ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว(EXO) Another (Kaihun Ft.Chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #3 : ♡3

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 64





    3…

     

     

    Condominium XXX

    19.45 น.

     

                “สวัสดีครับ...พี่ชานยอลของน้องแบค”

     

                “เอ่อออ............”

     

                (ต้องขอโทษด้วยนะครับ  //  กลับห้องเดี๋ยวนี้...แบคฮยอน!)

     

                หนุ่มผิวเข้ม...รีบเดินไปคว้าแขนน้องชายเอาไว้พร้อมกล่าวขอโทษและต้องก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพราะการกระทำของแบคฮยอนถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากที่สุด  ส่วนคนที่ถูกควงแขน  ถูกสบตาและถูกบอกว่าตัวเองเป็นของ  เอ่อออ....น้องแบค!?  ก็ได้แต่ยืนนิ่งๆเนื่องจากสมองมันเหมือนจะหยุดสั่งงานไปชั่วขณะ  ชานยอลแค่จะออกมาตามน้องชายที่หายไปนาน  แค่จะออกมาจากห้องเพื่อลงไปที่ร้านสะดวกซื้อหรือแค่เป็นคนหล่อ...ของเด็กตัวเล็กๆ

     

                “ไหนไหนก็เจอกันแล้ว...งั้นแนะนำตัวอีกครั้งนะครับ  นี่พี่ชานยอลครับ...พี่ชายผมเอง”

     

                “ผม...จงอินครับ  ส่วนคนนี้ก็น้องชายผม...ชื่อแบคฮยอน  ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ  น้องผมเกเรอีกแล้ว”

     

                “ไม่เป็นไรครับ...บอกกันตรงๆแบบนี้ก็ดี  พวกผมจะได้ทำตัวถูก”

     

                “ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ...แต่ผมต้องขอตัวกลับห้องก่อน  //  ไปแบค...กลับห้อง”

     

                (พวกพี่กำลังฉลองกันอยู่เหรอ...ในถุงมีเบียร์ด้วย  ผมขอฉลองด้วยนะ...นะนะนะ  เรามาฉลองเพื่อนใหม่กันเถอะ)

     

                เซฮุนกำลังพยายามทำให้ทุกอย่างดูไม่ตึงเครียด...ทั้งการแนะนำตัว  การส่งยิ้มหรือการไม่ถือสากับสิ่งที่คนอายุน้อยได้ก่อเอาไว้  และหนุ่มผิวเข้มก็คล้ายว่าจะเป็นกันเองมากขึ้นหลังจากที่น้องชายได้สร้างความปวดหัวให้มากมาย  แต่!!สิ่งที่พยายามมาทั้งหมดเหมือนว่าจะสูญเปล่าเพราะคนที่ควงแขนพี่ชายเขาอยู่ตอนนี้เริ่มที่จะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมากจนเกินไป

     

                “สวัสดีครับคุณจงอิน...สวัสดีน้องแบคด้วยนะครับ  แล้ววันนี้พี่ชานยอลก็ไม่สะดวกจริงๆ  พวกพี่สองคนจัดห้องกันเหนื่อยมากเลย  พี่ต้องขอโทษน้องแบคด้วยนะครับ...เดี๋ยววันหลังเราค่อยมาฉลองกันใหม่เนอะ?!

     

                “จริงนะ...พี่ชานยอลสัญญากับน้องแบคแล้วนะ”

     

                “ครับ...พี่ชานยอลสัญญา”

     

                “งั้นกุ๊ดไนท์นะครับพี่ชานยอล...พี่เซฮุน  สวัสดีครับ!

     

    และ... สิ่งที่คนเป็นน้องเริ่มไม่ชอบใจก็จบลงได้ด้วยดี  เฮ้ออออออ!!

     

                พี่ชายอย่างชานยอล...ก็ใช่ว่าจะชอบการเอาแต่ใจแบบนี้  แต่การจะไล่เพื่อนข้างห้องตรงๆก็ดูเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป  และการพูดด้วยเหตุผลหรือหยิบยกความเหนื่อยล้าจากการจัดห้องขึ้นมาอธิบายก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด  แล้วชานยอลก็ทราบว่าน้องชายของตัวเองกำลังคิดเช่นไร...เซฮุนไม่ใช่คนที่จะอารมณ์เสียง่ายๆแม้เรื่องเรื่องนั้นจะน่าหงุดหงิดมากก็ตามที  แต่ยกเว้น...การเหมือนถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัว 

     

    แกร๊กกก!!!

     

                “ใจเย็นๆนะเซฮุน...น้องมันคงดีใจที่มีคนมาอยู่ใหม่”

     

                “ผมรู้ครับ...แต่ทำแบบนั้นมันก็มากเกินไปหน่อย  อยู่ดีๆก็มาขอฉลองด้วย  ผมนี่งงไปเลย  เกิดมาเพิ่งเคยเจอ”

     

                ประตูห้องถูกปิด  ถุงเบียร์และของกินมากมายก็ถูกวางลงบนโต๊ะ  การทักทายหรือการแนะนำตัวที่แสนยาวนานพาลให้เซฮุนรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก  เขาคิดว่าการมาอาศัยอยู่ในคอนโดฯสุดหรูแห่งนี้คงจะสงบสุขน่าดูเพราะแต่ละชั้นมีเพียงแค่สองห้องเท่านั้น  แล้วชั้นบนสุดอย่างชั้นที่เก้าก็คงจะไม่มีใครทำเสียงของหล่นหรือเสียงดังโครมครามมาจากชั้นบน  แต่สุดท้าย...สิ่งน่ารำคาญที่สุดก็คือคนข้างห้อง

     

                “แต่พี่ว่ามันแปลกๆนะ...ดูน่าสงสารด้วย  พี่ว่าคนที่ชื่อน้องแบคอาจจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง?”

