ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Singular Fiction || Esprit ... ความทรงจำของนางฟ้า ll

    ลำดับตอนที่ #11 : Episode10: The First Piece of the Puzzle

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 55


       

    Esprit ... ความทรงจำของนางฟ้า

     

    Episode10: The First Piece of the Puzzle

     

                   

                    ซินเซียร์ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนเก่าของตัวเอง ท้องฟ้ายามนี้เริ่มมืดสลัวๆ เมฆสีส้มอมแดงที่ตัดกับฟ้าสีน้ำเงินอมม่วงนั้นคล้ายจะบอกเป็นนัยๆว่าหมดเวลาทำงานของดวงตะวันในวันนี้ และใกล้จะได้เวลาที่จันทราจะเข้ามารับช่วงต่อแทน โรงเรียนที่กว้างขว้างเงียบสงัดราวไร้ผู้คน

     

     ...ก็แน่ล่ะ คนหน้าหวานคิดในใจ เวลาแบบนี้คนปกติจะมีใครยังอยู่ที่โรงเรียนกัน?

     

     แต่บังเอิญตอนนี้เขาไม่ใช่คนปกตินี่นา…

     

                    ประตูรั้วสถานศึกษาที่ถูกล็อคไว้อย่างหนาแน่นไม่เป็นปัญหาสำหรับคนหน้าหวานเพราะซินสามารถเดินทะลุผ่านมันเข้ามาได้อย่างง่ายดาย  ลมอ่อนๆลอยวูบมาประทะเมื่อซินก้าวเข้าสู่เขตรั้วของโรงเรียน คนหน้าหวานหันซ้ายหันขวาคล้ายจะพิจารณาว่าควรเดินไปทางไหนก่อนดี ไม่ช้าขาวเรียวยาวเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ จนมาถึงตึกที่เคยเรียนตอนอยู่ม.ปลาย ...คล้ายกับว่ามีอะไรบางอย่างเรียกให้ร่างบางเข้าไปหา

     

                     แอ๊ดดดดด...

     

                    ระหว่างที่ขาเรียวค่อยๆก้าวอยู่บนทางเดินบนตึกชั้นสอง ประตูห้องเรียนข้างหน้าก็ค่อยๆเปิดช้าๆราวกับว่าชักชวนให้เขาเข้าไปยังไงอย่างนั้น ซินพิจารณาบานประตูไม้เก่าๆที่มีเสียงเอี้ยด  อ๊าดออกมาในทุกๆครั้งที่ประตูเคลื่อนตัวเปิด รู้สึกเหมือนตัวเองได้ยินเสียงเพลงแว่วๆมาจากห้องที่กำลังเปิดประตูต้อนรับเขาอยู่ในตอนนี้ ...ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เสียงเพลงยิ่งชัดเจนราวกับมีคนมาฮัมเพลงเบาๆอยู่ข้างหู เพียงแต่ฟังไม่ออกว่าเป็นเพลงอะไรก็เท่านั้น

     

                    ซินเดินเข้ามาในห้องเรียน กระดานดำ เก้าอี้ ยังคงอยู่ในที่เดิมที่มันควรจะอยู่ ร่างบางเดินตรงเข้าไปนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่างด้านหน้าสุดของห้อง ...ถ้าจำไม่ผิด เมื่อก่อนเขาเคยนั่งตรงนี้ ซินชอบที่นั่งตรงนี้ก็เพราะสามารถตั้งใจเรียนได้อย่างเต็มที่เพราะเป็นโต๊ะแถวหน้าสุด แต่เวลาที่เขาเกิดเบื่อๆเนื้อหาบนกระดาน ก็สามารถแอบเหม่อออกไปดูวิวนอกหน้าต่างได้เช่นกัน

     

                    “พี่แสตมป์ครับ ...บางทีผมก็เริ่มกลัวที่จะรู้ความจริงในอดีตขึ้นมาแล้วล่ะ

     

