ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว(EXO) Another (Kaihun Ft.Chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #1 : ♡1

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 64




    1… 

     

     

    Condominium XXX

    ติ๊งงง!!!

     

                “อันนี้ชุดสุดท้ายแล้วครับ”

     

                “ขอบคุณมากครับ”

     

                “ถ้าเช็คของแล้วเกิดความเสียหาย...รีบแจ้งกับทางบริษัทได้เลยนะครับ”

     

                “โอเคครับ...ขอบคุณนะครับ”

     

                “ยินดีให้บริการครับ....”

     

                เสียงลิฟท์...ประตูสีทองที่เปิดออกและกล่องลังใบใหญ่มากมายที่ถูกยกมากองไว้หน้าห้องเบอร์ 902  คือสิ่งที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ต้องจัดให้เป็นระเบียบเพราะคอนโดฯสุดหรูแห่งนี้จะเป็นที่พักพิงสุดท้ายหลังจากที่ต้องย้ายไปนั่นมานี่อยู่บ่อยครั้ง  และดีที่เจ้าของห้องคนเก่าเป็นคนเจ้าระเบียบ  ห้องจึงดูสะอาดเหมือนใหม่  แถมยังไม่มีตำหนิเลยแม้แต่น้อย

     

     

                ที่เลือกคอนโดฯ XXXเป็นที่พักพิง...ก็เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว  และตึกขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแห่งนี้ก็มีเพียงเก้าชั้น  แต่ละชั้นก็มีเพียงสองห้องเท่านั้น  เจ้าของห้องคนเก่าจำใจประกาศขายเพราะต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ  ส่วนเขาที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้เพียงไม่กี่วันก็ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่...และหวังว่าจะไม่ต้องย้ายไปไหนอีกแล้ว  กว่าจะเจอที่อยู่ที่ถูกใจไม่ใช่เรื่องง่าย  กว่าจะขออนุญาตพ่อแม่เพื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและกว่าทุกอย่างจะลงตัวแบบนี้ก็ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกันเพราะ......

     

                พี่ชานยอล...!!!

     

    เขาไม่ได้อยู่คนเดียว?

     

                เซฮุน...ไม่ต้องยก  เดี๋ยวพี่ทำเอง!!

     

                เจ้าของชื่อ...รีบหันไปบอกต้นเสียงที่เอ่ยเรียก  แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนักเพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการจัดห้องให้เรียบร้อย  เสียงแกะกล่องกระดาษ  เสียงการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือเสียงเจื้อยแจ้วของน้องชายที่เอาแต่บ่นอาจเป็นการรบกวนคนข้างห้องถ้าเขายังทำอะไรชักช้า  คนเป็นพี่อยากจัดห้องให้เสร็จก่อนค่ำ  แต่ดูเหมือนว่า!!มันจะไม่เสร็จจริงๆเพราะ...

     

                “พี่ชานยอลดูรูปนี้สิ...น่าเกลียดอะ  แล้วทำไมผมถึงไม่ใส่กางเกง?”  อีกคนกำลังจัดของ...แต่อีกคนกลับรื้อเจออัลบั้มรูปสมัยที่เรายังเป็นเด็กและเปิดดูก่อนถามนั่นถามนี่จนปากยื่นปากยาว

     

                ชานยอล...พี่ชายวัย 32 ปี  ทำได้เพียงส่ายศีรษะเพราะตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวน้องเลยสักคำและถ้าให้พูดถึงการลงไม้ลงมือก็อย่างหวังว่ามันจะเกิดขึ้นกับผู้เป็นน้อง  เสียใจก็โอบกอด  เสียขวัญก็โอบอุ้มหรือถ้าดื้อมากๆ....ก็จะพามานั่งบนตักก่อนอธิบายทุกอย่างให้น้องเข้าใจ  ชานยอลไม่เคยคิดที่จะตีน้องคนนี้เลยสักครั้งและแม้แต่จะง้างมือเมื่อเกิดโทสะก็ไม่เคยเกิดขึ้น

     

                “กางเกงเลอะขี้...พี่ก็เลยถอดออก แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ยอมใส่กางเกงตัวใหม่  ตอนนั้นเราน่ะดื้อมาก...ขี้แตกไม่พอ  ยังแก้ผ้าวิ่งเล่นจนป่วย”  ภาพที่เด็กน้อยตัวขาวๆอายุสามขวบกำลังช่วยคุณพ่อล้างรถจนตัวเปียก  แถมยังขับถ่ายออกมาจนเปื้อนกางเกงและไม่ยอมเสื้อผ้าอีกเลย...มันได้กลายเป็นความทรงจำที่พาให้ชานยอลอดหัวเราะไม่ได้