     

                “พี่ชายผมกลายเป็นนักจิตวิทยาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ?”

     

                “นักจิตวิทยาอะไรล่ะ...ก็แค่คิดเฉยๆ  แล้วพี่ก็ไม่อยากให้เราไปถือสาเด็กมันด้วย  น้องมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอก”

     

                ใช่ว่าเขาไม่คิด...เพราะการกระทำของแบคฮยอนมันแปลกจริงๆ  แทนที่จะพูดดีหรือให้ความสนิทสนมกับพี่ชายของตัวเอง  แต่เด็กนั่นกลับให้ความสนิทสนมกับคนอื่น  แถมยังเป็นคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันแค่วันเดียว  ส่วนพี่ชายอย่างคุณจงอินก็เอาแต่ถูกว่าและถูกพูดจาไม่น่ารัก  ว่าว่าแก่บ้าง  โวยวายใส่บ้างแล้วก็อีกสารพัดที่เขาอาจยังไม่รู้...เป็นพี่น้องที่แปลกดีจัง

     

                “เดี๋ยวผมเอาของไปใส่ตู้เย็นก่อน...พี่ชานยอลไปเปิดหนังได้เลย”

     

                “โอเค.....”

     

                เวลานี้...คงต้องเลิกนึกถึงเรื่องของคนอื่นไปก่อนเพราะการฉลองที่ยุติเอาไว้มันกำลังเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง  คนเป็นน้องคว้าถุงของกินมากมายเดินไปที่ตู้เย็น  ส่วนคนเป็นพี่ก็คว้าป๊อปคอร์นรสชีสที่เพิ่งอบเสร็จได้ไม่นานเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น  เสียงของซีรีส์เรื่องโปรดดังออกมาถึงห้องครัวจนเซฮุนพอจะนึกภาพออกว่ามันกำลังดำเนินเรื่องไปถึงตอนไหน  มือบางรีบหยิบเบียร์แช่ตู้เย็นและตามมาด้วยไส้กรอก  ไอศกรีม  แล้วก็.......

     

    ♪♫..♪♫♪..♫♪!!!

     

                เสียงกริ่งหน้าห้อง...ที่ดังขึ้นแข่งกับเสียงของซีรีส์ก็ทำให้การนำของต่างๆเข้าตู้เย็นต้องพักเอาไว้  ขาเรียวรีบเดินไปที่หน้าประตูก่อนกดอินเตอร์คอม***บนผนังสีครีมเพื่อดูว่าใครที่มากดเรียกเจ้าของห้องในยามวิกาล  และเมื่อนิ้วชี้สัมผัสไปบนปุ่มที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร...เซฮุนก็ทราบทันทีว่าเป็นใคร??

     

                “สวัสดีครับคุณจงอิน!?”

     

                รีบเปิดประตูห้อง...ทั้งๆที่ชายผิวเข้มยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด  แต่!!ผลไม้หลากหลายชนิดในมือของคนตรงหน้าก็ทำให้เซฮุนพอจะเดาออกว่าทำไมคุณจงอินถึงมากดกริ่งในเวลาเช่นนี้  ในจานกระเบื้องขนาดใหญ่มีทั้งส้ม  องุ่น  เชอร์รี่แดง  ลูกแพร  ซึ่งทั้งหมดนั้นก็น่าทานจริงๆเพราะในห้องของเขามีแต่เบียร์กับกับแกล้ม...แล้วก็อาหารที่เหลือมาจากมื้อเย็นเท่านั้น

     

                “ขอโทษที่รบกวนนะ คะ...ครับ!

     

                “ไม่รบกวนหรอกครับ...เชิญครับ  เข้ามาข้างในก่อน”

     

                “ขอบคุณครับ!

     

                ไม่คิดว่า...จะถูกเชิญให้เข้ามาในห้องเพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว  แต่ถ้าจะให้ปฏิเสธก็คงจะเป็นการเสียมารยาทอีกครั้ง  วันนี้เหมือนจะเป็นวันที่ทั้งเขาและน้องชายจะทำเรื่องที่เสียมารยาทเอาไว้มากมายจนไม่รู้ว่าจะกล่าวคำใดให้เพียงพอต่อความรู้สึกผิด  ผิดที่อบรมน้องไม่ได้  ผิดที่มากดกริ่งห้องของคนอื่นในยามวิกาลและผิดที่คิดว่า...คนตรงหน้าเป็นแฟนกับผู้ชายตัวโตๆ???  แล้วความผิดเยอะแยะขนาดนี้ก็ทำให้จงอินต้องนำผลไม้มามอบให้เพื่อเป็นการขอโทษ

     

                “คุณจงอินมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”

     

                “ผมอยากจะมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ครับ...โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”

     

                “ขอบคุณมากนะครับ...แต่คุณจงอินไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้”

     

                การที่คนอายุมากกว่า...ก้มศีรษะให้พร้อมยื่นจานผลไม้มาตรงหน้า  มันทำให้เซฮุนถึงกับต้องรีบรับเอาไว้ก่อนโค้งตัวให้อย่างสุภาพอ่อนอ้อมเพราะใช่ว่าเรื่องทั้งหมดมันจะใหญ่โตจนต้องมาขอโทษขอโพยกันถึงขั้นนี้  ความเกรงใจ  ความประทับใจ  ความอบอุ่นใจเกิดขึ้นในทันทีเมื่อจงอินแสดงความรู้สึกออกมาเช่นนั้น  เขาอายุแค่ 22 ส่วนคนผิวเข้มก็น่าจะอายุมากกว่าพี่ชานยอลด้วยซ้ำ  แต่!!ทำไมถึงไม่ถือตัวเลยสักนิด

     

                “ซะ...เซฮุน  อ้าววว  คุณจงอิน  สวัสดีครับ!!

