คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : fristday
Il était une fois .... l'amour
-2-
บางทีโชคชะตาอาจอยากเล่นตลกกับชีวิตคน
เราสองคนเลยได้มาเจอกัน.
day
2/11/12
ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ
เมื่อคืนหลับสบายชะมัด...บิดขี้เกียจก่อนจะนอนเล่นต่อบนเตียงสักพัก พลางกระชับน้องที่กลายเป็นหมอนข้างจำเป็นของผมไปแล้วเข้ามาในอ้อมแขนแน่นเพื่อลดความหนาว ผู้ชายอะไรไม่รู้ ตัวแม่งโครตนิ่ม
นอนเล่นจ้องหน้ามันได้ไม่นานก็ต้องลุกไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนที่ไอ้เด็กในอ้อมแขนที่จะตื่นมาโวยวายว่าผมลวมลามหรือฉวยโอกาส ขี้เกียจเถียงครับ ถึงจะเห็นมันหน้าหวานๆเรียบร้อยๆงี้ แต่นิสัยดูท่าทางจะรั้นใช้ได้เหมือนกัน
พอลุกมาแปรงฟันในห้องน้ำ เห็นแก้วใส่แปรงสีฟันที่ปกติจะมีก็แต่แปรงของผมด้ามเดียว แต่วันนี้ยังมีแปรงสีเขียวของซินเสียบไว้ข้างกัน ผมมองมันยิ้มๆ รู้สึกเหมือนคู่แต่งงานใหม่ยังไงก็ไม่รู้ คิดได้เท่านั้นก็ต้องเอื้อมมาตบหัวตัวเองแรงๆหนึ่งทีข้อหาฟุ้งซ่าน หรือไอ้เด็กนี่มันจะเล่นของใส่ผม
พอเดินออกจากห้องน้ำก็พบว่าซินกำลังนั่งมึนๆอยู่บนเตียงคล้ายพึ่งตื่น หัวหูที่เมื่อวานดูเป๊ะมากเหมือนจัดมาอย่างดีตอนนี้กลับยุ่งฟูจนดูไม่เป็นทรง
“พี่นัท...หิว”
คำพูดแรกที่น้องมันส่งมาทักทายผมยามเช้าล่ะ
เฮ้ย ไอ้เด็กนี่เห็นผมเป็นอะไรไปแล้ว? พ่อครัวประจำตัวรึไง
“ปกติไม่กินข้าวเช้า กินกาแฟดำก็อยู่ได้ถึงกลางวันแล้ว”
ซินเบ้ปากน้อยๆ เมื่อได้ฟังคำตอบ พลางบ่นพึมพำเบาๆว่าเสียสุขภาพ ก่อนจะลุกจากเตียงไปคุ้ยตู้เย็น ก่อนจะหยิบนมกับครัวซองต์ที่ผมซื้อมาตุนไว้ออกมาจากตู้มาวางบนเคาร์เตอร์ พร้อมกับเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องน้ำ
“อุ่นนม กับครัวซองต์ให้เราหน่อยนะ เดี๋ยวออกมากิน”
ไอ้เด็กเอาแต่ใจ...
ผมบ่นในใจแต่ก็จัดแจงเทนมเย็นๆใส่แก้วก่อนจะยัดเข้าไมรโครเวฟ ตามด้วยครัวซองต์สี่ชิ้นก่อนจะเดินไปชงกาแฟดำของตัวเองต่อ พอซินออกมาจากห้องน้ำของกินทั้งหลายเหล่ก็วางอยู่บนโต๊ะโดยที่น้องมันไม่ต้องเสียแรงตระเตรียมอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ผ้าพันคอผืนเมื่อวานอีกละ ?”
“อือ ของสำคัญน่ะ”
ซินยกมือลูบผ้าพันคอ แวบหนึ่งผมเห็นแววตาของน้องเปลี่ยนเป็นแววตาที่เศร้าจับใจ แค่แวบเดียวจริงๆล่ะนะ เด็กคนนี้เก็บความรู้สึกเก่งเป็นบ้า ถ้าไม่ได้เห็นตอนละเมอเมื่อคืนก่อนผมก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าคนๆ นี้จะมีมุมอ่อนไหวกับเขาด้วย
บาส...? บางทีอาจจะเกี่ยวกับคนที่ชื่อบาสอะไรนั่นหรือเปล่า
ผมส่ายหัวรัวๆไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว เรื่องของตัวเองไม่ใช่แล้วจะไปคิดให้วุ่นวายทำไม
“พี่นัทมีคลาสกี่โมง?”
