คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ♡4
4…
Condominium XXX
08.20
น.
“พี่ชานยอลทานเยอะๆนะครับ”
“ขอบคุณครับน้องแบค”
ในภาชนะเซรามิคของคนเป็นพี่...มีกับข้าวที่ถูกตักให้จนแทบล้นจาน ทั้งหมูย่าง
ไข่ทอด ถ้วยซุป
ทุกๆอย่างถูกตักก่อนวางไว้บนข้าวสวยร้อนๆพร้อมรอยยิ้มจากคนตัวเล็ก
ส่วนผู้เป็นน้องก็ยังคงหน้าแดงและต้องก้มต่ำเอาไว้เพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้ ทราบว่าการถูกหอมแก้มเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ...แต่มันก็ยังเขินอยู่ดี
“ไม่สบายหรือเปล่าเซฮุน?”
และเพราะ...ใบหน้าเรียวสวยที่ก้มต่ำ ทานอาหารโดยไม่พูดไม่จาหรือเอาแต่ตักนั่นตักนี่เข้าปากก็เป็นสาเหตุให้ชานยอลต้องเอ่ยถาม มือหนารีบวางช้อนส้อมไว้บนจานข้าวก่อนจับปลายคางของน้องให้หันมาเพื่อจะได้เห็นใบหน้าขาวชัดๆแล้วค่อยวางมือลงบนหน้าผาก ตัวก็ไม่ร้อน
ปากก็ไม่ซีด
อาหารก็ยังทานได้เป็นปกติ แต่ทำไม...น้องถึงหน้าแดง????
“ผมสบายดี...”
“แน่ใจนะ?”
“แน่ใจฮะ”
“เป็นอะไรก็รีบบอก...อย่าฝืนตัวเอง เข้าใจที่พี่พูดไหม?”
“อย่าดุสิฮะ...อายคนอื่นเค้า”
ที่ดุ...ก็เพราะเป็นห่วงและลืมไปเลยว่าตอนนี้เขากับเซฮุนไม่ได้อยู่กันตามลำพัง แล้วที่น้องหน้าแดงก็ใช่ว่าไม่สบาย แต่!!ถูกหนุ่มผิวเข้มหอมแก้มต่างหาก มันยังเขินอยู่เลยนะ! บรรยากาศในการมื้อเช้าร่วมกับเพื่อนข้างห้องดูจะหม่นลงเล็กน้อยเพราะเสียงทุ้มหนักที่เอ่ยด้วยความเป็นห่วงน้องชายเริ่มทำให้คนเป็นเจ้าห้องเป็นห่วงไปด้วยอีกคน แต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็คือ...ประทับใจ
จงอินรู้สึกประทับใจในความเป็นพี่เป็นน้องของคนตรงหน้าเพราะความเป็นห่วงแบบนี้ การออดอ้อนแบบนี้หรือการเอาใจใส่กันแบบนี้มันเคยทำให้เขาเข้าใจผิดและคิดว่าชานยอลกับเซฮุนเป็นแฟนกัน
จงอินอาจเอาความจริงในชีวิตระหว่างเขากับแบคฮยอนมาเป็นตัวตัดสิน
เขากับคนที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้ไม่ค่อยแสดงความเป็นห่วง ไม่ค่อยเอ่ยถาม ไม่ค่อยใส่ใจกันและกันเท่าสองพี่น้องอย่างชานยอลและเซฮุน
“น้องเซฮุนไม่สบายบ่อยหรือครับ?”
พยายาม...ทำให้บรรยากาศในการทานมื้อเช้าร่วมกันดีขึ้น และถึงมันจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น
แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้แขกต้องมารู้สึกอึดอัดใจกับการกระทำที่เผลอตัว จงอินไม่เคยถือสา แต่กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำเพราะสองพี่น้องคู่นี้ทำให้ความเป็นพี่ชายที่ดูแก่จนเกือบเป็นพ่อเริ่มอยากใส่ใจน้องดื้อๆแบบแบคฮยอนขึ้นมาบ้าง
“ไม่บ่อยหรอกครับคุณจงอิน...แต่เวลาอากาศเปลี่ยน เซฮุนจะรู้สึกไม่สบายตัว แล้วพวกเราก็เพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย เซฮุนคงยังปรับตัวไม่ค่อยได้ครับ”
“อ้าววว...แล้วปกติคุณทั้งสองคนอยู่ที่ไหนกันครับ แล้วทำไมถึงต้องย้าย?”
