ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Singular Fiction]Under The North Star

    ลำดับตอนที่ #2 : Under The North Star [1]

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 56


    กิโลเมตรที่ 1

     

     

                    เสียงหวูดรถไฟดังขึ้น นายสถานีชาวจีนโบกธงสัญญาณ ก่อนรถไฟขบวนที่ขึ้นชื่อว่ายาวที่สุดในโลกจะเคลื่อนตัวออกชานลาด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก นัทเร่งฝีเท้า นัยย์ตาคมก็คอยสอดส่องหาห้องผู้โดยสารของตัวเองตามหมายเลขที่ระบุในบัตร เกือบทั้งหมดของรถไฟขบวนที่ถูกกั้นเป็นห้องหับมิดชิดติดอยู่ริมหน้าต่างทางด้านขวา เว้นพื้นที่ประมาณหนึ่งเมตรเป็นทางเดินติดริมหน้าต่างซ้าย โดยจะมีเก้าอี้วางอยู่ริมทางเดิน สำหรับผู้โดยสารที่อยากออกมานั่งชมวิวด้านนอกห้อง

     

                    ไม่ถึงนาทีชายหนุ่มก็ลดฝีเท้าลง ก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องโดยสารหมายเลขเดียวกับตั๋วในมือ นัทเปิดประตู ห้องโดยสารหน้าตาเหมือนที่เขาเคยเห็นในไกด์บุ๊คปรากฎแก่สายตา ในห้องมีเตียงสองชั้นสองเตียงวางอยู่ชิดริมด้านซ้ายและขวา ทิ้งที่ว่างตรงกลางห้องไว้สำหรับเดิน ส่วนผนังห้องด้านตรงข้ามประตูนั้นเป็นหน้าต่าง

     

                   

                    นัทจัดการเก็บสัมภาระ ที่นั่งของเขาคือเตียงด้านล่างฝั่งซ้าย มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นในห้องโดยสาร นัทถอนใจน้อยๆ ชายหนุ่มแอบหวังจะพบเพื่อนร่วมทางดีๆ เผื่อว่าจะได้พูดคุย ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางของกันและกัน แต่ก็นั่นแหละ ... จะมีสักกี่คนกันที่จะนึกครึ้มแบกเป้ออกเดินทางในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ เขาล้มตัวลงนอน ทอดสายตามองวิวจากนอกหน้าต่างที่สะท้อนผ่านบานกระจกหลังประตู การเดินทางครั้งนี้จะเป็นเดินการเดินทางที่ยาวไกลที่สุดในชีวิตของเขา

     

     

     

                    ซึ่งชายหนุ่มหวังว่ามันจะยาวไกลพอที่เขาจะตามหาบางอย่างจนพบ

                    ...และลบบางสิ่งออกไปจากใจ...

     

     

     

                    ครืดดด...

     

                   

                    ประตูห้องโดยสารถูกเลื่อนออกอย่างกระทันหันจนนัทสะดุ้ง  พร้อมๆกับผู้โดยสารที่พึ่งเข้ามาใหม่  นัทลอบมองตาม เพื่อนร่วมห้องของเขาเป็นหนุ่มผมยาวชาวเอเชีย ตัวเล็กเสียจนมองแวบแรกนัทเกือบคิดว่าเป็นหญิงสาว คนมาใหม่นั่งลงบนเตียงล่างฝั่งขวา เก็บสัมภาระซึ่งมีเพียงกระเป๋าเป้ใบเดียวก่อนจะหันมายิ้มให้ เขายิ้มตอบ ยังไม่ที่จะชวนอีกฝ่ายคุย เจ้าหน้าที่บนรถไฟก็เข้ามาตรวจตั๋ว

     

                   

                    “Hi …where are you from?

