คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ♡6
6…
Condominium XXX
ก๊อกกก ๆ ๆ ๆ!!
“เซฮุน...ตื่นหรือยัง?”
เป็นวันแรก...ที่น้องชายจะได้ไปฝึกงาน แถมยังได้ฝึกงานในที่ที่ตัวเองฝันเอาไว้ คิมจิวเวลรี่ถือบริษัทที่โด่งดังในแวดวงเครื่องประดับ สาขาก็มีทั้งในประเทศและนอกประเทศ การออกแบบสินค้ามากมายก็จะนำเอาดอกไม้ในรูปแบบต่างๆมาประยุกต์ให้เข้ากับแต่ละคอลเล็คชั่น
แล้วเครื่องประดับของคิมจิวเวลรี่...คุณแม่ของพวกเราก็มีเกือบจะทุกแบบ
“ตื่นแล้วฮะ...พี่ชานยอลเข้ามาได้เลย”
มือหนา...รีบเปิดประตูเข้าไปด้านในทันทีเมื่อได้ยินคำอนุญาต
สองขาเร่งฝีเท้าไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อดูว่าน้องชายสุดที่รักจะใส่ชุดใดไปฝึกงาน แต่...!!!!
“เฮ้ยย...!!?”
“ผมโป๊อยู่...อย่าเพิ่งเข้ามาสิฮะ!!”
“ก็เราบอกให้พี่เข้ามาเอง!!”
“ให้เข้ามาในห้อง...ไม่ใช่ห้องแต่งตัว!”
เออ...พี่เข้าใจผิดเอง เซฮุนไม่ผิดเลยสักนิด และชานยอลก็ต้องรีบหันหลังเดินกลับไปนั่งที่เตียงทันทีเมื่อได้ยินเสียงแจ๋วๆของน้องบ่นถึงเรื่องความโป๊เปลือย ถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เซฮุนก็ถือเป็นขอยกเว้นสำหรับพี่ชายคนนี้เพราะมันเป็นความส่วนตัวที่ไม่ควรไปล่วงล้ำและน้องก็โตเกินกว่าจะจับอาบน้ำหรือทาแป้งได้เหมือนตอนที่เจ้าตัวยังเด็ก
และตอนนี้...น้องก็โตเป็นสาวแล้วด้วย
^o^)
“เตรียมของครบหรือยัง...?”
“ครบแล้วฮะ...แต่พี่ชานยอลช่วยเช็คให้อีกรอบสิฮะผมไม่แน่ใจ”
ถึงจะโตแล้ว...แต่เซฮุนก็ยังถือว่าเด็กมากๆเมื่อเทียบอายุกับเขา คนเป็นพี่ในวัยสามสิบกว่าๆกับน้องชายอายุเพียง 22 มันมักจะทำให้ชานยอลต้องคอยถาม คอยเตือนและคอยดูแลกันอยู่เสมอ
ดวงตากลมโตกวาดมองเพื่อหาเอกสารที่น้องควรนำไปยื่นให้กับทางบริษัท บนโต๊ะเขียนหนังสือที่มีทั้งแจกันดอกไม้ ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ เทียนหอมและแฟ้มสีดำปึกใหญ่ก็คือเป้าหมาย
ชานยอลรีบลุกออกที่นอนก่อนเดินไปคว้าเอกสารทั้งหมดมาเปิดดูเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย
“ในนี้ไม่มีใบส่งตัวนะ...ใบสีครีมๆที่ทางมหา’ลัยออกให้อยู่ไหน?”
“ผมไม่รู้...พี่ชานยอลช่วยหาหน่อยสิฮะ ผมขอแต่งตัวแป๊บนึงมันใกล้จะเสร็จแล้ว”
ใช่...เข้าไม่รู้และก็หาไม่เจอเหมือนกัน เมื่อวันก่อนหลังจากที่กลับมาจากการทานมื้อเย็น เซฮุนก็รีบมาเตรียมเอกสาร
เตรียมเสื้อผ้าและเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อจะไปฝึกงาน แต่แล้ว!!ไอ้ใบสีครีมๆที่ทางมหาวิทยาลัยออกให้เพื่อยืนยันเรื่องการฝึกงานกลับหาไม่เจอ เขาหาจนท้อ
หาแล้วก็หาอีก หาจนเอกสารอื่นๆพาลยับไปหมด แต่สุดท้ายก็ยังหาไม่เจอ
“คุณจุนเก็บไว้แล้วหรือเปล่า...เซฮุนลองไปถามดูไหมเพราะพี่ก็หาไม่เจอ??”
