คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ♡3
3…
Condominium XXX
19.45
น.
“สวัสดีครับ...พี่ชานยอลของน้องแบค”
“เอ่อออ............”
(ต้องขอโทษด้วยนะครับ //
กลับห้องเดี๋ยวนี้...แบคฮยอน!)
หนุ่มผิวเข้ม...รีบเดินไปคว้าแขนน้องชายเอาไว้พร้อมกล่าวขอโทษและต้องก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพราะการกระทำของแบคฮยอนถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากที่สุด ส่วนคนที่ถูกควงแขน ถูกสบตาและถูกบอกว่าตัวเองเป็นของ เอ่อออ....น้องแบค!?
ก็ได้แต่ยืนนิ่งๆเนื่องจากสมองมันเหมือนจะหยุดสั่งงานไปชั่วขณะ ชานยอลแค่จะออกมาตามน้องชายที่หายไปนาน แค่จะออกมาจากห้องเพื่อลงไปที่ร้านสะดวกซื้อหรือแค่เป็นคนหล่อ...ของเด็กตัวเล็กๆ
“ไหนไหนก็เจอกันแล้ว...งั้นแนะนำตัวอีกครั้งนะครับ นี่พี่ชานยอลครับ...พี่ชายผมเอง”
“ผม...จงอินครับ ส่วนคนนี้ก็น้องชายผม...ชื่อแบคฮยอน ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ น้องผมเกเรอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ...บอกกันตรงๆแบบนี้ก็ดี พวกผมจะได้ทำตัวถูก”
“ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ...แต่ผมต้องขอตัวกลับห้องก่อน //
ไปแบค...กลับห้อง”
(พวกพี่กำลังฉลองกันอยู่เหรอ...ในถุงมีเบียร์ด้วย ผมขอฉลองด้วยนะ...นะนะนะ เรามาฉลองเพื่อนใหม่กันเถอะ)
เซฮุนกำลังพยายามทำให้ทุกอย่างดูไม่ตึงเครียด...ทั้งการแนะนำตัว
การส่งยิ้มหรือการไม่ถือสากับสิ่งที่คนอายุน้อยได้ก่อเอาไว้
และหนุ่มผิวเข้มก็คล้ายว่าจะเป็นกันเองมากขึ้นหลังจากที่น้องชายได้สร้างความปวดหัวให้มากมาย แต่!!สิ่งที่พยายามมาทั้งหมดเหมือนว่าจะสูญเปล่าเพราะคนที่ควงแขนพี่ชายเขาอยู่ตอนนี้เริ่มที่จะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมากจนเกินไป
“สวัสดีครับคุณจงอิน...สวัสดีน้องแบคด้วยนะครับ แล้ววันนี้พี่ชานยอลก็ไม่สะดวกจริงๆ พวกพี่สองคนจัดห้องกันเหนื่อยมากเลย พี่ต้องขอโทษน้องแบคด้วยนะครับ...เดี๋ยววันหลังเราค่อยมาฉลองกันใหม่เนอะ?!”
“จริงนะ...พี่ชานยอลสัญญากับน้องแบคแล้วนะ”
“ครับ...พี่ชานยอลสัญญา”
“งั้นกุ๊ดไนท์นะครับพี่ชานยอล...พี่เซฮุน สวัสดีครับ!”
และ... สิ่งที่คนเป็นน้องเริ่มไม่ชอบใจก็จบลงได้ด้วยดี เฮ้ออออออ!!
พี่ชายอย่างชานยอล...ก็ใช่ว่าจะชอบการเอาแต่ใจแบบนี้ แต่การจะไล่เพื่อนข้างห้องตรงๆก็ดูเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป
และการพูดด้วยเหตุผลหรือหยิบยกความเหนื่อยล้าจากการจัดห้องขึ้นมาอธิบายก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วชานยอลก็ทราบว่าน้องชายของตัวเองกำลังคิดเช่นไร...เซฮุนไม่ใช่คนที่จะอารมณ์เสียง่ายๆแม้เรื่องเรื่องนั้นจะน่าหงุดหงิดมากก็ตามที
แต่ยกเว้น...การเหมือนถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัว
แกร๊กกก!!!
“ใจเย็นๆนะเซฮุน...น้องมันคงดีใจที่มีคนมาอยู่ใหม่”
“ผมรู้ครับ...แต่ทำแบบนั้นมันก็มากเกินไปหน่อย อยู่ดีๆก็มาขอฉลองด้วย ผมนี่งงไปเลย
เกิดมาเพิ่งเคยเจอ”
ประตูห้องถูกปิด ถุงเบียร์และของกินมากมายก็ถูกวางลงบนโต๊ะ
การทักทายหรือการแนะนำตัวที่แสนยาวนานพาลให้เซฮุนรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าการมาอาศัยอยู่ในคอนโดฯสุดหรูแห่งนี้คงจะสงบสุขน่าดูเพราะแต่ละชั้นมีเพียงแค่สองห้องเท่านั้น แล้วชั้นบนสุดอย่างชั้นที่เก้าก็คงจะไม่มีใครทำเสียงของหล่นหรือเสียงดังโครมครามมาจากชั้นบน แต่สุดท้าย...สิ่งน่ารำคาญที่สุดก็คือคนข้างห้อง
“แต่พี่ว่ามันแปลกๆนะ...ดูน่าสงสารด้วย
พี่ว่าคนที่ชื่อน้องแบคอาจจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง?”
