ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) SF ออกเรือ (Kaihun Ft.Chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #4 : ❧ 4

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 64





    ออกเรือครั้งที่ 4.

     

     

    22.12 น.

     

                “อืมมม...”

     

                กว่าพิษจะจางหาย  กว่าจะได้สติ...หรือกว่าจะรอดชีวิตมาได้  ร่างกายก็เกือบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ  เพราะผลไม้ที่มีรูปลักษณ์คล้ายส้มแต่เป็นสีเหลือง  เปลือกบางส่งกลิ่นหอมพร้อมให้ความหวานเหมือนแตงโมคือสิ่งที่ทำให้คนที่ทานอะไรไม่ลงมาหลายวันหลงเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่แสนอร่อย  แล้วสุดท้าย...ความหอมหวานที่ทานเข้าไปก็พาลให้ร่างกายแสบร้อนเหมือนถูกไฟลวก  สมองพร่าเลือนและหัวใจก็เต้นแรงจนควบคุมไม่ได้

     

     

                เจ้าของความขาวเนียน...ที่ถูกหนุ่มผิวเข้มกอดไว้ตลอดเวลาเริ่มรู้สึกตัวและอาการต่างๆที่ทำให้เกือบเสียชีวิตก็ดีขึ้นมาก  ถึงแม้จะยังเวียนศีรษะอยู่บ้างแต่ความร้อนภายในร่างกายมันไม่หลงเหลืออีกแล้ว  ดวงตาคู่สวยพยายามปรับโฟกัสเพื่อให้คุ้นชินกับความมืดในเวลานี้  พระจันทร์อาจช่วยให้เห็นว่าบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนมีดวงดาวมากน้อยเพียงใด  และก็ทำให้เห็นอีกว่า...คนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก็ยังเป็นผู้ชายเถื่อนๆคนเดิม

     

     

                มือบาง...ค่อยๆลูบรอยสักมากมายอย่างพิจารณา  ตรงนี้รูปเสือดาว  ตรงนี้รูปเกือกม้าและตรงหน้าอกก็เป็นรูปของสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง?  ตรงคอก็ด้วย...มันเขียนว่าอะไรกันนะ??  แล้ววว...สักเยอะขนาดนี้ไม่เจ็บบ้างเลยหรือไง???  ผู้ซึ่งไร้อาภรณ์มัวแต่ชื่นชมศิลปะบนร่างกำยำจนไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเจ้าของผิวเนื้อที่ตัวเองลูบผ่านไม่ได้หลับอย่างที่เห็น  มันรู้สึก  มันวูบไหวและมันคงทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

     

    ฟอดดดด!!!

     

                “คิดจะลักหลับกันหรือไง?”

     

                “ปะ...เปล่าสักหน่อย”

     

                “แล้วเป็นไงบ้าง?”

     

                “ยังเวียนหัวอยู่นิดหน่อย...ขอบคุณมากนะที่ช่วย”

     

                ถูกจับได้ว่าแย่แล้ว....และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือการถูกจู่โจมที่แก้มฟอดใหญ่แถมร่างกายของตัวเองก็ยังเปลือยเปล่า  อายกว่านี้ก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบ  รอบๆกายก็ไม่มีสิ่งใดให้คว้ามาบดบังเรือนร่างได้เลยนอกจากคุณไค...ที่ตอนนี้ใช้ความแข็งแรงกักกันเขาไว้ในอ้อมแขน  เสียท่าจนได้  เสียทีอีกแล้ว  และกว่าจะถึงตอนกลับก็ไม่รู้ว่าจะต้องเสียอะไรให้คนคนนี้อีก...บ้าชะมัด!!!

     

                “ทีหลังบอกอะไรก็เชื่อกันบ้าง  ถ้าขืนยังทำแบบนี้...ผมคงช่วยคุณไม่ได้ทุกครั้ง”

     

                “ขอโทษ...คราวหลังจะไม่ทำอีกแล้ว”

     

                “ให้มันจริงเถอะ”

     

                “สัญญาก็ได้...”

     

                “ไม่เชื่อหรอก...คุณมันตัวป่วน  รู้ไว้ซะด้วย!!

     

                “เราพูดจริงนะ”

     

                “อยากให้เชื่อ?”

