คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ❧ 5 (END)
ออกเรือวันสุดท้าย
06.26 น.
แควกกก!!!!
“....??!!”
เสียงฉีกกระดาษ...ที่ได้ยินซ้ำไปซ้ำมา ทำให้คนที่นอนอยู่ในเต็นท์ด้านข้างต้องตื่นด้วยความสงสัย ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อยเพราะดวงอาทิตย์เริ่มขึ้นมาทำหน้าที่แทนพระจันทร์ แต่ร่างกายที่ไร้ใครบางคนโอบกอดเหมือนเช่นสองคืนที่ผ่านมาก็พาลให้หัวใจรู้สึกสั่นไหวแปลกๆ หายไปไหนแต่เช้านะ? ทำไมถึงปล่อยให้นอนอยู่คนเดียว?? แล้ววว...ทำไมเราจะต้องสนด้วยล่ะ???!!
มือบาง...สะบัดผ้าห่มออกจากร่างกายด้วยความหงุดหงิดก่อนคลานเข่าออกไปจากเต็นท์แล้วมองไปที่ต้นเสียง
เซฮุนเห็นเพื่อนตัวเล็กกำลังฉีกสมุดบันทึกของคุณพ่อโยนใส่กองไฟทีละแผ่น ทีละแผ่น
และนั่นก็พาให้สองขาต้องรีบก้าวไปตรงหน้าเปลวเพลิงทันที เมื่อคืนคุณไคบอกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น? แต่ทำไมเช้านี้แบคฮยอนถึงยังเศร้า?? เมื่อคืนได้นอนหรือเปล่า???
แล้ว...เพื่อนอย่างเขาสามารถช่วยอะไรได้บ้างไหม????
“แบค...มึงทำแบบนี้ทำไมวะ? สมุดนั่นมึงรักมากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“รักมาก...แต่มันก็อันตรายมากนะ กูไม่อยากให้มันตกไปอยู่กับคนเลวๆก็เลยยย...เผาทิ้งดีกว่า”
“กูถามจริงๆ...มึงโอเคกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นไหมวะ? กูเป็นห่วงมึงนะแบค กูเห็นแบบนี้แล้วกูไม่สบายใจเลย”
หย่อนกายลงนั่งข้างๆเพื่อน...และรีบถามในสิ่งที่อยากทราบทันทีเพราะเขาไม่อยากกลับไปโดยที่ยังไม่เคลียร์ความรู้สึก เซฮุนเป็นห่วงแบคฮยอนที่สุด มีพ่อ...พ่อก็ต้องมาตายด้วยอาชีพที่ไม่น่าจะพาให้เสียชีวิต
มีความรู้...แต่กลับไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ และมีโอกาสได้เดินทางมาที่นี่เพื่อสานต่อสิ่งที่ผู้มีพระคุณได้ค้นพบ แต่สุดท้าย...สิ่งที่ได้ก็คือความว่างเปล่า
“ถ้าบอกว่ากูโอเค...มึงคงไม่เชื่อใช่ไหม?”
“ก็เออดิ่...หน้ามึงโคตรหงอยเลย เพราะฉะนั้นมึงเป็นอะไรรู้สึกอะไรก็พูดออกมาเลย เราจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา”
“กูไม่ได้เสียดายบันทึกเล่มนี้หรอกนะเซฮุน กูรัก..อันนี้กูไม่ปฏิเสธ แต่บันทึกของพ่อมันอันตราย กูเลยต้องทำแบบนี้
แล้วที่กูรู้สึกอีกอย่างก็คือ...งานที่พวกเราทำอยู่มันมีประโยชน์กับคนที่ต้องการมันจริงๆไหมวะ? เราทดลองนั่นนี่ ได้ตัวยาใหม่
ได้วัคซีนป้องกันโรคบลา บลา บลา
แต่จริงๆแล้วใครมันได้ประโยชน์กันแน่วะ?”
“กูก็ไม่รู้ ต้นทางมันคือเรา...แต่ปลายทางใครจะได้ใช้มันก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องไปตรวจสอบป่าววะ? เราไม่ใช่เจ้าของประเทศหรือพวกที่มีอำนาจอะไรขนาดนั้นนะเว้ย
หน้าที่เราคือทำการวิจัย...แล้วถ้ามึงคิดว่าสิ่งที่เราทำมันขัดต่อความรู้สึกจริงๆ กูเลิกทำได้นะ...กูไม่ซีเรียส ใครจะด่ากู
หาว่ากูเกาะพ่อเกาะมรดกวงศ์ตระกูลใช้ไปวันวันกูก็ไม่สน พ่อกูเงินกู...กูจะใช้ยังไงก็ได้ แต่มึงนั่นแหละ...พร้อมที่จะเลิกไหม? มึงรักงานนี้เพราะมีพ่อเป็นต้นแบบ แต่สำหรับกู...กูมีพ่อไว้ของบทำการวิจัยเฉยๆ”
โอเซฮุน...ผู้ซึ่งมีทุกอย่างในชีวิตไม่เคยสนใจว่าใครจะคิดกับตัวเองเช่นไร เพราะปกติคนนอกก็มักจะเห็นเขาเป็นในสิ่งที่ลูกคนรวยชอบทำ ใช้เงินไปวันวัน เกาะบารมีพ่อแม่เพื่อสร้างชื่อเสียง
งานที่ได้มาก็คงใช้เส้นสายหรือจะอีกสารพัดที่คนอื่นอยากจะมอง ซึ่งเขา...ก็ไม่รู้จะไปสนคนพวกนั้นไปทำไมในเมื่อก็รู้อยู่แก่ใจว่าทุกวันนี้ทำสิ่งใดไปเพื่ออะไร เพื่อใคร
และถึงแม้จะไม่ค่อยลงรอยกับคุณพ่อสักเท่าไหร่ แต่การที่ท่านมีลูกชายเพียงคนเดียว...ท่านจึงอดไม่ได้ที่จะตามใจลูกอย่างเขา
“ถ้าเลิกทำงานนี้จริงๆ...แล้วพวกเราจะไปทำอะไรกันวะ?”
