ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] ราชันย์แห่งสมรภูมิ

    ลำดับตอนที่ #28 : ตอนที่ 28

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 67



    “เป็นแผนที่ชาญฉลาดยิ่งนักเจ้าค่ะองค์ราชันย์!”

    ลูเซียแสดงความประหลาดใจกับความคิดของคังชอลอินอีกครั้ง

    หากพูดกันตามตรงมันคือการใช้กำลังของบุคคลอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ หากพวกเขาเปิดเกณฑ์นักผจญภัยให้มาตามล่ามังกรพีคอคแทนการใช้กำลังทางทหารที่มีอยู่จะส่งผลให้ไม่มีเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นที่ลาพิวต้าได้อีก

    “องค์ราชันย์” ลูเซียกล่าวเรียกหลังตระหนักได้ถึงบางสิ่ง

    “ว่ามา”

    “ท่านกล่าวว่าจะให้นักผจญภัยออกตามล่ามังกรพีคอค นั่นหมายความว่าแม้ว่าท่านจะไม่จัดตั้งกองทัพแต่ท่านก็จะเข้าร่วมด้วยตัวท่านเองงั้นหรือเจ้าคะ?”

    “ใช่”

    “เช่นนั้นข้าจะขอติดตามไปด้วยเจ้าค่ะ!”

    “เจ้ารึ? เจ้าเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของข้า ถ้าผู้ช่วยของข้าหายไปจากดินแดนแล้วใครจะเป็นผู้ดำเนินการแทน?”

    “มีอยู่คนหนึ่งเจ้าค่ะ!”

    “คนหนึ่ง?”

    “สองสามวันมานี้ข้าได้เห็นถึงความสามารถของผู้ว่าการแทนทิโมธีและข้าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งอย่างมาก แม้ข้าจะจากดินแดนนี้ไปสักพักแต่ข้าคิดว่าทิโมธีจะสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยแทนข้าได้ เขาเองก็เป็นผู้ช่วยส่วนตัวเช่นกัน แม้เราจะปล่อยให้เขาดูแลขณะหนึ่งข้าคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะเจ้าคะ”

    “อืม…”

    ประเด็นที่ลูเซียว่ามาก็สมเหตุสมผล การจะให้ทิโมธีเป็นผู้ดูแลแทนนั้นไม่ใช่ปัญหา อย่างไรก็ตามหากมีบางสิ่งที่กำลังรบกวนจิตใจของคังชอลอินอยู่มันคงเป็นคำถามว่านางจะมีประโยชน์มากเพียงใดในการร่วมออกตามล่ามังกรพีคอคในครั้งนี้

    “ลูเซีย”

    “เจ้าค่ะ โปรดรับสั่งมาที่ข้า”

    คังชอลอินครุ่นคิดแล้วพูดว่า

    “มันน่าแปลกที่จนถึงตอนนี้ข้ายังไม่เห็นถึงความสามารถของเจ้า สำหรับข้าแล้วการไม่รู้ถึงความสามารถเจ้าคือสิ่งที่ทำให้ข้าลังเลใจมากที่สุด เช่นนั้นข้าจะขอถามเจ้า ลูเซีย เจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าความสามารถของเจ้านั้นคือสิ่งใด?”

    หากมองไม่เห็นถึงความสามารถก็ต้องถามออกไป ลูเซียที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ภักดีจะไม่มีทางโกหกเขาเป็นอันขาด

    “เจ้าค่ะ องค์ราชันย์!” ลูเซียยิ้มกว้างก่อนจะตอบกลับ

    “ผู้รับใช้ส่วนตัวขององค์ราชันย์ ลูเซียผู้นี้ขอรายงานว่าข้าไม่มีความสามารถอื่นใด ทว่าในอีกแง่หนึ่งข้ามีทักษะพิเศษอยู่อย่าง มันคือทักษะ” เครื่องจักรสงคราม “เจ้าค่ะ”

    “เครื่องจักรสงคราม? ไม่มีความสามารถพิเศษ?”

    “เจ้าค่ะ องค์ราชันย์ ท่านจำวันแรกที่ทั้งท่านและข้าพบกันได้หรือไม่เจ้าคะ?”