     

                ได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบ...เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร  จะพูดคำไหนหรือจะต้องสาบานเลยไหมถึงจะยอมเชื่อ??  เซฮุนยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเรื่องมาก  กินยาก  ขี้บ่นและอีกสารพัดที่ทำให้หนุ่มผิวเข้มเอือมระอา  แต่ไหนไหนเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว  เขาได้บทเรียนแล้ว  ทำไมคุณไคถึงไม่เชื่อกันบ้างเลย?!  ปากบางสีหวานเริ่มเบะออกเมื่อถูกขัดใจ  ตาเรียวคู่สวยเริ่มคลอไปด้วยน้ำสีใสพร้อมกายขาวเนียนไร้อาภรณ์ที่เริ่มขัดขืนเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอด  แต่....

     

    จุ๊บบ!!

     

                “อื้มมม!!!?”

     

                “เชื่อแล้ว...”

     

                “ไม่อยากเชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ...แล้วก็ปล่อยเราได้แล้ว  มันอึดอัด!!

     

                “อยู่เฉยๆ!

     

                “ไม่!...”

     

                “ไหนบอกจะเชื่อฟัง?”

     

                “เชื่อเรื่องอื่น...ไม่ใช่เรื่องนี้?!

     

                “ต้องเชื่อทุกเรื่อง!

     

                “คุณมันคนบ้าชัดๆ...อื้มมม!!!

     

                ถูกต้อง...เพราะถ้าไม่บ้าก็คงไม่ทำแบบนี้  และก็เคยบอกแล้วว่าใครทนได้ก็ทนไป...แต่ไม่ใช่เขา!!!  เรือนร่างที่สวยงาม  ผิวพรรณที่ขาวเนียน  เอวบางๆ  สะโพกอวบๆและก้นที่แสนจะกลมกลึง  ทุกอย่างที่เห็นหรือสัมผัสอยู่ตอนนี้มันช่างเย้ายวนเกินกว่าจะอดใจไหว  ลิ้นร้อนกวาดต้อนความหวานที่หวานมากกว่าจูบครั้งไหนไหน  รสชาติของผลไม้แปลกประหลาดยังคงอยู่ทั่วโพรงปากคนต่างถิ่นจนไม่รู้ว่าพิษของสิ่งใดที่ทำให้เขามัวเมาได้ถึงขนาดนี้  จะเป็นพิษของความบ้า  พิษของผลไม้ในป่าหรือว่าจะเป็น...พิศวาส???

     

     

                ไม่ใช่ไคคนเดียว...ที่กำลังสับสนว่าตัวเองกำลังรู้สึกเช่นไร  เพราะเซฮุนก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมถึงได้เผลอไผลไปกับความร้อนแรง  จากที่ผลักไส  จากที่ต่อต้านหรือจากที่ขัดขืนด้วยเกรงว่าสิ่งที่อาเจียนออกไปจะพาให้ถูกรังเกียจ  แต่สุดท้าย...ก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นตอบรับ  ใบหน้าเรียวสวยขยับเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ง่ายต่อรสสัมผัส  ลิ้นอุ่นชื้นเกี่ยวพันอวัยวะเดียวกันอย่างคนไม่ยอมแพ้  มือบางจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างจนคาดว่าเล็บน่าจะฝังลงไปบนผิวเข้มๆ  และ....

     

                “ไอ้ไค...!!!

     

                เสียงเรียกจากทางด้านหลัง...ทำให้ความปรารถนาต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้และรีบโอบกายขาวเนียนเอาไว้ในอ้อมแขน  เกิดความหวงขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ยังนั่งแก้ผ้าประจันหน้ากันอยู่ที่กองไฟ  แล้วมึง...จะตะโกนทำส้นตีนอะไรวะไอ้ชานนนนน!!!  คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเนี่ยยยย!!! 

     

                “เป็นเหี้ยอะไร...ตะโกนซะเสียงดัง?!!

     

                “อ้าว...คุณเซฮุนตื่นแล้วหนิ??”

     

                “เสือกก!!...”