     พูดขึ้นมากับสายลมและดวงจันทร์นอกหน้าต่างห้องเรียนเพียงลำพัง แต่ก็ราวกับว่าคนที่กำลังโดนกล่าวถึงนั้นรับรู้ เพราะอยู่ๆสายลมอุ่นๆวูบหนึ่งก็ข้ามาประทะที่ใบหน้าหวาน พร้อมๆกับดอกราตรีที่ไม่รู้ว่าลอยมาติดกับผมยาวสวยของซินตั้งแต่เมื่อไหร่

     

                    และเมื่อร่างบางละความสนใจจากวิวที่หน้าต่างเข้ามาในห้องเรียนอีกครั้ง ซินก็พบว่าบรรยากาศรอบตัวนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นห้องเรียนเมื่อแปดปีก่อนไปแล้ว ซินมองภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ อีกเดี๋ยวเขาจะได้รู้ความจริงเพิ่มขึ้นอีกนิดแล้วสินะ…

     

    ……………………

    ………………

    …………

    …..

     

     

     

     

                    “เฮ้ย ซิน วันนี้ห้องเรามีนักเรียนย้ายมาใหม่อ่ะ เราได้ข่าวมาว่าหล่อมากแป้ง เพื่อนสาวที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปข้างหลังสะกิดซินเบาๆ ก่อนจะบอกข่าวที่พึ่งได้ยินมาจากเพื่อนห้องข้างๆให้ร่างบางฟัง

     

                    อื้ม เหรอ?แต่ซินก็เพียงตอบปัดๆ อย่างไม่สนใจเท่าไหร่นัก ก่อนจะหันหน้ากลับมาลงสีรูปวาดต่ออย่างขมักเขม้น...แค่ลงรายละเอียดแสงเงาตรงนี้เสร็จ งานก็ได้จะเรียบร้อยสักที

     

                    นี่ซินจะสนใจความเป็นไปของคนอื่นมั่งไหมเนี่ย ? นอกจากเรียนแล้วใจคอวันๆจะเอาแต่วาดรูปอย่างเดียวเลยเหรอ  แป้งส่ายหัวให้เพื่อนสนิทอย่างระอา ความจริงๆเธอก็แค่พูดแซวเล่นไปก็เท่านั้น เพราะรู้นิสัยซินดีอยู่แล้วว่าอีกคนโลกส่วนตัวสูงขนาดไหน

     

                    เราก็อยากสนอยู่นะแป้ง แต่ไว้ก่อนเถอะ ...ปั่นงานอาจารย์ณัฐพงษ์ยังไม่เสร็จเลยเนี่ยซินตอบทั้งๆที่ไม่ได้หันกลับไปหาเพื่อนสาว พลางลงแสงในภาพอย่างขมักขเม้น เขาเป็นคนตั้งใจทำงานส่งมากเพราะฉะนั้นแม้จะรีบทำให้เสร็จทันส่งในอีกสามคาบข้างหน้าก็ตาม และซินก็ไม่มีทางจะเผางานส่งแบบชุ่ยๆไปส่งเด็ดขาด

     

                    คิดแล้วก็พาลให้หงุดหงิด ...ถ้าไอ้บ้านั่นไม่เดินมาชนแล้วเอากาแฟมาเทใส่งานวันนั้น เขาก็คงไม่ต้องมานั่งวาดงานใหม่จนเมื่อคืนแทบไม่ได้นอนแบบนี้หรอก

     

                    กริ๊งงงงงงงง....

     

                    เสียงออดหมดคาบแรกดังขึ้น ก่อนที่อาจารย์ที่ปรึกษาประจำห้องเดินเข้ามาไม่นานนักแต่ร่างบางก็ยังคงมีสมาธิอยู่กับงานของตัวเองต่อไป

     

     ....คาบนี้เป็นคาบโฮมรูมนี่น่า? งั้นปั่นงานต่ออีกสักนิดอาจารย์คงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง...