“เรื่องนั้นค่อยคิด เก่งอย่างมึงหางานทำไม่อยากหรอก ส่วนกู...เที่ยวแม่งให้รอบโลก พักผ่อนจนกว่าพ่อจะด่าแล้วค่อยหางานใหม่”
“มึงก็เป็นแบบนี้ทุกที”
“แล้วเป็นเพื่อนมึงป่ะล่ะ...”
“เป็นสิ...กูรักมึงนะเซฮุน”
“กูก็รักมึง...กูไม่อยากให้มึงคิดมากนะแบค ทำอะไรแล้วไม่สบายใจก็เลิกทำไปเหอะ ว่าแต่...มึงไม่ได้เผาเบอร์โทรศัพท์ลุงแท็กซี่ไปด้วยใช่ไหม???”
“เฮ้ยยยย!!..จริงด้วย ทำไงดี??”
“เชี่ยยยย!!!”
อยากกระโจนลงไปงมเบอร์โทรศัพท์ในกองไฟ...แต่ติดตรงที่ยังไม่อยากตายในตอนนี้ ทั้งเซฮุนและเจ้าของสมุดบันทึกจึงได้แต่มองหน้ากันด้วยสายตาที่แสนเศร้าสร้อย คราวนี้จะกลับกันยังไง? ท่าเรือคิมก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามายุ่งเลยสักคน??
ขนาดลุงแท็กซี่ยังต้องจอดห่างจากท่าเรือไปเป็นเมตรๆ??? เฮ้ออออ...แล้วใครมันจะกล้ามารับพวกเราไปที่สนามบินกันล่ะ?????
หัวทุย...ซบลงบนไหล่เพื่อนด้วยความรู้สึกผิด กองไฟเริ่มมอดเมื่อกระดาษแผ่นสุดท้ายถูกเผาจนไม่เหลือซาก
ยกเว้น...พืชน้ำสีม่วงในมือที่ตอนนี้กลีบดอกเริ่มโรยรา ขอบคุณคุณชานที่ช่วยเก็บมาให้?
น้ำมันลึกมากเลยนะ...แต่คุณชานก็ไม่บ่นสักคำ??
แถมยังเอามาทัดหูให้อีก...คุณชานเริ่มน่ารักมากขึ้น แต่ยังชอบกอดแน่นๆจนแทบหายใจไม่ออก แล้วก็ชอบให้หอมแก้มอยู่เรื่อย...คุณแบคเขินนะ!!
“เออแบค...มึงเห็นคุณไคไหมวะ?”
“ไม่เห็นนะ คุณชานก็หายไปเหมือนกะ...กัน!!!!”
ปังงงง!!!
ยังไม่ทันได้สิ้นคำถามหรือความสงสัย...เสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัดก็พาให้สองเพื่อนรักต้องกอดกันไว้ด้วยความตกใจ
และเสียงแหวกกิ่งไม้ใบหญ้าที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังก็ยังทำให้ต้องหันไปมองที่ต้นเสียง ทั้งแบคฮยอนทั้งเซฮุน...รีบลุกออกจากที่นั่งเพราะเห็นการเคลื่อนไหวของพุ่มไม้ในระยะสายตาและคิดว่าอาจเป็นคนที่หายไป แต่.....
“เจอตัวสักที...”
“โอ้ยย...!! //
ปล่อยนะเว้ยย!!”
สิ่งที่คิด...ช่างห่างไกลจากความเป็นจริงเหลือเกินเพราะคนที่เดินออกมาจากพุ่มไม้มันไม่ใช่ผู้ที่หายไปแต่เป็นพวกที่ถูกเจ้าของท่าเรือยิงตายเมื่อสองวันก่อน เซฮุนและแบคฮยอนถูกรวบตัวไว้ด้วยความรวดเร็ว สองขายังไม่ทันได้วิ่งหนี
แถมยังไม่ทันได้หยิบสิ่งใดมาป้องกันตัวเลยสักอย่าง?!!! ร่างกายถูกโอบรัดจนผิวเนื้อเนียนขาวขึ้นริ้ว เอวคอดถูกบีบจนน้ำตาซึม แล้วแก้มนุ่ม...ก็ถูกสัมผัสด้วยความหื่นกระหาย
ฟอดดดดด!!!
“หอมจริงเว้ยยย!!!”
“อย่านะ...ไม่!!”
ลิ้นร้อน...ที่แลบเลียใบหน้านวลอย่างกักขฬะส่งผลให้น้ำตาไหลพราก เซฮุนไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้และหวังว่าเพื่อนตัวเล็กจะไม่ถูกกระทำอย่างที่ตัวเองต้องเผชิญ ส่วนแบคฮยอนก็พยายามขืนกายออกจากการถูกกอดรัด
แต่ด้วยแรงเพียงเท่านี้ก็ไม่ได้ทำให้พวกโจรสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
และ.....
“เอามันออกมา!!!!”
“คุณไค!!!...”
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า...ทำให้เซฮุนถึงกับตะโกนชื่อออกมาด้วยความตกใจ
เพราะเสียงปืนที่ได้ยินเมื่อครู่ก็คือแผลที่ปรากฏอยู่บนหัวไหล่ซ้ายของหนุ่มผิวเข้ม คุณไคเจ็บไหม?