    “จำได้”

    มันเพิ่งผ่านมาได้แค่เพียงสามสัปดาห์และแน่นอนว่าเขาไม่สามารถจำมันได้

    “ในวันนั้นข้าเอาแต่ครุ่นคิดว่าข้าจะถูกนายท่านทอดทิ้ง ข้าไม่ได้มีความฉลาดมากขนาดนั้นและข้าก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษที่จะช่วยท่านปกครองดินแดน ข้ากังวลเป็นอย่างมากว่านายท่านจะคิดว่าข้าไร้ประโยชน์”

    “ข้ารู้”

    “เป็นดั่งที่คิด...นายท่านรู้ทุกสิ่งเลยสินะเจ้าคะ?”

    “แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าเพิ่งรู้ถึงความสำคัญของการมีอยู่ของผู้ช่วยส่วนตัวดังนั้นข้าถึงสามารถระบุสถานะภายในของเจ้าได้”

    คังชอลอินไม่มีความตั้งใจที่จะพูดจาโอ้อวดแก่นาง

    ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรแต่ลูเซียก็ยังเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขา แม้ทุกคนจะทรยศแต่ลูเซียจะไม่มีวันทำแบบนั้น ดังนั้นมันไม่มีความสำคัญอะไรที่ต้องไปโอ้อวดกับคนที่ถึงอย่างไรก็ไม่มีวันหักหลังและเป็นเพียงคนเดียวที่จะสามารถเชื่อถือได้มากที่สุดบนโลกใบนี้

    “อย่างไรก็ตามข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า ข้าไม่ต้องให้เจ้าคิดอะไรเช่นนั้นอีกนับต่อจากนี้”

    “แน่นอนเจ้าค่ะ องค์ราชันย์!”

    ลูเซียยิ้มอย่างไร้เดียงสาเหมือนเด็กพร้อมพยักหน้า

    “แม้ข้าจะไม่มีความสามารถพิเศษใด ๆ ในการช่วยงานกิจการของดินแดน แต่ข้าสามารถต่อสู้ได้ดีกว่าผู้ช่วยส่วนตัวทั่วไปเมื่อใดที่ข้าใช้ทักษะ” เครื่องจักรสงคราม “เจ้าค่ะ”

    “สามารถต่อสู้ได้ดี?”

    “ลูเซียผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ ข้าเป็นเพียงมนุษย์ประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะในด้านการป้องกัน ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถมอบให้ท่านได้ยกเว้นเพียงทักษะนี้ ลูเซียผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ผู้นี้ ถ้าท่านยอมมอบโอกาสแก่ข้า ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังและจะเป็นเหมือนโล่เพื่อปกป้ององค์ราชันย์ได้อย่างแท้จริงเจ้าค่ะ!” ลูเซียเปล่งเสียง

    ‘โอ้… นายกำลังเครื่องร้อนได้ที่เลยนี่’

    คังชอลอินสามารถตระหนักถึงเหตุผลที่ทำให้ลูเซียมีแรงกระตุ้นมากมายได้ขนาดนี้ก่อนจะยกยิ้มอย่างพอใจ

    อารมณ์ความรู้สึกในตอนนี้ของลูเซียคือการแข่งขัน ความรู้สึกอันตรายที่เป็นภัยกำลังขับเคลื่อนตัวนาง

    ในส่วนของประเด็นนี้

    ทิโมธีผู้มีความสามารถในงานหนังสือและการบริหารได้เข้ามาทำงานให้กับดินแดนและเริ่มจัดตั้งหน่วยงานภายในพร้อมทั้งร่างระบบของการปกครองได้อย่างช้า ๆ ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าลูเซียกำลังรู้สึกถูกคุกคามในตำแหน่งของนาง นอกจากนี้ความต้องการในการแข่งขันของนางที่ต้องการพิสูจน์ว่าทักษะของนางเหนือทิโมธียังช่วยผลักดันให้นางอยากออกไปทำหน้าที่ภายในสนามรบ

    “ได้”

    คังชอลอินที่ได้เห็นถึงความมุ่นมั่นของนางยอมรับและพยักหน้า

    “ในการออกพิชิตมังกรพีคอค ข้าจะพาเจ้าไปด้วย ลูเซีย”

    “จริงรึเจ้าคะ?!”

    “ใช่ แต่!”

    คังชอลอินยังมีความต้องการอย่างอื่นเพิ่มเติม

    “เจ้าต้องแสดงให้ข้าได้เห็น ลูเซีย ทักษะที่เจ้ามีอยู่จงแสดงออกมา”

    “เจ้าค่ะองค์ราชันย์! ข้าจะแสงให้ท่านได้เห็นถึงทักษะที่มีประโยชน์ของข้าอย่างแน่นอน!”

