ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) SF ออกเรือ (Kaihun Ft.Chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #7 : ❧ Special

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 65




    อื้มมมมม!!!


     

     

    21.00 น.

     

    แกร๊กกก!!!

     

     

                เสียงของประตูห้องน้ำ...พร้อมหนุ่มผิวเข้มที่เดินออกมาด้านนอกและสวมเพียงกางเกงนอนขายาว มันพาให้คนที่นอนอยู่บนเตียงกว้างต้องละสายตาจากนิตยสารแฟชั่นเพื่อสำรวจว่าเจ้าของกายสมส่วนเหมาะกับเสื้อผ้าชุดใดนิตยสารเล่มนี้มากที่สุด  แต่การสวมเพียงกางเกงนอนแล้วท่อนบนเปลือยเปล่ามันก็ทำให้ต้องรีบดึงสายตากลับมาที่หนังสือเล่มเดิมเพราะรู้สึกเขิน  ทั้งรอยสัก  ทั้งกล้ามท้องหรือจะเป็นรูปร่างที่สมส่วน  ทุกๆอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้มันพาลให้ใบหน้าเห่อร้อนไปหมด

     

     

                เห็นทีไรก็ใจเต้น!!?  มองทีไรก็ใจสั่น!!!?  และไม่เคยคิดว่ารอยสักพวกนั้นมันน่าเกลียดเหมือนที่พ่อเคยบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ  มือบางเปิดแผ่นกระดาษจากหน้าที่ยี่สิบไปเป็นหน้าที่ยี่สิบสามเพราะสติมันแทบไม่ได้อยู่กับแฟชั่นเสื้อผ้าในนิตยสารที่ตัวเองถือไว้เลยแม้แต่น้อย  ยิ่งเจ้าของกายสมส่วนเดินใกล้มาถึงเตียงเรื่อยๆหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย...สติมันก็ยิ่งเตลิดไปกันใหญ่

     

                “อ่านอะไรอยู่?”

     

                “............!!

     

                ไม่รู้ว่าจะตอบเช่นไร..เพราะกลิ่นกายของคนที่เพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ  หรือความใกล้ชิดที่ชิดจนต้องนอนหมอนใบเดียวกันและใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันมันก็พาลให้เรื่องราวในหนังสือถูกลืมไปอย่างง่ายดาย  ที่นอนก็ออกจะกว้าง...ทำไมคุณไคถึงต้องมานอนเบียดกับเขา?  ชุดนอนก็ซื้อมาให้...แต่ไม่เคยใส่เลยสักครั้ง??  แล้วทำไมตอนนอน...ถึงไม่ชอบใส่เสื้อ???  คุณหนูของตระกูลโอเป็นคนขี้ร้อน  เครื่องปรับอากาศภายในห้องก็เป็นอุณหภูมิที่คุณนมเห็นแล้วต้องส่ายหน้าทุกครั้งเพราะมันมักจะต่ำกว่ายี่สิบองศาเสมอ  แต่ถึงมันจะต่ำกว่ายี่สิบองศา...หนุ่มผิวเข้มก็ไม่เคยบ่นว่าหนาวหรือต้องหยิบเสื้อมาสวมเลยสักตัว

     

                “เซฮุนนน...ผมถามว่าอ่านอะไร??”

     

                “ก็อ่านไปเรื่อยนั่นแหละ”

     

                “แล้วทำไมไม่ไปนอนที่ห้องตัวเอง...เดี๋ยวคุณนมก็บ่นอีก”

     

                “นี่บ้านเรานะ...เราจะนอนที่ไหนก็ได้!!

     

                “แล้วเอาเสื้อผมไปใส่ทำไม  ชุดนอนของตัวเองก็มีเยอะแยะ?”

     

                “ถามมากจัง...นอนได้แล้ว  เราง่วง!!

     

                เรื่องที่เอาหนังสือมาอ่านบนเตียงก็ไม่อยากจะบ่น  เรื่องที่ไม่ยอมกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองก็ไม่อยากจะว่า  และการเอาเสื้อของเขามาใส่นอนมันก็ยังไม่ได้คำตอบ  สรุปแล้วคนที่มาอาศัยบ้านคนอื่นอย่างไอ้คุณไคคงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลยใช่ไหม...นอกจากอยู่เฉยๆ??!  ใช่ว่าน้อยใจหรือไม่สบอารมณ์กับคนในตระกูลโอ  แต่ทุกๆเช้ามันทำให้เขาถูกตำหนิเรื่องที่ลูกชายคนเดียวของตระกูลไม่ค่อยกลับทีนอนที่ห้อง  แล้วไหนจะเรื่องรอยสักของเขาอีก?  เฮ้อออ...ใครจะใส่เสื้อแขนยาวได้ทุกวัน??  อากาศร้อนจะตาย???  และนี่ก็ไม่ใช่ฤดูหนาว!!!!

     

                “ง่วงก็ไปนอนที่ห้องตัวเอง  ผมไม่อยากถูกบ่นทุกวันหรอกนะ!!

     

                ใช่ว่าอยากจะไล่...และตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ก็เกือบสามอาทิตย์เราก็เจอทุกวันหรือจะเรียกว่าตัวติดกันก็ยังได้  เขาจึงอยากให้เซฮุนกลับไปนอนที่ห้องตัวเองบ้าง  ไม่อย่างนั้นคุณนมคงต้องรายงานเรื่องนี้ให้คุณท่านทราบเข้าสักวัน  แล้วคนนอกอย่างเขาก็คงต้องโดนไล่ให้ไปอยู่กับพวกคนสวน  เรื่องที่หลับที่นอนไม่ใช่ปัญหาที่ไคกังวลเพราะเขานอนที่ไหนก็ได้และไม่เคยยึดติดกับการกินหรูอยู่สบาย  แต่ที่กังวลก็คือกลัวว่าคุณหนูที่ใครๆต่างก็รักก็ห่วงจะพลอยถูกตำหนิไปด้วย

     

                “..............”

     

                “เซฮุนละ...ลุก!!!

     

                มือหนา...คว้าผ้าห่มก่อนดึงออกจากตัวของคนที่เอาแต่นอนหันหลังไม่พูดไม่จาและทำเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่ได้ยิน  แล้วการทำเช่นนั้นก็พาให้ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรที่เคยมาแล้วแต่ก็ยังใจสั่นอยู่ดี  ชอบใส่จริงๆกางเกงนอนตัวนี้!??  แล้วถ้ามันจะสั้นขนาดนั้น...ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้มั้ง!!??  ก้นเป็นก้น  ขาเรียวยาว  ขาวฉิบหายยยยย!!!!  ใช่ว่าไม่เคยเห็นความสวยงาม  ความกลมกลึงหรือทุกสัดส่วนของคนตรงหน้ามาก่อนเพราะตอนอยู่ในป่าเขาก็เป็นคนจับเซฮุนแก้ผ้าเองกับมือ  แต่ถึงจะเห็นมาหมดแล้วก็ใช่ว่าไม่อยากมองหรือไม่อยากสัมผัสเพราะยิ่งได้เห็น  ยิ่งได้สัมผัส  ยิ่งได้นอนกอดกันทุกค่ำคืนมันยิ่งทำให้เขากลายเป็นคนนิสัยเสีย

     

    อยากทำมากกว่าการมอง  มากกว่าการสัมผัสและมากกว่าอะไรก็ตามที่เคยได้ใกล้ชิด...แต่ก็ไม่อยากให้ถึงขั้นที่ต้องถูกคุณท่านไล่ออกจากบ้าน 

     

                “เราจะนอนที่นี่!!

     

                “อย่าดื้อ!!!  ผมไม่ใช่คุณนม...ผมไม่ตามใจคุณหนูเซฮุนแน่ๆ  ไปเลย...กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง!

     

                “ได้!!!  แล้วเราก็ไม่ได้อยากให้ตามใจสักหน่อย...จากนี้ไปเราก็จะไม่มาเหยียบห้องนี้อีกแล้ว!!

     

                “เซฮุนไม่ชะ...ใช่”

     

                “แล้วก็เอาเสื้อคืนไปเลย...”

     

                ยังไม่ทันได้อธิบาย...หรือได้ปรับความเข้าใจว่าใครกำลังรู้สึกเช่นไร  ใบหน้าคมก็ถูกคนที่กำลังโดนความน้อยใจเข้าโจมตีปาเสื้อยืดสีดำใส่จนเต็มแรงก่อนที่เจ้าตัวจะลุกออกจากเตียงกว้างด้วยความโมโห  เซฮุนรีบสวมสลิปเปอร์***แล้วเดินไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว  และ......

     

                “เซฮะ...ฮุน!

     

                “ขอให้ฝันร้าย...ทุกคืน!!

     

    ปั้งงงง!!!!

     

                แล้วก็เป็นอีกครั้ง...ที่ยังไม่มีใครได้พูดหรือได้เอ่ยความรู้สึกที่แท้จริง  เพราะเสียงประตูที่ถูกปิดจนเสียงดังสนั่นไปทั้งบ้านและการจากไปของคนถูกไล่มันพาลให้ใคร  ไคและไค...ทำได้เพียงนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงกว้าง  ไม่ได้โกรธ...เรื่องที่ถูกปาเสื้อใส่หน้า  แถมอกบาง  เอวคอดหรือผิวขาวเนียนก็ยังคงติดตา  แต่ที่โกรธ...ก็เห็นจะเป็นความเข้าใจผิดที่ไม่มีสิทธิ์ได้อธิบาย  ไคบอกแล้วว่าไม่ได้มีเจตานาที่จะไล่ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน  แต่การที่เซฮุนมานอนกับเขาทุกคืน  มาเอาใส่ใจทุกวันและดูแลกันจนถึงวันนี้มันอาจทำให้เจ้าตัวถูกตำหนิ 

     

    แล้วจากที่เคยบอกฝันดีกันทุกคืน...ก็กลับกลายเป็นต้องมานอนฝันร้าย

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    04.00 น.

     

    ปึ่กก!!

     

                “เฮ้ออ....”