     

                    คิดเอาเองในใจพลางก้มตาก้มตาวาดรูปไม่สนใจใคร จนกระทั่งเพื่อนในห้องเริ่มส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง ไม่เว้นแม้แต่แป้งเพื่อนสนิทของตน ร่างบางจึงหันหน้าขึ้นไปมองหน้ากระดานอย่างสงสัย คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันเมื่อได้เจอคนที่คุ้นตาใส่ชุดโรงเรียนของเขายืนอยู่หน้าห้อง ...ไอ้ตัวการที่ทำหน้าเขาต้องมานั่งปั่นงานใหม่กำลังยืนเก๊กอยู่หน้ากระดานห้องเรียน!!!

     

                    “สวัสดีครับ ผมชื่อโชติวุฒิ หรือจะเรียกว่าสั้นๆนัทก็ได้ครับ เพิ่งย้ายมาจากอเมริกา ...ฝากตัวด้วยครับผม สิ้นเสียงแนะนำตัวของร่างสูงหน้าชั้นเรียน สาวๆในห้องต่างพากันฮือฮาวี้ดว้ายกันใหญ่ บางคนถึงกับทำหน้าเคลิ้มเมื่อได้สบตาสายกับเด็กใหม่หน้าห้อง

     

                    ซิน... หล่ออ่ะ แป้งสะกิดร่างบางอีกครั้ง ยังคนข้างหน้าห้องด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม

     

                    เหรอ? ซินได้แต่เบ้ปาก พลางมองไปที่เด็กใหม่พร้อมๆกับแป้งด้วยสายตาไม่พอใจ ทำไมพี่แสตมป์ไม่บอกเขาก่อนว่าจะเอาไอ้หน้าเป็ดนี่ย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับเขา แถมยังห้องเดียวกันอีกด้วย ทั้งๆที่เขาก็ประกาศไปซะลั่นตอนนั้นว่าเกลียดและไม่อยากเห็นหน้าไอ้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องเรียนตอนนี้ยิ่งกว่าอะไร

     

                    เหมือนคนที่กำลังโดนด่าใจจะรู้ตัว สายตาคมของอีกสายหันมาประสานในสายตาในซิน พร้อมกับยิ้มให้คนหน้าหวานน้อยๆที่มุมปาก ...เป็นรอยยิ้มที่กวนประสาทสิ้นดีสำหรับซินเซียร์!

     

                    โชติวุฒิไปนั่งข้างๆทศพรแล้วกันนะ ...เอาล่ะเริ่มคาบกันเลยดีกว่านะคะนักเรียนสิ้นเสียงของอาจารย์ ร่างบางก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ

     

     ...อะไรนะ จะให้ไอ้นัทมานั่งข้างเขา? ไม่เอานะ!

     

                    อาจารย์ครับ ผมไม่สะดวกครับร่างบางรีบยกมือท้วงอาจารย์ พลางปัดๆข้าวของทั้งกระเป๋าใบใหญ่ กระดานวาดรูป และสมุดเสก็ตเล่มหนาไปวางอยู่บนเก้าอี้ข้างๆให้เต็ม

     

                    ทำไมล่ะทศพร อาจารย์ก็เห็นเธอนั่งคนเดียวมาจนขึ้นปีสุดท้ายแล้ว จะมีเพื่อนนั่งด้วยไม่ดีเหรอ?

