คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♡2
2…
ร้านอาหาร XXX
แกร๊กกก!!
“อิ่มแล้ว...อยากกลับห้องแล้วด้วย”
“วันนี้ไม่กินของหวานเหรอ?”
“ไม่!!”
“ไม่น่ารักเลย...”
“จะฟ้องแม่!”
สองพี่น้องต่างสบตากัน...ปากก็กำลังเคี้ยวอาหารด้วยความอร่อย
แต่หูทั้งสองข้างกลับจดจ่ออยู่ที่บทสนทนาของโต๊ะด้านข้างเพราะเสียงวางช้อนส้อมที่ค่อนข้างดังหรือจะเป็นเสียงแหลมเล็กที่เหมือนกำลังเอาแต่ใจมันทำให้ชานยอลและเซฮุนอดให้ความสนใจไม่ได้ คนเป็นน้องเหลือบตามองคนใส่ชุดนักเรียน คนเป็นพี่ก็เหลือบมองหนุ่มผิวเข้มในชุดสูทที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มออกอาการเคร่งเครียด แล้วก็.......
(ของหวานได้แล้วค่ะ...อันนี้เป็นไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่)
“ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่ของผมครับ...ขอบคุณครับ”
[กินก็ได้...เอาแบบพี่คนนั้น ไอติมสตรอว์เบอร์รี่!!]
เสียงถอนหายใจแรงๆ...คือสิ่งที่ได้ยินตามมาเมื่อคนตัวเล็กเอ่ยปากว่าอยากทานของหวานทั้งๆที่ตอนแรกปฏิเสธเสียงแข็ง แถมของหวานที่ว่าก็ไม่ได้ดูจากใบเมนู แต่ดูมาจากโต๊ะด้านข้าง(อีกครั้ง) ส่วนคนที่สั่งของหวานมาทานหลังจากได้กินจับแชสมใจก็ได้แต่ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนตักท็อปปิ้งอย่างสตรอว์เบอร์รี่สดเข้าปากเต็มคำ ในใจก็คิดว่าลูกชายของคุณพ่อผิวเข้มคนนี้ช่างเอาแต่ใจจริงๆ ตอนแรกบอกไม่อยากทาน แต่ไปๆมาๆกลับอยากทานเสียอย่างนั้น
เพราะของหวานที่เขาสั่ง...มันน่ากินใช่ไหมล่ะ??!
“สั่งของหวานหน่อยครับ”
“รับอะไรดีคะ?”
“ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่ครับ”
(ขอเพิ่มท็อปปิ้งสตรอว์เบอร์รี่เยอะๆนะครับ!)
“ได้ค่ะ....”
เซฮุนขอหัวเราะแค่ในใจ...เพราะการสั่งของหวานจากลูกค้าโต๊ะข้างๆในครั้งนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกข่มเพราะไอศกรีมของเขามีสตรอว์เบอร์รี่สดเป็นท็อปปิ้งเพียงแค่สามลูกเท่านั้น แต่คนใส่ชุดนักเรียนกลับสั่งแบบพิเศษ และคำว่าพิเศษก็อาจจะได้สตรอว์เบอร์รี่สดเพิ่มจากสามลูกเป็นห้าลูกก็ได้ เฮ้อออออ...เด็กหนอเด็ก มีลูกแบบนี้
พ่อแม่ปวดหัวตายเลย
“พี่ชานยอลช่วยกินหน่อยสิ...ผมท้องจะแตกแล้วอะ”
“ทุกที...”
“บ่นทุกที”
บ่นทุกที...แล้วก็ต้องทานทุกทีเพราะน้องของเขาชอบสั่งนั่นสั่งนี่มากินเหมือนตัวเองหิวมาสักสิบชาติ อันนั้นอยากลอง อันนี้ก็น่าทาน อันนู้นก็ยังไม่เคยกิน และสุดท้าย...ไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือของหวานที่น้องทานไม่หมด พี่ชายอย่างเขาก็ต้องจัดการให้เรียบเนื่องจากเสียดายของ
“ซื้อกับข้าวไปเก็บไว้เลยไหม...ตอนเย็นจะได้ไม่ต้องออกมาอีก ห้องยังจัดไม่เสร็จเลย”
“เอาดิ...ผมก็ขี้เกียจออกแล้วเหมือนกัน อากาศแม่งโคตรร้อนเลย”
“แล้วปวดหัวไหมเนี่ย...กินยาไหม เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้??”
