คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Remembrance(Sin diary)
Il était une fois .... l'amour
Remembrance
-3.2-
Sin diary.
Midnight
3/11/12
ในยามเที่ยงคืนที่ควรจะเป็นเวลาพักผ่อนหลังจากที่วันนี้มีเรียนยาวตั้งแต่แปดโมงเช้ายันสี่โมงเย็น ...แต่เรากลับข่มตานอนไม่กลับ
ไฟทั้งห้องนอนปิดสนิท มีเพียงแสงสีส้มอ่อนๆจากโคมไฟบนหัวเตียงของเราที่เปิดอยู่ คืนนี้พี่นัทบ่นว่ารู้สึกเหมือนไม่ค่อยสบาย เลยเข้านอนไปตั้งแต่หัวค่ำ นึกแล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ ถ้าพี่นัทเกิดไม่สบายขึ้นมาล่ะก็เป็นเพราะเราคนเดียวเลย
ไม่คิดว่าพี่นัทจะวิ่งฝ่าหิมะออกไปรับ...
พี่นัท...ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนที่เราเรียกออกมาได้เต็มปากว่า ‘เป็นแฟน’
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเราให้หลุดปากพูดแบบนั้นออกไป เพราะบรรยากาศบนหอไอเฟลวันนั้น เพราะว่าพี่นัทเกิดถามเรื่องของบาสขึ้นมา หรือเพราะว่า…
เสี้ยวหน้าพี่นัทที่หันมามองกันในวันนั้น ...ช่างเหมือนกับบาสเหลือเกิน
ไม่คิดว่าพี่นัทจะตอบตกลง...
รู้สึกผิด...ที่ทำเหมือนเอาอีกคนมาเป็นตัวแทนของใครอีกคน
เราขอโทษ ...
เราเอื้อมไปหยิบดินสอมาขีดเขียนๆสมุดเสก็ตเล่นฆ่าเวลา ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ...ไม่นาน ลายเส้นดินสอก็ปรากฎขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบนกระดาษที่เคยว่างเปล่า
เป็นรูปวาดของร่มที่ถูกกางทิ้งไว้ ... ท่ามกลางสายฝน
“เป็นอะไรซิน ... ทำหน้ามุ่ยเป็นแมวป่วย” คนตัวโตกว่าเดินเข้ามานั่งตรงที่ว่างข้างๆ ในขณะที่คนถูกถามได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อๆ ใบหน้าหวานงอง้ำพลางมองออกไปที่หน้าต่าง
“ฝนตกทั้งวันเลยอ่ะ อยากออกไปเที่ยวข้างนอก”
บาสหัวเราะขันๆกับท่าทีของอีกฝ่าย จริงๆเขาก็แอบเห็นใจซินอยู่เหมือนกัน ที่เป็นฝ่ายรบเร้าชวนมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคมเพราะอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศของป่าเขา แต่พอลงจากรถไม่ทันไรฝนเม็ดหนักก็เทลงมาไม่หยุดตั้งแต่เช้ายันบ่าย ทำให้พวกเขาต้องหลบฝนอยู่แต่ในบ้านพักไม่ได้ออกไปไหน
“เอาน่า เราจะไปห้ามฟ้าห้ามฝนให้ตกก็ไม่ได้สักหน่อย แถมช่วงนี้ก็หน้าฝนด้วย ทำใจนะจ้ะเด็กน้อย” ทั้งปลอบทั้งหยอกพลางขยี้หัวอีกฝ่ายเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“ซินหน้าเกลียดฝน” คนอยากเที่ยวโวยวายอย่างพาลๆ
“ไม่เอาน่า ทุกสิ่งในโลกนี้มีข้อดีของตัวมันเองทั้งนั้น ฝนก็มีข้อดีของฝนเหมือนกัน”
“แต่เรายังไม่เห็นว่าฝนก็มีดีอะไรเลย” คนตัวบางทำหน้าเบ้
“มีสิ”
“...?”
“ก็เพราะฝนตก บาสกับซินถึงได้นั่งด้วยกันตรงนี้ ใช้เวลาร่วมกันตรงนี้ไง” ร่างสูงเอ่ยอย่างจริงจังในขณะที่มองจ้องเข้ามาในตา ทำเอาร่างบางต้องเสหลบตาด้วยความเขิน
“เลิกเซ็งได้แล้ว ... เดี๋ยวเอากีตาร์มาเล่นให้ฟัง”
ร่างสูงว่าแล้วก็ผละออกไปหากระเป๋าสะพายกีตาร์ตัวเก่งก่อนเอามานั่งเล่นข้างคนตัวเล็ก ทำหน้าที่เป็นมือกีตาร์ส่วนตัวเล่นเพลงตามที่อีกฝ่ายอยากฟัง ฝ่ายหนึ่งเล่นกีตาร์ ...อีกฝ่ายร้องเพลงคลอไปตามเสียงดนตรี มีจังหวะหยุดถกเถียงเรื่องเพลงที่จะเล่นต่อไปบ้าง แต่เมื่อตกลงกันได้เสียงเพลงก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ปล่อยให้เวลารอบตัวเดินไปช้าๆ จนกระทั่งบาสหยุดดีดกีตาร์เมื่อเห็นว่าฝนข้างนอกหยุดลงแล้ว
“เรามีอะไรจะให้ซินดู”
“หือ?” ซินทำหน้าสงสัยแต่ก็ยอมเดิมตามบาสที่จูงมือออกไปจากห้องโดยดี คนตัวสูงกว่าเปิดประตูบ้านพัก ทันใดนั้นร่างบางก็ต้องอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“สวยจัง ...”
เนื่องจากบ้านพักที่ทั้งสองมาเช่าอยู่เป็นบ้านพักในวนอุทยานแห่งชาติ ตัวบ้านตั้งอยู่ที่ป่าเชิงเขาดังนั้นจึงเห็นธรรมชาติได้ชัดเจน ซินตาโตด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นรุ้งกินน้ำเส้นใหญ่พาดกระหว่างเขา ต้นไม้น้อยใหญ่ชุ่มน้ำฝนดูแล้วสดชื่น กลิ่นหอมอ่อนๆของดินหลังฝนตกลอยมาปะทะกับจมูก
“นี่ก็เป็นข้อดีอย่างอย่าง ของฝนนะซิน … เพราะฟ้าหลังฝนน่ะ มักจะสวยงามเสมอ”
สิ่งในโลกนี้มีข้อดีของตัวมันเองทั้งนั้น…บาสเคยบอกเราไว้
แต่ข้อดีของการที่บาสจากเราไป เราไม่รู้จริงๆ
เราปิดสมุดเสก็ตลง ปาดน้ำตาที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนจะดับโคมไฟที่หัวเตียงลง
เป็นอีกคืนที่เราต่อสู้กับความคิดถึง ก่อนจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้.
บาส...เราคิดถึงนาย
TBC.
ความคิดเห็น