อย่าเป็นอะไรนะ??
แล้วใครก็ได้...ช่วยด้วยยยย!!!???
เจ้าของท่าเรือถูกปืนจอที่ศีรษะแล้วถูกสั่งให้เดินออกมาจากป่า การเข้าไปสำรวจความปลอดภัยก่อนออกเรืออีกครั้งในตอนเช้ามันทำให้ไคต้องพบกับคนพวกนี้
และการระวังตัวที่น้อยเกินไปหรือไม่คาดคิดว่าจะมีใครเข้ามาที่นี่ก็ส่งผลให้เกิดเรื่องขึ้นจนได้
“เด็กมึงโคตรหอมเลยว่ะ แต่คงไม่ใช่ของมึงแล้วมั้งเพราะมันอยู่ที่กู!!!”
“คุณไคอย่ามองนะ...!!!
ใช่ว่าไม่เห็น...ว่าเซฮุนถูกทำอะไรบ้าง
และใช่ว่าไม่โมโหที่เห็นภาพร่างสวยถูกโอบเอาไว้เช่นนั้น แต่ยิ่งผลีผลาม***หรือทำไปตามที่ถูกยั่วยุ...ผลที่ได้ก็ยิ่งไม่คุ้มเสีย ใบหน้านวลที่ถูกโลมเลีย เอวบางที่ถูกกอดรัด แก้มขาวที่ถูกสัมผัส ทุกๆอย่างที่เขาเห็นมันเหมือนถูกไฟร้อนสุมอยู่ในใจ
“พวกมึงไปหาไอ้ชานให้เจอ!!”
“ครับลูกพี่...”
วันก่อนมากันห้าคน...แต่ตายไปหนึ่ง
วันนี้จึงเอาคนมาเพิ่มเพื่อก่อเหตุร้ายและมันก็ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆเพราะในเขตนี้ไม่ใช่เขตที่ใครจะหาเจอได้ง่ายๆ ไม่ชำนาญก็คงมาไม่ถึง ไม่รู้จริงก็คงมาไม่ได้
แล้วถ้าไม่แอบตามมาตั้งแต่แรก...พวกมันก็ไม่มีทางเจอเราแน่นอน
“ไม่ต้องกลัวนะเซฮุน”
“ฮึกก!!...คุณไค”
“อย่าร้อง...อดทนไว้”
“คุณไค ฮึกกกก!!”
เสียงทุ้มที่เอ่ยปลอบด้วยความเป็นห่วง...มันเหมือนเป็นแรงใจที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่
แต่การถูกคนพวกนี้สัมผัสอย่างหยาบโลนมันพาลให้อยากตายมากกว่า เซฮุนพยายามขืนกายออกจากการถูกจับพร้อมพร่ำเรียกคนตรงหน้าและเอาแต่ส่ายศีรษะไปมาเพราะไม่อยากให้ไคเห็นภาพที่ไม่ควรมอง ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ น้ำตาแห่งความเสียใจ ความหวาดกลัว
ความรู้สึกขยะแขยงมันไหลพรากอย่างห้ามไม่ได้
“ลูกพี่...ผมไม่ไหวแล้วว่ะ! ขอเอาไอ้นี่ก่อนเหอะ!!”
“ตามใจ...แต่ออย่าแรงนักนะเว้ยเดี๋ยวเสียราคาหมด”
(อย่านะ!! อย่าทำอะไรเพื่อนกะ...กู โอ๊ยย!!)
ยิ่งได้ฟังคำพูดที่น่าสะอิดสะเอียน...เซฮุนก็ยิ่งขืนกายมากขึ้นเพราะอยากช่วยเพื่อนรัก แต่การทำเช่นนั้น...ก็พลันให้หน้าท้องขาวเนียนถูกชกเข้าเต็มแรง ร่างทั้งร่างทรุดลงไปบนพื้นดิน ใบหน้านวลแนบไปกับกอหญ้าจนรู้สึกได้ถึงรอยบาด
และสองมือก็ต้องกุมความเจ็บจุกเอาไว้จนตัวงอ แต่...ความโหดร้ายมันก็ยังไม่จบเพียงเท่านั้นเมื่อเสื้อผ้าของตัวเองเริ่มถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
“มึงดูไว้นะไอ้ไค!!”
“อย่านะ!! ยะ...อย่า”
แก้มเนียนถูกประทับรอยอย่างหยาบโลน ริมฝีปากบางถูกแลบเลียอย่างกักขฬะ และเอวคอดก็ถูกฟอนเฟ้นจนขึ้นริ้ว เซฮุนพยายามทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้ลิ้นร้อนเข้ามากวานต้อนหรือได้ทำในสิ่งต้องการ
แผ่นหลังที่ครูดไปกับพื้นหญ้าก็ไม่ได้สนใจอีกแล้วว่ามันจะเจ็บหรือไม่
ใบหน้าเรียวส่ายไปมาเพื่อหลบหลีกการกระทำที่น่ารังเกียจพร้อมแรงของสองมือ...ที่ดันหน้าอกคนด้านบนให้ออกห่าง
ต่อให้ต้องตายก็ยังดีกว่าถูกคนพวกนี้ทำร้าย เซฮุนจึงพยายามใช้กำลังที่เหลือทั้งหมดเพื่อปกป้องตัวเองและไม่อยากให้เจ้าของท่าเรือต้องมาเห็นภาพที่เขาถูกย่ำยี แต่......
กริ๊กกก!!!
“ถ้าไม่หยุด...มึงตาย!!”
