ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] ราชันย์แห่งสมรภูมิ

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 24

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 67



    [องค์การสหประชาชาติได้เริ่มการสอบสวนที่มาของลำแสงประหลาดที่ปรากฏขึ้นตามสถานที่สำคัญทั่วโลก ขณะเดียวกันพยานจากที่เกิดเหตุโดยตรงรายงานอย่างเป็นทางการแล้วว่าที่มาของลำแสงประหลาดเหล่านี้คือประตูที่จะนำไปสู่โลกในมิติอื่น]

    [มีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปบนโลกใบนั้น]

    [จากรายงานของผู้ที่ได้เดินทางข้ามผ่านประตูมิติไปยังโลกอื่นกล่าวว่าที่นั่นเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดทุกประเภท]

    [ในขณะที่ยาลึกลับและสิ่งของประหลาดเริ่มปรากฏขึ้นทีละอย่าง ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่าพวกเขาจะเปิดรับสมัครอาสาสมัครชาวอเมริกันไปเป็น “นักเดินทางข้ามมิติ” เพื่อรวบรวมข้อมูลที่สำคัญจากโลกอื่นด้วยความกระตือรือร้น]

    การอัญเชิญครั้งใหญ่ได้กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก

    มีบางคนที่ได้รับความสามารถพิเศษมาจากแพนเจียซึ่งจากนั้นก็ได้ไปออกรายการทอล์คโชว์เพื่อแสดงความสามารถที่น่าพิศวง (แม้มันจะเป็นเวทมนตร์ที่เรียบง่ายก็ตาม) และวิดีโอของการรักษาบาดแผลที่รุนแรงด้วยของเหลวสีแดงในขวดแก้วก็มีอยู่เต็มช่อง YouTube

    บทความของสัตว์ที่ดูเหมือนเกิดจากการรวมร่างกันระหว่างกระรอกและกระต่ายที่สามารถต้านทานกระสุนปืนนาโต 5.56 มม.ทำให้เกิดความสนใจบนสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก

    ในเดือนมกราคมปี 2021 มันเต็มไปด้วยข่าวของการค้นพบโลกใบใหม่

    “เฮ้อ”

    คังชอลอินที่นั่งดูแต่ข่าวมาเกือบสามชั่วโมงถอนหายใจก่อนจะปิดทีวีลงด้วยความเบื่อหน่าย

    ความเคยชิน

    รอยยิ้มอันขมขื่นเกิดขึ้นบนริมฝีปาก

    เหตุผลในการดูข่าวนั้นเรียบง่ายมาก

    นั่นเพราะเขาต้องการลดช่องว่างระหว่างแพนเจียและโลกใบนี้ให้น้อยลง

    แตกต่างจากโลกที่ไม่มีสิ่งเหนือธรรมชาติและมีเพียงเนื้อแท้ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่เป็นหลักของความเป็นจริง แพนเจียเป็นโลกที่มีเวทย์มนตร์ขั้นสูง ศิลปะการต่อสู้ สัตว์ประหลาดรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่พร้อมกัน หากได้ไปเป็นคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่ดังกล่าวมาระยะหนึ่ง ความคิดและวิธีการพูดของคน ๆ นั้นมีแนวโน้มที่จะปรับตัวไปตามแพนเจียที่ได้อยู่อาศัย และเพื่อลดการกระทำแบบนั้นการดูทีวีเป็นเวลานานจะสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นนี้ได้ อย่างน้อยในความเป็นจริงก็คงไม่มีใครใช้กับคำพูดที่ล้าสมัยเหมือนอย่าง "คำพูดของเช็คสเปียร์" หรือถ้อยคำที่เสแสร้งต่อกันบนโลกใบนี้

    “หรือควรออกไปหาหนังดูดี?”

    คังชอลอินพึมพำในขณะก้าวออกจากบ้าน เขาออกจากบ้านมาพร้อมกับทอง 500 แท่งที่ลูเซียได้มอบให้ โดยเขามีแผนที่จะนำมันไปขายมันเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด

    วรู้ม ๆ!!