     

                และเซฮุน...น้องชายวัย 22 ปี  ก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้เช่นกันเพราะช่วงวัยในตอนนั้นมันจำอะไรไม่ได้เลย  แถมอัลบั้มที่เขาถืออยู่ในมือตอนนี้ก็ไม่ได้เปิดดูมาหลายปี  มือบางค่อยๆพลิกรูปดูไปทีละภาพ  ทีละภาพ  สองขาก็ค่อยๆก้าวไปที่โซฟากลางห้องอย่างเชื่องช้าและค่อยๆหย่อนกายลงนั่งเพื่อตั้งใจดูความสุขที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนพี่น้อง

     

     

                ไม่มีช่วงไหนเลย...ที่เราทั้งคู่จะไม่อยู่ในรูปสักใบ ทุกๆภาพจะต้องมีเขาและพี่ชานยอลอยู่ในเฟรมด้วยเสมอ  คุณพ่อเป็นคนถ่ายให้บ้าง  คุณแม่เป็นคนถ่ายให้บ้าง สลับกันอยู่แบบนี้หรือถ้าจะให้มีรูปครบทั้งครอบครัวก็ต้องเรียกแม่บ้านหรือพ่อบ้านมาช่วยถ่ายรูปให้  และเมื่อพูดถึงพ่อกับแม่...มือที่เคยถืออัลบั้มรูปก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการล้วงสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง

     

    Rrrrr!!!

    Rrrrr!!!

     

                “ว่ายังไงเจ้าจอมจุ้น”

     

                (คิดถึงฮะ...แล้วพ่อกับแม่เป็นยังไงมั่ง)

     

                “ก็งานยุ่งเหมือนเดิม...แต่ก็สบายดี  ลูกๆไม่ต้องเป็นห่วง  แล้วพี่ชานยอลไปไหน?”

     

                (ก็อยู่นี่แหละฮะ...กำลังจัดของอยู่)

     

                “พี่เค้าให้นั่งเฉยๆอีกล่ะสิ...ห้ามยกของเดี๋ยวพี่ทำเอง  แบบนั้นใช่ไหม?”

     

                (ใช่เลยฮะ...^^)

     

                “แล้วเราอยู่ได้ใช่ไหม...ลำบากอะไรรีบบอกพ่อเลยนะ  แต่อย่าบอกแม่  เดี๋ยวแม่บ่น”

     

                (ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า...ผมจะไม่บอกแม่แน่นอน)

     

                อดห่วงไม่ได้...เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาจะต้องปล่อยให้ลูกอยู่กันตามลำพัง  ความห่างไกลที่ไกลกันจนอยู่คนละประเทศมันทำให้เป็นห่วงลูกๆทั้งสองคน  ใช่ว่าอยากปล่อยให้เป็นแบบนี้  แต่จะให้อนาคตของลูกเลื่อนลอยไปกับการย้ายที่อยู่บ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี  การทำงานเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกรถยนต์ในต่างประเทศทำให้พ่ออย่างเขาต้องเดินทางบ่อย  ส่วนคนเป็นภรรยาก็ต้องมาเป็นทูตประจำอยู่ที่ประเทศXX...ซึ่งอาชีพการงานของพวกเรามักจะสร้างผลกระทบให้กับลูกๆอยู่เสมอ  และเพราะเป็นแบบนี้...ลูกชายคนโตอย่างชานยอลจึงตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ที่มั่นคงถาวร  แถมยังให้สัญญาว่าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี

     

                เซฮุน...เรื่องเรียนไม่ต้องเป็นห่วงนะลูก  พ่อจัดการให้หมดแล้ว

     

                (ขอบคุณฮะ...แต่เรื่องฝึกงานผมขอหาเองนะ  พ่อห้ามใช้เส้นเด็ดขาด)

     

                โอเค...เรื่องนี้พ่อจะไม่ยุ่ง

     

                (คิดถึงพ่อกับแม่นะฮะ...รักษาสุขภาพกันด้วยนะฮะ  ผมเป็นห่วง)

     

                [คิดถึงนะค้าบบบบบบบบ!!!!]