     

                เป็นเสียงถอนหายใจ...ของคนที่นอนไม่หลับและที่นอนไม่หลับก็เพราะเอาแต่ร้องไห้ทั้งคืน  ร้องไห้จนหมดแรงแล้วต้องลุกออกมาหาอะไรใส่ท้องในยามวิกาล  มือบางปิดตู้เย็นเมื่อได้นมเปรี้ยวและบัตเตอร์เค้กเนื้อนุ่มมออกมาทานก่อนที่ท้องจะร้องดังไปมากกว่านี้  ไฟในห้องครัวไม่ได้เปิด...แต่ก็ไม่ได้อุปสรรคต่อการนั่งทานเครื่องดื่มหรือขนมสุดโปรด  เซฮุนเดินฝ่าความมืดแล้วลากเก้าอี้มานั่งที่เคาน์เตอร์ห้องครัว  ปากบางงับหลอดขนาดเล็กก่อนดูดนมเปรี้ยวด้วยความหิว  แต่ของโปรดอย่างบัตเตอร์เค้ก...กลับถูกเขี่ยเล่นจนแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

     

    คนที่กำลังถูกความน้อยใจเล่นงาน...มันพาลให้ขนมฝีมือของคุณแม่ถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ!!?

     

                ทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยถูกใจหนุ่มผิวเข้มเลยสักอย่าง?  ขนาดสั่งบุหรี่จากต่างประเทศมาให้ก็ไม่เคยชมกันสักครั้ง??  เสื้อผ้าก็ซื้อมาให้ใส่ตั้งหลายแบบก็ไม่เคยคิดจะหยิบมาใส่???  พาออกไปเที่ยวก็ไม่เคยแสดงออกให้รู้ว่าชอบหรือไม่...ทุกๆอย่างที่คิดว่าทำดีที่สุดแล้วกลับไม่ดีเลยใช่ไหม!!?????  แล้วที่นอนด้วยกันทุกวันก็เพราะไม่อยากให้คุณไครู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว  แต่สุดท้าย...ก็ถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมา  คุณไคอยากได้อะไรก็ไม่เคยบอกเขาสักคำ  ถามก็ไม่ตอบ  พอหานู่นนี่มาให้ก็ไม่ถูกใจ  พาไปไหนก็มีแต่คนมอง...ฮือออออออ!!!  เอาใจอยากจริงๆ

     

                “ฮึก!!!.....”

     

                คิดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา...น้ำตามันก็ไหลออกมาอีกครั้ง  มือบางปาดความน้อยอกน้อยใจมาตั้งแต่ถูกไล่จนถึงตอนนี้ก็เหมือนว่าจะยังไม่หมด  และตั้งแต่มีใครอีกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต...เซฮุนก็เหมือนจะน้อยใจบ่อยเกินไป  แถมตอนนี้ก็ร้องไห้จนปวดตา  ปวดหัว  และ....

     

                “........???”

     

                “คุณหนู......”

     

                ไฟในห้องครัว...ถูกเปิดจนสว่างไปถึงห้องพักคนงาน  และนั่นก็ทำให้แม่ครัวใหญ่เห็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลโอนั่งอยู่ริมเคาน์เตอร์  หญิงสูงวัยรีบเดินไปหาคุณหนูทันทีเพราะอยากทราบว่าเจ้าตัวมาทำอะไรที่นี่ในเวลาแบบนี้??  ส่วนเซฮุนก็รู้สึกตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆไฟในห้องครัวก็ถูกเปิด  แต่ก็รู้สึกดี...ที่คนตรงหน้าไม่ใช่ผู้ที่เป็นสาเหตุของน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล  ไม่อย่างนั้นคงต้องปวดหัวมากกว่านี้แน่ๆ

     

                “คุณป้า....”

     

                “คุณหนูมาทำอะไรตรงนี้ค่ะ  แล้วป่านนี้ทำไมยังไม่นอน”

     

                “หนูหิว  แล้วก็ปวดหัว...”

     

                แม่ครัวอย่างเธอรู้ดี...ว่าไม่ใช่แค่หิวหรือแค่ปวดศีรษะแน่ๆที่ทำให้คุณหนูเซฮุนต้องลงมาที่นี่  เพราะถ้าหิวจริงๆก็คงไม่ร้องไห้และถ้าปวดหัวก็คงเดินไปหยิบยามากินแล้วก็นอนพัก  แต่นี่อะไร???...ร้องไห้ไปกินนมไปแถมของโปรดอย่างบัตเตอร์เค้กก็ถูกเขี่ยเล่นจนเละเทะไปหมด  ดวงตาคู่สวยบวมช้ำ  จมูกโด่งๆนั่นก็สูดน้ำมูกจนแดงไปหมด  แล้วแบบนี้ยังจะมาโกหกว่าหิวว่าปวดหัวอีก...น่าตีจริงๆ

     

                “อยากทานอะไรอีกไหมคะ  เดี๋ยวป้าทำให้ทาน?”

     

                “ฮึกก...แล้วคุณป้าตื่นมาทำอะไรฮะ?”

     

                “ก็มาเตรียมอาหารเช้าให้คุณหนูไงคะ  คุณหนูนั่นแหละค่ะ  ลงมาทำอะไร...หรือเสียใจเรื่องอะไรคะ  เล่าให้ป้าฟังได้ไหม?”

     

                “คิดถึงคุณแม่...เมื่อไหร่คุณแม่  คุณนมแล้วก็คุณพ่อจะกลับ”

     

                “ถ้าโกหกอีก...ป้าจะไม่ทำขอโปรดให้ทานนะคะ”

     

                “ฮึกก...คุณป้าใจร้าย”

     

                คนอย่างคุณหนูโอเซฮุน...ไม่มีทางคิดถึงคนที่ต้องไปทำงานต่างประเทศแน่นอน  เพราะการที่ผู้ปกครองไม่อยู่บ้านหรือแม้กระทั่งการที่คุณนมต้องตามไปดูแลคุณหญิงก็เป็นเรื่องที่ปกติมากๆสำหรับบ้านหลังนี้  และทุกครั้งที่คุณหนูมีเรื่องไม่สบายใจ  ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกับคุณพ่อ  ถูกคุณพ่อตีและมีปัญหาเพื่อนๆที่โรงเรียน  ห้องครัวห้องนี้ก็มักจะเป็นที่ที่คุณหนูต้องมานั่งร้องไห้เสมอ  แล้วก็เป็นแม่ครัวอย่างเธอที่ต้องทำของโปรดให้ทานจนกว่าเจ้าตัวจะหายเศร้า  ตอนเด็กๆเคยเป็นเช่นไร...โตเป็นหนุ่มแล้วก็ยังเป็นเช่นนั้น

     

                “ค่ะ...ป้าใจร้าย  สงสัยต้องโดนคุณท่านไล่ออก”

     

                “ฮึกก...ห้ามไล่  ฮืออออออ!

     

                ให้ตายเถอะ...เกิดมาเป็นแม่ครัวให้ตระกูลโอตั้งแต่คุณท่านแต่งงานใหม่ๆจนตอนนี้ลูกของท่านมานั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงหน้า  แต่เธอก็ไม่เคยเห็นคุณหนูเซฮุนเสียใจอะไรมากเท่านี้มาก่อน  มือหยาบกร้านของหญิงสูงวัยถือวิสาสะโอบกายคนเจ้าน้ำตามากอดไว้ด้วยความเป็นห่วง  เห็นมาตั้งแต่ยังแบเบาะ  วิ่งเล่นหกล้มจนได้เลือดได้แผลก็ไม่เคยร้องไห้จนตัวสั่นตาบวมขนาดนี้  ใจของแม่ครัวที่เห็นคุณหนูมานาน...เหมือนถูกบีบเอาไว้จนหายใจไม่ออก  เจ็บแทนได้ก็อยากเจ็บ  ปวดแทนได้ก็อยากปวด  และทุกๆความเสียใจก็ยากแบกรับเราไว้เอง

     

                “ถ้าคุณท่านทราบว่าคุณหนูเป็นแบบนี้  ป้าก็ต้องถูกไล่ออกแน่ๆค่ะ”

     

                “หนูจะปกป้องคุณป้าเอง...”

     

                “ป้าก็อยากปกป้องคุณหนูเหมือนกันนะคะ  คุณหนูเสียใจเรื่องอะไร...ป้าช่วยได้ไหม?”

     

                “คุณไคไม่รักหนู...”

     

                เป็นคำตอบ...ที่ทำให้แม่ครัวอย่างเธอทราบดีว่ามันไม่จริง  ไม่มีใครที่ได้อยู่ใกล้คุณหนูแล้วจะไม่รัก  ไม่มีใครที่ได้รู้จักคุณหนูแล้วจะไม่หลง  น่ารักขนาดนี้  ขี้อ้อนขนาดนี้  ใครไม่รักใครไม่หลงก็คงตาบอดเต็มที  ตอนเธอป่วยก็คอยไปเยี่ยม  แถมยังแกะผลไม้ป้อนให้ถึงปาก  แล้วลูกของคนสวนที่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียนก็ได้คุณหนูของเธอนี่แหละที่ช่วยเรื่องการใช้จ่าย  ถึงคุณหนูจะดื้อไปบ้างหรือเอาแต่ใจจนบางทีก็ทำให้เธอปวดหัว  แต่คุณหนูของตระกูลโอก็จิตใจดีไม่แพ้ใคร

     

                “แล้วคุณหนูรู้ได้ยังไงคะว่าคุณไคไม่รัก”

     

                “ก็คุณไคไม่ให้หนูนอนด้วย  คุณไคไล่หนูอย่างกับหมาข้างถนน”

     

                “ไม่เอาค่ะ...พูดไม่เพราะเลยนะคะ”

     

                “ก็มันจริงหนิ...คุณไคบอกแบบนี้  คุณป้าฟังนะ (ไปเลย...ไปนอนห้องตัวเองเลย  ผมไม่ตามใจคุณหรอกนะ  ไปเลย!!)  แบบเนี่ย!!