“พี่ชายผมกลายเป็นนักจิตวิทยาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ?”
“นักจิตวิทยาอะไรล่ะ...ก็แค่คิดเฉยๆ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้เราไปถือสาเด็กมันด้วย น้องมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอก”
ใช่ว่าเขาไม่คิด...เพราะการกระทำของแบคฮยอนมันแปลกจริงๆ
แทนที่จะพูดดีหรือให้ความสนิทสนมกับพี่ชายของตัวเอง แต่เด็กนั่นกลับให้ความสนิทสนมกับคนอื่น แถมยังเป็นคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันแค่วันเดียว ส่วนพี่ชายอย่างคุณจงอินก็เอาแต่ถูกว่าและถูกพูดจาไม่น่ารัก ว่าว่าแก่บ้าง
โวยวายใส่บ้างแล้วก็อีกสารพัดที่เขาอาจยังไม่รู้...เป็นพี่น้องที่แปลกดีจัง
“เดี๋ยวผมเอาของไปใส่ตู้เย็นก่อน...พี่ชานยอลไปเปิดหนังได้เลย”
“โอเค.....”
เวลานี้...คงต้องเลิกนึกถึงเรื่องของคนอื่นไปก่อนเพราะการฉลองที่ยุติเอาไว้มันกำลังเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง คนเป็นน้องคว้าถุงของกินมากมายเดินไปที่ตู้เย็น ส่วนคนเป็นพี่ก็คว้าป๊อปคอร์นรสชีสที่เพิ่งอบเสร็จได้ไม่นานเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น
เสียงของซีรีส์เรื่องโปรดดังออกมาถึงห้องครัวจนเซฮุนพอจะนึกภาพออกว่ามันกำลังดำเนินเรื่องไปถึงตอนไหน
มือบางรีบหยิบเบียร์แช่ตู้เย็นและตามมาด้วยไส้กรอก ไอศกรีม
แล้วก็.......
♪♫..♪♫♪..♫♪!!!
เสียงกริ่งหน้าห้อง...ที่ดังขึ้นแข่งกับเสียงของซีรีส์ก็ทำให้การนำของต่างๆเข้าตู้เย็นต้องพักเอาไว้ ขาเรียวรีบเดินไปที่หน้าประตูก่อนกดอินเตอร์คอม***บนผนังสีครีมเพื่อดูว่าใครที่มากดเรียกเจ้าของห้องในยามวิกาล และเมื่อนิ้วชี้สัมผัสไปบนปุ่มที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร...เซฮุนก็ทราบทันทีว่าเป็นใคร??
“สวัสดีครับคุณจงอิน!?”
รีบเปิดประตูห้อง...ทั้งๆที่ชายผิวเข้มยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด แต่!!ผลไม้หลากหลายชนิดในมือของคนตรงหน้าก็ทำให้เซฮุนพอจะเดาออกว่าทำไมคุณจงอินถึงมากดกริ่งในเวลาเช่นนี้ ในจานกระเบื้องขนาดใหญ่มีทั้งส้ม องุ่น
เชอร์รี่แดง ลูกแพร ซึ่งทั้งหมดนั้นก็น่าทานจริงๆเพราะในห้องของเขามีแต่เบียร์กับกับแกล้ม...แล้วก็อาหารที่เหลือมาจากมื้อเย็นเท่านั้น
“ขอโทษที่รบกวนนะ
คะ...ครับ!”
“ไม่รบกวนหรอกครับ...เชิญครับ เข้ามาข้างในก่อน”
“ขอบคุณครับ!”
ไม่คิดว่า...จะถูกเชิญให้เข้ามาในห้องเพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ถ้าจะให้ปฏิเสธก็คงจะเป็นการเสียมารยาทอีกครั้ง
วันนี้เหมือนจะเป็นวันที่ทั้งเขาและน้องชายจะทำเรื่องที่เสียมารยาทเอาไว้มากมายจนไม่รู้ว่าจะกล่าวคำใดให้เพียงพอต่อความรู้สึกผิด ผิดที่อบรมน้องไม่ได้ ผิดที่มากดกริ่งห้องของคนอื่นในยามวิกาลและผิดที่คิดว่า...คนตรงหน้าเป็นแฟนกับผู้ชายตัวโตๆ???
แล้วความผิดเยอะแยะขนาดนี้ก็ทำให้จงอินต้องนำผลไม้มามอบให้เพื่อเป็นการขอโทษ
“คุณจงอินมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ผมอยากจะมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ครับ...โปรดรับไว้ด้วยนะครับ”
“ขอบคุณมากนะครับ...แต่คุณจงอินไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้”
การที่คนอายุมากกว่า...ก้มศีรษะให้พร้อมยื่นจานผลไม้มาตรงหน้า
มันทำให้เซฮุนถึงกับต้องรีบรับเอาไว้ก่อนโค้งตัวให้อย่างสุภาพอ่อนอ้อมเพราะใช่ว่าเรื่องทั้งหมดมันจะใหญ่โตจนต้องมาขอโทษขอโพยกันถึงขั้นนี้ ความเกรงใจ
ความประทับใจ ความอบอุ่นใจเกิดขึ้นในทันทีเมื่อจงอินแสดงความรู้สึกออกมาเช่นนั้น เขาอายุแค่ 22 ส่วนคนผิวเข้มก็น่าจะอายุมากกว่าพี่ชานยอลด้วยซ้ำ แต่!!ทำไมถึงไม่ถือตัวเลยสักนิด
“ซะ...เซฮุน อ้าววว
คุณจงอิน สวัสดีครับ!!”