     

                ฝากบอกพี่เค้าด้วยว่าพ่อกับแม่ก็คิดถึง...ว่างๆก็บินกลับมาหากันบ้าง

     

                (ได้เลยฮะ...)

     

                พ่อต้องวางสายแล้วน้าาา

     

                (โอเค...คิดถึงนะฮะ  ว่างๆผมจะโทรไปใหม่)

     

                คนเป็นลูก...ก็ใช่ว่าเคยต้องห่างไกลกับพ่อแม่มากถึงขนาดนี้  แต่เพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองมันก็คงต้องอดทนเอาไว้  การย้ายที่อยู่ตามผู้ปกครองบ่อยๆไม่เป็นผลดีต่อการเรียนของเซฮุนเลยสักครั้ง  เรียนที่นั่นได้สองเทอมต้องลาออก  ไปเรียนที่ใหม่ได้สองเดือนก็ต้องย้ายอีก...การทำงานของพ่อแม่ทำให้ลูกคนเล็กอย่างเขาต้องเรียนบางวิชาซ้ำไปซ้ำมาจนน่าเบื่อ  แต่ตอนนี้มันคงไม่ต้องย้ายไปไหนอีกแล้วเพราะพี่ชายของเขาเพิ่งซื้อคอนโดฯใหม่  แถมยังให้อยู่ห้องที่ใหญ่ที่สุด  สวยที่สุดและพี่ชานยอลก็ใจดีที่สุด

     

                “พ่อว่าไงมั่ง?”

     

                และพี่ชายใจดี...ก็ขอหลบมาพักจากการจัดของและเอนกายลงนอนบนตักของน้องอย่างสบายใจ  สองขาที่ดูจะยาวกว่าโซฟาถูกพาดไว้บนพนักแขน  ส่วนสองมือก็คว้าอัลบั้มรูปมาเปิดดูบ้างเพราะกว่าจะขอพ่อแม่มาได้ก็ต้องหาคำมาหว่านล้อมจนเหนื่อย  มันเหมือนเป็นที่เก็บความทรงจำของทั้งครอบครัว  ภาพตอนที่พ่อแม่ยังหนุ่มยังสาว  ภาพที่เขาเพิ่งเกิดหรือภาพที่คุณแม่ยังมีน้องอยู่ในท้องจนกระทั่งคลอด...ทุกๆภาพมันกลายเป็นที่เก็บความสุขของพวกเราเอาไว้  

     

                “พ่อฝากบอกว่าคิดถึง...ว่างเมื่อไหร่ก็บินกลับไปหาด้วย  แล้วก็ฝากดูแลน้องให้ดี  อย่าแกล้งน้อง  ตามใจน้องเยอะๆ  พ่อว่างี้”

     

                “อันหลังเติมเองมากกว่ามั้งไอ้ตัวจุ้น!

     

                “ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า....”

     

                ไม่ต้องฝากฝัง...ชานยอลก็ทำหน้าที่ของพี่ได้ดีอยู่เสมอเพราะพ่อกับแม่มักจะงานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลลูกคนเล็กอย่างเซฮุน  ตอนเขายังเด็กพ่อกับแม่งานยุ่งไม่มากเท่านี้  แต่พอท่านได้ปรับตำแหน่ง  ได้เลื่อนขั้นจากหน้าที่เดิม  ความรับผิดชอบก็มีมากขึ้นตามลำดับและหน้าที่ของการดูแลเซฮุนก็เหมือนจะกลายเป็นเขานับตั้งแต่นั้น  กิน  นอน  ขับถ่าย  อาบน้ำ  พาไปโรงเรียน  ทุกๆอย่างคือสิ่งที่คนเป็นพี่ต้องทำให้น้องจนเหมือนเขาเป็นผู้ปกครองอีกหนึ่งคนของเซฮุน

     

                “หิวยัง...ไปหาอะไรกินกันก่อนไหมแล้วค่อยๆมาจัดห้องต่อ”

     

                “ก็ดีเหมือนกัน...แต่กลับมาผมขอจัดห้องนอนเองได้ไหม  พี่ชานยอลก็จัดห้องของตัวเองไป  ส่วนห้องครัวกับห้องนั่งเล่นก็ช่วยกันจัด”

     

                “ตามใจ....”