ชานยอลก็หาแล้ว....แต่ไม่เจอเช่นกัน และห้องนอนที่จัดเป็นสัดเป็นส่วนอย่างดีมันก็ใช่ว่าจะหาของแบบนั้นได้ยาก เซฮุนมักจะเก็บของเป็นที่เป็นทาง ห้องก็ไม่เคยรก เศษขยะสักชิ้นก็ไม่มี เตียงก็เก็บเรียบร้อย แล้วอย่างเสื้อผ้าในตู้ก็แทบจะเรียงสีเรียงขนาดพร้อมจัดแยกเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต
กางเกงใน ถุงเท้า
ทุกๆอย่างจะถูกจัดไว้อย่างดีเสมอ
“ฮือออ...แล้วผมจะทำไงดีฮะ วันนี้ไปฝึกงานวันแรกด้วย”
มือก็ทำหน้าที่ผูกเนคไทด์...ขาก็ทำหน้าที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวและปากก็เริ่มเบะคว่ำพร้อมร้องฮืออย่างนึกเหนื่อยใจเพราะวันแรกของการไปฝึกงานเขาก็ทำเอกสารหายเสียแล้ว เซฮุนหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพี่ชาย ใบหน้าเรียวสวยก็เศร้าสร้อยจนมือหนาอดที่จะยกขึ้นเพื่อลูบแก้มเนียนไม่ได้
ชานยอลไม่รู้จะปลอบใจน้องเช่นไรกับสถานการณ์แบบนี้
เอกสารสำคัญมาหายในวันสำคัญ...เขาจึงได้แต่ส่งยิ้ม โอบกอดก่อนลูบหลังน้องเบาๆ และ.....
“เดี๋ยวพี่โทรไปคุยกับมหา’ลัยให้เอง...เซฮุนไม่ต้องเป็นห่วงนะ แล้วคุณจุนก็น่าจะเข้าใจ”
“จริงนะฮะ...พี่ชานยอลต้องช่วยผมจริงๆนะฮะ”
“จริงสิ...”
“รักพี่ชานยอลที่สุดเลยฮะ”
ฟอดดดด!!!
เขารู้...ว่าไม่มีเรื่องไหนที่พี่ชายจัดการไม่ได้ แก้มสากจึงถูกประทับคำขอบคุณแทนการพูด การอธิบายความในใจหรือการบอกให้รู้ว่าน้องชายคนนี้ซาบซึ้งมากเพียงใด
เซฮุนเคยคิดว่าถ้าในชีวิตของเขาไม่มีพี่ชานยอลแล้วมันจะเป็นเช่นไร
ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ...การร้องไห้และก็ร้องไปจนกว่าความคิดบ้าๆบอๆนั้นจะหยุดลง
“พร้อมแล้วใช่ไหม?”
“พร้อมฮะ...”
“พร้อมก็ไปกันเลย...เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ผมขอแวะซื้อกาแฟกับแซนด์วิชที่ร้าน
XX ...ด้วยนะฮะ”
“ได้สิ...”
“แล้วตอนเย็นพี่ชานยอลจะไปรับผมไหม?”
“เลิกกี่โมงก็โทรมาบอกแล้วกัน...เดี๋ยวพี่จะรีบไปรับ”
“โอเคฮะ”
ชานยอลก็รู้ว่าน้องรักเขามากแค่ไหน...และมันก็ต้องแก้เขินจากการถูกหอมแก้มด้วยการคว้าเอกสารของน้องมาถือไว้ก่อนพากันเดินออกไปจากห้อง
วันนี้คงเหมือนกับอีกหลายวันหลายปีที่ผ่านมาเพราะถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาต้องตื่นเพื่อส่งน้องไปโรงเรียน แต่วันนี้มันต้องตื่นเพื่อส่งน้องไปทำงาน แล้วตอนเด็กๆ...เซฮุนก็ชอบให้เขาแวะซื้อขนม ซื้อนมหรือไม่ก็ซื้อของเล่นก่อนไปโรงเรียน
แต่เดี๋ยวนี้...ต้องแวะร้านกาแฟเพื่อซื้อเครื่องดื่ม ซื้อเค้กรวมถึงแซนด์วิชแฮมชีส
พูดไปพูดมาก็ไม่อยากให้น้องโตซะแล้ว...เพราะยิ่งโตมันยิ่งสวย!!
“ถ้ามีคนในบริษัทมาจีบ...รีบโทรบอกพี่เลยนะ”
“ไม่มีใครมาจีบหรอกฮะ...พี่ชานยอลก็คิดมากไปได้”
“ขนาดคุณจงอินยังจีบเลย...?”
“ผมก็แค่สันนิษฐาน***เฉยๆ...เผลอๆคุณจงอินอาจทำแบบนี้กับทุกคนก็ได้ ผมไม่หลงกลหรอกฮะ”
น้องเขาเก่ง...เรื่องนี้ชานยอลต้องยอมรับจริงๆ
เซฮุนมักจะระวังตัวเสมอเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหรือความไม่ชอบมาพากล***ของคนที่คบหา พวกเขาไม่เคยลืมว่าตัวเองมีพ่อมีแม่เป็นใคร
อยู่ในตำแหน่งใดและอาชีพการงานส่งผลต่ออะไรบ้าง
ชานยอลกับเซฮุนจึงมักจะมองออกว่าใครต้องการอะไรจากพวกเรา
“มื้อเที่ยงก็กินข้าวเยอะๆนะ...อย่าปล่อยให้ท้องว่างเด็ดขาด”
“..................”
“ได้ยินที่พี่พูดไหมเนี่ย?!”