“สวัสดีครับ...รบกวนอีกแล้วนะครับ”
ได้ยินเสียงกริ่ง...แต่เห็นเงียบไปก็คิดว่าคงมีเรื่องเข้าใจผิด และคนเป็นพี่ก็กำลังเดินออกมาหยิบเบียร์เพิ่มหลังจากที่ดื่มหมดไปหลายกระป๋อง แต่!!?พอเห็นว่าใครยืนอยู่ในห้อง แถมในมือของน้องชายก็ยังมีผลไม้จานโตถือเอาไว้ ความที่คิดว่าตัวเองเข้าใจผิดกลับถูกแทนที่ด้วยความสงสัย คุณจงอินมาทำไม? มันเกิดอะไรขึ้น?? แล้วน้องแบคไม่ตามมาด้วยเหรอ????
“เชิญนั่งก่อนครับคุณจงอิน”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ...ผมแค่จะเอาผลไม้มาให้เพื่ออยากขอโทษกับเรื่องในวันนี้ พวกคุณอย่าถือสาน้องผมเลยนะครับ น้องคงไม่ได้ตั้งใจ”
“แต่ถ้าคุณจงอินไม่ว่าอะไร...ผมว่าเรามาคุยเรื่องนี้ให้เข้าใจกันดีกว่านะครับ”
“งั้นคงต้องรบกวนคุณทั้งสองจริงๆแล้วครับ”
“ไม่เป็นไรครับ...เชิญคุณจงอินด้านนี้เลยครับ”
เซฮุนก็อยากรู้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น...และถึงแม้การฉลองห้องใหม่จะถูกขัดขวางด้วยผู้มาเยือน แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ปัญหาค้างคาใจ ซีรีส์ถูกหยุด
ทีวีถูกปิด การฉลองถูกยุติ แล้วพี่ชานยอลก็พาคุณจงอินออกมาคุยธุระที่นอกระเบียงห้องเพราะตอนนี้ห้องรับแขกมันไม่พร้อมที่จะต้อนรับใครทั้งนั้น มันมีแต่กระป๋องเบียร์
เศษซากของห่อขนมขบเคี้ยว...แล้วก็หมอนกับผ้าห่มก็กองอยู่บนโซฟา บอกตรงๆว่าเคลียร์ไม่ทัน แถมยังไม่ทันคิดว่าจะมีใครมาพบในเวลาแบบนี้
สามทุ่มกว่าเกือบสี่ทุ่ม...เซฮุนต้องมาชงชาพร้อมหาของว่างมาเสิร์ฟให้เพื่อนข้างห้อง แก้วเซรามิคเนื้อดีถูกหยิบออกมาจากตู้ก่อนชาคาโมมายล์จะถูกชงเป็นอันดับต่อไป และเมื่อน้ำร้อนพร้อม ภาชนะพร้อม...ชาก็ถูกชงอย่างง่ายดาย
ส่วนคุกกี้ผลไม้ก็ถูกหยิบออกมาจากโหลแก้วบนชั้นวาง
แล้วตอนนี้...ถาดโลหะสีเงินพร้อมเครื่องดื่มร้อนกับขนมอบก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟ
“ชาร้อนกับคุ้กกี้ครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
ดี...ที่อากาศด้านนอกไม่ร้อนอบอ้าว ไม่อย่างนั้นชาถ้วยนี้อาจไม่เหมาะแก่การรับประทาน ตอนกลางวันอากาศร้อนน่าดู แต่พอตกดึก...อากาศกลับเย็น แถมยังมีลมพัดเอื่อยๆ เซฮุนเลื่อนเก้าอี้ออกช้าๆแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผู้มาเยือน
คุณจงอินก็ยกเครื่องดื่มขึ้นทานก่อนส่งยิ้มให้คนชงอย่างนึกขอบคุณ ในใจก็คิดว่าสองพี่น้องคู่นี้คงถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดีเพราะทั้งกิริยามารยาท
ทั้งการวางเนื้อวางตัวรวมถึงการทำของว่างมาต้อนรับแขก ทุกๆอย่างมันเป็นการบ่งบอกได้ถึงการถูกอบรมมาอย่างเคร่งครัด
“ก่อนอื่น...ผมขออนุญาตถามคุณจงอินว่า เอ่ออ...”
“ถามมาเลยครับคุณชานยอล...ไม่ต้องเกรงใจ”
“ถ้าเป็นการละลาบละล้วง...ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“เชิญถามเลยครับ...ถ้าผมตอบได้ผมจะตอบ”
“คุณจงอินอายุเท่าไหร่ครับ?”
