ตอนที่ 25 : ตอนที่ 25 ปีนป่ายกลางเวหา (รีไรท์)
ตอนที่ 25
ปีนป่ายกลางเวหา
หลงจิวเมิ่งฝ่าพายุหิมะแรงมาจนถึงยอดเขาสูง ซึ่งอยู่ใกล้กับใจกลางของกลุ่มเมฆครึ้มมากที่สุด ประกายสายฟ้าวิ่งไวดำผุดดำว่ายอยู่ภายในหมู่เมฆสูง แต่ไม่มีทีท่าว่าจะผ่าลงมา ราวกับว่ามีบางสิ่งดึงดูดมันเอาไว้
หลงจิวเมิ่งเงยหน้าขึ้นสำรวจดู ยิ่งมาใบหน้ายิ่งเบิกบานเริงร่า เพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่นั้น มิได้มีเพียงแค่กลุ่มเมฆดำและประกายสายฟ้า แต่ที่ใจกลางท้องฟ้าครึ้มปรากฏสิ่งแปลกปลอมส่องแสงระยิบระยับแปลกตา...ส่วนท้องเรือของนาวาสวรรค์ไร้กาล
หลงจิวเมิ่งมั่นใจว่าสิ่งแปลกปลอมที่เห็นนั้นคือ....นาวาสวรรค์ไร้กาล ก็เพราะว่าหลงจิวเมิ่งนั้นเคยเห็นรูปวาดของนาวาวิเศษลำนี้มาก่อน
...ในที่สุดข้าก็มีโอกาสได้เจอนาวาสวรรค์ไร้กาลของจริงเสียที หากแต่ต้องมาดูกันว่าบททดสอบภายในนั้นเหมือนดังที่ถูกกล่าวขานกันหรือไม่
กรงเล็บที่ถูกร้อยติดกับเส้นไหมหิมะถูกบังคับเหวี่ยงขึ้นไปกลางอากาศ หลงจิวเมิ่งใช้ทั้งพลังลมปราณและจิตวิญญาณควบคุมทิศทาง รวมถึงน้ำหนักของกรงเล็บ ให้ทะยานหลบหลีกจุดที่สายฟ้ารวมตัว พุ่งเข้าไปถึงส่วนท้องเรือของนาวาสวรรค์ไร้กาล
ครั้งแรกกรงเล็บพุ่งแรงไปกระแทกกับของแข็งก่อนจะล่วงตกลง แต่เมื่อทดลองดูอีกสองรอบ ในที่สุดโชคก็เข้าข้าง กรงเล็บเหล็กเย็นพุ่งไปเกี่ยวเข้ากับรอยต่อเล็กจุดหนึ่งจนแน่น เมื่อนั้นหลงจิวเมิ่งค่อยทดสอบกระชากแรง แต่กรงเล็บก็มิได้หลุดออกมา ถือว่าขั้นตอนของกรงเล็บปีนป่ายขั้นต้นลุล่วงไปด้วยดี แต่อุปกรณ์สำคัญในครั้งนี้มิได้มีแค่กรงเล็บเหล็กเย็น เพราะเมื่อปีนขึ้นไปถึงส่วนท้องของนาวาสวรรค์ได้แล้ว ยังคงต้องไต่ผ่านส่วนโค้งมนขึ้นไปจนถึงกราบเรือด้านข้างอีกทอด จึงจะถือว่าขึ้นไปบนนาวาสวรรค์ได้สำเร็จ
หลงจิวเมิ่งจัดการเชื่อมพันเหล็กเย็น ที่ถูกขึ้นรูปคล้ายตะปูแหลม ซึ่งต่อมาหลงจิวเมิ่งเรียกสิ่งของชิ้นนี้ว่า...เขี้ยวเหล็ก เขี้ยวเหล็กทั้งสิบชิ้น ร้อยเข้ากับไหมหิมะก่อนจะผูกยึดเข้ากับถุงมือหนังสีดำที่จัดทำพิเศษจนแน่น ทั้งหมดล้วนเสียบรวมกันไว้บริเวณหลังฝ่ามือ ยามใช้เพียงสะบัดแรง เขี้ยวเหล็กทั้งหมดก็พุ่งทะยานออกไป ซึ่งเขี้ยวเหล็กทั้งสิบแทนตำแหน่งนิ้วมือทั้งสิบพอดี และเมื่อใช้ออกด้วยลมปราณและพลังจิตวิญญาณควบคุม เขี้ยวเหล็กทั้งสิบก็กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับปีนป่าย เกี่ยวดึง รวมถึงอาวุธจู่โจมชั้นเลิศ