     

                ถ้าไม่ได้เลี้ยงหรือได้เห็นคุณหนูมาตั้งแต่เล็ก...แม่ครัวคนนี้คงเชื่อตามที่เจ้าของเสียงเจื้อยแจ้วฟ้องให้ฟังเป็นฉากๆ  เพราะน้ำตาที่ไหลมันเหือดแห้งและดวงตาคู่สวยที่เคยฉายแววแห่งความโศกเศร้าก็เปลี่ยนเป็นความดื้อรั้น  แล้วถ้าเธอเป็นคุณนม...ก็คงได้หยิกคุณหนูโอเซฮุนสักทีสองที  คนเป็นแม่ครัวได้แต่เดินไปหยิบบัตเตอร์เค้กชิ้นใหม่มาให้คุณหนูใช้ดับอารมณ์ก่อนนำอันเก่าที่ถูกเขี่ยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปทิ้งลงในถังขยะ

     

                “คุณไครักคุณหนูมากนะคะ  แล้วเรื่องที่คุณหนูถูกไล่...ก็คงเพราะเป็นห่วงว่าคุณหนูจะถูกคุณพ่อดุ”

     

                “เป็นห่วงแล้วทำไมไม่พูดออกมา  เอะอะก็ไล่อย่างเดียว”

     

                “อันนี้ป้าก็ตอบแทนไม่ได้นะคะ  คุณหนูต้องไปถามเจ้าตัวเค้าเอง”

     

                “หนูไม่อยากคุยกับคุณไคแล่ว  เดี๋ยวก็ถูกไล่อีก...คนอะไรก็ไม่รู้  เอาใจยากชะมัด  หนูพาไปเที่ยวก็ไม่ชอบ  ซื้อเสื้อผ้าให้ตั้งเยอะก็ไม่ใส่  อยากนอนด้วยก็ไม่ให้นอน!!

     

                “รักเค้าขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณหนู”

     

                “อะไร...ใครรัก  หนูป่าวนะ!!

     

    บัตเตอร์เค้กชิ้นแรกถูกเขี่ยจนเละด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่อาจทราบได้  แต่บัตเตอร์เค้กชิ้นนี้...แม่ครัวอย่างเธอขอฟันธงได้เลยว่ามันถูกเขี่ยไปเขี่ยมาจากความเขินอาย

     

                “ไม่รักก็ไม่รักค่ะ  ป้าเชื่อก็ได้  แต่ป้าก็อยากให้คุณหนูเชื่อด้วยนะคะว่าคุณไครักคุณหนูมากที่สุด”

     

                “ละ...แล้วป้ารู้ได้ไง”

     

                “ก็ตอนที่คุณหนูไปเก็บของที่ทำงาน  คุณไคเอาแต่เดินวนไปวนมาจนคนในบ้านเวียนหัวไปหมด  ป้าถามว่าทำไมไม่ไปกับคุณหนู  เค้าก็บอกว่ากลัวคุณหนูจะอายเพื่อนๆ  แล้วเรื่องเสื้อผ้าที่คุณหนูซื้อมา...คุณไคก็ไม่อยากใส่เพราะว่ามันแพง...เสียดายของ  จะเก็บไว้ใส่ตอนที่ออกไปเที่ยวกับคุณหนูเท่านั้น”

     

                “คุณไคบอกคุณป้าเหรอ?”

     

                “เค้าไปบ่นให้คนสวนฟังนู้นนนน  แล้วพวกเด็กๆก็มาเล่าป้าฟัง”

     

                “ทีคนอื่นพูดได้พูดดี  ทีกับหนูเอาแต่ไล่”

     

                จำได้ดี...ว่าวันก่อนต้องไปเก็บของที่ทำงานกลับมาที่บ้านเพราะผลจากการลาออกจากงานวิจัยได้ถูกอนุมัติแล้ว  แต่วันนั้นคุณไคไม่ยอมไปด้วย  ชวนเท่าไหร่ก็บ่ายเบี่ยง  บอกเท่าไหร่ก็ปฏิเสธและสุดท้ายเขาก็ต้องไปเก็บของคนเดียว  แล้วกว่าจะได้กลับบ้านก็เกือบสามทุ่ม  เพื่อนๆทุกคนต่างอยากทราบเหตุผลของการลาออก  ทั้งเลย์  ทั้งจุมยอนรวมถึงเฉินและซิ่วหมินต่างก็ไม่เคยรู้เรื่องมีมาก่อน  ยิ่งเพื่อนสนิทอย่างแบคฮยอนมาลาออกพร้อมกันก็ยิ่งทำให้ทุกคนเกิดความสงสัย

     

                “แล้วเรื่องบุหรี่ก็ไม่ต้องซื้อมาบ่อยนะคะ  คนอยากเลิกก็เลิกไม่ได้สักที”

     

                “คุณไคเนี่ยนะ...จะเลิกบุหรี่?”

     

                “แล้วป้าจะสร้างเรื่องมาโกหกคุณหนูทำไมกันคะ?”

     

                “หนูไปนอนดีกว่า  ง่วงแล้ว  ฝันดีนะฮะคุณป้า  แล้วอาหารเช้าขอเป็นพวก...แฮม  ไข่ลวก  ขนมปัง  แล้วก็ซุปครีมทูน่านะฮะ  คุณไคไม่ชอบทานข้าวต้ม”

     

                “รับทราบค่ะคุณหนู...ฝันดีนะคะ”

     

                หาคำมาตอบโต้ไม่ได้ก็แกล้งหาวจนปากกว้าง...แถมยังสั่งมื้อเช้าในแบบที่รู้ใจหนุ่มผิวเข้มได้ทุกอย่าง  เฮ้ออออ...คุณหนูนะคุณหนู  น่าตีจริงๆ  งอนคุณไคแทบเป็นแทบตาย  นั่งร้องไห้อยู่นอนสองนาน  แต่แล้วก็ต้องยิ้มให้กับเรื่องที่แม่ครัวคนนี้กล่าวให้ฟัง  เธอขอสาบานว่าเรื่องที่พูดไปทั้งหมดคือเรื่องจริง  คุณไคพยายามทำให้คุณหนูยังเป็นคุณหนูเหมือนเดิม  คุณไคไม่อยากดึงให้คุณหนูของเธอต้องตกต่ำหรือโดนดูถูกไปมากกว่านี้  การรับคนต่างถิ่นให้เข้ามาอาศัยร่วมชายคาเดียวกัน...มันก็คือว่ามากเกินพอแล้ว  ยิ่งคุณหนูเอาใจ  ดูแลหรือทำให้พ่อหนุ่มคนนี้สุขสบายมากขึ้นเท่าไหร่  คุณไคก็ยิ่งเกรงใจมากขึ้นเท่านั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

    07.50 น.

     

    แกร๊กก!!!

     

              “อ้าวว...คุณเซฮุนล่ะครับ?”

     

                เสียงจานชามช้อนส้อม...ที่กำลังถูกจัดเรียงอยู่บนโต๊ะอาหารถูกแทรกขึ้นด้วยเสียงทุ้มที่เอ่ยถามถึงคุณหนูคนโปรด  แม่บ้านสาววางชามซุปสำหรับสองที่เพราะคุณท่านกับคุณหญิงไม่อยู่บ้าน  ส่วนอาหารเช้าอีกหลายชนิดอย่างแฮม  ไข่ลวกหรือเบค่อนก็เริ่มทยอยนำออกมาวางเมื่อจานชามทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อย

     

                “ไม่ทราบค่ะ...สงสัยยังไม่ตื่นมั้งคะ”

     

                คงไม่มีเหตุผลใดนอกจากข้อนี้...เพราะยิ่งคุณท่านไม่อยู่บ้าน  คุณหนูเซฮุนก็คงไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาทานอาหารร่วมกับครอบครัว  กฎต่างๆภายในบ้านจะถูกยืดหยุ่นไปตามนิสัยของเจ้าตัว  มื้อเช้าเคยเริ่มตอนแปดโมงก็อาจถูกเลื่อนออกไปเป็นสิบโมง  ส่วนมื้อเที่ยงไม่ต้องพูดถึงและมื้อเย็นที่ต้องเริ่มจัดโต๊ะตอนสิบแปดนาฬิกาก็มักจะถูกเลื่อนออกไปเป็นสิบเก้านาฬิกาเสมอเมื่อคุณท่านและคุณหญิงไม่อยู่บ้าน  แล้วบ้างครั้ง...มื้อเย็นก็ไม่ต้องเตรียมอะไรไว้เลยเพราะคุณหนูเซฮุนจะออกไปทานอาหารกับเพื่อนๆ

     

                “งั้นผมขอรบกวนอะไรหน่อยได้ไหมครับ?”

     

                “ได้ค่ะ...”

     

                “ช่วยเอาอาหารเช้าไปจัดบนห้องของผมได้ไหมครับ...เดี๋ยวผมช่วย”

     

                “เอ่ออ...ขอไปถามคุณแม่บ้านก่อนนะคะ?”

     

                ขอพูดตรงๆ...ว่าเป็นสาวใช้ที่นี่มาหลายปีก็ไม่เคยต้องไปจัดมื้อเช้าที่ห้องนอนของใคร  แล้วคำขอร้องของหนุ่มผิวเข้มก็ทำให้สาวใช้อย่างเธอเกิดความไม่แน่ใจจนต้องรีบไปขออนุญาตแม่ครัวใหญ่  ส่วนสาวใช้คนอื่นๆก็จำเป็นต้องหยุดการทำหน้าที่ต่างๆเอาไว้ชั่วคราวเพราะมื้อเช้าที่เคยจัดในห้องห้องนี้มันอาจต้องย้ายไปอีกห้องหนึ่ง  และ...มันก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อคำขอร้องของเพื่อนคุณหนูได้รับการอนุมัติจากแม่ครัวใหญ่

     

                “ผมช่วยนะครับ”

     

                “ช่วยไปเปิดประตูห้องดีกว่าค่ะ   เดี๋ยวทางนี้พวกเราจัดการเอง”

     

                “ครับๆ...ขอบคุณมากนะครับ”

     

                รีบวิ่งขึ้นไปเปิดประตูห้องด้วยความดีใจ...เพราะไม่คิดว่าคำขอร้องของตัวเองจะได้การอนุญาต  และถ้าวันนี้คุณท่านกับคุณหญิงอยู่บ้าน  เขาก็คงไม่มีทางได้ทานมื้อเช้าที่ห้องแน่นอน  มือหนาเปิดประตูห้องค้างไว้ก่อนเดินไปโกยของที่อยู่บนโต๊ะหนังสือออกไปจนหมด  จานชามช้อนส้อมถูกจัดเรียงใหม่อีกครั้ง  ถ้วยซุป  แก้วน้ำ  ตะกร้าใส่ขนมปังรวมถึงเนยกับแยมก็ถูกวางไว้อย่างเหมาะสม  และมันก็คงเป็นมื้อเช้าที่สาวใช้ไม่ต้องอยู่เพื่อช่วยตักนั่นหยิบนี่หรือคอยเติมน้ำผลไม้ให้คุณหนูของตัวเอง

     

                “ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ?”