ขออภัยที่ต้องถามเรื่องนี้...เพราะมันอดไม่ได้จริงๆ
ชานยอลทราบดีว่าคนตรงหน้าต้องอายุมากกว่าเราสองพี่น้องแน่ๆ
แต่ที่ต้องถามก็เพื่อความแน่ใจและเพื่อจะได้วางตัวถูก อะไรที่ดูไม่เหมาะสมก็จะได้เลี่ยงหรือถ้าอายุน้อยกว่าก็จะได้เปิดใจคุยกันตรงๆโดยไม่ต้องรู้สึกเกร็งมากนัก
แต่…..!!!
“42 ครับ...ผมอายุ 42”
“........!!!!!?”
เริ่มเกร็งทันที...เพราะเขาไม่คิดว่าคุณจงอินจะอายุเข้าเลขสี่ แล้วก็เป็นอายุที่เหมือนจะคุยกันอย่างเพื่อนหรือคุยกันตรงๆแบบที่คิดไว้ไม่ได้เด็ดขาด
เรื่องมารยาทสำคัญมากเพราะทั้งเขาและเซฮุนถูกอบรมมาเช่นนั้น จะให้คุยกับผู้ใหญ่โดยไม่นึกถึงเรื่องของมารยาทเขาทำไม่ได้จริงๆ
“ส่วนแบคฮยอนอายุ 18 ครับ...แล้วช่วงวัยที่ห่างกันมากก็เลยทำให้แบคค่อนข้างต่อต้านผม เค้าชอบพูดบ่อยๆว่าเหมือนมีพ่อมากกว่าพี่ชาย”
ใช่ว่าอยากเอาเรื่องภายในครอบครัวมาประจาน...แต่ถ้าไม่บอกให้ทราบถึงเหตุผล
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดหรือคิดว่าน้องของเขาไร้การอบรมสั่งสอน เครื่องดื่มร้อนถูกยกขึ้นทานอีกครั้งพร้อมกับสายตาคมที่มองออกไปอย่างไร้จุดหมาย
เซฮุนเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแบคฮยอนถึงกล้าทำอะไรแบบนั้น ทำไปเพราะอยากให้คุณจงอินขายหน้า
ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจและทำไปอย่างนึกหาพี่ชายในแบบที่ตัวเองอยากมี
“ผมกับพี่ชานยอลไม่ถือสาหรอกครับ...และถ้าน้องแบคอยากจะมาเล่นที่ห้องนี้ก็เชิญได้เลยนะครับ พวกผมยินดี”
ใช่...พวกเขายินดีและเข้าใจคนตรงหน้ามากที่สุด ความห่างของช่วงวัยถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความเป็นพี่น้อง ยิ่งห่างกันมาก ความใกล้ชิดหรือความสนิทสนมก็ยิ่งยากมากขึ้นตามไปด้วย คนหนึ่งอยู่ในวัยทำงาน ส่วนอีกคนอยู่ในวัยเรียน ทุกๆเรื่องมันไม่มีเวลาให้สนิมสนมกันเลยสักนิด ไม่แปลกที่แบคฮยอนจะรู้สึกว่าเหมือนมีพ่อมากกว่าพี่ชายเพราะขนาดเขาที่อายุห่างจากพี่ชานยอลสิบปี...ก็ยังมีบ้างที่รู้สึกเช่นนั้น
“ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ...พวกคุณใจดีมากจริงๆ”
“ผมก็ต้องขอบคุณสำหรับผลไม้ด้วยนะครับ...แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”
“ยินดีมากๆที่ได้รู้จักครับ...และถ้าไม่เป็นการรบกวนพรุ่งนี้ขอเชิญคุณทั้งสองคนมาเป็นเกียรติทานมื้อเช้าด้วยกันนะครับ”
“ได้ครับ...ได้เลย ยินดีและเป็นเกียรติมากๆเลยครับ”
“ขอบคุณสำหรับชานะครับ...อร่อยมาก แต่ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน เดี๋ยวแบคตื่นมาไม่เจอแล้วจะเป็นเรื่องอีก”
“เชิญครับ...เดี๋ยวผมไปส่ง”
ใคร...เป็นคนเชิญแขกเข้ามาก็ต้องเป็นคนไปส่ง
และเซฮุนก็ขออาสาเดินนำก่อนเปิดประตูให้คนวัยสี่สิบเดินออกไปด้านนอก ระยะทางจากระเบียงห้องไปจนถึงหน้าประตูมันไม่ได้ไกลเลยสักนิด แต่ทำไม...มันเหมือนไกลอย่างบอกไม่ถูก เกิดอาการประหม่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น คุณจงอินทำให้คนอายุน้อยกว่าเกิดอาการที่คล้ายว่าจะหายใจไม่ทั่วท้อง
เคยรู้สึกไหม?...เวลาเจอใครที่มีมารยาทมากๆ ดูดีมากๆ
ตรงสเปคๆแล้วทำตัวไม่ถูก
That’s right my
type!
“กู๊ดไนท์นะครับคุณเซฮุน”
“เอ่อออ ครับ...กู๊ดไนท์ครับคุณจงอิน”
“แล้วพรุ่งเช้าพบกันนะครับ”
“ครับ....♡!!!”
กึ่กกก!!!
เหมือนถูกนัดเดท...ใจเลยเต้นจนยากควบคุม แถมเสียงทุ้มที่กล่าวว่า “พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะครับ” ก็ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท แล้วไหนจะรอยยิ้มที่ดูร้ายกาจนั่นอีก!!