“ได้ยินฮะ...ผมฟังอยู่”
ที่ไม่ตอบ...ใช่ว่าไม่ได้ยิน แถมยังได้ยินมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้อายุ 22 อย่าปล่อยให้ท้องว่าง กินผักด้วย
อย่ามัวแต่เล่น
ผลไม้ก็กินเยอะๆ
แต่ค่อยๆกินไม่ต้องรีบ
เคี้ยวข้าวให้ละเอียดและอีกสารพัดที่ต้องฟังมาตั้งแต่จำความได้ เซฮุนแค่จะปล่อยให้พี่ชานยอลพูดไปจนกว่าตัวเองจะพอใจแล้วค่อยตอบรับ
แต่มันกลับกลายเป็นว่า...เขาไม่ตั้งใจฟังไปเสียได้?
“พี่ชานยอลอยู่ห้องก็ห้ามลืมเปิดน้ำทิ้งไว้นะฮะ...แล้วก็อย่าลืมเอาขยะในห้องครัวไปทิ้งด้วยเดี๋ยวห้องมีแมลงสาบ นมในตู้เย็นก็เอามากินให้หมด อย่าเหลือคาไว้...มันจะบูด เบียร์ก็ห้ามเอาไปแช่ในช่องฟรีซนะฮะ ตอนเปิดมันชอบระเบิด ผมขี้เกียจทำความสะอาด”
“บ่นเป็นแม่...”
“เป็นน้องนี่แหละ...แต่ไม่ได้อยู่กับแม่ไงฮะผมเลยบ่นแทน”
“รู้แล้วค้าบบบบ”
ต่างคน...ต่างก็มีเรื่องต้องคอยเตือนกันอยู่เสมอ และที่คนเป็นน้องต้องบ่นยาวเหยียดขนาดนี้เพราะพี่ชายชอบทำห้องรก
แถมยังชอบทานอะไรก็มักจะเหลือไว้ครึ่งหนึ่งเสมอ แล้วพอจะเอามาทานอีกรอบมันก็หมดอายุจนต้องนำไปทิ้ง ซื้อของมาไม่เคยเช็ควันผลิตวันตาย
เบียร์ก็อยากทานแบบเย็นๆจึงเอาไปเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง แต่พอจะกินก็ระเบิดตูมเบียร์หกเต็มพื้น แล้วไหนจะเรื่องที่ชอบนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างนั่นอีก...เปิดน้ำไว้ก็ลืม ลืมจนล้นท่วมห้องน้ำ
น้องเหนื่อยยยยยย!!
...
...
...
VROOMMMMMM!!!
“ขอบคุณนะฮะพี่ชานยอล”
“โชคดีนะเซฮุน”
“บายฮะ”
“บาย....”
แวะซื้อเครื่องดื่มเรียบร้อย...และทานจนอิ่มท้องมาตั้งแต่ในรถ
พอถึงที่หมายก็รีบบอกลาพี่ชายใจดีก่อนหยิบเอกสารติดมือมาด้วย เซฮุนขอยืนอยู่หน้าประตูบริษัทสักพัก แล้วค่อยๆก้าวขาเข้าไปด้านในด้วยความมั่นใจอีกครั้ง แต่.....!!
“สวัสดีครับน้องเซฮุนนน!”
“คุณจงอิน...สวัสดีครับ!!”
ยังไม่ทันได้ก้าวขา...หรือเอื้อมมือไปผลักแผ่นกระจกบานใหญ่
เสียงทุ้มพร้อมสรรพนามแสนน่ารักที่ดังมาจากทางด้านหลังก็ทำให้ต้องหันไปทางต้นเสียง
วันนี้คุณจงอินใส่สูทสีควันบุหรี่ เซ็ทผมเปิดหน้าและยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเอาไว้
ทุกๆอย่างที่เซฮุนเห็นอยู่ตอนนี้มันบอกได้เลยว่า...หล่อจริงๆ หล่อมากๆ
หล่อจนละสายตาไปไม่ได้
เป็นเช้า...ที่ต้องตั้งสติให้ดีเพราะไม่อยากหลงกลใครอย่างที่ตัวเองได้บอกกับพี่ชายเอาไว้ แต่!!ขาทั้งสองข้างมันไม่ยอมทำตามที่สมองคิดเลยสักนิด เซฮุนเดินไปหาคนมากอายุเหมือนถูกผลัก สองเท้าไปหยุดยืนอยู่ตรงจุดที่คุณจงอินตะโกนเรียกก่อนจะโค้งกายเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย
“น้องเซฮุนมาทำงานแต่เช้าเลยนะครับ?”
“ครับ...แล้วคุณจงอินมาหาคุณจุนมยอนเหรอครับ?”
“ใครบอกว่าผมจะมาหามัน?”
“อ้าว...”
“ผมมาหาน้องเซฮุนต่างหาก”
“..........♡!!!!”
สองมือ...พร้อมแฟ้มปึกใหญ่ถูกยกขึ้นมาแนบอกเพราะเกรงว่าคนตรงหน้าจะได้ยินสิ่งที่เต้นตุบๆอยู่ในอกด้านซ้าย ทำไมต้องมาหา
รู้ได้ยังไงว่ามาถึงแล้ว และมาหาเพื่ออะไร???
คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวจนไม่รู้จะบอกจำนวนได้ว่าเท่าไหร่ แถมเสียงทุ้มๆ
การยิ้มมุมปากและการถูกสบจ้องมาอย่างมีความหมาย...ทุกอย่างมันพาลให้ใจเตลิดไปหมด
“เราเข้าไปข้างในกันดีกว่า...น้องเซฮุนจะได้เริ่มงานด้วย”
“แล้วคุณจงอินมาหาผมทำไมเหรอครับ...มีธุระด่วนอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ถ้าไม่มีธุระ...แล้วผมจะมาหาน้องเซฮุนได้ไหมครับ?”
ตอบคำถามด้วยคำถาม...แล้วคำถามเช่นนี้ก็พาให้ใบหน้าเรียวสวยต้องก้มต่ำด้วยความเขินอาย เซฮุนไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง
แต่การที่คุณจงอินพูดแบบนั้นมันก็หมายความว่าอยากมาหา อยากมาเจอและต่อให้ไม่มีธุระก็อยากจะมาเห็นหน้าเขา???
“คุณจงอินพูดเหมือนกำลังจีบผมอยู่เลยนะครับ?”
“ไม่ได้อยากจีบนะครับ....”
“............!!!?”
ได้ยินเสียงอะไรแตกไหม...เพราะเซฮุนรู้สึกว่าหน้าของตัวเองกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาแค่อยากรู้ว่าที่คุณจงอินพูดออกมาแบบนั้นมันหมายความว่าอะไร จะจีบไม่จีบหรือแค่หมาหยอกไก่***อย่างที่คุณจุนมยอนเคยเตือนเอาไว้
แล้วเขาก็ไม่คิดว่าการถามออกไปตรงๆ...ก็จะได้คำตอบแบบตรงๆกลับมาเหมือนกัน
แต่.....!!!!!!!
“ไม่ได้อยากจีบนะครับ...แต่อยากเป็นแฟนเลยต่างหาก”
“คุณจงอิน!!!!”
“ก็น้องเซฮุนดูไม่ชอบคนอ้อมค้อม...ผมก็บอกตรงๆเลยไงครับ แล้วน้องเซฮุนจะเป็นแฟนกับคุณจงอินได้ไหมครับ?”
“คะ...คุณจงอิน!”
ทำได้เพียง...พูดชื่อ “คุณจงอิน” ซ้ำๆเพราะมันพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำคำนั้น
เซฮุนไม่คิดเลยว่าเจ้าของห้างสรพสินค้าชื่อดังจะเป็นคนแบบนี้ ไม่เหย่อหยิ่ง
ไม่มีฟอร์ม ไม่วางมาด***
แถมยังพูดตรงจนคนฟังก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
ใบหน้าเรียวสวยที่ก้มต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งก้มต่ำมากขึ้นไปอีกเพราะไม่กล้าสบสายตาคมที่กำลังจ้องมาเพื่อเร่งรัดเอาคำตอบ และความแดงก่ำบนใบหน้ามันก็คงปกปิดเอาไว้ไม่ได้ในเมื่อสีแดงระเรื่อมันได้ลามไปถึงใบหู
“เขินได้ครับ...แต่คุณจงอินก็อยากได้คำตอบด้วยนะครับ”
“แต่ผมอยากทำงานมากกว่า...เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ เผื่อคุณจุนมยอนจะรออยู่”
“งั้นขอจับมือนะครับ...น้องเซฮุนเพิ่งมาครั้งแรกยังไม่รู้ทาง เดี๋ยวคุณจงอินจะพาไปหาไอ้จุน”
“ไม่ให้จับครับ...คุณจงอินเดินนำไปเลย ผมจะเดินตาม”
“ถ้าไม่ให้จับ...คุณจงอินก็ไม่พาไปนะครับ ไปทำงานสายไม่รู้ด้วยนะ?!”
บอกว่าจะไม่หลงกล...แต่ก็ยอมยื่นมือเพื่อให้อีกมือที่ใหญ่กว่าได้ประสานเอาไว้แน่น ยิ่งกว่าหน้าแดงก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบ
ยิ่งกว่าเด็กเส้นก็ไม่รู้ว่าจะหาคำไหนมาเปรียบเช่นกันเพราะการกระทำของคุณจงอิน
คำพูดของคุณจงอิน...การแสดงออกของคุณจงอินมันทำให้พนักงานในคิมจิวเวลรี่มองมาที่เขากันหมด
ฮือออออ...เซฮุนจะทำยังไงดี?!!!
♡ ♡ ♡ ♡
Kim Jewelry
ติ๊งงง!!!
“อ้าววว!!....สวัสดีค่ะคุณจงอิน แล้ววันนี้พาเด็กที่ไหนมาอีกคะนั้น?”
“เด็กที่ไหนกันครับไอรีน...คนนี้แฟนผม
ชื่อเซฮุน...ไอ้จุนไม่ได้บอกเหรอว่าน้องจะมาฝึกงาน?”