     

                    “มันก็ดีอยู่หรอกครับ แต่อาจารย์ก็รู้ว่าผมอยู่ชมรมศิลปะ ข้างโต๊ะนี่ก็ใช้วางอุปกรณ์เยอะแยะเลย ถ้ามีเพื่อนมานั่งด้วยผมกลัวว่าเค้าจะอึดอัดปล่าวๆน่ะฮะ ร่างบางทำตาใสอ้อนอาจารย์หน้าห้อง ในขณะที่ขาเรียวก็เขี่ยๆถุงที่วางเป็นระเบียบอยู่ใต้โต๊ะให้ดูระเกะระกะ ...อาจารย์จะได้เห็นว่าของเขาเยอะและรกมาก

     

    ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ คนมาใหม่ยักไหล่อย่างไม่แคร์พลางสะพายกระเป๋าก้าวฉับๆยืนอยู่ข้างๆโต๊ะร่างบางที่กำลังขมวดคิ้วตีหน้ายักษ์ใส่เขาอย่างไม่ชอบใจ นัทย้ายของที่วางอยู่บนเก้าเขาไปไว้บนโต๊ะแทน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆร่างบาง พร้อมทั้งยิ้มให้อีกฝ่ายพลางยักคิ้ว

     

    ฝากตัวด้วยนะ ทศพร

     

    ร่างบางสะบัดสะหน้าหนีอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ในหัวคิดแต่ว่าคาบต่อไปเขาจะขอแลกที่นั่งกับใครดี...?

     

    …………………………

     

    เฮ้ย ซิน ...ซิน รอด้วยสิขาเรียวก้าวฉับๆ พลางลากเพื่อนสาวให้เร่งฝีเท้าขึ้นให้ไวกว่าเดิมอย่างไม่คิดจะสนใจร่างสูงที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมาเลยแม้แต่น้อย คาบนี้เป็นคาบชมรมที่ต้องเปลี่ยนตึก และทั้งซินและแป้งกำลังจะไปเรียนที่ห้องศิลปะ แต่ติดก็ตรงที่ไอ้เด็กใหม่มันเดินตามเขาไม่หยุดนี่แหละ

     

    ซิน นี่แกไปรู้จักเด็กใหม่มาก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ ...แล้วนั่นเค้าเรียกแกนิ? ไม่คิดจะรอเค้าหน่อยเหรอแป้งถามขึ้นขณะโดนคนหน้าหวานลากออกมาจากโรงเรียนทันทีที่หมดคาบอย่างไม่เข้าใจ

     

    เรื่องมันยาวอ่ะแป้ง ขอสรุปง่ายๆเลยนะว่าเราไม่ชอบมัน เพราะงั้นรีบเดินเหอะ ไม่อยากยุ่ง ”  ซินยังลากให้แป้งเดินเร็วขึ้นอย่างไม่ลดละ

     

    ซิน นัทขอโทษเรื่องเมื่อคืน...แต่นัทอธิบายได้ นัทไม่ได้มีคนอื่นจริงๆนะ

     

    สิ้นเสียงตะโกนของร่างสูงที่ตามมาทำเอาซินหยุดกึก ร่างบางหันขวับไปมองคนกำลังกระหืดกระหอบตามมาพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

     

    ห้ะ อะไรของนาย ?

     

    ก็เมื่อคืนที่เราทะเลาะกันแล้วซินปิดเครื่องหนีนัทไง นัทไปหาที่บ้านซินก็ไม่ยอมออกมาเจอ พอมาโรงเรียนซินก็เดินหนีนัทอีก...นัทเสียใจนะคนดี ร่างสูงยังคงแถต่อไป จนคนรอบๆเริ่มตัวหันมามองพวกเขาด้วยสายตาแปลกๆ บางคนถึงกับหยุดดูกันเลยทีเดียว ส่วนเพื่อนสนิทของร่างบางน่ะเหรอ ช็อคตาค้างทั้งยืนไปเรียบร้อยแล้ว

     

    นัทขอโทษ กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะคนดี ...อุ๊บส์ซินเดินกลับมาพร้อมทั้งเอามือเล็กๆปิดปากคนกำลังทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น พลางลากออกมา

     

    แป้งไปเรียนก่อนเลยนะ เดี๋ยวซินตามไปพูดจบก็ลากตัวต้นเหตุออกมา ก่อนจะพบมุมสงบหลังตึกหนึ่งระหว่างทางไปห้องศิลปะ ซินดึงร่างสูงเข้ามาด้านหลังตึก ดันอีกฝ่ายเข้าติดมุมผนังก่อนจะกอดอกมองอย่างไม่พอใจ

     

    เป็นบ้าอะไรเนี่ย? ตามมาทำไม?