ประตูห้องถูกปิดอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าคุณจงอินจะทราบถึงอาการประหม่าของตัวเอง
แผ่นหลังก็ขอพักพิงไว้บนกำแพงสีครีมและอยู่ดีๆสองมือก็สั่นเหมือนพวกคนเจ้าเข้าทรง คุณจงอิน
คุณจงอิน คุณจงอิน...ทำไมคุณจงอินถึงทำให้เซฮุนเป็นแบบนี้นะ!!?
“อ้าวว!? ไปยืนทำไมตรงนั้น...พี่จะเปิดหนังแล้ว ไปดูกัน เร็ว!!”
หนังก็จะเปิด...หัวใจของน้องก็จะเปิดเหมือนกันนะครับพี่ชานยอล เปิดเปิง
เตลิดเปิดเปิงงงงงงงงงง!!!
♡ ♡ ♡ ♡
Condominium XXX
ปึ่กกก!!
ปิดตู้เย็น...เมื่อได้ของสดออกมาทำเป็นอาหารเช้า แล้วก็เป็นอาหารเช้าที่ต้องทำเยอะมากเป็นพิเศษเพราะวันนี้จะมีแขกถึงสองคนมาร่วมทานด้วย มือหนาหั่นหมูเป็นชิ้นพอคำใส่จานเอาไว้
ต่อด้วยผักอีกหลากหลายชนิดและนำไปล้างให้สะอาด น้ำก็ถูกต้มให้เดือดเพื่อทำซุปสูตรเด็ดพร้อมเติมซอสสีเข้มรวมถึงเครื่องปรุงที่ให้รสเผ็ด...แต่!!ใส่เพียงเล็กน้อยก่อนปิดฝาหม้อด้วยความระมัดระวัง
พ่อครัวจำเป็น...เริ่มหุงข้าวเป็นลำดับถัดไปและเช้านี้ก็ต้องหุงเพิ่มกว่าที่เคยทำเพราะกับข้าวสำหรับ
4
คนทานก็ต้องหุงข้าวสวยสำหรับสี่คนทานเช่นกัน
ดีที่วันนี้เป็นวันหยุด
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้เข้าครัวแบบนี้แน่นอน
และเบอร์โทรศัพท์ของร้านอาหารที่แปะอยู่หน้าตู้เย็น...ก็คือคำตอบของทุกๆมื้อ ใช่ว่าทำอาหารไม่เป็น
แต่หน้าที่การงานพร้อมการดูแลน้องชายไปด้วยมันเหมือนจะสูบทั้งพลังงานและเวลาของเขาไปหมด
การมีน้องชาย...ที่อายุห่างกันมากขนาดนี้ได้กลายเป็นช่องว่างระหว่างวัยที่เขาต้องทำใจ แบคฮยอนอายุเพียง 18 ปี ส่วนพี่ชายอย่างเขาอายุ 42
ซึ่งความต่างถึง 24 ปี...มันดูคล้ายว่าจะเป็นพ่อลูกกันมากกว่า จงอินไม่เคยเข้าใจคุณแม่เลยสักนิด
ทำไมท่านถึงอยากมีบุตรอีกคนทั้งๆที่ตัวเองก็ตั้งครรภ์ไม่ได้ แบคฮยอนเกิดจากการอุ้มบุญโดยผู้หญิงคนหนึ่งที่คุณแม่ไว้วางใจ น้ำเชื้อ
สเปิร์มหรืออะไรก็ตามเขาก็รับรู้รับทราบว่ามาจากคุณพ่อกับคุณแม่ แต่เมื่อตัวเองตั้งครรภ์ไม่ได้...แล้วจะเสี่ยงใช้วิธีแบบนี้ไปเพื่ออะไร??
เพื่อให้เขาไม่เหงาเหรอ???
ใช่...ไม่เหงาเลยจริงๆเพราะทุกช่วงวัยของน้องคือภาระหน้าที่ของคนเป็นพี่ทั้งหมด ไปเรียน
ไปเที่ยว
ไปไหนต่อไหนก็ต้องเอาน้องไปด้วย
บางครั้งก็หงุดหงิด...จงอินยอมรับ
แถมแบคฮยอนยังดื้อกว่าอะไรทั้งหมดในโลกใบนี้ มีไอ้นี่จะเอาไอ้นั่น มีไอ้นั่นแต่จะเอาไอ้นู่น พี่อย่างเขาไม่เคยทำสิ่งใดถูกใจน้องเลยสักอย่าง ใช่ว่าเกลียดหรือไม่รักน้องของตัวเอง แต่หลายๆครั้งแบคฮยอนชอบทำให้เขาหงุดหงิด
และถ้าจะให้ยกตัวอย่าง...ก็คงต้องพูดถึงเรื่องของเมื่อวาน
คำก็พี่สุดหล่อ...สองคำก็พี่ชานยอลพี่เซฮุนหรือจะเพื่อนข้างห้องคนใหม่ที่อยากจะสนิทสนมกับเขาเหลือเกิน เด็กอะไรไม่กลัวคนแปลกหน้า อยู่ดีๆก็ไปกอดแขนกอดเอวทำอย่างกับรู้จักกันมานาน แล้วไหนจะการทักทายหรือการแนะนำตัวนั่นอีก
อยากรู้จักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว...แต่ยกเว้นพี่ของตัวเอง ขัดใจนิดหน่อยโทรฟ้องแม่ ขึ้นเสียงสักสองสามประโยคก็โทรฟ้องพ่อ
จงอินโดนทุกทางไม่ว่าจะทำอะไรน้องชายคนนี้ก็ตาม บ่นก็ไม่ได้
ว่าก็ไม่ได้ ตักเตือนก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ!!!!