    ทันทีที่คังชอลอินมอบสิทธิ์ออกสนามให้กับลูเซีย นางยินดีเป็นอย่างมากพร้อมกับแรงมุ่งมั่นที่กำลังเผาไหม้ร่างกาย

    ‘อัลเฟรด ถ้าเจ้าได้มาเจอกับลูเซียตอนนี้ข้าอยากรู้จริงว่าเจ้าจะมีท่าทีอย่างไร’

    เมื่อเห็นลูเซียที่ทั้งบริสุทธิ์และไร้เดียงสาอยู่รอบตัว คังชอลอินก็อดคิดถึงอัลเฟรดอดีตผู้ช่วยส่วนตัวผู้ซื่อสัตย์ของเขาไม่ได้

    มันไม่มีวันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาได้แต่ก็ยังเป็นเรื่องน่าขันที่ได้จินตนาการว่าจะมีฉากแบบใดเกิดขึ้นหากทั้งสองได้มาพบกัน อัลเฟรดผู้ที่อยู่ข้างเขามาโดยตลอดคงมีความอิจฉาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นลูเซียดังนั้นมันจึงเป็นที่ชัดเจนว่าทั้งสองจะต้องมีการทะเลาะและโต้แย้งเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามมันเป็นความคิดที่ไร้ประโยชน์เพราะทั้งสองจะไม่มีวันได้มาพบกัน ผู้ช่วยส่วนตัวที่คังชอลอินเลือกในชีวิตนี้คือลูเซียไม่ใช่อัลเฟรด

    คังชอลอินสละความคิดที่ไร้ประโยชน์ออกจากความคิดแล้วกลับมาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า

    ดันเจี้ยนใต้ดิน, สำรวจซากปรักหักพังและการปราบปรามสัตว์ประหลาดนั้นสำคัญมากสำหรับราชันย์เช่นเดียวกับนักเดินทางข้ามมิติคนอื่น ๆ เหตุผลนั้นเรียบง่ายมากนั่นก็เพราะเพื่อการเติบโตของสถานะราชันย์และการได้มาซึ่งสิ่งของรางวัลต่าง ๆ

    ที่ดันเจี้ยนและใต้ซากปรักหักพังที่ตั้งอยู่รอบแพนเจียจะมีสัตว์ประหลาดพร้อมกับสมบัติโบราณและสิ่งประดิษฐ์มากมาย

    เป็นบางครั้งบางคราวที่สมบัติและสิ่งประดิษฐ์ที่ปรากฏขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างที่ดีเยี่ยมเช่นอาวุธเอกลักษณ์, อาวุธในตำนานหรืออาวุธมหากาพย์ มีทองคำกองอยู่เท่าภูเขา หนังสือเวทมนตร์ที่รวบรวมพลังเวทหรือหนังสือโบราณเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ที่มีอยู่มากมาย

    ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงมีราชันย์บางคนที่ออกจากการจัดการเรื่องดินแดนพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัวและมุ่งเน้นแต่การล้วงลึกเข้าไปในดันเจี้ยนแต่เพียงอย่างเดียว คังชอลอินยังคงเป็นราชันย์ที่ชื่นชอบในการสำรวจดันเจี้ยนและการได้ค้นหาศิลปวัตถุรวมถึงความชื่นชอบในการทำเควสล่าสัตว์ประหลาดอยู่เหมือนอย่างเก่า

    ‘มังกรพีคอค...สัตว์ประหลาดระดับ … 40?’

    คังชอลอินใช้เวลาทั้งคืนเพื่อคิดหาวิธีจัดการกับมังกรพีคอคขณะนั่งอยู่บนบัลลังก์

    ‘บ้าเอ๊ย… ถูกคุกคามจากมังกรปลอมเป็นเรื่องไร้สาระที่เกินรับได้จริง ๆ’

    แม้เขาจะไม่ได้แสดงออกมาโดยตรงแต่คังชอลอินกำลังอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก ระดับของเขาในตอนนี้คือ 14 และระดับของมังกรพีคอคคือ 40 เขาจะต้องเผชิญหน้ากับความตายที่น่ากลัวหากเขาต้องไปออกตามล่ามันเพียงลำพัง สำหรับคังชอลอินที่หยิ่งทะนงตนอย่างมากเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงอารมณ์เสียเพราะต้องมาต่อสู้กับสายพันธุ์ย่อยของมังกร

    แต่เขาจะทำอย่างไรได้?