     

                และยิ่งเซฮุนกอดแน่นเท่าไหร่...เจ้าของอกกว้างก็ยิ่งหวงมากขึ้นเท่านั้น  แล้วไอ้ชานก็เอาแต่จ้องคนของกูอยู่นั่นแหละ...มีอะไรก็พูดมาสิวะ??  ไคจำเป็นต้องดึงผ้าที่ใช้ปูนอนหน้ากองไฟมาคลุมกายให้ร่างสวย  มือหนารีบประคองก้อนผ้าเข้าสู่อ้อมอกอีกครั้งก่อนจับใบหน้าเรียวให้หันมาซบแนบความอายไว้บนไหล่

     

                “คุณชานอยากจะแหกปากร้องให้ดังลั่นป่าจริงงง...จริ๊งงงง!!!  หวงมากไหมครับคุณไค?”

     

                “อย่ามากวนตีน...ตกลงมีอะไร?”

     

                “ก็ไม่มีอะไร  พอดีคุณแบคตื่นแล้ว...ก็เลยอยากรู้ว่าคุณเซฮุนตื่นหรือยัง?”

     

                “สัด!!

     

                (ตอนนี้แบคอยู่ที่ไหน!!...แล้วเป็นยังไงบ้าง!?)

     

                “อยู่ในเต็นท์  อาการของคุณแบคดีขะ...ขึ้น  อ้าวว!!

     

                คนหนึ่งรู้สึกโมโหเพราะถูกขัดจังหวะ...ส่วนอีกคนกลับรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนที่กินผลไม้ประหลาดเข้าไปจนสลบ  เซฮุนรีบลุกออกจากตักกว้างโดยไม่รอคำตอบจากคนตัวใหญ่  และการทำเช่นนั้นก็พาลให้ใคร?  ใคร??  ไค...รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก!!!!  ฆ่ามึงหมกป่าซะดีไหม?  ว่าแต่กูหวงเค้า...มึงไม่หวงเลยมั้งไอ้ชาน??  แหม...พากันไปนอนในเต็นท์!  ถุ้ยยย...มึงก็หวงเหมือนกันแหละว้า!!! 

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    23.50 น.

     

    ตู้มมมมม!!!

     

                “คุณแบค  คุณเซฮุน...กระโดดลงมาเลยยย  ไม่ต้องกลัว!!

     

                “มันไม่มีจระเข้แน่นะคุณชาน”

     

                “ไม่มีหรอกครับ...ปลาสักตัวก็ไม่มี”

     

                คงต้องใช้คำว่า  “ไม่น่าไว้ใจ”  เพราะบ่อน้ำขนาดย่อมด้านข้างที่พักมันเป็นสิ่งที่ดูน่ากลัวในสายตาของคนต่างถิ่น  น้ำมันดำจนไม่น่ากระโดดลงไปตามคำเชื้อเชิญ  น้ำมันนิ่งจนเกรงว่าจะมีสัตว์แอบซ่อนอยู่ด้านล่างและการที่ต้องอาบน้ำพร้อมคนตัวใหญ่...มันน่าเชื่อใจไหมล่ะ???  ตั้งแต่กินผลไม้ประหลาดเขาไป  แบคฮยอนก็เริ่มหวาดระแวงมากขึ้น  แถมวิธีแก้ก็ยังทำให้รู้สึกอายจนไม่กล้าสู้หน้า  เกิดมาก็ยังไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นจนกระทั่งวันนี้...บ้าที่สุดเลยยย!!!

     

                “แบค...ลงไปกันเถอะ  เพื่ออาการมึนหัวของพวกเราจะดีขึ้น?”

     

                “งั้นก็ลงไปพร้อมกัน?!

     

                “โอเค...”

     

                หมดเวลาเรื่องมากแล้วจริงๆ...อะไรที่คนในพื้นที่สั่งหรือให้ทำตามมันคงดีกว่าการต่อปากต่อคำ  แบคฮยอนและเซฮุนจูงมือกันเดินลงไปในน้ำอย่างช้าๆ  ก้อนหินด้านล่างเหมือนเป็นบันไดที่คอยช่วยให้ทั้งสองคนได้ยืนทำใจก่อนลอยตัวห่างออกไปจากฝั่ง  คุณชานรีบดึงคนตัวเล็กให้มาว่ายน้ำใกล้ๆกันเพราะถึงแม้จะไม่มีภัยต่อสัตว์ร้าย  แต่ก็ต้องคอยระวังอย่างอื่นที่น่ากลัวมากกว่า  โจรป่าชอบคนต่างถิ่นมากที่สุด...ยิ่งขาวๆเนียนๆแบบนี้ก็ยิ่งได้ราคาและกว่าจะถูกขายก็คงช้ำไปหมดทั้งตัว

     

    แต่ตอนนี้...เรื่องโจรป่าคงต้องพักไว้ก่อนเพราะ

     

                “แบคคค!!!...อะไรมาโดนขากูก็ไม่รู้!??”

