คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 ความลับ
ณ พระโขนง
ตอนที่ 3 ความลับ
แขกของบ้านที่แอบไปเดินตลาดคนเดียววางของกินที่ซื้อมาเต็มมือลงบนโต๊ะในห้องครัว ขณะที่กำลังชั่งใจว่าจะไปปลุกเพื่อนๆมากินข้าวเช้าเลยดีไหม ชายหนุ่มก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงเรียกจากเจ้าของบ้าน ...ที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ไปไหนมาเหรอบาส?”
บาสหันไปยิ้มให้ฝ่ายที่มาใหม่ ขณะแกะอาหารใส่จาน
“โถ่ ...ซิน ตกใจหมดเลย ไปตลาดมาน่ะ ...เห็นยังไม่มีใครตื่นก็เลยไปคนเดียว”
“เหรอ...” คนหน้าหวานตอบรับหน้านิ่ง ร่างบางมองตรงมายังบาสด้วยแววตาที่ชายหนุ่มอ่านไม่ออก ชั่วขณะนั้นบาสรู้สึกกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาแวบหนึ่ง... แต่ไม่นาน...ซินก็ละสายตาออกมาแล้วหันไปช่วยจัดอาหารที่ซื้อมาใส่จานอีกแรง
ทุกอย่างกลับเป็นปกติ...
“บาสไปปลุกนัทกับเพื่อนๆให้หน่อยสิ เดี๋ยวซินหุงข้าวให้”
“อื้อ ...” ชายหนุ่มรับคำ แต่ก่อนจะก้าวพ้นห้องครัว ก็นึกเรื่องหญิงสาวท่าทางแปลกๆที่เขาบังเอิญเจอระหว่างทางขึ้นมาได้
“เออซิน เมื่อกี้บาสเจอผู้หญิงคนหนึ่งระหว่างทางกลับมานี่ด้วยล่ะ ... ดูท่าทางเค้าแปลกๆนะ ...แถมยังพูดอะไรแปลกๆอีกต่างหาก”
“พูดอะไรแปลก? เรื่องอะไรเหรอ?” คนตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการหุงข้าวถามโดยที่ไม่ได้หันหลังกลับมามองคู่สนทนา
“เค้าบอกว่า... ซินเป็นผี”
เพล้ง ...
“โอ้ย ...”
“เฮ้ย ซิน เป็นอะไรไหม?” ชายหนุ่มรีบเข้าไปดูอาการคนรักของเพื่อนที่ไม่รู้ทำอีท่าไหนถึงเผลอไปปัดจานตกลงมา แถมยังเผลอก้าวถอยหลังไปเหยียบเศษจานกระเบื้องจนเลือดอาบเท้า
“เจ็บอ่ะ ...”
“ทนหน่อยนะซิน เศษแก้วมันปักอยู่” พูดจบก็เอื้อมมือไปดึงเศษกระเบื้องที่ปักอยู่บนเท้าเล็ก ร่างบางเบ้หน้าหนี น้ำตาคลอน้อยๆพลางบ่นอุบอิบ
“เจ็บ...”
“ออกหมดแล้ว ... เดี๋ยวเราไปหายามาใส่” ผละจากคนเจ็บหมายจะไปหายา แต่มือเล็กๆของซินก็เอื้อมมาคว้าแขนเสื้อเอาไว้ก่อน
“บาส ... บาสเชื่อที่ผู้หญิงคนนั้นพูดไหม?”
“ไม่เชื่อหรอกน่า ไร้สาระออก แป๊บนึงนะซิน เดี๋ยวเราไปเอายามาให้” ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องครัวไป ก่อนจะกลับมาพร้อมยาแผลแดงและที่พันแผล
ชายหนุ่มจัดการเก็บกวาดเศษกระพื้นที่พื้น ก่อนจะก้มลงคุกเข่าทำแผลให้คนตัวเล็ก แตะสำลีชุ่มยาแผลแดงจรดลงกับแผลทำเอาคนเจ็บสะดุ้งน้อยๆ พลางบ่นอุบอิบว่าแสบ
“เสร็จแล้ว” บาสพูดขึ้นเมื่อพันผ้าพันแผลให้อีกฝ่ายเรียบร้อย
“ขอบคุณมากนะบาส”
“อื้ม ไม่เป็นไร ...ซินนั่งอยู่เฉยๆเถอะ เดี๋ยวบาสไปปลุกไอ้พวกนั้นมาช่วยหุงข้าว” พูดแล้วก็เก็บอุปกรณ์ทำแผลออกจากห้องครัวไป ทิ้งร่างบางที่มองตามแผ่นหลังร่างสูงที่เดินออกไปจนลับสายตาอยู่ในครัวเพียงลำพัง
..................