ชีวิต...ยังไม่ทันได้มีมลทินเพราะก่อนที่กางเกงจะถูกถอดออกจากเรียวขา เจ้าของเสียงทุ้มใหญ่ที่มาพร้อมกับปืนและจ่ออยู่ที่ข้างขมับคนร้ายก็โผล่มาช่วยได้ทันเวลา เซฮุนรีบถอยหลังเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนตัวเล็กด้วยความหวาดกลัว
ส่วนผู้กระทำการหยาบช้าก็ต้องสลบไปด้วยแรงเท้าที่เตะเสยเข้าปลายคางจนนอนแน่นิ่ง
“จะหนีไปไหนนน!!”
ปังงง ๆ ๆ!!
“อึ่กก!”
และคน...ที่ถูกปืนจ่อศีรษะอยู่นานก็ได้จังหวะเอาคืน เพราะเมื่อผู้เป็นลูกน้องเห็นลูกพี่ของตัวเองถูกเตะจนสลบมันจึงเกิดความหวาดระแวง ซึ่งนั่น...ก็ทำให้หนุ่มผิวเข้มได้โอกาสชิงอาวุธมาป้องกันตัว กระสุนสามนัดเจาะทะลุร่างพวกหมาหมู่จนล้มคว่ำ แล้วคนร้ายที่เหลือก็คงถูกเก็บเรียบไปหมดแล้ว
เพื่อนของเขาเก่งในเรื่องการพรางตัวมากที่สุด และคนอย่างไอ้ชานก็คงไม่มีวันปล่อยให้พวกนี้กลับมาสร้างปัญหาได้อีกแน่นอน ส่วนคนตัวเล็กที่ถูกช่วยชีวิตเอาไว้ก่อนที่จะแปดเปื้อนจนไม่เหลือชิ้นดีก็รีบปลอบขวัญเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรแล้วนะเซฮุน”
“แล้วมึงล่ะแบค!!!? มึงไม่เป็นอะไรใช่ไหม มันทำอะไรมึงหรือเปล่า!!?”
“ไม่เป็นไรๆ...พวกเราปลอดภัยแล้วนะ”
ใช่ว่าชินชากับเรื่องพวกนี้...แต่มันต้องเข้าใจว่าการอาศัยอยู่ในเขตที่ไม่มีใครปกครองคือต้องเอาชีวิตให้รอดแม้ว่าจะต้องฆ่าใครสักคน มันห้ามลังเล
ห้ามเห็นใจและห้ามปล่อยไว้เพราะอาจถูกแว้งกัดได้ตลอดเวลา แบคฮยอนจำได้ดี...ว่าการถูกลากเข้าไปในป่า การถูกตบใบหน้าจนปากแตก
การถูกความหยาบคายสัมผัสตามผิวเนื้อมันรู้สึกเช่นไร และภาพที่คนตัวใหญ่จับผู้ร้ายหักคอได้เพียงครั้งเดียวมันดูโหดร้ายแค่ไหน แต่...ถ้าไม่ทำเช่นนี้หรือไม่ได้คุณชานช่วยชีวิตเอาไว้เขาก็คงถูกทำร้ายจนไม่เหลือความเป็นคน
09.21 น.
ปึ่กกก!!!
“มึงจะให้กูแบกมันมาทำไมวะ? แม่งงง...หนักฉิบหาย”
“เอามันไปผูกไว้กับสมอเรือ”
ถ้าแบกเองได้...ก็คงแบกมาแล้ว
แต่การถูกยิงที่แขนมันทำให้บาดเจ็บจนไม่อาจหยิบจับอะไรได้นอกจาก...มือนุ่มๆของคุณหนูตัวป่วน อยากอุ้มขึ้นเรือ...แต่สังขารมันไม่เอื้ออำนวย อยากปลอบใจ...แต่ก็พูดอะไรหวานๆไม่ค่อยเป็น และอยากจัดการ...กับคนที่ทำให้ทุกอย่างในเช้านี้มันวุ่นวาย ไคเลยจำเป็นต้องเชือดไก่ให้ลิงดู สองขารีบก้าวขึ้นเรือด้วยความระมัดระวังก่อนประคองกายผู้ถูกทำร้ายให้ขึ้นมาพักพิงความเจ็บปวด
การเดินทาง...เพื่อกลับไปที่ท่าเรืออาจทำให้ต้องพบเจอกับพวกโจรป่าหรือพวกที่ลักลอบนำแรงงานออกไปขายยังต่างประเทศ ไคจึงต้องจับคนร้ายที่เหลือมาผูกไว้กับสมอเหล็กและปล่อยให้เรือมันลากไปตามกระแสน้ำเพื่อให้คนอื่นๆได้เห็นว่า...เจ้าของท่าเรือคิมไม่ใช่คนที่ควรจะเข้ามายุ่ง!!! ถ้าไม่ร้ายก็คงไม่มีชีวิตรอดมาจนป่านนี้ ถ้าไม่เอาจริง...คนที่ตายอาจเป็นตัวเอง แล้วถ้าไม่ทำเช่นนี้...พวกที่ร้ายกว่าก็อาจลงมืออีกครั้ง
“คะ...คุณชาน ทำไมไม่ทิ้งเอาไว้ในป่าล่ะ?
เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาบนเรือหรอก”
“ถ้าขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่คนแล้วนะครับคุณแบค”
“ทำแบบนี้จะดีเหรอ?”
“แล้วที่มันทำกับคุณแบคแล้วก็คุณเซฮุนมันดีหรือไง...โดนแบบนี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“ก็ฆ่ามันไปเลยสิ!!”
“ก็อยากทำอยู่ แต่ทำแบบที่ไอ้ไคว่า...มันสะใจกว่าเยอะ!!!”
