คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สายลมในทุ่งกว้าง ตอนที่2
“เนโกะ...คือ ฉันชอบเนโกะนะ เธอจะเป็นแฟนกับฉันได้มั้ย”เซยจิพูดด้วยความอายๆ
“คือ...คือว่า”ฉันไม่รู้ว่าจะพุดอะไรดีก็แนไม่เคยเจอใครสารภาพรักนี่น่าฉันเคยอยู่แต่โรงเรียนหญิงล้วนซะด้วย แล้วนี่เราจะทำยังไงดี
กริ๊ง ๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุกทำให้ฉันตื่นจากความฝัน “โอ๊ย นี่เราฝันบ้าฝันบออะไรเนี่ย”ฉันหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู
“ตายแล้ว นี่แปดโมงครึ่งแล้วจะไปสายมั้ยเนี่ย”
“แทนที่จะมานั่งบ่นอ่ะนะรีบไปแต่งตัวดีกว่าม้าง”พี่สาวฉันพูดขึ้นมา
“พี่เขามาในห้องฉันได้ไงเนี่ย”
“ก็เดินเข้ามาน่ะสิ รีบไปแต่งตัวได้แล้ว ไป๊”
“รู้แล้วล่ะน่า”พูดจบฉันก็รีบเดินไปแต่งตัวอย่างรวดแร็ว
และแล้วก็มาถึงโรงเรียนจนได้แต่ก็สายจนได้สุดท้ายที่ฉันรีบก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยจริงๆ
“ว๊าย อูยเจ็บเป็นบ้าเลย” ใครก็ไม่รู้เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยซะนี่ชนเข้าไปได้
“ว้า ขอโทษครับ พอดีมันรีบน่ะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”ปากพูดไม่ตรงกับใจเลย ไหนขอดูหน้าคนตาบอดหน่อยดิฉันเงยหน้าดูคนที่ชนฉัน
ว้าว หล่อเป็นบ้าเลยเหมือนเทพบุตรในฝันของฉันเลยไม่ได้ล่ะอย่างนี้ต้องเปลี่ยนจากคำด่าเป็นคำชมซักหน่อย นี่สวรรค์ต้องจงใจให้เราพบกันแน่ๆเลย นี่แหละคือบุพเพสันนิวาสที่ทำให้ฉันต้องได้เจอกับเขา
“ขอตัวก่อนนะครับ”
“เฮ้ เดี๋ยวสิ”ว้าไปซะและยังไม่รู้จักชื่อเลยไม่เป็นไรหรออย่างน้อยก็ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันัไงต้องได้เจอกันอีกแน่
ฉันต้องโดนทำโทษให้วิ่งรอบสนามตั้ง10รอบแน่ะเหนื่อยเป็นบ้าเลย ว่าแล้วฉันก็เดินเข้าห้องเรียนเรียนตามปกติของฉันไป ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วฉันก็เห็นเชยจิคุงกำลังร้องไห้ หาร้องไห้เขาเป็นอะไรไปน่ะ
“นี่โยโกะพี่เธอเป็นไรไปน่ะกำลังนั่งร้องไห้อยู่น่ะ”
“ไหนคนอย่างพี่ฉันน่ะหรอร้องไห้เป็นกับเขาด้วยหรอเธออย่ามาอำซะให้ยากเลย”
“ฉันพูดจริงๆ ไม่เชื่อลองดูนั่นสิ”ว่าแล้วฉันก็ชี้ออกไปนอกหน้าต่าง
“เอ้ย จริงๆด้วยน่เป็นประวัติศาสตร์เลยนะที่เขาร้องไห้นอกจากตอนเด็กๆแล้วฉันก็ไม่เคยเห็นเขาร้องไห้อีกเลยน่ะ นี่เขาเป็นอะไรของเขาไปน่ะ”