     

                “สวัสดีครับ...รบกวนอีกแล้วนะครับ”

     

                ได้ยินเสียงกริ่ง...แต่เห็นเงียบไปก็คิดว่าคงมีเรื่องเข้าใจผิด  และคนเป็นพี่ก็กำลังเดินออกมาหยิบเบียร์เพิ่มหลังจากที่ดื่มหมดไปหลายกระป๋อง  แต่!!?พอเห็นว่าใครยืนอยู่ในห้อง  แถมในมือของน้องชายก็ยังมีผลไม้จานโตถือเอาไว้  ความที่คิดว่าตัวเองเข้าใจผิดกลับถูกแทนที่ด้วยความสงสัย  คุณจงอินมาทำไม?  มันเกิดอะไรขึ้น??  แล้วน้องแบคไม่ตามมาด้วยเหรอ????

     

                “เชิญนั่งก่อนครับคุณจงอิน”

     

                “ไม่รบกวนดีกว่าครับ...ผมแค่จะเอาผลไม้มาให้เพื่ออยากขอโทษกับเรื่องในวันนี้  พวกคุณอย่าถือสาน้องผมเลยนะครับ  น้องคงไม่ได้ตั้งใจ”

     

                “แต่ถ้าคุณจงอินไม่ว่าอะไร...ผมว่าเรามาคุยเรื่องนี้ให้เข้าใจกันดีกว่านะครับ”

     

                “งั้นคงต้องรบกวนคุณทั้งสองจริงๆแล้วครับ”

     

                “ไม่เป็นไรครับ...เชิญคุณจงอินด้านนี้เลยครับ”

     

                เซฮุนก็อยากรู้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น...และถึงแม้การฉลองห้องใหม่จะถูกขัดขวางด้วยผู้มาเยือน  แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ปัญหาค้างคาใจ  ซีรีส์ถูกหยุด  ทีวีถูกปิด  การฉลองถูกยุติ  แล้วพี่ชานยอลก็พาคุณจงอินออกมาคุยธุระที่นอกระเบียงห้องเพราะตอนนี้ห้องรับแขกมันไม่พร้อมที่จะต้อนรับใครทั้งนั้น  มันมีแต่กระป๋องเบียร์  เศษซากของห่อขนมขบเคี้ยว...แล้วก็หมอนกับผ้าห่มก็กองอยู่บนโซฟา  บอกตรงๆว่าเคลียร์ไม่ทัน  แถมยังไม่ทันคิดว่าจะมีใครมาพบในเวลาแบบนี้

     

     

                สามทุ่มกว่าเกือบสี่ทุ่ม...เซฮุนต้องมาชงชาพร้อมหาของว่างมาเสิร์ฟให้เพื่อนข้างห้อง  แก้วเซรามิคเนื้อดีถูกหยิบออกมาจากตู้ก่อนชาคาโมมายล์จะถูกชงเป็นอันดับต่อไป  และเมื่อน้ำร้อนพร้อม  ภาชนะพร้อม...ชาก็ถูกชงอย่างง่ายดาย  ส่วนคุกกี้ผลไม้ก็ถูกหยิบออกมาจากโหลแก้วบนชั้นวาง  แล้วตอนนี้...ถาดโลหะสีเงินพร้อมเครื่องดื่มร้อนกับขนมอบก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟ

     

                “ชาร้อนกับคุ้กกี้ครับ”

     

                “ขอบคุณมากครับ”

     

                ดี...ที่อากาศด้านนอกไม่ร้อนอบอ้าว  ไม่อย่างนั้นชาถ้วยนี้อาจไม่เหมาะแก่การรับประทาน  ตอนกลางวันอากาศร้อนน่าดู  แต่พอตกดึก...อากาศกลับเย็น  แถมยังมีลมพัดเอื่อยๆ  เซฮุนเลื่อนเก้าอี้ออกช้าๆแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผู้มาเยือน  คุณจงอินก็ยกเครื่องดื่มขึ้นทานก่อนส่งยิ้มให้คนชงอย่างนึกขอบคุณ  ในใจก็คิดว่าสองพี่น้องคู่นี้คงถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดีเพราะทั้งกิริยามารยาท  ทั้งการวางเนื้อวางตัวรวมถึงการทำของว่างมาต้อนรับแขก  ทุกๆอย่างมันเป็นการบ่งบอกได้ถึงการถูกอบรมมาอย่างเคร่งครัด

     

                “ก่อนอื่น...ผมขออนุญาตถามคุณจงอินว่า  เอ่ออ...”

     

                “ถามมาเลยครับคุณชานยอล...ไม่ต้องเกรงใจ”

     

                “ถ้าเป็นการละลาบละล้วง...ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”

     

                “เชิญถามเลยครับ...ถ้าผมตอบได้ผมจะตอบ”

     

                “คุณจงอินอายุเท่าไหร่ครับ?”

