คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ♡1
1…
Condominium XXX
ติ๊งงง!!!
“อันนี้ชุดสุดท้ายแล้วครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
“ถ้าเช็คของแล้วเกิดความเสียหาย...รีบแจ้งกับทางบริษัทได้เลยนะครับ”
“โอเคครับ...ขอบคุณนะครับ”
“ยินดีให้บริการครับ....”
เสียงลิฟท์...ประตูสีทองที่เปิดออกและกล่องลังใบใหญ่มากมายที่ถูกยกมากองไว้หน้าห้องเบอร์
902
คือสิ่งที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ต้องจัดให้เป็นระเบียบเพราะคอนโดฯสุดหรูแห่งนี้จะเป็นที่พักพิงสุดท้ายหลังจากที่ต้องย้ายไปนั่นมานี่อยู่บ่อยครั้ง และดีที่เจ้าของห้องคนเก่าเป็นคนเจ้าระเบียบ ห้องจึงดูสะอาดเหมือนใหม่ แถมยังไม่มีตำหนิเลยแม้แต่น้อย
ที่เลือกคอนโดฯ XXXเป็นที่พักพิง...ก็เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว และตึกขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้ก็มีเพียงเก้าชั้น แต่ละชั้นก็มีเพียงสองห้องเท่านั้น เจ้าของห้องคนเก่าจำใจประกาศขายเพราะต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนเขาที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้เพียงไม่กี่วันก็ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่...และหวังว่าจะไม่ต้องย้ายไปไหนอีกแล้ว กว่าจะเจอที่อยู่ที่ถูกใจไม่ใช่เรื่องง่าย
กว่าจะขออนุญาตพ่อแม่เพื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและกว่าทุกอย่างจะลงตัวแบบนี้ก็ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกันเพราะ......
“พี่ชานยอล...!!!”
เขาไม่ได้อยู่คนเดียว?
“เซฮุน...ไม่ต้องยก เดี๋ยวพี่ทำเอง!!”
เจ้าของชื่อ...รีบหันไปบอกต้นเสียงที่เอ่ยเรียก
แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนักเพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการจัดห้องให้เรียบร้อย เสียงแกะกล่องกระดาษ
เสียงการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือเสียงเจื้อยแจ้วของน้องชายที่เอาแต่บ่นอาจเป็นการรบกวนคนข้างห้องถ้าเขายังทำอะไรชักช้า คนเป็นพี่อยากจัดห้องให้เสร็จก่อนค่ำ แต่ดูเหมือนว่า!!มันจะไม่เสร็จจริงๆเพราะ...
“พี่ชานยอลดูรูปนี้สิ...น่าเกลียดอะ แล้วทำไมผมถึงไม่ใส่กางเกง?” อีกคนกำลังจัดของ...แต่อีกคนกลับรื้อเจออัลบั้มรูปสมัยที่เรายังเป็นเด็กและเปิดดูก่อนถามนั่นถามนี่จนปากยื่นปากยาว
ชานยอล...พี่ชายวัย
32 ปี ทำได้เพียงส่ายศีรษะเพราะตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวน้องเลยสักคำและถ้าให้พูดถึงการลงไม้ลงมือก็อย่างหวังว่ามันจะเกิดขึ้นกับผู้เป็นน้อง เสียใจก็โอบกอด เสียขวัญก็โอบอุ้มหรือถ้าดื้อมากๆ....ก็จะพามานั่งบนตักก่อนอธิบายทุกอย่างให้น้องเข้าใจ ชานยอลไม่เคยคิดที่จะตีน้องคนนี้เลยสักครั้งและแม้แต่จะง้างมือเมื่อเกิดโทสะก็ไม่เคยเกิดขึ้น
“กางเกงเลอะขี้...พี่ก็เลยถอดออก
แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ยอมใส่กางเกงตัวใหม่ ตอนนั้นเราน่ะดื้อมาก...ขี้แตกไม่พอ ยังแก้ผ้าวิ่งเล่นจนป่วย” ภาพที่เด็กน้อยตัวขาวๆอายุสามขวบกำลังช่วยคุณพ่อล้างรถจนตัวเปียก
แถมยังขับถ่ายออกมาจนเปื้อนกางเกงและไม่ยอมเสื้อผ้าอีกเลย...มันได้กลายเป็นความทรงจำที่พาให้ชานยอลอดหัวเราะไม่ได้
และเซฮุน...น้องชายวัย
22 ปี
ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้เช่นกันเพราะช่วงวัยในตอนนั้นมันจำอะไรไม่ได้เลย
แถมอัลบั้มที่เขาถืออยู่ในมือตอนนี้ก็ไม่ได้เปิดดูมาหลายปี มือบางค่อยๆพลิกรูปดูไปทีละภาพ ทีละภาพ
สองขาก็ค่อยๆก้าวไปที่โซฟากลางห้องอย่างเชื่องช้าและค่อยๆหย่อนกายลงนั่งเพื่อตั้งใจดูความสุขที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนพี่น้อง
ไม่มีช่วงไหนเลย...ที่เราทั้งคู่จะไม่อยู่ในรูปสักใบ
ทุกๆภาพจะต้องมีเขาและพี่ชานยอลอยู่ในเฟรมด้วยเสมอ คุณพ่อเป็นคนถ่ายให้บ้าง คุณแม่เป็นคนถ่ายให้บ้าง
สลับกันอยู่แบบนี้หรือถ้าจะให้มีรูปครบทั้งครอบครัวก็ต้องเรียกแม่บ้านหรือพ่อบ้านมาช่วยถ่ายรูปให้
และเมื่อพูดถึงพ่อกับแม่...มือที่เคยถืออัลบั้มรูปก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการล้วงสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
“ว่ายังไงเจ้าจอมจุ้น”
(คิดถึงฮะ...แล้วพ่อกับแม่เป็นยังไงมั่ง)
“ก็งานยุ่งเหมือนเดิม...แต่ก็สบายดี ลูกๆไม่ต้องเป็นห่วง แล้วพี่ชานยอลไปไหน?”
(ก็อยู่นี่แหละฮะ...กำลังจัดของอยู่)
“พี่เค้าให้นั่งเฉยๆอีกล่ะสิ...ห้ามยกของเดี๋ยวพี่ทำเอง แบบนั้นใช่ไหม?”
(ใช่เลยฮะ...^^)
“แล้วเราอยู่ได้ใช่ไหม...ลำบากอะไรรีบบอกพ่อเลยนะ แต่อย่าบอกแม่
เดี๋ยวแม่บ่น”
(ฮ่า ฮ่า ฮ่า...ผมจะไม่บอกแม่แน่นอน)
อดห่วงไม่ได้...เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาจะต้องปล่อยให้ลูกอยู่กันตามลำพัง
ความห่างไกลที่ไกลกันจนอยู่คนละประเทศมันทำให้เป็นห่วงลูกๆทั้งสองคน ใช่ว่าอยากปล่อยให้เป็นแบบนี้
แต่จะให้อนาคตของลูกเลื่อนลอยไปกับการย้ายที่อยู่บ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี การทำงานเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกรถยนต์ในต่างประเทศทำให้พ่ออย่างเขาต้องเดินทางบ่อย ส่วนคนเป็นภรรยาก็ต้องมาเป็นทูตประจำอยู่ที่ประเทศXX...ซึ่งอาชีพการงานของพวกเรามักจะสร้างผลกระทบให้กับลูกๆอยู่เสมอ
และเพราะเป็นแบบนี้...ลูกชายคนโตอย่างชานยอลจึงตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ที่มั่นคงถาวร แถมยังให้สัญญาว่าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี
“เซฮุน...เรื่องเรียนไม่ต้องเป็นห่วงนะลูก พ่อจัดการให้หมดแล้ว”
(ขอบคุณฮะ...แต่เรื่องฝึกงานผมขอหาเองนะ พ่อห้ามใช้เส้นเด็ดขาด)
“โอเค...เรื่องนี้พ่อจะไม่ยุ่ง”
(คิดถึงพ่อกับแม่นะฮะ...รักษาสุขภาพกันด้วยนะฮะ ผมเป็นห่วง)
[คิดถึงนะค้าบบบบบบบบ!!!!]