ก็ได้ครับคุณชาน...อยากสะใจมากก็เชิญตามสบายเลยครับ
คุณแบคจะถามอีกแล้ว...และจะไม่หันไปมองอีกเด็ดขาด ถ้าผู้ชายที่ถูกเตะจนสลบยังไม่ตายตอนนี้ก็คงต้องตายภายในสิบนาที
เพราะการถูกมัดไว้กับสมอเหล็กก่อนปล่อยให้จมสู่เบื้องล่างและถูกลากไปกับกระแสน้ำ มันก็คงไม่มีใครทนได้เกิดห้านาทีแน่นอน มันเหมือนตายทั้งเป็น มันคือความโหดร้ายและมันก็เป็นวิถีชีวิตที่แบคฮยอนต้องทำความเข้าใจ...อีกครั้ง
ถ้ามันไม่ตายเราก็ต้องตาย เพราะฉะนั้น...ช่างแม่งมันเถอะ!!!
“แบค...มึงมาทำแผลก่อน”
“กูไม่เป็นไร แค่ปากแตกนิดหน่อย มึงไปดูคุณไคเหอะ...ป่านนี้เลือดออกหมดตัวแล้วมั้ง”
“ไหวแน่นะแบค?”
“มึงรีบไปเหอะน่าาา!”
“แน่นะ...กูไปนะ??!”
“เอออ!!..”
ทราบดี...ว่าเพื่อนเป็นห่วงหนุ่มผิวเข้มมากแค่ไหน และถึงแม้การถูกยิงจะโดนเพียงถากๆแต่อาการบาดเจ็บก็ถือว่าหนักอยู่พอสมควรเพราะเลือดที่ไหลออกมามันเยอะจนน่ากังวล ส่วนเขา...แค่ปากแตกและแก้มก็คงช้ำไปอีกหลายวันก็เท่านั้น แบคฮยอน...ไม่รู้จะขอบคุณทุกคนอย่างไรให้สมกับสิ่งที่ได้รับ ทั้งเรื่องการออกเรือ เรื่องของพืชน้ำ
เรื่องของคุณพ่อและเรื่องที่คุณชานกับคุณไคได้ช่วยชีวิตของพวกเขาเอาไว้ ถ้ามีอะไรที่พอจะทดแทนให้ได้เขาก็ยินดี
ส่วนเรื่องของค่าจ้าง...ก็คงต้องจ่ายเพิ่มจากที่เคยตกลงกันไว้เพราะการออกเรือในครั้งนี้มันเสี่ยงมากจริงๆ
...
...
แกร็กก!!!
“นอนตรงนี้ก่อนนะ...เดี๋ยวเราทำแผลให้ แล้วตอนนี้เจ็บมากไหม ไหวหรือเปล่า
ปวดขะ...แขน!”
“เซฮุนนนน...”
“ขอโทษ...ไม่พูดแล้วก็ได้ อ๊ะ!!”
พาคนเจ็บเข้ามาพักในห้องนอน...และเมื่อประตูปิดลง
ความเป็นห่วงก็พาให้ต้องถามนั่นถามนี่จนถูกเอ่ยเตือน
เซฮุนรีบปิดปากตัวเองก่อนคว้ากล่องยามาทำแผลให้เจ้าของท่าเรือ แต่...ยังไม่ทันได้หยิบสิ่งใดออกมาจากกล่อง
อ้อมแขนที่เต็มไปด้วยเลือดก็รีบโอบกอดคนพูดมากเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน และทั้งคู่ก็คงมีความเจ็บที่ต้องรักษา
เขาเจ็บใจ...ที่ปล่อยให้คุณหนูตัวป่วยถูกทำร้าย
เขาเจ็บแขน...จนไม่สามารถปกป้องคนตรงหน้าเอาไว้ได้ และเซฮุนก็คงเจ็บใจที่เกือบถูกยำยี แล้วก็เจ็บ...ที่ถูกชกเข้าที่ท้อง ซึ่งตอนนี้มันน่าจะช้ำจนท้องขาวๆกลายเป็นสีเขียว ภาพทุกภาพมันยังอยู่ในความทรงจำ เสียงกรีดร้องยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท
และเขา...ก็จะไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก
“ทำแผลก่อนนะ...ถ้าทำแผลเสร็จแล้วจะให้กอด”
พยายามปลอบใจคนถูกถูกยิง...ทั้งๆที่ตัวเองก็ช้ำไปทั้งร่าง
และตอนนี้ก็เริ่มปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ต้องอดทนเอาไว้เพราะเจ้าของอ้อมกอดคงเจ็บมากกว่าเขาหลายเท่านัก
“ขอโทษนะเซฮุน...ขอโทษจริงๆ”
ความรู้สึกผิดมากมาย...มันทำให้เจ็บกว่าแผลที่ถูกยิงเสียอีก ถ้าเขาไม่ปล่อยเซฮุนให้นอนอยู่ในเต็นท์เพียงลำพัง
ถ้าเขาไม่ออกไปดูความปลอดภัยในป่าก็อาจจะปกป้องคุณหนูตัวป่วนได้มากกว่านี้ และถ้าเขาไม่ประมาทก็คงไม่มีทางถูกยิงแน่นอน
แต่.....
“จะขอโทษทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย เราไม่เป็นไรแล้ว...โอเคไหม?”
มันไม่ใช่คำปลอบใจเหมือนเช่นครั้งแรก...และมันก็ไม่ใช่การปลอบใจตัวเองเพราะเซฮุนพูดทุกอย่างไปตามความรู้สึกที่แท้จริง เขาไม่โทษว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของใคร เขาไม่โทษว่าเหตุที่เกิดขึ้นคือความประมาท และถ้าจะโทษ...ก็คงต้องโทษพวกที่ตายอยู่ในป่า แล้วก็คนที่ถูกผูกไว้กับสมอเหล็ก ตายๆไปซะได้ก็ดี คนเลวๆแบบนี้จะอยู่ทำไมให้รกโลก จระเข้เอ๊ยยยย!!...ช่วยลากศพมันไปกินด้วยจ้าาา
“ไหนขอดูท้องหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง?”
