เนตรมารสะท้านฟ้า ()(จบ)
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ กำลังภายใน Tags : กำลังภายใน, ลมปราณ, แฟนตาซี, ผจญภัย, ตื่นเต้น, สนุกสนาน, ความรัก, ปรุงยา, เทพเจ้า, มังกร, อสูร, นิยายจีน
ผู้แต่ง : MoMiMarChi
My.iD :
https://my.dek-d.com/MoMiMar/writer/
ตอนที่ 291 : ผูกพันเป็นตาย 3
ตอนที่ 268
ผูกพันเป็นตาย 3
ภูตวิญญาณโหยรับรู้ถึงแรงกดดันของร่างวิหคจำแลงที่พวยพุ่งเข้ามา พลังทำลายล้างของกระบวนท่า มิได้ด้อยไปกว่าการโจมตีของผู้ฝึกตนลมปราณสวรรค์ขั้นที่สองแม้แต่น้อย น่าเสียดายที่คู่ต่อกรของเพลิงวิหคขั้นสูงสุดคือตัวตนที่เชี่ยวชาญเต๋าแห่งมิติโดยกำเนิด
ภูตวิญญาณโหยไม่เสียดายพลังวิญญาณของตนเอง เปิดมิติเบื้องหลังกลืนหายเข้าไปภายใน ก่อนจะไปโผล่ที่ด้านหลังของหญิงสาวทั้งสาม ทำให้เพลิงวิหคจำแลงทำลายล้าง แม้รุนแรง แต่กลับกลายเป็น...น้ำไกล มิอาจดับไฟใกล้ในทันที หนิงเซียนที่อ่อนล้า แม้รับรู้ว่าศัตรูปรากฏในอีกทิศทาง แต่ยามนี้ไร้เรี่ยวแรงควบคุมเพลิงไฟให้หวนกลับ
จิวซินที่ไม่มีฉูซิงหนุนเสริม ก็ยังห่างชั้นกับภูตวิญญาณโหยอีกไกลโข เพียงพลังจิตสั่นสะท้านของภูตวิญญาณโหยที่ปลดปล่อยออกมาในระยะใกล้ นางก็ไม่สามารถขยับตัวแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเฟยเซียงที่ระดับฝีมือต่ำต้อยที่สุด
กาซซซซ !!!
เสียงคำรามก้องดังสะท้านจากเบื้องบน ร่างของผู้มาเยือนยังไม่ปรากฏ มวลอากาศเย็นก็แผ่กดทับลงมา จนลมหายใจของผู้คนกลายเป็นไอขาว
ศีรษะขนาดมหึมาของมังกรเหมันต์แหวกฝ่าม่านหมอก ปากที่อ้ากว้างปรากฏมวลพลังงานสีเงินเปี่ยมล้น เมื่อทุกสายตาเบื้องล่างจับจ้องขึ้นไปยังเบื้องบน ปราณมังกรเหมันต์เที่ยงแท้พลันแตกระเบิดเป็นเส้นสาย พุ่งเข้าใส่ภูตวิญญาณโหยราวพายุคลั่ง
แม้ภูตวิญญาณโหยจะสามารถแหวกฝ่ามิติหลบหนี แต่ไม่สามารถกระทำการต่อเนื่อง ศัตรูอันตรายปรากฏ บวกกับหลังจากการปะทะทำให้มันประเมินว่ามนุษย์ทั้งสามที่ตัวสั่นงันงกกันอยู่ ไม่ต่างจากเหยื่อทั่วไปที่หลงเข้ามายังอาณาเขตของมันตลอดเวลานับพันปี ไม่มีผลคุกคามร้ายแรง ต่างจากเจ้ามังกรร้ายที่เฝ้าคุมเชิงกันมาอย่างยาวนานด้านบน
ภูตวิญญาณโหยเลือกละทิ้งสามสาวในเสี้ยววินาที่สุดท้าย ใช้แส้ภูตอเวจีหมุนวนเป็นวงกลมแน่นขนัด ก่อเกิดเป็นโล่มิติปิดป้องตนเอง พลางทะยานฝ่าลมปราณของมังกรเหมันต์ขึ้นสู่ท้องฟ้า
มังกรเหมันต์มิใช่ไม่เคยปะทะกับภูตวิญญาณโหยมาก่อน ทำให้มันรู้ดีว่าตนเองยังเป็นรองภูตอเวจีตนนี้อยู่อีกขั้นหนึ่ง แต่ที่วันนี้มันยินยอมเสี่ยงชีวิตเปิดเผยตัวตน แถมยังพุ่งเข้าสู่เขตแดนไร้ชีวิต ที่เปรียบเสมือนรังของภูตวิญญาณโหย เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน...วันที่น้ำตาของมันล่วงหล่น ความรู้สึกที่ผูกพันซึ่งถ่ายทอดมาทางสายโลหิตของมารดา แม้ว่าจะจืดจางลงไปตามกาลเวลา แต่มันยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี...จี้มังกรเหมันต์ อันเป็นสายสัมพันธ์ที่หลงเหลือเพียงหนึ่งเดียวระหว่างมัน และนายน้อย
บรึ้ม !!!