     

    ก็แค่อยากขอโทษเรื่องวันนั้น แต่นายไม่ยอมฟังฉันก็เลยต้องทำให้นายหยุดไง

     

    ไม่ยกโทษให้ ....นายรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันวาดรูปใหม่จนถึงตีสี่ แล้วตะกี้นายก็ยังทำให้ฉันตกเป็นเป้าสายตาของคนเกือบครึ่งโรงเรียนอีก ปล่อยซินพูดพลางสะบัดข้อมือเมื่อกลายเป็นอีกฝ่ายที่จับข้อมือเขาแน่นไม่ยอมให้ไปไหนแทน

     

    เดี๋ยวสิซิน ...ฉันก็แค่อยากจะเป็นเพื่อน...แล้วก็อยากจะขอโทษก็เท่านั้น”  ร่างบางมองตาอีกฝ่าย ความจริงก็น่าสงสารอยู่หรอกนะ แต่วีรกรรมแต่ละอย่างที่อีกฝ่ายทำให้เขาเดือดร้อนมันก็แสบใช่เล่นซะที่ไหนกัน ในขณะที่กำลังคิดว่าจะเอายังไงนั้น จู่ๆควมคิดชั่วร้ายก็โผล่แวบขึ้นมาในสมอง

     

    ฉันเลิกเกลียดนายก็ได้ ...เห็นแก่พี่แสตมป์หรอกนะ แต่ว่านายทำงานฉันพัง เพราะฉะนั้นนายต้องรับผิดชอบโดยการวาดมันคืนมาใหม่ให้ฉัน ...วาดให้เสร็จที่โรงเรียน...ภายในคืนนี้ แล้วค่อยมาเป็นเพื่อนกัน

    ร่างบางกระตุกยิ้มอย่างชอบใจ พลางมองนัทที่ทำสีหน้าลังเล

     

                    “จะเอาไหม? ไม่เอาก็ปล่อย

     

                    “ตกลง

     

                    “ดีมากเพื่อนซินยกยิ้มพลางตบไหล่หนาอย่างชอบใจ ก่อนจะอนุญาติให้อีกฝ่ายเดินตามไปเรียนคาบต่อไปพร้อมกัน

     

                    นายสร้างอยากสร้างเรื่องให้ฉันก่อนเองนะนัท ...ขอแกล้งคืนบ้างสักหน่อยคงไม่เป็นเป็นอะไรนะ

     

     

    …………………………

     

     

    นาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาว่าขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่มกว่าๆ ร่างบางที่พึ่งอาบน้ำเสร็จทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม พลางเปิดแอร์เย็นอย่างสบายใจ ซินหยิบหนังสืออ่านเล่นบนชั้นหนังสือขึ้นมาอ่าน พลางกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างสบายอารมณ์

     

    ...ก็คนมันอารมณ์ดีนี่นา

     

    ยิ่งคิดไปถึงคนที่โดนเขาแกล้งให้วาดรูปอยู่ที่โรงเรียนยิ่งอารมณ์ดีคูณสอง ป่านนี้คงนั่งวาดรูปในตึกเก่าๆจนกลัวผีหนีกลับบ้านไปแล้วล่ะมั้ง แล้วพอพรุ่งนี้นัทไม่สามารถวาดรูปเดิมที่อีกฝ่ายทำของเขาพังสำเร็จ เขาก็จะได้หาเรื่องไม่ชอบหน้า พร้อมกับแกล้งให้อีกฝ่ายทำอะไรแปลกๆต่อไปเรื่อยๆ แต่คิดก็สนุกแล้ว

     

                    เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นดึงคนหน้าหวานออกจากห้วงความคิด ซินหยิบมือถือมาดูชื่อคนโทรเข้ามาหา ก่อนจะยกยิ้มพร้อมกรอกเสียงใสใส่คนปลายสาย

     

                    ครับพี่แสตมป์

     

                    รับโทรศัพท์เสียงใสเชียว อารมณ์ดีอะไรมารึเปล่า หืม?