เขี้ยวเหล็กถูกติดตั้งและทดสอบการใช้งานจนมั่นใจ หลงจิวเมิ่งค่อยทะยานเหินขึ้นไปบนท้องฟ้า มือขวาชักดึงไหมหิมะ ปีนป่ายขึ้นไปยังส่วนท้องของนาวาสวรรค์ไร้กาลด้วยความไว พร้อมขว้างปาโลหะแหลม ทะยานไกลเข้าไปในกลุ่มเมฆครึ้ม คอยดึงดูดเส้นสายฟ้าฟาดผ่ารวมตัวในจุดที่ห่างออกจากเส้นทางของตนเอง
การปีนไต่ไหมหิมะขึ้นไปจนถึงท้องของนาวาสวรรค์ไร้กาลกินเวลาล่วงเลยไปกว่าครึ่งชั่วยาม จนกระทั่งหลงจิวเมิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งที่กรงเล็บเกี่ยวอยู่ จึงออกแรงพลันสะบัดฝ่ามือขวา เขี้ยวเหล็กทั้งห้าพลันทะยานพุ่งขึ้นสูง ออกไปเสียบตามช่องรอยของนาวาสวรรค์ไร้กาล ก่อนจะถูกควบคุมด้วยลมปราณให้ยึดแน่น ใช้เป็นจุดยึดโยงดึงร่างของตนให้ไต่สูงไปตามโค้งเว้าของท้องเรือด้วยความคล่องแคล่ว เมื่อดึงตัวมาถึงจุดยึด ก็เปลี่ยนจากมือขวาเป็นมือซ้ายที่สะบัดออก กระทำวนเวียนซ้ำไปมาเช่นนี้ จนกระทั่งไต่ผ่านชั้นเมฆขึ้นไปจนถึงยังส่วนขอบของกราบด้านข้างนาวาสวรรค์ไร้กาล จึงค่อยใช้เท้ายันร่างดีดตัวลอยสูงขึ้นไป ก่อนจะตีลังกาพลิกม้วนขึ้นไปยืนอยู่ด้านบนของนาวาสวรรค์ไร้กาล
ถ้อยคำอธิบายในการใช้เขี้ยวเหล็กปีนไต่ผ่านส่วนโค้งขึ้นไปกระชั้นสั้น แต่ความจริงกว่าที่หลงจิวเมิ่งจะไต่ไปจนถึงด้านบนของนาวาสวรรค์ไร้กาลเสร็จสิ้น กลับกินเวลาเกินกว่าสองชั่วยาม เมื่อขึ้นมาถึงลมปราณและพลังจิตวิญญาณแทบหมดสิ้น ร่างกายอ่อนเปลี้ยไปแทบทุกส่วน ทำได้เพียงนอนแผ่หราหมดเรี่ยวแรงอยู่ครู่ใหญ่ เมื่อลมปราณและเรี่ยวแรงฟื้นคืน หลงจิวเมิ่งก็ออกเดินสำรวจรอบด้วยความระมัดระวัง จนกระทั่งมาถึงจุดที่เป็นประตูทางเข้าสิ่งปลูกสร้างใจกลางขนาดมหึมา
...ตัวหนังสือเหล่านี้ ข้าไม่เข้าใจ และไม่เคยพบมาก่อน แต่ทำไมถึงได้รู้สึกว่ารูปร่างของพวกกลับดูคุ้นตายิ่งนัก
หลงจิวเมิ่งพยายามนึกย้อนกลับไป แต่สุดท้ายก็นึกไม่ออกว่าเคยพบเห็นตัวหนังสือรูปแบบเดียวกันนี้มาก่อนหรือไม่ แม้ยังคงสงสัยถึงตัวอักษรจารึก แต่ก็มิได้มีผลต่อขั้นตอนในการเข้าไปสู่ด้านใน เพราะอาคมอักขระในการโจรกรรมหรือเปิดประตูสุสานต่าง ๆ ในชีวิตก่อนหลงจิวเมิ่งล้วนศึกษาและใช้ออกได้อย่างช่ำชอง
...นาวาสวรรค์ไร้กาลเป็นวัตถุที่ถูกระบุว่าน่าจะมาจากรอยต่อของ...ยุคเทพอสูรกับยุคของอาณาจักรหมื่นดารา ถ้าเช่นนั้นอักขระที่ใช้เพื่อเปิดผนึกก็น่าจะเป็นรูปแบบของสองยุคนี้