“ฝากบอกพี่เค้าด้วยว่าพ่อกับแม่ก็คิดถึง...ว่างๆก็บินกลับมาหากันบ้าง”
(ได้เลยฮะ...)
“พ่อต้องวางสายแล้วน้าาา”
(โอเค...คิดถึงนะฮะ ว่างๆผมจะโทรไปใหม่)
คนเป็นลูก...ก็ใช่ว่าเคยต้องห่างไกลกับพ่อแม่มากถึงขนาดนี้ แต่เพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองมันก็คงต้องอดทนเอาไว้
การย้ายที่อยู่ตามผู้ปกครองบ่อยๆไม่เป็นผลดีต่อการเรียนของเซฮุนเลยสักครั้ง เรียนที่นั่นได้สองเทอมต้องลาออก
ไปเรียนที่ใหม่ได้สองเดือนก็ต้องย้ายอีก...การทำงานของพ่อแม่ทำให้ลูกคนเล็กอย่างเขาต้องเรียนบางวิชาซ้ำไปซ้ำมาจนน่าเบื่อ แต่ตอนนี้มันคงไม่ต้องย้ายไปไหนอีกแล้วเพราะพี่ชายของเขาเพิ่งซื้อคอนโดฯใหม่ แถมยังให้อยู่ห้องที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุดและพี่ชานยอลก็ใจดีที่สุด
“พ่อว่าไงมั่ง?”
และพี่ชายใจดี...ก็ขอหลบมาพักจากการจัดของและเอนกายลงนอนบนตักของน้องอย่างสบายใจ
สองขาที่ดูจะยาวกว่าโซฟาถูกพาดไว้บนพนักแขน
ส่วนสองมือก็คว้าอัลบั้มรูปมาเปิดดูบ้างเพราะกว่าจะขอพ่อแม่มาได้ก็ต้องหาคำมาหว่านล้อมจนเหนื่อย มันเหมือนเป็นที่เก็บความทรงจำของทั้งครอบครัว ภาพตอนที่พ่อแม่ยังหนุ่มยังสาว
ภาพที่เขาเพิ่งเกิดหรือภาพที่คุณแม่ยังมีน้องอยู่ในท้องจนกระทั่งคลอด...ทุกๆภาพมันกลายเป็นที่เก็บความสุขของพวกเราเอาไว้
“พ่อฝากบอกว่าคิดถึง...ว่างเมื่อไหร่ก็บินกลับไปหาด้วย แล้วก็ฝากดูแลน้องให้ดี อย่าแกล้งน้อง
ตามใจน้องเยอะๆ พ่อว่างี้”
“อันหลังเติมเองมากกว่ามั้งไอ้ตัวจุ้น!”
“ฮ่า ฮ่า
ฮ่า....”
ไม่ต้องฝากฝัง...ชานยอลก็ทำหน้าที่ของพี่ได้ดีอยู่เสมอเพราะพ่อกับแม่มักจะงานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลลูกคนเล็กอย่างเซฮุน ตอนเขายังเด็กพ่อกับแม่งานยุ่งไม่มากเท่านี้ แต่พอท่านได้ปรับตำแหน่ง ได้เลื่อนขั้นจากหน้าที่เดิม ความรับผิดชอบก็มีมากขึ้นตามลำดับและหน้าที่ของการดูแลเซฮุนก็เหมือนจะกลายเป็นเขานับตั้งแต่นั้น กิน
นอน ขับถ่าย อาบน้ำ
พาไปโรงเรียน ทุกๆอย่างคือสิ่งที่คนเป็นพี่ต้องทำให้น้องจนเหมือนเขาเป็นผู้ปกครองอีกหนึ่งคนของเซฮุน
“หิวยัง...ไปหาอะไรกินกันก่อนไหมแล้วค่อยๆมาจัดห้องต่อ”
“ก็ดีเหมือนกัน...แต่กลับมาผมขอจัดห้องนอนเองได้ไหม พี่ชานยอลก็จัดห้องของตัวเองไป ส่วนห้องครัวกับห้องนั่งเล่นก็ช่วยกันจัด”
“ตามใจ....”