“บอกค่ะ...แต่บอกแค่ว่าจะมีเด็กมาฝึกงานเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนของคุณจงอิน”
“งั้นก็รู้ไว้เลยว่าเค้าเป็นแฟนผม”
ขี้ตู่มาก...เพราะเซฮุนยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรทั้งนั้น แถมยังจับมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อยและตั้งแต่ลิฟท์เปิดออกจนพบกับคุณเลขาที่โต๊ะทำงาน มือของเขาก็ยังถูกประสานเอาไว้อย่างนั้น เด็กฝึกงานคนใหม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว คุณจงอินเอาแต่พูดว่าเราเป็นแฟนกันทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น แต่!!ขนาดยังไม่ได้ตอบรับ หัวใจของคนถูกกุมมือก็ยังเต้นตึกตักไม่ยอมหยุดสักที
เซฮุนยอมรับว่าคุณจงอินคือชายในฝัน...คนที่มีอายุเยอะหน่อย ดูใจดีและมีเสน่ห์ คนแบบนี้แหละที่เขาชอบ แต่มันก็ไม่คิดว่าจะถูกความชอบโจมตีรวดเร็วถึงขนาดนี้
“สวัสดีครับพี่ไอรีน”
“สวัสดีค่ะน้องซ...เซฮุน!!!”
(ผมเรียกได้คนเดียวครับ...ไอรีนห้าม ห้ามเด็ดขาด!)
“คุณจงอินเว่อร์มากไปแล้วนะคะ...ถ้าไม่ให้ไอรีนเรียกน้องแล้วจะให้เรียกว่าอะไรคะ?”
ไม่รู้ว่าวันนี้เขาจะได้ทำงานไหม...เพราะคุณจงอินคอยแต่ห้ามนั่นห้ามนี่ แล้วคุณเลขาก็ดูจะหัวเสียไม่ใช่น้อย
แถมเอกสารมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะตรงหน้าก็ทำให้เซฮุนทราบได้ทันทีว่าการฝึกงานของตัวเองคงจะได้เริ่มในอีกไม่ช้า
“คุณจงอินปล่อยมือผมเถอะครับ...ผมอยากทำงานแล้ว พี่ไอรีนก็คงอยากจะสอนงานผมแล้วเหมือนกัน”
จุ๊บบบ!!
“ปล่อยก็ได้ครับ...แต่จะไม่ปล่อยให้เป็นแฟนกับคนอื่นเด็ดขาด น้องเซฮุนต้องเป็นของคุณจงอินคนเดียวเท่านั้น!!
คนอื่นห้ามยุ่ง!! //
ฝากดูด้วยนะไอรีน”
(โอ้โห!!...ไอรีนไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากคุณจงอินเลยนะคะ จะเป็นบุญหูหรือจะอ้วกก่อนดีคะเนี่ย)
“เดี๋ยวตอนเที่ยงคุณจงอินจะมารับไปทานข้าวนะครับ”
เซฮุนก็ไม่คิด...ว่าคุณจงอินจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ อะไรทำให้คนที่ดูสุขุม
ดูน่ากลัวหรือน่าเกรงขามกลายเป็นคนที่พูดอะไรเลี่ยนๆและเป็นประโยคที่ชวนให้ขำได้ขนาดนี้ พูดตามหนังเรื่องอะไร เซฮุนอยากรู้จริงๆ
แล้วการจุมพิตที่หลังมือเบาๆก่อนปล่อยให้เป็นอิสระพร้อมการฝากฝังให้พี่เลขาช่วยดูแลและการจะมารับไปทานมื้อเที่ยงนี่อีก...ทำไมทุกๆอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด??
“ขอบคุณมากนะครับคุณจงอิน...ขอบคุณทุกอย่างเลยครับ”
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นคำตอบดีกว่า...เพราะผมรอฟังอยู่”
“>_<)”
“แล้วมื้อเที่ยงเจอกันนะครับ...ผมจะรีบมารับและจะมาเอาคำตอบด้วย!!”
ถึงจะเขินมากแค่ไหน...งงมากแค่ไหนและตามคุณจงอินไม่ทันแค่ไหน
เซฮุนก็ต้องเอ่ยคำขอบคุณออกมาเพราะถ้าไม่ได้คนแก่ขี้ตู่ช่วยเอาไว้ เขาก็คงไม่ได้ฝึกงานที่นี่หรือไม่ได้เข้ามาถึงโต๊ะของเลขาคุณจุนมยอน
เซฮุนพยายามจำทางเข้าทางออกของบริษัทมาตั้งแต่ถูกจูงมือ ลิฟท์ตัวไหนห้ามขึ้น ชั้นไหนพาไปแผนกใดหรือทุกตึกมีอะไรบ้าง...ซึ่งทั้งหมดก็คือสิ่งที่คุณจงอินแนะนำให้
“น้องเซฮุนพร้อมทำงานหรือยังคะ?”
“พร้อมแล้วครับพี่ไอรีน”
“งั้นนั่งตรงนี้เลยค่ะ...แล้วก็อ่านเอกสารกองนี้ให้หมด ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ทั้งหมดนี้เลยเหรอครับ?”
“ค่ะ...ทั้งหมดนี่เลย แต่ไม่ต้องรีบนะคะ ค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆ”
“ครับ.....”