     

                “จริงเหรอเซฮุน?!!

     

                “กูขึ้นแล้วนะ...กูกลัววว!!

     

    !!!!!!!!!!!!!

     

                (กลัวมากไหม?)

     

                “ไอ้บ้านี่...!!!!

     

                คนที่บอกว่าง่วงนอน  คนที่บอกว่าอยากพักผ่อนและคนที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำตอนนี้ก็ทำให้เซฮุนต้องฟาดมือลงไปบนอกกว้าง  ตกใจแทบฉี่ราด...เพราะนึกว่าตัวอะไรว่ายน้ำมาชนขา  แถมเวลาแบบนี้ก็ไม่น่าลงมาอาบน้ำเลยสักนิด  แต่...สั่งให้มาอาบก็ต้องอาบ  สั่งให้ให้ทำอะไรก็ต้องทำและถ้าไม่รู้สึกเหนียวตัว  ไม่กลัวว่าตัวเองจะสกปรกหรือไม่สนเรื่องความสะอาด  โอเซฮุนก็จะไม่มีทางลงมาว่ายน้ำในเวลานี้แน่ๆ  มืดก็มืด  หนาวก็หนาว  แล้วพระจันทร์ที่เคยทำหน้าที่อยู่บนท้องฟ้า...ก็กลับถูกเมฆบังจนเหลือแต่ดวงดาว

     

                “หายมึนหัวหรือยัง?”

     

                “ก็ดีขึ้น...แต่น้ำเย็นไปหน่อย”

     

                “ก็ดีกว่าร้อน”

     

                “เดี๋ยวเราไข้ขึ้นแล้วคุณนั่นแหละจะลำบาก”

     

                “ไข้ไม่ขึ้นหรอก...แต่อย่างอื่นมันจะขึ้นมากกว่า”

     

                “อะไรขึ้นเหรอคุณ?”

     

                “นี่ไง...”

     

                “ไอ้บ้า!!...ทุเรศศศ!

     

                การคว้ามือนิ่ม...มาจับส่วนแข็งขืนภายใต้ผิวน้ำ  ทำให้เซฮุนต้องรีบดึงมือกลับด้วยความรวดเร็ว  แล้ววว...มันจะใหญ่อะไรขนาดนั้นวะ???  ใบหน้าเรียวสวยที่แดงระเรื่อรีบหันหนีความจริงที่ได้สัมผัส  สองขาขยับเคลื่อนจนน้ำกระจายเพื่อหลบหลีกคนนิสัยไม่ดี  แต่เอวบาง...ก็ถูกล็อคเอาไว้ด้วยความกำยำก่อนที่จะว่ายถึงฝั่ง

     

                “จะไปไหน?”

     

                “ปล่อยเลย!!

     

                “จะรีบไปไหนล่ะ...ยังมีของดีให้ดูอีกนะ?”

     

                “จะบ้าเหรอ!!  ใครอยากจะไปดูของคุณ...เป็นพวกชอบโชว์เหรอไง  โรคจิตชัดๆ!!

     

                “คุณก็คิดไปนู้น...ผมไม่ได้พูดสักคำว่าจะโชว์ของตัวเองให้ดู  แต่ไหนไหนก็พูดแล้ว  ของคุณก็ใช่ย่อยนะ...ถึงจะเล็กกว่าผมก็เหอะ  แต่ข๊าว...ขาวววว!!

     

                “อะ....ไอ้!!!

     

                “อย่าเพิ่งด่าสิคุณ...ผมมีของดีให้คุณดูจริงๆนะ  ไม่ได้แกล้งอะไรทั้งนั้น”

     

                “แล้วมันคืออะไรล่ะ!?”

     

                “เดี๋ยวก็เห็น...รอแป๊บนึง”

     

                “เรื่องมากกก!

