คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Episode2: find the Truth
Esprit ... ความทรงจำของนางฟ้า
Episode2: find the Truth
นัทอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านในตอนบ่าย จุดมุ่งหมายคือบ้านของซินเซียร์ที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ ชายหนุ่มนึกในใจว่าหากเจอพ่อแม่หรือคนรู้จักของอีกฝ่าย ก็อาจหาร่างของซินเจอได้โดยง่าย และเมื่อวิญญาณของซินกลับเข้าร่างสำเร็จ ชีวิตของเขาก็จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง...ถึงแม้จะใจหายอยู่หน่อยๆก็เถอะ
“ช้าจัง คุณเป็นผู้ชายที่อาบน้ำแต่งตัวนานที่สุดเท่าที่ซินเคยรู้จักเลย” วิญญาณหน้าสวยบ่นทันทีที่นัทเดินออกมาจากห้องนอน พลางเกาคางให้แมวตัวโปรดตัวชายหนุ่มเล่น แมวสีขาวลายเทาครางรับสัมผัสเล็กน้อย ก่อนจะบิดตัวไปมาอย่างมีความสุข
“ใครจะสบายไม่ต้องอาบน้ำแต่งตัวแบบคุณล่ะ...เฮ้ยเดี๋ยว ทำไมแสงดาวทำอย่างกับมันเห็นซินอ่ะ?” นัทถามอย่างตกใจ มองดูแมวตัวเองที่พยายามเอาหัวเข้าไปคลอเคลียวิญญาณหน้าสวย แต่วิญญาณก็ต้องเป็นวิญญาณอยู่วันยังค่ำ หัวเล็กๆของแมวตัวโปรดเลยลอยวืดผ่านเข่าของซินไปอย่างน่าเสียดาย ท่าทางขัดใจของแสงดาวที่สัมผัสของฝ่ายไม่ได้สักทีสร้างความขบขันให้แก่นัทจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ก็คงเห็น เพราะเมื่อคืนที่น้องดาววิ่งเข้าไปในบ้านร้างหลังนั้น ซินเป็นคนเรียกเองแหละ” ร่างบางตอบหน้าตาย อย่างที่ไม่รู้เลยสักนิดว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเสี่ยงหัวใจวายตายด้วยความกลัว นี่ยังดีที่เจอวิญญาณตัวเดียวก็คือคนตรงหน้า เพราะถ้าเจอตนอื่นอีกชายหนุ่มคงวิ่งป่าราบโดยไม่สนใจเก็บกู้แมวจอมซนแม้แต่น้อย
“คุณเรียกแมวผมไปทำไมอ่ะ หรือวิญญาณจะมีพลังเมื่อกินเลือดแมวสดๆ” นัทถามทีเล่นทีจริง ก่อนวิญญาณหน้าสวยจะค้อนวงโตกลับมาเป็นคำตอบ
“โอ้โห ปากดีมาก ปากดีอย่างนี้เดี๋ยวสั่งเพื่อนๆเล่นงานให้หัวโกร๋น”
“กลัวแล้วจ้า อย่าเอามาเล้ย ...เสียเวลาเพื่อนคุณเปล่าๆ ผมไม่อยากรบกวนเค้าเท่าไหร่” นัทตอบเสียงอ่อย พร้อมกับล็อคประตูบ้านก่อนจะจัดแจงจูงมอเตอร์ไซต์คู่ใจออกมาจากประตูรั้ว นัทขึ้นไปนั่งในส่วนคนขับ ก่อนจะตบๆเบาะหลังให้ซินมาซ้อนท้าย
“เราลอยไปเองจะถึงเร็วกว่าไหม?” ร่างบางถามอย่างไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องซ้อนมอเตอร์ไซต์อีกฝ่าย
“ลอยไป เองอ่ะถึงเร็วแน่ แต่ผมน่ะสิจะเป็นฝ่ายหลงเพราะไม่รู้จักบ้านคุณ”