ไอรีนคงเป็นเลขามือหนึ่งของคุณจุนมยอนจริงๆ...เพราะไม่ว่าจะเป็นเอกสารหรือโต๊ะทำงานชุดใหม่ของเด็กฝึกงาน ทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นอย่างดี ปากกา
ที่เย็บกระดาษ โน๊ตบุค
คอมพิวเตอร์หรือแฟ้มงานต่างๆก็ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เซฮุนนั่งลงบนเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้ เอกสารก็ถูกเปิดออกทีละหน้า ทีละหน้าเพื่อศึกษางานไปตามระบบ แต่!!ที่ยังไม่เป็นระบบก็คงเป็นหัวใจของเขาเพราะ...คำตอบที่คุณจงอินอยากได้มันยังคงวนเวียนมาให้คิดสลับกับเนื้อหาจากเอกสารตรงหน้า
(ตอบตกลง.....กับจิวเวลรี่คอลเลคชั่น Summer ปี90
ปฏิเสธ.....กับจิวเวลรี่คอลเลคชั่น
Autumn ปี90
ตกลง.....กับจิวเวลรี่คอลเลคชั่น
Spring ปี90
ปฏิเสธ.....กับจิวเวลรี่คอลเลคชั่น Winter ปี90
ตกลง.....กับจิวเวลรี่คอลเลคชั่น
Rainy ปี90)
คิดอยู่ในใจ คิดไปคิดมา
คิดแล้วคิดอีก...คิดสลับกับการจดจำคอลเล็คชั่นต่างๆของปีตามหน้าเอกสาร
และการทำงานวันแรกในฐานะของเด็กฝึกงานก็เหมือนจะมีหลายสิ่งหลายอย่างให้คิดมากมายเหลือเกิน
เซฮุนพยายามปัดเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานก่อนที่ตัวเองจะฝึกงานไม่ผ่าน แต่ยิ่งแยกแยะกลับยิ่งคิดไกล ยิ่งปัดออกไปก็ยิ่งเข้าตัว แถมรอยจูบที่หลังมือก็ยังตราตรึงจนลบออกไปไม่ได้ ความอบอุ่นยังมี
ความรู้สึกยังอยู่และหัวใจก็เหมือนจะกลับเต้นแรงอีกครั้งเมื่อนึกถึง
หรือว่า...ใจของเราจะไม่เป็นของเราอีกแล้ว?
...
...
...
Rrrr!!!!
Rrrr!!!!
“ว่ายังไง...?”
(พี่ชานยอลทำอะไรอยู่ฮะ...ว่างคุยกับผมไหมฮะ?)
“คุยได้ๆ...พอดีกำลังออกไปซื้อของที่ห้าง
XX ของในตู้เย็นมันใกล้หมด แล้ววันนี้ฝึกงานเป็นไงมั่ง?”
(เรื่องฝึกงานเอาไว้ก่อนฮะ...ผมมีเรื่องสำคัญกว่านั้นจะเล่าให้ฟัง?)
“เป็นอะไร...มีเรื่องอะไรหรือเปล่า???”
(พี่ชานยอลอย่าทำเสียงเข้มสิฮะ...มันน่ากลัว)
ก็สิ่งที่น้องโทรมาบอกมันน่าคิด...ชานยอลจึงอดที่จะทำเสียงเช่นนั้นไม่ได้ แล้วอะไรที่สำคัญกว่าเรื่องการฝึกงาน คนเป็นพี่คิดว่าน้องจะโทรมาบอกว่าให้ไปรับตอนไหน แต่สิ่งที่ได้ฟังกลับเป็นอีกเรื่องที่ชวนให้สงสัย??
“ก็บอกมาสักทีสิ...พี่เป็นห่วงรู้ไหมเนี่ย?!”
(เมื่อเช้าผมเจอคุณจงอินที่หน้าบริษัท...แล้วคุณจงอินก็มาขอเป็นแฟนเฉยเลยฮะ)
“จริงดิ...ทำไมคุณจงอินรุกหนักจังวะ!!?”
(ผมก็ไม่รู้...อยู่ดีๆก็โผล่มา แล้วก็พูดให้คิด พอผมถามตรงๆว่ากำลังจีบอยู่เหรอ เค้าก็ตอบว่าไม่ได้อยากจีบ แต่จะขอเป็นแฟนเลย คุณจงอินพูดงี้เลยฮะ!!)
“เฮ้ยยย!!?”
(จริงงงง!! ผมไม่ได้โกหก
คุณจงอินพูดอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ
แล้วก็จูบมือผมด้วย...บอกคนนี้ต้องเป็นของเค้าคนเดียว คุณจงอินพูดงี้เลยพี่ชานยอล!! แต่ผมยังไม่ได้ตอบตกลงเป็นแฟนนะฮะ)
ตอกแรกเหมือนจะโทรมาปรึกษา...เพราะตอนนี้มันใกล้จะถึงเวลาที่คุณจงอินจะมาเอาคำตอบ แต่พอพูดไปพูดมา เล่าไปเล่ามา
ฟังไปฟังมา คนเป็นน้องกลับมีทีท่าที่คล้ายว่าจะชอบการกระทำแบบนั้นของคุณจงอิน และถ้าให้ชานยอลเดา...เซฮุนอาจคุยโทรศัพท์ไปพร้อมๆกับใบหน้าที่แดงก่ำ
แถมน้ำเสียงที่โทรมาบอกเล่าก็เจือไปด้วยความเขินอาย
“ขอบใจที่โทรมาบอก...และพี่ก็จะไม่ห้ามเราด้วย แต่พี่อยากให้เราคิดให้ดีๆ พี่ไม่อยากเห็นเราเสียใจ”
(ผมรู้ฮะ...ผมก็ขอบคุณพี่ชานยอลเหมือนกันนะฮะที่คอยอยู่ข้างผม ผมจะคิดให้รอบคอบ แล้วตอนเย็นจะกลับไปเล่าให้ฟังอีกนะฮะ)
“พี่ไม่ว่าถ้าเราจะมีแฟน...แต่เค้าต้องรักเราเหมือนที่พี่รัก เข้าใจไหม?”