    มัสแตงแสดงเสียงหนัก ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ขณะขับไปตามท้องถนน ปลายทางของเขาคือยองซานหรือที่รู้จักกันดีเมื่อสมัยก่อนว่า "หมู่เกาะกานเหนือ" ถนนสายที่ 21 ของย่านธุรกิจเก่า ด้วยความเจริญรุ่งเรืองของการช้อปปิ้งทางออนไลน์ในช่วงปี 2000 และการเปิดตัวดิวตี้ฟรี HDC Shilla ในปี 2016 แทบจะไม่มีคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ในยองซานอีกเลยและเกือบทุกคนที่นี่จะเป็นชาวจีนซะส่วนใหญ่ ความรุ่งโรจน์ของเขตเมืองอิเล็กทรอนิกส์ในอดีตได้กลับกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์โบราณ

    “ไม่ซื้ออะไรทั้งนั้น”

    ชายในวัย 40 ปีที่กำลังเล่นเกมไพ่อยู่บนคอมพิวเตอร์พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากพูดใส่คังชอลอินทันทีที่เขาเข้าไปในร้านขายของโทรม ๆ ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เก่าที่เกรอะกรังไปด้วยฝุ่น

    “ที่นี่เราไม่รับซื้ออะไรทั้งนั้น ออกไป ๆ”

    ดูเหมือนว่าควันบุหรี่ได้บดบังการมองเห็นของเขาไปจนหมดเพราะเหมือนเขาจะมองไม่เห็นคังชอลอินที่กำลังขมวดคิ้วไม่พอใจอยู่นี้

    “ฉันไม่ได้มาเพื่อขายอะไร ฉันมาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยน เลิกแสร้งทำเป็นอย่างอื่นแล้วเปิดบานประตูเหล็กตรงนั้นสักที” คังชอลอินกล่าว

    ชายคนนั้นหันหน้ามามองคังชอลอินอย่างช้า ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า

    ‘ไอ้เด็กนี่มันอะไรกัน?’

    คิ้วของเขาพุ่งชนเข้าหากันจนแทบจะขมวดเป็นปม ในความทรงจำของเขามันไม่เคยมีใบหน้าของคังชอลอินมาก่อน เขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้เลยสักครั้ง

    ‘เปิดบานประตู? หรือมันจะรู้อะไรมา? ตำรวจงั้นเหรอ? เวรเอ้ย!’

    ชายคนนี้เต็มไปด้วยท่าทีระวังคังชอลอินอย่างมากเพราะเขาอยู่ในจุดที่ต้องระวังความปลอดภัยอยู่ตลอด สำหรับคนที่ทำมาหากินอย่างผิดกฎหมายแล้วการได้เจอกับคนแปลกหน้ามักเป็นความเสี่ยงที่อันตรายอยู่เสมอ

    “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรแต่ที่นี่ไม่รับซื้อรับขายหรือแลกเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม? ไป ๆ อย่ามาทำตัวน่ารำคาญแถวนี้แล้วไปที่อื่นซะไป!”

    ชายคนนั้นจ้องมองมาที่คังชอลอินพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้ามาชกหน้าคังชอลอินอย่างแน่นอนหากเขายังไม่ยอมขยับออกไปจากร้าน

    “ฉันมาหาชายชราควอน เพราะฉะนั้นก็ไปเปิดบานประตูเหล็กนั่นซะ ฉันไม่ใช่ตำรวจหรือคนที่ทำงานให้กับรัฐบาล ฉันมาเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งพวกนี้”

    ด้วยเสียงอันดังกระหึ่ม กระเป๋าที่มีทองคำหล่นใกล้กับคอมพิวเตอร์ที่ชายคนนั้นกำลังเล่นเกมไพ่

    “ฮะ ไอ้สารเลวเอ้ย!”

    ชายคนนั้นแสดงสีหน้าที่บอกถึงความรำคาญก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน เขาก้าวเข้ามาใกล้คังชอลอินพร้อมกับทำหน้าข่มขู่

    “เห้ย อะไรของแกนักวะ? คิดว่าที่นี่คืออะไรงั้นเหรอ?”

    “ถามว่าที่นี่คืออะไรงั้นเหรอ? ก็ร้านของชายชราควอน แหล่งปล่อยเงินที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีน่ะสิ” คังชอลอินตอบกลับหน้าตาย

    “ไอ้เวรเอ้ย!”

    ตอนนั้นเองที่ชายคนนั้นได้เหวี่ยงกำปั้นพุ่งใส่คังชอลอิน

    แต่ผลที่ได้รับกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด

    “อั่ก!”

    ชายคนนั้นกุมท้องของตัวเองพร้อมส่งเสียงครวญครางขณะอาเจียนเอาอาหารกลางวันที่เขาเพิ่งกินไปประมาณเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วออกมาจนหมด

    “บอส!”

    “เกิดอะไรขึ้น!”

    “ไปจับตัวมันไว้!”