“เก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมง เสร็จแล้วก็กลับหอ”
“เราเลิกบ่าย ว่าจะชวนไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน”
“เดี๋ยวเดินเล่นรออยู่แถวตึกคณะซินก็ได้ พี่ไม่รีบไปไหน” ผมตอบกลับ ความจริงก็ไม่ได้รีบไปไหนจริงๆนั่นแหละ
“เออ มีคนอยากให้รู้จักกันไว้หน่อยอ่ะ แป๊บนึง เดี๋ยวมานะ” ผมพูดหลังจากจัดการครัวซองต์ในส่วนของผมชิ้นสุดท้ายเสร็จ ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูห้อง แต่ไปทันที่จะเปิดประตูไปไหน เสียงเคาะประตูห้องรัวๆก็ดังขึ้นมา พอเปิดประตูห้องออกมาก็พบว่าฝ่ายที่อยากเจอมายืนอยู่หน้าห้องเสียแล้ว ยูยะทักทายผมคำแรกด้วยคำว่า
“นัทซัง ผมหิว มีอะไรให้กินไหม”
ไอ้เด็กพวกนี้มันเห็นผมเป็นพ่อครัวกันจริงๆสินะ
“มีครัวซองต์ จะกินไหม เดี๋ยวอุ่นให้” ยูยะพยักหน้ารัวๆพลางเดินตามเข้ามาในห้องอย่างว่าง่าย ก่อนจะร้องถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นซินที่นั่งกินนมอยู่บนโต๊ะอาหาร
“นัทซังพาผู้หญิงเข้าห้อง?”
“นั่นมันผู้ชาย รูมเมทฉันเอง”
“จริงเหรอ ? ผู้ชายจริงเหรอ คาวาอิ๊เดส”
“แปลว่าอะไรวะ?” ผมที่อุ่นนมให้ยูยะเสร็จวางนมพร้อมกับครัวซองต์ลงบนโต๊ะ เนื่องจากว่าโต๊ะกินข้าวห้องผมมีเก้าอี้แค่สองตัว และไอ้เด็กญี่ปุ่นห้องข้างๆมันแย่งเก้าอี้ผมไปแล้ว ดังนั้นผมจึ่งหนีมานั่งบนเตียงของตัวเองแทน
“เค้าชมว่าเราน่ารัก” ซินตอบผมกลับ พลางยิ้มไปให้ยูยะ
“ฟังภาษาญี่ปุ่นรู้เรื่องด้วย” ผมถามอย่างแปลกใจ น้องมันชักจะเก่งเกินหน้าเกินตากันไปแล้ว
“เคยเล็กมานิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ”
จากนั้นผมก็แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน ก็ดูจะคุยถูกคอตามประสาเด็กเอกเดียวกันนั่นแหละ ผมนั่งมองน้องคุยอย่างวางใจ อย่างน้อยก็มีเพื่อนในคลาสเดียวกัน ไปเรียนวันแรกจะได้ไปติดขัดอะไรมากนัก
“ไปก่อนนะยูยะ ไปเรียนก่อนนะซิน ตอนกลางวันไปกินข้าวกัน”
ซินพยักหน้าพลางยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือบายบ๊าย เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยแฮะ ผมโบกมือตอบก่อนจะออกเดินออกจากห้องมา หอพักที่พวกผมอยู่เป็นหอพักของมหาลัยที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเพราะเป็นนักเรียนทุนของรัฐบาลฝรั่งเศส ตัวหออยู่ห่างจากตึกเรียนของผมไม่ถึงหกร้อยเมตร
แปลกที่วันนี้ระหว่างทางไปเรียน ผมมองอะไรก็สวยงามไปหมด
รู้สึกกระชุ่มกระชวยแปลกๆ แบบไม่มีเหตุผล
ผมเดินผ่านชาวยุโรปมากมายเพื่อไปเข้าคลาส มีคนเอเชียปะปนอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น นักเรียนไทยในปารีสน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆอย่างอังกฤษ หรืออเมริกา แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่มีเพื่อนคนไทยเลย
“อ้าว นัท วันนี้มาเช้าจัง ก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมงล่ะ” ต้าเพื่อนสนิทคนไทยของผมกล่าวทักเมื่อเห็นไอ้คนที่มาสายเกือบทุกคลาสอย่างผมมาเช้า
ต้า มีชื่อเล่นเต็มๆว่าดาต้า เธอเป็นผู้หญิงที่จัดมาสวยใช้ได้ เธอเรียนคณะเดียวกับผมแต่ไม่ใช่นักเรียนทุน จะพูดง่ายๆก็คือบ้านเธอรวยก็เลยส่งมาเรียนที่นี่นั่นแหละ แต่เธอเรียนเก่งใช้ได้เลยนะ สอบเมื่อไหร่ก็Aตลอด
