ ดูแลหรือทำให้พ่อหนุ่มคนนี้สุขสบายมากขึ้นเท่าไหร่ คุณไคก็ยิ่งเกรงใจมากขึ้นเท่านั้น
07.50 น.
แกร๊กก!!!
“อ้าวว...คุณเซฮุนล่ะครับ?”
เสียงจานชามช้อนส้อม...ที่กำลังถูกจัดเรียงอยู่บนโต๊ะอาหารถูกแทรกขึ้นด้วยเสียงทุ้มที่เอ่ยถามถึงคุณหนูคนโปรด
แม่บ้านสาววางชามซุปสำหรับสองที่เพราะคุณท่านกับคุณหญิงไม่อยู่บ้าน ส่วนอาหารเช้าอีกหลายชนิดอย่างแฮม ไข่ลวกหรือเบค่อนก็เริ่มทยอยนำออกมาวางเมื่อจานชามทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อย
“ไม่ทราบค่ะ...สงสัยยังไม่ตื่นมั้งคะ”
คงไม่มีเหตุผลใดนอกจากข้อนี้...เพราะยิ่งคุณท่านไม่อยู่บ้าน
คุณหนูเซฮุนก็คงไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาทานอาหารร่วมกับครอบครัว
กฎต่างๆภายในบ้านจะถูกยืดหยุ่นไปตามนิสัยของเจ้าตัว มื้อเช้าเคยเริ่มตอนแปดโมงก็อาจถูกเลื่อนออกไปเป็นสิบโมง
ส่วนมื้อเที่ยงไม่ต้องพูดถึงและมื้อเย็นที่ต้องเริ่มจัดโต๊ะตอนสิบแปดนาฬิกาก็มักจะถูกเลื่อนออกไปเป็นสิบเก้านาฬิกาเสมอเมื่อคุณท่านและคุณหญิงไม่อยู่บ้าน แล้วบ้างครั้ง...มื้อเย็นก็ไม่ต้องเตรียมอะไรไว้เลยเพราะคุณหนูเซฮุนจะออกไปทานอาหารกับเพื่อนๆ
“งั้นผมขอรบกวนอะไรหน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ...”
“ช่วยเอาอาหารเช้าไปจัดบนห้องของผมได้ไหมครับ...เดี๋ยวผมช่วย”
“เอ่ออ...ขอไปถามคุณแม่บ้านก่อนนะคะ?”
ขอพูดตรงๆ...ว่าเป็นสาวใช้ที่นี่มาหลายปีก็ไม่เคยต้องไปจัดมื้อเช้าที่ห้องนอนของใคร
แล้วคำขอร้องของหนุ่มผิวเข้มก็ทำให้สาวใช้อย่างเธอเกิดความไม่แน่ใจจนต้องรีบไปขออนุญาตแม่ครัวใหญ่ ส่วนสาวใช้คนอื่นๆก็จำเป็นต้องหยุดการทำหน้าที่ต่างๆเอาไว้ชั่วคราวเพราะมื้อเช้าที่เคยจัดในห้องห้องนี้มันอาจต้องย้ายไปอีกห้องหนึ่ง
และ...มันก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อคำขอร้องของเพื่อนคุณหนูได้รับการอนุมัติจากแม่ครัวใหญ่
“ผมช่วยนะครับ”
“ช่วยไปเปิดประตูห้องดีกว่าค่ะ เดี๋ยวทางนี้พวกเราจัดการเอง”
“ครับๆ...ขอบคุณมากนะครับ”
รีบวิ่งขึ้นไปเปิดประตูห้องด้วยความดีใจ...เพราะไม่คิดว่าคำขอร้องของตัวเองจะได้การอนุญาต และถ้าวันนี้คุณท่านกับคุณหญิงอยู่บ้าน เขาก็คงไม่มีทางได้ทานมื้อเช้าที่ห้องแน่นอน
มือหนาเปิดประตูห้องค้างไว้ก่อนเดินไปโกยของที่อยู่บนโต๊ะหนังสือออกไปจนหมด จานชามช้อนส้อมถูกจัดเรียงใหม่อีกครั้ง ถ้วยซุป
แก้วน้ำ ตะกร้าใส่ขนมปังรวมถึงเนยกับแยมก็ถูกวางไว้อย่างเหมาะสม และมันก็คงเป็นมื้อเช้าที่สาวใช้ไม่ต้องอยู่เพื่อช่วยตักนั่นหยิบนี่หรือคอยเติมน้ำผลไม้ให้คุณหนูของตัวเอง
“ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ?”
“ไม่ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“ถ้าขาดเหลืออะไรก็เรียกได้เลยนะคะ”
“ครับ...ขอบคุณครับ”
โค้งกาย...เพื่อขอบคุณสำหรับการทำงานของสาวใช้ที่ดูเหมือนจะเกินหน้าที่ในวันนี้
เพราะถ้าเขาไม่ขอร้องให้นำมื้อเช้ามาจัดที่ห้องนอน
พวกเธอก็คงได้ไปทำอย่างอื่นแทนที่จะต้องมาคอยรับใช้คนนอกอย่างเขา ส่วนผู้เป็นสาวใช้ก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือทุกคนในบ้านหลังนี้
ถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะเข้ามาอาศัยได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่เธอก็พร้อมที่ช่วยเหลือเสมอเพราะถ้าผู้ชายคนนี้ไม่สำคัญหรือไม่ใช่คนที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของบ้าน...คุณท่านกับคุณหญิงก็คงไม่มีทางอนุญาตให้มานอนบนตึกใหญ่
เมื่อสาวใช้ทุกคนกลับลงไปข้างล่างหมดแล้ว...ไคจึงรีบปิดประตูห้องของตัวเองก่อนเดินไปยังห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ตั้งแต่มีปากเสียงกันไปเมื่อคืนก็ใช่ว่าเซฮุนคนเดียวที่นอนไม่หลับเพราะเขาก็นอนไม่หลับเช่นกัน ไม่มีกลิ่นกายหอมๆให้ดม ไม่มีผิวเนื้อนุ่มๆให้กอด ไม่มีใครบอกฝันดี...แถมยังถูกแช่งให้นอนฝันร้าย และที่สำคัญ...ไม่มีรอยจูบพร้อมรอยยิ้มหวานๆให้เชยชม
เฮ้ออออ...คิดถึงจะแย่
แกร๊กก!!!
“.......??”