แม้ลมปราณมังกรเหมันต์จะรุนแรง แต่แส้ภูตอเวจียังเหนือล้ำกว่า ภูตวิญญาณโหยทะยานฝ่าขึ้นไปจนอยู่กึ่งกลางอากาศใกล้จะบรรลุถึงร่างมหึมาของมังกรเหมันต์ แต่แล้วมังกรเหมันต์กลับบินโฉบออกด้านข้าง พลางเร่งความไวตรงไปยังสามสาวที่ตัวสั่นงันงกกันอยู่ ทำเอาภูตวิญญาณโหยที่ตระเตรียมปะทะคำนวณผิดพลาด
..."เจ้าไม่ใช่เด็กหนุ่มผู้นั้น" เสียงทางลมปราณส่งถึงเฟยเซียงโดยตรง "แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกได้ว่าเจ้ามีเส้นใยบางเบาของจี้มังกรเหมันต์หลงเหลืออยู่" ดวงตารีมหึมาจับจ้องไปยังทุกส่วนบนร่างของเฟยเซียงที่ยืนแข็งทื่อด้วยความงุนงง "นั่น..." มังกรเหมันต์ส่งพลังบางส่วนของตนเองเข้าไปยังแหวนมิติสีน้ำเงินบนนิ้วนางข้างซ้ายของเฟยเซียง
ความเย็นที่จับแน่นสั่นสะท้าน จากปลายนิ้วลามไปจนทั่วทั้งร่าง เศษเสี้ยวของจี้มังกรเหมันต์ที่แตกสลาย แต่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายใน ลอยออกมาเบื้องนอก ส่องประกายแสงสีฟ้าครามเย็นเยียบ แต่กลับไร้ซึ่งสำนึกวิญญาณของต้าหลง
..."ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าของมัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่เพื่อยึดมั่นในคำสัญญา ข้าจะช่วยเจ้าสักครั้ง ขึ้นมาบนตัวข้า"
เฟยเซียงที่ยังจับต้นชนปลายมิได้ ถูกมังกรเหมันต์ใช้ศีรษะใหญ่ยื่นประชิด ก่อนจะยกสะบัดร่างของหญิงสาวให้ลอยขึ้นไปอยู่ด้านบน แรงเหวี่ยงของมังกรเหมันต์ทำให้เฟยเซียงเรียกสติแจ่มใสกลับคืนมาได้อีกครั้ง รีบตะโกนบอกจิวซิน และหนิงเซียนให้รีบตามขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่ามังกรเหมันต์จะไม่ได้คิดช่วยผู้คนทั้งหมด เมื่อเฟยเซียงอยู่บนหลังคอของมันแล้ว ปีกมหึมาพลันกระพือแรงทันที ส่งร่างมหึมาทะยานเฉียงห่างออกไปจากพื้นดินในพริบตา
ภูตวิญญาณโหยที่พุ่งทะยานกลับสู่พื้นดิน เห็นทุกการกระทำที่เกิดขึ้น เชื่อมโยงไปว่ามังกรเหมันต์มาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ทั้งสาม เมื่อมังกรเหมันต์ทะยานหลบ มันจึงเลือกที่จะตรงต่อไปสังหารหญิงสาวทั้งสอง หมายกดดันให้มังกรเหมันต์กลับมาต้านรับ
หนิงเซียนแม้จะไร้เรี่ยวแรง แต่ยังมีสติรับรู้ หลังพักฟื้นชั่วอึดใจเรี่ยวแรงพอฟื้นคืน ทำมือพุทธาอีกครั้ง บังคับ...วิหคจำแลงทำลายล้าง ที่หยุดนิ่งใกล้จะมอดดับให้หวนกลับมาโจมตีภูตโหย แต่พลังที่ลดลงไปตามระยะเวลาของวิหคจำแลงทำลายล้างตอนนี้ ไม่อาจจะขัดขวางภูตโหยได้ ถูกแส้ที่ยืดยาวฟาดทำลาย แม้จะช่วยชะลอความไวในการพุ่งตกลงมา แต่ยังมิอาจหลุดรอดชะตากรรมถูกสังหาร
จิวซินน้ำตาหลั่งริน ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร ทำได้เพียงแค้นเคืองความอ่อนด้อยในฝีมือของตน แถมตัวเองยังเป็นผู้ที่นำพาทุกคนเข้ามายังเขตหายนะเช่นนี้ สั่งฉูซิงที่ยังบาดเจ็บให้อยู่ข้างกายคอยปกป้องหนิงเซียน ส่วนตัวเองเลือกยืนหยัดกางสองแขนออกขวางกั้นระหว่างหนิงเซียนและภูตวิญญาณโหย ยินยอมสละชีวิตปกป้องสหาย