“เข้าคลาสเหอะ ไปจองที่กัน”
ผมกับต้าชวนไปนั่งมุมขวาด้านหน้าสุดของชั้นเรียน เพื่อนของผมดูจะตั้งใจจดสิ่งที่ โพรเฟสเซอร์พูดทุกคำ ต่างกับผมที่ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ บางทีมันอาจจะลอยไปที่หอพัก หรือไม่งั้นก็ตึกคณะศิลปะ
นั่งใจลอยไปลอยมาก็11 โมงพอดี เสียงระฆังบอกเวลาหมดคาบของวิชานี้ พร้อมคำสั่งท้าตายของโพรเฟสเซอร์ว่าคาบหน้าจะมีเทส ซวยล่ะไอ้นัท หน้าห้องเขาสอนอะไรไปบ้างยังแทบไม่เข้าหูเลย แล้วจะเอาความรู้ที่ไหนไปสอบ
“ต้า นัทยืมเลคเชอร์หน่อยดิ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาคืน”
“แลกกับเลี้ยงข้าวกลางวันที่โรงอาหารยู”
“เอาดิ๊ แต่เรานัดรูมเมทคนใหม่เราไว้ด้วยนะ ไปกินพร้อมกันก็ได้”
“รูมเมท ? “ ต้าทำหน้าสงสัย
“อื้อ เด็กศิลปะปีหนึ่งอ่ะ นักเรียนทุนฝรั่งเศสเหมือนเรานี่แหละ แต่กว่าน้องมันจะเลิกก็บ่ายเลยนะ ต้ารอไหวไหมล่ะ”
“โหยย ไม่ไหวอ่ะนัท เราหิวมากเลย”
“งั้นนัทกินกับต้าก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยไปนั่งเฝ้าน้องกินอีกที”
ด้วยความที่ทั้งไปกินข้าวกับต้า ทั้งเดินไปส่งต้าขึ้นรถหน้ามอเพื่อแลกกับแลคเชอร์ พอผมเดินมาหน้าตึกศิลปะปุ๊บ ซินกับยูยะก็เดินออกมาพอดี ยูยะเห็นผมก่อนเลยสะกิดซินพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือมาทางผม พอน้องมันหันมาทางผมเท่านั้นแหละ อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ยิ่งตอนออกมาไม่เห็นว่ามันจะเก็บผมเป็นมวยลวกๆไว้ด้านหลัง ทำให้มีผมหลายกลุ่มที่ลุ่ยลงมาปรกใบหน้า บวกกับแว่นทรงโตทรงโตที่น้องมันใส่มาเรียน ถ้าคนอื่นทำแบบนี้อาจจะดูคล้ายอาซิ้ม แต่สำหรับผมน้องมันทำแล้วน่ารัก
ไอ้เด็กนี่เล่นของใส่ผมจริงๆด้วย...
“หิวแล้วอ่ะพี่นัท กินไรดี”
“แล้วแต่เลย พี่มาแล้ว”
“เอ๊า ไหนว่าจะรอกินพร้อมเราอ่ะ” ปากบางของอีกฝ่ายบิดลงน้อยๆ
“โทษที พอดีเพื่อนหิวเลยไปกินกับเพื่อนก่อน”
“พี่นัทเบี้ยวนัดเราอ่ะ แม่ง ผิดสัญญา”
“เอ๊า”
“งอน”
“ง้อ”
“ไม่” รูมเมทขี้งอนเชิดหน้าก่อนจะลากไอ้เด็กญี่ปุ่นที่ทำหน้างงอยู่ข้างๆออกเดิน ร้อนถึงผมที่ต้องวิ่งตามไปง้อมัน
“คืนนี้พาไปเดินเล่นกลางปารีสเลยอ่ะ ฟรีตลอดทริปด้วย”
“จริงนะ” ร่างบางที่กำลังเดินหนีฉับๆหยุดกึก หันมาถามพร้อมดวงตาที่เป็นประกายวิ้งๆ เออ...ไอ้เด็กงก
“จริงดิ”
“พี่นัทห้ามเบี้ยวเราอีกนะ”
“เออน่า”
“เบี้ยวเป็นหมานะ เราแช่งไว้แล้ว”
ไอ้เด็กนี่... ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะเอื้อมมือไปผลักหัวมันเล่นๆ ซินหัวเราะพร้อมกันหลบฝ่ามือผม นั่น มีการแลบลิ้นใส่ผมแถมมาด้วย
“งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกับยูยะเอง พี่นัทกลับห้องเถอะ ไว้เจอกันตอนเย็นที่ห้องเลย”
“อื้ม เอางั้นก็ได้”
“เจอกันตอนเย็น” น้องโบกมือถี่ๆ ก่อนจะหันหลังให้ผมเดินไปทางโรงอาหารมหาวิทยาลัย ให้ตายสิ ไอ้เด็กคนนี้มันน่ารักเป็นบ้า
แต่ก็นั้นแหละ มันก็แค่น่ารัก น่าเอ็นดูประสาน้องชายคนหนึ่ง
ล่ะมั้งนะ...
TBC.
ลืมบอก พาร์ทday จะเป็นของพี่นัท ส่วนพาร์ทNIGTH จะเป็นของพี่ซินค่ะ
วันนี้คึกอ่ะ อาจจะมีพาร์ทNIGHT ตามมา (รึเปล่า 55)
ปล.ขู่ำไว้แต่ก็เอามาลงอยู่ดี 555XD
ความคิดเห็น