    มังกรพีคอคที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยของมังกรกำลังคุกคามชาวบ้านและอาณาดินแดนของเขา มันคือตัวอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย หากเขาไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียขึ้นอีกเขาก็ต้องออกตามล่ามังกรพีคอคให้ได้โดยเร็วที่สุด

    ‘เราต้องได้หัวใจมังกรมา’

    มังกรพีคอคเป็นสายพันธุ์ย่อยที่อ่อนแอและต่ำที่สุดแต่มันก็ยังมีสายเลือดจากมังกรที่ไหลวนจึงทำให้มันยังคงมีหัวใจเช่นมังกร

    หัวใจมังกร กล่าวตามชื่อมันก็คือหัวใจของมังกรซึ่งเป็นแหล่งมานาที่เข้มข้นที่จะทำให้ผู้ใช้แข็งแกร่งขึ้นในทันใด แน่นอนว่าหากพิจารณาระดับของมังกรพีคอคแล้วคงไม่สามารถคาดหวังถึงพลังที่รุนแรงได้ แต่สำหรับคังชอลอินในตอนนี้เขามีความต้องการหัวใจมังกรด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างรุนแรงในระดับหนึ่ง

    ถ้าเขาได้รับสิ่งนั้นมา มันจะช่วยพาเขากลับไปสู่ยุครุ่งเรืองและลดระยะเวลาในการขึ้นเป็นจอมราชันย์ให้สั้นลงได้

    ‘ต้องเปิดใช้งานทักษะพลางตัวก่อน … เมื่อซ่อนดินแดนเสร็จก็ค่อยเดินทางกลับโลกเพื่อไปไล่ต้อนหานักผจญภัยแล้วกลับมาออกตามล่าหาตัวมังกรพีคอค’

    มันสมบูรณ์แบบเมื่อคิดมาจนถึงจุดนี้

    แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารำคาญใจนั่นก็คือนักเดินทางข้ามมิติต่างก็ไม่ชำนาญในการออกตามล่ามังกรพีคอค

    ‘ต่อให้มีระดับสูงแค่ไหนก็คงไม่เกิน 20 ตัวเราเองก็ยังอยู่แค่ที่ 14 … ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง’

    และด้วยวิธีนั้น มันจะเป็นกุญแจสำคัญในการออกตามล่าตัวมังกรพีคอค

    หากการเงินของดินแดนมีความเสถียรภาพมากกว่านี้เขาคงไม่จำเป็นต้องไปใช้วิธีดังกล่าวเพื่อออกตามล่าตัวมังกรพีคอคและจะสามารถใช้กำลังทหารของดินแดนได้โดยตรง แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางนี้อยู่ในตัวเลือกด้วย ชีวิตของทหารแม้แต่คนเดียวก็ยังมีค่ามากในเวลานี้ เขาต้องช่วยดินแดนมัธยัสถ์และหาวิธีในการปกครองแพนดิโมเนียมให้ได้ในที่สุด

    ‘เริ่มจากการซ่อนเมืองก่อนก็แล้วกัน’

    ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนแม้จะใคร่ครวญเพิ่มเติมเพียงใด คังชอลอินจึงเลือกที่จะซ่อนดินแดนและปลอบโยนครอบครัวของคนตายก่อนเป็นสิ่งแรก

    “ไปบอกให้ลูเซียนำแกนวิญญาณมาให้ข้า”

    “เจ้าค่ะ” คนรับใช้หน้าใหม่ตอบรับ

    “นี่เจ้าค่ะองค์ราชันย์”

    จากนั้นไม่ถึง 10 นาที ลูเซียก็ปรากฏตัวพร้อมส่งมอบแกนวิญญาณที่ควบคุมลาพิวต้าให้แก่คังชอลอิน

    “คู่มือควบคุมดินแดน”

    ทันทีที่เขาออกคำสั่ง แถบสถานะได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าคังชอลอินเพื่อแสดงเมนูเกี่ยวกับการควบคุมของลาพิวต้า

    [คู่มือควบคุมลาพิวต้า]

    • การพรางตัว
    • ระบบรักษาตัวเอง
    • ความมั่งคั่ง
    • กองทัพอวกาศ

    เมื่อคังชองอิลกดตัวเลือก “พรางตัว” ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะนี้ก็ปรากฏขึ้น

    [พรางตัว]

    ใช้ทองคำเพื่อซ่อนตัวปราสาท

    ระดับทักษะ: ระดับ 1 (ระดับสูงสุด 3)

    ค่าใช้จ่าย: ทองคำ (จำนวนจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นอยู่กับระดับและราคาของปราสาท)

    ทักษะเวลา: สูงสุด 720 ชั่วโมงหลังการเปิดใช้งาน

    ราคาทอง: 0.5 ทองต่อชั่วโมง

    ท่านต้องการเปิดใช้งานทักษะพราตัวหรือไม่ (ใช่ / ไม่ใช่)

    ‘นี่มันทักษะผลาญทองชัด ๆ!’