“ตอนแรกผมกับน้องอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่ต่างประเทศครับ...แต่พวกท่านเปลี่ยนที่ทำงานบ่อย แล้วก็เดินทางบ่อยด้วย ผมก็เลยขอย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะจะได้ไม่กระทบการเรียนของเซฮุน”
“ขอโทษที่ถามเยอะนะครับ...เสียมารยาทจริงๆ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ...คุยกันแบบนี้ก็สนุกดี คุณจงอินอย่าคิดมากนะครับ”
ความอยากเปลี่ยนบรรยากาศ...กลายเป็นการเสียมารยาทโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ดีที่เด็กหนุ่มตัวโตๆไม่ถือสาหาความ ไม่อย่างนั้นผู้ใหญ่อย่างจงอินคงถูกถอนหงอก*** ส่วนแบคฮยอนก็ไม่คิดว่าคนสองคนตรงหน้าจะย้ายมาจากที่ไกลๆแบบนั้น
และการมาอยู่เพียงลำพังสองคนพี่น้อง...ก็คงทำให้คิดถึงพ่อแม่น่าดู
“แล้วย้ายมาอยู่ที่นี่...พี่ชานยอลกับพี่เซฮุนไม่คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่เหรอครับ?”
“คิดถึงครับ...แต่ทำไงได้ แล้วท่านๆก็งานเยอะด้วย”
“ผมถามได้ไหม...ว่าท่านทำงานอะไร แล้วทำไมต้องเดินทางบ่อย?”
มันดูคล้ายๆคุณพ่อกับคุณแม่ของเขา...เพราะถ้าผู้ปกครองของพี่ชานยอลเดินทางบ่อย พ่อกับแม่ของแบคฮยอนคงต้องพูดว่า “อยู่ไม่ติดบ้าน” ท่านมักจะให้เหตุผลว่าต้องไปทำงาน แต่ลูกคนเล็กอย่างแบคฮยอนมีหรือจะไม่รู้ว่าพวกท่านไปเที่ยว ประชุมมีแค่วันเดียว แต่แพ็คกระเป๋าอย่างกับจะไปออกทริปสักสองเดือนแล้วก็ทิ้งให้เขาอยู่กับคนแก่ๆอย่างพี่จงอิน
น่าเบื่ออออออออ!!!!
“พ่อพี่ทำงานเกี่ยวกับนำเข้าส่งออกรถยนต์...ส่วนคุณแม่เป็นทูตอยู่ประเทศXX”
“ว้าววววว...น้องแบคอยากเป็นทูต น้องแบคต้องทำไงถึงจะได้ทูตบ้างครับ!!?”
ฝันไกล...แต่คงไม่ไกลเกินฝันเพราะแบคฮยอนอยากเป็นทูตจริงๆและพยายามเรียนหนังสือให้เก่ง ไม่เกเร
ฝึกภาษา เรียนพิเศษหรือทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นดั่งฝันในสักวัน
แล้วรอยยิ้มของแบคฮยอนพร้อมความกระตือรือร้นที่แสดงออกมาก็ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารยิ้มตามได้ไม่ยาก จงอินไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้บ่อยนักเพราะความเป็นพี่ชายตามสูตรที่เข้มงวดของเขามักจะทำให้น้องหน้าบึ้งเสมอ
“ถ้าว่างเมื่อไหร่พี่จะโทรถามคุณแม่ให้นะครับ?”
“เย้...พี่ชานยอลใจดีจัง!!”
คิดไม่ผิด...ที่เชิญสองพี่น้องคู่นี้มาร่วมทานมื้อเช้าด้วยกันเพราะมันมีแต่รอยยิ้ม
มันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและดูมีความสุขกว่าหลายวันที่ผ่านมา ถึงแม้บางเรื่องที่พูดคุยสอบถามอาจเป็นการละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวมากเกินไปหน่อย แต่ขอบเขตของความเป็นคนอื่น เป็นคนรู้จักหรือเป็นเพื่อนข้างห้องคนใหม่ก็ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
“แล้วน้องเซฮุนเรียนจบหรือยังครับ?”
“ใกล้จบแล้วครับ...เหลือแค่ฝึกงานอย่างเดียว”
“อยากฝึกงานแนวไหนครับ...เพื่อผมพอจะช่วยได้”
จบเรื่องน้องที่อยากเป็นทูต...พี่ชายคนนี้ก็ขอทำความรู้จักเจ้าของแก้มหอมเพิ่มอีกสักหน่อยเพราะการย้ายที่อยู่ ที่เรียนหรือที่ที่ต้องจากมามันค่อนข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แล้วคุณจงอินผู้กว้างขวางและเป็นถึงเจ้าของสรรพสินค้าชื่อดังมากมายก็มีคอนเนคชั่น
(connection) ดีๆอยู่ไม่ใช่น้อย เขาไม่ได้อยากอวดรวย ไม่ได้อยากได้หน้า ไม่ได้อยากเบ่งบารมีที่สะสมมานาน แต่มันอยากจะทำอะไรสักอย่างที่พอจะช่วยน้องเซฮุนได้บ้าง
และ.......!!!?