    พวกนักเลงคนอื่น ๆ ที่ออกไปข้างนอกเพื่อสูบบุหรี่กลับเข้ามาข้างในพร้อมพุ่งเข้าหาคังชอลอินเพื่อหวังทำร้ายเขา

    แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันกลับไป

    ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะสามารถแตะต้องปลายเสื้อของคังชอลอินได้ พวกเขาทั้งหมดล้มลงไปกองกับพื้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากคังชอลอิน

    คังชอลอินเป็นผู้ชายที่มีพลังในการต่อสู้ที่สูงยิ่งกว่านักมวยมืออาชีพ สำหรับเขาแล้วพวกนักเลงกลุ่มนี้ก็เป็นแค่เด็กประถมในสายตาของเขา

    “ไอ้เวรเอ้ย! ใครส่งแกมา! บอกฉันมาดี ๆ ก่อนที่ฉันจะเอาเลือดแกออกจากหัว!”

    ชายที่ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นพูดจาข่มขู่อย่างน่ากลัวอีกครั้ง ก่อนที่ใครจะทันได้สังเกตเห็น มือของเขาได้ล้วงเข้าไปอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านใน

    ‘งี่เง่าซะจริง ๆ’

    คังชอลอินรู้ดีว่ามีอะไรอยู่ข้างในกระเป๋านั่น

    ชายชราควอนเป็นคนที่กระหายเงินอย่างมากซึ่งเขาจะจัดการกับเรื่องใดก็ตามที่นำเงินมาให้เช่นจัดซื้อยาเสพติด ปืน หรือสิ่งของที่ขโมยมา สำหรับพวกนักเลงที่มีหน้าที่ปกป้องร้านค้าของชายชราควอนแล้วพวกเขาจะถือปืนกันอย่างน้อยคนละหนึ่งกระบอก อย่างไรก็ตามคังชอลอินไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้เขาจะรู้ว่าคู่ต่อสู้กำลังถือปืนอยู่ก็ตาม แน่นอนว่าถ้าเขาถูกยิงด้วยปืนตอนนี้มันมีโอกาส 9 ใน 10 ที่เขาจะต้องตาย แต่เขามั่นใจมากว่าเขาจะไม่เป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีก่อนดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาต้องเป็นกังวล

    ‘ฉันจะหักคอแกให้แหลกคามือเลยคอยดูสิ’

    จากนั้นคังชอลอินก็เผยรอยยิ้มร้ายและตัดสินใจที่จะพุ่งตัวเข้าใส่ชายคนนั้น

    “เอาของเล่นพวกนั้นออกไปซะ มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการสร้างความวุ่นวายที่น่าปวดหัวหรอก”

    เสียงแก่ ๆ ดังออกมาจากลำโพงที่แขวนอยู่ตรงมุมเพดาน

    “ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นคนที่มาจากไหนแต่เท่าที่เห็นก็คงจะมีฝีมือร้ายไม่เบา”

    มันคือเสียงของชายชราควอน

    ‘ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน’

    คังชอลอินยกยิ้มพอใจเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

    ในอดีต คังชอลอินได้ทำการค้ากับชายชราควอนอยู่บ่อยครั้ง

    คังชอลอินมีสินค้าที่ขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ยากรวมถึงการซื้อของบางอย่าง สำหรับเขาแล้วชายชราควอนค่อนข้างเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ดี

    “เปิดประตูแล้วพาเขาลงบันได้มา ฉันอยากเห็นหน้าเขาชัด ๆ สักหน่อย”

    คังชอลอินจะสามารถพบกับชายชราควอนที่ถูกล้อมรอบไปด้วยบอดี้การ์ดแปดคนได้ก็ต่อเมื่อเขาเดินผ่านบานประตูเหล็กและลงไปยังอุโมงค์ลับที่อยู่ชั้นล่างเท่านั้น

    “เธอไม่ใช่คนที่ฉันคุ้นหน้าเลยนี่ ใครเป็นคนแนะนำเธอมา?”

    ชายชราควอนเอ่ยถามทันทีที่เขาได้เจอหน้ากับคังชอลอิน

    “ไม่มี” คังชอลอินตอบกลับ

    “อย่าทำแบบนี้สิ ถึงมันจะดูเหมือนว่าสายงานนี้จะทำอะไรก็ได้แต่มันจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างมอบความบริสุทธิ์ใจต่อกัน”

    ชายชราดูไม่เต็มใจกับคำตอบของเขาเท่าไหร่นัก

    “มาเริ่มทำข้อตกลงกันเลยเถอะ”

    เส้นเลือดปูดนูนขึ้นที่หน้าผากของชายราทันทีเมื่อเห็นคังชอลอินไม่มีท่าจะร่วมสนทนาด้วย

    “ฮ่า ๆ! นี่พ่อหนุ่ม เธอไม่เคยได้ยินเรื่องการเคารพผู้อาวุโสมาก่อนเลยใช่ไหม? ทำไมถึงได้ทำตัวโผงผางมากขนาดนี้”

    “ชายชราควอนที่ฉันรู้จักชอบพูดถึงเรื่องเงินมากกว่าเรื่องพิธีการที่ไม่จำเป็น” คังชอลอินตอบกลับ

    “?”