     

                “ไม่ครับ  ขอบคุณมากนะครับ”

     

                “ถ้าขาดเหลืออะไรก็เรียกได้เลยนะคะ”

     

                “ครับ...ขอบคุณครับ”

     

                โค้งกาย...เพื่อขอบคุณสำหรับการทำงานของสาวใช้ที่ดูเหมือนจะเกินหน้าที่ในวันนี้  เพราะถ้าเขาไม่ขอร้องให้นำมื้อเช้ามาจัดที่ห้องนอน  พวกเธอก็คงได้ไปทำอย่างอื่นแทนที่จะต้องมาคอยรับใช้คนนอกอย่างเขา  ส่วนผู้เป็นสาวใช้ก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือทุกคนในบ้านหลังนี้  ถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะเข้ามาอาศัยได้เพียงไม่กี่สัปดาห์  แต่เธอก็พร้อมที่ช่วยเหลือเสมอเพราะถ้าผู้ชายคนนี้ไม่สำคัญหรือไม่ใช่คนที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของบ้าน...คุณท่านกับคุณหญิงก็คงไม่มีทางอนุญาตให้มานอนบนตึกใหญ่

     

     

                เมื่อสาวใช้ทุกคนกลับลงไปข้างล่างหมดแล้ว...ไคจึงรีบปิดประตูห้องของตัวเองก่อนเดินไปยังห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม  ตั้งแต่มีปากเสียงกันไปเมื่อคืนก็ใช่ว่าเซฮุนคนเดียวที่นอนไม่หลับเพราะเขาก็นอนไม่หลับเช่นกัน  ไม่มีกลิ่นกายหอมๆให้ดม  ไม่มีผิวเนื้อนุ่มๆให้กอด  ไม่มีใครบอกฝันดี...แถมยังถูกแช่งให้นอนฝันร้าย  และที่สำคัญ...ไม่มีรอยจูบพร้อมรอยยิ้มหวานๆให้เชยชม 

     

    เฮ้ออออ...คิดถึงจะแย่

     

     

    แกร๊กก!!!

     

                “.......??”

     

                ไม่ได้สงสัยที่ประตูห้องไม่ได้ถูกล็อคเพราะมันคือเรื่องปกติ...เป็นคุณหนูที่ต้องถูกคุณนมปลุกแทบทุกเช้าและถ้าประตูมันล็อค  คุณหนูคนโปรดก็จะโดนทำโทษด้วยการถูกหยิก  เป็นบ้าน  เป็นครอบครัว  เป็นกฎระเบียบที่ผู้เป็นเจ้าของสั่งเอาไว้  คนเป็นลูกห้ามมีความลับกับพ่อแม่  ทุกซอกทุกมุมของห้องสามารถถูกตรวจค้นได้เสมอถ้าคุณท่านต้องการ  ส่วนเรื่องที่สงสัยก็คือเรื่องที่คุณหนูของบ้านหลังนี้ไม่ได้เปิดแอร์จนหนาวแทบติดลบเหมือนเช่นทุกครั้ง จากอุณหภูมิที่เคยปรับไว้สิบเก้าองศาถูกเปลี่ยนไปเป็นยี่สิบห้าองศา  ไฟทุกดวงที่ต้องปิดให้หมดเมื่อถึงเวลานอนกลับถูกเปิดไว้ที่โคมไฟหัวเตียง  และที่น่าสงสัยมากที่สุดคือคือ...ดวงตาคู่สวย??

     

     

                ไค...หย่อนกายนั่งลงบนเตียงด้วยความระมัดระวังก่อนใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยเบาๆที่ดวงตาข้างหนึ่ง  ทำไมมันบวมขนาดนี้?  เมื่อคืนร้องไห้ใช่ไหม??  แล้วได้นอนบ้างหรือเปล่า???  ไม่แปลกใจที่คนโปรดของทุกคนในบ้านยังไม่ตื่นเพราะทุกอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้มันฟ้องทุกอย่างได้ดี  ไคใช้หลังมือเพื่อวัดอุณหภูมิในร่างกายของคนที่ยังหลับพริ้มอยู่บนเตียงกว้างด้วยเกรงว่าเจ้าตัวจะป่วยไข้  และดี...ที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น  แต่เหงื่อที่ไหลซึมจนชุดนอนเปียกชื้นไปหมดก็ทำให้เขาจำเป็นต้องปลุกเซฮุนให้ตื่นก่อนที่จะป่วยขึ้นมาจริงๆ

     

                “เซฮุน”

     

                “........”

     

                “เซฮุน....ตื่นได้แล้ว”

     

                “อื้อออ...”

     

                “ตัวป่วนครับ...ตื่นได้แล้วครับ!

     

                “..........??!

     

                อะไรป่วนๆ...อะไรครับๆ???  เพิ่งเริ่มรู้สึกว่ามันร้อน  ขาเรียวจึงถีบผ้าห่มออกจากร่างกายก่อนพยายามปรับโฟกัสสายตาเพื่อมองหาเจ้าของเสียงทุ้ม  และ...จากที่ถีบผ้าห่มอยู่เมื่อครู่ก็กลับต้องดึงมันขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้เพราะเมื่อเห็นทุกอย่างชัดเจนมากขึ้น  เรื่องราวที่แม่ครัวใหญ่เล่าให้ฟังคืนก็ดังก้องให้ได้ยินจนรู้สึกเขิน 

     

              “คุณไครักคุณหนูมากนะคะ”

              “คุณไคกำลังเลิกบุหรี่”

              “แล้วที่ถูกไล่ให้กลับไปนอนที่ห้องก็เพราะเป็นห่วง  กลัวคุณท่านจะว่า  กลัวคุณหนูจะถูกตำหนิ”

     

    ฮืออออออออ...ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!!!!!!

     

                “เป็นอะไร...ปวดหัวเหรอ?”

     

                “..........”

     

                “เซฮุน....”

     

                “ไม่ได้ปวดหัว  เราสบายดี”

     

                “สบายดีแล้วทำไมตาบวม  เมื่อคืนร้องไห้ใช่ไหม”

     

                “ป่าวร้อง...”

     

                “โกหก...แล้วถ้าไม่ลุกมาคุยกันดีๆจะโดนหยิก!!

     

                รีบลุกขึ้นนั่งหลังตรง...ก่อนสะบัดผ่าห่มออกจากร่างกายอีกรอบเพราะทนร้อนไม่ไหวและยังไม่อยากถูกหยิกจนเนื้อเขียว  ถ้ามันเป็นคำขู่ของคุณนมก็คงยังนอนอยู่เหมือนเดิมแถมยังแกล้งคนแก่ให้หัวใจวายด้วยการเล่นหลอกผี  แต่เมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่คุณนมและเป็นคนที่พูดจริงทำจริงเสมอ...คุณหนูอย่างเขาจึงไม่กล้าแม้กระทั่งสบสายตาคม

     

                “จะคุยอะไร!!  ใจหนึ่งยังกลัว แต่อีกใจก็ยังดื้อรั้นไปตามนิสัย

     

                “เมื่อคืนร้องไห้ใช่ไหม?”  ไม่ได้อยากทำให้กลัว  แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็คงเอาแต่ใจอยู่อย่างนั้น

     

    และใบหน้าเรียว...ที่ก้มไว้จนแทบชิดอกก็พาให้มือหนาต้องเชยคางมนเพื่อสบจ้องดวงตาคู่สวย

     

                “ป่าวร้อง...”

     

                “ตาบวมขนาดนี้...ยังจะโกหกอีก”

     

                “เออ...ร้องก็ได้  แล้วจะทำไมล่ะ!

     

                “แล้วร้องทำไม?”

     

                “แล้วมาไล่ทำไมล่ะ?”

     

                “มาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่แล้วยังจะมานอนกอดลูกชายเค้าอีก...คุณเคยคิดบ้างไหมว่าคุณพ่อจะรู้สึกยังไง”

     

                “คุณพ่อไม่รู้สักหน่อย”

     

                “สักวันก็ต้องรู้”

     

                “เออ...ไม่อยากนอนด้วยก็ไม่ต้องนะ...นอน  โอ๊ยย!!  เจ็บนะ  เราจะฟ้องคุณแม่!!

     

                ยิ่งพูดยิ่งเถียง...ยิ่งอธิบายก็ยิ่งดื้อ  เจ้าของผิวเนื้อขาวเนียนจึงถูกหยิกจนต้องส่งเสียงร้องพร้อมกับลูบต้นขาไปมาก่อนเบะปากเหมือนทุกครั้งที่ถูกขัดใจ  ฮือออ...ขาเขียวแน่ๆ  ทำไมคุณไคชอบทำให้ร่างกายของเขามีรอยช้ำ  วันก่อนที่แขน  วันนี้ที่ขา  แล้วพรุ่งนี้จะโดนอีกล่ะ????!!  แต่....

     

    จุ๊บบ!!

     

                “อยากให้เข้าใจ...ไม่อยากให้ดื้อ”

     

                “ไม่ดื้อแล้ว...แต่ห้ามจูบอีกนะ  เรายังไม่ได้แปรงฟัน”

     

                เรื่องความสะอาดไม่ใช่ปัญหา...แต่ที่เป็นปัญหาคือสายตมคมที่เคยดุดันกลับดูอบอุ่นจนหัวใจวูบไหว  แถมรอยจูบเพียงแผ่วเบาก็พาให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ  มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นปิดปากหยักเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะถูกจูบจนหลอมละลายไปกับความอบอุ่น  คุณหนูเซฮุนอยากให้คุณไคดุมากกว่าทำอะไรที่ดูอ่อนโยนแบบนี้  มันไม่ชิน  มันเขิน  มันใจเต้น...แล้วการถูกดึงมือให้มาโอบเอวสอบเอาไว้และถูกความอบอุ่นที่มากกว่าเดิมสวมกอดจนเต็มอ้อมแขนก็พาให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีก

     

                “ขอโทษ...ทีหลังจะไม่ไล่แบบนั้นอีกแล้ว  แต่ผมเป็นห่วงคุณจริงๆนะ  ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกไปนอนกกนอนกอดกับคนอื่นหรอก”  ลูบแผ่นหลังของคุณหนูด้วยความรู้สึกที่ยากจะเอ่ย  เป็นห่วง  รู้สึกผิด  รักและอีกสารพัดที่จะรู้สึกได้

     