ใครๆ...ก็มักจะบอกว่าเขาเหมือนองค์หญิงเพราะมีองค์ชายอย่างพี่ชานยอลคอยทำนู่นทำนี่ให้สารพัด ขึ้นรถก็เปิดประตูให้ ไปช้อปปิ้งก็ถือของให้หมดและถ้าวันนี้ไม่เอ่ยปากว่าอยากจัดห้องนอนเอง ชานยอลก็จะเนรมิตทุกอย่างได้ด้วยสองมือ มันเหมือนจะไม่มีเรื่องใดในโลกที่พี่ชายของเขาทำไม่ได้
เซฮุนจึงมักจะคิดเสมอว่าพี่ของตัวเองเป็นยอดมนุษย์ เป็นฮีโร่และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา
และตอนนี้...องค์หญิงเซฮุนแห่งดินแดนอันไกลโพ้นก็กระโดดขี่คอองค์ชายชานยอลเพื่อออกไปทานมื้อเช้า
♡ ♡ ♡ ♡
ห้างสรรพสินค้า XXX
VROOMMMMM!!!
VROOMMMMM!!!
“พี่ไม่ได้มาที่นี่กี่ปีแล้วเนี่ย?”
“อย่าว่าแต่ที่นี่เลย...ประเทศนี้ต่างหาก”
ใช่แล้ว...ถึงเราสองคนพี่น้องจะเกิดที่นี่กันก็จริง
แต่การที่ต้องย้ายที่อยู่ตามผู้ปกครองไปประเทศนั้นประเทศนี้มันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ได้กลับมาบ้านเกิดอีกเลย พาหนะยี่ห้อดังคันใหญ่จอดลงเมื่อถึงที่หมายที่คุ้นเคย
ประตูรถถูกเปิดและปิดด้วยมือของผู้ขับ...แล้วผู้ขับก็ต้องรีบลงไปเปิดประตูอีกฝั่งให้ผู้เป็นน้อง
“ขอบคุณฮะ”
ใช่ว่าขี้เกียจ ใช่ว่าเปิดไม่เป็นหรือทำไม่ได้ แต่มันเป็นความเคยชินของทั้งสองคน ตอนยังเด็ก...เซฮุนต้องถูกอุ้มลงจากรถด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ไม่ต้องอุ้มแล้ว และเหลือเพียงแค่พี่ชายที่ยังต้องเปิดปิดประตูรถให้น้องเหมือนเดิม เคยดูแลกันมาอย่างไรก็ยังทำอยู่อย่างนั้น บางอย่างอาจทำให้ต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปตามช่วงวัย แต่บางอย่างก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด
“กินอะไรดี...กินอะไรดี???”
“พี่บอกให้คิดตั้งแต่ในรถก็ไม่คิด”
“ก็ผมคิดไม่ออกหนิ...แล้วพี่ชานยอลล่ะ คิดออกมะ?”
“อยากกินซุปกิมจิกับไก่ทอดเผ็ดๆ”
“งั้นผมกินด้วย...เอาจับแช***ด้วยนะ ไม่ได้กินนานแล้ว”
“ร้านอยู่ชั้นสี่ จับราวบันไดดีๆเดี๋ยวล้ม...เซฮุน!!”
“รู้น่ะ!”
ความพูดเจื้อยแจ้ว
เดินไม่ดูทางและชี้ไม้ชี้มือไปทางนั้นทางนี้ของน้อง ทำให้ชานยอลต้องเอ่ยปรามก่อนต้องย่นคิ้วอย่างนึกเป็นห่วงมากกว่าจะหงุดหงิด แล้วขาก็ไม่รู้เป็นอะไร
มีอยู่แค่สองขาแต่ก็มักจะเดินให้มันพันกันแล้วก็สะดุดรองเท้าตัวเอง
ชานยอลไม่เคยเข้าใจอาการแบบนี้ของเซฮุนเลยสักครั้ง ขนาดเกิดมาจนอายุ 22 แต่นิสัยบางอย่างก็ยังเหมือนตอนสองขวบ
“เซฮุนเลี้ยวซ้าย...ซ้าย พี่บอกว่าซ้าย!!”