     

                ขออภัยที่ต้องถามเรื่องนี้...เพราะมันอดไม่ได้จริงๆ  ชานยอลทราบดีว่าคนตรงหน้าต้องอายุมากกว่าเราสองพี่น้องแน่ๆ  แต่ที่ต้องถามก็เพื่อความแน่ใจและเพื่อจะได้วางตัวถูก  อะไรที่ดูไม่เหมาะสมก็จะได้เลี่ยงหรือถ้าอายุน้อยกว่าก็จะได้เปิดใจคุยกันตรงๆโดยไม่ต้องรู้สึกเกร็งมากนัก 

     

    แต่…..!!!

     

                42  ครับ...ผมอายุ 42

     

                “........!!!!!?”

     

                เริ่มเกร็งทันที...เพราะเขาไม่คิดว่าคุณจงอินจะอายุเข้าเลขสี่  แล้วก็เป็นอายุที่เหมือนจะคุยกันอย่างเพื่อนหรือคุยกันตรงๆแบบที่คิดไว้ไม่ได้เด็ดขาด  เรื่องมารยาทสำคัญมากเพราะทั้งเขาและเซฮุนถูกอบรมมาเช่นนั้น  จะให้คุยกับผู้ใหญ่โดยไม่นึกถึงเรื่องของมารยาทเขาทำไม่ได้จริงๆ 

     

                “ส่วนแบคฮยอนอายุ  18 ครับ...แล้วช่วงวัยที่ห่างกันมากก็เลยทำให้แบคค่อนข้างต่อต้านผม  เค้าชอบพูดบ่อยๆว่าเหมือนมีพ่อมากกว่าพี่ชาย”

     

                ใช่ว่าอยากเอาเรื่องภายในครอบครัวมาประจาน...แต่ถ้าไม่บอกให้ทราบถึงเหตุผล  เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดหรือคิดว่าน้องของเขาไร้การอบรมสั่งสอน  เครื่องดื่มร้อนถูกยกขึ้นทานอีกครั้งพร้อมกับสายตาคมที่มองออกไปอย่างไร้จุดหมาย  เซฮุนเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแบคฮยอนถึงกล้าทำอะไรแบบนั้น  ทำไปเพราะอยากให้คุณจงอินขายหน้า  ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจและทำไปอย่างนึกหาพี่ชายในแบบที่ตัวเองอยากมี

     

                “ผมกับพี่ชานยอลไม่ถือสาหรอกครับ...และถ้าน้องแบคอยากจะมาเล่นที่ห้องนี้ก็เชิญได้เลยนะครับ  พวกผมยินดี”

     

                ใช่...พวกเขายินดีและเข้าใจคนตรงหน้ามากที่สุด  ความห่างของช่วงวัยถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความเป็นพี่น้อง  ยิ่งห่างกันมาก  ความใกล้ชิดหรือความสนิทสนมก็ยิ่งยากมากขึ้นตามไปด้วย  คนหนึ่งอยู่ในวัยทำงาน  ส่วนอีกคนอยู่ในวัยเรียน  ทุกๆเรื่องมันไม่มีเวลาให้สนิมสนมกันเลยสักนิด  ไม่แปลกที่แบคฮยอนจะรู้สึกว่าเหมือนมีพ่อมากกว่าพี่ชายเพราะขนาดเขาที่อายุห่างจากพี่ชานยอลสิบปี...ก็ยังมีบ้างที่รู้สึกเช่นนั้น

     

                “ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ...พวกคุณใจดีมากจริงๆ”

     

                “ผมก็ต้องขอบคุณสำหรับผลไม้ด้วยนะครับ...แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”

     

                “ยินดีมากๆที่ได้รู้จักครับ...และถ้าไม่เป็นการรบกวนพรุ่งนี้ขอเชิญคุณทั้งสองคนมาเป็นเกียรติทานมื้อเช้าด้วยกันนะครับ”

     

                “ได้ครับ...ได้เลย  ยินดีและเป็นเกียรติมากๆเลยครับ”

     

                “ขอบคุณสำหรับชานะครับ...อร่อยมาก  แต่ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน  เดี๋ยวแบคตื่นมาไม่เจอแล้วจะเป็นเรื่องอีก”

     

                “เชิญครับ...เดี๋ยวผมไปส่ง”

     

                ใคร...เป็นคนเชิญแขกเข้ามาก็ต้องเป็นคนไปส่ง  และเซฮุนก็ขออาสาเดินนำก่อนเปิดประตูให้คนวัยสี่สิบเดินออกไปด้านนอก  ระยะทางจากระเบียงห้องไปจนถึงหน้าประตูมันไม่ได้ไกลเลยสักนิด  แต่ทำไม...มันเหมือนไกลอย่างบอกไม่ถูก  เกิดอาการประหม่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น  คุณจงอินทำให้คนอายุน้อยกว่าเกิดอาการที่คล้ายว่าจะหายใจไม่ทั่วท้อง  เคยรู้สึกไหม?...เวลาเจอใครที่มีมารยาทมากๆ  ดูดีมากๆ  ตรงสเปคๆแล้วทำตัวไม่ถูก

     

    That’s  right  my  type!

     

                “กู๊ดไนท์นะครับคุณเซฮุน”

     

                “เอ่อออ  ครับ...กู๊ดไนท์ครับคุณจงอิน”

     

                “แล้วพรุ่งเช้าพบกันนะครับ”

     

                “ครับ....!!! 

     

    กึ่กกก!!!

