คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ❧ 4
ออกเรือครั้งที่ 4.
22.12 น.
“อืมมม...”
กว่าพิษจะจางหาย กว่าจะได้สติ...หรือกว่าจะรอดชีวิตมาได้ ร่างกายก็เกือบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เพราะผลไม้ที่มีรูปลักษณ์คล้ายส้มแต่เป็นสีเหลือง เปลือกบางส่งกลิ่นหอมพร้อมให้ความหวานเหมือนแตงโมคือสิ่งที่ทำให้คนที่ทานอะไรไม่ลงมาหลายวันหลงเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่แสนอร่อย
แล้วสุดท้าย...ความหอมหวานที่ทานเข้าไปก็พาลให้ร่างกายแสบร้อนเหมือนถูกไฟลวก สมองพร่าเลือนและหัวใจก็เต้นแรงจนควบคุมไม่ได้
เจ้าของความขาวเนียน...ที่ถูกหนุ่มผิวเข้มกอดไว้ตลอดเวลาเริ่มรู้สึกตัวและอาการต่างๆที่ทำให้เกือบเสียชีวิตก็ดีขึ้นมาก
ถึงแม้จะยังเวียนศีรษะอยู่บ้างแต่ความร้อนภายในร่างกายมันไม่หลงเหลืออีกแล้ว
ดวงตาคู่สวยพยายามปรับโฟกัสเพื่อให้คุ้นชินกับความมืดในเวลานี้ พระจันทร์อาจช่วยให้เห็นว่าบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนมีดวงดาวมากน้อยเพียงใด และก็ทำให้เห็นอีกว่า...คนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก็ยังเป็นผู้ชายเถื่อนๆคนเดิม
มือบาง...ค่อยๆลูบรอยสักมากมายอย่างพิจารณา ตรงนี้รูปเสือดาว ตรงนี้รูปเกือกม้าและตรงหน้าอกก็เป็นรูปของสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง? ตรงคอก็ด้วย...มันเขียนว่าอะไรกันนะ?? แล้ววว...สักเยอะขนาดนี้ไม่เจ็บบ้างเลยหรือไง??? ผู้ซึ่งไร้อาภรณ์มัวแต่ชื่นชมศิลปะบนร่างกำยำจนไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเจ้าของผิวเนื้อที่ตัวเองลูบผ่านไม่ได้หลับอย่างที่เห็น มันรู้สึก
มันวูบไหวและมันคงทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ฟอดดดด!!!
“คิดจะลักหลับกันหรือไง?”
“ปะ...เปล่าสักหน่อย”
“แล้วเป็นไงบ้าง?”
“ยังเวียนหัวอยู่นิดหน่อย...ขอบคุณมากนะที่ช่วย”
ถูกจับได้ว่าแย่แล้ว....และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือการถูกจู่โจมที่แก้มฟอดใหญ่แถมร่างกายของตัวเองก็ยังเปลือยเปล่า อายกว่านี้ก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบ รอบๆกายก็ไม่มีสิ่งใดให้คว้ามาบดบังเรือนร่างได้เลยนอกจากคุณไค...ที่ตอนนี้ใช้ความแข็งแรงกักกันเขาไว้ในอ้อมแขน เสียท่าจนได้
เสียทีอีกแล้ว และกว่าจะถึงตอนกลับก็ไม่รู้ว่าจะต้องเสียอะไรให้คนคนนี้อีก...บ้าชะมัด!!!
“ทีหลังบอกอะไรก็เชื่อกันบ้าง
ถ้าขืนยังทำแบบนี้...ผมคงช่วยคุณไม่ได้ทุกครั้ง”
“ขอโทษ...คราวหลังจะไม่ทำอีกแล้ว”
“ให้มันจริงเถอะ”
“สัญญาก็ได้...”
“ไม่เชื่อหรอก...คุณมันตัวป่วน รู้ไว้ซะด้วย!!”
“เราพูดจริงนะ”
“อยากให้เชื่อ?”