ระหว่างที่หลงจิวเมิ่งกำลังขีดวาดอักขระไปบนประตูหน้า บังเอิญออกแรงกดมากจนเกินไป ประตูใหญ่ที่น่าจะหนักนับหมื่นตันกลับขยับเคลื่อนไปด้านหลังด้วยตนเอง ราวกับว่ามันกำลังเชื้อเชิญผู้คน หลงจิวเมิ่งหยุดมือ สูดหายใจลึก เพราะประสบการณ์ในการบุกสุสานหรือสถานที่บรรพกาลต่าง ๆ ล้วนย้ำเตือนว่า...หากประตูปิดแน่นด้านในกลับผ่านง่าย แต่หากทางเข้ากลับเชื้อเชิญผู้คนเยี่ยงนี้ สถานที่ภายในย่อมเต็มแน่นไปด้วยอันตรายของกลไกกับดัก
หลงจิวเมิ่งไม่กล้าประมาท แรกเห็นเส้นทางเดินทอดยาว ก็ตระเตรียมใช้อุปกรณ์ติดตัวหลบเลี่ยงเข้าไป แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งจะทำหน้าที่ของมันไปจนหมดแล้ว ทั้งธนูลูกดอก ผนังเหล็กแหลม หุ่นกล พื้นหนาม ทุกกลไกที่อยู่ภายในล้วนถูกกระตุ้นให้ทำงานตั้งแต่ก่อนที่หลงจิวเมิ่งจะมาถึง
...น่าแปลกเรามั่นใจว่า เป็นผู้ที่มาถึงเป็นคนแรก แถมในบันทึกก็ระบุชัดว่านาวาสวรรค์ไร้กาลนั้นปรากฏขึ้นครั้งแรกในช่วงเวลานี้ หรือว่าสภาพของนาวาสวรรค์ไร้กาลจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่ยุคก่อน
ความคิดแวบแรกปรากฏขึ้น แต่เมื่อเดินไปสำรวจยังซากของผู้ฝึกตนที่ตกตายกลายเป็นฝุ่นผง แม้แต่สิ่งของติดกายก็สูญสลายไร้ค่า
...ดูท่าการบุกรุกก่อนหน้าที่เราจะมาถึง คงเกิดขึ้นเมื่อนานแสนนานมาแล้ว แม้แต่ของวิเศษบนร่างที่น่าจะคงทนได้นานนับแสนปียังมิอาจคงรูปของมัน
หลงจิวเมิ่งครุ่นคิดพลางเดินผ่านส่วนกับดักด้านหน้า จนเข้ามาถึงโถงขนาดใหญ่ ปรากฎกำแพงสูงขวางกั้นเส้นทางไปต่อ ทางเดินบนกำแพง แบ่งสัดส่วนออกเป็นสามชั้น แต่ละชั้นปรากฏทางเข้ามืดมิดสามเส้นทาง รวมเป็นเก้าเส้นทางให้เลือก
เมื่อมาถึงจุดนี้ หลงจิวเมิ่งก็มิได้หยุดสำรวจรอบเช่นก่อนหน้า แต่เดินตรงขึ้นไปยังประตูใจกลางที่ชั้นสอง เพราะประสบการณ์ในช่วงชีวิตก่อนของหลงจิวเมิ่ง นาวาสวรรค์ไร้กาลได้ปรากฏขึ้นถึงสามครั้ง จึงเปิดโอกาสให้ผู้คนและค่ายสำนักจำนวนมากเข้าไปสำรวจ บันทึกต่าง ๆ เกี่ยวกับนาวาสวรรค์ไร้กาล จึงมีรายละเอียดพื้นฐานค่อนข้างสมบูรณ์ หลงจิวเมิ่งจึงมั่นใจว่าโถงกว้างแห่งนี้ปลอดภัย เพียงแต่เส้นทางทั้งเก้าตรงหน้า นั้นมิใช่เส้นทางธรรมดาทั่วไป เพราะเมื่อลงมือเลือกเดินเข้าไปในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับออกมายังได้อีก จนกว่าจะสามารถเอาชนะบททดสอบของเส้นทางที่เลือก หรือไม่ก็กลายเป็นวิญญาณที่ภายใน