     

     

                     นัทชวนคุย เลือกใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารไปก่อนเพราะแม้ว่าจะดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นคนเอเชีย แต่ก็ดูไม่ออกอยู่ดีว่าประเทศอะไร

     

     

                    Thailand . My name’s sincere”

     

     

                    “อ้าว... คนไทยเหรอครับ?

     

     

                   
                    ครับ คุณก็เป็นคนไทยสินะ ...โชคดีจัง

     

     

     

     

                    รอยยิ้มปรากฎขึ้นที่มุมปากทั้งสองคน นัทรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้เจอกับคนชาติเดียวกัน ชายหนุ่มแอบคิดว่าอีกฝ่ายก็อาจจะคิดเหมือนกันกับเขา

     

                    ผมชื่อนัทนะ คุณ...ซินเซียร์ใช่ไหม?”   ชายหนุ่มทวนชื่อที่อีกฝ่ายแนะนำเมื่อครู่ ซินเซียร์ยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ มือเรียวยกขึ้นมาถอดแว่นกันแดดที่ปิดบังใบหน้าอยู่เกือบครึ่ง เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานเกินกว่าจะเป็นชายชาตรี

     

     

                     เรียกเราว่าซินเฉยๆก็ได้

     

                   

                    “ครับ ...ว่าแต่ซินจะไปไหนเหรอ?

     

                   

                    “เราจะไปมอสโคว์  แล้วนัทล่ะ?อีกฝ่ายถามกลับ

     

                   

                    “ก็ ...คงไปเรื่อยๆ

     

                   

     

                    คู่สนทนาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจทันทีเมื่อนัทตอบกลับไป ชายหนุ่มจึงอธิบายต่อ

     

                   
                    “ผมแบ็คแพกเที่ยวคนเดียวน่ะ กะจะลองเดินทางข้ามทวีปด้วยรถไฟดูสักครั้ง มีคนบอกมานะว่าถ้านั่งรถไฟสายทรานไซเบียเรียไปลงที่มอสโคว์ เราจะสามารถนั่งรถไฟเที่ยวต่อไปได้ไกลถึงอังกฤษเลย จุดหมายสุดท้ายผมอยู่ที่วอเตอร์ลู  ...ถ้าไม่หมดแรงเที่ยวไปซะก่อนนะ

     

     

                    “งั้นนัทก็ลงสถานีมอสโคว์เหมือนเรา?

     

                   

                    เปล่า ผมลงอูลันบาดอร์ ..กะจะแวะเที่ยวทุกเมืองที่ผ่าน แล้วค่อยนั่งรถไฟไปเมืองต่อไป

     

                   

                    “น่าสนุกจังนะครับ

     

     

                    “สนุกครับ ... ซินอยากลองบ้างไหมล่ะ?

     

     

                    “ไม่ดีกว่าฮะ ชีวิตเราคงไม่ค่อยเหมาะกับการลองอะไรใหม่นักหรอก”  

     

                    คนถูกชวนปฎิเสธพลางส่ายหน้า เสี้ยววินาทีหนึ่งนัทเห็นร่องรอยของความเศร้าในแววตาของซิน แต่อีกเสี้ยววินาทีต่อมาร่องรอยเหล่านั้นก็หายไปราวรับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บทสนทนาเขาและซินจบลงเพียงเท่านั้น ก่อนชายหนุ่มจะขอตัวออกมาหากาแฟดื่มที่ตู้เสบียง

     

                   

                    นัทเดินกลับห้องโดยสารของตัวเองพร้อมกับกาแฟสองกระป๋อง เผลอคิดเรื่องเพื่อนใหม่ที่เพิ่งได้รู้จักจนเกือบตลอดทาง ชายหนุ่มติดใจในแววตาเศร้าสร้อย อดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนคนนั้นอาจจะเหมือนกับตัวเขาในอดีต    

                   

                   

                    “อ่ะ...กาแฟ ผมซื้อมาฝาก 

     

               

                ซินกล่าวขอบคุณพร้อมกับรับไปดื่ม อีกฝ่ายดูสนุกสนานกับทิวทัศน์นอกหน้าต่าง พร้อมกับหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพเป็นระยะๆ โดยมีนัทลอบมองท่าทางของอีกฝ่ายอย่างสนใจ

     

                    หรือคนคนนี้ จะเป็นนกน้อยถูกขังที่พึ่งบินออกจากกรง...?