ได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบ...เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร
จะพูดคำไหนหรือจะต้องสาบานเลยไหมถึงจะยอมเชื่อ?? เซฮุนยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเรื่องมาก กินยาก
ขี้บ่นและอีกสารพัดที่ทำให้หนุ่มผิวเข้มเอือมระอา แต่ไหนไหนเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว เขาได้บทเรียนแล้ว ทำไมคุณไคถึงไม่เชื่อกันบ้างเลย?! ปากบางสีหวานเริ่มเบะออกเมื่อถูกขัดใจ ตาเรียวคู่สวยเริ่มคลอไปด้วยน้ำสีใสพร้อมกายขาวเนียนไร้อาภรณ์ที่เริ่มขัดขืนเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอด แต่....
จุ๊บบ!!
“อื้มมม!!!?”
“เชื่อแล้ว...”
“ไม่อยากเชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ...แล้วก็ปล่อยเราได้แล้ว
มันอึดอัด!!”
“อยู่เฉยๆ!”
“ไม่!...”
“ไหนบอกจะเชื่อฟัง?”
“เชื่อเรื่องอื่น...ไม่ใช่เรื่องนี้?!”
“ต้องเชื่อทุกเรื่อง!”
“คุณมันคนบ้าชัดๆ...อื้มมม!!!”
ถูกต้อง...เพราะถ้าไม่บ้าก็คงไม่ทำแบบนี้ และก็เคยบอกแล้วว่าใครทนได้ก็ทนไป...แต่ไม่ใช่เขา!!! เรือนร่างที่สวยงาม ผิวพรรณที่ขาวเนียน เอวบางๆ
สะโพกอวบๆและก้นที่แสนจะกลมกลึง
ทุกอย่างที่เห็นหรือสัมผัสอยู่ตอนนี้มันช่างเย้ายวนเกินกว่าจะอดใจไหว
ลิ้นร้อนกวาดต้อนความหวานที่หวานมากกว่าจูบครั้งไหนไหน รสชาติของผลไม้แปลกประหลาดยังคงอยู่ทั่วโพรงปากคนต่างถิ่นจนไม่รู้ว่าพิษของสิ่งใดที่ทำให้เขามัวเมาได้ถึงขนาดนี้ จะเป็นพิษของความบ้า พิษของผลไม้ในป่าหรือว่าจะเป็น...พิศวาส???
ไม่ใช่ไคคนเดียว...ที่กำลังสับสนว่าตัวเองกำลังรู้สึกเช่นไร เพราะเซฮุนก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมถึงได้เผลอไผลไปกับความร้อนแรง จากที่ผลักไส
จากที่ต่อต้านหรือจากที่ขัดขืนด้วยเกรงว่าสิ่งที่อาเจียนออกไปจะพาให้ถูกรังเกียจ แต่สุดท้าย...ก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นตอบรับ ใบหน้าเรียวสวยขยับเปลี่ยนทิศทางเพื่อให้ง่ายต่อรสสัมผัส ลิ้นอุ่นชื้นเกี่ยวพันอวัยวะเดียวกันอย่างคนไม่ยอมแพ้ มือบางจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างจนคาดว่าเล็บน่าจะฝังลงไปบนผิวเข้มๆ และ....
“ไอ้ไค...!!!”
เสียงเรียกจากทางด้านหลัง...ทำให้ความปรารถนาต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้และรีบโอบกายขาวเนียนเอาไว้ในอ้อมแขน เกิดความหวงขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ยังนั่งแก้ผ้าประจันหน้ากันอยู่ที่กองไฟ แล้วมึง...จะตะโกนทำส้นตีนอะไรวะไอ้ชานนนนน!!! คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเนี่ยยยย!!!
“เป็นเหี้ยอะไร...ตะโกนซะเสียงดัง?!!”
“อ้าว...คุณเซฮุนตื่นแล้วหนิ??”
“เสือกก!!...”
และยิ่งเซฮุนกอดแน่นเท่าไหร่...เจ้าของอกกว้างก็ยิ่งหวงมากขึ้นเท่านั้น แล้วไอ้ชานก็เอาแต่จ้องคนของกูอยู่นั่นแหละ...มีอะไรก็พูดมาสิวะ?? ไคจำเป็นต้องดึงผ้าที่ใช้ปูนอนหน้ากองไฟมาคลุมกายให้ร่างสวย มือหนารีบประคองก้อนผ้าเข้าสู่อ้อมอกอีกครั้งก่อนจับใบหน้าเรียวให้หันมาซบแนบความอายไว้บนไหล่
“คุณชานอยากจะแหกปากร้องให้ดังลั่นป่าจริงงง...จริ๊งงงง!!! หวงมากไหมครับคุณไค?”