ไม่ได้สงสัยที่ประตูห้องไม่ได้ถูกล็อคเพราะมันคือเรื่องปกติ...เป็นคุณหนูที่ต้องถูกคุณนมปลุกแทบทุกเช้าและถ้าประตูมันล็อค คุณหนูคนโปรดก็จะโดนทำโทษด้วยการถูกหยิก เป็นบ้าน
เป็นครอบครัว
เป็นกฎระเบียบที่ผู้เป็นเจ้าของสั่งเอาไว้
คนเป็นลูกห้ามมีความลับกับพ่อแม่
ทุกซอกทุกมุมของห้องสามารถถูกตรวจค้นได้เสมอถ้าคุณท่านต้องการ ส่วนเรื่องที่สงสัยก็คือเรื่องที่คุณหนูของบ้านหลังนี้ไม่ได้เปิดแอร์จนหนาวแทบติดลบเหมือนเช่นทุกครั้ง
จากอุณหภูมิที่เคยปรับไว้สิบเก้าองศาถูกเปลี่ยนไปเป็นยี่สิบห้าองศา ไฟทุกดวงที่ต้องปิดให้หมดเมื่อถึงเวลานอนกลับถูกเปิดไว้ที่โคมไฟหัวเตียง และที่น่าสงสัยมากที่สุดคือคือ...ดวงตาคู่สวย??
ไค...หย่อนกายนั่งลงบนเตียงด้วยความระมัดระวังก่อนใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยเบาๆที่ดวงตาข้างหนึ่ง ทำไมมันบวมขนาดนี้? เมื่อคืนร้องไห้ใช่ไหม?? แล้วได้นอนบ้างหรือเปล่า???
ไม่แปลกใจที่คนโปรดของทุกคนในบ้านยังไม่ตื่นเพราะทุกอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้มันฟ้องทุกอย่างได้ดี
ไคใช้หลังมือเพื่อวัดอุณหภูมิในร่างกายของคนที่ยังหลับพริ้มอยู่บนเตียงกว้างด้วยเกรงว่าเจ้าตัวจะป่วยไข้ และดี...ที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่เหงื่อที่ไหลซึมจนชุดนอนเปียกชื้นไปหมดก็ทำให้เขาจำเป็นต้องปลุกเซฮุนให้ตื่นก่อนที่จะป่วยขึ้นมาจริงๆ
“เซฮุน”
“........”
“เซฮุน....ตื่นได้แล้ว”
“อื้อออ...”
“ตัวป่วนครับ...ตื่นได้แล้วครับ!”
“..........??!”
อะไรป่วนๆ...อะไรครับๆ??? เพิ่งเริ่มรู้สึกว่ามันร้อน ขาเรียวจึงถีบผ้าห่มออกจากร่างกายก่อนพยายามปรับโฟกัสสายตาเพื่อมองหาเจ้าของเสียงทุ้ม
และ...จากที่ถีบผ้าห่มอยู่เมื่อครู่ก็กลับต้องดึงมันขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้เพราะเมื่อเห็นทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น
เรื่องราวที่แม่ครัวใหญ่เล่าให้ฟังคืนก็ดังก้องให้ได้ยินจนรู้สึกเขิน
“คุณไครักคุณหนูมากนะคะ”
“คุณไคกำลังเลิกบุหรี่”
“แล้วที่ถูกไล่ให้กลับไปนอนที่ห้องก็เพราะเป็นห่วง กลัวคุณท่านจะว่า กลัวคุณหนูจะถูกตำหนิ”
ฮืออออออออ...ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!!!!!!
“เป็นอะไร...ปวดหัวเหรอ?”
“..........”
“เซฮุน....”
“ไม่ได้ปวดหัว เราสบายดี”
“สบายดีแล้วทำไมตาบวม เมื่อคืนร้องไห้ใช่ไหม”
“ป่าวร้อง...”
“โกหก...แล้วถ้าไม่ลุกมาคุยกันดีๆจะโดนหยิก!!”
รีบลุกขึ้นนั่งหลังตรง...ก่อนสะบัดผ่าห่มออกจากร่างกายอีกรอบเพราะทนร้อนไม่ไหวและยังไม่อยากถูกหยิกจนเนื้อเขียว ถ้ามันเป็นคำขู่ของคุณนมก็คงยังนอนอยู่เหมือนเดิมแถมยังแกล้งคนแก่ให้หัวใจวายด้วยการเล่นหลอกผี
แต่เมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่คุณนมและเป็นคนที่พูดจริงทำจริงเสมอ...คุณหนูอย่างเขาจึงไม่กล้าแม้กระทั่งสบสายตาคม
“จะคุยอะไร!!” ใจหนึ่งยังกลัว
แต่อีกใจก็ยังดื้อรั้นไปตามนิสัย
“เมื่อคืนร้องไห้ใช่ไหม?” ไม่ได้อยากทำให้กลัว แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็คงเอาแต่ใจอยู่อย่างนั้น
และใบหน้าเรียว...ที่ก้มไว้จนแทบชิดอกก็พาให้มือหนาต้องเชยคางมนเพื่อสบจ้องดวงตาคู่สวย
“ป่าวร้อง...”
“ตาบวมขนาดนี้...ยังจะโกหกอีก”
“เออ...ร้องก็ได้ แล้วจะทำไมล่ะ!”
“แล้วร้องทำไม?”
“แล้วมาไล่ทำไมล่ะ?”
“มาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่แล้วยังจะมานอนกอดลูกชายเค้าอีก...คุณเคยคิดบ้างไหมว่าคุณพ่อจะรู้สึกยังไง”
“คุณพ่อไม่รู้สักหน่อย”
“สักวันก็ต้องรู้”
“เออ...ไม่อยากนอนด้วยก็ไม่ต้องนะ...นอน โอ๊ยย!! เจ็บนะ เราจะฟ้องคุณแม่!!”
ยิ่งพูดยิ่งเถียง...ยิ่งอธิบายก็ยิ่งดื้อ
เจ้าของผิวเนื้อขาวเนียนจึงถูกหยิกจนต้องส่งเสียงร้องพร้อมกับลูบต้นขาไปมาก่อนเบะปากเหมือนทุกครั้งที่ถูกขัดใจ ฮือออ...ขาเขียวแน่ๆ ทำไมคุณไคชอบทำให้ร่างกายของเขามีรอยช้ำ วันก่อนที่แขน
วันนี้ที่ขา แล้วพรุ่งนี้จะโดนอีกล่ะ????!! แต่....
จุ๊บบ!!