“พูดไปเลยครับพี่เซฮุน...คนแก่คนเนี่ยเค้าเป็นถึงเจ้าของห้างXX
เพื่อนเค้าเยอะจะตาย
พี่เซฮุนอยากฝึกงานที่ไหนก็พูดไปเลยครับ”
อยากอวย...หรือจะทำให้พี่อับอายขายหน้ากันแน่ แล้วการยักคิ้วหลิ่วตาแต่ปากยังเคี้ยวอาหารจนเต็มแก้มก็ทำให้สองพี่น้องอย่างเซฮุนกับชานยอลอดหัวเราะไม่ได้ ส่วนคนถูกอวยหรือถูกพูดแดกดันก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างนึกระอาใจก่อนเดินออกไปจากโต๊ะอาหารแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมของหวานอย่างคัพเค้กหลากสี
“ไม่ต้องเกรงใจนะครับน้องเซฮุน...แต่ถ้าคิดว่ามันเป็นความลับหรือเรื่องส่วนตัวผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“ไม่ใช่นะครับ...แต่ผมเกรงใจมากกว่า
แค่คุณจงอินเชิญมาทานมื้อเช้าก็เกรงใจจะแย่แล้วครับ”
“ผมก็บอกไปแล้วว่าไม่ต้องเกรงใจ...”
เป็นเช้าที่มีแต่รอยยิ้มให้กัน...เพราะการที่คุณจงอินยิ้ม แบคฮยอนยิ้มและพี่ชานยอลก็ยิ้ม ทุกๆคนที่มีรอยยิ้มมันพาให้สุขใจจนไม่อาจเก็บซ่อนสีหน้าเอาไว้ได้
เซฮุนก้มศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อคัพเค้กที่ตกแต่งด้วยครีมสีหวานลายดอกไม้ถูกส่งมาให้พร้อมช้อนขนาดเล็ก คุณจงอินใจดีเกินไปแล้ว
แถมขนมที่ถูกยื่นมาให้ก็ถูกใจจริงๆเพราะไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นดอกไม้...เซฮุนก็ชอบทั้งหมด
“ผมอยากฝึกงานที่ Kim Jewelry ครับ ผมเตรียมเอกสารไว้พร้อมหมดแล้ว เหลือแค่ไปยื่นให้บริษัทพิจารณาครับ”
เซฮุนบอกแล้ว...ว่าอะไรที่เกี่ยวกับดอกไม้เขาชอบทั้งหมดและยิ่งเป็นเครื่องประดับอย่างสร้อยคอ สร้อยข้อมือ
แหวนหรือต่างหู เซฮุนก็ยิ่งชอบ แล้วบริษัทชื่อดังระดับประเทศอย่าง Kim Jewelry ก็จะผลิตแต่เครื่องประดับที่ออกแบบมาจากดอกไม้เท่านั้น ในโลกนี้มีดอกไม้ชนิดใด คิมจิวเวลรี่ ก็จะผลิตออกมาตามคอลเล็คชั่น ตามฤดูกาล
ตามออร์เดอร์พิเศษของลูกค้า
และ............
“ถ้าเป็นบริษัทนี้ก็ดีเลยสิครับ...เพราะเจ้าของเป็นเพื่อนกับผมเอง ถ้าวันนี้น้องเซฮุนพร้อมผมก็พาไปได้เลยนะครับ สบายมาก!”
“จริงครับ...พี่เซฮุนไปกับคนแก่ได้เลย ไปทำงานพรุ่งนี้ก็ยังได้ พี่จุนใจดีมากๆเลยครับ ผมรับประกัน!!”
(........!!!!?)
ถามว่าตกใจหรือไม่...ก็ตอบเลยว่ามากกกกกกก!!!! คุณจงอินเป็นถึงเจ้าของห้างสรรสินค้า แล้วพี่จุนที่คนตัวเล็กพูดถึงใช่ คุณจุนมยอน
ไหม? เพราะถ้าใช่นั่นหมายถึงเจ้าของบริษัทจิวเวลรี่ชื่อดัง!! เซฮุนแทบตกเก้าอี้เมื่อได้ยินสองพี่น้องพูดถึงเรื่องการฝึกงานของเขาจนเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายๆ ทำไมทุกอย่างมันดูง่ายขนาดนั้นทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด บริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียง...จะเข้าจะออก จะไปฝึกงาน
จะไปสมัครงานมันยากจะตาย
แต่สองพี่น้องคู่นี้ทำอย่างกับจะพาเขาไปร้านสะดวกซื้อ
ฮือออออออ....มันง่ายเกินไปไหม??!!!