“ผมไม่เป็นไร”
คนเป็นพี่...รีบละจากการเก็บของเหลือบนโต๊ะอาหารก่อนลุกออกจากที่นั่งเดิมเพื่อมาดูน้องด้วยความเป็นห่วง
มือหนาวางลงบนหน้าผากของเซฮุนเพื่อวัดไข้เพราะทราบดีว่าเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงไป น้องของเขาก็มักจะป่วยอยู่เสมอ ยิ่งตอนนี้ต้องย้ายชีวิตมาอยู่ในที่ที่อากาศต่างไปจากเดิม ชานยอลก็ยิ่งเป็นห่วงน้องมากขึ้น อากาศร้อนเกินไปก็หน้ามืด อากาศหนาวเกินไปก็ไข้ขึ้น
เซฮุนเหมือนจะอยู่ไม่ได้เลยถ้าอากาศเป็นเช่นนั้น
และสองมือ...ที่ค่อยๆเลื่อนมาโอบเอวพี่ชายก่อนซบใบหน้าลงบนบ่ากว้างก็ทำให้คนในชุดสูทถึงกับต้องส่ายศีรษะอีกครั้ง เป็นการทานอาหารที่เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจเพราะคนที่พามาด้วยเด็กเกินกว่าจะต้องมาพบเห็นการกระทำที่แสนประเจิดประเจ้อ
“เช็คบิลด้วยครับ...”
“รอสักครู่นะคะ”
(อะไรอะ?...ยังไม่ได้กินไอติมเลยนะ สั่งไปแล้วด้วย!)
“กลับไปกินที่ห้องก็ได้...เดี๋ยวซื้อให้ใหม่”
วัยรุ่นสมัยนี้...ทำไมถึงไม่รู้จักกาลเทศะบ้างเลย อยากกอดก็กอด
อยากอ้อนก็อ้อน อยากทำอะไรก็ทำโดยไม่ถึงเรื่องของสถานที่ ถ้าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นในที่ลับ
ที่ที่ดูเป็นส่วนตัวหรือในห้องของตัวเองก็คงไม่เป็นอะไร แต่นี่คือที่สาธารณะ...จะทำสิ่งใดก็ควรคำนึงถึงความเหมาะสมบ้าง
หนุ่มผิวเข้มถึงกับต้องเรียกพนักงานเพื่อทำการคิดเงินค่าอาหารก่อนพาคนตัวเล็กออกไปจากร้านให้เร็วที่สุด
แต่..........!!?
“หนูให้...ชอบนะ”
(ขอโทษครับ)
เป็นเสียงกระซิบ...ที่อยากบอกให้คนตัวสูงได้รับรู้ และการกระทำของคนที่ใส่ชุดนักเรียนก็พาให้หนุ่มผิวเข้มต้องรีบโค้งกายพร้อมกล่าวขอโทษด้วยความสุภาพก่อนจำเป็นต้องใช้แรงที่มากเพื่อพาคนต้นเรื่องออกไปจากร้านอาหารให้เร็วที่สุด จงอินไม่ได้ยินว่าแบคฮยอนพูดอะไร
แต่การกระทำเช่นนั้นก็ดูจะเสียมารยาทไม่ใช่น้อย การคุยกับคนแปลกหน้า การเดินเข้าไปคว้าแขนคนไม่รู้จัก
การโน้มกายหรือเอาตัวไปใกล้ชิดกับคนที่ไม่คุ้นเคย ทุกๆการกระทำของแบคฮยอนในวันนี้ไม่น่ารักเอาเสียเลย
“ว้าย ๆ ๆ...พี่ชานยอลโดนเด็กเต๊าะ!!”
“เบอร์โทรศัพท์?”