แกร๊กกกก!!!
“คนแก่...ทำอะไรอะ หอมไปถึงในห้องนอนนู้นนน!”
บ่นถึงก็มาพอดี...แล้วประตูห้องที่เปิดทิ้งไว้พร้อมไฟด้านในที่สว่างจนเห็นทุกอย่างก็พาให้สองขาของคนเป็นพี่ต้องรีบก้าวไปที่ห้องนอนสีชมพู แบคฮยอนชอบนอนเปิดไฟ
เตือนแล้วเตือนอีกว่าถ้าตื่นก็ต้องปิดไฟทุกครั้ง แต่พูด ๆ ๆ ๆ
เตือนๆ ๆ ๆ บอก ๆ ๆ
ๆจนตอนนี้เจ้าตัวอายุสิบแปด...คำพูดของเขาก็ไม่เคยมีความหมายอะไรทั้งนั้น
“ทำอาหารเช้า...เรารีบไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๋ยวจะมีแขกมาทานมื้อเช้าด้วย”
“พาใครมาอีกล่ะ...งั้นแบคไปนอนต่อดีกว่า แขกไปค่อยมาปลุก แล้วก็เหลือกับข้าวไว้ให้ด้วยนะ ไม่งั้นฟ้องแม่แน่”
หน้าตาบูดบึ้งแต่เช้า...เพราะแทนที่จะได้ทานข้าวเงียบๆหรือไม่ก็กินไปดูทีวีไปมันกลับกลายเป็นว่าเช้านี้จะมีแขกมาที่ห้อง? แบคฮยอนเบื่อพี่จงอินที่สุด ชอบพาคนนั้นคนนี้มาที่ห้อง มาทำอะไรก็คงไม่ต้องพูดหรอก...โตๆกันแล้ว และวัยขนาดนี้ทำไมไม่มีครอบครัวไปสักที พี่จงอินจะโสดไปจนถึงเมื่อไหร่กัน...คิดแล้วหงุดหงิดชะมัด!!!
“พี่นี่แหละจะฟ้องแม่...เมื่อวานเราทำตัวไม่น่ารักหลายอย่างเลยนะ แล้วพี่ยังไม่ได้เคลียร์กับเราสักเรื่อง”
“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารัก...แบคไปรักพี่ชานยอลกับพี่เซฮุนก็ได้”
“เค้าไม่รักเด็กดื้อหรอก...”
“ฟ้องแม่ นะ...แน่!!”
“แต่ถ้าอยากให้เค้ารัก...ก็รีบไปอาบน้ำเพราะแขกที่จะมาทานมื้อเช้ากับเราก็คือชานยอลกับเซฮุน”
ไม่ได้ดั่งใจก็ขอฟ้องเอาไว้ก่อน...แต่ก็ยังไม่ทันได้ฟ้องหรือพูดให้จบประโยคเพราะแขกที่ว่าเป็นคนที่แบคฮยอนอยากเจอมากที่สุด ความอยากฟ้องแม่ ความดื้อรั้นและความเอาแต่ใจเหมือนจะถูกหยุดเอาไว้ชั่วคราว พี่ชานยอลสัญญาว่าเราจะได้เลี้ยงฉลองกัน แต่มันกลับกลายเป็นว่า...พี่ชานยอลจะมาฉลองที่ห้องของเขา แบคฮยอนกำลังยิ้มไม่หุบและไม่สงสัยว่าทำไมพี่น้องสองคนนั้นถึงต้องมาทานมื้อเช้าที่ห้องของเขา....จะมาด้วยเหตุผลอะไรก็ช่างมันเถอะ เย้ ๆ ๆ!!!
ส่วนคนเป็นพี่...ก็ได้แต่ส่ายหน้าหลังจากเดินเข้าไปปิดไฟในห้องนอนของน้องก่อนจะออกมาทำมื้อเช้าต่อให้เสร็จ!!
“คนแก่อย่าหลอกนะ...?!”
“พี่จะหลอกเราทำไม...ไปๆ
ๆ รีบไปอาบน้ำเลย”
“โอเค้!!!!”
เป็นครั้งแรกที่ไม่ดื้อ...เป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องพูดจนปากเปียกปาแฉะและเป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนเชื่อฟังพี่ชายคนนี้
จงอินไม่รู้ว่าเขาตามใจน้องจนเจ้าตัวเสียนิสัยหรือเปล่า แต่แบคฮยอนก็เอาแต่ใจกับเขาคนเดียวเท่านั้น
เวลาไปที่อื่นหรือคุณพ่อกับคุณแม่พาเข้าสังคม
น้องก็เป็นเด็กดีและค่อนข้างที่จะรู้กาลเทศะ แถมยังมีมารยาทเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่...แต่ยกเว้นผู้ใหญ่ที่ชื่อจงอิน
เฮ้ออออออ...!!!!