     

                    “นิดหน่อยครับ พี่แสตมป์ล่ะครับเป็นไงบ้าง?

     

                    ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับเสียงปลายสายตอบกลับมา ทำเอาซินเกิดเป็นห่วงขึ้นมาทันที

     

                    ไม่สบาย? หนักมากไหมครับ แล้วนี่ไปหาหมอมารึยัง มียากินไหม?

     

                    “ไม่หนักมากหรอก ไม่สบายใจเฉยๆน่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าซินเท่าไหร่  หัวใจมันห่อเหี่ยว ฮ่าๆประโยคที่ตอบกลับมาทำเอาร่างบางหน้าร้อนวูบ ก่อนจะตอบกลับเบาๆไปด้วยความเขิน

     

                    โอ้โห กล้าเล่นเนอะ

     

                    “เอ้อ ว่าแต่วันนี้ซินไม่มีงานเหรอ? เห็นไอ้เจ้านัทมันโทรมาบอกที่บ้านว่าวันนี้จะไม่กลับเพราะมีงานต้องทำต่อที่โรงเรียนให้เสร็จน่ะ พอพี่บอกให้กลับมาทำต่อที่บ้านมันก็ไม่ยอม บอกว่าวิชานี้ต้องทำที่โรงเรียนให้เสร็คเท่านั้น อาจารย์อะไรอ่ะซิน โครตโหดอ่ะ

     

                    ซินฟังคนปลายสายพลางตกใจ นัทยังไม่ไม่กลับจากโรงเรียนงั้นเหรอ? ร่างบางเงยหน้าดูนาฬิกาแขวนบนฝาพนังที่บอกเวลาว่าตอนนี้ใกล้ห้าทุ่มเข้าไปทุกที พลางมุ่นหัวคิ้วอย่างขัดใจ ดึกป่านนี้ทำไมไม่กลับบ้านไปซะนะ หรือไอ้บ้านั่นคิดจริงๆว่าจะนั่งวาดรูปใหม่ให้เขาทั้งคืน

     

     

                    ซิน ซินฟังพี่อยู่ไหม

     

                    เอ่อ ครับพี่แตมป์ ฟังอยู่ครับ ….” ร่างบางสะบัดความคิดไร้สาระออกจากหัวพลางคุยโทรศัพท์กับคนรักต่อสักพักก่อนจะตัดสินใจปิดไฟนอนโดยที่เลิกสนใจเรื่องของร่างสูงที่ยังคงอยู่ที่โรงเรียนในตอนนี้เสียสนิท

     

    อยากอยู่โรงเรียนจนเช้าก็อยู่ไปแล้วกัน ไม่เกี่ยวกับเขานี่นาร่างบางคิดพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงท่ามกลางความมืด

     

     

     

    นาฬิกาแขวนบนฝาผนังบอกเวลา 00.35 นาที

     

    ซินนอนพลิกตัวไปทางซ้ายที ไปทางขวาทีอยู่หลายหน ร่างบางหามุมเหมาะๆก่อนพยายามข่มตาให้หลับ แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ข่มตาหลับไม่ลงสักที ภาพอีกคนที่เพิ่งได้ฟังจากพี่แสตมป์ว่ายังอยู่ที่โรงเรียน ยังคงตามมาหลอนในหัวแม้จะหลับตาลง

     