“เบอร์พ่อเค้าหรือเปล่า...ไหนเอามาดูดิ๊!!”
กระดาษทิชชู่...ที่มีชื่อของร้านอาหารและถูกเขียนตัวเลขมามากมายพร้อมชื่อ
“น้องแบค” เอาไว้เป็นสิ่งที่ทำให้คนเป็นน้องอดที่จะแซวพี่ชายของตัวเองไม่ได้ เจ้าของชื่อช่างเอาแต่ใจแล้วก็ยังกล้าเกินเด็กจนเซฮุนถึงกับต้องยกนิ้วให้ และชานยอลก็ต้องยกนิ้วให้เหมือนกัน แต่!!ยกขึ้นมาดีดหน้าผากน้องเพราะรู้สึกมันเขี้ยว มีน้องก็แก่แดด
ไอ้เด็กนั่นก็แก่แดด...อายุแค่เท่านี้หัดมาจีบรุ่นใหญ่ซะแล้ว
“ไม่โทรหรอก...ทิ้งไว้ที่ร้านนี่แหละ”
“ไม่สนเหรอครับพี่ชาย...น้องเค้าน่ารักดีน้าาา”
“ไม่เห็นหน้าพ่อเค้าหรือไง...หน้าดุฉิบหาย กลับบ้านไปน้องมันโดนตีตูดลายแน่”
“ลูกดื้อขนาดนั้นก็ต้องดุเป็นธรรมดา...แต่เอาจริงๆอาจจะไม่ดุก็ได้นะ ดูมีอายุแต่ก็ยังหล่ออยู่เลย...เท่อะ”
“ชอบแบบนี้หรือไง...แบบแก่ๆ แบบชราภาพ”
“แก่ที่ไหน...พอเลย!!เลิกพูดๆ กลับบ้านดีกว่า”
“ทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง...”
“ว่าแต่ผม...ตกลงพี่จะเอายังไงกับเบอร์น้องเค้า??”
ทิ้งไว้ที่ร้านนี่แหละ...และกระดาษทิชชู่ที่มีชื่อพร้อมเบอร์ติดต่อก็ถูกฉีกทิ้งเพื่อกันมิจฉาชีพเอาไปใช้ก่อเหตุร้าย ชานยอลขอเก็บเพียงความรู้สึกดีๆตรงนี้เอาไว้ก็พอเพราะมีคนมาชอบก็ดีกว่ามีคนมาเกลียด แต่จะให้ติดต่อ
ให้ทำความรู้จักหรือให้ความหวังกับใครก็ขอไม่ทำ ตอนนี้ชีวิตขอโฟกัสไปที่เรื่องของห้องพัก เรื่องของหน้าที่การงานที่ต้องปรับเปลี่ยนและเรื่องของน้องชายที่ต้องเริ่มหาที่ฝึกงาน ซึ่งทุกๆเรื่องมันกลายเป็นอันดับต้นๆในชีวิตที่ต้องสะสางให้เสร็จสิ้น
“มีน้องคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่แล้ว...”
“ปวดมากปะ?”
“มากกกกกกกกกกก”
“แต่ผมรักนะ...ผมรักพี่ชานยอลที่สุด”
“พูดแบบนี้...อยากให้พี่ร้องไห้หรือไง”
“อยากให้มีความสุขต่างหาก
(^-^”
เพราะแบบนี้ใช่ไหม...ถึงไม่มีแฟนกับเขาเสียที และแม้จะต้องปวดหัวกับน้องมากแค่ไหน ชานยอลก็เต็มใจที่จะดูแล เต็มใจที่จะเลี้ยงหรือเต็มใจที่จะรักอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อาจซนไปบ้าง
ดื้อไปบ้าง เอาแต่ใจไปบ้าง แต่เซฮุนก็ยังเป็นน้องที่ดีเสมอ ยิ่งเซฮุนโตขึ้น...เจ้าตัวก็ยิ่งสรรหาของดีๆมาบำรุงให้พี่ชายเต็มไปหมด ทั้งครีมทาหน้า ยาวิตามินหรือจะอีกสารพัดที่ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรง ต่างคนก็ต่างดูแลกันและกันไปคนละแบบ ใครถนัดในเรื่องแบบไหนก็จะรีบทำให้โดยไม่เกี่ยงงอน
และถ้าน้องมีความสุข...พี่คนนี้ก็จะมีความสุขเช่นกัน ^-^)
“อยากซื้ออะไรอีกไหมเซฮุน?”