♡ ♡ ♡ ♡
Condominium XXX
แกร๊กกก!!
“พี่ชานยอล...ผมจะทำยังไงดี?!!”
ใช่แล้ว...เขาควรทำอย่างไรดี ตอนนี้มันตื่นเต้นไปหมดเพราะหลังจากกลับมาที่ห้องของตัวเองเมื่อจบมื้ออาหารอันแสนสุข
เซฮุนก็ต้องรีบมาเตรียมตัวเพื่อไปพบคุณจุนมยอนหรือเจ้าของร้านจิวเวลรี่ชื่อดัง แถมยังต้องไปกับคุณจงอินอีกด้วย แล้วก่อนจะออกมาจากห้องของคุณจงอิน เขาก็ยังบอกอีกว่าไม่ต้องแต่งตัวเป็นทางการมากนักเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด แต่!!ใครจะแต่งตัวตามสบายได้เมื่อต้องไปพบเจ้าของบริษัท
ใครจะไม่ตื่นเต้นเมื่อได้เข้าพบเป็นการส่วนตัว แล้วใครจะไม่ตื่นเต้น...ถ้าไม่ใช่เซฮุนคนนี้!!
“ทำใจให้เย็น...แล้วรีบไปแต่งตัว”
“โอเค...”
“เอกสารเราเก็บไว้ที่ไหน...เดี๋ยวพี่ช่วยเตรียมไว้ให้”
“อยู่ในลิ้นชักตรงโต๊ะหนังสือ ฮือออออ...พี่ชานยอล!! ผมตื่นเต้นอะ
มือสั่นไปหมดแล้วววว!”
“ก็บอกให้ใจเย็นๆ...มีคุณจงอินไปด้วย งานนี้คงผ่านฉลุย***”
“ตะ...แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลยฮะ
มันเหมือนผมใช้เส้นยังไงไม่รู้...คนอื่นเค้าอุตส่าห์สู้แทบตาย”
“คิดว่าคนอย่างเจ้าของบริษัทจะรับเราเพราะเป็นเพื่อนกับคุณจงอินเหรอ ผลการเรียนเป็นยังไงมั่งเค้าต้องตรวจสอบก่อนอยู่แล้ว...ถ้ารับแต่เด็กเส้นบริษัทคงไม่โตมาขนาดนี้หรอก
มันต้องเก่งจริงๆ...พี่ว่าคุณจุนอะไรนั่นก็ต้องมองคนออก”
“ก็จริงเนอะ ขอบคุณนะฮะพี่ชานยอล...ผมรักพี่ชานยอลที่สุดเลย”
“รีบไปแต่งตัวได้แล้ว...เดี๋ยวคุณจงอินมารอมันจะเสียมารยาท”
บอกคุณพ่อว่าอย่าใช้เส้นสาย...แต่สุดท้ายก็ยิ่งกว่าการใช้เส้นเพราะมีคุณจงอินคอยช่วยอยู่เบื้องหลัง เซฮุนไม่ชอบวิธีสักเท่าไหร่ เขาอยากสู้
อยากทำตามระบบ
อยากเข้าไปยื่นเอกสารต่างๆด้วยตัวเองหรือทำเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว คนเป็นน้องปล่อยอ้อมกอดจากพี่ชายตัวโตแล้วรีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายด้วยความรวดเร็ว
ประตูไม้สีขาวถูกเปิดออกก่อนดวงตาคู่สวยจะกวาดมองเพื่อหาเสื้อผ้าที่ดูสุภาพ...และการใส่สูทผูกไทด์ก็น่าจะสุภาพที่สุดแล้ว
“พี่ชานยอล...ผมดูดียัง?”
“อื้มม...ดีๆ!”
“แล้วงานพี่ชานยอลละฮะ...ตกลงจะเข้าบริษัทวันไหน?”