หนิงเซียนที่ใช้พลังเฮือกสุดท้ายบังคับ...วิหคจำแลงทำลายล้าง อ่อนแอลงจนไม่อาจลุกยืน ได้แต่ส่งเสียงตะโกนร้องห้ามจิวซินด้วยน้ำตาที่ไหลนองไม่แตกต่าง
...ความผูกพันที่ก่อเกิดยามวิกฤตล้วนแนบแน่น เกินกว่าจะบรรยายออก
เฟยเซียงที่ฉลาดหลักแหลมที่สุด เมื่อเรียกสติกลับคืน และรับรู้ว่ามังกรเหมันต์มาเพื่อช่วยตนเอง ยามที่มังกรเหมันต์บินทะยานขึ้น ใบหน้าที่ผ่อนคลายกลับกลายเป็นตึงเครียด ครั้นมังกรเหมันต์ทะยานขึ้นไปได้อีกอึดใจหนึ่ง ความคิดสับสนล้วนไม่หลงเหลือ ตรรกะเหตุผลล้วนขาดสะบั้น รู้เพียงว่าหากวันนี้ต้องตกตาย...ก็ตายร่วมกับหญิงสาวทั้งสอง เป็นผีอยู่เคียงข้าง ดีกว่าเหลือรอดแล้วจำต้องแบกความทุกข์ทนและรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต ยืดกายยืนขึ้น ก่อนจะทะยานเข้าใส่เส้นทางพุ่งลงของภูตโหยอย่างสุดกำลัง
กาซซซซซ !!!
มังกรเหมันต์คำรามออกด้วยความเกรี้ยวกราด มันไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ รู้เพียงความผูกพันที่สลักแน่นของความจงรักภักดีในสายโลหิต แต่การกระทำของเฟยเซียง ล้วนคล้ายคลึงการเสียสละของผู้เป็นมารดาในอดีต ยิ่งมาสมองอันชาญฉลาดของมังกรเหมันต์ยิ่งปั่นป่วน แม้อยากจะเอ่ยถามเอาคำตอบจากหญิงสาวให้กระจ่าง แต่เสี้ยววินาทีตรงหน้าจำต้องตัดสินใจบางอย่างเสียก่อน
...ทำไมท่านแม่จำต้องเสียสละ ทำไมนายท่านจำต้องเสียสละ ทำไม ทำไม
คำถามที่เกิดขึ้นนั้นไร้คำตอบ...สำหรับสิ่งมีชีวิตที่ต้องอยู่โดดเดี่ยว ยืนหยัดด้วยพลังตามธรรมชาติของตนเองนานหลายพันปี อารมณ์ความผูกพันล้วนเป็นสิ่งไม่จำเป็น หากจะอยู่รอดมีเพียงต้องฟันฝ่าด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น
แม้ไม่เข้าใจ แต่มังกรเหมันต์ยังเลือกที่จะเชื่อในภาพประทับความทรงจำในอดีตของตนเอง การเสียสละแม้จะดูโง่เง่าในสายตาของมัน แต่ในเมื่อมันไม่เข้าใจ ว่าทำไมบุคคลสำคัญในชีวิตทั้งหลายของตนเอง ถึงเลือกเดินเส้นทางนี้ มีแต่ต้องรับรู้ด้วยตนเองเท่านั้น... รับรู้เส้นทางอันแสนงี่เง่านี้ ด้วยร่างกายและเลือดเนื้อ
ร่างมหึมาทะยานไว ม่านพลังคุ้มกายของมังกรเหมันต์ถูกเร่งเร้าถึงขีดสุด จนทั้งร่างของมังกรเหมันต์อาบไล้ไปด้วยลมปราณสีเงินยวง
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏเด่นบนใบหน้าของภูตวิญญาณโหย เพราะมันรู้แล้วว่าตนเองตัดสินใจถูกต้อง หลังจากที่ชะงักค้างไปวูบหนึ่ง เพราะพลังหลงเหลือจากวิหคจำแลงทำลายล้าง แต่ยามนี้ศัตรูตัวหลัก อันเป็นตราผนึกที่ผู้เป็นนายสั่งเอาไว้อยู่ใกล้แค่เอื้อม มีหรือที่มันจะสนใจมดปลวกทั้งสามอีก แส้ภูตอเวจีในมือ ถูกเร่งเร้าให้ยืดยาวออก ก่อนจะทะยานฉกเข้าหาร่างของมังกรเหมันต์ราวกับอสรพิษร้าย
6 ความคิดเห็น