“อย่ามากวนตีน...ตกลงมีอะไร?”
“ก็ไม่มีอะไร พอดีคุณแบคตื่นแล้ว...ก็เลยอยากรู้ว่าคุณเซฮุนตื่นหรือยัง?”
“สัด!!”
(ตอนนี้แบคอยู่ที่ไหน!!...แล้วเป็นยังไงบ้าง!?)
“อยู่ในเต็นท์ อาการของคุณแบคดีขะ...ขึ้น อ้าวว!!”
คนหนึ่งรู้สึกโมโหเพราะถูกขัดจังหวะ...ส่วนอีกคนกลับรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนที่กินผลไม้ประหลาดเข้าไปจนสลบ เซฮุนรีบลุกออกจากตักกว้างโดยไม่รอคำตอบจากคนตัวใหญ่ และการทำเช่นนั้นก็พาลให้ใคร? ใคร??
ไค...รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก!!!! ฆ่ามึงหมกป่าซะดีไหม? ว่าแต่กูหวงเค้า...มึงไม่หวงเลยมั้งไอ้ชาน?? แหม...พากันไปนอนในเต็นท์! ถุ้ยยย...มึงก็หวงเหมือนกันแหละว้า!!!
...
...
...
23.50 น.
ตู้มมมมม!!!
“คุณแบค คุณเซฮุน...กระโดดลงมาเลยยย ไม่ต้องกลัว!!”
“มันไม่มีจระเข้แน่นะคุณชาน”
“ไม่มีหรอกครับ...ปลาสักตัวก็ไม่มี”
คงต้องใช้คำว่า “ไม่น่าไว้ใจ”
เพราะบ่อน้ำขนาดย่อมด้านข้างที่พักมันเป็นสิ่งที่ดูน่ากลัวในสายตาของคนต่างถิ่น น้ำมันดำจนไม่น่ากระโดดลงไปตามคำเชื้อเชิญ
น้ำมันนิ่งจนเกรงว่าจะมีสัตว์แอบซ่อนอยู่ด้านล่างและการที่ต้องอาบน้ำพร้อมคนตัวใหญ่...มันน่าเชื่อใจไหมล่ะ???
ตั้งแต่กินผลไม้ประหลาดเขาไป แบคฮยอนก็เริ่มหวาดระแวงมากขึ้น แถมวิธีแก้ก็ยังทำให้รู้สึกอายจนไม่กล้าสู้หน้า
เกิดมาก็ยังไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นจนกระทั่งวันนี้...บ้าที่สุดเลยยย!!!
“แบค...ลงไปกันเถอะ เพื่ออาการมึนหัวของพวกเราจะดีขึ้น?”
“งั้นก็ลงไปพร้อมกัน?!”
“โอเค...”
หมดเวลาเรื่องมากแล้วจริงๆ...อะไรที่คนในพื้นที่สั่งหรือให้ทำตามมันคงดีกว่าการต่อปากต่อคำ แบคฮยอนและเซฮุนจูงมือกันเดินลงไปในน้ำอย่างช้าๆ
ก้อนหินด้านล่างเหมือนเป็นบันไดที่คอยช่วยให้ทั้งสองคนได้ยืนทำใจก่อนลอยตัวห่างออกไปจากฝั่ง คุณชานรีบดึงคนตัวเล็กให้มาว่ายน้ำใกล้ๆกันเพราะถึงแม้จะไม่มีภัยต่อสัตว์ร้าย แต่ก็ต้องคอยระวังอย่างอื่นที่น่ากลัวมากกว่า โจรป่าชอบคนต่างถิ่นมากที่สุด...ยิ่งขาวๆเนียนๆแบบนี้ก็ยิ่งได้ราคาและกว่าจะถูกขายก็คงช้ำไปหมดทั้งตัว
แต่ตอนนี้...เรื่องโจรป่าคงต้องพักไว้ก่อนเพราะ
“แบคคค!!!...อะไรมาโดนขากูก็ไม่รู้!??”