“ไม่แล้วฮะ...กลับห้องเลยดีกว่า ผมอยากรีบกลับไปจัดห้องนอน”
“โอเค...งั้นเรากลับกันเลย”
“เออ!!..ผมคิดออกแล้วว่าจะซื้ออะไร”
“คิดอะไรออกอีกล่ะ...ตกลงจะเอาไง จะกลับหรือจะให้พี่ทำอะไรก็ว่ามา?”
“ผมก็แค่อยากได้ดอกไม้...แถวนี้หรือแถวคอนโดฯมีร้านขายดอกไม้บ้างไหมฮะ?”
“เดี๋ยวพี่ลองหาแป๊ปนึง...”
ขอบ่นนิดเดียว...แล้วก็อดที่จะตามใจไม่ได้เพราะสิ่งที่น้องต้องการมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปบุกน้ำลุยไฟ
คนเป็นพี่รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนค้นหาร้านขายดอกไม้ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้รวมถึงที่คอนโดฯด้วย ส่วนคนเป็นน้องก็ได้แต่ยืนยิ้มเมื่อถูกตามใจพร้อมช่วยพี่ชานยอลถือถุงอาหารมากมายที่ต้องซื้อกลับไปทานเป็นมื้อเย็น
“เจอละ...แถวคอนโดฯมีอยู่สองร้าน ร้านนึงยังไม่เปิด อีกร้านปิดหนึ่งทุ่ม แล้วในห้างนี้ก็อยู่ชั้นสอง...เอาไงเรา จะไปที่ไหน
ที่นี่หรือคอนโด??”
“ไปทุกที่เลยได้ไหมฮะ...
ผมอยากไปเลือกดอกไม้เยอะๆ”
“วันนี้จะจัดห้องกันเสร็จไหมเนี่ย?”
“น้าาา...พี่ชานยอลพาผมไปเถอะน้าาา ผมเลือกดอกไม้ไม่นานหรอก”
“ตามใจ...”
“เย้...ขอบคุณนะฮะ”
ถ้าพูดถึง “ดอกไม้” ทุกๆคนคงมีดอกไม้ที่ตัวเองชื่นชอบอย่างเช่น กุหลาบ
ลิลลี่
คาเน่ชั่นหรืออื่นๆตามความพึ่งพอใจ
แต่สำหรับน้องของเขามันไม่ใช่แบบนั้นเพราะคำว่าดอกไม้นั้นหมายถึงต้นอะไรก็ได้ที่มีดอกบานออกมาจากก้านและลำต้น
จะดอกหญ้า หมามุ่ย ไม้เถา
ไม้เลื่อย ไม้พุ่ม
ทุกๆต้นไม้ที่มีดอกคือสิ่งที่เซฮุนชอบทั้งหมด เห็นต้นไม้ต้นใดผลิดอกออกใบสวยงามเป็นอันต้องถ่ายรูปเก็บไว้เหมือนเป็นคอลเลคชั่นส่วนตัว
ในแอปพลิแคชันชื่อดังอย่างไอจี...ก็จะมีแต่รูปดอกไม้ ไม่มีรูปตัวเองเลยสักรูป ดอกนั่นบานอยู่หน้าบ้านก็ถ่าย ดอกนี้บานอยู่หน้าร้านกาแฟก็ถ่าย
น้องของเขาจะถ่ายรูปดอกไม้จากทุกๆที่ที่ได้ไปเจอ
เขาเคยถามว่าทำไมน้องถึงชอบดอกไม้พวกนี้นักหนา
ทั้งๆที่ดอกไม้บางดอกก็แทบไม่มีใครให้ความสนใจ แล้วคำตอบที่ได้ก็คือ “ไม่รู้สิ...ก็แค่ชอบ เห็นแล้วมันสดชื่นดี ดอกไม้พวกนี้ทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งเลย”
แล้วคำตอบนั้น...ก็ทำให้ชานยอลยิ้มได้เช่นกัน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้น้องของเขามีความสุข พี่คนนี้ก็มีความสุขไปด้วย
เซฮุนเหมือนคุณแม่แทบจะทุกอย่างเพราะสิ่งที่คุณแม่ชอบก็คือดอกไม้ ตอนคุณแม่ตั้งท้อง...บ้านทั้งหลัง ห้องทุกห้องรวมถึงห้องพักคลอดก็จะต้องมีดอกไม้วางอยู่ทั่วไปหมด จะเป็นดอกกุหลาบ ทานตะวัน
กล้วยไม้หรือจะดอกอะไรก็ได้...ความสวยงามของมันมักจะทำให้คุณแม่ยิ้มได้เสมอ
มีน้องชายเหมือนมีแม่...มันคงเป็นความรู้สึกแบบนี้สินะ ( - -‘
♡ ♡ ♡ ♡
Condominium XXX
ติ๊งงงงง!!!