     

                การได้กอดร่างสวย...ภายใต้สายน้ำที่เย็นฉ่ำมันก็ถือว่าคุ้มแล้ว  และต่อให้ต้องถูกด่าอีกสักร้อยประโยคก็จะเต็มใจฟัง  มือหนาโอบรอบเอวคอดเอาไว้แน่น  ใบหน้าเรียวสวยที่เกาะพราวไปด้วยความชุ่มชื้นก็ไม่อาจละสายตา  เสื้อผ้าที่ถูกแรงต้านจากการว่ายเวียนก็เผยให้เห็นไหล่ลาดขาวเนียนจนน่าประทับรอยให้ขึ้นริ้ว  ไค...คิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ  เขาไม่ใช่คนที่จะยึดติดกับสิ่งสวยงาม  เขาไม่เคยหลงระเริงไปกับความน่ารัก  แล้วทำไม...เขาต้องมาคิดมากกับเรื่องของคุณหนูตัวป่วนด้วยล่ะ!??  มันเหมือนไม่อยากให้ถึงวันจากลา  และคล้ายว่าจะอยากฟังเสียงกล่นด่าไปอีกสักพัก  ซึ่งเขา...ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนในชีวิต

     

     

    กูคงบ้าไปแล้วจริงๆ!!?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

    00.00 น.

     

     

                “นี่คุณ!?  ตกลงจะให้ดูอะไรกันนะ...แน่  เฮ้ยย!!!!

     

                ว่ายน้ำจนตัวจะเปื่อย...แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้เห็นของดี  แล้วก็ยังไม่ทันจะสิ้นคำถาม...ท้องฟ้ากลับเริ่มแปรปรวน  ดาวที่เคยมีเพียงน้อยนิดกลับมากขึ้นจนไม่อาจนับได้  พระจันทร์ที่เคยถูกเมฆบังก็พลันหายเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น  และน้ำ...ที่เคยเย็นจนห่วงว่าตัวเองจะเป็นไข้กลับอุ่นขึ้นพร้อมเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีม่วงอย่างน่าอัศจรรย์???


     




                “เซฮุนนน? //   แบค!!!

     

                ชื่อคนต่างถิ่น...ที่ถูกเรียกกันและกันด้วยความประหลาดใจ  ทำให้ทั้งไคทั้งชานต้องรีบพาคนในอ้อมอกว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆฝั่ง  ลำแขนขาวเนียนยังไม่กล้าละจากลำคอของหนุ่มผิวเข้มเพราะถึงแม้จะรู้สึกประหลาดใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นใต้ผิวน้ำ  แต่ในความประหลาดใจก็ยังมีความกลัวปะปนอยู่ไม่ใช่น้อย

     

                “นี่ไง...สิ่งพวกคุณตามหา?”

     

                “จริงเหรอ?!!  ละ...แล้วมันไม่มีพิษเหรอคุณ?  เราขึ้นจากน้ำกันเถอะ!!

     

                “คุณเชื่อผมนะ...มันไม่มีพิษหรอก!  ในบันทึกอาจเขียนเพื่อให้พวกคุณระวังตัว  แต่ผมเป็นคนในพื้นที่  ผมเคยเห็นมันและเป็นคนพาพ่อของแบคมาที่นี่ด้วยตัวเอง  พวกคุณเชื่อผมสิว่ามันไม่มีพิษอะไรทั้งนั้น”

     

                คนเคยหลงในรสชาติของผลไม้แปลกประหลาด...มันอดที่จะหวาดระแวงไม่ได้  แล้วการที่น้ำเคยเป็นสีดำและเปลี่ยนเป็นการเรืองแสงสีม่วงก็พาลให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย  แถมเจ้าของสมุดบันทึกก็ยังเขียนไว้อีกว่า...ตัวดอกของพืชน้ำสีม่วงมันมีพิษ??!!  แล้วตกลงเขาควรเชื่อในสิ่งใดกันแน่?  เชื่อคุณไค??  เชื่อคุณพ่อของแบคฮยอน???  หรือว่าเชื่อ...ในสัญชาตญาณของตัวเอง??????

     

                “เดี๋ยวนะครับคุณไค...ที่คุณพูดมาทั้งหมดมันหมายความว่าอะไรกันแน่  คุณช่วยอธิบายให้เราฟังหน่อยได้ไหม?  ถ้าบันทึกของคุณพ่อไม่ใช่ความจริง...แล้วทำไมถึงมีคนต้องการชีวิตของท่านล่ะ?”