     

                เหมือนถูกนัดเดท...ใจเลยเต้นจนยากควบคุม  แถมเสียงทุ้มที่กล่าวว่า “พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะครับ”  ก็ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท  แล้วไหนจะรอยยิ้มที่ดูร้ายกาจนั่นอีก!!  ประตูห้องถูกปิดอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าคุณจงอินจะทราบถึงอาการประหม่าของตัวเอง  แผ่นหลังก็ขอพักพิงไว้บนกำแพงสีครีมและอยู่ดีๆสองมือก็สั่นเหมือนพวกคนเจ้าเข้าทรง  คุณจงอิน  คุณจงอิน  คุณจงอิน...ทำไมคุณจงอินถึงทำให้เซฮุนเป็นแบบนี้นะ!!?

     

                “อ้าวว!?  ไปยืนทำไมตรงนั้น...พี่จะเปิดหนังแล้ว  ไปดูกัน  เร็ว!!

     

    หนังก็จะเปิด...หัวใจของน้องก็จะเปิดเหมือนกันนะครับพี่ชานยอล  เปิดเปิง  เตลิดเปิดเปิงงงงงงงงงง!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ♡ ♡ ♡ ♡

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Condominium XXX

    ปึ่กกก!!

     

                ปิดตู้เย็น...เมื่อได้ของสดออกมาทำเป็นอาหารเช้า  แล้วก็เป็นอาหารเช้าที่ต้องทำเยอะมากเป็นพิเศษเพราะวันนี้จะมีแขกถึงสองคนมาร่วมทานด้วย  มือหนาหั่นหมูเป็นชิ้นพอคำใส่จานเอาไว้  ต่อด้วยผักอีกหลากหลายชนิดและนำไปล้างให้สะอาด  น้ำก็ถูกต้มให้เดือดเพื่อทำซุปสูตรเด็ดพร้อมเติมซอสสีเข้มรวมถึงเครื่องปรุงที่ให้รสเผ็ด...แต่!!ใส่เพียงเล็กน้อยก่อนปิดฝาหม้อด้วยความระมัดระวัง

     

     

                พ่อครัวจำเป็น...เริ่มหุงข้าวเป็นลำดับถัดไปและเช้านี้ก็ต้องหุงเพิ่มกว่าที่เคยทำเพราะกับข้าวสำหรับ 4 คนทานก็ต้องหุงข้าวสวยสำหรับสี่คนทานเช่นกัน  ดีที่วันนี้เป็นวันหยุด  ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้เข้าครัวแบบนี้แน่นอน  และเบอร์โทรศัพท์ของร้านอาหารที่แปะอยู่หน้าตู้เย็น...ก็คือคำตอบของทุกๆมื้อ  ใช่ว่าทำอาหารไม่เป็น  แต่หน้าที่การงานพร้อมการดูแลน้องชายไปด้วยมันเหมือนจะสูบทั้งพลังงานและเวลาของเขาไปหมด

     

     

                การมีน้องชาย...ที่อายุห่างกันมากขนาดนี้ได้กลายเป็นช่องว่างระหว่างวัยที่เขาต้องทำใจ  แบคฮยอนอายุเพียง 18 ปี  ส่วนพี่ชายอย่างเขาอายุ  42  ซึ่งความต่างถึง  24  ปี...มันดูคล้ายว่าจะเป็นพ่อลูกกันมากกว่า  จงอินไม่เคยเข้าใจคุณแม่เลยสักนิด  ทำไมท่านถึงอยากมีบุตรอีกคนทั้งๆที่ตัวเองก็ตั้งครรภ์ไม่ได้  แบคฮยอนเกิดจากการอุ้มบุญโดยผู้หญิงคนหนึ่งที่คุณแม่ไว้วางใจ  น้ำเชื้อ  สเปิร์มหรืออะไรก็ตามเขาก็รับรู้รับทราบว่ามาจากคุณพ่อกับคุณแม่  แต่เมื่อตัวเองตั้งครรภ์ไม่ได้...แล้วจะเสี่ยงใช้วิธีแบบนี้ไปเพื่ออะไร??

     

    เพื่อให้เขาไม่เหงาเหรอ???

     

                ใช่...ไม่เหงาเลยจริงๆเพราะทุกช่วงวัยของน้องคือภาระหน้าที่ของคนเป็นพี่ทั้งหมด  ไปเรียน  ไปเที่ยว  ไปไหนต่อไหนก็ต้องเอาน้องไปด้วย  บางครั้งก็หงุดหงิด...จงอินยอมรับ  แถมแบคฮยอนยังดื้อกว่าอะไรทั้งหมดในโลกใบนี้  มีไอ้นี่จะเอาไอ้นั่น  มีไอ้นั่นแต่จะเอาไอ้นู่น  พี่อย่างเขาไม่เคยทำสิ่งใดถูกใจน้องเลยสักอย่าง  ใช่ว่าเกลียดหรือไม่รักน้องของตัวเอง  แต่หลายๆครั้งแบคฮยอนชอบทำให้เขาหงุดหงิด  และถ้าจะให้ยกตัวอย่าง...ก็คงต้องพูดถึงเรื่องของเมื่อวาน

     

     

                คำก็พี่สุดหล่อ...สองคำก็พี่ชานยอลพี่เซฮุนหรือจะเพื่อนข้างห้องคนใหม่ที่อยากจะสนิทสนมกับเขาเหลือเกิน  เด็กอะไรไม่กลัวคนแปลกหน้า  อยู่ดีๆก็ไปกอดแขนกอดเอวทำอย่างกับรู้จักกันมานาน  แล้วไหนจะการทักทายหรือการแนะนำตัวนั่นอีก  อยากรู้จักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว...แต่ยกเว้นพี่ของตัวเอง  ขัดใจนิดหน่อยโทรฟ้องแม่  ขึ้นเสียงสักสองสามประโยคก็โทรฟ้องพ่อ  จงอินโดนทุกทางไม่ว่าจะทำอะไรน้องชายคนนี้ก็ตาม  บ่นก็ไม่ได้  ว่าก็ไม่ได้  ตักเตือนก็ไม่ได้  ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ!!!!