ซึ่งในบันทึกของผู้ที่ผ่านออกมาพร้อมกับวาสนาเปลี่ยนแปลงโชคชะตา กลับสรุปได้ว่า...แม้เป็นเส้นทางเดียวกัน แต่บททดสอบของแต่ละคนนั้นกลับแตกต่าง ถึงจะรู้ว่ามีวาสนาเปลี่ยนแปลงโชคชะตาซุกซ่อนอยู่ แต่หลงจิวเมิ่งก็ไม่คิดจะเสี่ยง เพราะลำพังฝีมือของตนเองตอนนี้ อย่าว่าแต่ผ่านด่านทดสอบเลย แค่หุ่นกลที่ระดับต่ำสุดบนนาวาสวรรค์ไร้กาลแห่งนี้ หากว่ากันตามจริง ตนเองยังไม่มีปัญญาต่อกรด้วยเลย ยิ่งไปกว่านั้นจุดประสงค์หลักของหลงจิวเมิ่งก็ไม่ได้ขึ้นมาบนนาวาสวรรค์ไร้กาลแห่งนี้เพื่อผ่านด่านทดสอบ แต่เขาต้องการสิ่งของบางอย่าง ซึ่งตนเองมั่นใจในวิธีการที่จะได้ครอบครองมันอยู่แล้ว
...เอาละได้เวลาลงมือแล้ว
หลงจิวเมิ่งเดินไปหยุดอยู่ใจกลางของประตูทั้งเก้าบาน ก่อนจะหยิบตะเกียงวิญญาณที่นำติดตัวมาด้วยออกมาวางเอาไว้ที่พื้น วิญญาณเรืองแสงหนึ่งดวงถูกปล่อยออกมาจากตะเกียง เมื่อได้รับอิสรภาพวิญญาณที่ถูกผนึกเพื่อใช้งานแทนดวงไฟ ก็พยายามทะยานหลบหนีให้ไกลจากหลงจิวเมิ่งในทันที แต่แล้วกลับถูกพลังงานลึกลับบางอย่างของเส้นทางทดสอบที่สามดูดกลืนหายเข้าไป หลงจิวเมิ่งที่จับตาดูทิศทางของวิญญาณซึ่งออกมาจากตะเกียงเรืองแสง เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นชัดตา จึงค่อย ๆ เดินตรงขึ้นไปยังชั้นบนสุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของเส้นทางทดสอบที่สามในทันที
711 ความคิดเห็น
-
#621 bsss27 (@bsss27) (จากตอนที่ 25)วันที่ 25 กันยายน 2562 / 17:03สนุกมักกก#6211
-
#621-1 MoMiMarChi (@MoMiMar) (จากตอนที่ 25)28 กันยายน 2562 / 10:19ขอบคุณครับ#621-1
-
-
#135 Pheonixy (@pattss) (จากตอนที่ 25)วันที่ 28 กรกฎาคม 2562 / 14:14มันคืออะไรกันนะ#1351
-
#135-1 MoMiMarChi (@MoMiMar) (จากตอนที่ 25)28 กรกฎาคม 2562 / 16:50คลังสมบัติเลย ^ ^#135-1
-
-
#116 Tumbabycorn (@Tumbabycorn) (จากตอนที่ 25)วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 / 16:13วิญญาณใครนิ#1162
-
#116-1 MoMiMarChi (@MoMiMar) (จากตอนที่ 25)27 กรกฎาคม 2562 / 20:14มันคือจุดเริ่มเรื่องเอง 555+#116-1
-
-
#115 Fikusa (@famedragonoy) (จากตอนที่ 25)วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 / 13:42อาจจะมีเรื่องสินะ#1151
-
#115-1 MoMiMarChi (@MoMiMar) (จากตอนที่ 25)27 กรกฎาคม 2562 / 20:15เริ่มต้นเรื่องต่างหาก//สปอยก็ชื่อละ อันนี้คือจุดเริ่มที่ออกนอกเส้นชะตาเดิม ^ ^#115-1
-
-
#114 ~xมูกระIทีม~ (@davilmaster) (จากตอนที่ 25)วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 / 12:54ขออีกตอบๆ#1141
-
#114-1 MoMiMarChi (@MoMiMar) (จากตอนที่ 25)27 กรกฎาคม 2562 / 20:16ลงแล้วจ้า 500 Fav ตาสัญญา ^ ^#114-1
-