“เซฮุนนนน...อย่าเพิ่งไป”
“ฮะะะะะ.......!!!!”
เมื่อกลับมาจากห้างสรรพสินค้าก็ต้องรีบจัดห้อง ทานมื้อเย็น
จัดห้องต่อ ทานของว่าง แล้วก็จัดห้องต่อ ทุกๆอย่างถูกทำวนไปวนมาอยู่แบบนี้จนกระทั่งห้องที่มีแต่เฟอร์นิเจอร์ก็ได้กลายเป็นห้องพักที่สุดแสนจะวิเศษสำหรับสองพี่น้อง...และถ้าจะให้วิเศษมากกว่านี้มันก็ต้องฉลองงงงงงง!!!
“ซื้อเบียร์มาเยอะๆนะะะะ...!!”
“รู้แล่ววว!”
“เดี๋ยวหยุดหนังรอ...แล้วก็จะทำป๊อบคอร์นรอด้วย”
“รอบนี้เอารสชีสนะฮะ”
“เค...”
เสียงลิฟท์...พร้อมเสียงตะโกนที่ดังออกมาจากหน้าห้องคือสิ่งที่ทำให้คนเป็นน้องต้องกดปุ่มรอเพื่อให้ประตูสีทองเปิดค้างไว้ เบียร์เริ่มหมด กับแกล้มเริ่มเหลือน้อย การฉลองห้องใหม่จึงต้องถูกยุติเอาไว้ชั่วคราว แล้วน้องชายอย่างเซฮุนก็เป็นผู้ที่ต้องลงมาซื้อของทุกอย่างให้พี่ชาย
มันต้องยอมเพราะการจัดห้องที่รวดเร็วเกิดจากแรงกำลังของพี่ชานยอลเป็นส่วนใหญ่ เซฮุนจึงอาสาลงมาซื้อของให้ด้วยความเต็มใจ
ร้านสะดวกซื้อ...อยู่ห่างจากคอนโดฯไปเพียงหนึ่งบล็อก
ส่วนร้านดอกไม้ที่พี่ชายเสิร์ชหาอยู่นานก็ห่างไปอีกสามช่วงตึก และตอนนี้ห้องของเขากับพี่ชานยอลก็เหมือนยกทุ่งดอกไม้มาไว้ทั้งหมด ห้องนอนของน้องเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด...ทั้งกุหลาบ ไฮเดรนเยีย
คาล่าลิลลี่และดอกอะไรก็ไม่รู้สีเหลืองสดที่ปลูกอยู่หน้าคอนโดฯ ต้องขอโทษจริงๆที่เด็ดความสวยงามออกมาอย่างเสียมารยาท
แต่มันเหมือนจะเป็นของที่ระลึกสำหรับผู้พักอาศัยคนใหม่...และเซฮุนก็เด็ดมาเพียงหนึ่งดอกเท่านั้น
ส่วนห้องของพี่ชาย...ก็ขอมีเพียงความสวยงามประดับอยู่แค่แจกันเดียวก็พอเพราะพี่ชานยอลไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือให้ความสนใจกับพวกดอกไม้สักเท่าไหร่ และถ้าชานยอลบอกว่าเขาเหมือนคุณแม่ ตัวพี่เองก็คงเหมือนคุณพ่อเพราะพี่ชานยอลชอบรถเป็นชีวิตจิตใจ โมเดลรถมีเป็นร้อยเป็นพันแบบแล้วก็มีเกือบทุกแบรนด์สำหรับรถยี่ห้อดัง
อย่าได้หวังว่าดอกไม้แสนสวยที่เขาเลือกให้เพื่อประดับห้องมันจะสำคัญไปกว่าโมเดลรถสุดหรูบนหัวเตียง