“อยากให้เข้าใจ...ไม่อยากให้ดื้อ”
“ไม่ดื้อแล้ว...แต่ห้ามจูบอีกนะ เรายังไม่ได้แปรงฟัน”
เรื่องความสะอาดไม่ใช่ปัญหา...แต่ที่เป็นปัญหาคือสายตมคมที่เคยดุดันกลับดูอบอุ่นจนหัวใจวูบไหว แถมรอยจูบเพียงแผ่วเบาก็พาให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นปิดปากหยักเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะถูกจูบจนหลอมละลายไปกับความอบอุ่น
คุณหนูเซฮุนอยากให้คุณไคดุมากกว่าทำอะไรที่ดูอ่อนโยนแบบนี้ มันไม่ชิน
มันเขิน มันใจเต้น...แล้วการถูกดึงมือให้มาโอบเอวสอบเอาไว้และถูกความอบอุ่นที่มากกว่าเดิมสวมกอดจนเต็มอ้อมแขนก็พาให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีก
“ขอโทษ...ทีหลังจะไม่ไล่แบบนั้นอีกแล้ว แต่ผมเป็นห่วงคุณจริงๆนะ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกไปนอนกกนอนกอดกับคนอื่นหรอก”
ลูบแผ่นหลังของคุณหนูด้วยความรู้สึกที่ยากจะเอ่ย เป็นห่วง
รู้สึกผิด
รักและอีกสารพัดที่จะรู้สึกได้
“ก็อยากนอนด้วยหนิ เราอยากอยู่กับคุณไคทุกวัน เราไม่อยากทิ้งคุณไคให้อยู่คนเดียว
เรากลัวคุณไคเบื่อเพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณไค”
การมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมันไม่ใช่เรื่องสนุกของคนต้องย้ายมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ทั้งภาษา
อาหารหรือแม้กระทั่งการหลับนอน
ทุกๆอย่างเป็นเรื่องที่คุณไคต้องปรับตัว
เซฮุนจึงอยากทำให้คนในอ้อมกอดตอนนี้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือเหมือนถูกทอดทิ้ง
ต่างคนต่างสรรหาสิ่งที่คิดว่าดีเพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุขมากที่สุด แต่แล้ว...สิ่งที่ดีที่สุดก็คงเป็นตอนนี้
ได้กอด ได้ใกล้ชิด
ได้ปรับความเข้าใจและได้รับรู้ว่าต่างคนต่างคิดเช่นไร ใบหน้าเรียวสวยซบลงไปบนไหล่กว้าง สองมือสองแขนโอบกันไว้ไม่ยอมปล่อย
มือหนากระชับเอวคอดให้แน่นขึ้นก่อนที่อีกมือก็คอยลูบหัวคุณหนูตัวป่วนด้วยความห่วงใย เป็นตัวป่วนที่ป่วนสมชื่อจริงๆ...ห้องตัวเองมีก็ไม่ยอมนอน เสื้อผ้าตัวเองมีก็ไม่ใส่ แล้วถ้าดื้อกว่านี้ก็คงต้องถูกหยิกจนตัวลาย
ใช่ว่าอยากลงโทษลูกชายของคุณท่านด้วยวิธีนี้เพราะผิวเนื้อเนียนขาวมันไม่ควรมีร่องรอยเขี้ยวช้ำอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าลูกชายของท่านจะดื้อขนาดนี้...เขาก็คงต้องลงโทษไปตามสมควร
“ไปกินอาหารเช้ากัน...ผมให้แม่บ้านเตรียมไว้ที่ห้องนู้น”
“จริงเหรอ ได้กินอาหารเช้าที่ห้องนอนเนี่ยนะ”
“จริง...ป่านนี้เย็นหมดแล้วมั้งเพราะมีคนตื่นสาย”
“ป่าวสายสักหน่อย...ก็ไม่มีใครมาปลุกหนิ”
“งั้นคืนนี้ก็มานอนด้วยกัน...เดี๋ยวผมจะปลุกคุณเอง”
“นอนด้วยกันจนกว่าคุณพ่อจะกลับมาเลยนะ”
“ถึงวันนั้นค่อยว่ากันอีกที
ตอนนี้ไปอาบน้ำได้แล้วไป...เดี๋ยวผมไปรอที่ห้อง”
จุ๊บบ!!
ฝังความดีใจ...ไว้บนสันกรามคมด้วยความรวดเร็วและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่จะถูกหยิกอีกรอบ เกิดมาก็เพิ่งได้ทานมือเช้าในห้องนอนเป็นครั้งแรกเพราะกฎระเบียบของบ้านหลังนี้มันคือข้อห้าม ห้องนอนมีเอาไว้นอน...ไม่ใช่เอาไว้กินข้าวเพราะกลิ่นของอาหารมันจะไปติดอยู่ตามหมอน ผ้าห่มหรือผ้าม่านซึ่งมันไม่ควรเป็นเช่นนั้น แต่วันนี้มันเหมือนกฎระเบียบต่างๆจะถูกลืมไปชั่วคราวเนื่องจากคนออกกฎไปทำงานที่ต่างประเทศ
...
...
...
18.00 น.
VROOMMMMM!!!!
“เซฮุนอยู่ไหม?”
“อยู่ครับคุณเลโอ”
“อยู่ก็เปิดประตูสิ!!”
“ครับๆ
ๆ...”
ทั้งเสียงรถและเสียงที่สั่งให้เปิดประตูรั้ว...มันทำให้คนเป็นผู้รักษาความปลอดภัยที่ทำงานอยู่หน้าบ้านต้องรับกดรีโมตเพื่อเปิดประตูขนาดใหญ่
เขาไม่เคยเห็นคุณเลโอมาที่นี่อีกเลยนับตั้งแต่เลิกรากับคุณหนูไปเมื่อเดือนที่แล้ว และเวลานี้ก็ไม่สมควรจะมาที่นี่เพราะมันใกล้ค่ำแถมคุณท่านกับคุณหญิงก็ไม่อยู่บ้าน แต่จะให้ลูกจ้างอย่างเขาเอ่ยห้ามหรือปฏิเสธและไม่ต้อนรับคนแบบคุณเลโอมันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะครอบครัวของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างสนิทสนมกับคนตระกูลโอ แถมยังเคยเป็นคนรักเก่าของคุณหนู
“สะ...สวัสดีค่ะคุณเลโอ”
เป็นอีกคน...ที่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้เดินเข้ามาในบ้าน และถ้าทำได้ก็ไม่อยากให้มาที่นี่อีกเลยเพราะคุณหนูเซฮุนคงไม่ประสงค์ที่จะพบเจอ สาวใช้เอ่ยทักทายออกไปตามมารยาทที่สมควร
แต่การที่ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าไปทำเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศกลับพาให้สาวใช้ต้องระงับทุกอารมณ์ก่อนที่จะถูกไล่ออก เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
เป็นคนที่ไม่น่าคบหาและดีที่คุณหนูของเธอเลิกกับคนแบบนี้ไปได้
“เซฮุนอยู่ไหน!!”
“อยู่บนห้องค่ะ”
“ไปตามลงมา”
“เอ่ออ...”
“บอกให้ไปตามลงมาไง!!!”
“ค่ะๆ
ๆ...”
“เดี๋ยว...อย่าเพิ่งไป!!”
“คะ?”
“ไปหาของว่างมาให้ผมก่อน”
“ค่ะ...”