     

                ใครๆ...ก็มักจะบอกว่าเขาเหมือนองค์หญิงเพราะมีองค์ชายอย่างพี่ชานยอลคอยทำนู่นทำนี่ให้สารพัด  ขึ้นรถก็เปิดประตูให้  ไปช้อปปิ้งก็ถือของให้หมดและถ้าวันนี้ไม่เอ่ยปากว่าอยากจัดห้องนอนเอง  ชานยอลก็จะเนรมิตทุกอย่างได้ด้วยสองมือ  มันเหมือนจะไม่มีเรื่องใดในโลกที่พี่ชายของเขาทำไม่ได้  เซฮุนจึงมักจะคิดเสมอว่าพี่ของตัวเองเป็นยอดมนุษย์  เป็นฮีโร่และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา

     

    และตอนนี้...องค์หญิงเซฮุนแห่งดินแดนอันไกลโพ้นก็กระโดดขี่คอองค์ชายชานยอลเพื่อออกไปทานมื้อเช้า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ♡ ♡ ♡ ♡

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้างสรรพสินค้า XXX

    VROOMMMMM!!!

    VROOMMMMM!!!

     

                “พี่ไม่ได้มาที่นี่กี่ปีแล้วเนี่ย?”

     

                “อย่าว่าแต่ที่นี่เลย...ประเทศนี้ต่างหาก”

     

                ใช่แล้ว...ถึงเราสองคนพี่น้องจะเกิดที่นี่กันก็จริง  แต่การที่ต้องย้ายที่อยู่ตามผู้ปกครองไปประเทศนั้นประเทศนี้มันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ได้กลับมาบ้านเกิดอีกเลย   พาหนะยี่ห้อดังคันใหญ่จอดลงเมื่อถึงที่หมายที่คุ้นเคย  ประตูรถถูกเปิดและปิดด้วยมือของผู้ขับ...แล้วผู้ขับก็ต้องรีบลงไปเปิดประตูอีกฝั่งให้ผู้เป็นน้อง

     

                “ขอบคุณฮะ”

     

                ใช่ว่าขี้เกียจ  ใช่ว่าเปิดไม่เป็นหรือทำไม่ได้  แต่มันเป็นความเคยชินของทั้งสองคน  ตอนยังเด็ก...เซฮุนต้องถูกอุ้มลงจากรถด้วยซ้ำ  แต่ตอนนี้ไม่ต้องอุ้มแล้ว  และเหลือเพียงแค่พี่ชายที่ยังต้องเปิดปิดประตูรถให้น้องเหมือนเดิม  เคยดูแลกันมาอย่างไรก็ยังทำอยู่อย่างนั้น  บางอย่างอาจทำให้ต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปตามช่วงวัย  แต่บางอย่างก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด

     

                “กินอะไรดี...กินอะไรดี???”

     

                “พี่บอกให้คิดตั้งแต่ในรถก็ไม่คิด”

     

                “ก็ผมคิดไม่ออกหนิ...แล้วพี่ชานยอลล่ะ  คิดออกมะ?”

     

                “อยากกินซุปกิมจิกับไก่ทอดเผ็ดๆ”

     

                “งั้นผมกินด้วย...เอาจับแช***ด้วยนะ  ไม่ได้กินนานแล้ว”

     

                “ร้านอยู่ชั้นสี่  จับราวบันไดดีๆเดี๋ยวล้ม...เซฮุน!!

     

                “รู้น่ะ!

     

                ความพูดเจื้อยแจ้ว  เดินไม่ดูทางและชี้ไม้ชี้มือไปทางนั้นทางนี้ของน้อง  ทำให้ชานยอลต้องเอ่ยปรามก่อนต้องย่นคิ้วอย่างนึกเป็นห่วงมากกว่าจะหงุดหงิด  แล้วขาก็ไม่รู้เป็นอะไร  มีอยู่แค่สองขาแต่ก็มักจะเดินให้มันพันกันแล้วก็สะดุดรองเท้าตัวเอง  ชานยอลไม่เคยเข้าใจอาการแบบนี้ของเซฮุนเลยสักครั้ง  ขนาดเกิดมาจนอายุ 22 แต่นิสัยบางอย่างก็ยังเหมือนตอนสองขวบ

     

                “เซฮุนเลี้ยวซ้าย...ซ้าย  พี่บอกว่าซ้าย!!