“นี่ถามผิดคนแล้วม้าง ไปลองถามพี่เธอดูสิ”
“อืม ไว้ตอนเย็นจะถามให้”
และแล้วตอนพักเที่ยงก็มาถึงทำไมวันนี้มันพักช้าจังเลยสงสัยจะเป็นเพราะวิชาประวัติศาสตร์แน่ๆเลย เฮ้อ คิดอะไรออกและไปหาเจ้าเซยจิมันดีกว่า(โรคอยากรู้อยากเห็นกำเริบ)
ว่าแล้วฉันก็วิ่งไปหาเซยจิที่สนามบาส แต่เอ่ะทำไมฉันต้องไปหาเขาด้วยล่ะ ช่างมันเถอะไหนๆก็มาแล้ว ฉันเปิดประตูเข้าไปเห็นเซยจิกำลังนั่งอยู่คนเดียวเลยเดินไปหา
“นี่นายเป็นไรป่ะเนี่ย” เขาเงยหน้าขึ้นมาดูฉัน โอ้ พระเจ้าเขาร้องไห้อีกแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ยคนยิ่งปลอบใจคนไม่เป็นอยู่ด้วย
“นี่นายไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย”ว่าแล้วเขาก็ร้องไห้มากกว่าเดิมอีก แล้วเขาก็พุ่งตรงมากอดฉันไว้ ไม่นะเขาทำแบบนี้ไม่ได้เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเขาแล้วฉันควรจะทำยังไงดีเนี่ย
“นี่นายทำอะไรเนี่ย ถามก็ไม่ตอบ”
“มากับฉันหน่อยได้มั้ย”เขาทำสีหน้าอ้อนวอนสุดๆ
“แล้วจะไปไหนอ่ะ” เขาลุกขึ้นพร้อมพาฉันออกจากโรงเรียน
“นี่ยังไม่เลิกเรียนเลยนะนายจะพาฉันไปไหน”
“เธออยากรู้ไม่ใช่หรอว่าชั้นเป็นอะไรไปถึงแล้วฉันจะเล่าให้เธอฟัง”
“อ่อ ไออยากรู้มันก็อยากรู้อยู่หรอกนะแต่ว่าโดเรียนมันจะดีหรอ”
“นี่เธอไม่เคยโดดเรียนหรือไง”
“(- - ) ( - -) (- - ) ( - -)” ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ
“เฮ้อ เชื่อเธอเลย งั้นก็เคยซะ”เขาพูดพร้อมทำหน้าอย่างเหนื่อยใจ ช่วยไม่ได้ก็คนมันเด็กดีนี่น่าฮะๆ
ฉันนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ของเขาไป เขาพาไปที่ๆนึงเป็นทุ่งหญ้ากว้างสุดลุกหูลูกตา
“เธอจะไม่ลงหรือไง”
“อ่ะ ลงซิลง ว่าแต่ที่นี่สวยเป็นบ้าเลย นายมาที่นี่บ่อยหรอ”
“อือ ฉันมาที่นี่ทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบายใจ”
“ที่นี่ลมแรงเนอะ แต่ก็ดีให้รู้สึกถึงบรรยากาศที่สบาย วิวก็สวย”เขาหันมามองฉันแบบอย่างกับจะฆ่าฉันอย่างนั้นแหละ
“เธอรู้รึเปล่า เธอพูดเหมือนคนรักเก่าของฉันเลย แต่คนๆนั้นไม่ได้รักฉันแล้ว”
“- -^ งั้นที่นายร้องไห้ก็คงเป็นเรื่องนี้ใช่มั้ย”
“อือ”
“แล้วคนๆนั้นคือใครหรอ”
“พูดไปเธอคงไม่รู้จักหรอก”
ฉันและเซยจิคุงได้ไปนั่งแถวๆที่มีสวนดอกกุหลาบสีขาวกันแถวๆนั้นมีแม่น้ำอยู่สายนึงเราสองคนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ
“เธอรู้มั้นอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดฉันนะ ถ้าเธอลืมเธอตายแน่”
“จ้าๆ ไม่ลืมหรอก”
“แล้วเธอจะซื้ออะไรให้ฉันน่ะ”
“บอกแล้วมันจะนุกอะไรล่ะ กลับไปคิดดูเอาเองล่ะกัน”
“เธอจะกลับรึยังอ่ะ”
“จะกลับแล้วหรอ ยังไม่อยากกลับเลยอยู่ที่น่อากาศดีออก”
“เธออยากอยู่ที่นี่หรืออยากอยู่กับฉันกันแน่”
“คิดไปไหนเนี่ย ใครเค้าจะอยากอยู่ด้วย”
“ฮ่าๆ แล้วใครจะไปรู้ล่ะว่าชอบที่นี่หรือชอบฉันกันแน่”
“บ้าหรอ แต่ว่านายต้องพาฉันมาที่นี่อีกนะ”
“นั่นไงอยากมากับฉันใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ”
“ก็บอกว่าชอบที่นี่ๆไม่ได้ชอบนาย”
“ก็ได้ๆ ไว้วันหลังฉันจะพามาใหม่ก็แล้วกันวันนี้กลับฉันได้แล้ว”
“อืม”หลังจากนั้นเซยจิคุงได้พาฉันมาส่งที่บ้านอย่างปลอดภัยครบ32อยู่ทุกประการ
ว่าแต่วันเกิดหรอจะซื้ออะไรให้ดีล่ะ อืมๆๆ ช่างเถอะเดี๋ยวก็คิดออกเอง
แล้วก่อนวันเกิดก็มามาถึง แต่ฉันก้ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดีเลยและทุกๆวันฉันก็ต้องเจอกับเซยจิที่สนามบาสมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของฉันไปแล้ว
“วันนี้ไปเที่ยวกันเถอะ”เสียงอันคุ้นเคยดังมาจากข้างหลังไม่ต้องแปลกใจว่าเป็นใครหนึ่งเดียวในโลกนั่นก็คือนายเซยจิคุงนั่นเอง
“ทำไมต้องวันนี้ด้วยพุ่งนี้ไม่ได้หรอ”
“ก็วันนี้อยากไปเที่ยวนี่น่า”
“งั้นนายต้องเลี้ยงไอติมฉันนะ”
“อือ ได้ๆอย่าให้ถึงกระเป๋าแห้งเป็นพอ”
“งั้นให้น้องนายไปด้วยนะ”
“หมายถึงโยโกะน่ะหรอ”
“แล้วนายคิดว่าใครน่ะมันก็ต้องใช่อยู่แล้ว”
“ไปถามเจ้าตัวซะก่อนว่าจะไปรึเปล่าถ้าไปก็ไปสิ”
“ของแบบนี้ไม่ต้องถามก็ไปอยู่แล้ว แต่พี่เลี้ยงนะ”เป็นอีกเสียงหนึ่งที่ฉันได้ยินอยู่ทุกวันเหมือนกัน
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ก็ซักพักแล้วแต่พี่เนี่ยจะไปไหนไม่เห็นชวนกันบ้างเลย”
“ก็ไปด้วยทีไรกระเป๋าแห้งทุกทีเลยนี่น่า”
“ช่วยไม่ได้”
ณ ห้างสรรพสิ้นค้าแถวๆโรงเรียน เป็นห้างที่ใหญ่พอสมควรได้ล่ะ เราสามคนเดินเล่นกันไปเลื่อยๆแต่ก็ต้องไปหยุดอยู่ที่ร้ายขายพวกพวงกุญแจกับตุ๊กตาเข้า
“มีแต่ของน่ารักทั้งนั้นเลยอ่ะ”
“อือ นั่นสิ” เราสองคนเดินดูของไปเลื่อยๆ หาสองคนแล้วนายเซยจิหายไปไหนแล้วล่ะ ฉันก็เลยออกมาตามหาเซยจิอยู่คนเดียวเนื่องจากโยโกะไม่ยอมมาด้วยมัวแต่ดูของอยู่นั่นแหละ นั่นไงเซยจิอยู่นั่นเอง
“นายมาทำไรอยู่ตรงนี้น่ะตามหาแทบแย่”