ตกลงจะให้ทำอะไรกันแน่...สาวใช้อย่างเธอเริ่มสับสนและเริ่มรู้สึกกลัวกับน้ำเสียงที่ผู้ชายคนนี้ใช้ในการสื่อสาร
หญิงสาวรีบโค้งตัวก่อนวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมของว่าง แล้วการที่คุณท่านคุณหญิงหรือคุณนมไม่อยู่ก็พาลให้บ้านหลังนี้ไม่มีใครคอยกำราบผู้ชายอย่างคุณเลโอ และด้วยเหตุผลข้อนี้...เจ้าของร่างสูงจึงกล้าเข้ามาที่นี่ไม่อย่างนั้นก็คงถูกห้ามตั้งแต่หน้าประตูรั้ว
ขายาวสมส่วน...ในกางเกงยีนส์ราคาแพงรีบก้าวขึ้นมาชั้นบนเมื่อเห็นสาวใช้เดินออกไปจากห้องรับรอง
เป็นวันที่ต้องได้คำตอบว่าทำไมเซฮุนถึงต้องลาออกจากงานวิจัยทั้งๆที่เป็นงานที่รักมากที่สุด แถมยังเป็นการลาออกโดยที่ไม่บอกเขาสักคำ เป็นแฟนกันมาหนึ่งปี
เป็นหัวหน้างานมาอีกห้าปี...แต่คนที่เป็นทั้งลูกน้องและเป็นคนรักเก่ากลับทำทุกอย่างข้ามหน้าข้ามตาไปหมด จะลาออกทั้งทีแต่ไปขอการอนุมัติจากทางศูนย์ใหญ่
ซึ่งหัวหน้าทีมอย่างเขาถือว่าเป็นการหักหน้ากันชัดๆ
แกร๊กก!!!
เปิดประตูห้องด้วยความร้อนใจเพราะเกรงว่าจะถูกสาวใช้เข้ามาขัดจังหวะก่อนกดล็อคทันที...และคนที่อยากพบหน้าเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมดก็กำลังนอนอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่บนเตียง
ส่วนคนที่ไม่ได้สนใจแม้กระทั่งเสียงเปิดประตูหรือคนที่เดินเข้ามาด้านในก็เอาแต่เลือกเสื้อผ้าตามคอลเล็คชั่นต่างๆบนหน้ากระดาษแล้วคิดว่าเสื้อตัวนั้น กางเกงตัวนี้หรือรองเท้าอีกคู่จะเหมาะกับหนุ่มผิวเข้มหรือไม่
และ.....
“คุณไค...พรุ่งนี้ไปช้อปปิ้งกัน เราอยากได้เสื้อตัวนี้”
พูดเองเออเอง...โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยว่าคนที่ตัวเองพูดด้วยไม่ใช่หนุ่มผิวเข้ม แถมยังเอาแต่เปิดนิตยสารหน้าต่อไป หน้าต่อไปและหน้าต่อไป
แต่.......
“คุณไคมานอนตรงนี้ เราจะขอเทียบหน่อยว่าแบบเสื้อผ้าแบรนด์นี้มันเหมาะกับคุณไคหรือปะ...เปล่า พี่เลโอ!!!”
“ผิดหวังมากไหมที่เป็นพี่??!!!!”
“โอ้ยยย...เจ็บนะ!!”
เป็นแฟนกันหนึ่งปี...แต่ไม่เคยได้รับความใส่ใจอย่างนี้เลยสักครั้ง แล้วการเรียกชื่อด้วยรอยยิ้มหวานๆแบบนั้นก็ไม่เคยได้รับเช่นกัน
เลโอดึงนิตยาสารแฟชั่นออกจากมือเรียวสวยแล้วปาลงพื้นด้วยความหงุดหงิดก่อนคร่อมกายกักกันเจ้าของห้องเอาไว้บนเตียงกว้าง มือหนากดข้อมือขาวเอาไว้จนขึ้นริ้ว ร่างสวยในชุดที่แสนล่อตาดิ้นขืนจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดราคาถูกสีดำมันไม่ใช่สิ่งที่คนใต้ร่างเคยสวมใส่และแฟนเก่าอย่างเขาก็ไม่คิดว่าจะได้เห็น??
“มันเป็นใคร?!!”
เซฮุนไม่คิดว่าจะได้เจอผู้ชายคนนี้ในห้องของตัวเอง...เพราะนึกว่าเสียงประตูหรือคนที่เข้ามาด้านในคือหนุ่มผิวเข้มที่มาตามให้ไปดูหนังที่ห้องนั่งเล่น
คุณไคบอกว่าจะลงไปช่วยคนสวนเก็บของที่หลังบ้านและถ้าทุกอย่างเสร็จเมื่อไหร่ก็จะมาตามที่ห้องเพราะนัดไว้ว่าจะดูซีรี่ส์เรื่องโปรดด้วยกัน
แต่ทุกอย่างกลับไม่ใช่สิ่งที่คิดไว้เลยแม้แต่น้อย
“พี่เลโอปล่อย...เซฮุนเจ็บ”
ใช่...มันเจ็บและเจ็บจนน้ำตาซึม เซฮุนพยายามขืนกายออกจากการถูกกดทับด้วยแรงคนของด้านบน
ยิ่งได้เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนี้ในระยะใกล้เพียงอากาศกั้น...มันก็ยิ่งอยากจะอาเจียน อุตส่าห์เลือกไปเก็บของที่ห้องทำงานตอนที่เลโอไม่อยู่
อุตส่าห์ยื่นเรื่องลาออกโดยไม่ผ่านผู้เป็นที่หัวหน้า อุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องพบกันอีก
แต่สุดท้ายสิ่งที่พยายามมาทั้งหมดก็สูญเปล่า แถมยังต้องมาเจอกันในที่ที่ไม่ควรเลยสักนิด
คนเจ้าชู้ ไม่จริงใจ
มีแต่ความหลอกลวงแบบนี้ใครจะไปอยากเจอ
ตอนเป็นแฟนกันก็หวงจนเขาแทบไม่ได้ออกไปไหน
จะกินข้าวอาบน้ำกลับบ้านก็ต้องโทรรายงานตัวทุกอย่าง อิสระในชีวิตถูกตีกรอบด้วยผู้ชายคนนี้ แล้วที่แย่ที่สุดก็คือ...ผู้ชายที่ชื่อเลโอก็ไม่ได้มีเขาเพียงคนเดียว
ตอนบอกเลิกก็เกือบต้องให้เรื่องถึงตำรวจเพราะเลโอไม่ยอมเลิกและขังเขาไว้ในห้องถึงหนึ่งวันเต็ม ดีที่ได้คนทำความสะอาดห้องพักช่วยเอาไว้ไม่อย่างนั้นคงหนีออกมาไม่ได้ โทรศัพท์ถูกยึด ร่างกายถูกทำร้ายและมันก็เจ็บจนแทบทนไม่ไหว
ตอนทำงานในห้องวิจัยด้วยกันก็ไม่เคยมีปัญหา แต่พอได้เป็นแฟน
ได้มาคบกันหรือได้เขาไปทั้งร่างกายและจิตใจ พี่เลโอกลับทำลายทุกอย่างจนไม่เหลือความรู้สึกอะไรแล้วนอกจาก...ความเกลียด เซฮุนไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้คุณพ่อทราบด้วยเกรงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกชายจะพาลให้ธุรกิจของทั้งสองครอบครัวหมดความน่าเชื่อถือ แล้วไหนไหนเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว เขาออกมาจากชีวิตของผู้ชายคนนี้ได้แล้ว โอเซฮุนจึงไม่อยากทำให้คุณพ่อต้องมาคอยเป็นห่วง
โตพอที่แก้ไขปัญหาของตัวเองได้ก็จะทำ เส้นสายของตระกูลมีเอาไว้ใช้เพื่องานสำคัญเท่านั้นไม่ใช่เพื่อกำจัดแฟนเก่าของลูกชาย แต่ตอนนี้...เซฮุนอาจต้องคิดใหม่อีกครั้ง
“ถ้าไม่ตอบจะโดนมากกว่านี้!!