     

                “รู้แล้วววว...แต่ขอไปดูร้านนั้นแป๊บนึง”

     

                มื้อเช้ายังไม่ตกถึงท้อง...เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการค้นย้ายข้าวของ  และตอนนี้มันก็สายจนใกล้จะเป็นเวลามื้อเที่ยง  แถมน้องยังพูดไม่รู้ฟังอีก  ชานยอลบ่นได้แค่ในใจก่อนเดินตามเซฮุนไปยังร้านที่ขายแต่พวกลูกกวาดโดยเฉพาะ  แบบเม็ด  แบบแท่ง  ทรงกลม  ทรงเหลี่ยม  สีแดง  สีฟ้า...มีหมด  ถูกใจน้องเขาล่ะ!!

     

                “กินข้าวก่อนได้ไหมแล้วค่อยมาซื้อ”

     

                “ซื้อก่อนนะ...เจออันที่อยากกินพอดี  ไม่เดินดูหรอก”

     

                “ไปหยิบมา...พี่จะรอตรงที่คิดเงิน”

     

                วิ่งปรู๊ดดด...เข้าไปในร้านก่อนคว้าลูกอมแบบแท่งหลากสีมาสองอัน  และเดินกลับมาคิดเงินตามที่คนเป็นพี่ได้บอกเอาไว้  ชานยอลหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากด้านหลังของกางเกงยีนส์และส่งเงินให้กับพนักงานทันทีเมื่อน้องได้ของที่ต้องการ

     

                “อะ...แบ่งกันคนละอัน”

     

                “ถ้าปวดฟันนะ....”

     

                บ่นไปอย่างนั้น...แต่ก็รับลูกอมจากน้องมาหนึ่งแท่งก่อนแกะฟรอยออกเล็กน้อย  และสีแรกในซองลูกกวาดก็คือสีแดง  เซฮุนรีบแลบลิ้นโชว์ให้คนเป็นพี่ได้เห็นว่าเขาก็ได้สีแดงเช่นกัน  ลูกอมหนึ่งแท่งจะมีจำนวนลูกอมอยู่ 10 เม็ด  และเกือบทุกครั้งที่จะแกะกิน...เซฮุนก็มักจะเล่นทายสีกับพี่ชายว่าใครจะได้สีอะไร  ใครทายถูกได้กิน  ส่วนใครท้ายผิดก็ต้องยกลูกอมเม็ดนั้นให้อีกคน

     

                “ต่อไปเป็นสีอะไร?”

     

                “พี่ว่าสีเขียว”

     

                “ผมว่าสีส้ม...”

     

                “ไปกินข้าวก่อน...กลับห้องค่อยเฉลย”

     

                “ก็ได้”

     

                จำเป็น...ต้องเก็บห่อลูกกวาดไว้ในกระเป๋าเสื้อและเดินตามพี่ชายไปที่ร้านอาหาร  ประตูหน้าร้านถูกเปิดด้วยมือของชานยอล  แต่ผู้ที่เดินเข้าไปด้านในก่อนก็คือเซฮุน  คนเป็นน้องกวาดสายตามองไปรอบๆร้านเพื่อหาที่นั่งในแบบที่ตัวเองชอบ  ซ้ายคนเยอะไป  ตรงนั้นน่านั่งแต่พนักงานยังไม่มาเก็บโต๊ะและด้านในสุดติดกำแพงก็คือเป้าหมาย  เซฮุนรีบคว้ามือพี่ชายเดินไปตรงที่คิดว่าน่านั่งมากที่สุดในร้าน

     

    แต่........!?

     

                “อ้าวว...”

     

                “มีคนจองไว้แล้ว...เรานั่งฝั่งนี้ก็ได้”

     

                “เสียดายอะ”

     

                “ไม่เป็นไร...ช่างมันเถอะ”

     

                มือใหญ่ๆ...ยกขึ้นลูบศีรษะคนเป็นน้องทันทีเพราะทราบดีว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกเช่นไร  บางเรื่องถ้าตามใจกันได้ก็จะตามใจ  แต่บางเรื่องเราก็ต้องเคารพกฎในแต่ละสถานที่เช่นกัน  โต๊ะที่หมายตาถูกจองไว้แล้ว  แต่น้องไม่ทันได้สังเกตป้ายจนเราเดินเข้ามาถึงที่  และนั่นจึงเป็นเหตุให้เซฮุนนั่งทำหน้าบึ้งอยู่ในตอนนี้

     