(เข้าใจฮะ...รักพี่ชานยอลนะฮะ เดี๋ยวตอนเย็นเจอกัน)
“โอเค...ระวังตัวด้วยหล่ะ”
(ฮะ...)
วางสาย...ด้วยหัวใจที่อิ่มไปด้วยพลังที่พี่ชายมอบให้
ส่วนเขาจะเลือกทางไหนก็ต้องคิดให้ดีก่อนจะพูดมันออกไป มือบางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม
สองขาก็ค่อยๆก้าวออกมาจากห้องน้ำเมื่อจบการสนทนากับพี่ชายและต้องขอบคุณสำหรับสถานที่ฝึกงานเพราะถ้าเป็นในแผนกอื่นๆ เซฮุนอาจไม่ได้มีพื้นที่ส่วนตัวในการคุยเรื่องสำคัญกับชานยอลเนื่องจากห้องน้ำบนชั้นนี้จะมีเฉพาะคุณจุนมยอน พี่เลขารวมถึงแขกคนสำคัญเท่านั้นที่จะใช้ได้...ซึ่งในแผนกอื่นมันอาจจะไม่เป็นแบบนั้น
“พี่ไอรีนครับ...ทำไมคอลเลคชั่นปี
92
ถึงมีแค่ซัมเมอร์กับวินเทอร์ล่ะครับ?”
กลับมานั่งทำงานต่อ...และต้องถามเรื่องนี้อย่างห้ามไม่ได้เพราะมันน่าสงสัย คิมจิวเวลรี่ไม่เคยพลาดแม้แต่ฤดูกาลเดียว ซึ่งในทุกๆปีจะมีห้าคอลเลคชั่นเสมอ แต่ปีที่เซฮุนเอ่ยถามมันมีเพียงแค่สองคอลเลคชั่นเท่านั้น...แล้วอีกสามคอเลคชั่นล่ะมันหายไปไหน??
“ปีนั้นคุณจุนมยอนอกหัก...ทุกอย่างก็เลยล้มไปหมด
คุณจุนมยอนเสียใจมากก็เลยหยุดทำไปสามคอลเลคชั่น”
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ...พอดีในเอกสารไม่ได้แจ้งอะไรเอาไว้ ผมก็เลยนึกว่ามันหายไป”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ...น้องเซฮุนไม่ผิดสักหน่อย สงสัยก็ถามมา
แต่ถ้าเรื่องไหนพี่บอกไม่ได้ก็อย่าว่ากันนะคะ”
“ครับ...ขอบคุณนะครับพี่ไอรีน”
เพราะอกหัก...เพราะรักไม่สมหวัง
เพราะเหตุนี้คุณจุนถึงผลิตผลงานดีๆออกมาไม่ได้ ขนาดเป็นถึงเจ้าของบริษัทหรือมีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้าใจโลกกว้าง แต่ก็ยังต้องมาพ่ายแพ้ให้กับเรื่องนี้ แล้วถ้าเด็กฝึกงานอย่างเขาอกหักบ้างล่ะ...มันจะเป็นอย่างไร??? เซฮุนนึกไม่ออกเลยว่าถ้าวันหนึ่งตัวเองอกหักแล้วมันจะเป็นเช่นไรเพราะเกิดมาจนอายุเท่านี้ก็ยังไม่เคยมีแฟนหรือมีความรักแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง คนมาจีบมี
คนมาชอบมี คนมาแอบรักก็มี...แต่ก็ยังไม่เคยรับรักใครเลยสักคน
ติ๊งงง!!!
เสียงลิฟท์...ที่บ่งบอกได้ว่ามีใครสักคนขึ้นมาที่ชั้นนี้ทำให้เด็กฝึกงานรู้สึกใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก แต่ทำไมต้องใจเต้นด้วยล่ะ?? ในเมื่อใครคนนั้นอาจเป็นพนักงานสักคนหนึ่ง
เป็นลูกค้าหรือเป็นหัวหน้าในแผนกใดแผนกหนึ่งที่มาพบกับพี่เลขาก็ได้...ซึ่งอาจจะไม่ใช่คนที่เขารอคอย
รอคอยอย่างนั้นหรือ!!???
เซฮุน...รีบสะบัดความคิดบ้าๆบอๆออกไปจากหัว ใครรอคอย
ใครใจเต้น
ใครจะไปอยากเป็นแฟนกับคนอายุมากเช่นนั้น
และ...........
“เช้าก็มา
เที่ยงก็มา...แล้วตอนเย็นจะมาอีกไหมคะคุณจงอิน?”
“ลาออกพรุ่งนี้เลยดีไหมไอรีน?”
“ใจร้ายจังเลยนะคะ...ฟ้องคุณจุนดีไหมเนี่ย?”