“รู้แล้วววว...แต่ขอไปดูร้านนั้นแป๊บนึง”
มื้อเช้ายังไม่ตกถึงท้อง...เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการค้นย้ายข้าวของ และตอนนี้มันก็สายจนใกล้จะเป็นเวลามื้อเที่ยง แถมน้องยังพูดไม่รู้ฟังอีก ชานยอลบ่นได้แค่ในใจก่อนเดินตามเซฮุนไปยังร้านที่ขายแต่พวกลูกกวาดโดยเฉพาะ แบบเม็ด
แบบแท่ง ทรงกลม ทรงเหลี่ยม
สีแดง สีฟ้า...มีหมด ถูกใจน้องเขาล่ะ!!
“กินข้าวก่อนได้ไหมแล้วค่อยมาซื้อ”
“ซื้อก่อนนะ...เจออันที่อยากกินพอดี ไม่เดินดูหรอก”
“ไปหยิบมา...พี่จะรอตรงที่คิดเงิน”
วิ่งปรู๊ดดด...เข้าไปในร้านก่อนคว้าลูกอมแบบแท่งหลากสีมาสองอัน และเดินกลับมาคิดเงินตามที่คนเป็นพี่ได้บอกเอาไว้
ชานยอลหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากด้านหลังของกางเกงยีนส์และส่งเงินให้กับพนักงานทันทีเมื่อน้องได้ของที่ต้องการ
“อะ...แบ่งกันคนละอัน”
“ถ้าปวดฟันนะ....”
บ่นไปอย่างนั้น...แต่ก็รับลูกอมจากน้องมาหนึ่งแท่งก่อนแกะฟรอยออกเล็กน้อย และสีแรกในซองลูกกวาดก็คือสีแดง
เซฮุนรีบแลบลิ้นโชว์ให้คนเป็นพี่ได้เห็นว่าเขาก็ได้สีแดงเช่นกัน ลูกอมหนึ่งแท่งจะมีจำนวนลูกอมอยู่ 10 เม็ด
และเกือบทุกครั้งที่จะแกะกิน...เซฮุนก็มักจะเล่นทายสีกับพี่ชายว่าใครจะได้สีอะไร ใครทายถูกได้กิน ส่วนใครท้ายผิดก็ต้องยกลูกอมเม็ดนั้นให้อีกคน
“ต่อไปเป็นสีอะไร?”
“พี่ว่าสีเขียว”
“ผมว่าสีส้ม...”
“ไปกินข้าวก่อน...กลับห้องค่อยเฉลย”
“ก็ได้”
จำเป็น...ต้องเก็บห่อลูกกวาดไว้ในกระเป๋าเสื้อและเดินตามพี่ชายไปที่ร้านอาหาร ประตูหน้าร้านถูกเปิดด้วยมือของชานยอล แต่ผู้ที่เดินเข้าไปด้านในก่อนก็คือเซฮุน คนเป็นน้องกวาดสายตามองไปรอบๆร้านเพื่อหาที่นั่งในแบบที่ตัวเองชอบ ซ้ายคนเยอะไป
ตรงนั้นน่านั่งแต่พนักงานยังไม่มาเก็บโต๊ะและด้านในสุดติดกำแพงก็คือเป้าหมาย เซฮุนรีบคว้ามือพี่ชายเดินไปตรงที่คิดว่าน่านั่งมากที่สุดในร้าน
แต่........!?
“อ้าวว...”