     

     

     

    ...................................

     

     

                    เวลาล่วงเลยจนเที่ยงคืน ดวงดาวรับหน้าที่ให้แสงสว่างแทนตะวัน  รถไฟยังคงวิ่งไฟข้างหน้าด้วความเร็วคงที่ ก่อนจะค่อยๆจอดช้าๆเมื่อรถไฟแล่นเข้าสถานีสุดท้ายของประเทศจีน นัทสะดุ้งตื่น ก่อนจะลุกมาเปิดไฟในห้อง ชายหนุ่มปลุกซินให้เตรียมหนังสือเดินทางให้เรียบร้อย ไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่ชาวจีนเดินเข้ามาตรวจ

     

     

             

              “สถานีนี้เป็นสถานีสุดท้ายของประเทศจีนแล้วน่ะ เจ้าหน้าที่เค้าต้องมาตรวจคนออกเมือง ...เดี๋ยวอีกไม่กี่สถานีก็เข้าประเทศมองโกลเลีย ก็ต้องตรวจคนเข้าเมืองต่อ

     

     

              “ดีนะที่นัทอยู่ ไม่งั้นเราคงไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

             

     

              “ซินเดินทางคนเดียวครั้งแรกเหรอ?ชายหนุ่มอดที่จะถามไม่ได้

     

                   

              “อืม นี่เป็นครั้งแรกเลยล่ะที่เราออกจากบ้านมาคนเดียว

     

             

              “รถจะจอดที่สถานีนี้อีกประมาณสองชั่วโมง ... อยากไปเดินเล่นด้วยกันไหม?นัทเอ่ยชวน ซินพยักหน้ารับก่อนจะหยิบเสื้อกันหนาวตัวหนาออกมาใส่ สถานีเล็กๆแห่งนี้มีห้องรับรองสำหรับผู้โดยสาร แต่ทั้งสองเลือกที่จะออกมาเดินเล่นข้างนอกแทน

     

                    ซิน หิมะตก...เข้าข้างในกันดีกว่า เดี๋ยวไม่สบายเอา

     

                    นัทสาวเท้านำ แต่อีกคนกลับหยุดกึก ซินเงยหน้ามองหิมะที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ก่อนมือเล็กจะค่อยๆยื่นออกไปสัมผัสหิมะที่ค่อยๆตกลงมา

     

                    นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ...ที่เราได้เห็นหิมะ

     

              “…”

     

              “เป็นครั้งแรกที่เราได้นั่งรถไฟข้ามประเทศ

     

              “…”

     

              “เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นทุ่งหญ้าสเตปป์ เห็นป่าทุนดร้า ...เรารู้สึกปลอดโปร่ง มีความสุขกับอิสระที่วนเวียนอยู่รอบตัว ... เราไม่อยากให้เวลานี้จบลงไปเลย

     

     

                    “….”

     

     

              “…”

             

     

              “อยากนั่งรถไฟจากที่นี่ไปวอเตอร์ลูด้วยกันไหม?

     

              “เราไปไม่ได้หรอก

     

              ซินสั่นหัวฎิเสธด้วยท่าทางเสียดาย

     

     

                    ถ้านายคิดว่ามันไม่ได้ ...มันก็จะไม่ได้อยู่อย่างนั้นไปตลอดชีวิต เพราะนายไม่เคยแม้แต่คิดจะลองเลยด้วยซ้ำ

     

     

              “...