“เออเนอะ ซินลืมไป” ซินยิ้มเจื่อนๆ พลางเดินขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซต์อีกฝ่าย พลางกล่าวถาม “นัทมีหมวกกันน็อคอีกใบให้ซินไหม”
“มีสิ ซินจะใส่เหรอ ฮ่าๆๆ ” ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนจะนึกได้ว่าเป็นวิญญาณไม่ใส่หมวกกันน็อคก็คงไม่มีตำรวจที่ไหนเขียนใบสั่งให้ไปจ่ายค่าปรับ ซินหน้าแดงกับความเอ๋อของตัวเอง ส่วนอีกคนน่ะเหรอ? ขำหน้าดำหน้าแดงจนหยุดไม่ได้อยู่ที่เบาะหน้านั่นแหละ
“ตลกมากไหม ไปได้แล้วคุณ ” ซินตบหลังอีกฝ่ายเป็นเชิงให้ออกรถ ถึงแม้จะแตะไม่โดนตัวแต่ก็ดูเหมือนว่านัทจะเข้าใจ เพราะร่างสูงบิดรถออกจากบ้านทันที แต่ไม่วายที่จะหันมาแซวร่างที่ซ้อนท้ายอยู่ข้างหลัง ก่อนจะถามเส้นทาง
“วิญญาณในโลกนี้เอ๋อแบบซินกันทุกกตัวไหมเนี่ย ถ้าใช่นัทจะได้เลิกกลัวผี…แยกหน้าเลี้ยวฝั่งไหนอ่ะซิน?”
“เลี้ยวขวา แล้วตรงไปเรื่อยๆ เลยนัท ....เฮ้ย ขับช้าๆหน่อยดิ๊” ซินบอกทาง ร่างบางหลับตากอดคนขับมอเตอร์ไซต์แน่นพลางตะโกนให้คนขับลดความเร็วลง ถึงจะรู้ว่าถ้ารถเกิดแหกโค้งลงไปยังไงตัวเองก็คงไม่เจ็บอยู่ดี แต่ก็อดที่จะกลัวไม่ได้
“ปกตินัทขับเร็วกว่านี้ตั้งเยอะ ขับมอเตอร์ไซต์ใครเค้าจะขับช้ากันล่ะคุณ ซินไม่เคยซ้อนมอเตอร์ไซต์ใครมาก่อนเลยใช่ไหมเนี่ย ?
“ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยหรอก แล้วก็ไม่คิดจะลองด้วย ใครจะคิดว่าต้องมาซ้อนท้ายใครไม่รู้ตอนวิญญาณตอนจากร่าง เลี้ยวขวาแยกหน้าเลย...ขับช้าๆหน่อยก็ได้คุณ แหกโค้งนี้ศพไม่สวยนะ”
“คุณตกลงไปยังไงก็ไม่เจ็บหรอกน่า...หรือว่าคุณห่วงผม” นัทพูดไปอมยิ้มไป พลางหันไปยักคิ้วให้อีกคนผ่านกระจกรถ
“เอ่อ ก็...ห่วงสิ” ร่างบางตอบอ้อมแอ้ม ยิ่งสบสายตากับคนที่มองมาผ่านกระจกรถยิ่งรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ...ไหนใครว่าเป็นวิญญาณแล้วจะไร้ความรู้สึก ซินเซียร์คนนี้ขอเถียงขาดใจ!
“เราก็ต้องห่วงนัทอยู่แล้ว ไม่มีนัทแล้วใครจะช่วยพาเรากลับร่าง” ร่างบางรีบไฉเฉให้เหตุผล ก่อนจะยกมือมาปิดแก้มหัวเองที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง อาการของร่างที่ซ้อนท้ายอยู่ข้างหลังน่ารักซะจนนัทอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหึๆกับตัวเอง
“วิญญาณปากแข็ง”
“นัทว่าใคร?” คนปากแข็งเริ่มร้อนตัว
“นัทพูดลอยๆอ่ะ แถวนี้มีวิญญาณตั้งหลายตัว ใครอยากรับก็รับไปสิ” ซินพยักหน้าร้องอ๋อ ก่อนจะบอกทางต่ออย่างขะมักเม้น ร่างบางกินลมชมวิวกับทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเพิ่งคิดได้กับคำพูดของอีกฝ่าย…วิญญาณแถวนี้...ก็เขาคนเดียวนี่นา นัทมันก็มองเห็นแค่เขาคนเดียว....หรือว่า...