     

    แกร๊กกกก!!!

     

                “คนแก่...ทำอะไรอะ  หอมไปถึงในห้องนอนนู้นนน!

     

                บ่นถึงก็มาพอดี...แล้วประตูห้องที่เปิดทิ้งไว้พร้อมไฟด้านในที่สว่างจนเห็นทุกอย่างก็พาให้สองขาของคนเป็นพี่ต้องรีบก้าวไปที่ห้องนอนสีชมพู  แบคฮยอนชอบนอนเปิดไฟ  เตือนแล้วเตือนอีกว่าถ้าตื่นก็ต้องปิดไฟทุกครั้ง  แต่พูด ๆ ๆ ๆ  เตือนๆ ๆ ๆ  บอก ๆ ๆ ๆจนตอนนี้เจ้าตัวอายุสิบแปด...คำพูดของเขาก็ไม่เคยมีความหมายอะไรทั้งนั้น

     

                “ทำอาหารเช้า...เรารีบไปอาบน้ำแต่งตัวไป  เดี๋ยวจะมีแขกมาทานมื้อเช้าด้วย”

     

                “พาใครมาอีกล่ะ...งั้นแบคไปนอนต่อดีกว่า  แขกไปค่อยมาปลุก  แล้วก็เหลือกับข้าวไว้ให้ด้วยนะ  ไม่งั้นฟ้องแม่แน่”

     

                หน้าตาบูดบึ้งแต่เช้า...เพราะแทนที่จะได้ทานข้าวเงียบๆหรือไม่ก็กินไปดูทีวีไปมันกลับกลายเป็นว่าเช้านี้จะมีแขกมาที่ห้อง?  แบคฮยอนเบื่อพี่จงอินที่สุด  ชอบพาคนนั้นคนนี้มาที่ห้อง  มาทำอะไรก็คงไม่ต้องพูดหรอก...โตๆกันแล้ว  และวัยขนาดนี้ทำไมไม่มีครอบครัวไปสักที  พี่จงอินจะโสดไปจนถึงเมื่อไหร่กัน...คิดแล้วหงุดหงิดชะมัด!!!

     

                “พี่นี่แหละจะฟ้องแม่...เมื่อวานเราทำตัวไม่น่ารักหลายอย่างเลยนะ  แล้วพี่ยังไม่ได้เคลียร์กับเราสักเรื่อง”

     

                “ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารัก...แบคไปรักพี่ชานยอลกับพี่เซฮุนก็ได้”

     

                “เค้าไม่รักเด็กดื้อหรอก...”

     

                “ฟ้องแม่ นะ...แน่!!

     

                “แต่ถ้าอยากให้เค้ารัก...ก็รีบไปอาบน้ำเพราะแขกที่จะมาทานมื้อเช้ากับเราก็คือชานยอลกับเซฮุน”

     

                ไม่ได้ดั่งใจก็ขอฟ้องเอาไว้ก่อน...แต่ก็ยังไม่ทันได้ฟ้องหรือพูดให้จบประโยคเพราะแขกที่ว่าเป็นคนที่แบคฮยอนอยากเจอมากที่สุด  ความอยากฟ้องแม่  ความดื้อรั้นและความเอาแต่ใจเหมือนจะถูกหยุดเอาไว้ชั่วคราว  พี่ชานยอลสัญญาว่าเราจะได้เลี้ยงฉลองกัน  แต่มันกลับกลายเป็นว่า...พี่ชานยอลจะมาฉลองที่ห้องของเขา  แบคฮยอนกำลังยิ้มไม่หุบและไม่สงสัยว่าทำไมพี่น้องสองคนนั้นถึงต้องมาทานมื้อเช้าที่ห้องของเขา....จะมาด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างมันเถอะ  เย้ ๆ ๆ!!!

     

    ส่วนคนเป็นพี่...ก็ได้แต่ส่ายหน้าหลังจากเดินเข้าไปปิดไฟในห้องนอนของน้องก่อนจะออกมาทำมื้อเช้าต่อให้เสร็จ!!

     

                “คนแก่อย่าหลอกนะ...?!

     

                “พี่จะหลอกเราทำไม...ไปๆ ๆ รีบไปอาบน้ำเลย”

     

                “โอเค้!!!!

     

                เป็นครั้งแรกที่ไม่ดื้อ...เป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องพูดจนปากเปียกปาแฉะและเป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนเชื่อฟังพี่ชายคนนี้  จงอินไม่รู้ว่าเขาตามใจน้องจนเจ้าตัวเสียนิสัยหรือเปล่า  แต่แบคฮยอนก็เอาแต่ใจกับเขาคนเดียวเท่านั้น  เวลาไปที่อื่นหรือคุณพ่อกับคุณแม่พาเข้าสังคม  น้องก็เป็นเด็กดีและค่อนข้างที่จะรู้กาลเทศะ  แถมยังมีมารยาทเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่...แต่ยกเว้นผู้ใหญ่ที่ชื่อจงอิน

     

    เฮ้ออออออ...!!!!