“มีคนจองไว้แล้ว...เรานั่งฝั่งนี้ก็ได้”
“เสียดายอะ”
“ไม่เป็นไร...ช่างมันเถอะ”
มือใหญ่ๆ...ยกขึ้นลูบศีรษะคนเป็นน้องทันทีเพราะทราบดีว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกเช่นไร บางเรื่องถ้าตามใจกันได้ก็จะตามใจ
แต่บางเรื่องเราก็ต้องเคารพกฎในแต่ละสถานที่เช่นกัน โต๊ะที่หมายตาถูกจองไว้แล้ว
แต่น้องไม่ทันได้สังเกตป้ายจนเราเดินเข้ามาถึงที่ และนั่นจึงเป็นเหตุให้เซฮุนนั่งทำหน้าบึ้งอยู่ในตอนนี้
“อยากนั่งตรงนั้นอะ”
“จะนั่งได้ไง...มีคนจองแล้ว”
“ผมรู้...แต่มันหงุดหงิดหนิ อุตส่าห์เจอที่ดีๆ”
“ขอโทษนะ...พี่ผิดเองที่ไม่ได้โทรมาจองก่อน”
“พี่ชานยอลไม่ผิดสักหน่อย...ผมหายหงุดหงิดก็ได้ เราสั่งอาหารกันเถอะ”
ยอมรับว่าผิดจริง...เพราะร้านอาหารเกือบทุกร้านถ้าอยากได้ที่นั่งดีๆก็ต้องโทรมาจองล่วงหน้า ชานยอลจึงอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ และยิ่งชานยอลคิดแบบนี้ คนเป็นน้องก็ยิ่งต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนที่บรรยากาศในการทานอาหารจะแย่ลง เซฮุนก็ขอยอมรับว่าตัวเองถูกตามใจ ถูกให้ท้ายและถูกพี่ชานยอลดูแลมาดีมากแค่ไหน เขาจึงไม่อยากเป็นภาระหรือทำให้พี่ชายต้องหนักใจอีกแล้วเพราะอายุ 22 มันก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ รู้ผิดรู้ถูกหรือรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร เขาจะงอแงกับทุกๆเรื่องที่ถูกขัดใจไม่ได้
“ซุปกิมจิ ไก่ทอดแบบเผ็ดขนาดกลาง ไส้ย่างชุดB
จับแช...ข้าวญี่ปุ่นสองที่
โค้กสองที่นะคะ”
“ครับ ขอบคุณคะ...ครับ อื้มมม!!!”
สั่งอาหาร ทวนออร์เดอร์...และส่งคืนเมนูให้กับพนักงานสาว ชานยอลกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มให้ตามมารยาท แต่!!!ปากหยักที่ทำหน้าที่ส่งยิ้มกลับถูกมือบางที่มีกลิ่นของลูกกวาดเล็กน้อยปิดไว้จนแทบหายใจไม่ออก แถมยังรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ถูกกระทำ
“ตายซะดีมั้ง!”
“เดี๋ยวก็ได้ตายจริงๆหรอก...เล่นอะไรเนี่ย!!”
“ยิ้มนานไปแล้วนะ...”
“ไม่ให้ยิ้มแล้วจะให้แลบลิ้นใส่เค้าหรือไง”
“เออ!”
“เรานี่น้าาา....”
“แล้วจะทำไม?!”
หวง...หวงมาก เซฮุนหวงพี่ชายคนนี้มากกว่าสิ่งใด รองจากพ่อแม่แล้ว คนที่ห่วงและหวงที่สุดก็คือพี่ชานยอล หล่อขนาดนี้
สูงยาวเข่าดีขนาดนี้
มีคนเดียวในโลกขนาดนี้
ทำไมเขาจะหวงไม่ได้!!
รู้ว่าทุกอย่างทำไปตามมารยาท
แต่ก็ไม่ต้องยิ้มกว้างขนาดนั้นก็ได้
“ไม่ต้องมีกัน...ฟงแฟน”
“ก็มีไปสิ...ใครจะว่าอะไรล่ะ!”
“เหรออออออออ!”
ไม่ว่า...เซฮุนไม่เคยว่าเลยสักครั้งถ้าพี่อย่างเขาจะมีแฟน แต่!!ชีวิตของชานยอลมันคล้ายว่าจะต้องคำสาปเพราะมีแฟนทีไรก็ต้องเลิกรากันทุกครั้งและคบได้ไม่นานเพราะชีวิตของเขามันเหมือนจะไม่สามารถให้ใครเข้ามาแทรกได้ ทุกเวลายกให้น้อง ทุกนาทีมีแต่น้อง...และทุกๆวันก็จะทุ่มเทให้เซฮุนทั้งหมด ใช่ว่าไม่เปิดใจรับคนอื่น แต่เหมือนคนอื่นจะไม่เปิดใจรับครอบครัวของเขามากกว่า ความรักไม่เคยเป็นเรื่องของเราสองคน
แต่มันเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นถ้าเรามีครอบครัว
ถ้าแฟนจะแยกเขาออกจากน้องเมื่อไหร่...ทุกอย่างคือจบ!