    จนในที่สุดซินก็ยอมแพ้ ร่างบางลุกไปเปิดไฟเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ก่อนจะจัดแจงเปลี่ยนชุดนอนเป็นชุดลำลอง แล้วๆค่อยย่องออกจากบ้านพร้อมกับขี่จักรยานออกไปที่โรงเรียนในทันที

     

    เนื่องจากบ้านของซินนั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่ ดังนั้นไม่นานร่างบางก็มาอยู่ตรงหน้าประตูโรงเรียนซะแล้ว โชคดีที่โรงเรียนนี้ไม่เคยปิดประตูใหญ่และยามเฝ้าหน้าโรงเรียนก็ไม่อยู่เสียด้วย ซินขับจักรยานเข้าไปเรื่อยๆ ก่อนจะจอดไว้ข้างล่างอาคารเรียน ร่างบางวิ่นขึ้นตึกด้วยความกลัวที่รอบๆนั้นค่อนข้างมืด ก่อนฝีเท้าจะค่อยๆหยุดลงที่หน้าห้องเรียนของเขา ซึ่งเป็นห้องเดียวที่เปิดไฟทิ้งเอาไว้

     

    และมีนัทกำลังนั่งวาดรูปอย่างมักขะเม้นในชุดนักเรียนตัวเดิม….

     

    นี่นายบ้าหรืออบ้ามากกันแน่ฮะ? ดูไม่ออกหรือไงว่าโดนฉันแกล้งอยู่ ทำไมไม่กลับบ้านไปซะล่ะ คนโดนด่ายังหันมายิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะหันไปขะมักขะเม้นกับกระดานวาดรูปที่ซินทิ้งไว้ให้ตั้งแต่ตอนเย็นตรงหน้า

     

    ก็ฉันบอกแล้วไงว่าตั้งใจจะขอโทษจริงๆแล้วก็อยากเป็นเพื่อนจริงๆด้วย

     

    ไหนเอารูปมาดูดิ๊ซินทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ข้างๆอีกฝ่ายก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปดูรูปภาพใกล้ๆ แม้มันจะไม่ได้สวยเท่าของเดิม แต่ร่างบางก็รู้สึกได้ในความตั้งใจที่จะวาดของนัท

     

    ขอโทษละกันถ้ามันไม่สวยเท่าของเดิม ฉันไม่ฉนัดงานศิลปะ แล้วก็เพิ่งจะเคยทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกนัทพูด ก่อนจะยื่นรูปที่เพิ่งวาดเสร็จให้กับร่างบาง

     

    ค่าของมันไม่ได้อยู่ที่สวยไม่สวยหรอก แต่ค่าของมันอยู่ที่ความตั้งใจของนายต่างหาก ขอบใจนะร่างบางยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะรับรูปมาม้วนเก็บไว้ พลางชวนอีกคนให้กลับบ้านด้วยกัน

     

    แสดงว่านายไม่โกรธฉันแล้ว?

     

    คิดเอาเองสิ ป่ะ กลับกันเหอะซินพูดพลางกึ่งลากกึ่งจูงร่างสูงลงจากตึก ก่อนที่ทั้งสองจะวิ่งแข่งขันลงตึกอย่างสนุกสนาน

     

     

    ไม่อยากกลับบ้านแล้วอ่ะ ซินหันไปมองเพื่อนหมาดๆที่กำลังทำตาอ้อนๆใส่ ก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา

    ไม่กลับแล้วจะอยู่นี่จนเช้าแล้วเรียนต่อเลยรึไง ชุดนักเรียนนายก็เน่าพอดีแหละป่านนั้น

     

    เอาน่า เดี๋ยวค่อยกลับก็ได้ พาเด็กใหม่อย่างฉันทัวร์โรงเรียนหน่อยสิคุณเพื่อนใหม่

     

    เออ เอางั้นก็ได้ซินรับคำพลางจูงจักรยานออกมาจากที่จอดใต้ตึก

     

     