     

                จะมีใครรู้บ้างไหม...ว่าคุณจงอินในวัย  42 ปีและเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ามากมายจะมีชีวิตที่ถูกน้องชายบ่นทุกวัน  ดื้อทุกวันหรือเอาแต่ใจได้ทุกวัน  เหนื่อยกว่าการบริหารธุรกิจให้รุ่งเรื่องก็คือการดูแลน้องชายที่ชื่อแบคฮยอน  แต่ก็ดีที่เจ้าตัวไม่เกเรเรื่องเรียนและติดเพื่อนจนพากันไปทำเรื่องเสียหาย  ดวงตาคู่คมมองไปที่ประตูห้องนอนสีชมพูอย่างนึกเหนื่อยหน่ายก่อนจะเร่งมือทำอาหารเช้าให้เสร็จโดยเร็ว

     

     

                ซุปผักและสาหร่ายร้อนๆก็สุกแล้ว  หมูย่างเนื้อนุ่มก็พร้อมอยู่ในจานกระเบื้องเนื้อดี  ไข่ลวกไข่ดาวหรือจะเป็นแฮม  ไส้กรอก  ขนมปังก็มีให้เลือกทานได้ตามชอบใจ  จงอินทำมื้อเช้าหลากลายชนิดเพราะไม่ทราบว่าแขกทั้งสองคนทานอะไรได้บ้างหรือไม่ทานสิ่งใด  ขวดซอสมะเขือเทศ  พริกไทย  แยม  เนยก็ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะขนาดใหญ่  จานชามช้อนส้อมก็ถูกหยิบออกมากตู้เพิ่มเติมเพราะมื้อนี้เราไม่ได้นั่งทานกันสองคนพี่น้องอย่างที่ผ่านๆมา

     

    ♪♫..♪♫♪..♫♪!!!

     

                แต่เสียงกริ่งหน้าห้อง...ก็ทำให้มือหนาต้องละออกจากจานชามที่เตรียมเอาไว้  สองขาก็รีบก้าวที่หน้าประตูด้วยความรวดเร็วก่อนกดอินเตอร์คอมบนผนังเพื่อตรวจสอบว่าเป็นผู้ใด  และ.....!!!

     

                “สวัสดีครับพี่ชานยอล...พี่เซฮุน!!

     

                อาบน้ำเร็วกว่าทุกวัน...ทำทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องเข้าไปตามถึงในห้อง  แถมยังรีบวิ่งออกมาตัดหน้าพี่ชายก่อนกดปุ่มสีขาวของอินเตอร์คอมพร้อมกล่าวทักทายคนในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าอย่างดูมีความสุข  แบคฮยอนรีบเปิดประตูเพื่อให้แขกคนสำคัญเข้ามาด้านใน  ส่วนคนที่ถูกทำอะไรตัดหน้า...ก็ทำได้เพียงผายมือเพื่อเชิญคนทั้งสอง

     

                “เชิญนั่งเลยครับ...ผมกำลังยกอาหารไปพอดี”

     

                “รบกวนด้วยนะครับ”

     

                (ไม่รบกวนหรอกครับ  พี่ชานยอลมาที่นี่ได้ทุกวันเลย...น้องแบคยินดีต้อนรับ  พี่เซฮุนด้วยนะ  น้องแบคยินดีต้อนรับ)

     

                เห็นไหม...ว่าน้องของเขามีมารยาทมากแค่ไหน  ไม่ดื้อ  ไม่เอาแต่ใจ  แถมยังพาแขกเดินไปที่โต๊ะอาหารด้วยรอยยิ้ม  ถ้าอยู่กับเขาก็คงต่างคนต่างทานเหมือนเช่นทุกวัน  ตั้งโต๊ะให้ก็ไม่ทานที่โต๊ะ  แต่ยกกับข้าวไปนั่งทานอยู่หน้าทีวี

     

    ให้คุณชานยอลกับคุณเซฮุนมาทานข้าวด้วยกันทุกวันเลยดีไหม...แบคฮยอนจะได้ไม่ดื้อ?

     

                “ผมช่วยจัดโต๊ะนะครับ...แล้วนี่ก็จานของคุณ  ผมเอามาคืน”

     

                คนเป็นพี่...ถูกเด็กตัวเล็กพาไปนั่งที่โต๊ะอาหาร  เซฮุนจึงเดินตามหนุ่มผิวเข้มเข้ามาในครัวเพราะจะได้ช่วยขนย้ายอาหารและเพื่อเอาจานผลไม้มาคืนให้เจ้าของ  แต่กว่าจะเอามาคืนหรือกว่าจะมาตามคำเชื้อเชิญได้ก็ต้องทำใจอยู่นานเพราะรู้สึกเกรงใจ  ความเป็นผู้ใหญ่ของจงอินทำให้เซฮุนรู้สึกเกร็ง  แล้วไหนจะความตรงสเปคนั่นอีก  ทุกๆอย่างที่เป็นคนตรงหน้ามันพาให้ใจสั่นได้ง่ายเหลือเกิน

     

                “คุณเซฮุนไปนั่งเถอะครับ..เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง”

     

                “เอ่อออ...ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับ  เรียกเซฮุนเฉยๆก็ได้  คุณจงอินเป็นผู้ใหญ่กว่า”

     

                “จะว่าผมแก่งั้นสิ?”