แผนการพาเพื่อนเที่ยวพระโขนงในวันนี้เป็นอันต้องถูกพับเก็บเมื่อคนอาสาจะพาเที่ยวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคนรักของตนเองโดนเท้าเจ็บ ร่างสูงคอยตามประคบประหงมซินไม่ห่างจนโย่งอดที่จะแขวะเพื่อนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้
“พี่นัทคร้าบบบ ซินเป็นแผลที่เท้านะครับ ไม่ใช่ขาหัก เดินเองได้มั้ง ไม่ต้องถึงกับอุ้มหรอก”
ใบหน้าหวานซับสีแดงระเรื่อบนแก้มเพราะคำแซว ก่อนจะตีแขนแกร่งที่กำลังจะเข้ามาช้อนตัวเขาขึ้นไป
“นั่นสิ ซินเดินเองได้น่านัท”
“ไม่เอาอ่ะ นัทเป็นห่วงนิ ...เค้าไม่อยากเห็นตะเองเจ็บอีกอ่ะ”
“บ้าเหรอ” มือเล็กตีอกแกร่งเบาๆอย่างเขินๆ ...พูดอะไรออกมาช่วยอายเพื่อนที่นั่งหัวโด่กันอยู่เต็มบ้านด้วยเถอะ
“แหมมม มดขึ้นแล้วมึงมดขึ้น นี่กูอิจฉาจนตากูจะลุกเป็นไฟแล้วเนี่ย” เปตองเอ่ยแซว ก่อนจะล้วงไพ่หนึงสำหรับออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“มาเล่นไพ่กันดีกว่า มาๆ ล้อมวง” พูดแล้วก็กวักมือๆเรียกเพื่อนๆให้เค้ามานั่งล้อมเป็นวงกลม พลางอธิบายกติกาให้ทุกคนฟังระหว่างคัดไพ่ให้เหลือแค่ห้าใบ
“วิธีเล่นง่ายๆ มีไพ่ห้าใบ คิงหนึ่งใบ โจ้กเกอร์หนึ่งใบ อีกสามใบเป็นเลขธรรมดา” พูดแล้วก็หงายให้เพื่อนๆดู ก่อนจะคว่ำไพ่ลงแล้วจัดแจงสับไพ่
“ถ้าใครได้ไพ่คิง จะมีสิทธิ์สั่งให้คนถือโจ๊กเกอร์ให้ทำอะไรก็ได้ ...ส่วนคนถือโจ๊กเกอร์ มันผู้นั้นต้องทำตามทำสั่งคิงโดยไม่มีข้อแม้ สำหรับไพ่ธรรมดาที่เหลือ รอด โอเค มาเริ่มกันเลย”
“เหี้ย กูโดนแล้วไง” โย่งโวยวายขึ้นมาหลังเปิดไพ่ได้โจ๊กเกอร์ ในขณะที่บาสหัวเราะหึๆ อย่างสะใจ
“อย่าบอกนะว่ามึงเป็นคิงอ่ะ” ชายหนุ่มที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มมองเพื่อนที่เริ่มมีรัศมีความชั่วร้ายแผ่ออกจากหน้าอย่างหวาดๆ
“ถูกต้องนะคร้าบ ... กูขอสั่งให้มึงหอมแก้มไอ้เปตองทีนึง”
“เหี้ย / ไอ้เชี่ย” ผู้มีส่วนร่วมสองคนในการลงโทษกล่าวเจริญพรให้กับคนสั่ง พลางมองหน้ากันอย่างขยะแขยง ก่อนที่โย่งจรดริมฝีปากไปที่แก้มของเปตองอย่างเสียไม่ได้
“ฮิ้ววววววว” ทั้งนัทและบาสร้องแซว ทั้งสะใจทั้งขำที่ได้แกล้งเพื่อน
“อย่าให้ถึงตากูมั่งนะ” โย่งเอ่ยอย่างอาฆาต ในขณะที่เปตองเริ่มสับไพ่แจกอีกครั้งหนึ่ง