“จริงเหรอเซฮุน?!!”
“กูขึ้นแล้วนะ...กูกลัววว!!”
!!!!!!!!!!!!!
(กลัวมากไหม?)
“ไอ้บ้านี่...!!!!”
คนที่บอกว่าง่วงนอน
คนที่บอกว่าอยากพักผ่อนและคนที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำตอนนี้ก็ทำให้เซฮุนต้องฟาดมือลงไปบนอกกว้าง ตกใจแทบฉี่ราด...เพราะนึกว่าตัวอะไรว่ายน้ำมาชนขา แถมเวลาแบบนี้ก็ไม่น่าลงมาอาบน้ำเลยสักนิด แต่...สั่งให้มาอาบก็ต้องอาบ สั่งให้ให้ทำอะไรก็ต้องทำและถ้าไม่รู้สึกเหนียวตัว
ไม่กลัวว่าตัวเองจะสกปรกหรือไม่สนเรื่องความสะอาด โอเซฮุนก็จะไม่มีทางลงมาว่ายน้ำในเวลานี้แน่ๆ มืดก็มืด
หนาวก็หนาว แล้วพระจันทร์ที่เคยทำหน้าที่อยู่บนท้องฟ้า...ก็กลับถูกเมฆบังจนเหลือแต่ดวงดาว
“หายมึนหัวหรือยัง?”
“ก็ดีขึ้น...แต่น้ำเย็นไปหน่อย”
“ก็ดีกว่าร้อน”
“เดี๋ยวเราไข้ขึ้นแล้วคุณนั่นแหละจะลำบาก”
“ไข้ไม่ขึ้นหรอก...แต่อย่างอื่นมันจะขึ้นมากกว่า”
“อะไรขึ้นเหรอคุณ?”
“นี่ไง...”
“ไอ้บ้า!!...ทุเรศศศ!”
การคว้ามือนิ่ม...มาจับส่วนแข็งขืนภายใต้ผิวน้ำ ทำให้เซฮุนต้องรีบดึงมือกลับด้วยความรวดเร็ว แล้ววว...มันจะใหญ่อะไรขนาดนั้นวะ??? ใบหน้าเรียวสวยที่แดงระเรื่อรีบหันหนีความจริงที่ได้สัมผัส สองขาขยับเคลื่อนจนน้ำกระจายเพื่อหลบหลีกคนนิสัยไม่ดี แต่เอวบาง...ก็ถูกล็อคเอาไว้ด้วยความกำยำก่อนที่จะว่ายถึงฝั่ง
“จะไปไหน?”
“ปล่อยเลย!!”
“จะรีบไปไหนล่ะ...ยังมีของดีให้ดูอีกนะ?”
“จะบ้าเหรอ!! ใครอยากจะไปดูของคุณ...เป็นพวกชอบโชว์เหรอไง โรคจิตชัดๆ!!”
“คุณก็คิดไปนู้น...ผมไม่ได้พูดสักคำว่าจะโชว์ของตัวเองให้ดู แต่ไหนไหนก็พูดแล้ว ของคุณก็ใช่ย่อยนะ...ถึงจะเล็กกว่าผมก็เหอะ แต่ข๊าว...ขาวววว!!”
“อะ....ไอ้!!!”
“อย่าเพิ่งด่าสิคุณ...ผมมีของดีให้คุณดูจริงๆนะ ไม่ได้แกล้งอะไรทั้งนั้น”
“แล้วมันคืออะไรล่ะ!?”
“เดี๋ยวก็เห็น...รอแป๊บนึง”
“เรื่องมากกก!”