     

                คนเป็นลูกเริ่มไม่แน่ใจ...ว่าสิ่งที่ตัวเองตามหามันคุ้มค่ากับการเดินทางอันแสนไกลหรือไม่  ถ้าพืชน้ำสีม่วงไม่มีพิษ?  ตัวดอกไม่ได้เป็นอันตรายเมื่อถูกเด็ดทิ้ง??  แล้วความจริงมันคืออะไรกันแน่???  ใบหน้าจิ้มลิ้มที่คนตัวใหญ่หลงใหลได้ปลื้ม...เริ่มออกอาการไม่พอใจเพราะคิดมาตลอดว่าการเสียชีวิตของบุคคลที่ตัวเองรักเกิดจากการเสียสละอันยิ่งใหญ่  ถ้าพ่อไม่ได้ตายด้วยเหตุของงานวิจัยชิ้นนี้...แล้วเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร??

     

                “คุณแบคฟังดีๆนะ...ผมไม่ได้บอกว่าบันทึกของท่านคือเรื่องโกหก  แต่ที่ท่านต้องเขียนแบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาที่นี่  งานวิจัยของท่านอาจช่วยคนได้นับล้านก็จริง  แต่ถ้าคนที่ได้ไปไม่ใช่พวกคุณล่ะ?  ที่ท่านทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องคุณนั่นแหละ  แล้วผมก็ไม่รู้ว่าคุณไปเจอบันทึกเล่มนี้มาได้ยังไง?”

     

                แบคฮยอน...รีบว่ายน้ำเข้าหาฝั่งก่อนนั่งบนโขดหินเหมือนคนหมดแรงเพราะไม่คิดว่าสมุดบันทึกที่เจออยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหลังเก่าคือสิ่งที่พ่อซ่อนไว้เพื่อปกป้องลูกชายคนนี้  สรุปแล้ว...การเดินทางมาพบบางสิ่งก็ไร้ค่าจริงๆใช่ไหม?  และที่คุณไคพูดมามันก็ถูก...เขาก็เป็นแค่นักวิจัยหรือนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย  แถมยังไม่มีไหวพริบเพื่ออ่านบันทึกเล่มนี้ให้เข้าใจ

     

                “พวกเราต้องกลับไปมือเปล่าสินะ”

     

                “คุณจะลองเด็ดมันขึ้นมาดูก็ได้  แต่ผมบอกตรงๆว่าไม่อยากให้เอาไปวิจัย...สิ่งนี้อาจช่วยคนนับล้านได้ก็จริง  แต่พวกคุณคิดเหรอว่าคนนับล้านจะได้ใช้  พวกคุณอาจเก่งในการวิจัยของดีไปรักษาคนอื่น  แต่ถ้างานวิจัยมันถูกพวกนายทุนดัดแปลงไปใช้เพื่อการทำลายล่ะ...พวกคุณเคยคิดบ้างหรือเปล่า?  ของบางอย่างมันก็ไม่ควรถูกนำออกไปหรอกนะคุณ  คนดีได้ไปก็ดี  แต่ถ้าคนเลวได้ไป...ผมว่าหลายๆอย่างต้องพินาศแน่ๆ”

     

                “เฮ้ออ!!...ยังไงก็ขอบคุณคุณไคกับคุณชานมากนะที่ช่วยพาพวกเรามาที่นี่  แต่คุณก็น่าจะบอกเรื่องนี้กับเราตั้งแต่วันที่ได้อ่านบันทึก”

     

                “บอกไปพวกคุณก็ไม่เชื่อ...ผมถึงต้องพามาให้เห็นกับตานี่ไง”

     

                “ขอบคุณอีกครั้งนะ...ขอบคุณจริงๆ”

     

                “การตายของพ่อคุณมันไม่สูญเปล่าเลยนะ  แล้วท่านก็เป็นคนดีมากๆ...คุณอย่าเสียใจไปเลย”

     

                “งั้นนน...เราขอเก็บเจ้าดอกสีม่วงไว้เป็นที่ระลึกได้ไหม?”