“ชิบหายละนัท ...กูได้โจ๊กเกอร์” บาสโอดครวญพลาญเปิดไพ่ออกมาให้ทุกคนได้ดู พร้อมก็โย่งที่หัวเราะอย่างสะใจ
“กรรมตามมึงทันแล้วไอ้บาส กูได้คิง ฮ่าๆ”
“ตะกี้มึงทำกูแสบมากเพื่อนรัก ...เอ จะสั่งให้มึงทำอะไรดีนะ ช่วยกูคิดหน่อยดิตอง” คนเป็นต่อยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบกับเปตอง
“เอางี้ ... จัดไปเบาก่อนๆ กูจำได้ว่ามึงเป็นคนกลัวผี...กูแกล้งมึงไม่ลงหรอก แต่ว่ากูขอสั่งให้มึงลงไปข้างล่างบ้านนะ แล้วก็ก้มหัวลอดมองใต้หว่างขาหันไปมองทุกทิศเลย”
“สบายมากเว้ย” คนถูกสั่งยักคิ้วท้าทาย ก่อนจะเดินลงบันไดบ้านพลางประกาศกร้าว
“ไม่มีผีที่ไหนจะโผล่มากลางวันแสกๆหรอกว่ะ”
เหล่าพองเพื่อนต่างเกาะระเบียงตั้งใจมองการโดนลงโทษของบาส ยกเว้นซิน ...ร่างบางนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม พลางจ้องไปที่บาสเขม็ง
“เริ่มได้แล้ว ...โชคดีผีเดินผ่านนะมึง” เปตองตะโกนลงไป สิ้นคำเพื่อนบาสก็กางขาออก ก่อนจะก้มลงไปมองลอดหว่างขา ชายหนุ่มเริ่มจากทิศใต้ที่อยู่ตรงข้ามจากตัวบ้าน ก่อนจะย้ายมายังทิศตะวันออก และทิศตะวันตก
“เป็นไง เจออะไรบ้างไหมมึง” โย่งตะโกนถาม
“ไม่มีเว้ย ...”
“เออๆ รีบก้มดูให้ครบสี่ทิศแล้วขึ้นมาสักที” เปตองตะโกนสบทบอย่างเซ็งๆ ที่การแกล้งบาสกลับครั้งนี้ไม่ได้ผล
บาสยิ้มเยาะคนด้านบน ก่อนจะย้ายมุมโดยการหันหลังออกจากตัวบ้าน ชายหนุ่มค่อยๆกางขาออก ก่อนจะก้มตัวไปมองตัวบ้านผ่านช่องระหว่างขาทั้งสอง
แล้วภาพที่ได้เห็นก็ทำให้บาสเข่าอ่อนจนแทบทรุดลงไปกับพื้น...
บ้านที่พวกเพื่อนอยู่ก็ดูเป็นปรกติเหมือนเดิม ...พวกเพื่อนๆที่นั่งหัวเราะเฮฮากันก็ดูเป็นปรกติเหมือนเดิม แต่มีบางสิ่งที่ไม่ปรกติ...
ซินจ้องเขม็งมาที่เขา จ้องอย่างโกรธแค้นราวกับว่าเขาทำความผิดร้ายแรง สายตาร่างบางที่ว่าน่ากลัวแล้ว สภาพซินในตอนนี้กลับน่ากลัวยิ่งกว่า
ร่างทั้งร่างขาวซีด ... ซีดแบบไร้เลือดหล่อเลี้ยงร่างกาย ซีดเหมือน...
เหมือนกับศพ...
“อย่างที่บาสเห็นนั่นแหละ ... เราเป็นผี” ชายหนุ่มแว่วเสียงซินกระซิบเข้าข้างหู ทั้งๆเห็นกับตาว่าเจ้าของเสียงยังไม่ได้ขยับปากพูดเลยด้วยซ้ำ
ร่างขาวซีดยังคงจ้องมาที่เขาเขม็ง ก่อนจะส่งคำเตือนดังเข้าหูชายหนุ่มผู้โชคร้าย
“เก็บเป็นความลับนะ อย่าบอกใครโดยเฉพาะนัท ... ไม่งั้น บาสตาย”
TBC.
ความคิดเห็น