การได้กอดร่างสวย...ภายใต้สายน้ำที่เย็นฉ่ำมันก็ถือว่าคุ้มแล้ว และต่อให้ต้องถูกด่าอีกสักร้อยประโยคก็จะเต็มใจฟัง มือหนาโอบรอบเอวคอดเอาไว้แน่น ใบหน้าเรียวสวยที่เกาะพราวไปด้วยความชุ่มชื้นก็ไม่อาจละสายตา เสื้อผ้าที่ถูกแรงต้านจากการว่ายเวียนก็เผยให้เห็นไหล่ลาดขาวเนียนจนน่าประทับรอยให้ขึ้นริ้ว ไค...คิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาไม่ใช่คนที่จะยึดติดกับสิ่งสวยงาม เขาไม่เคยหลงระเริงไปกับความน่ารัก แล้วทำไม...เขาต้องมาคิดมากกับเรื่องของคุณหนูตัวป่วนด้วยล่ะ!?? มันเหมือนไม่อยากให้ถึงวันจากลา และคล้ายว่าจะอยากฟังเสียงกล่นด่าไปอีกสักพัก ซึ่งเขา...ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนในชีวิต
กูคงบ้าไปแล้วจริงๆ!!?
00.00 น.
“นี่คุณ!? ตกลงจะให้ดูอะไรกันนะ...แน่ เฮ้ยย!!!!”
ว่ายน้ำจนตัวจะเปื่อย...แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้เห็นของดี
แล้วก็ยังไม่ทันจะสิ้นคำถาม...ท้องฟ้ากลับเริ่มแปรปรวน
ดาวที่เคยมีเพียงน้อยนิดกลับมากขึ้นจนไม่อาจนับได้ พระจันทร์ที่เคยถูกเมฆบังก็พลันหายเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
และน้ำ...ที่เคยเย็นจนห่วงว่าตัวเองจะเป็นไข้กลับอุ่นขึ้นพร้อมเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีม่วงอย่างน่าอัศจรรย์???
“เซฮุนนน?
// แบค!!!”
ชื่อคนต่างถิ่น...ที่ถูกเรียกกันและกันด้วยความประหลาดใจ ทำให้ทั้งไคทั้งชานต้องรีบพาคนในอ้อมอกว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆฝั่ง
ลำแขนขาวเนียนยังไม่กล้าละจากลำคอของหนุ่มผิวเข้มเพราะถึงแม้จะรู้สึกประหลาดใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นใต้ผิวน้ำ แต่ในความประหลาดใจก็ยังมีความกลัวปะปนอยู่ไม่ใช่น้อย
“นี่ไง...สิ่งพวกคุณตามหา?”
“จริงเหรอ?!! ละ...แล้วมันไม่มีพิษเหรอคุณ? เราขึ้นจากน้ำกันเถอะ!!”
“คุณเชื่อผมนะ...มันไม่มีพิษหรอก! ในบันทึกอาจเขียนเพื่อให้พวกคุณระวังตัว แต่ผมเป็นคนในพื้นที่ ผมเคยเห็นมันและเป็นคนพาพ่อของแบคมาที่นี่ด้วยตัวเอง พวกคุณเชื่อผมสิว่ามันไม่มีพิษอะไรทั้งนั้น”
คนเคยหลงในรสชาติของผลไม้แปลกประหลาด...มันอดที่จะหวาดระแวงไม่ได้
แล้วการที่น้ำเคยเป็นสีดำและเปลี่ยนเป็นการเรืองแสงสีม่วงก็พาลให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย แถมเจ้าของสมุดบันทึกก็ยังเขียนไว้อีกว่า...ตัวดอกของพืชน้ำสีม่วงมันมีพิษ??!! แล้วตกลงเขาควรเชื่อในสิ่งใดกันแน่? เชื่อคุณไค??
เชื่อคุณพ่อของแบคฮยอน???
หรือว่าเชื่อ...ในสัญชาตญาณของตัวเอง??????
“เดี๋ยวนะครับคุณไค...ที่คุณพูดมาทั้งหมดมันหมายความว่าอะไรกันแน่ คุณช่วยอธิบายให้เราฟังหน่อยได้ไหม? ถ้าบันทึกของคุณพ่อไม่ใช่ความจริง...แล้วทำไมถึงมีคนต้องการชีวิตของท่านล่ะ?”
คนเป็นลูกเริ่มไม่แน่ใจ...ว่าสิ่งที่ตัวเองตามหามันคุ้มค่ากับการเดินทางอันแสนไกลหรือไม่ ถ้าพืชน้ำสีม่วงไม่มีพิษ?