คนชื่อไคมันเป็นใคร!!!??”
“โอ๊ยย...เจ็บ”
“ไม่อยากเจ็บก็ตอบสิวะ!!”
“เป็นพะ...เพื่อน!!”
“โกหก!!”
“โอ๊ยย...!”
ปลายคาง...ถูกบีบจนต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ แถมข้อมือยังถูกตรึงไว้ด้วยมือใหญ่ๆเพียงข้างเดียว
เลโอทราบดีว่าคนตรงหน้าโกหกเพราะถ้าเป็นเพื่อนจริงๆเซฮุนคงไม่เอ่ยชื่อด้วยคำที่สุภาพแบบนั้น แบคฮยอน
เลย์ จุมมยอน เฉินหรือแม้กระทั่งซิ่วหมินก็ไม่เคยเอ่ยคำว่า “คุณ”
ให้ได้ยินเลยสักครั้ง
แล้วไอ้คุณไคมันเป็นใครกันแน่!!??
“หึ!!...เป็นผัวใหม่สินะ เลิกกับพี่ไปเดือนเดียวได้ผัวใหม่เร็วจริงๆ”
“ทำตัวน่ารังเกียจแล้วยังพูดจาน่าเกลียดอีก พี่เลโอปล่อยเซฮุนนะ เซฮุนจะ...เจ็บ อื้มมม!!”
รู้สึกโกรธ...เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น และการตอบโต้ด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังก็ทำให้คนปากกล้าถูกบดจูบด้วยความโมโห ลิ้นร้อนกวาดต้อนทุกอย่างไปตามอารมณ์
ผิวเนื้อถูกฟอนเฟ้นเหมือนอยากทำร้ายคนใต้ร่างให้แหลกเป็นชิ้นๆ ยิ่งเซฮุนขืนกายหรือขัดใจเจ้าของรอยจูบมากเท่าไหร่
เลโอก็ยิ่งอยากทำให้ความเจ็บมันมีมากขึ้นเท่านั้น
“ถ้ามันอยากใช้ของร่วมกับพี่ก็ต้องทำใจหน่อยนะ”
“ยะ...อย่า”
ตาบวมจากการร้องไห้เพิ่งดีขึ้นเมื่อช่วงสาย...แต่ตอนนี้มันเริ่มบวมขึ้นมาอีกครั้งจากการถูกกระทำที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
เซฮุนพยายามขัดขืนทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ถูกแฟนเก่าล่วงเกิน ปากบางเม้มแน่น
สองขาออกแรงถีบเท่าที่จะมีกำลังพร้อมส่ายใบหน้าไปมาเพื่อหลบเลี่ยงการถูกจูบที่รุนแรง และ.....
ก๊อกก ๆ ๆ!!!!
(เซฮุนล็อคห้องทำไม? ทำอะไรอยู่...ไปดูหนังกัน)
“คุณไค...ช่วยด้วย ช่วยเซฮุนด้วยยยยย!!!”
(..............!!!??)
จากที่เม้มปากไว้แน่นเพื่อกันลิ้นร้อนเข้ามากอบโกยความหวาน...ตอนนี้มันต้องแหกปากร้องเพื่อให้เจ้าของเสียงทุ้มที่อยู่ด้านนอกได้รับรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ส่วนคนที่เข้ามาทำร้ายเจ้าบ้านถึงในห้องนอนก็รู้สึกตกใจจนเผลอปล่อยมือบางออกจากการถูกบีบรัดและหันหน้าไปที่ประตูด้วยความใคร่รู้ เซฮุนได้จังหวะตอนที่เลโอกำลังตกใจ...ยกเท้าขึ้นถีบอกกว้างด้วยความแรงก่อนรีบวิ่งไปปลดล็อคแล้วเปิดแผ่นไม้ตรงหน้าออกด้วยความลนลาน
“คุณไคช่วยด้วย!!!”
“เกิดอะไรขึ้นเซฮุน??”
ยังประมวลผลอะไรไม่ได้...นอกจากแรงสั่นไหวของคนอ้อมอก
ไครีบเดินขึ้นมาที่ห้องเพราะสัญญากับคุณหนูเอาไว้ว่าจะช่วยคนสวนทำงานให้เสร็จก่อนที่ซีรี่ส์เรื่องโปรดจะออกอากาศ แต่พอเดินมาถึงหน้าห้องและจะเปิดประตู...มันกลับถูกล็อคทั้งๆที่มันเป็นข้อห้ามของบ้านหลังนี้ แล้วเมื่อเคาะเรียกคนด้านในก็กลายเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ได้กลับมา
จนสักพัก...ประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมแรงโถมกายที่เข้ามากอดเขาไว้เหมือนหนีอะไรบางอย่าง??
“คุณไค...ฮึกก!”
“ซะ...เซฮุน”
หัวใจ...เหมือนถูกบีบรัดจนเจ็บจุกเมื่อเห็นริมฝีปากเจ้าของเสียงสะอื้นปริแตกจนได้เลือด เปลือกตาทั้งสองข้างก็บวมช้ำแถมร่างกายยังสั่นจนไม่อาจควบคุม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เสียงร้องขอความช่วยเหลือมันหมายความว่าอะไร?? แล้วทำไมเซฮุนถึงช้ำไปทั้งตัวแบบนี้??? ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าหลุดลุ้ย ใบหน้ามีรอยช้ำ และ....
“คงชอบคนต่ำๆแบบนี้สินะ หึ!!”