“ผมไม่เห็นอยากจะมีแฟนเลย...มีทำไมก็ไม่รู้ ปวดหัวจะตาย”
“สวยเลือกได้ว่างั้น...หยิ่งมากๆระวังจะขึ้นคานนะครับน้อง”
“ขึ้นคานไม่กลัว...กลัวขึ้นหม้อมากกว่า ข้าวสวยร้อนๆ
ใครๆก็อยากตักไปกินนะจะบอกให้!!”
“ใครตักไปแดก...กูจะแตะปากให้!!”
เออ...สวย!! น้องของเขาสวยมาก ชานยอลต้องขอยอมรับในข้อนี้ เซฮุนสวยเหมือนแม่ไม่มีผิด ผิวขาวดั่งน้ำนม ผมเส้นเล็กเรียงเส้นสวย จมูกโด่งเป็นสันเป็นทรงรับกับใบหน้า คิ้วก็โก่งคมเข้ากับดวงตาเรียว ทุกๆอย่างที่เป็นน้องของเขามันต้องชมว่าสวยมากกว่าคำว่าหล่อ ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ...ฝรั่งตามจีบกันจนช็อคโกแลตล้นตู้
ในล็อคเกอร์ที่โรงเรียนก็เต็มไปด้วยจดหมายบอกรัก
แต่ใคร...จะจีบติดในเมื่อทุกเวลาของเซฮุนก็เป็นของพี่ชานยอลทั้งหมด!!
ถ้าหาคนที่ดี...เท่าพี่ชายของเขาได้ไม่ก็อย่าหวังว่าเซฮุนจะยอมเดทด้วย ที่เข้าหาก็เพราะหวังแค่เรื่องอย่างว่ากันทั้งนั้น ทำไมจะไม่รู้
เขารู้หมดนั้นแหละว่าใครคิดอะไร
ใครดีมาก็คบไว้เป็นเพื่อน ใครร้ายมาก็จะร้ายกลับไปเช่นกันและจะร้ายกว่าหลายเท่าถ้ารู้ว่าใครคนนั้นคิดจะมาแยกเขาออกจากพี่ชานยอล ไม่เคยมีใครได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเซฮุนเลยสักคนเพราะทุกคนไม่ยอมเข้าใจหรือพยายามจะทำเข้าใจในความรักระหว่างเราพี่น้อง
“โต๊ะที่จองไว้ครับ...ชื่อ
คิมจงอิน ครับ”
“เชิญค่ะ...เชิญด้านในเลยค่ะ”
(แบคฮยอนอย่าวิ่ง...เดี๋ยวหกล้ม!!)
เสียงของพนักงานหญิง เสียงของการตอบโต้จากทางด้านหลังหรือจะเป็นเสียงห้ามปรามที่ทุ้มต่ำก็ทำให้ใบหน้าเรียวสวยต้องหันไปมองและทุกๆเสียงก็ทำให้เซฮุนทราบว่าโต๊ะที่เขาหมายตาเอาไว้ ใคร!!?เป็นคนจอง...ผู้ชายผิวเข้ม ค่อนข้างมีอายุ แต่งกายใส่สูทดูภูมิฐาน ส่วนผู้ชายอีกคนตัวเล็ก ผิวขาว
ผมสีน้ำตาล ใส่ชุดนักเรียนมัธยม
อ๋อออ...คุณพ่อพาลูกชายมาทานอาหารนี่เอง!?
“เสียมารยาทเซฮุน”
“ก็แค่อยากรู้เฉยๆว่าใครจอง”
(อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ...)