“ปวดนิดหน่อย แต่นอนพักเดี๋ยวก็หายแล้ว คุณนั่นแหละมาทำแผลก่อน เห็นไหม...เลือดออกเต็มเลย”
“งั้นทำแผลเสร็จก็นอนพักด้วยกันนะ”
“กะ...ก็ต้องนอนด้วยกันจนกว่าจะกลับถึงท่าเรือไม่ใช่เหรอ พูดเองลืมเองหรือไง?”
“หึ!!...”
ใช่ว่าไม่ห่วง...รอยช้ำขนาดใหญ่บนหน้าท้องของเซฮุน
แต่แผลที่เกิดจากการถูกยิงมันต้องได้รับการรักษาก่อนที่เลือดจะไหลหมดตัวหรืออาจติดเชื้อจนพาลให้ไข้ขึ้น และถ้าไม่ติดว่าบาดเจ็บ...หนุ่มผิวเข้มคงจับตัวป่วนที่แสนน่ารักกินแทนมื้อเช้า ขนาดปวดท้องยังอดทนทำแผลให้เขาอยู่นานสองนาน ขนาดร่างกายมีแต่รอยช้ำและรอยบาดจากใบไม้ใบหญ้าก็ยังพูดจาได้น่าฟัง แล้วแบบนี้...จะไม่ให้ไอ้ไคหลงได้ไงวะ???!
“จะใส่ยาแล้วนะ มันแสบนะ...อดทนไว้ ฮึบบบ!!”
“เห็นผมเป็นเด็กสามขวบหรือไง คุณจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ...ผมทนไหว”
“ก็เรากลัวว่าคุณจะแสบหนิ”
“ขนาดคุณทั้งป่วนทั้งแสบผมยังทนได้ แล้วแผลแค่นี้ทำไมผมจะทนไม่ได้ล่ะ...จริงไหม?”
“อย่ามาหลอกด่ากันนะ เดี๋ยวก็ไม่ทำแผลให้ซะเลย!!”
“แต่ทำอย่างอื่นได้ใช่ไหม?”
“ทำอะไร?”
ฟอดดดดด!!!
“ >///<) ”
มันใช่เวลาไหมเนี่ย...สรุปว่าถูกยิงที่แขนหรือว่าที่หัวกันแน่ สมองถึงได้คิดแต่เรื่องแบบนี้??
เซฮุนรีบยกหลังมือขึ้นมาเช็ดแก้มของตัวเองด้วยความเขินอายก่อนคว้ายาในขวดสีเหลืองมาชุบสำลีแล้วซับลงไปบนบาดแผลอย่างแผ่วเบา ปากบางสีหวานพ่นลมออกมาเพื่อให้คลายความแสบ คิ้วโก่งขมวดแน่นเหมือนเป็นคนเจ็บเสียเอง และการการะทำที่เห็นอยู่ตรงหน้าหรือกิริยาท่าทางที่ฟ้องว่ารู้สึกเช่นไรก็พาให้ปากหยักยกยิ้มได้โดยอัตโนมัติ
ไค...รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้าเข้าไปทุกที
เพราะไม่ว่าเซฮุนจะทำอะไรมันก็ดูน่ารักไปหมด เบะปากก็น่ารัก พูดมากก็น่ารัก ร้องไห้ก็น่ารัก น่ารักทุกอย่างงงงงง!! บ้าแล้ว...กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!!
“เดี๋ยวต้องเช็ดตัวด้วยนะ คุณจะนอนทั้งที่ตัวเปื้อนเลือดแบบนี้ไม่ได้”
“คุณก็ต้องเช็ดตัวเหมือนกัน เสื้อผ้าที่ขาดก็ต้องเปลี่ยน แล้วยาก็ต้องทา...รอยช้ำจะได้จางลงบ้าง”
“ตะ...แต่เราไม่มีเสื้อเปลี่ยนแล้วนะ ฮึกก!!”
“อย่าร้อง...ชู่ววววว”
เหมือนจะห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่...และที่ตอนแรกเห็นว่ายังไหวก็เพราะมันต้องอดกลั้นเอาไว้ การที่คุณไคถูกยิง เพื่อนตัวเล็กถูกลากไปทำมิดีมิร้าย คุณชานก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด และพอได้ยินคำว่า “เสื้อขาด” สติมันจึงขาดไปพร้อมๆกับภาพความโหดร้ายที่ฉายซ้ำๆอยู่ในสมอง
เจ้าของมือเรียว...สั่นไหวเมื่อจับสาบเสื้อขึ้นมาบดบังรอยแดงบนผิวเนื้อ ใบหน้านวลซีดขาวเมื่อเห็นหน้าท้องมีรอยช้ำขนาดใหญ่ แต่...ทุกความหวาดกลัวก็ถูกปัดเป่าด้วยอ้อมกอดที่แสนอ่อนโยน
“คุณไค...ฮึกก!!”
“มันผ่านไปแล้ว และมันจะไม่เกิดขึ้นอีก...ผมสัญญา”
เข้าใจว่าเสียขวัญ
ทราบดีว่ารู้สึกเช่นไรและไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดให้คนอ้อมกอดรู้สึกหวาดกลัว จากที่คิดแล้วพูดตรงๆ จากที่เห็นแล้วเอ่ยอย่างชัดเจนหรือจากที่ไม่เคยปลอบใจใคร
ก็คงต้องเริ่มปรับเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่เพราะคำพูดบางคำก็อาจทำร้ายจิตใจและอาจทำให้น้ำตามันไหลได้อีกครั้ง
“ขอบคุณนะคุณไค”
“งั้นตอนนี้เรามาเช็ดตัวกันได้แล้ว...เช็ดตัวเสร็จก็นอนพัก โอเคไหม?”