    ราคาค่าใช้จ่ายของทักษะนี้แพงมาก การใช้จ่ายทอง 0.5 แท่งต่อชั่วโมงนั่นหมายความว่าเขาจะต้องเสียทองถึง 12 แท่งภายใน 24 ชั่วโมง หากต้องการใช้ทักษะพรางตัวสำหรับหนึ่งวันมันจะมีค่าใช้จ่ายถึงหกล้านวอน

    ทอง 12 แท่งต่อวัน

    โอกาสในการพิชิตมังกรพีคอคได้สำเร็จคือ 3 สัปดาห์

    3 สัปดาห์คือ 21 วัน

    12 X 21 จะเท่ากับ 252

    ทอง 252 แท่งจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 125 ล้านวอน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสมเพชอย่างแท้จริงที่ต้องมาใช้จ่ายกับเรื่องนี้ในตอนนี้

    “เฮ้อ … สงสัยคงได้ล้มละลายก่อนจะได้เริ่มทำธุรกิจแล้วละมัง”

    คังชอลอินจุ่มหน้าตัวเองลงฝ่ามือเพื่อปกปิดใบหน้าที่เหนื่อยล้าจากความคิด

    ดินแดนที่น่าสังเวชนี้มีทักษะที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับดินแดนอื่น เช่นนั้นจึงทำให้มันมีราคาที่สูงกว่าดินแดนอื่นมาก หากทักษะการพลางตัวยังมีราคาที่แพงมากขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าทักษะอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพอวกาศจะต้องมีราคาแพงที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    “เครื่องกินเงิน” คือคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบ

    แต่เพราะเขาไม่สามารถไม่ใช่งานมันได้ดังนั้นถึงแม้จะมีความบอบช้ำแต่คังชอลอินจำเป็นต้องเปิดการใช้งานทักษะพรางตัวนี้

    [หมายเหตุ: ทักษะระดับ 1 พลางตัวถูกเปิดใช้งาน! โปรดระวังการหลงทางหลังออกนอกเขตแดนลาพิวต้า]

    ความสะดวกสบาย … ทันทีที่เปิดใช้งานทักษะพรางตัว ลำโพงที่คิดตั้งอยู่ทั่วดินแดนจะถูกป่าวประกาศสถานะที่ดำเนินไปเองโดยอัตโนมัติ คังชอลอินคิดว่าเพราะเหตุนี้จึงทำให้มันมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพงกว่าใคร

    “ลูเซีย”

    “เจ้าค่ะ องค์ราชันย์”

    “ข้าจะกลับบ้านเกิดเพื่อไปรวบรวมนักผจญภัย ตอนนี้ข้าเปิดทักษะพรางตัวไว้แล้ว แต่เจ้าก็รู้ดีใช่หรือไม่ว่าไม่ควรลดระดับการป้องกันลง?”

    “แน่นอนเจ้าค่ะ”

    “หากมีการโจมตีใด ๆ เพิ่มเติม จงตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดได้บาดเจ็บและพยายามหาวิธีลดความเสียที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด”

    “โปรดให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะเจ้าค่ะ!”

    ด้วยคำตอบที่มั่นใจของลูเซีย คังชอลอินพยักหน้ารับและมุ่งหน้ากลับโลกเดิมของเขาอีกครั้งเพื่อไปรวบรวมนักผจญภัย เขาต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยและไม่มีสิ่งใดที่จะมีประสิทธิภาพไปมากกว่าอินเทอร์เน็ตที่มีการรวบรวมสิ่งที่เหมาะสมต่าง ๆ ไว้มากมาย

    แต่สิ่งอื่นใดมันมีปัญหาที่ต้องการวิธีแก้ไขอยู่หนึ่งสิ่ง

    มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่นักผจญภัยเพียงระดับ 10 หรือ 20 จะสามารถตามล่าสัตว์ประหลาดระดับ 40 ได้สำเร็จ แล้วเขาจะออกตามล่ามังกรพีคอคพร้อมกับนักผจญภัยที่อ่อนแอกว่ามันได้อย่างไร?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×