“ไอ้นัทงอก ว่าเราปากแข็งเหรอ” ร่างบางตะโกนใส่คนข้างหน้า ที่ตอนนี้กำลังหัวเราะไม่หยุดให้กับความรู้สึกช้าของตนเอง
ไม่นานมอเตอร์ไซต์คันสีดำก็มาจอดอยู่หน้าบ้านสีขาวหลังใหญ่ นัทลงจากรถก่อนจะกดออดเพื่อเรียกเจ้าของบ้าน แต่ไม่ว่าจะยืนรอนานแค่ไหนก็ไม่มีใครออกมาต้อนรับ
“ป๊าม๊าย้ายออกไปแล้วจริงๆด้วย ...อ้อนัท เดี๋ยวซินมานะ” ไม่ทันที่ร่างสูงจะตอบรับ ซินก็เดินทะลุประตูรั้วที่ปิดล็อคสนิททันที
“เฮ้ย เข้าข่ายบุกรุกเลยนะคุณ”
“บุกรุกอะไรกัน นี่มันบ้านซิน” คนหน้าหวานหันไปเตือนคนขี้ลืมส่ายหัวให้กับความปัญญาอ่อนของนัทก่อนจะลอยเข้าสู่ตัวบ้านไป
ทันทีที่ซินเข้ามาในบ้าน ร่างบางพยายามตามหาคนในครอบครัวของตนเองหรือคนที่ป๊าม๊าอาจจะจ้างมาไว้เพื่อดูแลบ้าน แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา ซินเข้าไปสำรวจในห้องนอนเก่าของตนเอง ก่อนที่จะพบว่าเสื้อผ้าและข้าวของบางอย่างถูกย้ายออกไปจากที่เดิม ห้องของพ่อและแม่ของเขาก็เช่นเดียวกัน เสื้อผ้าของทุกคนทุกย้ายออกไปหมด ไม่มีร่องรอยการอยู่อาศัยของใครในบ้านหลังนี้เลย
ซินเดินสำรวจในบ้านอย่างใจลอย ร่างบางล้มลงนอนบนเตียงที่เคยนอนเป็นประจำยามมีชีวิต คิดถึงห้องครัวที่เข้ามาช่วยม๊าทำอาหารบ่อยๆ คิดถึงห้องรับแขกที่มักใช้ดูทีวีและนั่งคุยเล่นกับสมาชิกในครอบครัว คิดถึงห้องนอนที่ไม่ได้กลับมานาน คิดถึงอ้อมกอดและรอยยิ้มอบอุ่นของป๊าม๊า...คิดถึง ตอนตัวเองยังมีชีวิต ...
ซินลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินจากบ้านออกไปหานัท ปาดน้ำตาที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาเมื่อไหร่ออกจากดวงตาคู่สวย คงจะไม่ดีนักถ้านัทจะเกิดเป็นห่วงขึ้นมาอีกเพราะเห็นเขาร้องไห้ แค่นี้เขาก็รบกวนนัทจะแย่แล้ว
“เป็นไงบ้างคุณ” นัทถามเมื่อวิญญาณหนุ่มทะลุประตูรั้วกลับมา
“ไม่มีคนอยู่เหมือนเดิม ”
“คุณว่าคนละแวกนี้จะรู้ไหมว่าพ่อกับแม่คุณไปไหน ”
“ไม่แน่ใจ แต่ลองถามดูก็ไม่เป็นไรนี่? นั่นมัน... บาส?” ซินเสนอความคิดเห็น คิ้วเรียวขมวดเป็นปมเห็นรถยนต์คันสีดำที่คุ้นตาแล่นเข้ามาหน้าบ้านพวกเขากำลังยืนอยู่ ก่อนร่างบางจะอุทานชื่อเพื่อนสนิทที่ขับรถเค้ามาด้วยความแปลกใจ
“คุณเป็นใคร ” ชายร่างสูงโปร่งลงเดินลงมาจากรถก่อนจะตรงเข้ามาหานัท ชายหนุ่มผู้มายืนหน้าบ้านคนอื่นได้แต่ทำหน้าเลิกลั่ก พลางถามเจ้าของบ้านตัวจริง ที่ตอนนี้เป็นเพียงแค่วิญญาณยืนอยู่ข้างๆ
“คนรู้จักคุณเหรอ”
“อื้อ นี่บาสเพื่อสนิทเราเอง นัทลองถามเรื่องเรากับบาสให้หน่อยสิ ซินว่าเขาน่าจะรู้นะ”
“ครับผม ” นัทรับคำร่างบาง ก่อนจะหันกลับมาทางบาสที่ตอนนี้กำลังมองเขาอย่างหวาดๆ ...ซวยแล้วไอ้นัท เผลอคุยกับซินตนคนอื่นอยู่ด้วยเขาก็คิดว่ามึงบ้าสิวะ ...ด่าตัวเองเบาๆ ก่อนจะยิ้มเจื่อนไปให้อีกฝ่าย
“ตกลงคุณเป็นใคร แล้วตะกี้คุณคุยกับใครอยู่น่ะ?” คนมาใหม่ถามพลางมองด้านซ้ายของนัทที่เมื่อกี้ชายหนุ่มหันไปคุยกับซินอย่างหวาดระแวง
“ซินครับ เอ้อ ...ผมหมายถึง ผมเป็นเพื่อนเก่าซิน พอดีผ่านมาก็เลยแวะมาเยี่ยมนะครับ” นัทแทบกัดลิ้นตัวเองตายเมื่อเผลอตอบคำถามอีกฝ่ายตรงๆ... ยังดีนะที่แถกลับมาทัน
“ซินเค้าไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก แปดปีที่แล้วเขาประสบอุบัติเหตุ รักษาหายแล้วแต่ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาสักที กลายเป็นเจ้าชายนิทรามาแปดปีแล้ว”
“แล้วตอนนี้ซินอยู่ที่ไหน ผมไปเยี่ยมเขาได้ไหมครับ?” นัทกล่าวอย่างตื่นเต้น ดีใจที่อีกไม่กี่ชม.ข้างหน้าวิญญาณหน้าหวานจะกลับเข้าร่างได้สมใจ
“ได้สิครับ ซินอยู่บำรุงราษฎ์ ห้อง420 ตึกผู้ป่วยใน คุณล่วงหน้าไปก่อนผมเลยก็ได้ เดี๋ยวผมต้องไปเก็บเสื้อผ้าให้พ่อกับแม่ซินเพิ่มก่อน ขอตัวนะครับ” บาสไขกุญแจประตูรั้วก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้นัทยืนอยู่หน้าบ้านคนเดียว ชายหนุ่มหัวใจพองโต ดีใจแทนซินจะได้กลับเข้าร่างแม้จะใจหายอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ดวงวิญญาณข้างๆดีใจจนน้ำตาไหล
“ซินจะได้กลับเข้าร่างแล้วนัท...” ร่างบางพูดอย่างยินดี น้ำตาแห่งความดีใจค่อยไหลจนหยดจนมาเปรอะแก้มเนียน
TBC.
TALK : พี่ซินคิดเหรอว่าจะได้กลับง่ายๆ เราโรคจิตกว่านั้นเยอะ 5555(สปอยทำไม- -)
แต่งฟิคเรื่องนี้ไปมาๆ พึ่งรู้ว่าผีก็ซึนได้ 5555
เราจะพยายามมาต่อให้บ่อยๆ
ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจฟิคเรื่องนี้นะคะ♥
ความคิดเห็น