จะมีใครรู้บ้างไหม...ว่าคุณจงอินในวัย 42 ปีและเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ามากมายจะมีชีวิตที่ถูกน้องชายบ่นทุกวัน ดื้อทุกวันหรือเอาแต่ใจได้ทุกวัน เหนื่อยกว่าการบริหารธุรกิจให้รุ่งเรื่องก็คือการดูแลน้องชายที่ชื่อแบคฮยอน
แต่ก็ดีที่เจ้าตัวไม่เกเรเรื่องเรียนและติดเพื่อนจนพากันไปทำเรื่องเสียหาย ดวงตาคู่คมมองไปที่ประตูห้องนอนสีชมพูอย่างนึกเหนื่อยหน่ายก่อนจะเร่งมือทำอาหารเช้าให้เสร็จโดยเร็ว
ซุปผักและสาหร่ายร้อนๆก็สุกแล้ว
หมูย่างเนื้อนุ่มก็พร้อมอยู่ในจานกระเบื้องเนื้อดี ไข่ลวกไข่ดาวหรือจะเป็นแฮม ไส้กรอก
ขนมปังก็มีให้เลือกทานได้ตามชอบใจ จงอินทำมื้อเช้าหลากลายชนิดเพราะไม่ทราบว่าแขกทั้งสองคนทานอะไรได้บ้างหรือไม่ทานสิ่งใด ขวดซอสมะเขือเทศ พริกไทย
แยม
เนยก็ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะขนาดใหญ่
จานชามช้อนส้อมก็ถูกหยิบออกมากตู้เพิ่มเติมเพราะมื้อนี้เราไม่ได้นั่งทานกันสองคนพี่น้องอย่างที่ผ่านๆมา
♪♫..♪♫♪..♫♪!!!
แต่เสียงกริ่งหน้าห้อง...ก็ทำให้มือหนาต้องละออกจากจานชามที่เตรียมเอาไว้ สองขาก็รีบก้าวที่หน้าประตูด้วยความรวดเร็วก่อนกดอินเตอร์คอมบนผนังเพื่อตรวจสอบว่าเป็นผู้ใด และ.....!!!
“สวัสดีครับพี่ชานยอล...พี่เซฮุน!!”
อาบน้ำเร็วกว่าทุกวัน...ทำทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องเข้าไปตามถึงในห้อง
แถมยังรีบวิ่งออกมาตัดหน้าพี่ชายก่อนกดปุ่มสีขาวของอินเตอร์คอมพร้อมกล่าวทักทายคนในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าอย่างดูมีความสุข แบคฮยอนรีบเปิดประตูเพื่อให้แขกคนสำคัญเข้ามาด้านใน ส่วนคนที่ถูกทำอะไรตัดหน้า...ก็ทำได้เพียงผายมือเพื่อเชิญคนทั้งสอง
“เชิญนั่งเลยครับ...ผมกำลังยกอาหารไปพอดี”
“รบกวนด้วยนะครับ”
(ไม่รบกวนหรอกครับ พี่ชานยอลมาที่นี่ได้ทุกวันเลย...น้องแบคยินดีต้อนรับ พี่เซฮุนด้วยนะ น้องแบคยินดีต้อนรับ)
เห็นไหม...ว่าน้องของเขามีมารยาทมากแค่ไหน ไม่ดื้อ
ไม่เอาแต่ใจ
แถมยังพาแขกเดินไปที่โต๊ะอาหารด้วยรอยยิ้ม
ถ้าอยู่กับเขาก็คงต่างคนต่างทานเหมือนเช่นทุกวัน ตั้งโต๊ะให้ก็ไม่ทานที่โต๊ะ แต่ยกกับข้าวไปนั่งทานอยู่หน้าทีวี
ให้คุณชานยอลกับคุณเซฮุนมาทานข้าวด้วยกันทุกวันเลยดีไหม...แบคฮยอนจะได้ไม่ดื้อ?
“ผมช่วยจัดโต๊ะนะครับ...แล้วนี่ก็จานของคุณ ผมเอามาคืน”
คนเป็นพี่...ถูกเด็กตัวเล็กพาไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
เซฮุนจึงเดินตามหนุ่มผิวเข้มเข้ามาในครัวเพราะจะได้ช่วยขนย้ายอาหารและเพื่อเอาจานผลไม้มาคืนให้เจ้าของ แต่กว่าจะเอามาคืนหรือกว่าจะมาตามคำเชื้อเชิญได้ก็ต้องทำใจอยู่นานเพราะรู้สึกเกรงใจ ความเป็นผู้ใหญ่ของจงอินทำให้เซฮุนรู้สึกเกร็ง แล้วไหนจะความตรงสเปคนั่นอีก
ทุกๆอย่างที่เป็นคนตรงหน้ามันพาให้ใจสั่นได้ง่ายเหลือเกิน
“คุณเซฮุนไปนั่งเถอะครับ..เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง”
“เอ่อออ...ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับ เรียกเซฮุนเฉยๆก็ได้ คุณจงอินเป็นผู้ใหญ่กว่า”
“จะว่าผมแก่งั้นสิ?”