     

                “ได้สิ...เดี๋ยวผมกับไอ้ชานจะลงไปเก็บมาให้”

     

                “ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”

     

                มันถึงคราวที่ต้องยอมรับความจริง...ความจริงที่ว่าของบางอย่างก็ไม่ควรนำออกไปจากพื้นที่  ความจริงที่ลูกคนนี้เพิ่งรู้ว่าคุณพ่อเป็นคนดีมากแค่ไหน  และความจริง...ที่นักวิจัยอย่างพวกเขาต้องไปทดลองสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พืชน้ำสีม่วง  คนตัวเล็กเริ่มดำผุดดำว่ายลงไปใต้น้ำก่อนดึงความสวยงามออกมาจากโขดหินเพียงหนึ่งกิ่งเท่านั้น  และก้านของมันก็มีสีน้ำตาลอมแดง  ใบสีเขียวเรียวเล็กเป็นแฉก  ดอกสีม่วงแต่ไม่เรืองแสงเมื่อโผล่พ้นน้ำ

     

    ใช่แล้ว...มันสวยมากเมื่ออยู่ภายใต้ผืนน้ำ  มันส่องสว่างสะท้อนแสงได้อย่างน่าอัศจรรย์  และเขาก็ไม่ควรนำความสวยงามทั้งหมดออกไปจากป่าแห่งนี้จริงๆ

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    01.05 น.

     

    แกร็กกก!!!

     

                “มึงโอเคไหมวะ?”

     

                “กูไม่เป็นไร...”

     

                “แน่ใจนะแบค?”

     

                “กูไม่เป็นไรจริงๆ”

     

                จำเป็นต้องมานั่งผิงไฟกันอีกครั้ง...เพราะการว่ายน้ำชื่นชมความงามของพืชสีม่วงมันอาจส่งผลให้ป่วยไข้และการทำให้ร่างกายอบอุ่นก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด  มือบางหักกิ่งไม้เล็กๆโยนใส่ความร้อนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย  มันมีความเข้าใจที่มาพร้อมกับบางสิ่งที่ยังติดค้าง??  เข้าใจ...ว่าการมาที่นี่อาจเหมือนการคว้าน้ำเหลว  แต่มันก็ได้แง่คิดดีๆกลับไป  ส่วนเรื่องที่ติดค้าง...ก็คงเป็นอาชีพที่ไม่รู้ว่าอยากจะกลับไปเข้าแล็ปเช่นเดิมหรือไม่???

     

     

                จะใช้คำว่าสับสนก็คงได้...เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้มันพาลให้อยากละจากงานวิจัยไปสักพัก  แบคฮยอนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกับเพื่อนช่วยกันทำการทดลองจนสำเร็จมันได้ถูกนำไปใช้ในทางใด  ทางดี  ทางร้ายหรือทาง...ของพวกนายทุน???  หลายปีที่ผ่านมามันเหมือนถูกหลอกให้ใช้ความสามารถในทางที่ผิด  ทดลองอะไรสำเร็จก็ไม่เคยติดตามผลว่าสิ่งที่ทำมันถูกนำไปใช้กับใคร  สิ่งใดและมีประโยชน์หรือไม่????  เก่งในงาน  แต่กลับไม่ฉลาดในเรื่องการใช้ชีวิตเพราะมัวแต่คิดว่า...สิ่งที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว

     

    เฮ้อออ...เกิดเป็นแบคฮยอนนี่มันเหนื่อยจริงๆ!!!!

     

                “ง่วงยังตัวป่วน?!

     

                ถึงแม้...เรื่องในบันทึกจะมีความจริงอยู่เพียงน้อยนิด  แต่ความจริงที่ว่าการเรืองแสงของพืชน้ำสีม่วงจะปรากฏให้เห็นเพียงแค่ตอนเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเท่านั้นก็คือเรื่องจริง  และความสวยงามของมันก็ได้หนุ่มผิวเข้มช่วยเก็บมาให้  ใช่ว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น...แต่จะให้ดำลงไปเก็บดอกไม้ด้วยความลึกขนาดนั้นก็คงไม่ไหว  เซฮุนจึงได้แต่ว่ายวนไปมาท่ามกลางผิวน้ำที่เรืองแสงแสนอัศจรรย์

     

                “ถามทำไม?!!

     

                “เป็นห่วง”

     

                “.......!!!?”

     

                เวลานี้...คงต้องใช้คำว่า  “เลิ่กลั่ก”  เพราะคำตอบของหนุ่มผิวเข้มมันคือสิ่งที่คนฟังไม่คิดว่าจะได้ยิน  เป็นห่วง?  บ้าเหรอ??!  จะมาห่วงอะไร?  เรามันตัวป่วนไม่ใช่หรือ?!!  ดวงตาคู่สวยขอทิ้งโฟกัสไว้ที่กองไฟ  มือบางรีบคว้ากิ่งไม้มาโยนใส่ความร้อน  และ....