     

                “ไม่นะครับ...คุณจงอินไม่แก่สักหน่อย!!

     

                “หึ!!

     

                เกิดอาการลนลานไปหมด...แล้วเสียงทุ้มต่ำพร้อมรอยยิ้มร้ายๆอย่างที่เคยเห็นตอนอยู่ในลิฟท์เมื่อวานก็ยิ่งพาให้เกิดอาการลนลานมากขึ้นไปอีก  เซฮุนไม่รู้จะเบนสายตาไปทางไหนดีเพราะถ้าจะให้มองหน้าคุณจงอินตรงๆก็เกรงว่าจะถูกความตรงสเปคโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า  และตั้งแต่ทราบว่าหนุ่มผิวเข้มคนนี้ไม่ใช่พ่อของแบคฮยอนหรือได้ทำความรู้จักกันมาพอสมควร...เซฮุนก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก  มันเป็นเกร็งๆ  เป็นเขินๆ  เป็นหน้าร้อนๆที่ไม่เกี่ยวกับฤดูกาล...!!

     

                “ผะ...ผมช่วยยกไปที่โต๊ะดีกว่า  อันนี้ใช่ไหมครับ?”

     

                “ใช่ครับ  แต่!!ระวังร้อนนะครับ....น้องเซฮุน!!

     

    กึ่กกก!!!

     

                เป็นคำเรียก  เป็นสรรพนามและเป็นเสียงทุ้มต่ำ...ที่พาลให้การยกชามซุปหอมกรุ่นเหมือนถูกถ่วงน้ำหนักไว้ด้วยก้อนหินเพราะอยู่ดีๆมันก็ยกไม่ขึ้นเมื่อได้ยินคุณจงอินเรียกเขาว่า  “น้องเซฮุน”  แถมมือบางที่ถูกหยุดยั้งไว้ด้วยมือของอีกคน  ร่างกายที่ใกล้ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น  แล้วแผ่นหลังที่คล้ายว่าจะพิงอยู่บนอกกว้าง  ทุกๆอย่างที่เซฮุนรู้สึกอยู่ตอนนี้มันทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ  และ......

     

    ฟอดดดด!!!

     

                ( 0_0!!? ”

     

                ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ...จงอินขอสาบานต่อหน้าชามซุปก็ได้  แต่!!แก้มของน้องเซฮุนก็นิ่มและหอมจนอยากจะลองสัมผัสอีกสักครั้งหรือสองครั้งดีนะ???  ส่วนคนถูกหอมแก้มก็ไม่รู้จะทำเช่นไรกับสถานการณ์แบบนี้  เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตัวเองถูกหอม  แต่การหันหน้าไปเพื่อจะถามว่ามีอย่างอื่นที่พอจะช่วยได้อีกไหม  แก้มของเขาก็ไปตรงจังหวะที่จมูกของคุณจงอินพอดี  ฮือออออ...ใจเต้นยิ่งกว่าเดิมอีก  ขายหน้าด้วย  เซฮุนจะทำยังไงดีล่ะ?!  แล้วคุณจงอินก็ช่วยไปยืนไกลๆหน่อยได้ไหมครับ??  แก้มของเขากับจมูกทู่ๆที่เป็นเอกลักษณ์นี่จะได้ไม่ชนกัน OMG!!!!!

     

                “คนแก่!!...ทำไรอยู่  ทำไมช้าจัง  พี่ชานยอลกับน้องแบคหิวแล้วนะ?!

     

                “กำลังยกชามซุปออกไป...”

     

                “เร็วๆสิ...แขกรอเสียมารยาท!

     

                ขอบคุณคนตัวเล็ก...ที่ช่วยทำให้คุณจงอินยอมละจากความใกล้ชิดและยกชามซุปออกไปที่โต๊ะอาหาร  ส่วนคนที่ยังใจเต้นกับการถูกหอม(โดยบังเอิญ)ก็ขอพักพิงความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ในห้องครัว  ยอมรับว่าตกใจเพราะไม่คิดว่าการมาทานมื้อเช้าตามคำเชื้อเชิญจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  เขาแค่อยากช่วยในเรื่องที่พอจะช่วยได้  แต่ก็กลายเป็นว่า...ได้ใกล้ชิด  ได้สัมผัสและได้รู้ว่าคุณจงอินมีเสน่ห์มากแค่ไหน

     

    เท่เนอะ...ทำอาหารก็เป็น  อกก็กว้าง !!!      

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ♡ ♡ ♡ ♡

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr.ภาพในตอนที่สาม : IG> OOHSEHUN

    ***อินเตอร์คอม  หมายถึง  เป็นคำเรียกสั้นๆของ intercommunication ระบบการสื่อสารระหว่างภายในอาคาร  ที่พัก  ที่ระยะทางไม่ห่างไกลกันมากนัก  ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคณะที่อยู่ต่างสถานที่


    Talk.

    คุณจงอินตั้งใจหรือไม่ตั้งใจน้าาาา??

    ส่วนตอนนี้...เรื่องของการอุ้มบุญหรือเรื่องทางแพทย์เราขอให้เป็นเพียงจินตนาการนะคะ  เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงมันต้องมีรายละเอียดที่เยอะกว่านี้หรือถ้าผิดไปจากสิ่งที่ควรเป็น  เราต้องอภัยจริงๆค่ะ ขออภัยจากใจเลย (พนมมือไหว้ย่อ)

    ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ  ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ด้วย  ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

    เลิบบบบ

    #KHanother

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×