                “ก็อยากนอนด้วยหนิ  เราอยากอยู่กับคุณไคทุกวัน  เราไม่อยากทิ้งคุณไคให้อยู่คนเดียว  เรากลัวคุณไคเบื่อเพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณไค”  การมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมันไม่ใช่เรื่องสนุกของคนต้องย้ายมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย  ทั้งภาษา  อาหารหรือแม้กระทั่งการหลับนอน  ทุกๆอย่างเป็นเรื่องที่คุณไคต้องปรับตัว  เซฮุนจึงอยากทำให้คนในอ้อมกอดตอนนี้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือเหมือนถูกทอดทิ้ง

     

    ต่างคนต่างสรรหาสิ่งที่คิดว่าดีเพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุขมากที่สุด  แต่แล้ว...สิ่งที่ดีที่สุดก็คงเป็นตอนนี้

     

                ได้กอด  ได้ใกล้ชิด  ได้ปรับความเข้าใจและได้รับรู้ว่าต่างคนต่างคิดเช่นไร  ใบหน้าเรียวสวยซบลงไปบนไหล่กว้าง  สองมือสองแขนโอบกันไว้ไม่ยอมปล่อย  มือหนากระชับเอวคอดให้แน่นขึ้นก่อนที่อีกมือก็คอยลูบหัวคุณหนูตัวป่วนด้วยความห่วงใย  เป็นตัวป่วนที่ป่วนสมชื่อจริงๆ...ห้องตัวเองมีก็ไม่ยอมนอน  เสื้อผ้าตัวเองมีก็ไม่ใส่  แล้วถ้าดื้อกว่านี้ก็คงต้องถูกหยิกจนตัวลาย  ใช่ว่าอยากลงโทษลูกชายของคุณท่านด้วยวิธีนี้เพราะผิวเนื้อเนียนขาวมันไม่ควรมีร่องรอยเขี้ยวช้ำอะไรทั้งนั้น  แต่ถ้าลูกชายของท่านจะดื้อขนาดนี้...เขาก็คงต้องลงโทษไปตามสมควร

     

                “ไปกินอาหารเช้ากัน...ผมให้แม่บ้านเตรียมไว้ที่ห้องนู้น”

     

                “จริงเหรอ  ได้กินอาหารเช้าที่ห้องนอนเนี่ยนะ”

     

                “จริง...ป่านนี้เย็นหมดแล้วมั้งเพราะมีคนตื่นสาย”

     

                “ป่าวสายสักหน่อย...ก็ไม่มีใครมาปลุกหนิ”

     

                “งั้นคืนนี้ก็มานอนด้วยกัน...เดี๋ยวผมจะปลุกคุณเอง”

     

                “นอนด้วยกันจนกว่าคุณพ่อจะกลับมาเลยนะ”

     

                “ถึงวันนั้นค่อยว่ากันอีกที  ตอนนี้ไปอาบน้ำได้แล้วไป...เดี๋ยวผมไปรอที่ห้อง”

     

    จุ๊บบ!!

     

                ฝังความดีใจ...ไว้บนสันกรามคมด้วยความรวดเร็วและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่จะถูกหยิกอีกรอบ  เกิดมาก็เพิ่งได้ทานมือเช้าในห้องนอนเป็นครั้งแรกเพราะกฎระเบียบของบ้านหลังนี้มันคือข้อห้าม  ห้องนอนมีเอาไว้นอน...ไม่ใช่เอาไว้กินข้าวเพราะกลิ่นของอาหารมันจะไปติดอยู่ตามหมอน  ผ้าห่มหรือผ้าม่านซึ่งมันไม่ควรเป็นเช่นนั้น  แต่วันนี้มันเหมือนกฎระเบียบต่างๆจะถูกลืมไปชั่วคราวเนื่องจากคนออกกฎไปทำงานที่ต่างประเทศ

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    18.00 น.

     

    VROOMMMMM!!!! 

     

                “เซฮุนอยู่ไหม?”

     

                “อยู่ครับคุณเลโอ

     

                “อยู่ก็เปิดประตูสิ!!

     

                “ครับๆ ๆ...”

     

                ทั้งเสียงรถและเสียงที่สั่งให้เปิดประตูรั้ว...มันทำให้คนเป็นผู้รักษาความปลอดภัยที่ทำงานอยู่หน้าบ้านต้องรับกดรีโมตเพื่อเปิดประตูขนาดใหญ่  เขาไม่เคยเห็นคุณเลโอมาที่นี่อีกเลยนับตั้งแต่เลิกรากับคุณหนูไปเมื่อเดือนที่แล้ว  และเวลานี้ก็ไม่สมควรจะมาที่นี่เพราะมันใกล้ค่ำแถมคุณท่านกับคุณหญิงก็ไม่อยู่บ้าน  แต่จะให้ลูกจ้างอย่างเขาเอ่ยห้ามหรือปฏิเสธและไม่ต้อนรับคนแบบคุณเลโอมันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะครอบครัวของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างสนิทสนมกับคนตระกูลโอ  แถมยังเคยเป็นคนรักเก่าของคุณหนู

     

                “สะ...สวัสดีค่ะคุณเลโอ”

     

                เป็นอีกคน...ที่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้เดินเข้ามาในบ้าน  และถ้าทำได้ก็ไม่อยากให้มาที่นี่อีกเลยเพราะคุณหนูเซฮุนคงไม่ประสงค์ที่จะพบเจอ  สาวใช้เอ่ยทักทายออกไปตามมารยาทที่สมควร  แต่การที่ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าไปทำเหมือนเธอเป็นธาตุอากาศกลับพาให้สาวใช้ต้องระงับทุกอารมณ์ก่อนที่จะถูกไล่ออก  เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ  เป็นคนที่ไม่น่าคบหาและดีที่คุณหนูของเธอเลิกกับคนแบบนี้ไปได้

     

                “เซฮุนอยู่ไหน!!

     

                “อยู่บนห้องค่ะ”

     

                “ไปตามลงมา”

     

                “เอ่ออ...”

     

                “บอกให้ไปตามลงมาไง!!!

     

                “ค่ะๆ ๆ...”

     

                “เดี๋ยว...อย่าเพิ่งไป!!

     

                “คะ?”

     

                “ไปหาของว่างมาให้ผมก่อน”

     

                “ค่ะ...”

     

                ตกลงจะให้ทำอะไรกันแน่...สาวใช้อย่างเธอเริ่มสับสนและเริ่มรู้สึกกลัวกับน้ำเสียงที่ผู้ชายคนนี้ใช้ในการสื่อสาร  หญิงสาวรีบโค้งตัวก่อนวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมของว่าง  แล้วการที่คุณท่านคุณหญิงหรือคุณนมไม่อยู่ก็พาลให้บ้านหลังนี้ไม่มีใครคอยกำราบผู้ชายอย่างคุณเลโอ  และด้วยเหตุผลข้อนี้...เจ้าของร่างสูงจึงกล้าเข้ามาที่นี่ไม่อย่างนั้นก็คงถูกห้ามตั้งแต่หน้าประตูรั้ว

     

     

                ขายาวสมส่วน...ในกางเกงยีนส์ราคาแพงรีบก้าวขึ้นมาชั้นบนเมื่อเห็นสาวใช้เดินออกไปจากห้องรับรอง  เป็นวันที่ต้องได้คำตอบว่าทำไมเซฮุนถึงต้องลาออกจากงานวิจัยทั้งๆที่เป็นงานที่รักมากที่สุด  แถมยังเป็นการลาออกโดยที่ไม่บอกเขาสักคำ  เป็นแฟนกันมาหนึ่งปี  เป็นหัวหน้างานมาอีกห้าปี...แต่คนที่เป็นทั้งลูกน้องและเป็นคนรักเก่ากลับทำทุกอย่างข้ามหน้าข้ามตาไปหมด  จะลาออกทั้งทีแต่ไปขอการอนุมัติจากทางศูนย์ใหญ่  ซึ่งหัวหน้าทีมอย่างเขาถือว่าเป็นการหักหน้ากันชัดๆ

     

    แกร๊กก!!!

     

                เปิดประตูห้องด้วยความร้อนใจเพราะเกรงว่าจะถูกสาวใช้เข้ามาขัดจังหวะก่อนกดล็อคทันที...และคนที่อยากพบหน้าเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมดก็กำลังนอนอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่บนเตียง  ส่วนคนที่ไม่ได้สนใจแม้กระทั่งเสียงเปิดประตูหรือคนที่เดินเข้ามาด้านในก็เอาแต่เลือกเสื้อผ้าตามคอลเล็คชั่นต่างๆบนหน้ากระดาษแล้วคิดว่าเสื้อตัวนั้น  กางเกงตัวนี้หรือรองเท้าอีกคู่จะเหมาะกับหนุ่มผิวเข้มหรือไม่  และ.....

     

                “คุณไค...พรุ่งนี้ไปช้อปปิ้งกัน  เราอยากได้เสื้อตัวนี้”

     

                พูดเองเออเอง...โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยว่าคนที่ตัวเองพูดด้วยไม่ใช่หนุ่มผิวเข้ม  แถมยังเอาแต่เปิดนิตยสารหน้าต่อไป  หน้าต่อไปและหน้าต่อไป

     

    แต่.......

     

                “คุณไคมานอนตรงนี้  เราจะขอเทียบหน่อยว่าแบบเสื้อผ้าแบรนด์นี้มันเหมาะกับคุณไคหรือปะ...เปล่า  พี่เลโอ!!!

     

                “ผิดหวังมากไหมที่เป็นพี่??!!!!

     

                “โอ้ยยย...เจ็บนะ!!

     

                เป็นแฟนกันหนึ่งปี...แต่ไม่เคยได้รับความใส่ใจอย่างนี้เลยสักครั้ง  แล้วการเรียกชื่อด้วยรอยยิ้มหวานๆแบบนั้นก็ไม่เคยได้รับเช่นกัน  เลโอดึงนิตยาสารแฟชั่นออกจากมือเรียวสวยแล้วปาลงพื้นด้วยความหงุดหงิดก่อนคร่อมกายกักกันเจ้าของห้องเอาไว้บนเตียงกว้าง  มือหนากดข้อมือขาวเอาไว้จนขึ้นริ้ว  ร่างสวยในชุดที่แสนล่อตาดิ้นขืนจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง  กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดราคาถูกสีดำมันไม่ใช่สิ่งที่คนใต้ร่างเคยสวมใส่และแฟนเก่าอย่างเขาก็ไม่คิดว่าจะได้เห็น??