    ถึงนัทจะเป็นฝ่ายพูดว่าให้ซินพาเขาทัวร์โรงเรียนในฐานะคนที่เคยอยู่มานานก็เถอะ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วก็กลายเป็นว่านัทต้องเป็นฝ่ายขี่จักรยานไปรอบๆโรงเรียน ส่วนคนหน้าหวานก็มีหน้าที่ซ้อนพลางชี้ไม้ชี้มือให้ดูจุดสำคัญของโรงเรียนก็เท่านั้น

     

    ตรงนั้นเป็นห้องเรียนนาฎศิลป์มีคนร่ำลือกันว่าผีดุมาก ผีนางรำชอบออกมาให้เห็นหลังเที่ยงคืนทุกคืนซินชี้ไปที่ตึกไม้เก่าๆ หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ทำให้เห็นผ้าม่านลูกไม้สีขาวไหวน้อยๆเพราะแรงลม ดูแล้วชวนขนลุกอยู่ไม่น้อย

     

    เฮ้ย แล้วจะพูดทำไมเนี่ยร่างสูงสะดุ้งๆ พร้อมกับเร่งปั่นจักรยานไปออกห่างจากตึกสยองขวัญนั้นให้ไกลโดยไว

     

     

     

    โรงเรียนตอนกลางคืนนี่ก็สวยดีเหมือนกันนะ ...” ร่างบางที่นั่งบนศาลาไม้กล่าวขึ้นพลางยื่นหน้าออกไปดูวิวรอบๆ ผมยาวสลวยที่หลุดออกมาจากหนังยางที่รวบไว้ปลิวมาประใบหน้าหวาน ขับให้ยิ่งดูหวานกว่าเดิมยิ่งขึ้น

     

    ใช่สวย ร่างสูงเห็นด้วย แต่สายตากลับมองไปที่คนข้างๆแทนวิวสวยงามตรงหน้า

     

    คิดยังไงถึงมาย้ายโรงเรียนเอาตอนอยู่ม หก เนี่ย ?ซินละความสนใจจากวิวข้างนอก แล้วหันมาชวนร่างสูงคุยแทน 

     

    ความจริงก็ทำเรื่องขอย้ายมานานแล้วล่ะ แต่เอกสารเพิ่งครบเลยเพิ่งได้กลับไง    …นัทอยู่เมกามาตั้งแต่เด็กจนเกือบจะจำประเทศบ้านเกิดตัวเองไม่ได้แล้ว เลยอยากกลับมา

     

    แล้วมาถึงแล้วเป็นไงอ่ะ

     

    ก็แจ็คพ็อตแตกเลย มาถึงก็โดนใครไม่รู้เกลียดตั้งแต่วันแรก ฮ่าๆอ้าว หลับไปซะแล้ว ”  นัทหันไปมองคนหน้าหวานข้างๆที่จู่ก็หลับไปซะอย่างนั้น ซึ่งความจริงก็ไปแปลกหรอกที่ซินจะเผลอหลับไปเพราะร่างบางบอกเขาว่าคืนก่อนกว่าจะได้นอนก็ตีสี่ แถมคืนนี้นี้ยังมาไม่ได้นอนเพราะเขาอีก

     

    ขอบคุณนะซิน ที่เป็นห่วง

     

                    นัทพูดกับคนที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิททรา พลางเกลี่ยดวงยาวที่ไหลมาปรกหน้าหวานให้เข้าที่

     

                    โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า ความรู้สึกบางอย่างนั้น กำลังค่อยๆเปลี่ยนไปทีละนิด

     

    TBC.

     

    TALK : อยากดูดีวีดีคอนเสริตแล้วอ้ะT^T

    ไรท์เตอร์หายเฮดไปนาน ขอโทษทุกคนด้วยค่ะ~

    ขอบคุณทุกคนค่ะ เจอกันตอนหน้านะคะ^^

     

       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×