และเสียงทักทายของพี่เลขา...กับเจ้าของเสียงทุ้มในชุดสูทสีเทาก็ทำให้หัวใจของเด็กฝึกงานเต้นตึกตักจนเหมือนจะหลุดออกมานอกอก มือบางเปิดแผ่นกระดาษในแฟ้มด้วยความเลื่อนลอย สายตาอาจโฟกัสอยู่ที่ตัวหนังสือ แต่สมองหรือโสตประสาทส่วนอื่นกลับโฟกัสไปที่หนุ่มผิวเข้มมากเสน่ห์
“สวัสดีครับแฟนคุณจงอิน...วันนี้ทำงานเหนื่อยไหมครับ?”
“คะ...คุณจงอินอย่าพูดแบบนี้สิครับ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แล้วพี่ไอรีนก็อยู่ด้วย ผมเกรงใจพี่เค้า”
ทั้งเกรงใจ ทั้งอาย
ทั้งเขิน...และไม่รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของตัวเองนั้นแดงไปถึงไหนเพราะคุณจงอินขี้ตู่อีกแล้ว ขี้ตู่บ่อยเกินไปจริงๆ เซฮุนจำเป็นต้องก้มหน้าเอาไว้ด้วยกลัวว่าคนมากอายุจะทราบถึงความในใจ และไหนจะสายตาของพี่เลขาอีก ดีที่คุณจุนมยอนออกไปทานกลางวันแล้ว
ไม่อย่างนั้นเด็กฝึกงานอย่างเขาคงถูกทุกสายตากดดันจนเผยความในใจ
“แฟนมารับไปทานมื้อเที่ยงแล้วนะครับ...หวังว่าน้องเซฮุนจะยังไม่ลืม?”
“พูดแบบนี้อีกแล้วนะครับคุณจงอิน
><) ”
“ก็น้องเซฮุนเป็นแฟนกับคุณจงอินจริงๆนี่ครับ”
เอาแต่ใจตัวเองที่สุด...ยิ่งพูด
ยิ่งเตือน ยิ่งต่อปากต่อคำก็ยิ่งเอาแต่ใจ เซฮุนไม่อยากคุยด้วยแล้ว
คนอะไรก็ไม่รู้...พูดเข้าข้างตัวเองเก่งเหลือเกิน แต่!!ถึงจะไม่อยากคุยมากแค่ไหนก็คงจะทำเรื่องที่เสียมารยาทไม่ได้เนื่องจากคุณจงอินเป็นผู้ใหญ่ แถมยังคอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆเอาไว้มากมาย เขาได้มาฝึกงานที่นี่ก็เพราะคุณจงอิน ได้มาเป็นเลขาก็เพราะคุณจงอิน ได้มานั่งอยู่ในบริษัทนี้ก็เพราะคุณจงอิน
เพราะคุณจงอินทั้งนั้น...เซฮุนถึงได้มาทำตามความฝัน
“ผมไปทานข้าวกับคุณจงอินได้ไหมครับพี่ไอรีน?”
“ไปเถอะคะ...พี่ไม่อยากลาออกก่อนกำหนด”
“คุณจงอินไม่มีสิทธิ์ไล่พี่ไอรีนสักหน่อย”
(แต่มีสิทธิ์ในตัวน้องเซฮุนนะครับ!!)
อีกแล้ว...พูดแบบนี้อีกแล้ว
เข้าข้างตัวเองอีกแล้ว และใจก็เต้นอีกแล้ว
♡!!!!!
♡ ♡ ♡ ♡
100%
Cr.
ภาพในตอนที่หก : IG>
***สันนิษฐาน หมายถึง ลงความเห็นเป็นเชิงคาดคะเนไว้ก่อน
***หมาหยอกไก่ หมายถึง ใช้เรียกอาการที่ผู้ชายล้อเกี้ยวผู้หญิงแบบทีเล่นทีจริง
***ไม่ชอบมาพากล หมายถึง
ไม่น่าไว้วางใจ
***วางมาด หมายถึง
แสดงท่าทางให้ผู้อื่นเห็นว่ามีอำนาจหรือใหญ่โต
Talk.
คุณจงอินเป็นเอามากนะคะ...ทำน้องเซฮุนใจเต้นไปหมด >.<)
ส่วนไรท์ก็หายไปนานเลยค่ะ
ฮือออออออ...หวังว่าจะไม่ลืมกัน T^T
และ...ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ประกาศว่า
ในทวิตเตอร์ของเรา @Mokara16 มีการแจกของขวัญเนื่องในวันเกิดน้องฮุนด้วยนะคะ มันอาจเร็วไปสักหน่อย แต่ที่แจกเร็วเพราะไม่อยากให้ติดวันสงกรานต์ เราอยากส่งของให้ถึงผู้โชคดีก่อนที่ ปณ.
จะปิดยาววันหยุด นักอ่านคนใดอยากร่วมสนุกก็ขอเชิญเลยนะคะและรบกวนอ่านกติกาดีๆด้วยเพราะเมื่อสุ่มแล้วเช็คว่าไม่ได้ทำตามกติกาเราจะสุ่มใหม่ทันที
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆเลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และกำลังใจแสนดีด้วยค่ะ
เลิบบบบบ ♡
#KHanother
ความคิดเห็น