เหมือนคำตอบจะอยู่ตรงหน้าเมื่อไคได้ยินคำทักทายที่คล้ายว่าเป็นการดูถูกเพราะถึงแม้จะฟังภาษาของคนประเทศนี้ไม่ออก แต่สายตา
น้ำเสียงหรือกิริยาท่าทางของผู้ชายที่ยืนตรงประตูมันก็สามารถฟ้องทุกความหมายได้เป็นอย่างดี แล้วคุณหนูโอเซฮุนก็กำลังออกอาการไม่พอใจ??? ส่วนคนที่คิดว่าตัวเองมีทุกอย่างดีกว่าหนุ่มผิวเข้มก็ใช้สายตาที่พาให้คุณหนูของตระกูลโอต้องเลิกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและสบสายตาอาฆาตกลับไปบ้าง มีสิทธิอะไรว่าคนอื่นต่ำหรือมองคนอื่นอย่างเหยียดหยาม ตัวเองเลวกว่าคุณไคตั้งร้อยเท่าพันเท่ายังมีหน้ามาพูดจาแบบนั้นอีก!!!! เซฮุนค่อยๆคลายอ้อมกอดจากความอบอุ่นในอกกว้าง และ.....
ผัวะ!!!
“อย่ามาว่าคุณไคนะ!!”
กำหมัดแน่น...ก่อนต่อยปากแฟนเก่าจนเลือดออกและที่ตัวยังสั่นก็เพราะความโกรธ เกิดมารวย
เกิดมามีต้นทุนมากกว่าคนอื่นและเกิดมาในตระกูลอันใหญ่โต แต่คุณหนูโอเซฮุนก็ไม่เคยดูถูกใครทั้งนั้น แม่บ้าน
สาวใช้ คนขับรถ คนสวน...ทุกคนมีความสำคัญในตัวเองทั้งนั้น ถ้าไม่มีพวกเขา เราก็ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และถ้าพวกเขาไม่มีเรา...ลูกหลานของคนที่มีฐานะน้อยกว่าก็อาจจะไม่มีชีวิตที่ดีเหมือนทุกวันนี้ ต่างคนต่างก็มีความสำคัญไปคนละแบบหรือต้องพึ่งพาอาศัยกันบ้าง
แต่ทำไมคนอย่างเลโอถึงได้ชอบดูถูกผู้ที่ด้อยกว่า
“คบคนต่ำๆก็เลยต้องทำตัวต่ำไปด้วยหรือไง
หึเซฮุน!!!”
“โอ๊ยยย....เจ็บ!”
(ปล่อยเซฮุนเดี๋ยวนี้!!!!)
เหมือนจะเกิดความวุ่นวาย...เพราะเมื่อครู่เซฮุนต่อยปากผู้ชายคนนั้นจนได้เลือด
แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับถูกคว้าไปกอดต่อหน้าต่อตา น้ำเสียงทุ้มต่ำแข็งกร้าว
ดวงตาคมฉายแววน่ากลัวและเสียงที่ตะโกนสั่งให้ปล่อยตัวคุณหนูก็พาให้สาวใช้รวมถึงแม่ครัวและคนขับรถต้องรีบวิ่งขึ้นมาบนชั้นสองของบ้าน
ไครีบเข้าไปกระชากตัวเซฮุนให้ออกมาจากอ้อมกอดของผู้ชายตรงหน้าก่อนความโมโหจะพาให้ยกเท้าถีบเข้าที่อกของเลโอเต็มแรง
“ว้ายยยยย!!!!....”
เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของสาวใช้ แรงถีบที่ทำให้แฟนเก่าของคุณหนูล้มคว่ำและก่อนที่หนุ่มผิวเข้มจะเข้าไปกระทืบซ้ำ...แม่ครัวใหญ่ก็ต้องทำใจกล้าเอาร่างกายมาขวางเอาไว้ ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายและไม่อยากให้เรื่องต้องถึงตำรวจ แม่ครัวอย่างเธอจึงจำเป็นต้องเข้าไปยุติเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น คุณท่านกับคุณหญิงก็ไม่อยู่ คุณนมที่เป็นใหญ่รองลงมาจากเจ้าของบ้านก็ไม่อยู่เช่นกัน
ตอนนี้เธอจึงถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่สุดและควรจัดการเรื่องทั้งหมดก่อนที่ทั้งสองครอบครัวจะหมางใจจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
“จะให้ดิฉันตามหมอไหมคะคุณเลโอ...”
“ไม่ต้อง!!!”
“อย่าคิดว่าป้าไล่เลยนะคะ...แต่คุณเลโอกลับไปก่อนเถอะค่ะ”
“ผมเพิ่งรู้นะครับคุณป้า...ว่าคุณลุงท่านชอบหาผัวต่ำๆแบบนี้ให้ลูกชาย!!”
ทั้งรอยสัก ทั้งหน้าตา
ทั้งการแต่งตัว...มันดูไม่เหมาะกับคุณหนูตระกูลใหญ่โตเลยสักนิด
เลโอจึงไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อของเซฮุนถึงอนุญาตให้คนแบบนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน สายตายังมองอย่างดูถูกดูแคลน การสบจ้องจากหัวจรดเท้าและคำพูดที่ทำให้ทุกคนในบ้านต้องส่ายหน้า ทุกๆอย่างมันช่างเป็นกิริยาที่เพิ่มความโมโหให้คนถูกมองได้อีกครั้ง เพราะจะดูถูกเขาอีกสักร้อยประโยคก็ไม่เป็นไร แต่การเอ่ยพาดพิงถึงผู้มีพระคุณหรือคนในอ้อมกอดตอนนี้มันทำให้หมดความอดทน
“คนเหี้ยๆแบบมึงยังคิดว่าตัวเองสูงส่งอีกเหรอวะ ถุ้ยย!!”
“มึงงง...!!”
“อยากอวดรวยอวดบารมีก็ไปอวดที่อื่น...แล้วถ้าเป็นคนรวยแบบมึง กูขออยู่ต่ำๆแบบนี้ดีกว่า!”