“ฉันมาดูของนิดหน่อย”
“ไหนๆ นายดูอะไรอ่ะ”
“นี่ไง”เซยจิชี้ไปที่พวงกุญแจรูปแฮมทาโร่
“นายชอบของแบบนี้ด้วยหรอ”
“ฉันชอบเรื่องแฮมทาโร่ที่สุดเลย”
“แล้วจะไปกันยัง”
“อือ ไปก็ได้”
ว่าแล้วเขาก็เดินออกไปจากร้านแต่นายนั่นคงไม่รู้หรอกว่าฉันซื้อพวงกุญแจนั่นไว้เป็นของขวัญวันเกิดนายซะแล้ว อิๆ หลังจากนั้นเราก็ไปกินไอติมแล้วกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้นวันนี้เป็นวันเกิดของเซยจิคุงแล้วสินะฉันเดินไปโรงเรียนด้วยท่าทางสบายอารมณ์
“แหม อารมณ์ดีแต่เช้าเชียวนะ”
“เซยจิ มาได้ไงเนี่ย”
“อ้าวก็ที่นีมันโรงเรียนนะ ไม่น่าถาม”ว่าแล้วเข้าก็แบมือออก
“แบมือทำไมย่ะ”
“อ้าว ก็ของขวัญวันเกิดไง”
“รู้แล้วน่า ไม่ลืมหรอก”ฉันหยิบพวงกุญแจแฮมทาโร่ให้
“อ่า ทำไมเป็นอันนี้ล่ะ”
“เป็นอันนี้แล้วมันทำไมล่ะ”พูดจบเขาก็ล้วงกระเป๋าของเขาแล้วหยิบของอย่างนึงออกมามันคือพวงกุญแจแฮมทาโร่เหมือนกับของฉันเลย
“ทำไมมันเหมือนกันเลยอ่ะ”
“ก็เมื่อวานฉันซื้อเอาไว้ไง”
“แล้วของฉันจะทำไงล่ะ”
“งั้นเรามาแลกกัน”
“อืม ก็ดีนะมีกันคนละตัว”ว่าแล้วเราก็แลกพวงกุญแจกัน ฉันเอากุญแจมาห้อยกระเป๋าของฉัน
“เอาพกติดตัวไว้ตลอดเลยนะ”
“หา อ่อได้ๆ”
“ไปเรียนได้แล้ว ไป๊”
“ไม่เห็นต้องไล่เลย เชอะๆ”ว่าแล้วเขาก็เดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม เฮ้อ ไปเรียนดีกว่า
แล้วฉันก็ไปเรียนต่อวันๆมีแต่เรียนกับเรียนแล้วก็ไปซ้อมบาสเป็นปกติของฉันเล่นบาสนี่มันก็สนุกเหมือนกันแฮะแต่ฉันก็ไม่ได้ไปซ้อมบาสทุกวันหรอกอย่างเช่นวันนี้ฉันไปกินเลี้ยงงานวันเกิดของเซยจิคุงอิ่มมากๆเลย เซยจิอาสาพาฉันมาส่งที่บ้าน
“ขอบคุณมากนะวันนี้สนุกมากเลย”
“ฉันต่างหากล่ะที่ควรจะขอบคุณได้กินของอร่อยๆแบบนี้”
“บาย”
“อืม บาย”
ฉันเดินเข้ามาในบ้านมาถึงฉันก็รีบวิ่งขึ้นข้างบนทันที
“ฉันต้องอ้วนแน่ๆเลย กินไปตั้งเยอะแน่ะ”
“นอนดีกว่า”ฉันเดินเข้าไปในห้อง
“อ่า ทำไมมันหนาวอย่างนี้เนี่ย”ฉันมองไปรอบๆห้อง
“เจอแล้วไม่ได้ปิดหน้าต่างนี้เอง”ว่าแล้วฉันก็ต้องเดินไปปิดหน้าต่างสิ
“หืม ใครอยู่ข้างล่างแน่ะ”นั่นมันเซยจินิยังไม่กลับอีกหรอ
“ทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ”เขาทำท่ากำลังเขียนอะไรอยู่อ่ะ
“ฝันดีนะ”นี่คือคำที่เขาเขียนใส่กระดาษแผ่นหนึ่ง
ฉันส่งยิ้มให้แทนคำตอบ แล้วฉันปิดหน้าต่างไปแล้วก็ไปนอนตามปกติของฉัน
ความคิดเห็น