ตัวดอกไม่ได้เป็นอันตรายเมื่อถูกเด็ดทิ้ง?? แล้วความจริงมันคืออะไรกันแน่???
ใบหน้าจิ้มลิ้มที่คนตัวใหญ่หลงใหลได้ปลื้ม...เริ่มออกอาการไม่พอใจเพราะคิดมาตลอดว่าการเสียชีวิตของบุคคลที่ตัวเองรักเกิดจากการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ถ้าพ่อไม่ได้ตายด้วยเหตุของงานวิจัยชิ้นนี้...แล้วเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร??
“คุณแบคฟังดีๆนะ...ผมไม่ได้บอกว่าบันทึกของท่านคือเรื่องโกหก
แต่ที่ท่านต้องเขียนแบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาที่นี่ งานวิจัยของท่านอาจช่วยคนได้นับล้านก็จริง แต่ถ้าคนที่ได้ไปไม่ใช่พวกคุณล่ะ? ที่ท่านทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องคุณนั่นแหละ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าคุณไปเจอบันทึกเล่มนี้มาได้ยังไง?”
แบคฮยอน...รีบว่ายน้ำเข้าหาฝั่งก่อนนั่งบนโขดหินเหมือนคนหมดแรงเพราะไม่คิดว่าสมุดบันทึกที่เจออยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหลังเก่าคือสิ่งที่พ่อซ่อนไว้เพื่อปกป้องลูกชายคนนี้ สรุปแล้ว...การเดินทางมาพบบางสิ่งก็ไร้ค่าจริงๆใช่ไหม? และที่คุณไคพูดมามันก็ถูก...เขาก็เป็นแค่นักวิจัยหรือนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย แถมยังไม่มีไหวพริบเพื่ออ่านบันทึกเล่มนี้ให้เข้าใจ
“พวกเราต้องกลับไปมือเปล่าสินะ”
“คุณจะลองเด็ดมันขึ้นมาดูก็ได้ แต่ผมบอกตรงๆว่าไม่อยากให้เอาไปวิจัย...สิ่งนี้อาจช่วยคนนับล้านได้ก็จริง แต่พวกคุณคิดเหรอว่าคนนับล้านจะได้ใช้
พวกคุณอาจเก่งในการวิจัยของดีไปรักษาคนอื่น
แต่ถ้างานวิจัยมันถูกพวกนายทุนดัดแปลงไปใช้เพื่อการทำลายล่ะ...พวกคุณเคยคิดบ้างหรือเปล่า?
ของบางอย่างมันก็ไม่ควรถูกนำออกไปหรอกนะคุณ คนดีได้ไปก็ดี
แต่ถ้าคนเลวได้ไป...ผมว่าหลายๆอย่างต้องพินาศแน่ๆ”
“เฮ้ออ!!...ยังไงก็ขอบคุณคุณไคกับคุณชานมากนะที่ช่วยพาพวกเรามาที่นี่ แต่คุณก็น่าจะบอกเรื่องนี้กับเราตั้งแต่วันที่ได้อ่านบันทึก”
“บอกไปพวกคุณก็ไม่เชื่อ...ผมถึงต้องพามาให้เห็นกับตานี่ไง”
“ขอบคุณอีกครั้งนะ...ขอบคุณจริงๆ”
“การตายของพ่อคุณมันไม่สูญเปล่าเลยนะ แล้วท่านก็เป็นคนดีมากๆ...คุณอย่าเสียใจไปเลย”
“งั้นนน...เราขอเก็บเจ้าดอกสีม่วงไว้เป็นที่ระลึกได้ไหม?”