“สวัสดีครับ...เชิญครับ”
เสียงทักทาย...ของพนักงานร้านสะดวกซื้อ ทำให้เซฮุนต้องส่งยิ้มก่อนเดินสำรวจไปทั่วร้านด้วยความใคร่รู้ ตรงนี้เป็นโซนขนมขบเคี้ยว...แล้วก็หยิบมันฝรั่งทอดใส่ตะกร้าไปสองห่อ ตรงนั้นโซนขายของใช้...ไม่เอาไม่ซื้อ
มีครบทุกอย่างแล้วเพราะคุณแม่เตรียมไว้ให้หมด
แล้วตรงนู้นก็คือตู้แช่เครื่องดื่ม...ขาเรียวเดินตรงไปที่ตู้กระจก สายตาก็กวาดมองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าและเครื่องดื่มแบบกระป๋องที่มีโล้โก้ยี่ห้อสีน้ำเงินก็ถูกคว้าออกมาจากตู้
ติ๊ดดๆ ๆ!!
ติ๊ดดๆ ๆ!!
และตะกร้าสีขาว...ที่เต็มไปด้วยของกินเพื่อการฉลองห้องใหม่ก็ถูกวางลงบนเคาน์เตอร์คิดเงิน ตอนแรกก็ว่าจะซื้อแค่เบียร์กับขนมขบเคี้ยวอีกนิดหน่อย
แต่พอเดินไปเดินมาพักสัก...ก็ได้ทั้งไส้กรอก ขนมปัง
ไอศกรีมและช็อคโกแล็ตอีกหลากหลายยี่ห้อ
สงสัยคงต้องโดนพี่ชานยอลบ่นแน่ๆ
แต่ถ้าโดนบ่นแล้วได้กินของทุกอย่างในตะกร้านี้ เซฮุนก็ยอมให้บ่นจนกว่าจะพอใจ มีใครบ้างที่เห็นของที่ตัวเองชอบทานแล้วไม่ซื้อ...ไม่มีหรอกเนอะ!!
“586 บาทครับ”
รีบจ่ายเงิน...แล้วรีบวิ่งกลับห้องให้เร็วที่สุดเพราะการมัวแต่เดินเล่นในร้านสะดวกซื้ออยู่นานสองนานอาจทำให้พี่ชานยอลทำมากกว่าบ่น สองขาวเรียววิ่งกลับคอนโดฯเหมือนถูกตามล่า ประตูกระจกขนาดใหญ่ก็ถูกผลักด้วยความแรง ปุ่มลิฟท์ที่มีลูกศรชี้ขึ้นชี้ลงก็ถูกกดจนแทบจมหายเข้าไปในกำแพงและเมื่อประตูสีทองเปิดออก...กายบางจึงรีบพาตัวเองเข้าไปด้านในก่อนกดชั้นที่เก้าแล้วตามมาด้วยการกดสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการปิด
แต่......?!!
“บอกว่าอย่าวิ่งไง...”
“ก็เดินเร็วๆหน่อยสิ...แก่จริง ง่วงจะตายแล้วเนี่ย!!”
ยังไม่ทันได้กดปิด...กรอบประตูสีทองของลิฟท์ก็ถูกมือเรียวของใครสักคนขวางเอาไว้ แถมเสียงแหลมเล็กที่ตะโกนเรียกใครอีกคนว่า “แก่”
ก็ช่างคุ้นหูเสียจริง เหมือนเพิ่งเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็จำไม่ได้แล้วสิ?? และ.....