“คุณต้องกินยาด้วย จะได้ไม่ปวดผะ...แผล?!!!”
ก๊อกกก ๆ ๆ!!!
(เซฮุน...เกิดเรื่องแล้ว!!)
ยังไม่ทันที่จะสิ้นความห่วงใย...และการปลอบใจก็ยังไม่สิ้นสุด แต่เสียงประตูที่เคาะเพียงแผ่วเบาพร้อมเพื่อนตัวเล็กที่เปิดเข้ามาด้านในก่อนพูดประโยคที่ชวนตกใจก็พาให้เซฮุนต้องรีบลุกออกจากที่นอน เกิดเรื่อง?
เรื่องอะไร?? มีโจรป่าบุกเข้ามาในเรือเหรอ??? หรือว่ามีใครได้รับบาดเจ็บอีก???? ไม่ใช่เซฮุนคนเดียวที่ตกใจเพราะคนถูกยิงก็รู้สึกตกใจไม่ต่างกัน ไครับเดินออกมาจากห้องด้วยความรีบร้อน และ....
“พ่อ??!!!!”
เรือหลายลำ...ที่ค่อยๆแล่นเข้ามาใกล้เรือของพวกเขาพร้อมชายสูงอายุที่ยืนอยู่ด้านหน้า คือสิ่งที่ทำให้แบคฮยอนต้องพูดว่า “เกิดเรื่อง” ใช่...มันเกิดเรื่องจริงๆ เพราะเซฮุนไม่รู้ว่าพ่อตามเขามาถึงที่นี่ได้อย่างไร? แถมยังเอาเรือติดตามมาตั้งหลายลำ?? แม่น้ำที่กว้าง...มันยังกว้างไม่พอให้เรือของพวกพ่อแล่นเลยได้ด้วยซ้ำ พ่อต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ลูกแค่ออกมาเที่ยว...ทำไมถึงต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่??!!!
“กลับบ้านกับพ่อเดี๋ยวนี้...ไหนบอกว่ามาฮาวาย แล้วที่เห็นมันคืออะไร?!!”
“กะ...ก็ไม่อยากไปฮาวายแล้วไง ก็เลยมาที่นี่
พ่อนั่นแหละ...มาทำอะไร
กลับไปเลยนะ ลูกยังสนุกอยู่เลย”
ทั้งเจ้าของท่าเรือและเพื่อนตัวใหญ่...เริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่น่ากลัวคงไม่ใช่โจรป่าหรือพวกที่ลักลอบนำแรงงานออกนอกประเทศอีกแล้ว แต่เป็น...ชายสูงวัยตรงหน้าที่พาเรือเข้ามาในเขตนี้ได้เป็นสิบสิบลำ แถมยังพาตำรวจมาด้วยอีกต่างหาก ไม่โดนจับวันนี้ก็คงต้องติดคุกจนหัวหงอกเพราะมีคนตายถูกมัดไว้อยู่ใต้น้ำและสภาพของพวกเขาตอนนี้...ก็ไม่ต่างกับโจรเลยสักนิด
“พ่อสั่งให้กลับบ้านได้ยินไหม!!? แล้วดูแกซิ...เสื้อผ้าทำไมมันขาดแบบนี้!!!”
“หนู...ไม่กลับ!!! แล้วเสื้อผ้าจะขาดก็ช่างมันสิ? พ่อกลับไปเลยนะ อย่ามาเบ่งแถวนี้!!”
“โอเซฮุนน!!”
“โอซือฮุนนน!!!”
เออ...ให้มันได้แบบนี้สิวะ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นพ่อลูกเถียงกัน แล้วการที่คนเป็นลูกแทนตัวเองด้วยคำว่า “หนู”
แถมยังยืนเท้าเอวต่อปากต่อคำกับผู้ให้กำเนิด มันก็เป็นสิ่งที่ดูน่ารักไม่ใช่หยอก อยากหัวเราะให้ดังไปทั่วทั้งแม่น้ำ...แต่เวลานี้มันคงไม่เหมาะ ไคจึงได้แต่ยืนนิ่งและพยายามเก็บทุกความรู้สึกเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
“คุณไค...ออกเรือกันเถอะ เดี๋ยวพ่อก็กลับไปเองแหละ”
“ไม่ดีมั้งคุณ พ่อคุณเอาตำรวจมาด้วยนะ...ท้ายเรือมีศพ ผมอาจถูกจับ!”
“ก็ไปปล่อยสมอทิ้งสิ!?”
“เอาจริงดิ่คุณ?!”
“อย่าถามมากได้มะ...ไหม!”
(เซฮุน...พ่อบอกให้กลับ //
แล้วมึงก็ปล่อยมือลูกกูเดี๋ยวนี้!!!)
“พ่ออย่ามาว่าคุณไคนะ!!”
มีลูกคนเดียวและยังชอบหาเรื่องมาให้...มันจึงปวดหัวแบบนี้ ไอ้เรื่องเรียนเก่งก็ไม่อยากจะอวย ไอ้เรื่องการงานที่พาให้พ่อได้หน้าในสังคมก็ไม่อยากจะชม และเวลามันดื้อ...ใครก็เอาไม่อยู่ ก่อนลากกระเป๋าออกจากบ้านก็บอกว่าจะไปเที่ยวฮาวายกับเพื่อนสนิท แต่สุดท้าย...เส้นสายที่มีก็แจ้งว่าพาสปอร์ตของลูกชายตระกูลโอถูกใช้เข้ามาในประเทศนี้ แล้วววว...จะไม่ให้พ่ออย่างเขาเป็นห่วงได้อย่างไร??!!!