“ได้สิ...เดี๋ยวผมกับไอ้ชานจะลงไปเก็บมาให้”
“ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”
มันถึงคราวที่ต้องยอมรับความจริง...ความจริงที่ว่าของบางอย่างก็ไม่ควรนำออกไปจากพื้นที่ ความจริงที่ลูกคนนี้เพิ่งรู้ว่าคุณพ่อเป็นคนดีมากแค่ไหน และความจริง...ที่นักวิจัยอย่างพวกเขาต้องไปทดลองสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พืชน้ำสีม่วง
คนตัวเล็กเริ่มดำผุดดำว่ายลงไปใต้น้ำก่อนดึงความสวยงามออกมาจากโขดหินเพียงหนึ่งกิ่งเท่านั้น และก้านของมันก็มีสีน้ำตาลอมแดง ใบสีเขียวเรียวเล็กเป็นแฉก ดอกสีม่วงแต่ไม่เรืองแสงเมื่อโผล่พ้นน้ำ
ใช่แล้ว...มันสวยมากเมื่ออยู่ภายใต้ผืนน้ำ มันส่องสว่างสะท้อนแสงได้อย่างน่าอัศจรรย์ และเขาก็ไม่ควรนำความสวยงามทั้งหมดออกไปจากป่าแห่งนี้จริงๆ
...
...
...
01.05 น.
แกร็กกก!!!
“มึงโอเคไหมวะ?”
“กูไม่เป็นไร...”
“แน่ใจนะแบค?”
“กูไม่เป็นไรจริงๆ”
จำเป็นต้องมานั่งผิงไฟกันอีกครั้ง...เพราะการว่ายน้ำชื่นชมความงามของพืชสีม่วงมันอาจส่งผลให้ป่วยไข้และการทำให้ร่างกายอบอุ่นก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด มือบางหักกิ่งไม้เล็กๆโยนใส่ความร้อนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย มันมีความเข้าใจที่มาพร้อมกับบางสิ่งที่ยังติดค้าง??
เข้าใจ...ว่าการมาที่นี่อาจเหมือนการคว้าน้ำเหลว แต่มันก็ได้แง่คิดดีๆกลับไป ส่วนเรื่องที่ติดค้าง...ก็คงเป็นอาชีพที่ไม่รู้ว่าอยากจะกลับไปเข้าแล็ปเช่นเดิมหรือไม่???
จะใช้คำว่าสับสนก็คงได้...เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้มันพาลให้อยากละจากงานวิจัยไปสักพัก
แบคฮยอนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกับเพื่อนช่วยกันทำการทดลองจนสำเร็จมันได้ถูกนำไปใช้ในทางใด ทางดี
ทางร้ายหรือทาง...ของพวกนายทุน???
หลายปีที่ผ่านมามันเหมือนถูกหลอกให้ใช้ความสามารถในทางที่ผิด
ทดลองอะไรสำเร็จก็ไม่เคยติดตามผลว่าสิ่งที่ทำมันถูกนำไปใช้กับใคร สิ่งใดและมีประโยชน์หรือไม่???? เก่งในงาน
แต่กลับไม่ฉลาดในเรื่องการใช้ชีวิตเพราะมัวแต่คิดว่า...สิ่งที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว
เฮ้อออ...เกิดเป็นแบคฮยอนนี่มันเหนื่อยจริงๆ!!!!
“ง่วงยังตัวป่วน?!”
ถึงแม้...เรื่องในบันทึกจะมีความจริงอยู่เพียงน้อยนิด
แต่ความจริงที่ว่าการเรืองแสงของพืชน้ำสีม่วงจะปรากฏให้เห็นเพียงแค่ตอนเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเท่านั้นก็คือเรื่องจริง และความสวยงามของมันก็ได้หนุ่มผิวเข้มช่วยเก็บมาให้
ใช่ว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น...แต่จะให้ดำลงไปเก็บดอกไม้ด้วยความลึกขนาดนั้นก็คงไม่ไหว
เซฮุนจึงได้แต่ว่ายวนไปมาท่ามกลางผิวน้ำที่เรืองแสงแสนอัศจรรย์
“ถามทำไม?!!”
“เป็นห่วง”
“.......!!!?”
เวลานี้...คงต้องใช้คำว่า “เลิ่กลั่ก” เพราะคำตอบของหนุ่มผิวเข้มมันคือสิ่งที่คนฟังไม่คิดว่าจะได้ยิน เป็นห่วง?
บ้าเหรอ??!
จะมาห่วงอะไร?