                “อยากนั่งตรงนั้นอะ”

     

                “จะนั่งได้ไง...มีคนจองแล้ว”

     

                “ผมรู้...แต่มันหงุดหงิดหนิ  อุตส่าห์เจอที่ดีๆ”

     

                “ขอโทษนะ...พี่ผิดเองที่ไม่ได้โทรมาจองก่อน”

     

                “พี่ชานยอลไม่ผิดสักหน่อย...ผมหายหงุดหงิดก็ได้  เราสั่งอาหารกันเถอะ”

     

                ยอมรับว่าผิดจริง...เพราะร้านอาหารเกือบทุกร้านถ้าอยากได้ที่นั่งดีๆก็ต้องโทรมาจองล่วงหน้า  ชานยอลจึงอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้  และยิ่งชานยอลคิดแบบนี้  คนเป็นน้องก็ยิ่งต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนที่บรรยากาศในการทานอาหารจะแย่ลง  เซฮุนก็ขอยอมรับว่าตัวเองถูกตามใจ  ถูกให้ท้ายและถูกพี่ชานยอลดูแลมาดีมากแค่ไหน  เขาจึงไม่อยากเป็นภาระหรือทำให้พี่ชายต้องหนักใจอีกแล้วเพราะอายุ 22 มันก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้  รู้ผิดรู้ถูกหรือรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร  เขาจะงอแงกับทุกๆเรื่องที่ถูกขัดใจไม่ได้

     

                “ซุปกิมจิ  ไก่ทอดแบบเผ็ดขนาดกลาง  ไส้ย่างชุดB  จับแช...ข้าวญี่ปุ่นสองที่  โค้กสองที่นะคะ”

     

                “ครับ  ขอบคุณคะ...ครับ  อื้มมม!!!

     

                สั่งอาหาร  ทวนออร์เดอร์...และส่งคืนเมนูให้กับพนักงานสาว  ชานยอลกล่าวขอบคุณและส่งยิ้มให้ตามมารยาท  แต่!!!ปากหยักที่ทำหน้าที่ส่งยิ้มกลับถูกมือบางที่มีกลิ่นของลูกกวาดเล็กน้อยปิดไว้จนแทบหายใจไม่ออก  แถมยังรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ถูกกระทำ

     

                “ตายซะดีมั้ง!

     

                “เดี๋ยวก็ได้ตายจริงๆหรอก...เล่นอะไรเนี่ย!!

     

                “ยิ้มนานไปแล้วนะ...”

     

                “ไม่ให้ยิ้มแล้วจะให้แลบลิ้นใส่เค้าหรือไง”

     

                “เออ!

     

                “เรานี่น้าาา....”

     

                “แล้วจะทำไม?!

     

                หวง...หวงมาก  เซฮุนหวงพี่ชายคนนี้มากกว่าสิ่งใด  รองจากพ่อแม่แล้ว  คนที่ห่วงและหวงที่สุดก็คือพี่ชานยอล  หล่อขนาดนี้  สูงยาวเข่าดีขนาดนี้  มีคนเดียวในโลกขนาดนี้  ทำไมเขาจะหวงไม่ได้!!  รู้ว่าทุกอย่างทำไปตามมารยาท  แต่ก็ไม่ต้องยิ้มกว้างขนาดนั้นก็ได้

     

                “ไม่ต้องมีกัน...ฟงแฟน”

     

                “ก็มีไปสิ...ใครจะว่าอะไรล่ะ!

     

                “เหรออออออออ!

     

                ไม่ว่า...เซฮุนไม่เคยว่าเลยสักครั้งถ้าพี่อย่างเขาจะมีแฟน  แต่!!ชีวิตของชานยอลมันคล้ายว่าจะต้องคำสาปเพราะมีแฟนทีไรก็ต้องเลิกรากันทุกครั้งและคบได้ไม่นานเพราะชีวิตของเขามันเหมือนจะไม่สามารถให้ใครเข้ามาแทรกได้  ทุกเวลายกให้น้อง  ทุกนาทีมีแต่น้อง...และทุกๆวันก็จะทุ่มเทให้เซฮุนทั้งหมด  ใช่ว่าไม่เปิดใจรับคนอื่น  แต่เหมือนคนอื่นจะไม่เปิดใจรับครอบครัวของเขามากกว่า  ความรักไม่เคยเป็นเรื่องของเราสองคน  แต่มันเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นถ้าเรามีครอบครัว

     

    ถ้าแฟนจะแยกเขาออกจากน้องเมื่อไหร่...ทุกอย่างคือจบ!