“คงเป็นอาทิตย์หน้า...แต่พี่ก็เตรียมตัวไว้แล้ว เราไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
“หวงสิ...พี่ชายผมทั้งคนนะฮะ”
“จะอ้อนอะไรอีก...เดี๋ยวเสื้อก็ยับจนได้”
แต่งตัวเรียบร้อย...ให้พี่ชายช่วยตรวจสอบเรียบร้อย แต่คนเป็นน้องก็อดเป็นห่วงชานยอลไม่ได้เพราะงานที่เคยทำเป็นประจำก็ต้องย้ายสาขามาอยู่ที่นี่ แล้วพี่ของเขาจะเหงาไหม? งานก็ใหม่
เพื่อนก็คงต้องใหม่เหมือนกัน
แล้วไหนจะลูกน้อง
ลูกค้าหรืออะไรใหม่ๆจากสถานที่ใหม่ๆนั่นอีก มีสารพัดสิ่งที่พี่ชายของเขาต้องพบต้องเจอ...อ้อมแขนน้อยๆจึงรีบโอบกอดคนตัวโตกว่าเอาไว้อย่างนึกเป็นห่วงเป็นใย
“ป่าวอ้อนสักหน่อย...ผมแค่เป็นห่วงเฉยๆ”
“ไม่ต้องห่วงน้าาาา...งานที่สาขานี้พี่เคยบินมาดูงานบ้างแล้ว เราสบายใจได้...มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“แล้วถ้าต่างคนต่างงานเยอะ...ผมก็อดเจอพี่ชานยอลล่ะสิ ไม่ดีเลยฮะ”
“งอแงอีกแล้ว...จะฝึกงานผ่านไหมเนี่ย?”
“ฮืออออออออ....”
ไม่ชอบเลย....เซฮุนไม่ชอบเวลาที่เราสองคนพี่น้องงานเยอะ เขาจำได้และถึงแม้จะไม่บ่อย
แต่เวลาที่พี่ชานยอลติดงานหรือต้องบินไปต่างประเทศเพื่อประชุม เขาก็ต้องเหงาอยู่คนเดียวในบ้าน ไปเรียนก็ไม่มีใครไปส่ง เลิกเรียนก็ต้องกลับเอง ตกเย็นก็ต้องทานข้าวคนเดียวอีก แล้วถ้าตอนนี้เขาได้ฝึกงาน พี่ชานยอลก็ต้องเริ่มไปทำงานที่ใหม่...ความงานยุ่ง ความงานเยอะหรือความงานยังไม่เสร็จก็คงทำให้เราเจอกันน้อยลงใช่ไหม???
♪♫..♪♫♪..♫♪!!!
“นั่นไง...มัวแต่งอแง คุณจงอินมาตามแล้วมั้ง??”
เสียงกริ่งหน้าห้อง...ทำให้คนเป็นน้องต้องยอมละจากการอ้อนพี่ชาย
มือบางรีบคว้าเอกสารบนโต๊ะมาถือไว้ก่อนเดินไปกดอินเตอร์คอมเพื่อความแน่ใจว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกคือหนุ่มผิวเข้ม และเมื่อมั่นใจก็รีบเปิดประตูห้องทันที
แต่.....!!!?
“เอ่อออ...คุณจงอิน?”
“โอ้โห...แต่งตัวพร้อมทำงานเลยนะครับน้องเซฮุน”
เหมือนถูกแซว...เพราะคนตรงหน้าอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ดูสบายๆ ส่วนเขาใส่สูทผูกไทด์สวมรองเท้าหนังและในมือก็พร้อมไปด้วยเอกสารมากมาย สรุปแล้ว...เขาผิดหรือคุณจงอินชิลเกินไป?? เซฮุนทำได้เพียงยืนนิ่ง ก้มหน้าและถือเอกสารด้วยสองมืออย่างนึกเขินกับสภาพการแต่งตัวของเราทั้งคู่ ส่วนคุณจงอินก็คงได้แต่ยิ้ม ยิ้ม....แล้วก็ยิ้มให้กับแก้มแดงๆของคนตัวขาว
“ขอบคุณคุณจงอินอีกครั้งนะครับ...แล้วก็ฝากน้องผมด้วย”
“คุณชานยอลไม่ต้องห่วงนะครับ...ผมจะดูแลน้องเซฮุนอย่างเต็มที่และยินดีมากๆ”
(ถ้างั้นก็สลับกันดูแลนะครับ...วันนี้คนแก่จะดูแลพี่เซฮุนเอง ส่วนพี่ชานยอลก็ต้องดูแลน้องแบค โอเคไหมครับ?)
ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...แต่ก็สามารถเรียกรอยยิ้มให้คนตัวโตได้เป็นอย่างดี ใบหน้าจิ้มลิ้มที่โผล่มาด้านหลังของพี่ชายพร้อมข้อตกลงที่แสนทะเล้นมันทำให้ชานยอลต้องส่ายศีรษะก่อนมุมปากจะยกยิ้มให้กับความแก่นแก้วที่เหมือนว่าจะไม่มีวันจบสิ้น
ชานยอลไม่เคยถือสา...เพราะคิดว่าแบคฮยอนยังเด็กและการที่คุณจงอินช่วยให้น้องของเขาได้ฝึกงานในที่ที่ต้องการ...เขาก็ยอมแลกได้ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอะไร แล้วการดูแลเด็กตัวเล็กๆมันก็คงไม่ยากเท่าไหร่หรอกมั้ง??
“ผมไปก่อนนะฮะพี่ชานยอล...บ๊ายยย!”
“อื้มมม...โชคดี”
“แล้วก็อย่าแกล้งน้องเค้าล่ะ”
(ใครจะแกล้งใครกันแน่)
คำตอบสุดท้ายของพี่ชาย...คงทำได้แค่พูดในใจและต้องโบกมือลาคนเป็นน้องก่อนเชิญให้คนตัวเล็กเข้ามาในห้อง
ใช่ว่าชานยอลไม่อยากไปให้กำลังใจเซฮุนด้วยตัวเอง แต่น้องโตแล้ว...และเขาก็ไม่สามารถทำทุกสิ่งได้เหมือนใจคิด แล้วอีกอย่าง...เซฮุนมีคุณจงอินไปด้วย งานนี้คงไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เขาดีใจที่ได้เพื่อนใหม่ที่แสนดี
แถมยังเข้าอกเข้าใจความเป็นพี่น้องโดยที่ไม่ต้องอธิบายคำใดให้มากความ
คุณจงอินห่วงน้องแบคเช่นไร...เขาก็ห่วงเซฮุนไม่ต่างกัน!
ทางด้านของพี่ชานยอล...อาจต้องสู้รบปรบมือกับเด็กอายุสิบแปด ส่วนน้องอย่างเขาก็ต้องมาสู้รบกับสายตาคมที่ชอบจ้องมาอย่างมีความหมาย ภายในลิฟท์ตัวเดิมมันเหมือนจะร้อนเช่นเดิม
จำนวนเก้าชั้นของตึกนี้ก็ดูเหมือนจะเนินนานกว่าจะลงมาถึงชั้นที่หนึ่ง เซฮุนยืนนิ่งอยู่ที่ฝั่งซ้าย คุณจงอินยืนท่าทางสบายๆอยู่อีกฝั่ง แต่รอยยิ้มแบบนั้นพร้อมสายตาแบบนั้น...มันคล้ายว่าจะทำให้เซฮุนไม่ค่อยสบาย
“น้องเซฮุนครับ เอกสารนั่น...ให้ผมช่วยถือไหมครับ?”
“มะ...ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับ
แล้ววันนี้บริษัทของคุณจุนมยอนเปิดด้วยเหรอครับ?”
“ผมไม่ได้จะพาน้องเซฮุนไปที่บริษัทสักหน่อย”
“นี่คุณจงอินแกล้งผมเหรอครับ?”
ตอนแรกก็รู้สึกดี...แต่ตอนนี้เริ่มโกรธแล้วสิ!?
และไม่รู้ว่าควรโกรธตัวเองดีหรือไม่ที่ไม่ยอมถามทุกอย่างมาให้ละเอียด จะไปไหน
ที่ใด อะไร ยังไง
เซฮุนไม่ได้ถามคุณจงอินเลยสักนิดเพราะมัวแต่ดีใจที่จะได้ไปฝึกงานกับบริษัทที่ตัวเองชื่นชอบ ใบหน้าเรียวสวยเริ่มบึ้งตึง สองมือกอดเอกสารปึกใหญ่ไว้แนบอก ดวงตาคู่สวยก็สบจ้องคนตรงหน้าเหมือนอยากเอาเรื่อง และ.......
“ผมไม่ได้แกล้งนะครับ...วันนี้บริษัทปิดทำการ แต่ห้องไอ้จุนมันอยู่ตึกฝั่งตรงข้ามเรานี่เอง น้องเซฮุนอย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอก แต่ถ้าบอกว่าจะไปที่ไหน...น้องเซฮุนก็จะเกรงใจผมอีก”
เวลาโกรธแล้วหน้าแดง
เวลาเขินก็หน้าแดง...คนอะไรจะน่ารักไปทุกการกระทำ
คุณจงอินอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเซฮุนแสดงอาการออกมาเช่นนั้น ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าโกรธ...แต่เขาก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย บอกว่าจะช่วยก็จะช่วยจนกว่าน้องเซฮุนจะได้สมดั่งที่ตั้งใจ หรือถ้าอยากได้สิ่งใด...คุณจงอินก็จะหามาให้โดยไม่เกี่ยงงอน ขอให้บอก
ขอให้พูด ขอให้เอ่ยปาก คุณจงอินพร้อมที่จะตามใจทั้งหมด!!!