เรามันตัวป่วนไม่ใช่หรือ?!! ดวงตาคู่สวยขอทิ้งโฟกัสไว้ที่กองไฟ มือบางรีบคว้ากิ่งไม้มาโยนใส่ความร้อน และ....
“พอแล้ว...”
“ง่วงก็ไปนอนก่อนสิ”
“ไปนอนพร้อมกันดิ่”
“นอนด้วยกันยังไม่พอใจอีกเหรอไง...ทำไมต้องนอนพร้อมกันอีก?”
“พูดมากว่ะ!!”
“อ๊ะ!! ไอ้บ้า...ก็บอกว่ายังไม่ง่วงไงวะ!!”
ไม่ง่วงก็ต้องนอน...เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเริ่มออกเรืออีกครั้ง
แถมการว่ายน้ำอยู่เกือบชั่วโมงก็ทำให้ไคห่วงว่าคนตรงหน้าจะไม่สบาย แล้วเวลานี้ก็ใกล้จะตีสองเข้าไปทุกที เซฮุนถูกอุ้มพาดบ่าก่อนถูกพาเข้าไปนอนในเต็นท์ ส่วนเพื่อนตัวเล็กก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเพลียใจเนื่องจากสองคนนี้เข้าใกล้กันทีไรก็ต้องมีลงไม้ลงมือ
“รีบๆนอนเลย นอนทีหลังผีหลอกไม่รู้ด้วยนะ!”
“พูดบ้าอะไรเนี่ย?!!”
“ก็พูดเรื่องจริง...ในป่าก็มีคนตายนะคุณ แล้วคนตายก็คือผะ...ผี อุ๊บบ!!!”
“เงียบไปเลย!!”
ใครให้พูดเรื่องนี้ตอนกลางคืน??...และมือบางก็ต้องรีบตะครุบปากคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนที่ความกลัวจะพาลให้นอนไม่หลับ เซฮุนขยับตัวเบียดเข้าหากายหนาโดยอัตโนมัติ ใบหน้าสวยหันซ้ายหันขวาเหมือนหวาดระแวงทุกสิ่งที่อยู่รอบกาย
แล้วเสียงของสัตว์อย่างพวกจิ้งหรีดหรือกบก็แข่งกันร้องจนประสาทจะเริ่มเสีย แต่.....
จุ๊บบ!!!
ฝ่ามือ...ที่ปิดปากหยักเอาไว้ถูกประทับรอยจนรู้สึกตกใจ แถมร่างกายก็ถูกผลักให้ล้มลงไปบนความนุ่มพร้อมอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบเอาไว้ไม่ยอมปล่อย อากาศเย็นจะตาย? ทำไมถึงไม่ชอบใส่เสื้อ?? เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก!!? แล้วววว...จะกอดแน่นอะไรขนาดนี้!!!?
“หลับซะ พรุ่งนี้ต้องออกเรือแต่เช้า”
“ทีหลังห้ามพูดเรื่องผีอีก”
“กลัวมากเลยเหรอ?”
“อืออ...”
“ขอโทษ...ทีหลังจะไม่พูดแล้ว”
“ดีมาก!...”
“นอนสักทีไอ้ตัวป่วนนนน...เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นไม่ไหว”
“เอ่ออ...คุณไค? เรื่องวันนี้ขอบคุณมากเลยนะ”
“เพื่อนของคุณจะไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง...เชื่อผมสิ”
“เราเชื่อ...”
“ถ้าเชื่อก็นอนได้แล้ว”
“ฝันดีนะคุณไค”
“ฝันดี...เซฮุน”
อาจไม่รู้สึกกระดากปากเท่าครั้งแรก แต่หัวใจ...มันยังคงเต้นแรงเหมือนเดิม ♥!!!!
100%
Cr. ภาพในตอนที่ 4
: wallpaperscraft.com และtravel.ettoday.net >>
edit โดยไรท์ผู้น้อง
Talk.
ตอนหน้าจบแล้วนะคะ ^^)
ขอบคุณนักอ่านทุกคน ขอบคุณคอมเม้นท์ ขอบคุณกำลังใจแสนดี ขอบคุณๆทุกอย่างเลยค่ะ (ไหว้ย่อ)
รัก ♡
#ออกเรือKH
ความคิดเห็น