(พี่เลโอกลับไปเถอะ...แล้วถ้ายังทำแบบนี้อีก เซฮุนจะบอกเรื่องของเราให้คุณพ่อฟังให้หมด พี่เลโอคงรู้นะ...ว่าคุณพ่อจะเข้าข้างใคร // คุณไคกลับห้องกันดีกว่า อย่าไปเถียงกับคนคนนี้เลย...เสียเวลา //
ทุกคน...กลับไปทำงานเถอะฮะ
หนูไม่เป็นอะไรแล้ว)
ไม่อยากเสวนากับคนแบบเลโออีกแล้ว...เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งมีแต่ปัญหาและการโดนดูถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าฟัง คนที่มองเห็นแต่ความผิดของคนอื่น พูดไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า เซฮุนจึงพูดตัดบทและไม่อยากให้คุณไคต้องมาเปลืองน้ำลายกับคนแบบนี้ ขอบคุณที่ปกป้องเขากับคุณพ่อ ของคุณที่ช่วยทำให้รู้ว่าการศึกษา ฐานะหรือชาติกำเนิดมันใช่ตัวตัดสินนิสัยใจคอของมนุษย์และขอบคุณที่คอยโอบกอดกันไว้ไม่ยอมปล่อย
“เชิญกลับได้แล้วค่ะคุณเลโอ...อย่าให้ป้าต้องโทรรายงานคุณท่านเลยนะคะ”
“คุณไคอุ้มเราหน่อย เราเดินไม่ไหว”
คนเป็นสาวใช้...ได้แต่อมยิ้มกับคำเอ่ยอ้อนของคุณหนู แถมคำพูดของแม่ครัวใหญ่ก็ยิ่งทำให้เกิดความสะใจเล็กๆอีกด้วย คุณเลโอนิสัยไม่ดี ทำให้คุณหนูของเธอเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ แล้วการดูถูกคุณไคด้วยคำพูดเช่นนั้นมันก็เหมือนดูถูกคนใช้อย่างพวกเธอไปด้วย คำก็ต่ำสองคำก็ต่ำ...นิสัยเสียที่สุด!!! ส่วนคนขับรถก็รู้สึกไม่ต่างไปจากสาวใช้ แต่ก็ต้องรีบพาคนถูกไล่ไปส่งที่หน้าบ้านตามมารยาททั้งๆที่ในใจก็อยากถีบแฟนเก่าของคุณหนูเหมือนกับคุณไคเพราะไม่ชอบคำพูดแบบนั้น
ถ้าไม่มีคนต่ำๆอย่างพวกเรา...คุณเลโอก็มาล้างจาน ล้างรถ
ทำกับข้าวและซักผ้าเองไหมล่ะครับ!!!
...
...
20.00 น.
แกร๊กกก!!
“คุณไค....”
“ว่าไง”
“จะไปไหน...มาอยู่กับเรา”
อุ้มมาส่งถึงเตียง...แต่พอเดินไปปิดประตูห้องและกำลังจะไปหยิบกล่องยาที่โต๊ะเครื่องแป้ง
เสียงเรียกที่เหมือนจะเป็นคำสั่งปนคำออดอ้อนก็พาให้สองขาต้องรีบก้าวกลับไปที่เตียงอีกครั้ง มือบางดึงหนุ่มผิวเข้มให้ลงมานอนด้วยกันก่อนวาดแขนโอบกอดกายหนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ส่วนคนถูกกอดก็ใช่ว่าจะมีปัญหากับการถูกทำเช่นนี้
แต่การไปช่วยคนสวนทำความสะอาดหลังบ้านมันทำให้รู้สึกว่าตัวเองสกปรกเกินกว่าจะมานอนกอดคุณหนูตัวป่วน
“เป็นอะไร?”
“ไม่รู้...”
“แล้วไม่เหม็นหรือไง...ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ”
“ไม่เหม็น อยากกอด”
“จะทำแผลให้ ปากยังเลือดออกอยู่เลย”
“ช่างมันสิ”
“โดนมันต่อยมาหรือไง ถึงได้เละไปทั้งตัวแบบนี้?”
“โดนจูบ โดนจับ
โดนล้วง โดนทุกอย่างนั้นแหละ!!”
“เซฮุน!!!”
ไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้...และไม่กล้าถามด้วยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่พอได้รู้ว่าเซฮุนถูกทำอะไรบ้าง ใจมันก็ร้อนขึ้นมาอีกครั้ง อยากกลับไปกระทืบไอ้หน้าผู้ดีอีกสักรอบ โดนคุณหนูต่อยและโดนเขาถีบมันยังน้อยไป ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ!!! ไคคร่อมกายทับผู้ถูกกระทำด้วยความเป็นห่วง มือหนาเกลี่ยริมฝีปากสีหวานด้วยความทะนุถนอมก่อนจะค่อยๆลูบแก้มนุ่มที่เกิดรอยช้ำ
“เราขอโทษที่ทำให้คุณไคถูกว่า”
การถูกล่วงเกินมันทำให้เซฮุนรู้สึกแย่...แต่การที่ไคถูกกล่าวหาว่าต่ำมันทำให้รู้สึกแย่มากกว่า เจ็บกว่านี้ก็เคยโดนมาแล้ว คนหน้าโง่อย่างเขาเป็นคนเลือกผู้ชายแบบนั้นให้เข้ามาในชีวิตแล้วมันจะไปโทษใครได้ เลือกเองเจ็บเอง...มันก็สมควรแล้ว
แต่คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างคุณไคไม่สมควรถูกกล่าวหาด้วยถ้อยคำเช่นนั้น
“อยากให้ผมฆ่ามันไหม?”
“อยาก...แต่เราไม่อยากให้คุณไคติดคุกมากกว่า พี่เลโอพวกเยอะ แล้วที่นี่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้”
“แล้วทำไมมันต้องมาทำร้ายเซฮุน”
“เราเคยเป็นแฟนกัน แต่เลิกกันแล้ว พี่เลโอไม่พอใจที่เราขอเลิก แล้วก็ไม่พอใจที่เราลาออกจากงานวิจัย”
“มีผัวแล้วก็ไม่บอก”
“มีแล้วมันทำไมล่ะ...ทีตอนคุณไคอยู่ที่นู้นยังซื้อผู้หญิงมานอนด้วยได้เลย”
“อ้าวว...ผมผิดซะงั้น”
“เราเคยมีผัวคนเดียว...คุณไคนั้นแหละมีเมียมากี่คนแล้วก็ไม่รู้!!”
ใช่ว่าอยากเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น...แต่กำลังพยายามทำให้คุณหนูลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น มันอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก แต่คนอย่างไอ้ไคมันก็ทำได้แค่นี้
เขายังปลอบใจใครไม่เก่งเหมือนเดิมและมักจะพูดตรงๆแบบนี้เสมอ ไคไม่ใช่คนอ้อมค้อม ชอบคือชอบ
ไม่ชอบก็คือไม่
เขาไม่รู้จะอ้อมค้อมไปเพื่ออะไรเพราะมันทำให้รู้สึกว่าเสียเวลา
ส่วนคนแสนงอน...ก็ใช่ว่าอยากปิดบังเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องนี้มันน่าอายเกินกว่าจะเล่าให้ใครฟัง มีแฟน...แฟนก็เจ้าชู้ ชอบทำร้ายร่างกายแถมยังชอบดูถูกคนอื่น
“จะกี่คนก็ไม่สำคัญเท่าตัวป่วนคนนี้”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลย แสดงว่ามีเยอะจนจำไม่ได้”
“ยอมรับว่าจำไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว...มีแค่เซฮุนคนเดียว”
“จริงนะ...ถ้าคุณไคโกหกเราจะฟ้องคุณพ่อ”
“สาบาน!!”
ฟอดดดด!!