นี่มันบ้านป่าเมืองเถื่อนชัดๆ จระเข้ก็เยอะ
สัตว์มีพิษก็เยอะ...ป่านนี้เซฮุนลูกพ่อคงแดงไปทั้งตัวแล้วมั้ง?? ยิ่งแพ้พวกแมลงอยู่ด้วย!!
กลับบ้านกับพ่อเถอะลูกกกกก!!!
“ถ้าไม่อยากให้พ่อว่าเค้า ลูกก็ต้องกลับบ้านกับพ่อเดี๋ยวนี้!!”
“ถ้าอยากให้หนูกลับ...พ่อก็ต้องให้คุณไคไปด้วย ไปให้หมดนี่เลย ไม่งั้นหนูก็ไม่กลับ!!”
“เออ!!...จะเอาแบบนั้นก็ได้ แต่ยังไงลูกก็ต้องกลับบ้านกับพ่อวันนี้!!”
(คุณไค...ไปอยู่กับเราเถอะ)
ใช่ว่าอยากดื้อเพ่งกับคุณพ่อ...แต่จะให้ทิ้งคนที่ช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้มันทำไม่ลง คุณไคเพิ่งถูกยิง คุณชานต้องขับเรือคนเดียว แบคฮยอนก็ต้องพักฟื้นร่างกายจนกว่าจะหายดี ส่วนเขา...ก็มีแต่รอยช้ำเป็นจ้ำไปทั้งตัว
เซฮุนจึงอยากให้ทุกคนได้กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บอย่างถูกวิธีหรือได้พบแพทย์เพื่อตรวจอาการในเบื้องต้น
“ใช่ๆ ๆ...คุณชานกลับไปกับเราเถอะนะ คุณแบคขอร้องงงง!!”
คนถูกอ้อนวอน...เริ่มสองจิตสองใจเพราะตัวเองก็อยากไปให้พ้นๆจากประเทศที่ต้องเอาชีวิตรอดไปวันวัน
แต่จะให้ทิ้งเพื่อนที่ร่วมจมหัวจมท้ายกันมาหลายปี...เห็นทีงานนี้มันต้องคิดหนัก
แบคฮยอนรีบเข้าไปกอดคนตัวใหญ่ด้วยความออดอ้อน และท่าทีแบบนั้นก็ยิ่งพาให้คุณชานคิดหนักมากขึ้นไปอีก
แต่....!!!!
“ไปไหมวะไอ้ชาน?”
“มึงเอาไงล่ะ?”
“ก็ไปดิ่...จะรออะไร?”
“มันต้องแบบนี้สิวะ!!!”
ไค...ก็คิดไม่ต่างไปจากเพื่อนของตัวเองสักเท่าไหร่ และถ้าถามว่าเสียดายท่าเรือคิมหรือเปล่า??...ก็ขอตอบได้เลยว่าไม่!!! อาจมีบ้างที่คิดถึง แต่ก็ไม่ถึงขั้นอาลัยอาวรณ์เพราะแม้ท่าเรือแห่งนี้พ่อของคนตัวเล็กจะตั้งใจซื้อไว้ให้เขาทำมาหากิน แต่...สิ่งที่ไคคิดอยู่เสมอก็คือการตอบแทนผู้มีพระคุณที่เคยสอน เคยช่วย เคยผลักดันให้มีทุกอย่างเหมือนคนอื่นๆ และสิ่งที่จะตอบแทนชายแก่ใจดีผู้นั้นได้ก็คงเป็นการปกป้องลูกชายของท่านตราบเท่าที่ชีวิตยังเหลืออยู่ แต่...คนที่พร้อมจะปกป้องแบคฮยอนก็คงเป็นไอ้คุณชานมากกว่า?!!
ส่วนคุณหนูตัวป่วนอย่างโอเซฮุน...ก็ต้องถูกกำราบด้วยคุณไคเท่านั้น!!!!!
END
100%
Cr. ในตอนจบ :
Suzy Hazelood
***ผลีผลาม หมายถึง
รีบร้อนเกินไปจนไม่ระวังหรือไม่ดูกาลเทศะ
Talk.
จบแล้วจ้าาาาาา \ (^0^) /
คือออ...มันยิ่งกว่าฟิคไฟลุกในทุกๆเรื่องที่เคยเขียนเลยค่ะ
สมองแล่นมาก...แล่นจนอยากให้เป็นแบบนี้กับเรื่องอื่นบ้าง5555555 (หัวเราะทั้งน้ำตา)
หวังว่าฟิคเรื่องนี้จะถูกใจนักอ่านนะคะ
และถ้ายังมีข้อผิดพลาดประการใด...เราต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณที่ให้โอกาสเราได้สร้างผลงานใหม่ๆอีกครั้งนะคะ ขอบคุณในกำลังใจ ขอบคุณคอมเม้นท์ ขอบคุณสำหรับผู้ที่ติดตามกันมาตั้งแต่ต้นจนจบ และขอบคุณ...นักอ่านที่ติดตามมาตั้งแต่ฟิคเรื่องแรกของเรา
#ดอกไม้ของเจ้านาย จนถึงเรื่องนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ ขอบคุณจากใจ ♥
แล้วพบกันใหม่ที่ฟิค #ฝากเลี้ยงKH นะคะ ^^)
รัก ♡
#ออกเรือKH
ความคิดเห็น