     

                “พอแล้ว...”

     

                “ง่วงก็ไปนอนก่อนสิ”

     

                “ไปนอนพร้อมกันดิ่”

     

                “นอนด้วยกันยังไม่พอใจอีกเหรอไง...ทำไมต้องนอนพร้อมกันอีก?”

     

                “พูดมากว่ะ!!

     

                “อ๊ะ!!  ไอ้บ้า...ก็บอกว่ายังไม่ง่วงไงวะ!!

     

                ไม่ง่วงก็ต้องนอน...เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเริ่มออกเรืออีกครั้ง  แถมการว่ายน้ำอยู่เกือบชั่วโมงก็ทำให้ไคห่วงว่าคนตรงหน้าจะไม่สบาย  แล้วเวลานี้ก็ใกล้จะตีสองเข้าไปทุกที  เซฮุนถูกอุ้มพาดบ่าก่อนถูกพาเข้าไปนอนในเต็นท์  ส่วนเพื่อนตัวเล็กก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเพลียใจเนื่องจากสองคนนี้เข้าใกล้กันทีไรก็ต้องมีลงไม้ลงมือ 

     

                “รีบๆนอนเลย  นอนทีหลังผีหลอกไม่รู้ด้วยนะ!

     

                “พูดบ้าอะไรเนี่ย?!!

     

                “ก็พูดเรื่องจริง...ในป่าก็มีคนตายนะคุณ  แล้วคนตายก็คือผะ...ผี  อุ๊บบ!!!

     

                “เงียบไปเลย!!

     

                ใครให้พูดเรื่องนี้ตอนกลางคืน??...และมือบางก็ต้องรีบตะครุบปากคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนที่ความกลัวจะพาลให้นอนไม่หลับ  เซฮุนขยับตัวเบียดเข้าหากายหนาโดยอัตโนมัติ  ใบหน้าสวยหันซ้ายหันขวาเหมือนหวาดระแวงทุกสิ่งที่อยู่รอบกาย  แล้วเสียงของสัตว์อย่างพวกจิ้งหรีดหรือกบก็แข่งกันร้องจนประสาทจะเริ่มเสีย  แต่.....

     

    จุ๊บบ!!!

     

                ฝ่ามือ...ที่ปิดปากหยักเอาไว้ถูกประทับรอยจนรู้สึกตกใจ  แถมร่างกายก็ถูกผลักให้ล้มลงไปบนความนุ่มพร้อมอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบเอาไว้ไม่ยอมปล่อย  อากาศเย็นจะตาย?  ทำไมถึงไม่ชอบใส่เสื้อ??  เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก!!?  แล้วววว...จะกอดแน่นอะไรขนาดนี้!!!?

     

                “หลับซะ  พรุ่งนี้ต้องออกเรือแต่เช้า”

     

                “ทีหลังห้ามพูดเรื่องผีอีก”

     

                “กลัวมากเลยเหรอ?”

     

                “อืออ...”

     

                “ขอโทษ...ทีหลังจะไม่พูดแล้ว”

     

                “ดีมาก!...”

     

                “นอนสักทีไอ้ตัวป่วนนนน...เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นไม่ไหว”

     

                “เอ่ออ...คุณไค?  เรื่องวันนี้ขอบคุณมากเลยนะ”

     

                “เพื่อนของคุณจะไม่เป็นไร  เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง...เชื่อผมสิ”

     

                “เราเชื่อ...”

     

                “ถ้าเชื่อก็นอนได้แล้ว”

     

                “ฝันดีนะคุณไค”

     

                “ฝันดี...เซฮุน”

     

     

    อาจไม่รู้สึกกระดากปากเท่าครั้งแรก  แต่หัวใจ...มันยังคงเต้นแรงเหมือนเดิม !!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr. ภาพในตอนที่ 4 :  wallpaperscraft.com  และtravel.ettoday.net >> edit โดยไรท์ผู้น้อง

     

    Talk.

    ตอนหน้าจบแล้วนะคะ ^^) 

    ขอบคุณนักอ่านทุกคน  ขอบคุณคอมเม้นท์  ขอบคุณกำลังใจแสนดี  ขอบคุณๆทุกอย่างเลยค่ะ (ไหว้ย่อ)

    รัก

    #ออกเรือKH 

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×