“อ้าว...พี่!!
เจอกันอีกแล้ว!?”
“เอ่อออ...สวัสดี”
จากที่คุ้นหู....ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนมาเป็นคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะเจ้าของเสียงที่ว่าก็คือคนตัวเล็กที่กล้ามาเต๊าะพี่ชายของเขาในร้านอาหาร ถึงแม้ใบหน้าจิ้มลิ้มจะดูบูดบึ้ง แต่ก็ยังดีที่ส่งรอยยิ้มพร้อมการทักทายมาให้เขา เซฮุนก็กล่าวทักทายกลับไปด้วยประโยคสั้นๆก่อนเดินเลี่ยงไปยืนชิดผนังด้านหนึ่งเพราะเหมือนต้องรอใครอีกคนที่คล้ายว่าจะมาไม่ถึงสักที
“เดินหรือคลานเนี่ย...ช้าจริง รู้งี้ขึ้นมาก่อนก็ดี!!”
“รู้แล้วจะรอทำมะ...ไม!”
(เอ่อออ....สวัสดีครับ)
จำเป็นต้องกล่าวทักทายอีกครั้ง...เพราะเจ้าของเสียงทุ้มที่กำลังเอ่ยตอบโต้กับคนตัวเล็กเห็นเขายืนอยู่ด้านในพอดี แล้วสายตาแบบนั้นก็พาให้คนถูกมองอย่างเซฮุนรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่ในลิฟท์ที่ถูกไฟไหม้เพราะใบหน้าร้อนวูบไปหมด
“พี่อยู่ชั้นเก้าเหรอ...ชั้นเดียวกับผมเลย เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ใช่ไหม?”
“ชะ...ใช่ เพิ่งย้ายมาอยู่วันนี้เอง”
คำถามของคนตัวเล็ก...ทำให้ความรู้สึกแปลกๆถูกลืมไปชั่วขณะ แต่!!บทสนทนาที่บอกว่าเราอยู่ชั้นเดียวกันก็ทำให้ความรู้สึกแปลกๆมันกลับมาอีกครั้ง สายตาคู่นั้น
การยิ้มมุมปากแบบนั้นและการพิงหลังไว้กับผนังลิฟท์อย่างสบายใจแบบนั้น ทุกๆอย่างที่เป็นผู้ชายผิวเข้มตรงหน้า...พาให้เซฮุนรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
มันไม่เหมือนตอนเจอกันที่ร้านอาหารเลยสักนิด ตอนนั้นดูสุขุมกว่า ใบหน้าก็เรียบเฉยกว่าแล้วก็ไม่มีรอยยิ้มที่ดูร้ายๆแบบตอนนี้ด้วย
ติ๊งงง!!
“ผมชื่อ แบคฮยอน นะ แล้วคนแก่ๆนี่ก็...พี่จงอิน เป็นพี่ชายผมเอง”
“เอ่ออ...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
ขอบคุณคอนโดฯแห่งนี้ที่มีเพียงเก้าชั้น...เพราะถ้าต้องอยู่ในลิฟท์นานๆ เซฮุนก็อาจจะหน้ามืดจากการถูกมองอย่างไม่ละสายตา แต่!!ยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้าเนื่องจากแบคฮยอนเริ่มแนะนำตัวอย่างเป็นทางการว่าใครเป็นใคร และใครคนนั้น...ก็ไม่ใช่พ่อของเด็กคนนี้อย่างที่เขาเคยคิด แถมยังเป็นพี่ชายที่เหมือนจะมีอายุห่างจากน้องมากเหลือเกิน อีกคนอยู่ในชุดนักเรียน อีกคนใส่สูทผูกไทด์เป็นอย่างดี แล้วความต่างขนาดนี้จะไม่ให้คิดว่าเป็นพ่อลูกกันได้อย่างไร
“แล้วพี่อยู่คนเดียวเหรอ...พี่อีกคนไปไหน คนตัวสูงๆหล่อๆอะ?”