     

                “มันเป็นใคร?!!

     

                เซฮุนไม่คิดว่าจะได้เจอผู้ชายคนนี้ในห้องของตัวเอง...เพราะนึกว่าเสียงประตูหรือคนที่เข้ามาด้านในคือหนุ่มผิวเข้มที่มาตามให้ไปดูหนังที่ห้องนั่งเล่น  คุณไคบอกว่าจะลงไปช่วยคนสวนเก็บของที่หลังบ้านและถ้าทุกอย่างเสร็จเมื่อไหร่ก็จะมาตามที่ห้องเพราะนัดไว้ว่าจะดูซีรี่ส์เรื่องโปรดด้วยกัน  แต่ทุกอย่างกลับไม่ใช่สิ่งที่คิดไว้เลยแม้แต่น้อย

     

                “พี่เลโอปล่อย...เซฮุนเจ็บ”

     

                ใช่...มันเจ็บและเจ็บจนน้ำตาซึม  เซฮุนพยายามขืนกายออกจากการถูกกดทับด้วยแรงคนของด้านบน  ยิ่งได้เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนี้ในระยะใกล้เพียงอากาศกั้น...มันก็ยิ่งอยากจะอาเจียน  อุตส่าห์เลือกไปเก็บของที่ห้องทำงานตอนที่เลโอไม่อยู่  อุตส่าห์ยื่นเรื่องลาออกโดยไม่ผ่านผู้เป็นที่หัวหน้า  อุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องพบกันอีก  แต่สุดท้ายสิ่งที่พยายามมาทั้งหมดก็สูญเปล่า  แถมยังต้องมาเจอกันในที่ที่ไม่ควรเลยสักนิด

     

     

                คนเจ้าชู้  ไม่จริงใจ  มีแต่ความหลอกลวงแบบนี้ใครจะไปอยากเจอ  ตอนเป็นแฟนกันก็หวงจนเขาแทบไม่ได้ออกไปไหน  จะกินข้าวอาบน้ำกลับบ้านก็ต้องโทรรายงานตัวทุกอย่าง  อิสระในชีวิตถูกตีกรอบด้วยผู้ชายคนนี้  แล้วที่แย่ที่สุดก็คือ...ผู้ชายที่ชื่อเลโอก็ไม่ได้มีเขาเพียงคนเดียว  ตอนบอกเลิกก็เกือบต้องให้เรื่องถึงตำรวจเพราะเลโอไม่ยอมเลิกและขังเขาไว้ในห้องถึงหนึ่งวันเต็ม  ดีที่ได้คนทำความสะอาดห้องพักช่วยเอาไว้ไม่อย่างนั้นคงหนีออกมาไม่ได้  โทรศัพท์ถูกยึด  ร่างกายถูกทำร้ายและมันก็เจ็บจนแทบทนไม่ไหว

     

     

                ตอนทำงานในห้องวิจัยด้วยกันก็ไม่เคยมีปัญหา  แต่พอได้เป็นแฟน  ได้มาคบกันหรือได้เขาไปทั้งร่างกายและจิตใจ  พี่เลโอกลับทำลายทุกอย่างจนไม่เหลือความรู้สึกอะไรแล้วนอกจาก...ความเกลียด  เซฮุนไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้คุณพ่อทราบด้วยเกรงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกชายจะพาลให้ธุรกิจของทั้งสองครอบครัวหมดความน่าเชื่อถือ  แล้วไหนไหนเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว  เขาออกมาจากชีวิตของผู้ชายคนนี้ได้แล้ว  โอเซฮุนจึงไม่อยากทำให้คุณพ่อต้องมาคอยเป็นห่วง 

     

    โตพอที่แก้ไขปัญหาของตัวเองได้ก็จะทำ  เส้นสายของตระกูลมีเอาไว้ใช้เพื่องานสำคัญเท่านั้นไม่ใช่เพื่อกำจัดแฟนเก่าของลูกชาย  แต่ตอนนี้...เซฮุนอาจต้องคิดใหม่อีกครั้ง

     

                “ถ้าไม่ตอบจะโดนมากกว่านี้!!  คนชื่อไคมันเป็นใคร!!!??”

     

                “โอ๊ยย...เจ็บ”

     

                “ไม่อยากเจ็บก็ตอบสิวะ!!

     

                “เป็นพะ...เพื่อน!!

     

                “โกหก!!

     

                “โอ๊ยย...!

     

                ปลายคาง...ถูกบีบจนต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ  แถมข้อมือยังถูกตรึงไว้ด้วยมือใหญ่ๆเพียงข้างเดียว  เลโอทราบดีว่าคนตรงหน้าโกหกเพราะถ้าเป็นเพื่อนจริงๆเซฮุนคงไม่เอ่ยชื่อด้วยคำที่สุภาพแบบนั้น  แบคฮยอน  เลย์  จุมมยอน  เฉินหรือแม้กระทั่งซิ่วหมินก็ไม่เคยเอ่ยคำว่า “คุณ” ให้ได้ยินเลยสักครั้ง  แล้วไอ้คุณไคมันเป็นใครกันแน่!!??

     

                “หึ!!...เป็นผัวใหม่สินะ  เลิกกับพี่ไปเดือนเดียวได้ผัวใหม่เร็วจริงๆ”

     

                “ทำตัวน่ารังเกียจแล้วยังพูดจาน่าเกลียดอีก  พี่เลโอปล่อยเซฮุนนะ  เซฮุนจะ...เจ็บ  อื้มมม!!

     

                รู้สึกโกรธ...เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น  และการตอบโต้ด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังก็ทำให้คนปากกล้าถูกบดจูบด้วยความโมโห  ลิ้นร้อนกวาดต้อนทุกอย่างไปตามอารมณ์  ผิวเนื้อถูกฟอนเฟ้นเหมือนอยากทำร้ายคนใต้ร่างให้แหลกเป็นชิ้นๆ  ยิ่งเซฮุนขืนกายหรือขัดใจเจ้าของรอยจูบมากเท่าไหร่  เลโอก็ยิ่งอยากทำให้ความเจ็บมันมีมากขึ้นเท่านั้น

     

                “ถ้ามันอยากใช้ของร่วมกับพี่ก็ต้องทำใจหน่อยนะ”

     

                “ยะ...อย่า”

     

                ตาบวมจากการร้องไห้เพิ่งดีขึ้นเมื่อช่วงสาย...แต่ตอนนี้มันเริ่มบวมขึ้นมาอีกครั้งจากการถูกกระทำที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น  เซฮุนพยายามขัดขืนทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ถูกแฟนเก่าล่วงเกิน  ปากบางเม้มแน่น  สองขาออกแรงถีบเท่าที่จะมีกำลังพร้อมส่ายใบหน้าไปมาเพื่อหลบเลี่ยงการถูกจูบที่รุนแรง  และ..... 

     

    ก๊อกก ๆ ๆ!!!!

     

                (เซฮุนล็อคห้องทำไม?  ทำอะไรอยู่...ไปดูหนังกัน)

     

                “คุณไค...ช่วยด้วย  ช่วยเซฮุนด้วยยยยย!!!

     

                (..............!!!??)

     

                จากที่เม้มปากไว้แน่นเพื่อกันลิ้นร้อนเข้ามากอบโกยความหวาน...ตอนนี้มันต้องแหกปากร้องเพื่อให้เจ้าของเสียงทุ้มที่อยู่ด้านนอกได้รับรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ  ส่วนคนที่เข้ามาทำร้ายเจ้าบ้านถึงในห้องนอนก็รู้สึกตกใจจนเผลอปล่อยมือบางออกจากการถูกบีบรัดและหันหน้าไปที่ประตูด้วยความใคร่รู้  เซฮุนได้จังหวะตอนที่เลโอกำลังตกใจ...ยกเท้าขึ้นถีบอกกว้างด้วยความแรงก่อนรีบวิ่งไปปลดล็อคแล้วเปิดแผ่นไม้ตรงหน้าออกด้วยความลนลาน

     

                “คุณไคช่วยด้วย!!!

     

                “เกิดอะไรขึ้นเซฮุน??”

     

                ยังประมวลผลอะไรไม่ได้...นอกจากแรงสั่นไหวของคนอ้อมอก  ไครีบเดินขึ้นมาที่ห้องเพราะสัญญากับคุณหนูเอาไว้ว่าจะช่วยคนสวนทำงานให้เสร็จก่อนที่ซีรี่ส์เรื่องโปรดจะออกอากาศ  แต่พอเดินมาถึงหน้าห้องและจะเปิดประตู...มันกลับถูกล็อคทั้งๆที่มันเป็นข้อห้ามของบ้านหลังนี้  แล้วเมื่อเคาะเรียกคนด้านในก็กลายเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ได้กลับมา  จนสักพัก...ประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมแรงโถมกายที่เข้ามากอดเขาไว้เหมือนหนีอะไรบางอย่าง??

     

                “คุณไค...ฮึกก!

     

                “ซะ...เซฮุน”

     

                หัวใจ...เหมือนถูกบีบรัดจนเจ็บจุกเมื่อเห็นริมฝีปากเจ้าของเสียงสะอื้นปริแตกจนได้เลือด  เปลือกตาทั้งสองข้างก็บวมช้ำแถมร่างกายยังสั่นจนไม่อาจควบคุม  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?  เสียงร้องขอความช่วยเหลือมันหมายความว่าอะไร??  แล้วทำไมเซฮุนถึงช้ำไปทั้งตัวแบบนี้???  ผมเผ้ายุ่งเหยิง  เสื้อผ้าหลุดลุ้ย  ใบหน้ามีรอยช้ำ  และ....

     

                “คงชอบคนต่ำๆแบบนี้สินะ  หึ!!

     

                เหมือนคำตอบจะอยู่ตรงหน้าเมื่อไคได้ยินคำทักทายที่คล้ายว่าเป็นการดูถูกเพราะถึงแม้จะฟังภาษาของคนประเทศนี้ไม่ออก  แต่สายตา  น้ำเสียงหรือกิริยาท่าทางของผู้ชายที่ยืนตรงประตูมันก็สามารถฟ้องทุกความหมายได้เป็นอย่างดี  แล้วคุณหนูโอเซฮุนก็กำลังออกอาการไม่พอใจ???  ส่วนคนที่คิดว่าตัวเองมีทุกอย่างดีกว่าหนุ่มผิวเข้มก็ใช้สายตาที่พาให้คุณหนูของตระกูลโอต้องเลิกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและสบสายตาอาฆาตกลับไปบ้าง  มีสิทธิอะไรว่าคนอื่นต่ำหรือมองคนอื่นอย่างเหยียดหยาม  ตัวเองเลวกว่าคุณไคตั้งร้อยเท่าพันเท่ายังมีหน้ามาพูดจาแบบนั้นอีก!!!!  เซฮุนค่อยๆคลายอ้อมกอดจากความอบอุ่นในอกกว้าง  และ.....