“ไม่นะครับ...คุณจงอินไม่แก่สักหน่อย!!”
“หึ!!”
เกิดอาการลนลานไปหมด...แล้วเสียงทุ้มต่ำพร้อมรอยยิ้มร้ายๆอย่างที่เคยเห็นตอนอยู่ในลิฟท์เมื่อวานก็ยิ่งพาให้เกิดอาการลนลานมากขึ้นไปอีก เซฮุนไม่รู้จะเบนสายตาไปทางไหนดีเพราะถ้าจะให้มองหน้าคุณจงอินตรงๆก็เกรงว่าจะถูกความตรงสเปคโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และตั้งแต่ทราบว่าหนุ่มผิวเข้มคนนี้ไม่ใช่พ่อของแบคฮยอนหรือได้ทำความรู้จักกันมาพอสมควร...เซฮุนก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก มันเป็นเกร็งๆ
เป็นเขินๆ เป็นหน้าร้อนๆที่ไม่เกี่ยวกับฤดูกาล...!!
“ผะ...ผมช่วยยกไปที่โต๊ะดีกว่า อันนี้ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ แต่!!ระวังร้อนนะครับ....น้องเซฮุน!!”
กึ่กกก!!!
เป็นคำเรียก เป็นสรรพนามและเป็นเสียงทุ้มต่ำ...ที่พาลให้การยกชามซุปหอมกรุ่นเหมือนถูกถ่วงน้ำหนักไว้ด้วยก้อนหินเพราะอยู่ดีๆมันก็ยกไม่ขึ้นเมื่อได้ยินคุณจงอินเรียกเขาว่า “น้องเซฮุน” แถมมือบางที่ถูกหยุดยั้งไว้ด้วยมือของอีกคน ร่างกายที่ใกล้ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น แล้วแผ่นหลังที่คล้ายว่าจะพิงอยู่บนอกกว้าง
ทุกๆอย่างที่เซฮุนรู้สึกอยู่ตอนนี้มันทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ และ......
ฟอดดดด!!!
“ ( 0_0 ) !!? ”
ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ...จงอินขอสาบานต่อหน้าชามซุปก็ได้ แต่!!แก้มของน้องเซฮุนก็นิ่มและหอมจนอยากจะลองสัมผัสอีกสักครั้งหรือสองครั้งดีนะ??? ส่วนคนถูกหอมแก้มก็ไม่รู้จะทำเช่นไรกับสถานการณ์แบบนี้ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตัวเองถูกหอม แต่การหันหน้าไปเพื่อจะถามว่ามีอย่างอื่นที่พอจะช่วยได้อีกไหม แก้มของเขาก็ไปตรงจังหวะที่จมูกของคุณจงอินพอดี ฮือออออ...ใจเต้นยิ่งกว่าเดิมอีก ขายหน้าด้วย
เซฮุนจะทำยังไงดีล่ะ?! แล้วคุณจงอินก็ช่วยไปยืนไกลๆหน่อยได้ไหมครับ??
แก้มของเขากับจมูกทู่ๆที่เป็นเอกลักษณ์นี่จะได้ไม่ชนกัน OMG!!!!!
“คนแก่!!...ทำไรอยู่ ทำไมช้าจัง พี่ชานยอลกับน้องแบคหิวแล้วนะ?!”
“กำลังยกชามซุปออกไป...”
“เร็วๆสิ...แขกรอเสียมารยาท!”
ขอบคุณคนตัวเล็ก...ที่ช่วยทำให้คุณจงอินยอมละจากความใกล้ชิดและยกชามซุปออกไปที่โต๊ะอาหาร ส่วนคนที่ยังใจเต้นกับการถูกหอม(โดยบังเอิญ)ก็ขอพักพิงความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ในห้องครัว
ยอมรับว่าตกใจเพราะไม่คิดว่าการมาทานมื้อเช้าตามคำเชื้อเชิญจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาแค่อยากช่วยในเรื่องที่พอจะช่วยได้ แต่ก็กลายเป็นว่า...ได้ใกล้ชิด ได้สัมผัสและได้รู้ว่าคุณจงอินมีเสน่ห์มากแค่ไหน
เท่เนอะ...ทำอาหารก็เป็น
อกก็กว้าง ♡!!!
♡ ♡ ♡ ♡
100%
Cr.ภาพในตอนที่สาม : IG> OOHSEHUN
***อินเตอร์คอม หมายถึง เป็นคำเรียกสั้นๆของ intercommunication
ระบบการสื่อสารระหว่างภายในอาคาร
ที่พัก
ที่ระยะทางไม่ห่างไกลกันมากนัก
ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคณะที่อยู่ต่างสถานที่
Talk.
คุณจงอินตั้งใจหรือไม่ตั้งใจน้าาาา??
ส่วนตอนนี้...เรื่องของการอุ้มบุญหรือเรื่องทางแพทย์เราขอให้เป็นเพียงจินตนาการนะคะ
เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงมันต้องมีรายละเอียดที่เยอะกว่านี้หรือถ้าผิดไปจากสิ่งที่ควรเป็น เราต้องอภัยจริงๆค่ะ ขออภัยจากใจเลย (พนมมือไหว้ย่อ)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ด้วย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
เลิบบบบ ♡
#KHanother
ความคิดเห็น