    “ก่อนอื่น นี่”

    คังชอลอินวางกระเป๋าที่มีทองคำ 500 แท่งลงบนโต๊ะ

    “ทอง 500 แท่ง แต่ละแท่งมีน้ำหนัก 10 กรัมและความบริสุทธิ์ 97.8% ราคาตลาดน่าจะประมาณ 250 ล้านวอน? ค่าคอมมิชชันอีก 10% เท่านี้พอไหม?”

    “โห … จะเริ่มคุยกันแบบนี้เลยรึ ได้ ยังไงเงินก็ดีกว่าเรื่องไร้สาระพวกนั้นอยู่แล้ว แล้วยังไง เป็นของที่มีอยู่แล้ว? ของขโมย? หรือลักลอบขุดหาแบบผิดกฏหมาย?”

    “ได้มาจากที่ ๆ โด่งดังที่สุดในตอนนี้”

    ใบหน้าของชายชราแข็งทื่อ

    “ในการจะเริ่มธุรกิจใด ๆ การได้รับประโยชน์มาตั้งแต่ต้นจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณก็คิดแบบนั้นใช่ไหม?”

    คังชอลอินโยนเหยื่อเพื่อล่อลวง

    “ใช่ มันจะมีประโยชน์อย่างมากเหมือนนกแรกเกิดที่สามารถจับหนอนได้สำเร็จ ใช่ มันเป็นแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการจะเข้าสู่ตลาดใหม่ก็มีความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน”

    ชายชราควอนตอบกลับโดยแสร้งทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เขาจะมายื่นข้อเสนอ เขาเป็นชายชราที่มีประสบการณ์ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมรับเหยื่อไปง่าย ๆ ในทันที

    ‘มันคือการดึงความสนใจ แต่เขากำลังหมายความว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกระโดดลงไปที่อื่นถ้าเม็ดเงินในตอนนี้มันดีอยู่แล้ว’

    คังชอลอินสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าชายชราต้องการสิ่งใด

    ‘อย่างไรก็ตามชายชราควอน ยังไงคุณก็ต้องทำธุรกิจร่วมกันกับฉัน’

    มันมีจุดอ่อนที่สำคัญในสิ่งที่ชายชราควอนได้พูดไว้และคังชอลอินก็กำลังจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการต่อรอง

    “ดูเหมือนว่าความเสี่ยงนั้นจะใหญ่พอแม้กระทั่งกับในตอนนี้”

    “หืม?”

    “ปืน ยาเสพติด บัตรประจำตัวปลอม การฟอกเงิน ฯลฯ หากคุณถูกจับด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างคงต้องไปนั่งในคุกเล่น ๆ อย่างน้อยก็น่าจะสัก 20 ปี นั่นคือชีวิตของคุณเมื่อพูดถึงความเสี่ยง”

    “อะแฮ่ม!”

    มีอาการไอแห้งไม่สบายดังออกมาจากปากของชายชราในทันใด

    หากจะพูดกันตามความเป็นจริง ชายชราควอนถือเป็นอาชญากรคนหนึ่ง

    ไม่ว่าชายชราคนนี้จะทรงพลังมากแค่ไหนแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้สำเร็จนั่นคือจุดจบของชีวิตเขาโดยสมบูรณ์ ที่ชายชรามาได้ไกลขนาดนี้เพราะด้วยโชคและทรัพยากรรอบตัวดี ๆ แต่มันก็ยังคงเป็นเส้นทางที่เหมือนเดินอยู่บนเปลือกไข่

    “นี่พ่อหนุ่มใจร้อน สิ่งที่เธอพูดมามันก็ไม่ผิดหรอกแต่ถ้าเธอผลักฉันไปที่แบบนั้นมันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเธอด้วยเลย ถ้าฉันตั้งใจจะ…”

    “คิดเหรอว่าจะสามารถจัดการฉันได้ด้วยนักเลงพวกนั้น?”

    คังชอลอินว่าพลางชี้ไปที่บอดีการ์ดรอบตัวชายชราด้วยการเพยิดคางใส่

    “ไม่ว่าหมัดของเธอจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนมันก็จะไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกกระสุน”

    ชายชราพูดอย่างเย็นชา มันหมายความว่าเขาจะฆ่าคังชอลอินทิ้งซะตอนนี้ถ้าเขายังไม่หยุดล่อลวงไปไกล

    “ฉันผิดหวังจริง ๆ”

    “ผิดหวัง?”