“แบคฮยอนพอได้แล้ว...เสียมารยาทน่ะ”
(ไม่เป็นไรครับ...ผมก็ยังไม่ได้แนะนำตัวเหมือนกัน // พี่ชื่อเซฮุนนะ ส่วนคนตัวสูงๆหล่อๆก็เป็นพี่ชายของพี่...ชื่อชานยอล ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ พวกพี่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ยังไม่ค่อยกฎรู้อะไรเลย)
ต้องกลั้นยิ้ม...ให้กับความแก่นแก้วของเด็กตรงหน้าเพราะอยู่ดีๆเจ้าตัวก็ออกปากชมพี่ชายของเขาว่าคนหล่อๆสูงๆ เด็กสมัยนี้กล้าจริงๆ...รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น
มันฟังดูใสซื่อจริงใจมากกว่าให้ความรู้สึกว่าเสียมารยาท แล้วคนแก่ๆของน้องก็คงคิดแบบนั้นเช่นกันเพราะตอนนี้ใบหน้าคมเข้มเริ่มเผยรอยยิ้มออกมามากกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าสบายใจที่เขาไม่โกรธหรือสบายใจที่เขาไม่ถือสากับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...และต้องขอโทษด้วยที่น้องชายเกเรไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรเลยครับ...น้องยังเด็ก ผมเข้าใจ”
(เห็นแมะ...พี่เค้าใจดีจะตาย ไม่ได้ทำตัวแก่เหมือนใครบางคนหรอก)
เป็นอีกครั้งที่ต้องกลั้นยิ้ม...เพราะดูเหมือนพี่น้องคู่นี้จะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ ที่ร้านอาหารก็เถียงกันจนอีกคนต้องขึ้นเสียง และตอนนี้ก็ยังเถียงกันเหมือนเดิม แล้วคนเป็นน้องก็คล้ายว่าจะไม่เกรงกลัวพี่ชายเลยสักนิด เซฮุนก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการกล่าวลาสองพี่น้องหรือเพื่อนข้างห้องที่เพิ่งทำความรู้จักกันได้ไม่นาน มือบางหยิบการ์ดสีดำออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนเดินไปที่หน้าประตูห้องเพื่อกลับไปฉลองกับพี่ชาย แต่.....!!!
แกร๊กกก!!!!
“กำลังจะออกไปตามพอดี ทำไมไปซื้อของนานจัง...เป็นอะไรหรือเปล่า หื้มม?”
“อยู่นี่เอง...พี่สุดหล่อของน้องแบค!!!!”
“เฮ้ยยยย!!!?...”
เหมือนการทักทาย...การทำความรู้จักหรือการแนะนำตัวจะยังไม่จบแค่นั้น?!!
♡ ♡ ♡ ♡
100%
Cr.
ภาพในตอนที่สอง : IG>OOHSEHUN
Talk.
คุณจงอินเค้ายิ้มทำไมนะ??
สองตอนแย้ววววว....แต่ขอไปเรื่อยๆก่อนน้าาาาา และไม่รู้ว่า KHanother จะยาวเท่าไหร่หรือจะกี่ตอนจบ????? ฮืออออออ T-T)
ส่วนความชอบของเซฮุนในฟิคเรื่องนี้...เราขอแจ้งว่ามันจะไม่ซ้ำกับเรื่อง #ดอกไม้ของเจ้านาย แน่นอนค่ะ แต่ที่เขียนแบบนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยมากที่สุด ใกล้ตัวที่สุด ถนัดที่สุด เราขอเอาสิ่งที่เรามีความรู้มาเขียนนะคะ อันไหนไกลตัวเกินไปก็เกรงว่าจะไม่สมจริง และต้องทำการค้นคว้าเพื่อไม่ให้นิยายกลายเป็นเรื่องตลก
ฝากติดตามฟิคเรื่องใหม่ของเราด้วยนะคะ...ถูกใจไม่ถูกใจยังไงก็บอกกันได้เลยค่ะ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะ
เลิบบบบ ♡
#KHanother
ความคิดเห็น