“ขะ...ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ก็ผมนึกว่าคุณจงอินจะแกล้ง”
“ไม่เป็นไรครับ...น้องเซฮุนไม่ต้องคิดมาก ผมเข้าใจ
ออกมาข้างนอกกับคนแปลกหน้าก็ต้องมีบ้างที่คิดแบบนั้น”
“คุณจงอินไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย”
“ถ้าผมไม่ใช่คนแปลกหน้า...แล้วเป็นอะไรครับ?”
“ก็เป็นพี่ชายของน้องแบคไงครับ”
“แล้วเป็นอะไรได้อีกครับ?”
“เป็นเจ้าของห้างXXครับ”
“หึ!!....”
อยากเป็นอะไรอีก...เป็นแฟนกันเลยไหมล่ะ แล้วใครจะกล้าพูด!! ตอนนี้เซฮุนยังคงหน้าแดงเช่นเดิม
แต่ไม่ได้เกิดจากความโกรธเหมือนอย่างตอนแรก
แต่มันเกิดจากความเขินอายด้วยเหตุแห่งคำพูดของคนมากอายุ ถามไปก็ยิ้มไป
ถามไปก็เดินไปและถามไปจนไม่รู้ว่าจะตอบเช่นไรให้ถูกใจคุณจงอิน
เซฮุนก็เลยขอเปลี่ยนเรื่องดีกว่า.... o^_^o)
“เอ่ออ...คุณจุนมยอนอยู่ตึกไหนเหรอครับ?”
“ตึกที่ห้าครับ...แล้วตึกที่เราอยู่รวมถึงทั้งหมดนี้มันก็เป็นเจ้าของ”
“โอ้โห...เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ ตอนพี่ชานยอลตกลงซื้อห้องนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรเจ้าของห้องเลย เห็นห้องสวยถูกใจก็เลยรีบซื้อเอาไว้”
“ผมก็คิดว่าลูกของท่านทูตจะซื้อห้องที่ใหญ่กว่านี้...อย่างตึกนั้นมีห้องที่กว้างกว่า
มีสองชั้นแยกเป็นสัดส่วน...แล้วก็มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย”
“ลูกท่านทูตก็คนนะครับ...ไม่ได้สูงส่งมาจากไหน
แล้วผมก็ชอบห้องนั้นมากๆ ขนาดมันกำลังพอดี...ไม่เล็กไม่ใหญ่
ถ้าห้องกว้างกว่านี้หรือมีสองชั้นผมคงทำความสะอาดไม่ไหวหรอกครับ
แล้วคุณจงอินล่ะครับ...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?? เป็นถึงเจ้าของห้างตั้งมากมาย...นึกว่าจะอยู่บ้านหลังใหญ่ๆซะอีก?!”
ทำไม้ทำมือ...ที่บ่งบอกถึงความใหญ่โตของที่อยู่อาศัยพร้อมทำสีหน้าตื่นเต้นไปด้วย
เอกสารในมือไม่ใช่ปัญหาต่อการแสดงท่าทางเช่นนั้น และท่าทางเช่นนั้นก็ทำให้คนฟังต้องยิ้มตาม จงอินอยากขอโทษคนตรงหน้าซ้ำๆเพราะแรกพบที่ร้านอาหารมันพาลให้คิดไปถึงไหนต่อไหน
แต่ตอนนี้...น้องเซฮุนกลับกลายเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตปกติธรรมดา น้องดูเป็นคนง่ายๆ ไม่อวดเนื้ออวดตัว มีสัมมาคารวะ
รู้จักกาลเทศะและที่สำคัญก็คือ...เขาเริ่มประทับใจในตัวน้องมากขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้าของห้างก็คนเหมือนกันครับ...ไม่ได้สูงส่งมาจากไหน แล้วคอนโดก็อยู่ใกล้ที่ทำงานด้วย อีกอย่าง...น้องแบคก็ใกล้จะเข้ามหา’ลัยแล้ว อยู่ที่นี่ก็สะดวกทั้งสองฝ่าย”