     

    ผัวะ!!!

     

                “อย่ามาว่าคุณไคนะ!!

     

                กำหมัดแน่น...ก่อนต่อยปากแฟนเก่าจนเลือดออกและที่ตัวยังสั่นก็เพราะความโกรธ  เกิดมารวย  เกิดมามีต้นทุนมากกว่าคนอื่นและเกิดมาในตระกูลอันใหญ่โต  แต่คุณหนูโอเซฮุนก็ไม่เคยดูถูกใครทั้งนั้น  แม่บ้าน  สาวใช้  คนขับรถ  คนสวน...ทุกคนมีความสำคัญในตัวเองทั้งนั้น  ถ้าไม่มีพวกเขา  เราก็ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง  และถ้าพวกเขาไม่มีเรา...ลูกหลานของคนที่มีฐานะน้อยกว่าก็อาจจะไม่มีชีวิตที่ดีเหมือนทุกวันนี้  ต่างคนต่างก็มีความสำคัญไปคนละแบบหรือต้องพึ่งพาอาศัยกันบ้าง  แต่ทำไมคนอย่างเลโอถึงได้ชอบดูถูกผู้ที่ด้อยกว่า 

     

                “คบคนต่ำๆก็เลยต้องทำตัวต่ำไปด้วยหรือไง หึเซฮุน!!!

     

                “โอ๊ยยย....เจ็บ!

     

                (ปล่อยเซฮุนเดี๋ยวนี้!!!!)

     

                เหมือนจะเกิดความวุ่นวาย...เพราะเมื่อครู่เซฮุนต่อยปากผู้ชายคนนั้นจนได้เลือด  แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับถูกคว้าไปกอดต่อหน้าต่อตา  น้ำเสียงทุ้มต่ำแข็งกร้าว  ดวงตาคมฉายแววน่ากลัวและเสียงที่ตะโกนสั่งให้ปล่อยตัวคุณหนูก็พาให้สาวใช้รวมถึงแม่ครัวและคนขับรถต้องรีบวิ่งขึ้นมาบนชั้นสองของบ้าน  ไครีบเข้าไปกระชากตัวเซฮุนให้ออกมาจากอ้อมกอดของผู้ชายตรงหน้าก่อนความโมโหจะพาให้ยกเท้าถีบเข้าที่อกของเลโอเต็มแรง

     

                “ว้ายยยยย!!!!....”

     

                เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของสาวใช้  แรงถีบที่ทำให้แฟนเก่าของคุณหนูล้มคว่ำและก่อนที่หนุ่มผิวเข้มจะเข้าไปกระทืบซ้ำ...แม่ครัวใหญ่ก็ต้องทำใจกล้าเอาร่างกายมาขวางเอาไว้  ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่  ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายและไม่อยากให้เรื่องต้องถึงตำรวจ  แม่ครัวอย่างเธอจึงจำเป็นต้องเข้าไปยุติเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น  คุณท่านกับคุณหญิงก็ไม่อยู่  คุณนมที่เป็นใหญ่รองลงมาจากเจ้าของบ้านก็ไม่อยู่เช่นกัน  ตอนนี้เธอจึงถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่สุดและควรจัดการเรื่องทั้งหมดก่อนที่ทั้งสองครอบครัวจะหมางใจจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

     

                “จะให้ดิฉันตามหมอไหมคะคุณเลโอ...”

     

                “ไม่ต้อง!!!

     

                “อย่าคิดว่าป้าไล่เลยนะคะ...แต่คุณเลโอกลับไปก่อนเถอะค่ะ”

     

                “ผมเพิ่งรู้นะครับคุณป้า...ว่าคุณลุงท่านชอบหาผัวต่ำๆแบบนี้ให้ลูกชาย!!

     

                ทั้งรอยสัก  ทั้งหน้าตา  ทั้งการแต่งตัว...มันดูไม่เหมาะกับคุณหนูตระกูลใหญ่โตเลยสักนิด  เลโอจึงไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อของเซฮุนถึงอนุญาตให้คนแบบนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน  สายตายังมองอย่างดูถูกดูแคลน  การสบจ้องจากหัวจรดเท้าและคำพูดที่ทำให้ทุกคนในบ้านต้องส่ายหน้า  ทุกๆอย่างมันช่างเป็นกิริยาที่เพิ่มความโมโหให้คนถูกมองได้อีกครั้ง  เพราะจะดูถูกเขาอีกสักร้อยประโยคก็ไม่เป็นไร  แต่การเอ่ยพาดพิงถึงผู้มีพระคุณหรือคนในอ้อมกอดตอนนี้มันทำให้หมดความอดทน

     

                “คนเหี้ยๆแบบมึงยังคิดว่าตัวเองสูงส่งอีกเหรอวะ  ถุ้ยย!!

     

                “มึงงง...!!

     

                “อยากอวดรวยอวดบารมีก็ไปอวดที่อื่น...แล้วถ้าเป็นคนรวยแบบมึง  กูขออยู่ต่ำๆแบบนี้ดีกว่า!

     

                (พี่เลโอกลับไปเถอะ...แล้วถ้ายังทำแบบนี้อีก  เซฮุนจะบอกเรื่องของเราให้คุณพ่อฟังให้หมด  พี่เลโอคงรู้นะ...ว่าคุณพ่อจะเข้าข้างใคร  //  คุณไคกลับห้องกันดีกว่า  อย่าไปเถียงกับคนคนนี้เลย...เสียเวลา  //  ทุกคน...กลับไปทำงานเถอะฮะ  หนูไม่เป็นอะไรแล้ว)

     

                ไม่อยากเสวนากับคนแบบเลโออีกแล้ว...เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งมีแต่ปัญหาและการโดนดูถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าฟัง  คนที่มองเห็นแต่ความผิดของคนอื่น   พูดไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า  เซฮุนจึงพูดตัดบทและไม่อยากให้คุณไคต้องมาเปลืองน้ำลายกับคนแบบนี้  ขอบคุณที่ปกป้องเขากับคุณพ่อ  ของคุณที่ช่วยทำให้รู้ว่าการศึกษา  ฐานะหรือชาติกำเนิดมันใช่ตัวตัดสินนิสัยใจคอของมนุษย์และขอบคุณที่คอยโอบกอดกันไว้ไม่ยอมปล่อย

     

                “เชิญกลับได้แล้วค่ะคุณเลโอ...อย่าให้ป้าต้องโทรรายงานคุณท่านเลยนะคะ”

     

                “คุณไคอุ้มเราหน่อย  เราเดินไม่ไหว”

     

                คนเป็นสาวใช้...ได้แต่อมยิ้มกับคำเอ่ยอ้อนของคุณหนู  แถมคำพูดของแม่ครัวใหญ่ก็ยิ่งทำให้เกิดความสะใจเล็กๆอีกด้วย  คุณเลโอนิสัยไม่ดี  ทำให้คุณหนูของเธอเจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ  แล้วการดูถูกคุณไคด้วยคำพูดเช่นนั้นมันก็เหมือนดูถูกคนใช้อย่างพวกเธอไปด้วย  คำก็ต่ำสองคำก็ต่ำ...นิสัยเสียที่สุด!!!  ส่วนคนขับรถก็รู้สึกไม่ต่างไปจากสาวใช้  แต่ก็ต้องรีบพาคนถูกไล่ไปส่งที่หน้าบ้านตามมารยาททั้งๆที่ในใจก็อยากถีบแฟนเก่าของคุณหนูเหมือนกับคุณไคเพราะไม่ชอบคำพูดแบบนั้น

     

    ถ้าไม่มีคนต่ำๆอย่างพวกเรา...คุณเลโอก็มาล้างจาน  ล้างรถ  ทำกับข้าวและซักผ้าเองไหมล่ะครับ!!!

     

     

    ...

     

    ...

     

     

    20.00 น.

     

    แกร๊กกก!!

     

     

                “คุณไค....”

     

                “ว่าไง”

     

                “จะไปไหน...มาอยู่กับเรา”

     

                อุ้มมาส่งถึงเตียง...แต่พอเดินไปปิดประตูห้องและกำลังจะไปหยิบกล่องยาที่โต๊ะเครื่องแป้ง  เสียงเรียกที่เหมือนจะเป็นคำสั่งปนคำออดอ้อนก็พาให้สองขาต้องรีบก้าวกลับไปที่เตียงอีกครั้ง  มือบางดึงหนุ่มผิวเข้มให้ลงมานอนด้วยกันก่อนวาดแขนโอบกอดกายหนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย  ส่วนคนถูกกอดก็ใช่ว่าจะมีปัญหากับการถูกทำเช่นนี้  แต่การไปช่วยคนสวนทำความสะอาดหลังบ้านมันทำให้รู้สึกว่าตัวเองสกปรกเกินกว่าจะมานอนกอดคุณหนูตัวป่วน

     

                “เป็นอะไร?”

     

                “ไม่รู้...”

     

                “แล้วไม่เหม็นหรือไง...ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ”

     

                “ไม่เหม็น  อยากกอด”

     

                “จะทำแผลให้  ปากยังเลือดออกอยู่เลย”

     

                “ช่างมันสิ”

     

                “โดนมันต่อยมาหรือไง  ถึงได้เละไปทั้งตัวแบบนี้?”

     

                “โดนจูบ  โดนจับ  โดนล้วง  โดนทุกอย่างนั้นแหละ!!

     

                “เซฮุน!!!