     

                “ผมไม่เห็นอยากจะมีแฟนเลย...มีทำไมก็ไม่รู้  ปวดหัวจะตาย”

     

                “สวยเลือกได้ว่างั้น...หยิ่งมากๆระวังจะขึ้นคานนะครับน้อง”

     

                “ขึ้นคานไม่กลัว...กลัวขึ้นหม้อมากกว่า  ข้าวสวยร้อนๆ  ใครๆก็อยากตักไปกินนะจะบอกให้!!

     

                “ใครตักไปแดก...กูจะแตะปากให้!!

     

                 เออ...สวย!!  น้องของเขาสวยมาก  ชานยอลต้องขอยอมรับในข้อนี้  เซฮุนสวยเหมือนแม่ไม่มีผิด  ผิวขาวดั่งน้ำนม  ผมเส้นเล็กเรียงเส้นสวย  จมูกโด่งเป็นสันเป็นทรงรับกับใบหน้า  คิ้วก็โก่งคมเข้ากับดวงตาเรียว  ทุกๆอย่างที่เป็นน้องของเขามันต้องชมว่าสวยมากกว่าคำว่าหล่อ  ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ...ฝรั่งตามจีบกันจนช็อคโกแลตล้นตู้  ในล็อคเกอร์ที่โรงเรียนก็เต็มไปด้วยจดหมายบอกรัก

     

    แต่ใคร...จะจีบติดในเมื่อทุกเวลาของเซฮุนก็เป็นของพี่ชานยอลทั้งหมด!!

     

                ถ้าหาคนที่ดี...เท่าพี่ชายของเขาได้ไม่ก็อย่าหวังว่าเซฮุนจะยอมเดทด้วย  ที่เข้าหาก็เพราะหวังแค่เรื่องอย่างว่ากันทั้งนั้น  ทำไมจะไม่รู้  เขารู้หมดนั้นแหละว่าใครคิดอะไร  ใครดีมาก็คบไว้เป็นเพื่อน  ใครร้ายมาก็จะร้ายกลับไปเช่นกันและจะร้ายกว่าหลายเท่าถ้ารู้ว่าใครคนนั้นคิดจะมาแยกเขาออกจากพี่ชานยอล  ไม่เคยมีใครได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเซฮุนเลยสักคนเพราะทุกคนไม่ยอมเข้าใจหรือพยายามจะทำเข้าใจในความรักระหว่างเราพี่น้อง

     

                “โต๊ะที่จองไว้ครับ...ชื่อ คิมจงอิน ครับ”

     

                “เชิญค่ะ...เชิญด้านในเลยค่ะ”

     

                (แบคฮยอนอย่าวิ่ง...เดี๋ยวหกล้ม!!)

     

                เสียงของพนักงานหญิง  เสียงของการตอบโต้จากทางด้านหลังหรือจะเป็นเสียงห้ามปรามที่ทุ้มต่ำก็ทำให้ใบหน้าเรียวสวยต้องหันไปมองและทุกๆเสียงก็ทำให้เซฮุนทราบว่าโต๊ะที่เขาหมายตาเอาไว้  ใคร!!?เป็นคนจอง...ผู้ชายผิวเข้ม  ค่อนข้างมีอายุ  แต่งกายใส่สูทดูภูมิฐาน  ส่วนผู้ชายอีกคนตัวเล็ก  ผิวขาว  ผมสีน้ำตาล  ใส่ชุดนักเรียนมัธยม

     

    อ๋อออ...คุณพ่อพาลูกชายมาทานอาหารนี่เอง!?

     

                “เสียมารยาทเซฮุน”

     

                “ก็แค่อยากรู้เฉยๆว่าใครจอง”

     

                (อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ...)