ถ้าพนักงานยังไม่นำอาหารมาเสิร์ฟ...น้องของเขาก็คงยังไม่เลิกเสียมารยาทเพราะการเอาแต่จ้องมองผู้ที่จองโต๊ะโปรดเอาไว้มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร แค่ปรายตามองก็ว่าเสียมารยาทแล้ว
แต่เซฮุนกลับมองไปที่พวกเขาตรงๆอย่างไม่ปิดบัง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ชานยอลเอ่ยปรามได้อย่างไร
“อยากกินไก่แบบนั้น...แต่เอาไม่เผ็ด”
“ดูเมนู...ไม่ใช่ไปดูอาหารของคนอื่น”
“ก็มันเห็นพอดี”
หนุ่มผิวเข้ม...จำเป็นต้องก้มศีรษะให้ชานยอลเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอโทษเพราะคนที่มาด้วยกระทำการเสียมารยาท
ดวงตาคู่คมใช้มองเพื่อกดดันให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองสิ่งที่อยากทานในเมนูไม่ใช่เอาแต่มองอาหารบนโต๊ะของคนอื่น
“จับแชอร่อยอะ...อ้าปาก อร่อยจริงๆนะ...ชิมๆๆ”
“............อื้มมม............”
“อร่อยเนอะ”
“เออ...อร่อยว่ะ ป้อนอีกๆ
เอาเนื้อใส่มาด้วย”
และการป้อนอาหาร
การชิมรสชาติที่ไม่ได้ทานมานานแสนนานพร้อมรอยยิ้มของคนทั้งสองคนก็ทำให้หนุ่มผิวเข้มถึงกับต้องส่ายศีรษะหลังจากที่เพิ่งก้มหัวเพื่อเป็นการขอโทษไปได้ไม่นาน การมีความรักไม่ใช่เรื่องผิด การแสดงความรักก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ต้องกระทำการโจ่งแจ้งขนาดนั้นก็ได้ วัยรุ่นก็เป็นแบบนี้สินะ...จะทำอะไรก็ดูเปิดเผยไปเสียหมด และถ้าวันนี้คนตัวใหญ่ๆพาอีกคนที่มีใบหน้าเรียวสวยมาทานข้าวก็คงต้องต่อทริปด้วยการพาไปดูหนัง ไปช้อปปิ้งหรือไปทำอะไรในแบบที่คู่รักเกือบทุกคู่ชอบทำ
เป็นแฟนกัน...ก็ต้องทำแบบนี้สินะ!?
♡ ♡ ♡ ♡
100%
Cr.
ภาพหน้าบทความ : IG> OOHSEHUN
Cr.
ภาพหน้าไอคอน : IG> OOHSEHUN
Cr.
ภาพในตอนที่ 1 : IG> OOHSEHUN และ cookerru.com
***จับแช
Talk.
สวัสดีปีใหม่ค่าาาา...ไรเตอร์ผู้พี่เปิดฟิคเรื่องใหม่อีกแล้ว '^^)
และอนุญาตชี้แจงนะคะ......
ข้อแรก...ฟิคเรื่องนี้แต่ละตอนจะสั้นกว่าทุกๆเรื่องที่เคยแต่งและดูเหมือนว่ามันจะสั้นลงเรื่อยๆเลย 5555555+ สมองไม่ค่อยดีค่ะ ยิ่งแก่ยิ่งแย่ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะ สู้!!!!
ข้อสอง...บอกตรงๆว่าไม่รู้จะอัพจนถึงตอนจบได้หรือไม่ แต่ก็จะพยายามเต็มที่อีกเช่นกันค่ะ ต้นทางดูเหมือนง่าย แต่ระหว่างทาง
กลางทางหรือจนถึงปลายทางมันไม่เคยง่ายเลย
และที่เริ่มแต่งฟิคอีกครั้งก็เพราะถ้าไม่เริ่มเราก็จะลืมแนวทางการเขียนของตัวเอง ยิ่งทิ้งระยะไว้นานเท่าไหร่ สมองกับจินตนาการก็จะยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆจนอาจลืมทุกอย่าง
ข้อสาม...ถ้าฟิคเรื่องนี้มีข้อผิดพลาด บกพร่องหรือมีสิ่งที่ต้องแก้ไข สามารถบอกกล่าวกันได้เสมอนะคะ
ข้อสี่...หากไม่เป็นการรบกวน
ช่วยให้กำลังใจ
คอมเมนต์และติดแท็กให้เราด้วยน้าาา
ข้อห้า...ฝากติดตาม #KHanother ด้วยค่ะ
เลิบบบบ ♡
#KHanother
ความคิดเห็น