     

                ไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้...และไม่กล้าถามด้วยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว  แต่พอได้รู้ว่าเซฮุนถูกทำอะไรบ้าง  ใจมันก็ร้อนขึ้นมาอีกครั้ง  อยากกลับไปกระทืบไอ้หน้าผู้ดีอีกสักรอบ  โดนคุณหนูต่อยและโดนเขาถีบมันยังน้อยไป  ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ!!!  ไคคร่อมกายทับผู้ถูกกระทำด้วยความเป็นห่วง  มือหนาเกลี่ยริมฝีปากสีหวานด้วยความทะนุถนอมก่อนจะค่อยๆลูบแก้มนุ่มที่เกิดรอยช้ำ

     

                “เราขอโทษที่ทำให้คุณไคถูกว่า”

     

                การถูกล่วงเกินมันทำให้เซฮุนรู้สึกแย่...แต่การที่ไคถูกกล่าวหาว่าต่ำมันทำให้รู้สึกแย่มากกว่า  เจ็บกว่านี้ก็เคยโดนมาแล้ว  คนหน้าโง่อย่างเขาเป็นคนเลือกผู้ชายแบบนั้นให้เข้ามาในชีวิตแล้วมันจะไปโทษใครได้  เลือกเองเจ็บเอง...มันก็สมควรแล้ว  แต่คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างคุณไคไม่สมควรถูกกล่าวหาด้วยถ้อยคำเช่นนั้น

     

                “อยากให้ผมฆ่ามันไหม?”

     

                “อยาก...แต่เราไม่อยากให้คุณไคติดคุกมากกว่า  พี่เลโอพวกเยอะ  แล้วที่นี่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้”

     

                “แล้วทำไมมันต้องมาทำร้ายเซฮุน”

     

                “เราเคยเป็นแฟนกัน  แต่เลิกกันแล้ว  พี่เลโอไม่พอใจที่เราขอเลิก  แล้วก็ไม่พอใจที่เราลาออกจากงานวิจัย”

     

                “มีผัวแล้วก็ไม่บอก”

     

                “มีแล้วมันทำไมล่ะ...ทีตอนคุณไคอยู่ที่นู้นยังซื้อผู้หญิงมานอนด้วยได้เลย”

     

                “อ้าวว...ผมผิดซะงั้น”

     

                “เราเคยมีผัวคนเดียว...คุณไคนั้นแหละมีเมียมากี่คนแล้วก็ไม่รู้!!

     

                ใช่ว่าอยากเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น...แต่กำลังพยายามทำให้คุณหนูลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น  มันอาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก  แต่คนอย่างไอ้ไคมันก็ทำได้แค่นี้  เขายังปลอบใจใครไม่เก่งเหมือนเดิมและมักจะพูดตรงๆแบบนี้เสมอ  ไคไม่ใช่คนอ้อมค้อม  ชอบคือชอบ  ไม่ชอบก็คือไม่  เขาไม่รู้จะอ้อมค้อมไปเพื่ออะไรเพราะมันทำให้รู้สึกว่าเสียเวลา  ส่วนคนแสนงอน...ก็ใช่ว่าอยากปิดบังเรื่องส่วนตัว  แต่เรื่องนี้มันน่าอายเกินกว่าจะเล่าให้ใครฟัง  มีแฟน...แฟนก็เจ้าชู้  ชอบทำร้ายร่างกายแถมยังชอบดูถูกคนอื่น

     

                “จะกี่คนก็ไม่สำคัญเท่าตัวป่วนคนนี้”

     

                “ไม่ต้องมาพูดดีเลย  แสดงว่ามีเยอะจนจำไม่ได้”

     

                “ยอมรับว่าจำไม่ได้  แต่ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว...มีแค่เซฮุนคนเดียว”

     

                “จริงนะ...ถ้าคุณไคโกหกเราจะฟ้องคุณพ่อ”

     

                “สาบาน!!

     

    ฟอดดดด!!

     

              เคยบอกแล้ว...ว่าสถานะระหว่างเราจะเป็นอะไร  จะเรียกว่าอะไรหรือใครจะคิดอย่างไรพวกเขาก็ไม่สน  ขอแค่ยังได้อยู่ด้วยกัน  ได้กอด  ได้หอม  ได้ทะเลาะกันนิดหน่อยและได้ปรับความเข้าใจ  มันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว  แก้มนิ่มถูกฝังไว้ด้วยความรัก  สันครามคมถูกสัมผัสพร้อมดวงตาคู่สวยที่มองมาอย่างมีความหมาย  และรอยจูบก็ถูกมอบให้กันอย่างไม่ต้องนึกว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น  ผิวเนื้อขาวเนียนถูกประทับความห่วงไว้ตั้งแต่ไหล่ลาด   ยอดอก  เอวบางไล่ลงมาถึงความกลมกลึง

     

                “อ๊ะ!!...”

     

                เมื่ออาภรณ์ชิ้นล่างถูกถอดออกจนเปลือยเปล่า  ขาเรียวก็ถูกจับให้แยกออกก่อนลิ้นร้อนจะไล่เลียไปตามผิวเนื้อจนกายขาวสั้นสะท้าน  ดวงตาคู่สวยจ้องมองการกระทำของหนุ่มผิวเข้มที่เอาแต่กวาดชิมส่วนล่างด้วยความเขินอาย  มือบางจิกเกร็งอยู่บนหมอนใบโตเพื่อระบายทุกความรู้สึก  และจากที่จ้องการกระทำของหนุ่มผิวเข้มแบบไม่วางตา....ตอนนี้กลับต้องปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็วเพราะร่างกายกำยำพร้อมรอยสักมากมายมันพาให้ไม่กล้าสบจ้องนานกว่านี้

     

     

                ไค...รีบถอดกางเกงของตัวเองออกอย่างรีบร้อนก่อนคร่อมกายพร้อมมอบรอยจูบให้คนใต้อีกครั้ง  มือบางโอบรอบคอหนา  ริมฝีปากสีหวานตอบรับทุกสัมผัสไปตามอารมณ์  และรอยปริแตกที่ถูกแฟนเก่าจูบไปก่อนหน้านั้นก็ถูกลืมเลือนไปพร้อมๆกับการกระทำของคุณไค

     

                “ผมหยุดไม่ได้แล้ว...ผมขอโทษ”

     

                ไม่ได้อยากฉวยโอกาส  แต่โอกาสที่คุณท่านจะไม่อยู่บ้านมันก็เหลือน้อยลงทุกทีและไม่ได้อยากเป็นคนที่กินบนเรือนขี้บนหลังคา***  แต่การได้นอนกอดลูกชายของท่านทุกค่ำคืนมันพาลให้อดใจไม่ไหว  ยิ่งได้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเคยทำร้ายเซฮุนมาเช่นไร  เขาก็ยิ่งอยากครอบครองลูกของท่านมากขึ้นเท่านั้น

     

    และ.....

     

                “ใครอยากให้หยุดล่ะ?”

     

                ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรักคนแบบนี้ได้...คนอะไรดุอย่างกับเสือ  มือหนักอย่างค้อน  แต่ตอนนี้กลับอ่อนโยนเหมือนปุยเมฆบนท้องฟ้า  ความคนบ้านป่าเมืองเถื่อนมันเริ่มหายไปทีละน้อย  จากที่เคยไม่เข้าใจก็เข้าใจทุกอย่าง  จากที่ไม่ค่อยปรับตัวก็เหมือนจะโอนอ่อนผ่อนตาม  และจากที่เคยปกป้องก็ยังคงปกป้องกันเช่นเดิม  ถ้ามีใครทำให้เขาเจ็บ...มันผู้นั้นก็ต้องเจ็บกว่าหลายเท่า  แล้วถ้าเขาสั่งให้คุณไคไปจัดการพี่เลโอ...เซฮุนก็เชื่อได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะทำโดยไม่ลังเล

     

                “ซี้ดด  คุณคะ...ไค!

     

                “อื้มมมม...”

     

                จับขาเรียววางไว้บนไหล่กว้าง  ร่างกายขยับเคลื่อนอย่างไม่อาจห้ามความรู้สึก  เสียงครางหวาน เสียงเรียกชื่อหรือสายตาที่ฉ่ำปรือ  ทุกๆอย่างมันพาให้ต้องส่งความปรารถนามากขึ้นเรื่อยๆ  แน่นไปหมด  ขาวไปหมด  สวยไปหมด  ไอ้เลโอมันโง่ฉิบหายยยย...ที่ไม่ยอมรักษาสิ่งดีๆแบบนี้เอาไว้  ดื้อมากก็กำราบด้วยจูบ  ป่วนมากก็หอมให้แก้มช้ำ  แต่ยิ่งคิดว่าคนอย่างมันเคยเข้ามาเติมเต็มในที่เดียวกัน  เขายิ่งต้องย้ำ  ย้ำ  ย้ำว่าตรงนี้มันเป็นของกู!!!

     

                “อ๊ะ!! อ๊ะ  คุณคะ...ไค”

     

                “ร้องดังๆ...คุณหนู  ซี้ดดด!!

     

                “อื้มมมม....”

     

                อยากร้องใจจะขาด...แต่การถูกเติมเต็มจนกายไหวพร้อมการถูกจูบเหมือนจะพรากลมหายใจมันก็ทำได้แค่เพียงจิกมือไว้บนแผ่นหลังของหนุ่มผิวเข้มและขยับสะโพกไปตามแรงปรารถนา  มันวูบไหวเกินจะทัดทาน  มันร้อนแรงเกินจะควบคุม  แล้วเพลงรักที่เต็มไปด้วยทุกความรู้สึกก็ไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด  มันทั้งรักทั้งหึงทั้งหวงและไม่อยากใครได้รู้จักผู้ชายที่ชื่อไคหรือคุณหนูโอเซฮุนอีกเลย


     

    คนเถื่อนหวงตัวป่วนมากเท่าไหร่...ตัวป่วนก็หวงคุณไคมากเท่านั้น!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr. ภาพในตอนพิเศษ : lingkungshop.com

    ***กินบนเรือนขี้บนคา  หมายถึง...เนรคุณ  ไม่รู้จักบุญคุณ  เหมือนผู้ที่อาศัยพักพิงบ้านเขาแต่กลับทำเรื่องเดือดร้อน  สร้างความเสียหายให้เจ้าของบ้าน


    ***สลิปเปอร์




    ***เลโอ  ( วงVIXX )

     


     

    Talk.

    โปรดเรียกฉันว่าตัวป่วนนนน  ^-^)

    ถึงฉากโคมไฟที่ไรมันก็ยากทุกทีและทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ  (กราบบบบ)

    ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคอมเม้นท์ที่มีให้กับฟิคเรื่องนี้

    ส่วนใครที่รอ  #ฝากเลี้ยงKH  รบกวนรอไปก่อนนะคะ  (ขออภัยจริงๆค่ะ  T^T )

    รัก

    #ออกเรือKH 

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×