     

                ถ้าพนักงานยังไม่นำอาหารมาเสิร์ฟ...น้องของเขาก็คงยังไม่เลิกเสียมารยาทเพราะการเอาแต่จ้องมองผู้ที่จองโต๊ะโปรดเอาไว้มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร  แค่ปรายตามองก็ว่าเสียมารยาทแล้ว  แต่เซฮุนกลับมองไปที่พวกเขาตรงๆอย่างไม่ปิดบัง  แล้วแบบนี้จะไม่ให้ชานยอลเอ่ยปรามได้อย่างไร

     

                “อยากกินไก่แบบนั้น...แต่เอาไม่เผ็ด”

     

                “ดูเมนู...ไม่ใช่ไปดูอาหารของคนอื่น”

     

                “ก็มันเห็นพอดี”

     

                หนุ่มผิวเข้ม...จำเป็นต้องก้มศีรษะให้ชานยอลเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอโทษเพราะคนที่มาด้วยกระทำการเสียมารยาท  ดวงตาคู่คมใช้มองเพื่อกดดันให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองสิ่งที่อยากทานในเมนูไม่ใช่เอาแต่มองอาหารบนโต๊ะของคนอื่น

     

                “จับแชอร่อยอะ...อ้าปาก  อร่อยจริงๆนะ...ชิมๆๆ”

     

                “............อื้มมม............”

     

                “อร่อยเนอะ”

     

                “เออ...อร่อยว่ะ  ป้อนอีกๆ  เอาเนื้อใส่มาด้วย”

     

                และการป้อนอาหาร  การชิมรสชาติที่ไม่ได้ทานมานานแสนนานพร้อมรอยยิ้มของคนทั้งสองคนก็ทำให้หนุ่มผิวเข้มถึงกับต้องส่ายศีรษะหลังจากที่เพิ่งก้มหัวเพื่อเป็นการขอโทษไปได้ไม่นาน  การมีความรักไม่ใช่เรื่องผิด  การแสดงความรักก็ไม่ใช่เรื่องผิด  แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ต้องกระทำการโจ่งแจ้งขนาดนั้นก็ได้  วัยรุ่นก็เป็นแบบนี้สินะ...จะทำอะไรก็ดูเปิดเผยไปเสียหมด  และถ้าวันนี้คนตัวใหญ่ๆพาอีกคนที่มีใบหน้าเรียวสวยมาทานข้าวก็คงต้องต่อทริปด้วยการพาไปดูหนัง  ไปช้อปปิ้งหรือไปทำอะไรในแบบที่คู่รักเกือบทุกคู่ชอบทำ

     

    เป็นแฟนกัน...ก็ต้องทำแบบนี้สินะ!?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ♡ ♡ ♡ ♡

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr. ภาพหน้าบทความ : IG> OOHSEHUN

    Cr. ภาพหน้าไอคอน : IG> OOHSEHUN

    Cr. ภาพในตอนที่ 1 : IG> OOHSEHUN และ cookerru.com

    ***จับแช


     

    Talk.

    สวัสดีปีใหม่ค่าาาา...ไรเตอร์ผู้พี่เปิดฟิคเรื่องใหม่อีกแล้ว '^^)

    และอนุญาตชี้แจงนะคะ......

    ข้อแรก...ฟิคเรื่องนี้แต่ละตอนจะสั้นกว่าทุกๆเรื่องที่เคยแต่งและดูเหมือนว่ามันจะสั้นลงเรื่อยๆเลย 5555555+  สมองไม่ค่อยดีค่ะ  ยิ่งแก่ยิ่งแย่  แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะ  สู้!!!!

    ข้อสอง...บอกตรงๆว่าไม่รู้จะอัพจนถึงตอนจบได้หรือไม่  แต่ก็จะพยายามเต็มที่อีกเช่นกันค่ะ  ต้นทางดูเหมือนง่าย  แต่ระหว่างทาง  กลางทางหรือจนถึงปลายทางมันไม่เคยง่ายเลย  และที่เริ่มแต่งฟิคอีกครั้งก็เพราะถ้าไม่เริ่มเราก็จะลืมแนวทางการเขียนของตัวเอง  ยิ่งทิ้งระยะไว้นานเท่าไหร่  สมองกับจินตนาการก็จะยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆจนอาจลืมทุกอย่าง    

    ข้อสาม...ถ้าฟิคเรื่องนี้มีข้อผิดพลาด  บกพร่องหรือมีสิ่งที่ต้องแก้ไข  สามารถบอกกล่าวกันได้เสมอนะคะ

    ข้อสี่...หากไม่เป็นการรบกวน  ช่วยให้กำลังใจ  คอมเมนต์และติดแท็กให้เราด้วยน้าาา

    ข้อห้า...ฝากติดตาม #KHanother ด้วยค่ะ 

    เลิบบบบ

    #KHanother 

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×