     

              “ผมยังไม่ได้บอกคุณใช่ไหมว่าทำไมรถไฟต้องมาจอดอยู่ที่สถานีนี้สองชั่วโมง เพราะขนาดรางรถไฟของจีนกับมองโกลเลียไม่เท่ากัน เค้าก็เขาต้องเปลี่ยนจากล้อที่วิ่งในจีน เป็นล้อที่วิ่งในมองโกลเลียแทน

     

              “…”

     

     

              “ขนาดรถไฟยังต้องเปลี่ยนล้อเพื่อรางที่เหมาะสม โลกมีการเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ...แล้วทำไมคุณถึงไม่อยากลองที่จะเปลี่ยนดูบ้าง?

     

             

              “เราไม่กล้าพอ ...ขอโทษนะ

     

     

    ...................................

     

                    หลังจากการรอนานกว่า2 ชั่วโมง ขบวนรถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากชานลาอีกครั้ง นัทตรงเข้าห้องปยังเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนทันที ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องของเขาออกไปนั่งดูวิวที่ริมหน้าต่างตรงทางเดินหน้าห้อง

     

                    จากตรงนั้นชายหนุ่มไม่รู้ว่าซินกำลังมองอะไร แต่จากตรงนี้...นัทมองซิน และหวังเพียงให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจออกเดินทางไปด้วยกัน

     

             

     

    ...................................

     

     

     

                    รุ่งเช้านัทถูกปลุกด้วยเสียงจอแจ เมื่อดูจากข้างนอกจึงรู้ว่ารถไฟกำลังจะเข้าเขตประเทศมองโกเลีย ชายหนุ่มเตรียมหนังสือเดินทาง นัทมองไปทางซินก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายก็เตรียมหนังสือเดินทางพร้อมแล้วเช่นกัน

     

                    การตรวจคนเข้าเมืองกินเวลาไม่น้อยก่อนรถไฟจะเคลื่อนขบวนต่อไป นัทเก็บข้าวของ สถานีหน้าเป็นจุดมุ่งหมายของเขาแล้ว ชายหนุ่มหันไปมองเพื่อนร่วมห้องเพื่อจะบอกลา ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายก็กำลังเก็บของอยู่เช่นเดียวกัน

     

                    ชายหนุ่มมองหน้าซินเป็นเครื่องหมายคำถาม อีกฝ่ายจ้องหน้าเขาก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

     

                    ให้เราไปวอเตอร์ลูด้วยได้ไหม?

     

             

                    แน่ใจแล้วเหรอ?

     

             

              “ที่สุดอ่ะ

     

     

             

     

     

              ขบวนรถไฟค่อยๆจอดสนิทที่สถานีอูลันบาดอร์  ในกลุ่มผู้โดยสารที่เดินลงมา ชายหนุ่มสองคนสะพายเป้คนละใบก็เดินลงมาเช่นกัน ผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณลาจากส่งมาให้ ซึ่งทั้งคู่ก็อดไม่ได้ที่จะโบกตอบกลับไป

     

                    เราแอบคิดนะ ว่าพวกเขากำลังอวยพรให้เราโชคดีซินพูดขึ้นขณะที่ยกมือโบกลาขบวนรถไฟที่แล่นจากไป

     

                    “Have a good trip …ประมาณนี้ป่ะ ผมก็แอบคิดเหมือนซินนะ ฮ่าๆ

     

     

              “ซิน ...จากนี้ไปเราฝากตัวด้วยนะชายหนุ่มยื่นมือออกมาข้างหน้า ก่อนจะรอให้ซินยื่นมือเล็กๆมาประกอบ

     

              “อื้อ ... ลงรถไฟขบวนเดียวกันมาแล้วนี่ ...ฝากตัวด้วยเหมือนกันนะนัท

     

     

                    ท่ามกลางเมืองที่มีแต่คนแปลกหน้า เขาสองคนยิ้มให้กัน ... โดยไม่อาจคาดเดาเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ จะเปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ไปในทิศทางใด ...

     

                   

    TBC

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×