เคยบอกแล้ว...ว่าสถานะระหว่างเราจะเป็นอะไร
จะเรียกว่าอะไรหรือใครจะคิดอย่างไรพวกเขาก็ไม่สน ขอแค่ยังได้อยู่ด้วยกัน ได้กอด
ได้หอม
ได้ทะเลาะกันนิดหน่อยและได้ปรับความเข้าใจ
มันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แก้มนิ่มถูกฝังไว้ด้วยความรัก
สันครามคมถูกสัมผัสพร้อมดวงตาคู่สวยที่มองมาอย่างมีความหมาย และรอยจูบก็ถูกมอบให้กันอย่างไม่ต้องนึกว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ผิวเนื้อขาวเนียนถูกประทับความห่วงไว้ตั้งแต่ไหล่ลาด ยอดอก
เอวบางไล่ลงมาถึงความกลมกลึง
“อ๊ะ!!...”
เมื่ออาภรณ์ชิ้นล่างถูกถอดออกจนเปลือยเปล่า
ขาเรียวก็ถูกจับให้แยกออกก่อนลิ้นร้อนจะไล่เลียไปตามผิวเนื้อจนกายขาวสั้นสะท้าน ดวงตาคู่สวยจ้องมองการกระทำของหนุ่มผิวเข้มที่เอาแต่กวาดชิมส่วนล่างด้วยความเขินอาย
มือบางจิกเกร็งอยู่บนหมอนใบโตเพื่อระบายทุกความรู้สึก และจากที่จ้องการกระทำของหนุ่มผิวเข้มแบบไม่วางตา....ตอนนี้กลับต้องปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็วเพราะร่างกายกำยำพร้อมรอยสักมากมายมันพาให้ไม่กล้าสบจ้องนานกว่านี้
ไค...รีบถอดกางเกงของตัวเองออกอย่างรีบร้อนก่อนคร่อมกายพร้อมมอบรอยจูบให้คนใต้อีกครั้ง มือบางโอบรอบคอหนา ริมฝีปากสีหวานตอบรับทุกสัมผัสไปตามอารมณ์ และรอยปริแตกที่ถูกแฟนเก่าจูบไปก่อนหน้านั้นก็ถูกลืมเลือนไปพร้อมๆกับการกระทำของคุณไค
“ผมหยุดไม่ได้แล้ว...ผมขอโทษ”
ไม่ได้อยากฉวยโอกาส
แต่โอกาสที่คุณท่านจะไม่อยู่บ้านมันก็เหลือน้อยลงทุกทีและไม่ได้อยากเป็นคนที่กินบนเรือนขี้บนหลังคา*** แต่การได้นอนกอดลูกชายของท่านทุกค่ำคืนมันพาลให้อดใจไม่ไหว
ยิ่งได้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเคยทำร้ายเซฮุนมาเช่นไร
เขาก็ยิ่งอยากครอบครองลูกของท่านมากขึ้นเท่านั้น
และ.....
“ใครอยากให้หยุดล่ะ?”
ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรักคนแบบนี้ได้...คนอะไรดุอย่างกับเสือ มือหนักอย่างค้อน
แต่ตอนนี้กลับอ่อนโยนเหมือนปุยเมฆบนท้องฟ้า ความคนบ้านป่าเมืองเถื่อนมันเริ่มหายไปทีละน้อย จากที่เคยไม่เข้าใจก็เข้าใจทุกอย่าง
จากที่ไม่ค่อยปรับตัวก็เหมือนจะโอนอ่อนผ่อนตาม
และจากที่เคยปกป้องก็ยังคงปกป้องกันเช่นเดิม ถ้ามีใครทำให้เขาเจ็บ...มันผู้นั้นก็ต้องเจ็บกว่าหลายเท่า
แล้วถ้าเขาสั่งให้คุณไคไปจัดการพี่เลโอ...เซฮุนก็เชื่อได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะทำโดยไม่ลังเล
“ซี้ดด คุณคะ...ไค!”
“อื้มมมม...”
จับขาเรียววางไว้บนไหล่กว้าง
ร่างกายขยับเคลื่อนอย่างไม่อาจห้ามความรู้สึก เสียงครางหวาน
เสียงเรียกชื่อหรือสายตาที่ฉ่ำปรือ
ทุกๆอย่างมันพาให้ต้องส่งความปรารถนามากขึ้นเรื่อยๆ แน่นไปหมด
ขาวไปหมด สวยไปหมด ไอ้เลโอมันโง่ฉิบหายยยย...ที่ไม่ยอมรักษาสิ่งดีๆแบบนี้เอาไว้ ดื้อมากก็กำราบด้วยจูบ ป่วนมากก็หอมให้แก้มช้ำ แต่ยิ่งคิดว่าคนอย่างมันเคยเข้ามาเติมเต็มในที่เดียวกัน เขายิ่งต้องย้ำ ย้ำ
ย้ำว่าตรงนี้มันเป็นของกู!!!
“อ๊ะ!! อ๊ะ คุณคะ...ไค”
“ร้องดังๆ...คุณหนู ซี้ดดด!!”
“อื้มมมม....”
อยากร้องใจจะขาด...แต่การถูกเติมเต็มจนกายไหวพร้อมการถูกจูบเหมือนจะพรากลมหายใจมันก็ทำได้แค่เพียงจิกมือไว้บนแผ่นหลังของหนุ่มผิวเข้มและขยับสะโพกไปตามแรงปรารถนา มันวูบไหวเกินจะทัดทาน มันร้อนแรงเกินจะควบคุม แล้วเพลงรักที่เต็มไปด้วยทุกความรู้สึกก็ไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด มันทั้งรักทั้งหึงทั้งหวงและไม่อยากใครได้รู้จักผู้ชายที่ชื่อไคหรือคุณหนูโอเซฮุนอีกเลย
คนเถื่อนหวงตัวป่วนมากเท่าไหร่...ตัวป่วนก็หวงคุณไคมากเท่านั้น!!!
100%
Cr. ภาพในตอนพิเศษ :
lingkungshop.com
***กินบนเรือนขี้บนคา หมายถึง...เนรคุณ ไม่รู้จักบุญคุณ เหมือนผู้ที่อาศัยพักพิงบ้านเขาแต่กลับทำเรื่องเดือดร้อน สร้างความเสียหายให้เจ้าของบ้าน
***สลิปเปอร์
***เลโอ ( วงVIXX )
Talk.
โปรดเรียกฉันว่าตัวป่วนนนน ^-^)
ถึงฉากโคมไฟที่ไรมันก็ยากทุกทีและทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ (กราบบบบ)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคอมเม้นท์ที่มีให้กับฟิคเรื่องนี้
ส่วนใครที่รอ #ฝากเลี้ยงKH รบกวนรอไปก่อนนะคะ (ขออภัยจริงๆค่ะ T^T )
รัก ♡
#ออกเรือKH
ความคิดเห็น