    “ฉันหลงคิดว่าคุณอยากจะออกมาพบเจอกับด้านสว่างซะอีก”

    เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดวงตาที่เหี่ยวย่นของชายชราควอนก็พลันเบิกกว้าง

    “ชายชรา เงินของคุณเปรียบเหมือนรางวัลที่เกินเอื้อม คุณไม่สามารถซื้อสิ่งปลูกสร้างภายใต้ชื่อของคุณเองได้ และคุณคิดว่าจะอยู่ภายใต้อาคารที่ถูกปลอมแปลงชื่อนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน? คุณไม่ได้พูดว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบนี้มานานเกินไปแล้วงั้นหรอกเหรอ?

    ผลของกำไรมันมีขนาดที่ใหญ่อยู่เสมอและแน่นอนว่าคุณต้องจ่ายเป็นเงินสด แต่เมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายในการไล่ตามปิดเสียงของคนอื่นและขจัดความเสี่ยงแล้วนั้น มันคือการได้ใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่หรอกจริงไหม? มีประเทศไหนเหมือนอย่างเกาหลีที่จะไวต่อเรื่องปืนและยาเสพติดอีกบ้าง? แต่ถ้าให้ฉันเดา การเปลี่ยนธุรกิจในตอนนี้อาจทำให้คุณกลัวต่อการตอบสนองในเชิงลบ เห็นได้ชัดว่าคุณไม่สามารถพับธุรกิจดำมืดของคุณไปได้เพราะคุณไม่มีความมั่นใจที่มากพอ ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหม?”

    คำพูดของคังชอลอินนั้นเฉียบคมและเจ็บปวดเป็นอย่างมากพอที่จะทำให้ใจของชายชราแตกเป็นเสี่ยง ๆ แถมยังไม่มีส่วนใดที่เป็นเท็จเกินจริงเลยสักคำ

    “ชายชรา นี่คือโอกาสที่ฉันจะมายื่นให้ โอกาสสำหรับคุณที่จะได้ออกจากที่มืดเพื่อกลับไปอยู่บนแสงสว่าง

    ฉันจะให้ข้อมูลกับคุณเล็กน้อย แน่นอนว่าจะตอนนี้มันคงแพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่งแต่ข้อมูลพวกนี้ก็ยังใช้ได้”

    “ว่ามา”

    ดูเหมือนว่าชายชราจะเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่คังชอลอินพูด

    “ที่แพนเจีย โลกใบใหม่ที่กำลังเป็นข่าวไม่สามารถนำสิ่งของจากโลกนี้ติดตัวไปด้วยได้ แต่คุณสามารถนำสิ่งของจากโลกนั้นกลับมายังโลกนี้ได้ ลองคิดดูดี ๆ สิว่ามันหมายความว่าอย่างไร?”

    ชายชราค่อย ๆ พิจารณาถึงข้อมูลที่คังชอลอินให้มา

    ‘ไม่สามารถเอาเข้าไปได้แต่สามารถนำออกมาได้ ผู้ที่สามารถไปกลับที่นั่นได้จะสามารถเลือกของที่นำออกมาได้ อืม… เดี๋ยวก่อน มันดูเหมือนว่าเขากำลังพูดว่ามันไม่จำเป็นต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก’

    ทันใดนั้นเองสายตาของชายชราเปล่งประกาย

    ‘การแจกจ่าย!’

    ถึงมันจะผิดกฎหมายแต่เขาเองก็ใช้ชีวิตเพื่อทำธุรกิจมานานกว่าหลายทศวรรษ แม้จะมีคำใบ้แค่เพียงนิดหน่อยแต่หัวของเขาก็หมุนได้เร็วและคิดวิธีหากำไรได้เป็นอย่างดี

    “ยังฉลาดเหมือนเดิม”

    คังชอลอินยกยิ้มพอใจราวกับเขารู้ว่าชายชราคิดอะไร

    “คุณแค่ต้องมีความปลอดภัยในเครือข่ายของการแจกจ่าย จากนั้นก็แค่นั่งรออยู่เฉย ๆ จนกว่านักเดินทางข้ามมิติจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้คุณไปกระจายต่อ และสิ่งที่คุณต้องทำก็คือเก็งกำไรจากการค่านายหน้า”

    นั่นคือกุญแจสำคัญ

    “แต่... แต่อะไรล่ะ? ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะมีอะไรที่มาจากที่นั่นบ้าง?” ชายชราควอนถาม

    “ก็ยกตัวอย่างเช่น…”

    คังชอลอินตอบกลับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×