ออกจากลิฟท์ที่ตึกของตัวเองมาได้สักพัก...ก็เดินมาตามทางที่ปูด้วยหินอ่อนก่อนผ่านสระน้ำที่เป็นส่วนกลางของคอนโดฯสุดหรู เซฮุนตั้งใจฟังเสียงทุ้มที่คล้ายว่ากำลังจะถูกยอกย้อนมากกว่าการอยากอธิบาย แต่ก็ให้อภัยกันได้ และเพราะสวนย่อม ดอกไม้หรือจะบรรยากาศโดยรอบที่ดูร่มรื่นก็พาให้ละสายตาไปไม่ได้
สระน้ำขนาดใหญ่...ที่ถูกโอบล้อมด้วยตึกจำนวน
5 ตึก แต่ละตึกก็ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี แล้วที่เซฮุนเลือกตึกที่สองก็ด้วยเหตุผลที่ว่ามันพอเหมาะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีสองห้องนอน
สามห้องน้ำ
ห้องครัวกับห้องนั่งเล่นก็ไม่กว้างจนเกินไป
แถมยังมีระเบียงด้านนอกให้ออกไปชมวิวของเมืองใหญ่ในยามค่ำคืน ส่วนตึกอื่นๆหรือห้องอื่นๆมันใหญ่เกินไป บางห้องมีสองชั้น มีสระว่ายน้ำ
มีบาร์เครื่องดื่ม
มีห้องทำงานแยกออกไปอีก...ซึ่งเซฮุนไม่ชอบเลยเพราะมันไม่เหมาะกับเขาและพี่ชาย
“แล้วคุณจงอินไม่ต้องโทรหาคุณจุนมยอนก่อนเหรอครับ...ผมเกรงว่าจะเป็นการรบกวน แล้วก็เกรงว่าคุณจุนจะไม่อยู่?”
“ไม่ต้องห่วงนะครับน้องเซฮุน...วันหยุดไอ้จุนมันไม่ไปไหนหรอกครับ?”
มือหนา...รีบกดลิฟท์ทันทีเมื่อเดินมาถึงตึกที่
5
และยิ่งใกล้จุดหมายมากเท่าไหร่
เซฮุนก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้นเพราะการยื่นเอกสารเพื่อฝึกงานมันควรผ่านเจ้าหน้าที่อีกมากมายในบริษัทคิมจิลเวลรี่ ไม่ใช่มายื่นต่อหน้าเจ้าของบริษัทแบบนี้ แถมการใส่สูทผูกไทด์ของตัวเองกับการแต่งตัวของคุณจงอินก็ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน หนุ่มผิวเข้มดูจะชิลเป็นพิเศษ
แต่เซฮุน...เหมือนจะเหงื่อออกจนเต็มแผ่นหลังรวมถึงมือที่กำลังถือเอกสารอยู่ด้วย
“เอ่อออ..คุณจงอินครับ คะ...คืออออ
คุณจุมยอนดุไหมครับ?”
“กลัวเหรอครับน้องเซฮุน?”
“กลัวสิครับ...ก็คุณจุนเป็นถึงเจ้าของบริษัท”
“งั้นเรามาจับมือกันไว้...แบบนี้!!!”
“.........?!!!!!!???”
ทั้งตกใจ ทั้งสงสัย...แล้วก็งงในคราวเดียวกัน แต่ก็ยอมให้มือหนาจับไว้ก่อนเดินเข้าไปในลิฟท์ตรงหน้า จะให้สะบัดออกก็กลัวว่าคุณจงอินจะหาว่ารังเกียจ
เจ้าของมือขาวจึงปล่อยเลยตามเลยและตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันอุ่นใจขึ้นจริงๆ
“เวลาเจ้าแบคกลัวผีหรือนอนไม่หลับผมก็จะจับมือไว้แบบนี้ น้องเซฮุนไม่ต้องกลัวนะครับ...แล้วก็ไม่ต้องเครียดด้วย ไอ้จุนมันใจดีจริงๆ”
“ขอบคุณนะครับคุณจงอิน...คุณจงอินก็ใจดีเหมือนกัน”
ในลิฟท์ที่คอนโดฯแห่งนี้...มันจะทำให้เซฮุนหน้าแดงได้ทุกตึกเลยหรือไงนะ!!!?
♡ ♡ ♡ ♡
100%
Cr.
ภาพในตอนที่สี่ : IG>OOHSEHUN
***ถอนหงอก
เป็นสำนวนที่หมายถึง...พูดว่าให้เสียผู้ใหญ่
***ฉลุย หมายถึง โดยง่าย
โดยสะดวก เช่น...สอบผ่านฉลุย
Talk.
ตอนที่ 4 แย้วววว ^^)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ
เลิบบบบ ♡
#KHanother
ความคิดเห็น